Share

บทที่ 7

last update Last Updated: 2025-03-09 02:51:05

ในที่สุดชาวบ้านต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แน่นอนว่าหัวหน้าหมู่บ้านอย่างเลี่ยงหยาง ย่อมเป็นตัวแทนของทุกคน ลุกขึ้นยืน โค้งคำนับให้ซูอันและกล่าวขอบคุณนาง

“ขอบคุณคุณหนูที่ช่วยเหลือขอรับ หากไม่ได้ท่านช่วยไว้ วันนี้คงมีชาวบ้านที่ต้องเจ็บตัวจากตระกูลกู้อีกเป็นแน่ แต่ว่าท่านควรระวังคนตระกูลนี้เอาไว้นะขอรับ”

ซูอันก้มศีรษะเล็กน้อยเป็นการรับน้ำใจ “พวกท่านเองก็อย่าถือเป็นบุญคุณเลยนะ การยอมก้มหัวให้คนเช่นนั้นมิใช่ทางออกที่ดีเสมอไป หากยอมให้พวกเขากดขี่ข่มเหง เหตุการณ์ก็จะเป็นอย่างวันนี้ที่พวกท่านต้องพบเจอตลอดไป ถ้าครั้งหน้ายังเกิดเรื่องเช่นนี้อีก ให้คนไปบอกกับข้าที่จวนตระกูลจินในเมืองผู่เถียนได้”

เยี่ยนหลิงเองก็มีคำพูดบอกกับชาวบ้านบ้าง “ข้ากับน้องสาวเชื่อว่า หากท่านลุงท่านป้าไปตีกลองร้องทุกข์กับท่านเจ้าเมือง ย่อมได้รับความยุติธรรมอย่างแน่นอน”

“พวกข้าจะจำไว้ขอรับ ว่าแต่พวกท่านมาที่หมู่บ้านของพวกเรา มีกิจธุระอันใดหรือไม่ขอรับ” เลี่ยงหยางถามสตรีสองคนที่เป็นพี่น้องกัน เพราะเขารู้สึกว่านี่มิใช่เรื่องบังเอิญ

เป็นซูอันที่ตอบไปสั้น ๆ “ใช่แล้ว พวกข้าสองคนมีธุระจริง ๆ”

ชาวบ้านต่างพร้อมใจกันนิ่งเงียบ เพื่อรอฟังว่าธุระของซูอันกับเยี่ยนหลิงเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร และเป็นซูอันที่ปรับเปลี่ยนสีหน้าของนาง ให้กลับมาจริงจังดูสุขุมและน่าเกรงขามทันที

“ข้าไม่ชอบอ้อมค้อมให้เสียเวลา ธุระของข้าคือการหาลูกจ้างทั้งบุรุษและสตรี ที่พ้นวัยปักปิ่นสวมกวานแล้ว ไปช่วยงานที่ร้านผ้าไหมตระกูลจินของข้า นอกจากนี้ยังต้องการคนที่ย้อมไหมเป็น ทอผ้าได้ละเอียดลออ รวมถึงการปักผ้าที่ต้องใช้ความประณีต

สุดท้ายบุรุษที่สวมกวานแล้ว หากใครรู้ตัวว่ามีสุขภาพแข็งแรง ข้ายังรับสมัครผู้คุ้มกันซึ่งจะต้องมีความซื่อสัตย์ งานนี้มีความเสี่ยงสูงค่าจ้างย่อมมากกว่างานอื่น ข้าเห็นลายผ้าของพวกท่านแล้ว หากพัฒนาฝีมือเพิ่มอีกเล็กน้อย ผ้าจากหมู่บ้านซานอี๋แห่งนี้ย่อมมีชื่อเสียง และเป็นที่ต้องการของคนมีฐานะ รวมถึงตระกูลขุนนางด้วยก็เป็นได้”

หลังจบการบอกธุระของการมาหมู่บ้านในวันนี้แล้ว กลับเกิดความเงียบที่ได้ยินแม้แต่เสียงแมลงตัวเล็ก ๆ ในใจของชาวบ้านกำลังรู้สึกว่า พวกตนช่างโชคดีที่ซูอันเลือกมาที่หมู่บ้านซานอี๋ หลายคนได้ฟังก็คิดว่า หากมีคนรับซื้อสินค้าด้วยความยุติธรรม ชีวิตความเป็นอยู่ย่อมดีกว่าที่ผ่านมา

เลี่ยงหยางจึงเอ่ยถามกับซูอันเพื่อความแน่ใจ “คุณหนูทั้งสองพูดจริงหรือขอรับ ที่อยากจ้างงานพวกเราทั้งหมู่บ้านซานอี๋”

“จริงแท้แน่นอนท่านลุง ขอเพียงพวกท่านเชื่อใจข้า หลังจากเปิดร้านค้าไม่เกินสามเดือน ชื่อเสียงของผ้าไหมตระกูลจิน

ที่มีพวกท่านอยู่เบื้องหลัง จะมีชื่อเสียงโด่งดังและเตรียมตัวรับใบสั่งซื้อจำนวนมากได้เลย”

อวี้เหลียนที่ต่อสู้เป็นบ้าง เขากับสหายอีกหลายคนทำหน้าที่ขึ้นเขา เพื่อตัดไม้มาทำฟืนสำหรับการต้มน้ำย้อมผ้า เขามีความสนใจเรื่องการเป็นผู้คุ้มกัน และรู้ว่าสหายของเขาก็คิดไม่ต่างกัน

“คุณหนูข้ากับสหายอีกหลายคนพอรู้วิชาต่อสู้ แต่มิได้เก่งกาจนักจึงปกป้องคนในหมู่บ้านได้ไม่ดี พวกข้ายินดีที่จะสมัครเป็นผู้คุ้มกันของท่าน ไม่ทราบว่าคุณหนูมีวิธีการฝึกวิชาต่อสู้ที่จะสอนพวกข้า ให้มีฝีมือเก่งกาจมากขึ้นเพื่อคุ้มกันสินค้าหรือไม่ขอรับ”

หยิ่งเจาสหายบ้านข้าง ๆ ของอวี้เหลียน ก็อยากรู้รายละเอียดในข้อนี้ “ใช่ขอรับคุณหนู พวกข้าแค่ฝึกท่าทางง่าย ๆ เท่าที่เคยเห็นคนต่อสู้กันเท่านั้น ทำให้เสียเปรียบยามถูกคนที่เก่งกว่ารังแก ถ้าท่านมีวิธีการฝึกวิชาต่อสู้ พวกข้ายินดีทุ่มเททั้งชีวิตทำงานให้ท่านแน่นอนขอรับ”

เยี่ยนหลิงอึกอักเพราะนางไม่รู้เกี่ยวกับวิชาต่อสู้ แต่สำหรับซูอันแล้วเมื่อมีคนเต็มใจมาเป็นคนของนาง จะไม่รีบรับเอาไว้ได้อย่างไร

“พี่ชายทุกท่านหากท่านสาบานว่า จะทำงานให้ข้าด้วยความซื่อสัตย์ไม่คิดหักหลัง เรื่องการฝึกวิชาต่อสู้ข้าจะสอนให้พวกท่านเอง”

เป่าโยวที่เห็นการต่อสู้ที่เหนือกว่าบุรุษของซูอัน เขามั่นใจว่านางมีความสามารถมาก แม้จะเป็นสตรีร่างบอบบางก็ตามที แต่แรงที่นางใช้จัดการอันธพาลกลับแม่นยำตรงจุดอย่างรวดเร็ว “ข้าเป่าโยวเชื่อว่าคุณหนูทำได้แน่ขอรับ จากการต่อสู้เมื่อกี้ท่านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ท่านมีความชำนาญด้านการต่อสู้ไม่น้อย อีกทั้งยังเป็นท่าทางที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน ข้ายินดีสมัครเป็นคนคุ้มกันสินค้าให้ท่านขอรับ”

เหนียนจื่อที่ยืนข้างเป่าโยวยกมือพร้อมพูดด้วยเสียงที่ดัง “ข้าก็ต้องการสมัครเช่นกันขอรับ”

“ข้าด้วย ๆ/ พวกข้าก็ยินดีสมัครเช่นกันขอรับ”

ซูอันเห็นว่ามีคนสนใจนับสิบก็รู้สึกพอใจมาก “เอาล่ะ ๆ พี่ชายทุกท่าน ขอบคุณที่สนใจทำหน้าที่นี้ให้กับข้า แต่ก่อนอื่นพวกท่านต้องรักษาตนเองให้หายดีเสียก่อน ข้าถึงจะรับพวกท่านเข้าทำงาน หลังจากหายดีแล้วค่อยตามไปพบข้าที่จวนตระกูลจินในเมืองผู่เถียน เพราะข้ายังต้องเตรียมสถานที่ฝึกให้พวกท่าน”

“พวกข้าจะทำตามที่คุณหนูสั่งเป็นอย่างดีขอรับ”

เมื่อหากำลังคนสำหรับเรื่องการคุ้มกันได้แล้ว ซูอันและเยี่ยนหลิงจึงคัดเลือกคนเพิ่ม สำหรับทำงานในร้านค้าของพวกนางต่อทันที เยี่ยนหลิงรู้สึกถูกชะตาสตรีอยู่สองคน จึงบอกกับน้องสาวที่ยามนี้ก็มีคนที่เลือกไว้เป็นบุรุษทั้งสามคน ดูท่าทางจะคล่องแคล่วอยู่ไม่น้อย

ซูอันจึงชี้ไปยังคนทั้งห้าและเรียกให้ออกมา “พี่สาวทั้งสองคนรบกวนก้าวเท้าออกมาด้านหน้า และพี่ชายอีกสามคนนี้ก็เช่นกัน”

เยี่ยนหลิงเอ่ยถามชื่อของพวกเขาแทนน้องสาว “พวกท่านมีชื่อว่าอันใดบ้าง ข้ากับน้องสาวจะได้จำชื่อไว้”

“ตัวข้าชื่อจิ่วเม่ย ส่วนนางเป็นสหายข้าชื่อว่าหลินเหมี่ยวเจ้าค่ะ”

“คุณหนูเรียกข้าว่าหรงหยุนเถิดขอรับ ส่วนสหายอีกสองคนมีชื่อว่ามู่เวินกับเหวยฉินขอรับ”

“อืม สำหรับพวกท่านห้าคนคือคนที่ต้องทำงานที่ร้าน มีหน้าที่ตรวจนับสินค้าทำบัญชีรายรับรายจ่าย จัดวางผ้าให้ลูกค้าได้เลือกตามแบบที่กำหนด และสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับผ้าแต่ละชิ้น ที่ลูกค้าให้ความสนใจได้อย่างละเอียด พวกท่านทำได้หรือไม่?” ซูอันถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“พวกเราทำได้ขอรับ!/เจ้าค่ะ!”

“ส่วนช่างตัดเย็บเสื้อผ้าข้าต้องการพี่สาวท่านนี้ ท่านน้าสองคนที่อยู่ด้านขวามือของท่านลุงเลี่ยงหยาง และพี่สาวที่อยู่ซ้ายมือของข้า พวกท่านสี่คนจะเริ่มงานพร้อมกับห้าคนก่อนหน้านี้ ส่วนท่านลุงท่านป้า ท่านอาและทุกคนในหมู่บ้าน พวกท่านมีหน้าที่เลี้ยงไหม ทำเส้นไหมย้อมสีและทอเป็นผืนส่งให้ข้า หากใครสามารถคิดค้นสีใหม่ ๆ ออกมาได้ ข้าจะมีรางวัลเพิ่มให้ต่างหาก”

เยี่ยนหลิงดีใจไม่น้อยไปกว่าชาวบ้าน เพราะสิ่งที่นางกับน้องสาวออกมาจัดการในวันนี้สำเร็จไปได้ด้วยดี แต่เยี่ยนหลิงเองไม่ลืมเรื่องการทำสัญญากับชาวบ้าน “อันเอ๋อร์แล้วเจ้าจะให้คนในหมู่บ้านที่เหลือ ทำสัญญาการค้ากับเราได้เมื่อใดหรือ”

ซูอันนิ่งคิดเพียงครู่เดียวก็มีคำตอบให้เยี่ยนหลิง “เอาเป็นว่าพวกท่านส่งตัวแทนครอบครัวไปทำสัญญากับข้า หลังจากพวกพี่ชายทั้งสิบคนรักษาตัวจนหายดี จะได้อ่านเงื่อนไขในสัญญาพร้อม ๆ กัน หากมีตรงไหนที่คิดว่าไม่เป็นธรรม พวกท่านสามารถปรึกษาหารือกัน ข้าจะได้แก้ไขเพื่อให้ทั้งสองฝ่าย ได้รับผลประโยชน์ที่ยุติธรรมร่วมกันดีหรือไม่?”

เลี่ยงหยางมองสมาชิกในหมู่บ้านที่ตนดูแล เพื่อถามความเห็นว่ามีใครไม่เห็นด้วยหรือไม่ ผลที่ได้คือการพยักหน้าตอบรับตามที่ซูอันบอกทุกคน เลี่ยงหยางจึงตอบรับตามความเห็นของชาวบ้าน

เมื่อทุกอย่างจัดการได้อย่างราบรื่น ซูอันกับเยี่ยนหลิงจึงขอตัวกลับจวน เพื่อเตรียมร่างสัญญาให้ชาวบ้าน รวมถึงสถานที่

สำหรับการฝึกหน่วยคุ้มกัน ไปจนถึงที่พักของหน่วยนี้ให้เรียบร้อย ซึ่งอีกไม่นานสิ่งที่ซูอันวางแผนไว้ จะได้เริ่มลงมืออย่างจริงจังในเมืองผู่เถียนเสียที
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
สมจิตร เรืองสุวรรณ
เราอ่านถึงตอนที่สิบกว่าๆแล้วนะ. ทำไมพอกลับมาอ่านอีกทีอยู่แค่บทที่8 ไม่เข้าใจ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   บทที่ 8

    ทางด้านมู่ถงที่ออกจากจวนตามหลังบุตรสาว ก็ได้ติดต่อนายช่างโจวซุ่นที่ชาวบ้านแนะนำกับเขา และพาไปดูร้านค้าพร้อมบอกรายละเอียด ที่ตนกับบุตรสาวต้องการให้นายช่างโจวปรับปรุง หรือเพิ่มเติมในส่วนที่ได้หารือกันเอาไว้ ซึ่งนายช่างโจวพอจะเห็นภาพตามที่มู่ถงได้บอกเล่าให้ฟัง เนื่องจากนายช่างโจวเองก็มีประสบการณ์สร้างร

    Last Updated : 2025-03-09
  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   บทที่ 9

    [นายหญิงคนงามของจีจี้อย่าโมโหเลยนะเจ้าคะ เดี๋ยวลูกน้องผู้เก่งกาจอย่างจีจี้ จะช่วยจัดการเรื่องสนามฝึกหน่วยคุ้มกันให้เอง จีจี้จะยกอุปกรณ์มาให้ครบไม่มีขาดแม้แต่ชิ้นเดียวเจ้าค่ะ]ซูอันนึกภาพสนามฝึกที่มีอุปกรณ์เสริมสร้างความแข็งแรง ก็แอบยกยิ้มมุมปากเบา ๆ ในเมื่อจีจี้นำมันมาให้นางได้ เช่นนั้นตัวของนางก็คว

    Last Updated : 2025-03-09
  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   บทที่ 10

    อวี้เหลียนก็คิดเช่นเดียวกับหัวหน้าหมู่บ้าน “นายท่านจินอย่าได้ห้ามพวกข้าเลยขอรับ ถึงอย่างไรคำเรียกนี้ย่อมมีคนอีกมาก ที่จะเรียกท่านในอนาคตเมื่อท่านเริ่มทำการค้านะขอรับ อนุญาตให้พวกข้าเรียกไว้แต่เนิ่น ๆ ดีกว่าขอรับนายท่านจิน”เยี่ยนหลิงเข้าใจว่าบิดาเคยชินกับคำเรียกขาน แต่ตอนนี้สถานการณ์มิได้เป็นเช่นแต่

    Last Updated : 2025-03-09
  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   บทที่ 11

    ภายหลังที่หัวหน้าหมู่บ้านกลับไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่ซูอันจะได้พูดคุยและทำความเข้าใจกับว่าที่หน่วยคุ้มกัน ซึ่งพวกเขาจะต้องพักอยู่ที่จวนแห่งนี้เพื่อรับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะผ่านหลักสูตรการฝึกที่นางกำหนดไว้ซูอันหันมาทางบุรุษทั้งสิบคนที่ยืนรออยู่เงียบ ๆ อย่างรู้มารยาท “เอาล่ะพี่ชายทั้งหลายถึงเวลาข

    Last Updated : 2025-03-09
  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   บทที่ 12

    พอมาถึงลานฝึกฝน ซูอันพูดถึงความสำคัญของการฝึก “จำไว้ให้ดี! การปกป้องชีวิตข้า ปกป้องสินค้าคือสิ่งสำคัญที่สุด แต่การปกป้องชีวิตของตัวพวกเจ้าเองก็สำคัญไม่แพ้กัน พวกเจ้าไม่ใช่แค่โล่ที่ไม่มีชีวิต แต่พวกเจ้าคือดาบที่พร้อมฟาดฟันศัตรูกลับไปทุกเมื่อ”“รับทราบขอรับคุณหนูเล็ก!!”พอเห็นความพร้อมของคนทั้งสิบ ซ

    Last Updated : 2025-03-09
  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   บทที่ 13

    ภายหลังที่หัวหน้าหมู่บ้านกลับไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่ซูอันจะได้พูดคุยและทำความเข้าใจกับว่าที่หน่วยคุ้มกัน ซึ่งพวกเขาจะต้องพักอยู่ที่จวนแห่งนี้ เพื่อรับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะผ่านหลักสูตรการฝึกที่นางกำหนดไว้ซูอันหันมาทางบุรุษทั้งสิบคนที่ยืนรออยู่เงียบ ๆ อย่างรู้มารยาท “เอาล่ะพี่ชายทั้งหลายถึงเวลา

    Last Updated : 2025-03-10
  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   บทที่ 14

    พอมาถึงลานฝึกฝน ซูอันพูดถึงความสำคัญของการฝึก “จำไว้ให้ดี! การปกป้องชีวิตข้า ปกป้องสินค้าคือสิ่งสำคัญที่สุด แต่การปกป้องชีวิตของตัวพวกเจ้าเองก็สำคัญไม่แพ้กัน พวกเจ้าไม่ใช่แค่โล่ที่ไม่มีชีวิต แต่พวกเจ้าคือดาบที่พร้อมฟาดฟันศัตรูกลับไปทุกเมื่อ”“รับทราบขอรับคุณหนูเล็ก!!”พอเห็นความพร้อมของคนทั้งสิบ ซ

    Last Updated : 2025-03-10
  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   บทที่ 15

    ตั้งแต่เริ่มฝึกฝนการต่อสู้จากการสั่งสอนของซูอัน หน่วยคุ้มกันรุ่นที่หนึ่งทั้งสิบคนล้วนมีความมุ่งมั่น เพื่อให้ตนเองกลายเป็นผู้พิทักษ์ของตระกูลจิน ที่มีทั้งความแข็งแกร่งด้านร่างกาย รวมไปถึงการต่อสู้ที่ใช้มือเปล่าหรือใช้อาวุธ และทุกเช้ามักจะมีซูอันมาร่วมฝึกด้วยเสมอหลังจากการฝึกร่างกายของตน ซูอันจะกลับม

    Last Updated : 2025-03-10

Latest chapter

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   บทที่ 148

    แต่คนที่หวังประจบประแจงองค์ชายน้อย ย่อมไม่รอดพ้นการลงทัณฑ์จากฮ่องเต้ “หึ พวกเจ้าทุกคนควรยึดองค์ชายเจิ้งหลงรวมถึงคุณชายกับคุณหนู จากตระกูลหยางและตระกูลฟงเป็นแบบอย่าง ต้องมีความพยายามในการฝึกฝนให้มากกว่านี้ อย่าได้เกียจคร้านจะได้ไม่ทำให้บิดามารดาพวกเจ้าต้องขายหน้าส่วนเจ้ากู่จื่อเซียวเป็นถึงอาจารย์ของ

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   บทที่ 147

    ฟงเหยาเหวินยืดหลังตรงสายตาเย็นชา เขายังไม่ทันได้พูดอะไรเพราะถูกหยางเฟิ่งเซียนพูดแทนเสียก่อน “ข้ากับญาติผู้พี่ไม่ได้เริ่มก่อเรื่องวุ่นวาย แต่เป็นองค์ชายกับองค์หญิงต่างหากที่เริ่มก่อน พวกเขาต้องการเอากระดาษที่มีตัวอักษรของพวกเราไป” หยางเฟิ่งเซียนกล่าวตอบอย่างไม่เกรงกลัวผู้เป็นอาจารย์องค์ชายและองค์หญิ

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   บทที่ 146

    หยางเฟิ่งเซียนได้ยินญาติผู้พี่เริ่มตอบกลับ จึงพูดเสริมด้วยเสียงเล็ก ๆ ตามประสาเด็ก แต่ใช่ว่าภายในหัวของหยางเฟิ่งเซียนจะไม่คิดอันใด “ส่วนฝีมือหัดเขียนของหม่อมฉันยังไม่ดีพอ หากถวายไปแล้วหมึกไม่สมดุลหรือเส้นขาดความสง่างาม มันอาจจะทำให้เสียเกียรติขององค์หญิงได้เช่นกัน”องค์ชายและองค์หญิงขมวดพระขนง พระพั

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   บทที่ 145

    หนึ่งปีต่อมาณ วังหลวงอันโอ่อ่าซึ่งมีสำนักวั่งซูเก๋อ สถานที่สำหรับให้ความรู้แก่องค์ชายองค์หญิง รวมถึงบุตรหลานขุนนาง ที่ถูกคัดเลือกเข้ามาเรียนร่วมเป็นสหายของเชื้อพระวงศ์ยามเยาว์วัย และสองคู่แฝดจากตระกูลหยางกับตระกูลฟง ก็เป็นผู้ถูกเลือกจากฮ่องเต้ที่ทรงเล็งเห็นความสามารถแต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพระราชนัดด

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   บทที่ 144

    สองคู่แฝดจากสองตระกูลที่เกิดในเวลาไล่เลี่ยกัน เด็กน้อยทั้งสี่คนถูกเลี้ยงดูด้วยความรักและความเอาใจใส่ ไม่ว่าจะเป็นปู่ย่าตายายหรือท่านลุงท่านน้า ตั้งแต่สองคู่แฝดเริ่มหัดคลานจนเดินก้าวแรกได้ อยากหยิบจับสิ่งใดหรือจ้องมองสิ่งที่อยากได้ล้วนได้รับสิ่งนั้นเสมอในเมื่อมีคนเอาใจย่อมมีคนคอยขัด โดยให้เหตุผลสำหร

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   บทที่ 143

    “ไอหยา ฮูหยินน้อยสงสัยลูก ๆ ของท่านจะกลัวคำขู่ไม่น้อย คนน้องถึงได้รีบตามออกมาทันที ท่านออกแรงเบ่งอีกครั้งนะเจ้าคะ”ซูอันรวบรวมลมหายใจอีกครั้ง และออกแรงเบ่งเพื่อให้บุตรอีกคนรีบออกมา เพราะตอนนี้นางเหนื่อยจนแทบจะหมดแรงอยู่แล้ว และในที่สุดเสียงร้องอันไพเราะก็ดังขึ้นอีกครั้ง“ฮูหยินน้อยคนนี้เป็นคุณหนูเจ้

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   บทที่ 142

    เยี่ยนหลิงกัดฟันแน่นมือจิกผ้าปูที่นอนจนยับย่น นางรู้ดีว่าต้องเข้มแข็งกับการให้ชีวิตใหม่ของบุตรของนาง “ลูกแม่พวกเจ้ารีบออกมาเถิดอย่าได้กลั่นแกล้งแม่เช่นนี้เลย หากยังไม่ยอมออกมาแม่อาจขาดใจตายเอาได้ แล้วพวกเจ้าจะกลายเป็นเด็กกำพร้อมแม่นะ”“จินฮูหยินหัวเด็กคนแรกเริ่มโผล่ออกมาแล้วเจ้าค่ะ ท่านแข็งใจเบ่งออก

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   บทที่ 141

    ข่าวการตั้งครรภ์ของบุตรสาวนายท่านตระกูลจิน ผู้เป็นเจ้าของร้านผ้าไหมทอเมฆาต่างกระจายไปถึงหูของคู่ค้า เมื่อใดที่ได้แวะเวียนมายังเมืองผู่เถียน ล้วนมีของขวัญติดไม้ติดมือมาเสมอ ซูอันไม่มีอาการแพ้ท้องอย่างอื่น มีเพียงการให้สามีตัวติดกับนางเท่านั้น ส่วนเยี่ยนหลิงกว่าจะหายเหม็นสามี อายุครรภ์ก็ปาเข้าไปเกือบห

  • มาเฟียสาวทะลุมิติมาเป็นเจ้าของร้านผ้าไหมอันดับหนึ่ง   บทที่ 140

    “หลิงเอ๋อร์! เจ้าอาการหนักถึงเพียงนี้ ไยไม่ให้น้องเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนเล่า หากเจ้าหมดสติล้มลงจนบาดเจ็บจะทำเช่นไร ท่านพี่พาลูกขึ้นไปนอนพักบนเตียงก่อนเถิดเจ้าค่ะ”“ได้ ๆ ๆ นี่มันเกิดอันใดขึ้นกับลูกกันแน่ฮูหยิน เมื่อเช้าก่อนจะแยกกลับเรือนยังดี ๆ อยู่แท้ ๆ” มู่ถงไม่เคยเจออาการแพ้ท้องของสตรีตั้งครรภ์ เนื

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status