[นายหญิงคนงามของจีจี้อย่าโมโหเลยนะเจ้าคะ เดี๋ยวลูกน้องผู้เก่งกาจอย่างจีจี้ จะช่วยจัดการเรื่องสนามฝึกหน่วยคุ้มกันให้เอง จีจี้จะยกอุปกรณ์มาให้ครบไม่มีขาดแม้แต่ชิ้นเดียวเจ้าค่ะ]ซูอันนึกภาพสนามฝึกที่มีอุปกรณ์เสริมสร้างความแข็งแรง ก็แอบยกยิ้มมุมปากเบา ๆ ในเมื่อจีจี้นำมันมาให้นางได้ เช่นนั้นตัวของนางก็คว
อวี้เหลียนก็คิดเช่นเดียวกับหัวหน้าหมู่บ้าน “นายท่านจินอย่าได้ห้ามพวกข้าเลยขอรับ ถึงอย่างไรคำเรียกนี้ย่อมมีคนอีกมาก ที่จะเรียกท่านในอนาคตเมื่อท่านเริ่มทำการค้านะขอรับ อนุญาตให้พวกข้าเรียกไว้แต่เนิ่น ๆ ดีกว่าขอรับนายท่านจิน”เยี่ยนหลิงเข้าใจว่าบิดาเคยชินกับคำเรียกขาน แต่ตอนนี้สถานการณ์มิได้เป็นเช่นแต่
ภายหลังที่หัวหน้าหมู่บ้านกลับไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่ซูอันจะได้พูดคุยและทำความเข้าใจกับว่าที่หน่วยคุ้มกัน ซึ่งพวกเขาจะต้องพักอยู่ที่จวนแห่งนี้เพื่อรับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะผ่านหลักสูตรการฝึกที่นางกำหนดไว้ซูอันหันมาทางบุรุษทั้งสิบคนที่ยืนรออยู่เงียบ ๆ อย่างรู้มารยาท “เอาล่ะพี่ชายทั้งหลายถึงเวลาข
พอมาถึงลานฝึกฝน ซูอันพูดถึงความสำคัญของการฝึก “จำไว้ให้ดี! การปกป้องชีวิตข้า ปกป้องสินค้าคือสิ่งสำคัญที่สุด แต่การปกป้องชีวิตของตัวพวกเจ้าเองก็สำคัญไม่แพ้กัน พวกเจ้าไม่ใช่แค่โล่ที่ไม่มีชีวิต แต่พวกเจ้าคือดาบที่พร้อมฟาดฟันศัตรูกลับไปทุกเมื่อ”“รับทราบขอรับคุณหนูเล็ก!!”พอเห็นความพร้อมของคนทั้งสิบ ซ
ภายหลังที่หัวหน้าหมู่บ้านกลับไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่ซูอันจะได้พูดคุยและทำความเข้าใจกับว่าที่หน่วยคุ้มกัน ซึ่งพวกเขาจะต้องพักอยู่ที่จวนแห่งนี้ เพื่อรับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะผ่านหลักสูตรการฝึกที่นางกำหนดไว้ซูอันหันมาทางบุรุษทั้งสิบคนที่ยืนรออยู่เงียบ ๆ อย่างรู้มารยาท “เอาล่ะพี่ชายทั้งหลายถึงเวลา
พอมาถึงลานฝึกฝน ซูอันพูดถึงความสำคัญของการฝึก “จำไว้ให้ดี! การปกป้องชีวิตข้า ปกป้องสินค้าคือสิ่งสำคัญที่สุด แต่การปกป้องชีวิตของตัวพวกเจ้าเองก็สำคัญไม่แพ้กัน พวกเจ้าไม่ใช่แค่โล่ที่ไม่มีชีวิต แต่พวกเจ้าคือดาบที่พร้อมฟาดฟันศัตรูกลับไปทุกเมื่อ”“รับทราบขอรับคุณหนูเล็ก!!”พอเห็นความพร้อมของคนทั้งสิบ ซ
ตั้งแต่เริ่มฝึกฝนการต่อสู้จากการสั่งสอนของซูอัน หน่วยคุ้มกันรุ่นที่หนึ่งทั้งสิบคนล้วนมีความมุ่งมั่น เพื่อให้ตนเองกลายเป็นผู้พิทักษ์ของตระกูลจิน ที่มีทั้งความแข็งแกร่งด้านร่างกาย รวมไปถึงการต่อสู้ที่ใช้มือเปล่าหรือใช้อาวุธ และทุกเช้ามักจะมีซูอันมาร่วมฝึกด้วยเสมอหลังจากการฝึกร่างกายของตน ซูอันจะกลับม
จือเหมยเห็นว่าบุตรสาวมีความมั่นใจนางย่อมไม่เอ่ยขัด เพราะซูอันได้ลงมือทำให้เห็นด้วยตนเอง “ถึงจะเก่งแค่ไหนก็อย่าได้ประมาท ผู้คนมากมายเราไม่อาจรู้ถึงความคิดพวกเขาได้ทั้งหมด”เมื่อเห็นว่าทุกอย่างไม่มีปัญหาซูอันจึงขอตัวกับมารดา เพื่อกลับไปเตรียมผ้ารายการอื่น ๆ ให้พร้อมสำหรับวางขาย “ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะท่าน
ในวันนี้ที่หยางไท่หมิงกลับมาถึงเมืองผู่เถียน ช่างประจวบเหมาะกับการกลับมาของไห่หยุน ที่ได้รับมอบหมายภารกิจสืบประวัติครอบครัวของซูอัน ว่ามีความเป็นมาอย่างไร“ว่าอย่างไรไห่หยุน ได้เรื่องอันใดกลับมาบ้างรีบพูดมาให้ละเอียด พวกข้าสองคนรอฟังอยู่” ฟงเฉิงฮ่าวถามคนของตนทันทีที่ไห่หยุนเข้ามาพบไห่หยุนค้อมตัวทำค
ภารกิจบนภูเขาผู่ถัวผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ช่างทอผ้าทุกคนปลอดภัยไร้บาดแผล ส่วนลูกน้องของเหยียนโจวเฟิงถูกสังหารทั้งหมด เนื่องจากไม่มีผู้ใดยอมวางอาวุธในมือเพื่อยอมแพ้ พวกเขายอมตายดีกว่าถูกจับตัวไปทรมานฟงเฉิงฮ่าวพาทั้งทหารและช่างทอผ้าลงจากเขา และกลับมาถึงศาลาว่าการเมืองผู่กังในยามเว่ย หยางไท่หมิงจึงให้ทหาร
ทางฝั่งของอู๋ซูกับทหารห้าสิบนาย ที่มาถึงจวนตระกูลเหลียง ท่ามกลางสายตาของบ่าวไพร่จวนใกล้เคียง ที่เริ่มออกมาจับจ่ายซื้อหาอาหารให้เจ้านาย ต่างขยับเท้าเข้าไปใกล้กำแพงจวนอย่างช้า ๆ เนื่องจากอยากรู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับตระกูลนี้อู๋ซูไม่รีรอที่จะใช้เท้าของตนถีบประตู แม้จะมีบ่าวไพร่ยืนเฝ้าอยู่ก็ตาม ปัง
“ขอรับคุณชาย”เสียงของความวุ่นวายภายในจวน แม้แต่เสียงกรีดร้องตกใจของสตรีที่อยู่ในเรือนของตน ก็ให้เกิดความงุนงงยิ่งนัก ว่าผู้ที่บุกรุกเข้ามาไล่จับตัวพวกตนนั้นคือผู้ใด ส่วนตัวเจ้าเมืองถูกทหารนายหนึ่ง ลากตัวมาพร้อมกับอนุสี่ทำให้ยามนี้ ภายในห้องโถงที่ดูใหญ่โตกลับคับแคบไปทันตาตุบ ตุบ โอ๊ย!เจ้าเมืองเจิ้
“ขอรับใต้เท้า พรุ่งนี้บ่าวจะรีบไปที่จวนนายท่านเหลียงแต่เช้า”“อืม เอาล่ะวันนี้ข้าอารมณ์ดีจะไปค้างที่เรือนอนุสี่ หากคนของฮูหยินถามเจ้าก็ตอบนางไปตามจริงก็พอ”“ขอรับใต้เท้า”ลับร่างเจ้าของเรือนใหญ่ในจวน สองพี่น้องอู๋ที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืด ได้ยินสิ่งที่เจ้าเมืองเจิ้งพูดคุยกับบ่าวคนสนิททุกคำ พวกเขาได้จดจ
ด้านหยางไท่หมิงและฟงเฉิงเฮ่าพร้อมผู้ติดตามทั้งสาม ได้ขี่ม้ามาสมทบกับทหารจำนวนสองร้อยนาย ที่เขาได้เอ่ยขอไว้กับเจ้าเมืองปิงชุน ก่อนจะพาขบวนขนาดใหญ่นี้ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองผู่กัง เพื่อจับตัวผู้ที่ให้ความร่วมมือกับเหยียนโจวเฟิง รวมถึงการช่วยเหลือช่างทอผ้า ที่ถูกลักพาตัวมาให้กลับไปหาครอบครัวด้วยค
ข้าขอตัวก่อนนะขอรับ” หลังจากสั่งงานกับลูกน้องจบ เจ้าเมืองปิงชุนจึงขอตัวกลับไปทำงานต่อทันทีหยางไท่หมิงเดินกลับไปหาซูอัน เพื่อบอกกับนางเรื่องที่ต้องไปจัดการภารกิจที่เมืองผู่กัง “คุณหนูเล็ก ข้ากับอาฮ่าวคงต้องขอตัวไปทำภารกิจต่อแล้ว ส่วนของตอบแทนที่ท่านกับพี่สาวตั้งใจจะมอบให้ รบกวนท่านเตรียมไว้ หลังจากเ
เมื่อเหยียนโจวเฟิงพ่ายแพ้ให้กับซูอันอย่างไม่เต็มใจ มิหนำซ้ำยังถูกนางใช้ผ้าผูกผมบนศีรษะ มัดรวบข้อมือของตนที่ไขว้หลังอย่างแน่นหนา พอจะเรียกหาลูกน้องให้มาช่วยเหลือ กลับกลายเป็นว่าคนนับสิบ ล้วนถูกสังหารนอนตายเกลื่อนกลาด มีเพียงฉู่เฟยที่บาดเจ็บจากการต่อสู้กับเว่ยโฉว ถูกดาบปลายแหลมชี้หน้าในท่ากึ่งนั่งกึ่ง
พรึบ!“นะ นะ นั่นมัน ทะ ทะ ทองคำจริง ๆ ด้วย!!”“โอ้สวรรค์ ข้าเห็นผ้าไหมและผ้าปักลวดลายมามากมาย จนผ่านมาหลายสิบปีสิ่งที่เคยผ่านดวงตาคู่นี้ของข้า ยังไม่อาจเทียบได้กับผ้าไหมทองคำ ที่ปักดอกอวี้หลานได้อย่างวิจิตรงดงามผืนนี้”“ข้าจะต้องประมูลผ้าไหมผืนนี้ให้ได้ หลังจากนั้นจะนำไปเป็นสมบัติของตระกูลข้า”“สอง