ภายหลังที่หัวหน้าหมู่บ้านกลับไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่ซูอันจะได้พูดคุยและทำความเข้าใจกับว่าที่หน่วยคุ้มกัน ซึ่งพวกเขาจะต้องพักอยู่ที่จวนแห่งนี้ เพื่อรับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะผ่านหลักสูตรการฝึกที่นางกำหนดไว้ซูอันหันมาทางบุรุษทั้งสิบคนที่ยืนรออยู่เงียบ ๆ อย่างรู้มารยาท “เอาล่ะพี่ชายทั้งหลายถึงเวลา
พอมาถึงลานฝึกฝน ซูอันพูดถึงความสำคัญของการฝึก “จำไว้ให้ดี! การปกป้องชีวิตข้า ปกป้องสินค้าคือสิ่งสำคัญที่สุด แต่การปกป้องชีวิตของตัวพวกเจ้าเองก็สำคัญไม่แพ้กัน พวกเจ้าไม่ใช่แค่โล่ที่ไม่มีชีวิต แต่พวกเจ้าคือดาบที่พร้อมฟาดฟันศัตรูกลับไปทุกเมื่อ”“รับทราบขอรับคุณหนูเล็ก!!”พอเห็นความพร้อมของคนทั้งสิบ ซ
ตั้งแต่เริ่มฝึกฝนการต่อสู้จากการสั่งสอนของซูอัน หน่วยคุ้มกันรุ่นที่หนึ่งทั้งสิบคนล้วนมีความมุ่งมั่น เพื่อให้ตนเองกลายเป็นผู้พิทักษ์ของตระกูลจิน ที่มีทั้งความแข็งแกร่งด้านร่างกาย รวมไปถึงการต่อสู้ที่ใช้มือเปล่าหรือใช้อาวุธ และทุกเช้ามักจะมีซูอันมาร่วมฝึกด้วยเสมอหลังจากการฝึกร่างกายของตน ซูอันจะกลับม
จือเหมยเห็นว่าบุตรสาวมีความมั่นใจนางย่อมไม่เอ่ยขัด เพราะซูอันได้ลงมือทำให้เห็นด้วยตนเอง “ถึงจะเก่งแค่ไหนก็อย่าได้ประมาท ผู้คนมากมายเราไม่อาจรู้ถึงความคิดพวกเขาได้ทั้งหมด”เมื่อเห็นว่าทุกอย่างไม่มีปัญหาซูอันจึงขอตัวกับมารดา เพื่อกลับไปเตรียมผ้ารายการอื่น ๆ ให้พร้อมสำหรับวางขาย “ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะท่าน
ภายในห้องรับรองด้านบนร้านค้าผ้าไหม ยามนี้ซูอันและแขกผู้เป็นลูกค้ากระเป๋าหนัก เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับการซื้อขายผ้าไหม รวมถึงผ้าปักลวดลายต่าง ๆ ที่ร้านตระกูลจินได้ทำออกมาวางขายวั่นจิ่นต้านร้อนใจเกรงว่าตนจะไม่ได้สินค้าที่อยากได้“เอ่อ คุณหนูเล็กท่านมีข้อเสนออันใด เกี่ยวกับผ้าที่วางขายในร้าน ของท่านบ้าง ช
หยางไท่หมิงปรายตามองสหายสนิทของตน กับคำตอบที่เหมือนเดิมเช่นทุกครั้ง “ถ้าข้าเบื่อคงออกไปขี่ม้าอยู่ด้านนอกแล้ว เหตุใดเจ้าถึงยังไม่คุ้นชินกับการเดินทางอีกเล่าอาฮ่าว เจ้าจะขี้บ่นเหมือนตาแก่ชายบำเรอของท่านแม่ที่จวนข้าไปทำไมกัน”ฟงเฉิงฮ่าวลุกขึ้นจ้องมองหน้าสหาย และบอกความในใจของเขา “ไอหยาอาหมิง ก็ตลอดทางม
หยางไท่หมิงและฟงเฉิงฮ่าว ได้เข้าพักในโรงเตี๊ยมผู่เฉิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทั้งสองยังไม่ยอมพักผ่อนเนื่องจากรอฟังข่าวจากไห่หยุน ผู้รับคำสั่งจากฟงเฉิงฮ่าวไปสืบความเป็นมา เกี่ยวกับสตรีที่เจ้านายให้ความสนใจ ทันทีที่มาถึงเมืองผู่เถียน ซึ่งมิใช่แค่ไห่หยุนที่แปลกใจ แต่บ่าวที่ติดตามเจ้านายทั้งสองคนก็รู้สึ
“คุณหนูเล็กตั้งแต่ข้าเติบโตมาในหมู่บ้าน ไม่เคยมีผู้ใดเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับช่างทอผ้าฝีมือเก่งกาจเช่นนี้ นี่เป็นครั้งแรก ที่ผู้อาวุโสได้พบเจอเช่นกันขอรับ”เมื่อเรื่องราวที่ได้รับรู้ดูผิดปกติ ซูอันจึงไม่อาจวางใจได้อีกต่อไป “อวี้เหลียนเจ้ากำชับคนที่จะไปเฝ้าดูหมู่บ้านให้ดี และบอกกับชาวบ้านว่า อย่าได้เล่
ในวันนี้ที่หยางไท่หมิงกลับมาถึงเมืองผู่เถียน ช่างประจวบเหมาะกับการกลับมาของไห่หยุน ที่ได้รับมอบหมายภารกิจสืบประวัติครอบครัวของซูอัน ว่ามีความเป็นมาอย่างไร“ว่าอย่างไรไห่หยุน ได้เรื่องอันใดกลับมาบ้างรีบพูดมาให้ละเอียด พวกข้าสองคนรอฟังอยู่” ฟงเฉิงฮ่าวถามคนของตนทันทีที่ไห่หยุนเข้ามาพบไห่หยุนค้อมตัวทำค
ภารกิจบนภูเขาผู่ถัวผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ช่างทอผ้าทุกคนปลอดภัยไร้บาดแผล ส่วนลูกน้องของเหยียนโจวเฟิงถูกสังหารทั้งหมด เนื่องจากไม่มีผู้ใดยอมวางอาวุธในมือเพื่อยอมแพ้ พวกเขายอมตายดีกว่าถูกจับตัวไปทรมานฟงเฉิงฮ่าวพาทั้งทหารและช่างทอผ้าลงจากเขา และกลับมาถึงศาลาว่าการเมืองผู่กังในยามเว่ย หยางไท่หมิงจึงให้ทหาร
ทางฝั่งของอู๋ซูกับทหารห้าสิบนาย ที่มาถึงจวนตระกูลเหลียง ท่ามกลางสายตาของบ่าวไพร่จวนใกล้เคียง ที่เริ่มออกมาจับจ่ายซื้อหาอาหารให้เจ้านาย ต่างขยับเท้าเข้าไปใกล้กำแพงจวนอย่างช้า ๆ เนื่องจากอยากรู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับตระกูลนี้อู๋ซูไม่รีรอที่จะใช้เท้าของตนถีบประตู แม้จะมีบ่าวไพร่ยืนเฝ้าอยู่ก็ตาม ปัง
“ขอรับคุณชาย”เสียงของความวุ่นวายภายในจวน แม้แต่เสียงกรีดร้องตกใจของสตรีที่อยู่ในเรือนของตน ก็ให้เกิดความงุนงงยิ่งนัก ว่าผู้ที่บุกรุกเข้ามาไล่จับตัวพวกตนนั้นคือผู้ใด ส่วนตัวเจ้าเมืองถูกทหารนายหนึ่ง ลากตัวมาพร้อมกับอนุสี่ทำให้ยามนี้ ภายในห้องโถงที่ดูใหญ่โตกลับคับแคบไปทันตาตุบ ตุบ โอ๊ย!เจ้าเมืองเจิ้
“ขอรับใต้เท้า พรุ่งนี้บ่าวจะรีบไปที่จวนนายท่านเหลียงแต่เช้า”“อืม เอาล่ะวันนี้ข้าอารมณ์ดีจะไปค้างที่เรือนอนุสี่ หากคนของฮูหยินถามเจ้าก็ตอบนางไปตามจริงก็พอ”“ขอรับใต้เท้า”ลับร่างเจ้าของเรือนใหญ่ในจวน สองพี่น้องอู๋ที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืด ได้ยินสิ่งที่เจ้าเมืองเจิ้งพูดคุยกับบ่าวคนสนิททุกคำ พวกเขาได้จดจ
ด้านหยางไท่หมิงและฟงเฉิงเฮ่าพร้อมผู้ติดตามทั้งสาม ได้ขี่ม้ามาสมทบกับทหารจำนวนสองร้อยนาย ที่เขาได้เอ่ยขอไว้กับเจ้าเมืองปิงชุน ก่อนจะพาขบวนขนาดใหญ่นี้ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองผู่กัง เพื่อจับตัวผู้ที่ให้ความร่วมมือกับเหยียนโจวเฟิง รวมถึงการช่วยเหลือช่างทอผ้า ที่ถูกลักพาตัวมาให้กลับไปหาครอบครัวด้วยค
ข้าขอตัวก่อนนะขอรับ” หลังจากสั่งงานกับลูกน้องจบ เจ้าเมืองปิงชุนจึงขอตัวกลับไปทำงานต่อทันทีหยางไท่หมิงเดินกลับไปหาซูอัน เพื่อบอกกับนางเรื่องที่ต้องไปจัดการภารกิจที่เมืองผู่กัง “คุณหนูเล็ก ข้ากับอาฮ่าวคงต้องขอตัวไปทำภารกิจต่อแล้ว ส่วนของตอบแทนที่ท่านกับพี่สาวตั้งใจจะมอบให้ รบกวนท่านเตรียมไว้ หลังจากเ
เมื่อเหยียนโจวเฟิงพ่ายแพ้ให้กับซูอันอย่างไม่เต็มใจ มิหนำซ้ำยังถูกนางใช้ผ้าผูกผมบนศีรษะ มัดรวบข้อมือของตนที่ไขว้หลังอย่างแน่นหนา พอจะเรียกหาลูกน้องให้มาช่วยเหลือ กลับกลายเป็นว่าคนนับสิบ ล้วนถูกสังหารนอนตายเกลื่อนกลาด มีเพียงฉู่เฟยที่บาดเจ็บจากการต่อสู้กับเว่ยโฉว ถูกดาบปลายแหลมชี้หน้าในท่ากึ่งนั่งกึ่ง
พรึบ!“นะ นะ นั่นมัน ทะ ทะ ทองคำจริง ๆ ด้วย!!”“โอ้สวรรค์ ข้าเห็นผ้าไหมและผ้าปักลวดลายมามากมาย จนผ่านมาหลายสิบปีสิ่งที่เคยผ่านดวงตาคู่นี้ของข้า ยังไม่อาจเทียบได้กับผ้าไหมทองคำ ที่ปักดอกอวี้หลานได้อย่างวิจิตรงดงามผืนนี้”“ข้าจะต้องประมูลผ้าไหมผืนนี้ให้ได้ หลังจากนั้นจะนำไปเป็นสมบัติของตระกูลข้า”“สอง