แชร์

บทที่ 0003

ผู้เขียน: สายธารสะท้อนเงา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-04-23 13:47:37
“ยังมิเหมาะที่จะด่วนสรุปในตอนนี้?” นัยน์ตาของท่านอ๋องสามพลันฉายแววเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมองฉินเหยี่ยนเย่ว์ด้วยหางตา “มีคนเห็นว่าเจ้าเตะเสวี่ยเอ๋อร์ลงไป เจ้ายังกล้าที่จะปฏิเสธอีกหรือ?”

“หม่อมฉันมิเคยคิดที่จะปฏิเสธเพคะ”ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางยืนตัวตรง ทั้งน้ำเสียงและนัยน์ตาที่สื่อออกมาหาได้มีท่าทีเกรงกลัวไม่ “เป็นหม่อมฉันที่เตะฉินเสวี่ยเยว่ลงไปจริง ๆ เพคะ นั่นเพราะนี่เป็นสิ่งที่นางควรจะได้รับมัน ทว่า นางกำนัลผู้นั่นหม่อมฉันมิได้เป็นคนที่สังหารนาง ท่านอ๋องสามเพคะ หม่อมฉันหวังว่าพระองค์จะทรงแยกแยะออกว่าเรื่องนี้หาใช่เรื่องเดียวกันไม่”

“เจ้า!” ท่านอ๋องสามสะบัดแขนเสื้อตนเองลงอย่างรุนแรง “เหตุใดเจ้าจึงต้องลงมือกับเสวี่ยเอ๋อร์เช่นนี้?”

“หม่อมฉันตรัสแล้วเพคะ นั่นเป็นสิ่งที่นางสมควรได้รับ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางยื่นเสื้อคลุมหนังสัตว์ไปให้ท่านอ๋องสาม “ฝ่าบาทช่วยคืนเสื้อคลุมหนังสัตว์ตัวนี้แทนหม่อมฉันด้วยเพคะ ทั้งฝากข้อความไปบอกนางด้วยว่า เสื้อคุลมหนังสัตว์ตัวนี้มิเหมาะกับหม่อมฉันเท่าใดนัก หม่อมฉันมอบมันคืนให้กับนางจักเป็นการดีกว่า”

“นังอสรพิษ”ท่านอ๋องสามพลันสบถออกมาด้วยท่าทีเย็นชา “เสวี่ยเอ๋อร์เป็นน้องสาวของเจ้า เจ้าทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้กับนางได้เช่นไร? การตายของนางกำนัลผู้นั้น ย่อมต้องเกี่ยวข้องกับเจ้าอย่างแน่นอน พวกเจ้าเข้ามา มาตรวจสอบนางให้ข้าเดี๋ยวนี้ ... ”

“เสด็จพี่สาม ท่านแน่ใจแล้วหรือว่าต้องการตรวจสอบทุกอย่าง?” ตงฟางหลีรีบเข้ามารับช่วงต่อในทันที

ท่าทีที่เย็นชาราวกับหิมะเหมันต น้ำเสียงที่เยือกเย็นเฉยเมยแต่เจือไปด้วยท่าทีเยาะเย้ย

“เมื่อครู่ท่านตรัสออกมาว่า โทษทัณฑ์ของพระชายาย่อมต้องโทษมีความผิดเสมือนกับสามัญชนทั่วไป นางกำนัลผู้นั้นตกตายอย่างผิดแปลกเกินไปนัก ทั้งยังเต็มไปด้วยข้อสงสัยมากมายอีก ความจริงย่อมสืบค้นได้ไม่ยาก หากว่าพวกเราสืบค้นลงไปจริง ๆ แล้ว บางทีอาจจะมิเจออะไรเลยก็เป็นไปได้ เสด็จพี่สามคิดเห็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”

ท่านอ๋องสามพลันหรี่ตาลงเล็กน้อย

เจ้าเจ็ดที่มักจะเป็นคนทำอะไรรอบคอบและระมัดระวังมาโดยตลอดนั้น บางทีเขาอาจจะเจออะไรขึ้นมาก็เป็นได้ถึงได้เอ่ยออกมาเช่นนี้ ทั้งยังรู้สึกว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์มิน่าจะทำเรื่องโง่ ๆ เช่นนี้ออกมาได้ เมื่อใจเย็นลงได้สักพักหนึ่งแล้วนั้น องค์​ชายจึงตระหนักได้ว่าเรื่องราวต่าง ๆ หาได้ง่ายดายขนาดนั้นไม่

ในจวนท่านอ๋องสามเช่นนี้ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ย่อมมิสามารถทำอันใดได้อย่างใจตนเองได้เป็นแน่ ทั้งรูปร่างของนางแล้วก็หาได้มีความสามารถมากพอที่จะจับตัวนางกำนัลกดน้ำให้ตกตายไปไม่ นอกจากฉินเหยี่ยนเย่ว์แล้วนั้น ผู้ที่น่าสงสัยมากที่สุดย่อมหนีไม่พ้นฉินเสวี่ยเย่ว์

หากพบว่าการตายของนางกำนัลเกี่ยวข้องกับฉินเสวี่ยเย่ว์จริง ๆ แล้วไซร้ เรื่องทุกอย่างย่อมต้องเกี่ยวโยงมาถึงตัวเขาด้วยอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น เสด็จพ่อย่อมต้องผิดหวังในตัวเขาแน่ ๆ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อการคัดเลือกองค์รัชทายาทอีกด้วย

เขาจะไม่ยอมให้มีตราบาปเช่นนี้เกิดขึ้นเป็นอันขาด

“แม้ว่าเจ้าจักไม่ได้สังหารนางกำนัลผู้นั้น แต่ความจริงที่ว่าเจ้าบุกเข้าไปในจวนของท่านอ๋องสามก็มิอาจหลีกเลี่ยงไปได้ ทั้งเรื่องที่เจ้าเตะเสวี่ยเอ๋อร์ลงไปในน้ำและทำให้เสวี่ยเอ๋อร์ตกใจนั้นก็ยังเป็นความจริงเช่นเดียวกัน”ท่านอ๋องสามพลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเย็นชา ก่อนจะหันหน้าไปทางตงฟางหลีว่า "เจ้าเจ็ด นางเป็นพระชายาของเจ้า เจ้าบอกมาเสียว่าเจ้าจักจัดการลงโทษนางเช่นไร?"

ตงฟางหลีพลันสะบัดมือ ก่อนจะกะพริบตาลงสองสามครั้ง

ฉินเหยี่ยนเย่ว์แก้ไขสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกออกมาด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำเช่นนี้ ทั้งท่าทีที่นางมีต่อเสด็จพี่สามยังมีแต่ความเย็นชารวมไปถึงความก้าวร้าว นางหาได้มีท่าทีเป็นสตรีโง่เง่าเฉกเช่นนางคนเดิมที่เขาเคยรู้จักไม่

“เสด็จพี่สามเห็นว่าข้าควรจักลงโทษนางเช่นไรดีหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ท่านอ๋องเจ็ดเอ่ยถามกับท่านอ๋องสามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ทั้งยังลอบสังเกตปฏิกิริยาของฉินเหยี่ยนเย่ว์อีกครั้งด้วย

“โบยสามสิบไม้ ห้ามให้หมอหลวงรักษานาง น้องเจ็ดคิดว่าบทลงโทษนี้เป็นเช่นไร?” ท่านอ๋องสามพลันเม้มริมฝีปากลงเล็กน้อย“พระชายาเจ็ดมีท่าทีก้าวร้าวจองหองเช่นนี้ นางสมควรจักได้รับการสั่งสอนเสียหน่อย จักได้มิมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก"

หัวใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันเต้นรัวออกมาในทันที

ด้วยสภาพร่างกายของนางที่เป็นเช่นนี้ นางจักอดทนต่อโทษโบยสามสิบไม้ได้อย่างไรกัน?

อีกทั้งบุรุษเจ้าเล่ห์ใจดำอำมหิตเช่นเขา ยังกล่าวออกมาอย่างชัดเจนด้วยว่าห้ามให้หมอหลวงมาทำการรักษานาง แค่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาจงใจที่จะเอาชีวิตนางแน่ ๆ

“เจ้ารีบบอกพระองค์เร็ว ๆ เข้า ว่าเป็นฉินเสวี่ยเย่ว์ที่โกหกทุกอย่าง เรื่องราวก่อนหน้านั้นก็เป็นนางที่ขอให้ข้าทำเช่นกัน เป็นฉินเสวี่ยเย่ว์ที่สั่งให้ไห่ถังผลักข้าลงไปในน้ำ ท่านอ๋องสามจักต้องเชื่อข้าอย่างแน่นอน ตราบใดที่ท่านอ๋องสามล่วงรู้ความจริงขึ้นมา พระองค์ย่อมมิลงโทษข้าอย่างแน่นอน” เสียงของเจ้าของร่างเดิมที่ดังเจื้อแจ้วขึ้นมาในหัวไม่มีหยุด

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่บีบนวดขมับของนางที่กำลังถูกเสียงวุ่นวายรบกวนขึ้นมาเช่นนี้

เจ้าของร่างเดิมช่างโง่เง่ายิ่งนัก แม้ว่าตนเองจักถูกผู้คนหลอกใช้เช่นนี้ กลับกล้ามาอวดฉลาดกับนางอีก ตนเองตบแต่งกับคนอื่นไปแล้วเช่นนี้ แต่ยังคิดที่จะฝากฝังชีวิตของตนเองไว้กับท่านอ๋องสามอีกหรือ

ท่านอ๋องสามจอมเจ้าเล่ห์ที่ใบหน้าเขียนเอาไว้ว่าต้องการจะเอาชีวิตของนางเช่นนี้ นางยังเชื่อฟังคำพูดของเขาอย่างไร้เดียงสาอีก

นับว่าโง่เง่าเสียจนมิอาจหาคำใด ๆ มาอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

ฉินเหยี่ยนหยูพลันสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ พร้อมทั้งกัดฟันบีบนวดขมับของตนเอง

ในเมื่อเจ้าของร่างเดิมตาบอดเช่นนี้ เช่นนั้นนางก็จักทำให้เจ้าของร่างเดิมได้เปิดหูเปิดตามองโลกแห่งความเป็นจริงเสียที ว่าบุรุษที่นางหลงรักจนหัวปักหัวปำเช่นนี้ว่าเขาเป็นขยะเช่นไรกันแน่

ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันเงยหน้าขึ้น ก่อนจะเอ่ยถามกับท่านอ๋องสามด้วยท่าทีว่า "ท่านอ๋องสามเพคะ หากหม่อมฉันกล่าวว่า เรื่องราวก่อนหน้านั้นที่เกิดขึ้นล้วนแต่เป็น ฉินเสวี่ยเย่ว์ที่หลอกให้หม่อมฉันกระทำ พระองค์จะเชื่อหรือไม่เพคะ?"

สีหน้าขององค์ชายพลันเปลี่ยนไปในทันที พลางหันไปมองตงฟางหลีที่มีท่าทีเฉยเมย พร้อมเอ่ยออกมาด้วยความแย็นชาว่า "พระชายาเจ็ด เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตนั้น ก็ให้มันผ่านไปสียเถอะ ในเมื่อเจ้าตบแต่งกับผู้อื่นไปแล้วเช่นนี้ เรื่องราวระหว่างพวกเราหาได้มีประโยนช์อันใดไม่ "

“หม่อมฉันเพียงแค่ถามพระองค์ว่าเชื่อหรือไม่เท่านั้นเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชา พร้อมกับน้ำเสียงที่หนักแน่น

"ไม่เชื่อ"

“เช่นนั้น หากหม่อมฉันกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ล้วนแต่เป็นฉินเสวี่ยเย่ว์ที่สั่งให้ไห่ถังผลักหม่อมฉันตกลงไปในน้ำ จนกระทั่งหม่อมฉันโกรธเกรี้ยวเสียมเตะฉินเสวี่ยเย่ว์ลงไปเพื่อแก้แค้นนาง ท่านอ๋องสามจะเชื่อหรือไม่เพคะ?”

"ไม่เชื่อ"

"เพคะ" ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงเอ่ยถามออกมาอีกว่า "เช่นนั้น หม่อมฉันจักถามคำถามสุดท้ายเพคะ หวังว่าท่านอ๋องสามจะตอบตามความจริง"

ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางเงยหน้าขึ้นมา พลางพูดออกมาด้วยท่าทีชัดถ้อยชัดคำว่า "พระองค์เคยชอบฉินเหยี่ยนเย่ว์บ้างหรือไม่เพคะ?"

ท่านอ๋องสามเสมือนว่าตนเองเพิ่งจะได้ยินเรื่องตลกมาก็ไม่ปาน "ไร้สาระ ข้าหาได้เคยชายตามองเจ้าไม่ ทั้งยังรู้สึกขยะแขยงเจ้าเป็นอย่างมาก"

"เช่นนั้น ก็ดีเพคะ" รอยยิ้มที่มุมปากของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันยกยิ้มขึ้นมาในทันที พร้อมด้วยดวงตาที่โค้งขึ้นเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เห็นได้ชัดว่านางกำลังยิ้ม หากแต่นัยน์ตาของนางกลับเผยท่าทีเย็นชาราวกับหิมะออกมา

ท่านอ๋องสามรู้สึกเขินอายเล็กน้อยไปกับรอยยิ้มนี้ ทำเขามิรู้ว่าตนเองควรจะเอ่ยอันใดออกมาอยู่ครู่หนึ่ง

หากแต่ใบหน้าของตงฟางหลีกลับดูน่าเกลียดขึ้นมาแทน

เมื่อครู่เขาเพิ่งคิดว่าท่าทีที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์มีต่อพี่สามกำลังจะเปลี่ยนไป เกรงว่านางคงจะรู้แจ้งแล้วกระมัง

ยังมิทันที่เขาจะคิดอันใดขึ้นมา กลับได้ยินนางพ่นคำพูดที่ไร้ยางอายเช่นนี้ออกมาเสียได้

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้สนใจในตัวนางนัก แต่นางเป็นคนของจวนท่านอ๋องเจ็ด ทั้งยังมีตำแหน่งเป็นถึงพระชายาเจ็ดเช่นนี้ กลับมาเอ่ยถามเรื่องไร้สาระกับท่านอ๋องสามเช่นนี้ได้ นางไม่เห็นหัวเขาเลยหรืออย่างไร?

ตงฟางหลีพลางเอ่ยออกมาเสียงดังด้วยท่าทีเย็นชา พระองค์หาได้มองไปที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่ ก่อนจะหันไปสั่งลงโทษนางด้วยท่าทีไร้คลื่นลมใด ๆ "พระชายาบุกเข้าไปในจวนท่านอ๋องสามโดยมิได้รับอนุญาต จนก่อให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นมาเช่นนี้ ฉะนั้นแล้วบทลงโทษจักเป็นไปตามที่ท่านอ๋องสามเป็นคนกำหนด โบยสามสิบไม้ห้ามให้หมอหลวงทำการรักษา”

หน้าผากของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันกระตุกขึ้นมาสองครั้ง

เมื่อครู่นางรู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดที่เจ้าของร่างเดิมเอาแต่พูดพร่ำออกมายิ่งนัก จึงได้เอ่ยถามคำถามกับท่านอ๋องสามไปโดยไม่ทันคิดถึงจิตใจตงฟางหลีเช่นนี้

นี่มิใช่ว่านางกำลังสวมหมวกเขียวให้กับตงฟางหลีหรือ

บุรุษผู้นี้ ยังฉวยโอกาสนี้ในการลงโทษนางอีกด้วย

นางมิคิดเลยว่าท่าทีภายนอกที่ดูอบอุ่นราวกับเทพเซียน แต่กลับมีนิสัยใจดำอำมหิตและชอบล้างแค้นเช่นนี้ได้

“ท่านอ๋องเจ็ดเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงเงยหน้าขึ้นไปมองดูเขา

ใบหน้าของตงฟางหลีพลันมีแต่ความเฉยเมย มิมีอารมณ์ใดปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา

คอของนางรู้สึกแห้งผาดยิ่งนัก ในที่สุดนางก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา "ขออภัยเพคะ"

น้ำเสียงที่แผ่วเบา เสมือนกับนางหาได้ขยับริมฝีปากเพื่อเอื้อยเอ่ยออกมาไม่

ทว่า ตงฟางหลีกลับได้ยิน ทั้งยังนึกไม่ถึงอีกด้วยว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์จักมาขอโทษตนเองเช่นนี้ เขาจึงชะงักไปเล็กน้อย พร้อมทั้งเอ่ยวาจาเจือไปด้วยท่าทีเยาะเย้ยออกมาว่า “ในเมื่อเรื่องราวในวันนี้ได้รับการคลี่คลายแล้ว กระหม่อมเองร่างกายรู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าใดนัก เสด็จพี่สามเสด็จกลับไปก่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ”

พูดจบ ตงฟางหลีพลันหันกายจากไปในทันที

ท่านอ๋องสามที่ยืนมองดูฉินเหยี่ยนเย่ว์เป็นเวลานานนั้น เขาหาได้เห็นสายตาที่เจือไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ของฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่มีต่อเขาไม่

กลับกัน แววตาของนางกลับฉายไปด้วยความรังเกียจในตัวเขามากมาย

“ท่านอ๋องสามมิจำเป็นต้องมองหม่อมฉันแล้วเพคะ คนผู้หนึ่งมิอาจตาบอดไปได้ตลอดชีวิต” ฉินเหยี่ยนเย่ว์แย้มยิ้มยิงฟันของตนเองออกมา “บทลงโทษโบยสามสิบไม้ในวันนี้ หม่อมฉันจักคืนให้ฉินเสวี่ยเย่ว์เป็นพันเท่าอย่างแน่นอนเพคะ"
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Suamporn Jeep
มีแต่ความคิด ไม่มีบทพูดกันน้อยมาก ทำให้เรื่องเดินไม่สนุก
goodnovel comment avatar
Chatree Sedakum
ขอบคุณครับ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0004

    สีหน้าของท่านอ๋องสามพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเองก็คร้านที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป จึงได้ก้าวเดินออกไปด้วยท่าทีฉุนเฉียวในทันที ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่หลับตาลง ก่อนจะแหงนหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าพร้อมทั้งถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกลมหายใจที่ถูกปล่อยออกมานั้น พลันกลายเป็นไอหมอกสีขาวขุ่นในทันที พลางจางหายไปในอากาศอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-23
  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0005

    ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันขมวดคิ้วลงเล็กน้อย ก่อนจะดึงสติของตนเองกลับคืนมา นอนคว่ำตัวลงพร้อมทั้งห่มผ้าคลุมตัว แสร้งว่าตนเองกำลังหลับอยู่ ตั้งสติกลับคืนมา พร้อมด้วยประตูห้อง ที่ถูกคนผู้หนึ่งเตะออกพลันพัดพาลมหนาวให้เข้ามาในทันที ทำให้ห้องที่เย็นอยู่แล้วนั้น ทำเอาอุณหภูมิลดลงไปอีกสองสามองศา“นางช่างโชคดีเสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-23
  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0006

    สีหน้าของเฟ่ยชุ่ยมีความซับซ้อน “พระนาง ท่านอย่าทรงกริ้วเลยเพคะ หู่พั่วนางมิได้มีเจตนา นางก็แค่ปากเสียเท่านั้นเพคะ...”“ไม่ต้องพูดแล้ว จะดีหรือเลวข้าสามารถแยกแยะได้ คนเช่นนั้น ข้าไม่ต้องการ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์หลุบตาลง “นำยามาให้ข้าเถิด”“บ่าวช่วยทาให้เพคะ” เฟ่ยชุ่ยถอนหายใจ รู้สึกเคืองใจเป็นอย่างยิ่ง “เด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-23
  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0007

    หงเย้าคิดไม่ถึงว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์จะปรากฏตัวขึ้น จึงเก็บแส้ เอ่ยอย่างฝืนยิ้ม “ที่แท้ก็เป็นพระชายา อากาศหนาวเช่นนี้ เหตุใดจึงต้องรบกวนให้ท่านเสด็จออกมาด้วยพระองค์เอง? พระนางโปรดวางใจเพคะ สาวใช้ของท่านไม่เชื่อฟัง บ่าวได้ช่วยท่านสั่งสอนนางไปแล้วเรียบร้อยแล้วเพคะ”“ขอบใจในความหวังดีของเจ้า” ฉินเหยี่ยนเย่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-23
  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0008

    พวกองครักษ์สีหน้าค่อนข้างแย่เรื่องราวถูกพระชายาทรงกล่าวออกมาเช่นนี้ หากเรื่องใหญ่ขึ้นมา พวกเขาทั้งหลายคงมีจุดจบที่ไม่ดีนัก ยังจะพลอยเดือดร้อนไปถึงท่านอ๋องเจ็ดอีกด้วยพวกเขาสบตากันแวบหนึ่ง เอ่ยแสดงความขอโทษ “พระชายา ได้โปรดอย่าทรงกริ้วเลยพ่ะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมยอมทำตามคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ”พวกเขาหยิบไม้โบย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-23
  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0009

    “เหตุใดจึงโบยหงเย้า?” เขาเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง“นางโบยสาวใช้ของหม่อมฉัน เหตุใดหม่อมฉันจึงโบยเขามิได้เพคะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์นั่งลง รินชาร้อนถ้วยหนึ่ง ใช้เล็บค่อย ๆ หยิบก้านชาออกมา “เพื่อสาวใช้คนหนึ่ง ท่านผู้เป็นท่านอ๋องถึงกับมาทวงความยุติธรรมด้วยองค์เองหรือเพคะ? ช่างน่าซาบซึ้งพระทัยยิ่งนัก”ตงฟางหลีได้ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-23
  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0010

    “ฉินเหยี่ยนเย่ว์ มีเพียงเจ้า ที่ไม่คู่ควรที่จะเอ่ยถึงชื่อนั้น” น้ำเสียงของตงฟางหลีเย็นชาเขาบีบคอแน่นขึ้น สีหน้าของฉินเหยี่ยนเย่ว์เปลี่ยนเป็นสีม่วงเนื่องจากหายใจไม่ออกฉินเหยี่ยนเย่ว์หายใจไม่ออก พวกเขาอยู่ใกล้กันมาก จนสามารถมองเห็นใบหน้าของเขา ดวงตาของเขาได้อย่างชัดเจน เธอมองความโศกเศร้าจากนัยน์ตาค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-23
  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0011

    ภายในเรือนโยวหลานเฟ่ยชุ่ยที่กำลังเก็บเศษซากแจกันที่แตกหักอยู่ด้วยหยาดน้ำตาคลอเบ้า พร้อมทั้งไหล่ทั้งสองข้างที่กำลังสั่นเทาเบา ๆ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่นอนบนเตียงนั้น ได้แต่มองท่าทีผิดหวังของเฟ่ยชุ่ย ก่อนจะถอนหายใจออกมา “เฟ่ยชุ่ย ข้ามิเป็นอันใด เจ้าหยุดร้องไห้ได้แล้ว”เฟ่ยชุ่ยพลันซืดน้ำมูกเข้าไป “เดิมที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-23

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0923

    หากมิใช่เพราะนางยังสามารถสัมผัสได้ถึงชีพจรที่เต้นอย่างอ่อนแรง ก็แทบจะคิดว่าพระสนมอวิ๋นตายไปแล้วต้องเกิดปัญหาขึ้นที่ไหนสักที่!ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำมือแน่น สมองหมุนวนอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกำจัดกู่นั้น นางได้ตรวจร่างกายของพระสนมอวิ๋นแล้ว นอกเสียจากถูกพิษกู่กัดกร่อนจนทำให้รู้สึกเจ็บปวดร่างกาย แล้ว ก็มีเพี

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0922

    ฉินเหยี่ยนเย่ว์ถึงกับสะดุ้งตกใจจะเป็นไปได้อย่างไร?พระสนมอวิ๋นจะไม่หายใจได้อย่างไร!หลังจากขับแมลงพิษกู่ออกมา แม้ชีพจรของพระสนมอวิ๋นจะอ่อนแรง หากแต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิตอันตรายถึงแก่ชีวิตที่แท้จริงคือขั้นตอนต่อไปต่างหากนางสาวเท้าเข้าไปหยุดที่ข้างกายพระสนมอวิ๋นอย่างรวดเร็ว นิ้วก็สัมผัสชีพจรของพระสน

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0921

    “จับได้แล้วหรือเพคะ?” ป้าฉาไม่อยากจะเชื่อ“อืม” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สูดลมหยใจเข้าลึกจับได้แล้ว!ในลัทธิเต๋า มีคำพูดที่ว่าโคจรรอบเสี่ยวโจวเทียนและโคจรรอบต้าโจวเทียนสิ่งที่เรียกว่าโคจรรอบต้าโจวเทียนก็คือการโคจรพลังชี่ไหลไปรอบ ๆ ร่างกายหนึ่งรอบใหญ่โคจรรอบเสี่ยวโจวเทียน คือพลังชี่ออกจากจุดตันเถียนล่าง ผ่า

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0920

    อุณหภูมิของยากำลังพอดีพระสนมอวิ๋นถอดอาภรณ์ออกอย่างช้า ๆ การถอดอาภรณ์ต่อหน้าลูกสะใภ้ ทำเอานางรู้สึกเขินอายเอามาก ๆ จึงใช้มือบังเอาไว้ ก่อนจะเดินเข้าไปด้วยความขัดเขิน“เสด็จแม่ นี่เป็นชามสุดท้ายแล้วเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยกยาที่ทั้งดำทั้งขมชามหนึ่งเข้ามา พลางพูดกล่อม “สามวันนี้ แมลงกู่พิษมีร่องรอยกา

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0919

    บางที ใช้ปรสิตมาอธิบายจะดูสมเหตุสมผลกว่าเมื่อเวลาผ่านไปนานวันเข้า แมลงพิษกู่ก็จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้การเต้นของหัวใจได้รับผลกระทบ และส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนโลหิต และอวัยวะภายในส่วนท้องจะได้รับผลกระทบเป็นที่แรก และจะค่อย ๆ กระจายไปทั่วร่างกาย ภายใต้ผลกระทบของการอักเสบและเลือดไหลเวียนไม่สะดวก

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0918

    พระสนมอวิ๋นได้ฟังคำพูดของนาง พลันชะงักไปชั่วขณะ “แมลงพิษกู่นั้น เจ้าสามารถบรรเทาได้หรือ?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์พยักหน้าแมลงพิษกู่ชนิดนี้มีชื่อว่ากู่ลวงใจตอนที่นางพลิกอ่านหนังสือในตอนนั้นเคยเห็นมาก่อนในตอนนั้นนางไม่เชื่อการมีอยู่ของแมลงพิษกู่ และรู้สึกว่าขั้นตอนที่แมลงพิษกู่สร้างอาการบาดเจ็บให้คนนั้นไม่

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0917

    “มีเบาะแส ทว่าไม่ค่อยแม่นยำเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูด “ชีพจรของเสด็จแม่พิกลนัก ต่อให้เป็นชีพจรช้าก็มิได้ช้าปานนี้ ชีพจรเกี่ยวพันธ์กับการเต้นของหัวใจ หรืออาจพูดได้ว่า หัวใจของเสด็จแม่ได้รับบาดเจ็บ”“นี่ เป็นไปไม่ได้กระมัง” ป้าฉาพูดขึ้น “พระสนมไม่เคยบอกว่ามีอาการเจ็บที่หัวใจมาก่อน”“ข้าก็คิดว่าเป็นไปไม่

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0916

    “พอแล้ว ไม่ต้องอธิบายหรอกเพคะ” ป้าฉาเดินเข้ามา นำนมแกะที่เพิ่งรีดเมื่อครู่ออกมาตั้งไฟให้เดือดไฟจากเตาเผาแรงมาก ไม่นานนมแกะก็เดือดแล้วนางใช้ช้อนตักผิวชั้นบนนมออก แล้วตักนมแกะต้มสุกลงในถ้วย “พวกพระองค์หนุ่มสาวกะหนุงกะหนิงกันเป็นเรื่องปกติมาก ห่างกันเกินไปก็ไม่ดี พระองค์ไปพักผ่อนเถิด บ่าวจะเอาไปส่งให

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 0915

    ตงฟางหลีเป็นพระโอรส หากไม่ได้กระทำผิดใหญ่หลวง แม้ว่าเขาจะถูกจับได้ มากที่สุดก็แค่ถูกตำหนิทว่าหลี่เวยหลิงมิใช่เช่นนั้น“เจ้าทำขนาดนี้ ไม่กลัวถูกบั่นคอหรือ? จะปีนข้ามกำแพงก็ช่างเถอะ ยังคิดจะปกปิดความจริงอีก ช่างกล้าหาญชาญชัยนัก” นางพูดว่า “พรุ่งนี้เจ้าอย่าพาตงฟางหลีมาอีก คำขู่ของเขา เจ้าก็อย่าไปฟังเช

DMCA.com Protection Status