หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้มีสามชะตาในคราเดียว

last updateLast Updated : 2024-11-27
By:  หิมะที่ปลิดปลิว  Updated just now
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
Not enough ratings
81Chapters
11views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
Leave your review on App

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้ว ทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย

View More

Latest chapter

Free Preview

1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน

1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผ

Interesting books of the same period

Comments

No Comments
81 Chapters

1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน

1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผ
Read more

2 : ทวงหนี้     

2 : ทวงหนี้ โรงหมออานฉวน “คุณหนูหลิน” ผู้ดูแลลู่รีบเข้ามาทักทายหลินซือเยว่ด้วยสีหน้าเป็นมิตร “ข้ามาทวงหนี้” นางไม่อ้อมค้อมสักคำ ทำเอาผู้ดูแลลู่ถึงกับผงะถอยหลังไปเล็กน้อย ท่าทางเย็นชาทว่าสูงส่งของหลินซือเยว่ ไม่เหมือนคนกำลังเอ่ยวาจาทวงหนี้แม้แต่น้อย “คุณหนูหลินเหตุใดถึงรีบร้อนมาทวงเงินแล้วล่ะ ไม่ใช่ว่าตกลงกันไว้ว่าอีกสองเดือนหรืออย่างไร” เห็นผู้ดูแลลู่มีท่าทีสงสัย เผิงฉือจึงเอ่ยแทนผู้เป็นนาย “ผู้ดูแลลู่ความจริงแล้วคุณหนูมีเหตุจำเป็น ต้องได้ใช้เงินอย่างเร่งด่วน ท่านพ่อของคุณหนูส่งคนมารับกลับตระกูลหลินที่อยู่ในเมืองหลวง แต่รถม้าที่มารับกลับล้อหักเสียหาย คนขับรถม้านั้นไม่มีเงินติดตัวมาด้วย เกรงว่าทางโน้นจะลืมคิดเรื่องพวกนี้ไป คุณหนูเลยจำใจมาทวงเงินค่าสมุนไพร ที่โรงหมอของท่านติดค้างเอาไว้ หวังว่าผู้ดูแลลู่จะเห็นใจสตรีสองคนนายบ่าว ที่ต้องเดินทางไกลไปถึงเมืองหลวงโน่น” ผู้ดูแลลู่ได้ยินแล้วถึงกับชะงักงันไปอึดใจหนึ่ง “เช่นนี้หรอกรึ” “สรุปแล้วเจ้ามีเงินคืนข้าหรือไม่” หลินซือเยว่รู้สึกเบื่อหน่ายเล็กน้อย “มีขอรับค
Read more

3 : เกิดเรื่องที่ศาลาพักม้า   

3 : เกิดเรื่องที่ศาลาพักม้า หลินซือเยว่ในอดีตกาลนั้น มุ่งมั่นช่วยเหลือผู้คน เปิดดวงเนตรทิพย์สื่อสารกับเหล่าดวงวิญญาณ ตรงกันข้ามกับนางในตอนนี้ ใช้ชีวิตด้วยความระแวดระวัง ไม่ยื่นมือช่วยเหลือผู้อื่นเกินความจำเป็น นั่นเพราะนางมาอยู่ในร่างนี้ในวัยเด็ก ที่มีอายุเพียงห้าปีเท่านั้น แต่ละวันจึงผ่านไปอย่างเชื่องช้า ไร้คนมีฝีมือข้างกายทรัพย์สินเงินทองนั้นยิ่งไม่มี กว่านางจะรอให้ตัวเองเติบโต มีกำลังพอจะลงจากเขาไปรักษาผู้คนได้ ก็ยามเมื่ออายุสิบปีเสียก่อน ยามนี้นางอายุสิบหกปี เคยไปไกลสุดแค่อำเภอฝู การเดินทางกลับตระกูลหลินคราวนี้ นับว่าเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของนางในโลกนี้ก็ว่าได้ จะว่าไปแล้วพ่อแม่พี่ชายหรือคนตระกูลหลินหน้าตาเป็นอย่างไรนั้น นางนึกไม่ออกเลยจริง ๆ การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น เมื่อใดที่หลินซือเยว่บอกให้หยุด เส้นทางข้างหน้ามักจะมีปัญหาอยู่เสมอ ในคราแรกหลินอ้ายก็โต้แย้งอยู่บ้าง ต่อมาถึงรู้สิ่งใดที่คุณหนูรองผู้นี้เอ่ยออกมา มักกลายเป็นเรื่องจริงในภายหลัง โดยเฉพาะหลังออกจากอำเภอฝูได้วันเดียว ลมหนาวมาเยือนอย่างกะทันหัน ตกดึกหิมะตกหนักในทันที เรียกได้ว่าปีนี้อ
Read more

4 : ช่วยต่งฮูหยินทำคลอด

4 : ช่วยต่งฮูหยินทำคลอด เสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บ ดังแข่งกับเสียงอาวุธกระทบกันในความมืด สร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้คน ที่อยู่บริเวณรอบข้างเป็นอย่างยิ่ง ทว่าพวกเขากลับไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้ ท่ามกลางหิมะที่ตกโปรยปราย หนทางยามค่ำคืนนั้น ไม่เหลือทางรอดให้พวกเขา ภายในกระโจมหลินซือเยว่ตรวจดูต่งฮูหยินแล้วชะงักไป นางหันไปทางแม่นมฉี “ฮูหยินของเจ้าตั้งท้องได้กี่เดือนแล้ว” แม่นมฉีลอบกลืนน้ำลายเบา ๆ “เจ็ดเดือนเจ้าค่ะ” “เจ็ดเดือน ! คุณหนูเจ้าคะ นี่น้ำคร่ำแตกแล้ว” เผิงฉือเคยคลอดลูกมาก่อน ย่อมรู้ว่าน้ำคร่ำแตกนั้นหมายความว่าจำเป็นต้องคลอดทารกออกมา แต่ว่าอายุครรภ์เพียงเจ็ดเดือนนั้น ค่อนข้างอันตรายไม่น้อย รีบหันไปทางแม่นมฉี แล้วขึงสายตามองนางตรง ๆ “นี่เจ้าน่ะ หากคุณหนูของข้าช่วยทำคลอดให้ ไม่ว่าคนจะเป็นหรือตาย เจ้าห้ามโทษคุณหนูของข้าเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเจ้าก็พาฮูหยินของเจ้า ออกจากกระโจมของคุณหนูข้าไปเสีย” “แม่นาง ได้โปรด...ช่วยลูกข้าด้วย” ต่งฮูหยินฝืนความเจ็บเอ่ยออกมา สายตาจดจ้องไปยังหลินซือเยว่ เหมือนรู้ว่านางคือคนที่จะชี้ชะตาของตัวเองกับลูกได้
Read more

5 : เหตุใดไม่ให้คุณหนูของข้าเข้าจวน  

5 : เหตุใดไม่ให้คุณหนูของข้าเข้าจวน “คุณหนูเหตุใดไม่ยอมบอกชื่อแซ่แก่พวกเขาล่ะเจ้าคะ ข้าดูแล้วพวกเขาคงมีฐานะใหญ่โตอยู่ไม่น้อย วันข้างหน้าอาจได้พึ่งพากันก็เป็นได้” เผิงฉือรินน้ำชาใส่ถ้วยเลื่อนให้ผู้เป็นนาย “เหตุใดป้าเผิงถึงอยากพึ่งพาคนแปลกหน้าล่ะ” เผิงฉือพูดไม่ออก นั่นสินะ แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยอันใด หลินซือเยว่กลับเอ่ยขึ้นเสียก่อน “หากมีวาสนาต่อกันจริง วันข้างหน้าก็ต้องได้เจอกันอีก แต่หากไร้วาสนารู้จักชื่อแซ่ไปก็เปล่าประโยชน์” “จริงของคุณหนูเจ้าค่ะ ไม่รู้ว่าคุณหนูไปถึงตระกูลหลินแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง” หลินซือเยว่ยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบ นางไม่อาจล่วงรู้ชะตาของตนเองได้ นี่คือสิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยน ยามได้ล่วงรู้ความลับของสวรรค์ “ดีหรือไม่ดีแล้วอย่างไรเล่า” นางเอ่ยคล้ายไม่แยแสในชีวิตวันข้างหน้าของตนเอง เผิงฉือได้แต่ลอบพรูลมหายใจออกมาเบา ๆ คุณหนูของนางช่างเย็นชาเสียจริง เมืองหลวง จวนตระกูลหลิน หิมะยังคงโปรยปรายลงมาดั่งสายฝน รถม้าของหลินอ้ายถูกขวางไว้ตรงหน้าประตูด้านข้าง เสียงคนคุยกันด้านนอกรถม้า ทำให้หลินซือเย
Read more

6 : ตระกูลหลิน    

6 : ตระกูลหลิน ห้องโถงใหญ่จวนตระกูลหลิน หญิงชราในวัยเจ็ดสิบห้าปี มวยผมต่ำไว้ด้านหลัง ปักด้วยปิ่นทองรูปหงส์หนึ่งอัน นางคือฮูหยินเฒ่า เจียงลี่เฟย นางได้เรียกลูกชายทั้งสองกับเหล่าลูกสะใภ้เข้ามาหารือเรื่องสำคัญ นายท่านใหญ่หลินเฉินนั่งอยู่ฝั่งขวา พร้อมด้วยหวางฮูหยิน หวางหลี่จิ้ง ฝั่งซ้ายเป็นนายท่านรองหลินเต๋อและเถียนฮูหยิน เถียนจินเยว่ “ข้าให้นางไปอยู่เรือนเฟยเฟิ่ง พวกเจ้าเห็นชอบว่าอย่างไร” ฮูหยินเฒ่านั่งอยู่ตรงกลางห้องโถง หันไปมองหน้าลูกชายทั้งสองด้วยความลำบากใจ หลินเฉินผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ เขาหันไปมองน้องชายราวกับประเมินความรู้สึกของอีกฝ่ายไปด้วย “น้องรองเจ้าว่าอย่างไร” หลินเต๋อเป็นน้องชายที่เชื่อฟังพี่ชายมาโดยตลอด เขาไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยแย้งอันใดออกมา เป็นเถียนฮูหยินที่เอ่ยขึ้น “ท่านพี่นางเป็นลูกสาวของเรานะ” เอ่ยแล้วกลั้นน้ำตาที่เอ่ยคลอเบ้าไม่อยู่ “นางมีดวงชะตาไม่ดี ทำให้ตระกูลหลินต้องตกต่ำ ไม่อาจให้นางเข้ามาอยู่ในจวนตระกูลหลินได้” ฮูหยินเฒ่าปรามลูกสะใภ้รองด้วยสายตาดุดัน “ท่านแม่ไม่ใช่ว่าข้าไม่เข้าใจ แต่ที่ท่
Read more

7 : ข้าพิการนางปัญญาอ่อน

7 : ข้าพิการนางปัญญาอ่อน ตระกูลโจว มีบุรุษรูปร่างผ่ายผอมทว่ายังมองเห็นเค้าโครงความหล่อเหลา กำลังนอนลืมตาอยู่บนเตียง ด้านข้างมีคนสนิทอย่างชุยเหลียง คอยรายงานข่าวคราวให้เขาฟัง “เจ้าบอกว่าตระกูลหลินไม่ยอมรับนางเข้าจวนอย่างนั้นรึ” “ขอรับคุณชายใหญ่ พวกเขาอ้างว่าดวงชะตาของนางไม่เป็นมงคล มีผลให้ตระกูลหลินตกต่ำหรือล่มจมลงได้ จึงให้นางพักอาศัยอยู่นอกจวน ห่างจากจวนใหญ่ไปหลายตรอกอยู่เหมือนกัน” “นางคงเหมือนกับข้าสินะ เมื่อไร้ค่าก็หมดประโยชน์” “ตระกูลหลินทำไม่ถูก เหตุใดถึงได้มอบสตรีปัญญาอ่อนผู้นั้นมาแต่งงานแทน หากท่านไม่ให้ข้าไปตามสืบก็คงไม่รู้ ว่าตอนเด็กนางได้รับอุบัติเหตุจนมีอาการปัญญาอ่อนขึ้น” ชุยเหลียงกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ นี่มันหยามหน้ากันเกินไปแล้ว “ข้าพิการนางปัญญาอ่อน เหตุใดจะไม่เหมาะสมกันเล่า” “คุณชายใหญ่ !” “งานแต่งจะยังเกิดขึ้นหรือไม่ก็ไม่มีผู้ใดบอกได้ ชุยเหลียงเจ้าอย่าได้กังวลไปนักเลย ไม่ใช่ว่าวันนี้ท่านหมอเจินต้องเข้ามาดูอาการของข้าหรือ” “ขอรับ สักพักคงมาถึงแล้ว คุณชายใหญ่ต้องการย้ายไป
Read more

8 : เนรเทศทั้งตระกูล  

8 : เนรเทศทั้งตระกูล หลายวันต่อมา เกิดเหตุร้ายขึ้นที่ประตูวังหลวง มีคนร้ายจำนวนหนึ่งบุกเข้าไปภายในวังหลัง ทำร้ายพระสนมคนโปรดของฮ่องเต้จนเกือบสูญเสียเด็กในครรภ์ หลังจับกุมคนร้ายได้บางส่วน พวกมันต่างซัดทอดไปยังที่ปรึกษาเว่ยเว่ย เป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ หลินเฉินในยามนั้นปฏิเสธหัวเด็ดตีนขาด ว่าเขาไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ แต่จดหมายที่อยู่บนตัวของคนร้าย กลับเป็นลายมือของเขาอย่างชัดเจน ฮ่องเต้ทรงกริ้วเป็นอย่างมาก สั่งปลดหลินเฉินออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาเว่ยเว่ย และลงโทษคนตระกูลหลินทั้งหมด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ขุนนางทั้งหลาย มีราชโองการให้ยึดทรัพย์สินของตระกูลหลินทั้งหมด และเนรเทศคนตระกูลหลินออกไปยังชายแดน ห้ามกลับเข้ามาเหยียบเมืองหลวงอีกตลอดชีวิต หลังรับราชโองการ คนตระกูลหลินถึงกับล้มทั้งยืน ไม่ทันได้เก็บข้าวของอันใด ทหารก็บุกเข้ามายึดทรัพย์สินและจับกุมทุกคนไปห้องขัง เสียงร้องไห้ของสตรีบาดลึกเข้าไปในความรู้สึกของบุรุษ พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อน ว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น คนทั้งตระกูลสามสิบกว่าชีวิต ถูกขังรวมไว้ด้วยกัน ไม่แบ่งแยกชายหญิงแต่อย่าง
Read more

9 : พบหน้าในคุก      

9 : พบหน้าในคุก เมื่อควบม้ามาถึงเรือนเฟยเฟิ่ง หิมะที่หยุดตกไปก่อนหน้ากลับโปรยปรายลงมาอีกหน มีทหารมารออยู่ภายในห้องโถง เพื่อรอนางกลับมาจริง ๆ เผิงฉือถูกสั่งให้เตรียมห่อผ้าเอาไว้ล่วงหน้า หลินซือเยว่สั่งให้นางเย็บห่อผ้าแบบสมัยใหม่ เป็นเป้ผ้าขนาดใหญ่ใส่ของได้เยอะ แต่ที่นางคิดไม่ถึงคือเผิงฉือกลับเตรียมเป้ของตัวเองเอาไว้ด้วย “คุณหนูไปไหนข้าไปด้วยเจ้าคะ” “ป้าเผิง การถูกเนรเทศไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรข้าก็ไม่อาจรู้ได้” “ข้าไม่กลัว ข้าเสียครอบครัวไปหมดแล้ว ที่มีชีวิตอยู่มาได้ทุกวันนี้ ก็เพราะคุณหนูนะเจ้าคะ หากไม่มีคุณหนูข้าเองก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม” เผิงฉือตัดสินใจอย่างแน่วแน่ “ป้าเผิงท่านคิดดีแล้วหรือ” “ข้าคิดดีแล้วเจ้าค่ะ” หลินซือเยว่ไม่อาจฝืนใจผู้อื่นได้ นางหันไปมองรอบกาย “แล้วหลินอ้ายล่ะ” “หลินอ้ายมีสัญญาซื้อขายตัวกับตระกูลหลิน ยังไงก็ต้องถูกเนรเทศไปกับตระกูลหลินเจ้าค่ะ” “เช่นนั้นก็ไปพร้อมกันนี่แหละ” เสื้อกันหนาวอย่างอุ่นถูกเตรียมพร้อมเอาไว้ ผ้าห่มอย่าหนากับของใช้บางอ
Read more

10 : ออกเดินทางท่ามกลางหิมะ

10 : ออกเดินทางท่ามกลางหิมะ จวนแม่ทัพโจว หลังจากหลินซือเยว่จากไปแล้ว ช่วงดึกท่านหมอเจินได้เดินทางกลับมาพอดี เขาได้ตรวจดูอาการของโจวจื่อถง ปรากฏว่าร่างกายของชายหนุ่มดีขึ้นถึงสามส่วน ชุยเหลียงรีบนำกระดาษที่หลินซือเยว่ให้ไว้มอบให้เขาตรวจดู หลังจากนั่งพิจารณาอยู่ครู่ใหญ่ ท่านหมอเจินดวงตาฉายแววยินดีออกมา “นี่เป็นหมอเทวดาท่านไหนกัน” “ไม่ใช่หมอเทวดาที่ไหนหรอก เป็นแม่นางน้อยผู้หนึ่งเท่านั้น” “แล้วนางอยู่ที่ไหน ข้าต้องการหารือเรื่องรักษากับนาง” ชุยเหลียง “ท่านหมอเจินนี่หมายความว่า” “เจ้าโง่นัก อาการของคุณชายใหญ่ดีขึ้นหลังนางฝังเข็มให้ นั่นหมายความว่านางรักษาได้ผล แล้วรูปแบบการฝังเข็มเช่นนี้ มหัศจรรย์ยิ่งนัก ข้าเองก็ไม่เคยรู้มาก่อน ว่าสามารถฝังเข็มรักษาแบบนี้ได้” ชุยเหลียงได้รับคำยืนยันเช่นนี้ เกิดนึกเสียดายในโอกาสรักษาของคุณชายใหญ่ จึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ท่านหมอเจินได้รับรู้ หลังฟังจบท่านหมอเจินมีเพียงคำพูดเดียว คือน่าเสียดายจริง ๆ แต่ว่าเขายังมีความหวังอยู่ เพราะหลินซือเยว่ได้แนะนำวิธีการรักษาไว้อย่างละเอียด เพ
Read more
DMCA.com Protection Status