"โจวหว่านถิง เจ้ามันสตรีร้อยเล่ห์ข้าคิดถูกที่หย่ากับเจ้า" ซ่างกวนหลิวหยางเอ่ยแก่สตรีที่เพิ่งว่ายน้ำเข้าฝั่งมานอนแผ่หลา โจวหว่านถิงสำลักน้ำลุกขึ้นมา พอลุกขึ้นหันหน้ามาก็เห็นแต่คนแต่งชุดโบราณเต็มไปหมด ซ่างกวนหลิวหยางนั่งลง ใช้มือที่หนาบีบคางนางก่อนจะเอ่ยลอดไรฟัน "ข้าจะแต่งกับโจวลิ่วผิงน้องสาวเจ้า แม้ว่านางจะเป็นเพียงบุตรอนุก็ยังดีกว่าสตรีร้ายกาจเช่นเจ้า เทียบกับน้องสาวเจ้าๆนับเป็นตัวอะไร" โจวหว่านถิงที่ลำดับความจำเรียบร้อยก็แกะมือเขาออก มองหน้าคนตัวโตอย่างรังเกียจ "ท่านพูดว่าจะหย่ามากี่ครั้งแล้ว ลูกผู้ชายคำพูดมีค่าดั่งทอง ทำให้จริงสักที ถ้างานมากนักข้าช่วยท่านฝนหมึกก็ได้นะ ข้าเขียนหนังสือเป็นท่านแค่ประทับตราลงนามก็พอ เอาล่ะข้าจะกลับไปเขียนหนังสือหย่า ท่านก็รีบกลับไปรับรองใบหย่าด้วยล่ะ ซ่างกวนหลิวหยาง"
View Moreเช้าแล้วเขาอาบน้ำให้ แต่งตัวให้จากนั้นก็อุ้มนางเดินผ่านหน้าเรือนใหญ่ ไม่สนใจสายตาแปลกใจของคนในบ้านรวมถึงบิดาของเขา ปกติเหลียนจางหมิ่นไม่เข้าใกล้สตรี"หมิ่นเอ๋อร์ แม่หนูหลี่เป็นอะไรไปเจ้าจึงต้องอุ้มนาง เจ้าทำอย่างนี้นางอาจเสียหายได้นะ วางนางลงซะ""อาเหยียนนางเดินไม่ไหวขอรับท่านพ่อ นางไม่มีแรง""เหตุใดกันนางไม่สบายหรือ งั้นให้คนไปตามหมอมาหรือไม่""ท่านพ่อ ที่นางหมดแรงเพราะข้ารักนางทั้งคืนต่างหาก อ้อท่านอย่าลืมไปแก้บนที่บนไว้ด้วยล่ะว่าถ้าข้ามีเมียท่าจะเดินสามก้าวกราบไหว้หนึ่งครั้ง ตอนนี้ข้ามีเมียแล้ว เมียจ๋าข้าจะพาเจ้ากลับบ้านนะ ท่านพ่อตาคงเป็นห่วงเจ้าแล้ว"เหลียนป๋อคุณหนักใจกับบุตรชายจริงๆ แต่ว่าเขาว่าอะไรนะเด็กแซ่หลี่คนนี้กับบุตรชายเขา ฮ่าๆๆในที่สุดตระกูลเหลียนก็มีหวังสักที คุยสิต้องไปคุยเรื่องแต่งงานบุตรชายของเขาๆอยากมีหลานเต็มทีแล้วเหลียนจางหมิ่นเห็นอาการบิดาก็เบ้ปากดีใจที่เขามีเมียถึงเพียงนี้เชียว ท่านพ่อนะท่านพ่อ ก่อนจะได้ยินเสียงบิดาเอ่ยเสียงจริงจัง"อีกสองเดือนจะถึงฤดูกาลล่าสัตว์ หมิ่นเอ๋อร์ ฝ่าบาทจะเสด็จผิงอันเพื่อใช้ภูเขาเป็นลานล่าสัตว์ เจ้าอย่าลืมไปเตรียมตัว ความปลอดภัยฝ่าบาท
เหลียนจางหมิ่นจูบนางอีกรอบจนพอใจจึงละจากปากอวบอิ่มไต่ลงมาตามลำคอระหง จนเจอไหปลาร้าเขาฝังจมูกสูดดมกลิ่นกายสาว ก่อนจะมาถึงเต้านมอวบอัดที่ดึงดูดเขาตั้งแต่ที่นางปีนลงอ่าง ลิ้นร้อนชื้นแตะเบาตรงปลายถันราวกับหยอกล้อกลั่นแกล้ง ทำให้หลี่ไฉ่เหยียนถึงกับแอ่นยอดอกสู้ปลายลิ้นของเขา"ท่านอาเหลียนปล่อยข้าเถอะ อื้อ ท่านอาเหลียนเจ้าคะ ปล่อยอาเหยียนเถอะนะเจ้าคะ อื้อท่านอาอย่าดูดสิเจ้าคะข้าเสียวนะ อ่า""รู้จักอ่อนหวานเอาตัวรอดแล้วหรือแม่ตัวดีของอาหึ ไม่เรียกอาตาแก่แล้วหรือ อืม อาเหยียนเจ้าหวานจริงๆ มาเถอะมาพิสูจน์ว่าอาใช่ชายตัดแขนเสื้อหรือไม่ อาให้เจ้าพิสูจน์คนแรกเลยนะเจ้าจงภูมิใจเถอะ"เหลียนจางหมิ่นพูดจบก็ไต่ลิ้นร้อนลงต่ำไปเรื่อยๆ มือที่ยึดข้อมือสาวน้อยอยู่ปล่อยออก หลี่ไฉ่เหยียนต้องขยุ้มผมเขาเอาไว้ นางเสียวซ่านร้อนไปทั่วตัวเลย เพราะฤทธิ์สุราทำให้คนทั้งคู่ยิ่งมีอารมณ์พิศวาสมากขึ้นลิ้นร้ายตวัดเลียทัวทั้งตัว ปลายลิ้นเขาแหย่เล่นกับสะดือน้อยๆของนาง ทำเอาหลี่ไฉ่เหยียนผวานางเสียวซ่านไปหมดแล้ว คนตัวโตยังไม่ยอมหยุดใบหน้าเลื่อนต่ำลงจนถึงจุดที่ต้องการ แต่คนตัวเล็กเบียดหน้าขาเข้าหากันอยู่ เขาต้องเลื่อนขึ้นมาครอบค
เหลียนจางหมิ่นเดินมาหานางที่กำลังนั่งอยู่กับท่านตาใหญ่ ท่านลุงใหญ่และพี่หญิงของนางหลี่ไฉ่เหยียน เหลียนจางหมิ่นนั่งลงพูดคุยทักทายเป็นกันเอง แต่หลี่ไฉ่เหยียนกลับนั่งหน้างอนางไม่ชอบเหลียนจางหมิ่นคนนี้ เขาดูเสแสร้งไม่มีความจริงใจสักนิด ทำอะไรตามใจตัวเองเสมอ"ท่านลุงหลี่ ท่านพี่เต๋อคังอาหารวันนี้ถูกปากหรือไม่ขอรับ แขกเหรื่อมากมายหากบกพร่องข้าต้องขออภัยด้วยขอรับ""ที่ไหนได้ใต้เท้า แค่นี้ก็ดีมากแล้วขอรับ เสร็จงานแต่งนี้แล้วท่านกับน้องเขยจะกลับเมืองหลวงเลยหรือไม่ขอรับ"หลี่เต๋อคังเอ่ยถามเด็กหนุ่มที่อายุอ่อนกว่าเขาสี่ปี เขาสี่สิบสองแล้วเด็กตรงหน้าอายุย่างสามสิบเก้าแต่ใบหน้ากลับเหมือนเด็กหนุ่มอายุยี่สิบ เฮ้อไม่ต้องทำไร่ไถนา เร่ค้าขายมันดีอย่างนี้นี่เอง"ข้าจะกลับทีหลังนะขอรับ แล้วพวกท่านมาอย่างไรเด๊่ยวข้าให้รถม้าไปส่งนะขอรับ อาซ้อหลี่ท่านจะกลับแล้วใช่หรือไม่""ใต้เท้าอย่ารบกวนเลยเจ้าค่ะ ข้ากลับเองได้ คนแก่บ้านข้างอแงอยากมาด้วยเดี๋ยวรอเขาสักพัก จะได้กลับด้วยกันเจ้าค่ะ อ๊ะ"หลี่ว่านถิงรู้สึกหนักๆที่ต้นแขน หลี่ไฉ่เหยียนซบแขนนาง เสียงอ้อแอ้ๆนางดื่มไปไม่น้อยเลย จนหลี่ต้านต้องดึงหลานสาวมา"เด็กคนนี้
เรือนรับรองสกุลโจว"คุณชาย ตอนนี้มีปัญหาจริงๆแล้วขอรับ ร้านผ้าสกุลเยี่ยของเรากำลังเจอกับปัญหาใหญ่ ไม่ทราบว่าตระกูลถังได้แบบตัดเย็บมาจากที่ใดกันพอทางเราสามารถลอกเลียนแบบได้ สามวันต่อมาเขาก็ออกแบบชุดใหม่ทันที อีกทั้งตอนนี้ยังสามารถผลิตผ้าพิมพ์ลายออกมาได้ด้วย ไม่ต้องอาศัยการปักอย่างเดียวแล้ว นี่เป็นผ้าพิมพ์ลายที่ข้าหาซื้อมาได้หนึ่งผืนขอรับ""อืม ลายละเอียดอ่อนช้อย ดอกไม้กับผีเสื้อเสมือนจริงมาก ผ้าพับนี้สกุลถังขายเทท่าไหร่"เรียนคุณชาย พับนี้สามารถตัดได้สามชุด สกุลถังขายผ้าพับนี้อยู่ที่แปดร้อยตำลึงขอรับ""นับว่าราคาแพงนัก อีกทั้งยังต้องสั่งจอง หาให้เจอว่าคนที่ออกแบบเสื้อผ้าและลายผ้าเหล่านี้เป็นใคร สกุลถังจ่ายมันเท่าไหร่เสนอราคาให้สูงเข้าไว้ ให้มันมาเป็นคนของเรา หากไม่มาภักดีก็กำจัดเสีย อีกอย่างตอนนี้สกุลโจวของข้าก็มีปัญหาเกี่ยวกับสินค้าเช่นกัน""คุณชายข้าน้อยได้ยินว่าทางตระกูลเหลียนมีสินค้าแปลกใหม่มากมาย มีขนมขบเคี้ยว มีลูกพลับแห้งอบน้ำผึ้งอย่างดี อีกทั้งยังมีเหล้าที่หมักจากผลไม้หลายชนิดอีกด้วยข้าน้อยรู้สึกว่าคนที่ค้าขายกับสกุลถังและสกุลเหลียนเหมือนจงใจทำลายสกุลโจวกับสกุลเยี่ยนะขอรับ""
ทั้งสามคนขี่ม้าไปไม่นานก็เจอโรงเตี้ยมจากนั้นจึงเข้าพักแรม อีกสามวันก็ถึงเมืองหลวง งานแต่งของเขากับโจวลิ่วผิงเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เดิมทีซ่างกวนหลิงหยางไม่ถือสาโจวลิ่วผิงที่จะแต่งเข้ามาเขาไม่ได้สนใจนางแต่แรกอยู่แล้วแต่งมาแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับเขาว่าอยากหลับนอนกับนางหรือไม่เขาตอบได้เลยว่านอกจากโจวหว่านถิงไม่มีสตรีคนใดที่เร่าร้อนได้เท่านางอีกแล้ว เขาต้องการแค่นางเท่านั้นส่วนโจวลิ่วผิงเอานางมาใช้นางยั่วโมโหโจวหว่านถิง เวลาเห็นเมียตัวเองกลายร่างเป็นแม่เสือมันน่ามองนัก เขาจะไม่ถือสาเลยหากไม่ใช่ว่าเขารู้มาว่าฮูหยินรองมารดากับนาง พยายามกรอกยาห้ามครรภ์และจับโจวหว่านถิงฝังเข็มจุดไร้บุตรเขาคงไม่โกรธจนแทบจะอยากฆ่าทั้งตระกูลเช่นตอนนี้ที่เขาห่วงคือนางตั้งครรภ์แล้วนางจะคลอดอย่างไรลำบากหรือไม่ เพราะนางทั้งถูกฝังเข็มอีกทั้งถูกกรอกยาห้ามครรภ์ยังท้องได้ รอให้หานางเจอก่อน จากนั้นค่อยจัดการตระกูลโจวตัวดีตระกูลโจวภายในห้องทำงานหนังสือกระจัดกระจาย ถ้วยชาถูกเขวี้ยงปาจนแตก มีสตรีร่างบอบบางคนนึงถูกฉีกเสื้อผ้าจนหมดเนื้อตัวแดงเป็นจ้ำๆ กลางกายสาวถูกกระแทกกรั้นรุนแรง บุรุษหนุ่มคำรามอย่างสัตว์ป่าบาดเจ็บปัก
พูดจบหลี่หว่าถิงก็เดินเข้าไปในบ้านเพื่อนำชุดแต่งงานออกมา เป็นชุดสีแดงปักด้วยไหมสีทอง ลายปักเป็นดอกเหมยเล็กๆตรงชายกระโปรง ด้านบนเป็นรูปหงส์ หากใส่แล้วยามก้าวเดินจะยิ่งดูสง่างามยิ่งนัก ส่วนอีกชุดเป้นสีแดงผสมสีเขียว ตัดเย็บตามแบบสมัยปัจจุบันที่นางจากมา ไม่รุ่มร่ามแขนเสื้อพอดีตัวคนใส่ เอวเล็กๆปักด้วยด้ายสีทอง มองแล้วงามทั้งสองชุด เหลียนจางหมิ่นเองเป็นบุรุษยังตะลึงกับความงามของชุดเลย"ข้าต้องการทั้งสองชุด รบกวนท่านคิดราคามาเถอะอาซ้อ""สองชุดนี้ใช้ผ้าและไหมอย่างดี ข้าลงรายละเอียดเองทุกฝีเข็ม ใช้เวลาแต่ละชุดนานหนึ่งเดือน ใต้เท้าข้าขายแพงนะท่านเลือกเอาเพียงหนึ่งชุดเถอะ""ข้าให้ท่านหนึ่งแสนตำลึง ข้าเชื่อว่าท่านตั้งใจทำมันจริงๆ เอ่อหลี่ไฉ่เหยีนนอภัยด้วยนะแต่ข้าคงต้องตัดหน้าเจ้าเสียแล้ว ไว้เจ้าหาเจ้าบ่าวได้ข้าจะจ่ายค่าชุดแต่งงานใหม่ให้เจ้าเอง""ใครบอกว่าข้าจะแต่งงานกัน นี่ท่านลุงท่านอย่ามาเพ้อเจ้อแถวนี้ รีบๆจ่ายเงินน้องสาวข้าแล้วก็รีบกลับไปได้แล้ว ข้ามีงานต้องทำ ไม่ว่างรับรองใครทั้งนั้น ข้าไม่ใช่พวกนั่งกินเบี้ยหวัดไปวันๆแล้วเอาแต่นังชนจอกท่องกลอน ขี่ม้าไล่ชนคน"หลี่หว่านถิงอึ้งในสายตาของใต้เท้าค
"มีเรื่องอะไรมาพบน้องสาวข้า คนอย่างท่านคงไม่ได้มาดีแน่ๆนี่ท่านลุงเหลียนทางเข้าหมู่บ้านที่ท่านเพิ่งจะเข้ามามันใช้เป็นทางออกได้ด้วยนะเผื่อท่านไม่รู้ เชิญกลับได้แล้วไม่ส่งนะข้าไม่ว่าง""หลี่ ไฉ่ เหยียน เจ้าต้องหาเรื่องข้าให้ได้เลยใช่หรือไม่ฮะ"เหลียนจางหมิ่นกำลังจะหมดความอดทนกับเด็กผู้หญิงตรงหน้าแล้ว ตั้งแต่ครึ่งปีก่อนที่ม้าของเขาเกิดพยศวิ่งเฉี่ยวเพื่อนของนางจนสลบ เด็กคนนี้ก็เกลียดเขามาโดยตลอดเขาไม่ได้ตั้งใจมันเป็นเรื่องที่เขาก็ไม่ได้อยากให้เกิด แต่เด็กคนนี้กลับไม่จบไม่สิ้นจงเกลียดจงชังเขาอยู่ได้ ก่อนจะมีเสียงหวานของสตรีปลูกสติของเขา"ใต้เท้า ท่านมาหาข้าน้อยด้วยเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ"เหลียนจางหมิ่นหันไปตามเสียงก็พบสตรีใส่ชุดสีเขียวอ่อน ใบหน้างดงามยิ่งนัก เขามองจนตะลึงที่นี่มีสตรีงามเช่นนี้ด้วยหรือ จนกระทั่งหลี่ไฉ่เหยียนเดินมาขวางหน้าเขา นางเท้าเอวจ้องหน้าเขาเหมือนแม่เสือหวงลูกน้อย"เอ่อ ท่านคือแม่นางหลี่ผู้นั้นหรอกหรือ ข้าได้รับคำแนะนำมาจากเถ้าแก่สวีนางบอกว่าให้ข้าเดินทางมาหาท่านที่นี่ น้องสาวของข้ากำลังจะแต่งงาน แต่ว่าชุดแต่งงานที่ส่งมานั้นนางไม่พอใจสักชุด ใกล้วันงานมาแล้ว แม่นางหลี่ข้
ตอนนี้หลี่หว่านถิงมาอยู่ที่หมู่บ้านเสวียนหยางได้สองปีแล้ว นางได้บุตรสาวฝาแฝดสองคน อุ้มท้องมาสิบเดือนแต่หน้าตาของคู่แฝดกับเหมือนซ่างกวงหลิวหยางราวกับแกะออกมาจากพิมพ์เดียวกันหากคนสารเลวนั่นเห็นเข้าเขาต้องรู้แน่ๆว่าเป็นลูกตนเอง แม้จะนึกออกแล้วว่าคนที่ทำร้ายนางคืนนั้นเป็นโจวจื่อทง แต่ก็ใช่ว่าซ่างกวนหลิวหยางจะไม่ใช่คนเลวแต่งงานคืนแรกเขาก็ทิ้งนางแล้วก็ไปปราบโจรภูเขาอันนี้พอรับได้เพราะเป็นเรื่องบ้านเมือง แต่พอเช้ามาคนของเขาก็ไล่นางกับเสี่ยวชุ่ยไปอยู่เรือนร้างหลังจวน ส่งข้าวแค่วันละมื้ออีกทั้งยังให้คนส่งข้าวแค่วันเว้นวัน ให้คนจับตาดูนางหากตายเมื่อไหร่ให้เอาไปโยนทิ้งสุสานไร้ญาติ ชาตินี้ทั้งชาติอย่าได้เจอกันอีกเลย ผู้ชายสารเลวซ่างกวงหลิวหยางตอนนี้หลี่หว่านถิงไม่ใช้แซ่โจวแล้วอีกทั้งเปลี่ยนจากหลี่หว่านถิงเป็นหลี่ว่านถิง ทิ้งทุกอย่างไว้เมืองหลวงพร้อมกับวิญญาณของโจวหว่านถิงคนเดิมที่นี่นางคือหลี่ว่านถิง ตอนนี้อาศัยออกแบบเสื้อผ้า ออกแบบเครื่องประดับ บางครั้งก็ขายสูตรอาหารต่างๆ ไม่ผูกขาดที่ใดที่หนึ่ง คำนวณดูว่าโรงเตี้ยมใดมีวัตถุดิบชนิดใดที่เหมาะสมกับสูตรอาหารเพราะหากนำวัตถุดิบมาจากที่อื่นจะต้องขา
หมู่บ้านเสวียนหยางเดินทางมาสามวันในที่สุดก็ถิงหมู่บ้านเสวียนหยางแล้ว โจวหว่านถิงเดินเข้าไปถามเหล่าบรรดาสตรีที่นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่"เอ่อ ท่านป้าเจ้าคะมิทราบว่าบ้านของท่านผู้นำอยู่ที่ใดหรือเจ้าคะ""เจ้าเป็นใครกันเล่าแม่นาน เอ่อ ท้องโตเพียงนี้ไม่ใชเมียน้อยตาเฒ่าหลี่ต้านนะฮ่าๆๆ" สตรีที่เอ่ยคือนางหูน้องสะใภ้ของหลี่ต้านผู้นำหมู่บ้าน"เอ่อ หามิได้เจ้าค่ะ คือว่าข้ามาจากหลินตูได้รับที่ดินของมารดาเป็นมรดก เนื่องจากสามีของข้าแต่งเมียใหม่เข้าเรือนจึงรังเกียจแล้วขับไล่ข้าๆไร้ที่ไป พอดีมีที่ดินแล้วบ้านเก่าๆของท่านแม่อยู่ที่นี่เลยอยากมาหาที่ตั้งรกรากใหม่เจ้าค่ะ""หา มีบุรุษสาารเลวถึงเพียงนี้ด้วยหรือ ว่าแต่แม่เจ้าแซ่อะไรเป็นใครหรือ""ท่านตาข้าแซ่หลี่นามว่าต้วน มารดาหลี่ม่านเจ้าค่ะ""อ้อเจ้าเป็นบุตรของเสี่ยวม่านหรือ อ้าวแล้วหลี่ต้วนซิ่วไฉล่ะไปไหน มารดาเจ้าล่ะแม่นางน้อย""ท่านตาจากไปแล้ว ท่านแม่ก็เพิ่งจากไปไม่นานข้าจึงไร้ที่พึ่ง สามีเพิ่งสอบได้ภรรยาใหม่เป็นคนมีอำนาจ นางกลั่นแกล้งข้ายึดบ้านที่ท่านตาอาศัยไปทำให้ข้าไร้ที่อยู่เจ้าค่ะ ฮือๆ""อย่าร้องๆ ใครก็ได้ไปแจ้งผู้นำหน่อยว่าหลานสาวหลี่ต
ตื๊ดดดดดดดเสียงมือถือดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง โจวหว่านถิงงัวเงียควานหามือถือบนหัวเตียง ก่อนจะกดรับสาย"ฮัลโหล อืมอาหงเหรอ มีอะไรง่วงอยู่ ห๊ะ!! จริงเหรอเครๆขออาบน้ำแป๊บอีกชั่วโมงเจอกัน"โจวหว่านถิงเป็นดีไซเนอร์สมัครเล่น งานประจำคือเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนเล็กๆแห่งหนึ่งและเพิ่งถูกไล่ออกเพราะไปต่อยลูกชายเจ้าของบริษัทที่มาทำอนาจารจับนมเธอ เนื่องจากตกงานพี่ชายจึงมารับแม่ไปอยู่ด้วยเพราะพี่สะใภ้คลอดพอดีจะได้ช่วยเลี้ยงหลานโจวหว่านถิงจึงหาเรื่องผ่อนคลายเพราะเธอได้เงินจากการออกแบบชุดราตรีสั้นและเครื่องประดับยกเซ็ท ก่อนจะกลับมาลุยหางานใหม่ทีหลัง เธอเพิ่งจะอายุยี่สิบแปด ยังมีความสามารถมากมายที่เข้าตาบริษัทชั้นนำตอนแรกว่ารีแลกซ์บินไปเที่ยวพม่าสักสามวันและข้ามมาเที่ยวและพักยาวๆที่เมืองไทยสักเดือนนึง แต่กลับได้ทริปเรือสำราญฟรีๆก็เอาสิ ค่าตั๋วไม่ใช่ถูกๆ ไปล่องเรือดีกว่า มีเงินเก็บอยู่แปดแสนหยวน ได้มาอีกสองแสนเที่ยวให้ลืมทุกข์ไปเลย เผื่อจะได้ผู้ชายสักคนมาตกล่องปล่องชิ้นสามวันต่อมาโจวหว่านถิงกับบหลี่หงก็มาถึงโรงแรมที่พัก พรุ่งนี้ต้องขึ้นเรือแล้วทั้งสองคนตื่นเต้นไม่น้อย ก่อนจะพากันเข้าโรงแรม"นี่เสี...
Comments