แม้จะโกรธที่เขาดูถูกนางแต่ก็ ช่างเถอะอย่างไรก็ไม่เจอกันอีกแล้ว พรุ่งนี้เตรียมขนของออกจากเมืองผิงอันดีกว่า คืนนี้จะไปนอนโรงเตี้ยมพร้อมกับเดินลงมาด้านล่าง
"ท่านลุงท่านมาทำอะไรที่ร้านของมารดาข้ากัน นี่คือสินเดิมท่านแม่ข้าสกุลฟ่านของท่านต้องหน้าหนาเพียงใดหรือจึงอยากได้ของสะใภ้เหมือนผีอดอยากเช่นนี้"
"นี่หลิงหลิง เจ้าทำร้านก็ขาดทุนมิสู้ให้ลุงไปเจรจากับฟางเหยียนให้เขาช่วยเจ้ารับซื้อร้านต่ออีกทั้งแบบเสื้อที่เจ้าออกแบบเขาบอกว่าจะจ่ายเจ้าสามร้อยตำลึงต่อภาพเชียวนะ"
"อ้อ คงไม่ได้หรอก ข้าขายร้านให้ถังฮ่าวหรานคุณชายน้อยสกุลถังไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว ส่วนแบบเสื้อนั้นก็ขายให้เขาไปแล้วเช่นกัน ท่านลุงต้องมาเสียเที่ยวแล้วกลับดีนะเจ้าคะ ข้าไม่ส่ง"
ฟ่านเจ๋อถึงกับหน้าดำเป็นก้นหม้อ ใครๆ ก็รู้ว่าสกุลเยี่ยเกรงกลัวสกุลถัง นางขายไปแล้วจะไปเอาคืนเช่นไรเล่า นังเด็กน่าตายนี่ช่างชาติชั่วจริง จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อจากไป
"น้องหว่านถิง สมบัติข้าไม่มีสิ่งใดมากนัก มีเพียงของไม่กี่ชิ้นข้าจะเรียกคนมาเก็บแล้วจ้างคนรับจ้างไปส่ง พวกเราไปพักโรงเตี้ยมคืนนึงเถอะพรุ่งนี้บ่ายๆ ค่อยออกเดินทาง"
"คืนนี้ท่านไม่ค้างที่ร้านหรือเจ้าคะ พี่หลิงหลิงข้าไม่รู้ว่าท่านทุกข์ใจอันใด แต่ลุงของท่านไม่ใช่คนดีไปตั้งรกรากที่อื่นน่าจะดีกว่า ข้าเองก็ถูกบ้านสามีขับไล่เพราะสามีแต่งภรรยาใหม่เข้ามาจึงยอมเดินทางไกลหลายพันลี้เพื่อมาตั้งรกรากที่บ้านมารดาเช่นกัน หากว่าท่านไม่อยากค้าขายเจอหน้าผู้คนมิสู้ไปทำไร่ทำสวนกับข้าที่หมู่บ้านเสวียนหยางดีหรือไม่"
"อืมก็ดี งั้นข้าเก็บของก่อนนะจะไปจ้างคนของของด้วย จากที่นี่เดินทางไปตำบลซานซานแค่สามวัน แต่หากมีข้าวของไปด้วยคงประมาณเกือบแปดวัน"
"พรุ่งนี้เราเดินทางก่อน ให้พวกเขาตามไปทีหลัง ท่านไปหาบ้านอยู่หรือหาหน้าร้านแห่งใหม่เอาไว้ พอข้าวของเดินทางไปถึงจะได้ไม่เร่วร้อนเกินไปนักดีไหมเจ้าคะ"
เมื่อพูดคุยกันจบฟ่านหลิงหลิงก็เก็บข้าวของจนหมด จากนั้นก็ว่าจ้างคนขนของพวกเขาบอกว่าจะลงมือจนตอนนี้เลย ให้พวกนางไปรอที่ตำบลซานซานก่อนก็ได้
เนื่องจากเป็นกลุ่มคนรับจ้างที่รู้จักมานานอีกทั้งมีชื่อเสียงเรื่องความซื่อสัตย์ฟ่านหลิงหลิงจึงตกลงทันที โจวหว่านถิงเห็นว่ายังไม่มืดจึงเดินทางเลย สองชั่วยามต่อมาก็เข้าสู่หมู่บ้านเหยียนสุ่ย จากนั้นก็พักแรมกันที่นี่ โรงเตี้ยมค่อนข้างเล็กแต่สะอาด
ทางด้านถังฮ่าวหรานที่เสร็จจากงานที่บิดาสั่งแล้วก็ตรงมาหาคนที่เขาเพิ่งเอาเปรียบไปเมื่อตอนสายวันนี้ แต่เมื่อมาถึงร้านกลับว่างเปล่า ในร้านเหลือเพียงม้วนผ้าที่เป็นสินค้า คนไม่อยู่แล้วเขาหาทั่วทุกโรงเตี้ยมก็ไม่เจอนาง
"ฟ่านหลิงหลิงเจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก อย่าให้เจอนะแม่ตัวดีข้าจะกดเจ้าให้จมเตียงเลย"
ถังฮ่าวหรานโมโหอย่างมากกล้าหนีเขาหรือ จนถังจงเดินเข้ามารายงาร
"คุณชาย ทางวังหลวงมีคำสั่งให้ท่านกับชินอ๋องไปแคว้นลู่เพื่อเจรจาเรื่องเปิดตลาดค้าม้าขอรับ ท่านอ๋องจะรอท่านที่หลินตูอีกสามวันเดินทาง ท่านอ๋องออกจากเมืองหลวงมาแล้ว ไม่เกินสิบวันน่าจะถึงหลินตูขอรับ"
"อืม หาคามาจัดการร้านใหม่ด้วย เสื้อผ้าเหล่านี้แก้ไขตามแบบที่เถ้าแก่ฟ่านให้มา ส่วนที่ต้องตัดใหม่ก็ใช้ผ้าเนื้อดีกับผ้าไหม ขายแพงหน่อยเพื่อให้คนรู้ว่านี่คือของดี สกุลเยี่ยน่าชังอยากเทียบเทียมสกุลถังของข้า เป็นแค่เศรษฐีใหม่ใจกล้ายิ่งนัก"
"ได้ข่าวว่าบุตรชายของเยี่ยเหยี่ยนหรันที่ชื่อโจวจื่อทงเป็นคนวิปริตจิตใจชั่วร้ายนัก วันแต่งงานพี่สาวยังกล้าลงมือกับนาง ได้ยินว่าชินอ๋องเพิ่งทรงทราบเรื่องพ่ะย่ะค่ะ"
"ข้าไม่เข้าใจเขา เจ้าสาวถูกคนทุบตีในงานแต่งตนเองเขากลับไม่รู้เช่นนั้นหรือ"
"ท่านอ๋องรับคำสั่งด่วนให้ไปปราบโจรภูเขาพอดี ฝ่าบาทแม้ว่าจะเห็นใจที่เพิ่งแต่งงาน แต่เนื่องจากมีคนตายจากกลุ่มโจรเหล่านั้นไม่น้อย จำต้องรีบกำจัดขอรับ ได้ยินว่าตอนนี้ชินอ๋องส่งพระชายาไปเฝ้าสุสานบรรพบุรุษที่บ้านเดิมที่เมืองเหลียนขอรับ"
"เฮ้อ กลับเถอะข้าต้องเขียนรายงานท่านพ่อที่เมืองหลวงอีก ฟ่านหลิงหลิงตัวดีเจอเจ้าเมื่อไหร่น่าดูแน่ๆ"
สองนายบ่าวกลับไปแล้ว ส่วนคนที่ถูกคาดโทษตอนนี้กำลังนั่งมองดูท้องฟ้าอยู่ โจวหว่านถิงเห็นนางนั่งมานานก็เดินเข้าไปหา
"ท่านคิดถึงพวกเขาหรือ พี่หลิงหลิงพวกเขาเฝ้าคุ้มครองท่านอยู่ อีกสามวันเราก็ถึงตำบลซานซานแล้ว ถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าร้ายหรือดีแต่อย่างน้อยเราก็ต้องลองดูไม่ใช่หรือ"
"หว่านถิง ข้าเอาอย่างที่เจ้าว่าไปอยู่กับเจ้าปลูกพืชผัก เลี้ยงหมูเลี้ยงไก่ดีกว่า ไม่ต้องแก่งแย่งชิงดีกับใครอีก ตอนนี้ข้ามีเงินใช้คนเดียวทั้งชีวิตก็ไม่หมด"
"ท่านไม่คิดมีครอบครัวหรือเจ้าคะ"
"ไม่ล่ะดูเจ้าสิตอนนี้เป็นอย่างไร แบกท้องใกล้คลอดกลับมาลำบากที่บ้านมารดา เอ่อข้าขอโทษนะไม่ตั้งใจน่ะ"
"ท่านกล่าวไม่ผิดหรอกเจ้าค่ะ นอนเถอะดึกแล้วพรุ่งนี้จะได้ออกเดินทางแต่เช้า เด็กสองคนนั้นหลับเป็นตายเชียว โดยเฉพาะน้องสาวข้านอนเหมือนวิญญาณสละจากร่างไปแล้วจริงๆ"
ทั้งสองหัวเราะให้กัน โจวหว่านถิงรู้ดีว่าการที่นางไว้ใจคนง่ายเกินไปนั้นไม่ดี แต่เนื่องจากตอนสมัยเป็นผู้บริหารในองค์กรต้องฝึกอบรมเกี่ยวกับจิตวิทยา สังเกตุพฤติกรรมของคนจึงรับรู้ได้ว่าฟ่านหลิงหลิงนั่นคบได้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดซ่างกวนหลิวหยางลึกล้ำอ่านยากอยู่ให้ไกลนั้นดีที่สุด รุ่งเช้าหลังจากกินมื้อเช้าแล้วทั้งสี่คนก็พากันเดินทางต่อ
หมู่บ้านเสวียนหยางเดินทางมาสามวันในที่สุดก็ถิงหมู่บ้านเสวียนหยางแล้ว โจวหว่านถิงเดินเข้าไปถามเหล่าบรรดาสตรีที่นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่"เอ่อ ท่านป้าเจ้าคะมิทราบว่าบ้านของท่านผู้นำอยู่ที่ใดหรือเจ้าคะ""เจ้าเป็นใครกันเล่าแม่นาน เอ่อ ท้องโตเพียงนี้ไม่ใชเมียน้อยตาเฒ่าหลี่ต้านนะฮ่าๆๆ" สตรีที่เอ่ยคือนางหูน้องสะใภ้ของหลี่ต้านผู้นำหมู่บ้าน"เอ่อ หามิได้เจ้าค่ะ คือว่าข้ามาจากหลินตูได้รับที่ดินของมารดาเป็นมรดก เนื่องจากสามีของข้าแต่งเมียใหม่เข้าเรือนจึงรังเกียจแล้วขับไล่ข้าๆไร้ที่ไป พอดีมีที่ดินแล้วบ้านเก่าๆของท่านแม่อยู่ที่นี่เลยอยากมาหาที่ตั้งรกรากใหม่เจ้าค่ะ""หา มีบุรุษสาารเลวถึงเพียงนี้ด้วยหรือ ว่าแต่แม่เจ้าแซ่อะไรเป็นใครหรือ""ท่านตาข้าแซ่หลี่นามว่าต้วน มารดาหลี่ม่านเจ้าค่ะ""อ้อเจ้าเป็นบุตรของเสี่ยวม่านหรือ อ้าวแล้วหลี่ต้วนซิ่วไฉล่ะไปไหน มารดาเจ้าล่ะแม่นางน้อย""ท่านตาจากไปแล้ว ท่านแม่ก็เพิ่งจากไปไม่นานข้าจึงไร้ที่พึ่ง สามีเพิ่งสอบได้ภรรยาใหม่เป็นคนมีอำนาจ นางกลั่นแกล้งข้ายึดบ้านที่ท่านตาอาศัยไปทำให้ข้าไร้ที่อยู่เจ้าค่ะ ฮือๆ""อย่าร้องๆ ใครก็ได้ไปแจ้งผู้นำหน่อยว่าหลานสาวหลี่ต
ตอนนี้หลี่หว่านถิงมาอยู่ที่หมู่บ้านเสวียนหยางได้สองปีแล้ว นางได้บุตรสาวฝาแฝดสองคน อุ้มท้องมาสิบเดือนแต่หน้าตาของคู่แฝดกับเหมือนซ่างกวงหลิวหยางราวกับแกะออกมาจากพิมพ์เดียวกันหากคนสารเลวนั่นเห็นเข้าเขาต้องรู้แน่ๆว่าเป็นลูกตนเอง แม้จะนึกออกแล้วว่าคนที่ทำร้ายนางคืนนั้นเป็นโจวจื่อทง แต่ก็ใช่ว่าซ่างกวนหลิวหยางจะไม่ใช่คนเลวแต่งงานคืนแรกเขาก็ทิ้งนางแล้วก็ไปปราบโจรภูเขาอันนี้พอรับได้เพราะเป็นเรื่องบ้านเมือง แต่พอเช้ามาคนของเขาก็ไล่นางกับเสี่ยวชุ่ยไปอยู่เรือนร้างหลังจวน ส่งข้าวแค่วันละมื้ออีกทั้งยังให้คนส่งข้าวแค่วันเว้นวัน ให้คนจับตาดูนางหากตายเมื่อไหร่ให้เอาไปโยนทิ้งสุสานไร้ญาติ ชาตินี้ทั้งชาติอย่าได้เจอกันอีกเลย ผู้ชายสารเลวซ่างกวงหลิวหยางตอนนี้หลี่หว่านถิงไม่ใช้แซ่โจวแล้วอีกทั้งเปลี่ยนจากหลี่หว่านถิงเป็นหลี่ว่านถิง ทิ้งทุกอย่างไว้เมืองหลวงพร้อมกับวิญญาณของโจวหว่านถิงคนเดิมที่นี่นางคือหลี่ว่านถิง ตอนนี้อาศัยออกแบบเสื้อผ้า ออกแบบเครื่องประดับ บางครั้งก็ขายสูตรอาหารต่างๆ ไม่ผูกขาดที่ใดที่หนึ่ง คำนวณดูว่าโรงเตี้ยมใดมีวัตถุดิบชนิดใดที่เหมาะสมกับสูตรอาหารเพราะหากนำวัตถุดิบมาจากที่อื่นจะต้องขา
"มีเรื่องอะไรมาพบน้องสาวข้า คนอย่างท่านคงไม่ได้มาดีแน่ๆนี่ท่านลุงเหลียนทางเข้าหมู่บ้านที่ท่านเพิ่งจะเข้ามามันใช้เป็นทางออกได้ด้วยนะเผื่อท่านไม่รู้ เชิญกลับได้แล้วไม่ส่งนะข้าไม่ว่าง""หลี่ ไฉ่ เหยียน เจ้าต้องหาเรื่องข้าให้ได้เลยใช่หรือไม่ฮะ"เหลียนจางหมิ่นกำลังจะหมดความอดทนกับเด็กผู้หญิงตรงหน้าแล้ว ตั้งแต่ครึ่งปีก่อนที่ม้าของเขาเกิดพยศวิ่งเฉี่ยวเพื่อนของนางจนสลบ เด็กคนนี้ก็เกลียดเขามาโดยตลอดเขาไม่ได้ตั้งใจมันเป็นเรื่องที่เขาก็ไม่ได้อยากให้เกิด แต่เด็กคนนี้กลับไม่จบไม่สิ้นจงเกลียดจงชังเขาอยู่ได้ ก่อนจะมีเสียงหวานของสตรีปลูกสติของเขา"ใต้เท้า ท่านมาหาข้าน้อยด้วยเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ"เหลียนจางหมิ่นหันไปตามเสียงก็พบสตรีใส่ชุดสีเขียวอ่อน ใบหน้างดงามยิ่งนัก เขามองจนตะลึงที่นี่มีสตรีงามเช่นนี้ด้วยหรือ จนกระทั่งหลี่ไฉ่เหยียนเดินมาขวางหน้าเขา นางเท้าเอวจ้องหน้าเขาเหมือนแม่เสือหวงลูกน้อย"เอ่อ ท่านคือแม่นางหลี่ผู้นั้นหรอกหรือ ข้าได้รับคำแนะนำมาจากเถ้าแก่สวีนางบอกว่าให้ข้าเดินทางมาหาท่านที่นี่ น้องสาวของข้ากำลังจะแต่งงาน แต่ว่าชุดแต่งงานที่ส่งมานั้นนางไม่พอใจสักชุด ใกล้วันงานมาแล้ว แม่นางหลี่ข้
พูดจบหลี่หว่าถิงก็เดินเข้าไปในบ้านเพื่อนำชุดแต่งงานออกมา เป็นชุดสีแดงปักด้วยไหมสีทอง ลายปักเป็นดอกเหมยเล็กๆตรงชายกระโปรง ด้านบนเป็นรูปหงส์ หากใส่แล้วยามก้าวเดินจะยิ่งดูสง่างามยิ่งนัก ส่วนอีกชุดเป้นสีแดงผสมสีเขียว ตัดเย็บตามแบบสมัยปัจจุบันที่นางจากมา ไม่รุ่มร่ามแขนเสื้อพอดีตัวคนใส่ เอวเล็กๆปักด้วยด้ายสีทอง มองแล้วงามทั้งสองชุด เหลียนจางหมิ่นเองเป็นบุรุษยังตะลึงกับความงามของชุดเลย"ข้าต้องการทั้งสองชุด รบกวนท่านคิดราคามาเถอะอาซ้อ""สองชุดนี้ใช้ผ้าและไหมอย่างดี ข้าลงรายละเอียดเองทุกฝีเข็ม ใช้เวลาแต่ละชุดนานหนึ่งเดือน ใต้เท้าข้าขายแพงนะท่านเลือกเอาเพียงหนึ่งชุดเถอะ""ข้าให้ท่านหนึ่งแสนตำลึง ข้าเชื่อว่าท่านตั้งใจทำมันจริงๆ เอ่อหลี่ไฉ่เหยีนนอภัยด้วยนะแต่ข้าคงต้องตัดหน้าเจ้าเสียแล้ว ไว้เจ้าหาเจ้าบ่าวได้ข้าจะจ่ายค่าชุดแต่งงานใหม่ให้เจ้าเอง""ใครบอกว่าข้าจะแต่งงานกัน นี่ท่านลุงท่านอย่ามาเพ้อเจ้อแถวนี้ รีบๆจ่ายเงินน้องสาวข้าแล้วก็รีบกลับไปได้แล้ว ข้ามีงานต้องทำ ไม่ว่างรับรองใครทั้งนั้น ข้าไม่ใช่พวกนั่งกินเบี้ยหวัดไปวันๆแล้วเอาแต่นังชนจอกท่องกลอน ขี่ม้าไล่ชนคน"หลี่หว่านถิงอึ้งในสายตาของใต้เท้าค
ทั้งสามคนขี่ม้าไปไม่นานก็เจอโรงเตี้ยมจากนั้นจึงเข้าพักแรม อีกสามวันก็ถึงเมืองหลวง งานแต่งของเขากับโจวลิ่วผิงเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เดิมทีซ่างกวนหลิงหยางไม่ถือสาโจวลิ่วผิงที่จะแต่งเข้ามาเขาไม่ได้สนใจนางแต่แรกอยู่แล้วแต่งมาแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับเขาว่าอยากหลับนอนกับนางหรือไม่เขาตอบได้เลยว่านอกจากโจวหว่านถิงไม่มีสตรีคนใดที่เร่าร้อนได้เท่านางอีกแล้ว เขาต้องการแค่นางเท่านั้นส่วนโจวลิ่วผิงเอานางมาใช้นางยั่วโมโหโจวหว่านถิง เวลาเห็นเมียตัวเองกลายร่างเป็นแม่เสือมันน่ามองนัก เขาจะไม่ถือสาเลยหากไม่ใช่ว่าเขารู้มาว่าฮูหยินรองมารดากับนาง พยายามกรอกยาห้ามครรภ์และจับโจวหว่านถิงฝังเข็มจุดไร้บุตรเขาคงไม่โกรธจนแทบจะอยากฆ่าทั้งตระกูลเช่นตอนนี้ที่เขาห่วงคือนางตั้งครรภ์แล้วนางจะคลอดอย่างไรลำบากหรือไม่ เพราะนางทั้งถูกฝังเข็มอีกทั้งถูกกรอกยาห้ามครรภ์ยังท้องได้ รอให้หานางเจอก่อน จากนั้นค่อยจัดการตระกูลโจวตัวดีตระกูลโจวภายในห้องทำงานหนังสือกระจัดกระจาย ถ้วยชาถูกเขวี้ยงปาจนแตก มีสตรีร่างบอบบางคนนึงถูกฉีกเสื้อผ้าจนหมดเนื้อตัวแดงเป็นจ้ำๆ กลางกายสาวถูกกระแทกกรั้นรุนแรง บุรุษหนุ่มคำรามอย่างสัตว์ป่าบาดเจ็บปัก
เรือนรับรองสกุลโจว"คุณชาย ตอนนี้มีปัญหาจริงๆแล้วขอรับ ร้านผ้าสกุลเยี่ยของเรากำลังเจอกับปัญหาใหญ่ ไม่ทราบว่าตระกูลถังได้แบบตัดเย็บมาจากที่ใดกันพอทางเราสามารถลอกเลียนแบบได้ สามวันต่อมาเขาก็ออกแบบชุดใหม่ทันที อีกทั้งตอนนี้ยังสามารถผลิตผ้าพิมพ์ลายออกมาได้ด้วย ไม่ต้องอาศัยการปักอย่างเดียวแล้ว นี่เป็นผ้าพิมพ์ลายที่ข้าหาซื้อมาได้หนึ่งผืนขอรับ""อืม ลายละเอียดอ่อนช้อย ดอกไม้กับผีเสื้อเสมือนจริงมาก ผ้าพับนี้สกุลถังขายเทท่าไหร่"เรียนคุณชาย พับนี้สามารถตัดได้สามชุด สกุลถังขายผ้าพับนี้อยู่ที่แปดร้อยตำลึงขอรับ""นับว่าราคาแพงนัก อีกทั้งยังต้องสั่งจอง หาให้เจอว่าคนที่ออกแบบเสื้อผ้าและลายผ้าเหล่านี้เป็นใคร สกุลถังจ่ายมันเท่าไหร่เสนอราคาให้สูงเข้าไว้ ให้มันมาเป็นคนของเรา หากไม่มาภักดีก็กำจัดเสีย อีกอย่างตอนนี้สกุลโจวของข้าก็มีปัญหาเกี่ยวกับสินค้าเช่นกัน""คุณชายข้าน้อยได้ยินว่าทางตระกูลเหลียนมีสินค้าแปลกใหม่มากมาย มีขนมขบเคี้ยว มีลูกพลับแห้งอบน้ำผึ้งอย่างดี อีกทั้งยังมีเหล้าที่หมักจากผลไม้หลายชนิดอีกด้วยข้าน้อยรู้สึกว่าคนที่ค้าขายกับสกุลถังและสกุลเหลียนเหมือนจงใจทำลายสกุลโจวกับสกุลเยี่ยนะขอรับ""
เหลียนจางหมิ่นเดินมาหานางที่กำลังนั่งอยู่กับท่านตาใหญ่ ท่านลุงใหญ่และพี่หญิงของนางหลี่ไฉ่เหยียน เหลียนจางหมิ่นนั่งลงพูดคุยทักทายเป็นกันเอง แต่หลี่ไฉ่เหยียนกลับนั่งหน้างอนางไม่ชอบเหลียนจางหมิ่นคนนี้ เขาดูเสแสร้งไม่มีความจริงใจสักนิด ทำอะไรตามใจตัวเองเสมอ"ท่านลุงหลี่ ท่านพี่เต๋อคังอาหารวันนี้ถูกปากหรือไม่ขอรับ แขกเหรื่อมากมายหากบกพร่องข้าต้องขออภัยด้วยขอรับ""ที่ไหนได้ใต้เท้า แค่นี้ก็ดีมากแล้วขอรับ เสร็จงานแต่งนี้แล้วท่านกับน้องเขยจะกลับเมืองหลวงเลยหรือไม่ขอรับ"หลี่เต๋อคังเอ่ยถามเด็กหนุ่มที่อายุอ่อนกว่าเขาสี่ปี เขาสี่สิบสองแล้วเด็กตรงหน้าอายุย่างสามสิบเก้าแต่ใบหน้ากลับเหมือนเด็กหนุ่มอายุยี่สิบ เฮ้อไม่ต้องทำไร่ไถนา เร่ค้าขายมันดีอย่างนี้นี่เอง"ข้าจะกลับทีหลังนะขอรับ แล้วพวกท่านมาอย่างไรเด๊่ยวข้าให้รถม้าไปส่งนะขอรับ อาซ้อหลี่ท่านจะกลับแล้วใช่หรือไม่""ใต้เท้าอย่ารบกวนเลยเจ้าค่ะ ข้ากลับเองได้ คนแก่บ้านข้างอแงอยากมาด้วยเดี๋ยวรอเขาสักพัก จะได้กลับด้วยกันเจ้าค่ะ อ๊ะ"หลี่ว่านถิงรู้สึกหนักๆที่ต้นแขน หลี่ไฉ่เหยียนซบแขนนาง เสียงอ้อแอ้ๆนางดื่มไปไม่น้อยเลย จนหลี่ต้านต้องดึงหลานสาวมา"เด็กคนนี้
เหลียนจางหมิ่นจูบนางอีกรอบจนพอใจจึงละจากปากอวบอิ่มไต่ลงมาตามลำคอระหง จนเจอไหปลาร้าเขาฝังจมูกสูดดมกลิ่นกายสาว ก่อนจะมาถึงเต้านมอวบอัดที่ดึงดูดเขาตั้งแต่ที่นางปีนลงอ่าง ลิ้นร้อนชื้นแตะเบาตรงปลายถันราวกับหยอกล้อกลั่นแกล้ง ทำให้หลี่ไฉ่เหยียนถึงกับแอ่นยอดอกสู้ปลายลิ้นของเขา"ท่านอาเหลียนปล่อยข้าเถอะ อื้อ ท่านอาเหลียนเจ้าคะ ปล่อยอาเหยียนเถอะนะเจ้าคะ อื้อท่านอาอย่าดูดสิเจ้าคะข้าเสียวนะ อ่า""รู้จักอ่อนหวานเอาตัวรอดแล้วหรือแม่ตัวดีของอาหึ ไม่เรียกอาตาแก่แล้วหรือ อืม อาเหยียนเจ้าหวานจริงๆ มาเถอะมาพิสูจน์ว่าอาใช่ชายตัดแขนเสื้อหรือไม่ อาให้เจ้าพิสูจน์คนแรกเลยนะเจ้าจงภูมิใจเถอะ"เหลียนจางหมิ่นพูดจบก็ไต่ลิ้นร้อนลงต่ำไปเรื่อยๆ มือที่ยึดข้อมือสาวน้อยอยู่ปล่อยออก หลี่ไฉ่เหยียนต้องขยุ้มผมเขาเอาไว้ นางเสียวซ่านร้อนไปทั่วตัวเลย เพราะฤทธิ์สุราทำให้คนทั้งคู่ยิ่งมีอารมณ์พิศวาสมากขึ้นลิ้นร้ายตวัดเลียทัวทั้งตัว ปลายลิ้นเขาแหย่เล่นกับสะดือน้อยๆของนาง ทำเอาหลี่ไฉ่เหยียนผวานางเสียวซ่านไปหมดแล้ว คนตัวโตยังไม่ยอมหยุดใบหน้าเลื่อนต่ำลงจนถึงจุดที่ต้องการ แต่คนตัวเล็กเบียดหน้าขาเข้าหากันอยู่ เขาต้องเลื่อนขึ้นมาครอบค
ทั้งคู่เดินไปไกลแล้ว หลี่ไฉ่หงยืนเกาหัวงงๆ ซ่างกวนหย่งเฉิงที่เอาหลานสาวเข้านอนเรียบร้อยก็มาเดินเล่นในหมู่บ้าน เห็นเด็กสาวทำหน้าเหรอหราก็เดินมาหา กระซิบข้างหู"หนูน้อย เจ้าอ้าปากค้างจนแมลงวันเข้าไปวางไข่แล้วนะ"หลี่ไฉ่หงขนลุกลมร้อนๆที่ข้างหูทำนางรู้สึกแปลกๆ หันกลับไปก็เจอบุตรชายคนโตของท่านปู่กัว เอ่ยตะกุกตะกัก"อ้อ เอ่อท่านอาฝ่าบาทนั่นเองอืม ข้าต้องทำอย่างไรดีเจ้าคะท่านอาช่วยข้าคิดหน่อย ดอกไม้ที่พี่เก้าฝากมาให้พี่เสี่ยวเหมยถูกพี่ชายถังทำเสียหายหมดแล้ว""หนูน้อยเจ้าอายุเท่าไหร่บอกข้าสิ""อา อายุสิบหกเจ้าค่ะ ท่านอาฝ่าบาทมีอะไรหรือเจ้าคะ""อายุแค่นี้ริเป็นแม่สื่อแล้วหรือ หลี่ต้านรู้หรือไม่ว่าหลานสาวช่างเก่งกาจยิ่งนัก พี่เก้าของเจ้าให้อะไรเจ้าเล่าถึงยอมเป็นแม่สื่อให้เขา""พี่เก้าจะพาข้าไปเที่ยวงานโคมไฟเจ้าคะ ท่านพ่อไปทำการค้าท่านปู่ไม่ไว้ใจให้ข้าไปเอง พี่ไฉ่เหยียนก็ไม่กลับบ้านข้าเหงานี่""แค่นี้ก็ยอมเป็นแม่สื่อให้เขาแล้ว หึๆ กลับบ้านได้แล้วเขาไปกันหมดแล้วนะ"ซ่างกวนหย่งเฉิงยิ้มให้เด็กสาว หลี่ไฉ่หงพยักหน้าก่อนจะหันกลับ สายตาของฮ่องเต้บ่งบอกว่าสนใจในตัวนาง องครักษ์ข้างกายมองออก ฝ่าบาทไม่ยิ้ม
แต่เหมือนสวรรค์ถูกทำลาย มีเสียงดังมาจากนอกบ้านทำให้ซ่างกวนหลิวหยางหมดอารมณ์พิศวาสเมียทันที"ไอ้เด็กบ้า ข้ามาถึงแล้วยังไม่มาหา ตกลงฮ่องเต้อย่างข้ายังอยู่ในสายตาเจ้าหรือไม่หึซ่างกวนหลิวหยาง""ถิงถิงคนงาม เจ้าพักผ่อนนะพี่ต้องไปคุยกับตาแก่เมียไม่รัก เมียไม่สนใจก็มาอารมณ์เสียใส่ชาวบ้าน"หลี่ว่าถิงมองหน้าเขางงๆ ฮ่องเต้ถูกเมียเมินหรือ หลี่ว่านถิงไม่รู้ว่าคนเหล่านี้ฝึกยุทธหูจึงดีเลยพูดไปไม่ทันคิด"ฮ่องเต้มีสนมเป็นร้อย หากเมียไม่รักแล้วเมียคนไหนกันเจ้าคะ แล้วต้องเป็นบุรุษแบบใดเมียถึงเกลียดขี้หน้าได้พร้อมกันเป็นร้อยคน""ฮ่าๆๆๆๆ เมียจ๋าเจ้าน่ารักจริงๆ ถูกใจข้านัก เดี๋ยวพี่มาเจ้าพักผ่อนเถอะ อีกครึ่งชั่วยาม หมอหยวนจะมาฝังเข็มให้เจ้าอีกครั้ง"ซ่างกวนหย่งเฉิงหมันใส้น้องชายใครว่าเขาเมียไม่รักกัน แย่งเขากันแทบทุกวันจนเขารำคาญ สตรีล้วนน่ารำคาญ ไอ้เด็กบ้านี่พอเมียจำได้หน่อยเอาใหญ่เลยนะซ่างกวนหลิวหยางอุ้มหลี่ว่านถิงออกมา นางจะไม่สนใจไม่ได้เขาเป็นนฮ่องเต้ มาอยู่ในยุคโบราณฮ่องเต้คือคนที่มีอำนาจมากที่สุด ประจบไม่ได้ก็ไม่ควรหาเรื่อง อีกอย่างคู่แฝดเป็นหลานสาวคู่แรกของราชวงศ์ ไม่ว่านางต่อต้านหรือเต็มใจพวกเขาก
หลี่ว่านถิงมองหน้าเขา นางปวดหัวจริงๆ เมื่อกี้นางรู้สึกว่ารักเขามาก มาตอนนี้นางกลับจำได้แค่ตอนที่เขาบีบคอนาง ขับรถม้าเบียดนาง เหวี่ยงนางลงสระน้ำ นางรักคนแบบนี้ได้อย่างไรกัน แล้วยังรักมากอีกด้วย หลี่ว่านถิงหลับไปแล้ว หยวนซานไห่ที่เพิ่งต้มยามาก็ถอนหายใจ"ท่านอ๋องดูเหมือนหากฟื้นความทรงจำได้จริงๆ นางจะจำได้ทั้งหมดนะพ่ะย่ะค่ะ รวมถึงเรื่องที่มารดานางถุกฆ่าตายด้วย จะเสี่ยงไหมพ่ะย่ะค่ะ ส่วนเรื่องที่นางถูกฝั่งเข็มกับกรอกยาห้ามครรภ์ไม่มีผลกระทบกับร่างกายนางพ่ะย่ะค่ะ น่าแปลกอยู่เหมือนกัน""ถ้ามันเสี่ยงเกินไปก็อย่าเลย ข้าจะเริ่มต้นกับนางใหม่ วันนี้นางเจ็บปวดทรมานข้าเองก็ทนไม่ได้เช่นกัน ข้าจะพยายามให้นางเห็นความจริงใจแล้วกัน"ซ่างกวนหลิวหยางนอนกอดนางทั้งวันไม่ไปไหน หลี่ว่านถิงเองก็ไม่ผลักไสเขาอบอุ่นมากรักนางมากจริงๆ ก่อนจะกลายมาเป็นคนร้ายกาจ แต่ความจริงคือเขารักร่างเดิมไม่ใช่ปรสิตที่มาอาศัยร่างคนอื่นเช่นนาง"ไม่ง่วงหรือคนดี เหตุใดนอนมองหน้าพี่อย่างนี้ อยากให้พี่ทำอะไรหรือหื้ม""ท่านอยากทำอะไรเล่า "หลี่ว่านถิงใช้มือบางลูบไล้ใบหน้าหล่อคมนั้น ให้ตายเถอะตอนที่เขาไม่ร้ายกาจเย้ายวนชวนน้ำเดินจริงๆ ไอ้เด็
ยามเฉินฟ่านหลิงหลิงยกอาหารมาให้ แต่หลี่ว่านถิงยังไม่ฟื้น ซ่างกวนหลิวหยางเองก็หลับเพราะความเพลีย คู่แฝดมาหาท่านแม่แต่ท่านแม่กับท่านพ่อยังไม่ตื่นจึงกลับไปบ้านท่านป้าฟ่านปลายยามอู่หลี่ถิงถิงตื่นขึ้นมาแล้ว นางจำได้เขาคือเด็กผู้ชายคนนั้น ในเมื่อรักนางขนาดนี้เหตุใดทำตัวร้ายกาจนัก มือบางลูบใบหน้าหล่อเหลาก่อนจะกอดเอวหนาของเขาเอาไว้ ซ่างกวนหลิวหยางลืมตาเห็นดวงตาสุกใสมองเขาอยู่ กระชับอ้อมกอดรั้งนางเข้ามาหา"เด็กดีของพี่หายปวดหัวหรือยัง หิวหรือไม่พี่จะไปหาอะไรให้กินไหม อื้อ"หลี่ว่านถิงจูบเขาเนิ่นนาน ซ่างกวนหลิวหยางรั้งนางแนบชิดก่อนจะจูบนางกลับลิ้นไล้เกี่ยวพันจนเขาสูบความหวานจากนางจนพอใจจึงถอนริมฝีปากออก"ถิงถิงพี่รักเจ้า รักเจ้าเหลือเกินพี่มีแค่เจ้าคนเดียวมาตลอด ที่ผ่านมาพี่รู้ตัวว่าผิดพี่ขอโทษ""พี่หลิวหยาง ข้าขอโทษที่จำท่านไม่ได้"ซ่างกวนหลิวหยางกอดนางแน่นขึ้น หยวนซานไห่ไม่ให้เขาคาดคั้นนาง เพราะไม่รู้ว่านางจำได้ตลอดหรือแค่บางช่วง อย่างน้อยจำได้บ้างเขาก็ดีใจแล้วหลี่ว่านถิงรู้ดีว่าเขารักโจวหว่านถิงคนเก่า นางอาศัยร่างนี้ควรทำเช่นไรเปิดใจให้เขาดีไหม ไม่ได้สิต้องรู้เหตผลที่เขาร้ายกาจก่อนมันต้องม
ตั้งแต่วันนั้นเด็กน้อยก็เจอกับพี่ชายใจดีเสมอ เขาพานางไปเล่น ไปขี่ม้า จนกระทั่งมารดาป่วยตายนางจึงถุกรับกลับจวนที่มีสถานะที่แม้แต่คนใช้ยังดีกว่า ถูกตีรุนแรงเสมอ บังคับให้นึกให้ออกว่ามารดาเคยบอกอะไรหรือไม่ ทุกครั้งเด็กน้อยจะปวดหัวร้องไห้จนสลบ แต่อยู่ๆความจำทั้งหมดก็หายไป จำได้แค่นางถูกวายาแต่งเข้าจวนอ๋องหวังเขาเป็นที่พึ่งแต่เขาก็ร้ายกาจกับนาง แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดนางรักเขาและเหมือนจะรักมากด้วยหลี่ว่านถิงตื่นขึ้นมาพร้อมกับน้ำตา อะไรกันเนี่ยเด็กคนนั้นแน่นอนว่าเป็นเจ้าของร่างเดิมโจวหหว่านถิง เด็กผู้ชายคือใครเขาอบอุ่นกับนางมาก ทุกครั้งที่เจอกันเขาจะมีขนมของเล่นมาให้เสมอ มักพูดคุยกับท่านแม่เสมอ ทำให้พวกนางไม่รู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง พี่หลิวหยาง พี่หลิวหยางหรือคงไม่ใช่หรอก ซ่างกวนหลิวหยางเป็นเชื้อพระวงศ์ไม่มีทางไปอยู่บ้านแบบนั้น ถึงจะหลังใหญ่โตก็ไม่สมฐานะองค์ชายอยู่ดี ตอนนั้นดูเหมือนเขาอายุสิบสี่เอง แต่เด็กผู้ชายคนนั้นก็อายุสิบสี่ ทำไมในฝันถึงเห้นหน้าเขาไม่ชัดกันนะ แต่หยกชิ้นนั้นนางเก็บไว้อย่างดี ไม่ให้ใครเห็นมัน มันมีอีกครึ่งอยู่กับพี่ชายคนนั้นซ่างกวนหลิวหยางรู้สึกเปียกๆที่แขนก็ลืมตา นางร้องไห้หร
ซ่างกวนหลิวหยางคาดโทษหยวนซานไห่ ก็เขาบอกให้กระตุ้นนางแรงๆไม่ได้บอกว่าต้องรุนแรงแบบใดนี่"ถิงถิง ข้าอยากได้ยินเจ้าเรียกข้าพี่หลิวหยางอีกครั้ง ข้าจะมีวันนั้นไหม"ซ่างกวนหลิวหยางถอนหายใจ ก่อนจะสงสารพระบิดาจึงหน้าด้านไปภรรยาอีกรอบ ครั้งนี้เสี่ยวชุ่ยออกมาจากบ้าน ในมือถือตะกร้าอยู่"ท่านอ่องมาพอดี พี่ใหญ่ให้หม่อมฉันนำสำรับไปให้ผู้อาวุโสกัวกับผุ้อาวุโสเฉิงเพคะ เอ่อ ไม่มีของพระองค์นะเพคะ""อืม ขอบใจมากเสี่ยวชุ่ย ว่าแต่พระชายา เอ่อพี่ใหญ่เจ้าทำอะไรอยู่หรือ""เริ่มค่ำแล้วแต่งตัวให้คู่แฝดเตรียมพาเข้านอนเพคะ หม่อมฉันต้องปิดประตูรั้วแล้ว เสด็จกลับดีๆนะเพคะ เสี่ยวชุ่ยทูลลา"สาวน้อยเสี่ยวชุยเข้าไปแล้ว ซ่างกวนหางเฉิงมองอาหารในตะกร้าแล้วก็ยิ้ม นางไม่ได้ทำเผื่อเขาหรอก แต่ทำเผื่อกองทัพเลยกระมัง เรื่องอะไรจะให้คนอื่นกินกันถังฮ่าวหรานตอนต้องการความช่วยเหลือก็หายหัว กินเองหมดนี่แหละ ของเมียเขาคนอื่นห้ามแตะหลี่ว่านถิงกำลังฟังรายงานจากคนของนางที่เพิ่งกลับมาไม่นาน คนไม่มีแล้วนางจึงให้เขามาพบ"นายหญิง เยี่ยฝางติดหนี้พนันท่วมหัว สิบวันก่อนก็เอาภรรยามาจำนำ ตระกุลเยี่ยตกต่ำถึงเพียงนี้แล้วจะทำอย่างไรต่อขอรับ""โจ
หลี่ถิงถิงทำอาหารเย็นแค่สามคนแม่ลูกและเสี่ยวชุ่ยที่ตอนนี้มีถานะเป็นน้องสาวและท่านน้าของคู่แฝด วันนี้นางอารมณ์ไม่ดีจริงๆ นางไม่รู้ว่าโกรธที่ซ่างกวนหลิวหยางเอาเปรียบนาง หรือโกรธที่ตัวเองคล้อยตามเขากันแน่อาฝูคนสนิทของเขาเดินมาหาก่อนจะเอ่ยบางอย่าง"พระชายา ที่ท่านอ๋องทำทุกอย่างเพื่ออยากให้พระชายาจำพระองค์ได้เท่านั้น เรื่องเก้าปีก่อนมีแค่ท่านอ๋อง พระชายา กระหม่อมที่รู้เรื่อง ท่านอ๋องเก็บมันมานานมากนัก พระชายาตั้งแต่เกิดเรื่องพระนางก็ทรงปิดกั้นทุกอย่างไม่รับรู้สิ่งใดเลย พระชายามารดาท่านมิได้ป่วยตาย นางถูกคนฆ่าตาย ข้ารู้ดีว่าหากท่านอ๋องรู้ว่าข้ามาบอกท่านๆอ๋องอาจลงโทษข้า แต่หากรอท่านจำได้เอง เจ้านายของกระหม่อมก็คงต้องแบกรับความเกลียดชังจากท่านไปตลอด""อาฝู หากเรื่องที่เจ้าพูดเป็นเรื่องจริงนั้น เหตุใดข้าจะต้องรื้อฟื้นให้ตัวเองเจ็บปวดเล่า เจ้าไปเถอะข้าไม่อยากฟัง"อาฝูไปแล้ว หลี่ว่านถิงสับสนเรื่องอะไรกันนางคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ยิ่งคิดนางจะปวดหัวแทบระเบิด ช่างเถอะอดีตก็คืออดีต สนใจปัจจุบันดีกว่า จากนั้นก็จัดการให้บุตรสาวกินข้าว พาอาบน้ำเข้านอนซ่างกวนหลิวหยางที่เพิ่งกลับมาจากบ้านของหลี่ว่านถิง
สองแสบวางแผนให้พ่อกับแม่คืนดีกันเรียบร้อยก็พากันปีนขึ้นเตียง หลี่ว่านถิงที่ยืนจ้องมองซ่างกวนหลิวหยางถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยปากกับเขา"มีเรื่องอะไรก็ว่ามา หากพูดจบแล้วก็เชิญท่านกลับเมืองหลวงของท่านไปเถอะชินอ๋อง ข้าไม่ว่างมานั่งดูท่านร้องงิ้ว ข้ามีงานล้นมือมากนัก""คุยตรงนี้หรือ ถิงถิงมีที่อื่นอีกหรือไม่""อย่ามาเล่ห์เหลี่ยมนะ ข้าไม่หลงกลท่านหรอก อยากคุยก็คุยมา สำคัญขนาดไหนกันถึงต้องลับๆล่อๆ""เกี่ยวกับเจ้าเกี่ยวกับข้า เกี่ยวกับเรื่องของบ้านเมือง ถิงถิงสำคัญมากนะ"หลี่ว่านถิงมองหน้าขาแล้วถอนหายใจ ซ่างกวนหลิวหยางสีหน้าดุจริงจังไม่เหมือนล้อเล่นจึงพยักหน้า ก่อนจะพาเขาไปอีกห้องที่เป็นนห้องออกแบบลายผ้าของนางหลี่ว่านถิงนั่งลงตรงข้ามกันเขาแต่คนตัวโตกับอุ้มนางมานั่งตักตนเอง หลี่ว่านถิงรู้ว่าเขาเจ้าเล่ห์แต่ไม่ทันแล้ว ซ่างกวนหลิวหยางจูบนางเรียกร้องอีกทั้งยังโบกมือลงกลอนประตูอีก มือเล็กๆทั้งทุบทั้งตีแต่คนตัวโตไม่สะทกสะท้าน จนกระทั่งเขาถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดายความหวาน"ถิงถิง ข้าไม่อาจอธิบายทุกอย่าง เว้นเสียแต่เจ้าจำเรื่องเมื่อเก้าปีก่อนได้ เจ้าจะเข้าใจทุกอย่าง ถิงถิงข้ารักเจ้านะเด็กโง่ ข้าเห็นแก่ตั
ซ่างหวนหลิวหยางได้แต่นั่งมองไปยังบ้านของหลี่ว่านถิง เขาจะทำอย่างไรดีนางใจแข็งนัก เมื่อ ก่อนนางอ่อนหวานกว่านี้ซ่างกวนหลิวหยางเห็นนางเปิดรั้วหลังบ้านก็ดีดตัวจากหลังคาตามนางออกไป หลี่ว่านถิงแซะรวงผึ้งที่เลี้ยงไว้มาสามรวง ใส่ในตระกร้าที่รองด้วยใบบัวรู้สึกถึงไอร้อนด้านหลังกำลังจะหันกลับก็ถูกลำแขนแข็งแกร่งโอบนางไว้ กลิ่นกายนี่เป็นเขาผู้ชายเอาแต่ใจซ่างกวนหลิวหยางเกยคางกับกระหม่อมของนาง หลี่ว่านถิงพยายามที่จะดิ้นแต่เขาแข็งแรงเกินไป"ถิงถิง อย่าโกรธนะฟังกันก่อนได้ไหมคนดีของข้า""ท่านชอบเอาแต่ใจบังคับข่มเหงคนอื่นจนเป็นนิสัยหรือไงชินอ๋อง ปล่อยข้านะ""คุยกันก่อนนะคนดี คุยแล้วเจ้ายังไม่ให้อภัยข้าจะไม่ว่าแต่ขอโอกาสได้ไหม""ข้าไม่อยากฟัง ปล่อยข้านะ"ซ่างกวนหลิวหยางพลิกนางให้หันมาเผชิญหน้าก่อนก้มลงจูบนางอย่าโหยหา หลี่ว่านถิงทุบอกเขาประท้วงแต่เขาไม่ยอมหยุด จุมพิตนางจนหลี่ว่านถิงเกือบขาดอากาศหายใจ เขาจึงยอมปล่อยเพี๊ยะ!!หน้าของคนตัวโตหันไปตามแรงตบ หลี่ว่านถิงน้ำตาคลอ"ท่านยังคงกักขฬะ หยาบคายเอาแต่ใจ ชินอ๋องข้าเกลียดท่าน ปล่อยข้า""แต่ข้ารักเจ้า ไม่ปล่อยข้าไม่ปล่อยจนกว่าจะคุยกันรู้เรื่อง ถิงถิงเจ้าไร