รอตอนพิเศษกันนะคะ เขียนช้าหน่อยแต่อัพแน่นอน
ตื๊ดดดดดดดเสียงมือถือดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง โจวหว่านถิงงัวเงียควานหามือถือบนหัวเตียง ก่อนจะกดรับสาย"ฮัลโหล อืมอาหงเหรอ มีอะไรง่วงอยู่ ห๊ะ!! จริงเหรอเครๆขออาบน้ำแป๊บอีกชั่วโมงเจอกัน"โจวหว่านถิงเป็นดีไซเนอร์สมัครเล่น งานประจำคือเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนเล็กๆแห่งหนึ่งและเพิ่งถูกไล่ออกเพราะไปต่อยลูกชายเจ้าของบริษัทที่มาทำอนาจารจับนมเธอ เนื่องจากตกงานพี่ชายจึงมารับแม่ไปอยู่ด้วยเพราะพี่สะใภ้คลอดพอดีจะได้ช่วยเลี้ยงหลานโจวหว่านถิงจึงหาเรื่องผ่อนคลายเพราะเธอได้เงินจากการออกแบบชุดราตรีสั้นและเครื่องประดับยกเซ็ท ก่อนจะกลับมาลุยหางานใหม่ทีหลัง เธอเพิ่งจะอายุยี่สิบแปด ยังมีความสามารถมากมายที่เข้าตาบริษัทชั้นนำตอนแรกว่ารีแลกซ์บินไปเที่ยวพม่าสักสามวันและข้ามมาเที่ยวและพักยาวๆที่เมืองไทยสักเดือนนึง แต่กลับได้ทริปเรือสำราญฟรีๆก็เอาสิ ค่าตั๋วไม่ใช่ถูกๆ ไปล่องเรือดีกว่า มีเงินเก็บอยู่แปดแสนหยวน ได้มาอีกสองแสนเที่ยวให้ลืมทุกข์ไปเลย เผื่อจะได้ผู้ชายสักคนมาตกล่องปล่องชิ้นสามวันต่อมาโจวหว่านถิงกับบหลี่หงก็มาถึงโรงแรมที่พัก พรุ่งนี้ต้องขึ้นเรือแล้วทั้งสองคนตื่นเต้นไม่น้อย ก่อนจะพากันเข้าโรงแรม"นี่เสี
เสียงทรงอำนาจเรียกชื่อเธอดังลั่น อีกครั้งเพราะเธเอไม่ได้สนใจเขา แต่น้ำเสียงไม่เป็นนมิตรเท่าที่ควร โจวหว่านถิงจึงหันมาดู พอหันหน้ามาก็เห็นแต่คนแต่งชุดโบราณเต็มไปหมดมีทั้งผู้หญิง มีทั้งผู้ชาย แปลว่าเธอทะลุมิติมาจริงๆ วิญญาณมาอาศัยร่างคนอื่นงั้นหรือ ท้องฟ้ายามค่ำคืนในยุคโบราณนั้นมืดมิดจริงๆมีโคมไฟห้อยอยู่เต็มไปหมด จะว่าสวยก็สวย แต่ตอนนี้เธอไม่ไหวแล้ว กระแสน้ำใต้ล่างทำให้ร่างนี้กำลังป่วย ฮัดเช้ยๆๆผู้ชายที่เรียกชื่อเธอคือสามีสารเลวของเจ้าของร่างนี้ คนที่เตะนางในคืนแต่งงานจนกระอักเลือด เขาเกลียดเจ้าของร่างนี้ที่วัยเยาว์ผลักคนรักตอนเด็กของเขาตกน้ำจนนางป่วยตาย แต่จากความทรงจำของร่างนี้ วันนั้นนางไม่ได้อยู่ที่นั่นนี่นา"โจวหว่านถิง เจ้ามันสตรีร้อยเล่ห์ข้าคิดถูกที่หย่ากับเจ้า"ซ่างกวนหลิวหยางเอ่ยแก่สตรีที่เพิ่งว่ายน้ำเข้าฝั่งมา เขานั่งลงใช้มือที่หนาบีบคางนางก่อนจะเอ่ยลอดไรฟัน"ข้าจะแต่งกับโจวลิ่วผิงน้องสาวเจ้า แม้ว่านางจะเป็นเพียงบุตรอนุก็ยังดีกว่าสตรีร้ายกาจเช่นเจ้า เทียบกับน้องสาวเจ้าๆ นับเป็นตัวอะไร ผู้หญิงใจง่าย อยากปีนขึ้นเตียงข้าไม่ส่องดูสารรูปเจ้าในกระโถนเสียเล่าโจวหว่านถิง"โจวหว่านถ
ไม่นานก็ต้องตื่นเพราะมีมือมากระชากร่างนาง ซ่างกวนหลิวหยางนั่งรอเยาะเย้านางอยู่ที่ห้องหนังสือเขารอให้นางมาคุกเข่าขอร้อง แต่คนของเขากลับอกว่านางเช่าโรงเตี้ยมนอนไม่กลับจวน ทำให้เขาโมโหจนต้องมาตามเอง"โจวหว่านถิง จะเล่นแมวจับหนูกับข้าหรือ พรุ่งนี้เจ้าเก็บข้าวของแล้วออกจากจวนข้าไปซะ แต่วันนี้เจ้าต้องกลับเดี๋ยวนี้ อยากให้คนทั้งเมืองหลวงหัวเราะเยาะข้าใช่ไหม จึงไม่กลับบ้านห๊ะ"โจวหว่านถิงโงนเงน นางตัวร้อนเพราะพิษไข้มองหน้าคนที่บีบแขนนางอยู่ก็นึกได้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในแคว้นที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อาจเป็นที่ไหนสักที่บนโลกใบนี้ แต่ไม่ไหวแล้วจากนั้นก็ทรุดลงซ่างกวนหลิวหยางถึงกับตกใจโอบร่างบอบบางไว้ด้วยสัญชาตญาน นางตัวร้อนมากเลย มีชามยาวางไว้ แปลว่านางเรียกหมอมาตรวจแล้ว"อาฝู ไปเตรียมรถม้าส่วนเด็กคนนี้เจ้าอุ้มนางไปด้วย หลับเป็นตายเยี่ยงนี้ยังกล้ามาค้างอ้างแรมข้างนอก"จากนั้นก็อุ้มร่างที่สลบสไลของโจวหว่านถิงกลับจวนอ๋องทันที ซ่างกวนหลิวหยางอุ้มร่างบบางไว้แนบอก รถม้าคันนี้เล็กไม่สามารถให้นางนอนได้กลิ่นกายของนางทำให้เขาคิดถึงเรื่องคืนนั้น แม้จะถูกนางวางยา แต่เขาก็ยอมรับว่าเขาสุขสมยิ่งนัก ฤทธิ์ยาปลุ
ยามเหมาโจวหว่านถิงตื่นแล้วกำลังคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาก็ทำใจยอมรับแล้วว่าตนเองทะลุมิติมาในยุคโบราณ ที่นี่คือแคว้นต้าเย่วเหมือนในประวัติศาสตร์ไม่มีนะเป็น โลกคู่ขนานหรือ เฮ้อเอาอย่างไรดีในท้องมีอีกหนึ่งชีวิต แถมพ่อของเด็กก็เป็นคนที่ใช้ไม่ได้สารเลวที่สุดไม่รู้ว่าโกรธแค้นอะไรกันมากมาย แค่เด็กผู้หญิงคนนึงตกน้ำแล้วป่วยตาย ใครเป็นคนผลักยังไม่รู้เลยโจวหว่านถิงยังคงมีไข้อยู่จึงได้พยายามลูกขึ้นหาผ้าเช็ดตัวเพื่อลดไข้ เสี่ยวชุ่ยตื่นมางัวเงียๆก็ตกใจ จำได้ว่าพวกนางนอนที่โรงเตี้ยมนี่ แล้วมาอยู่เรือนร้างหลังจวนได้อย่างไรกัน"พระชายาๆ พวกเรามาได้อย่างไรเพคะ เมื่อคืนเรานอนที่โรงเตี้ยมมิใช่หรือ คงไม่ใช่ผีหลอกนะเจ้าคะ""ไม่ใช่หรอก เป็นซ่างกวนหลิวหยางคนสารเลวนั่นไปตามข้ากลับบ้านน่ะ ช่างเป็นอ่องสุนัขจริงๆ คนคงไม่ทำตัวสารเลวได้ถึงเพียงนี้หรอก เจ้าไปล้างหน้าล้างตาเถอะ ข้าจำได้ว่ามุมรั้วมีเถามันกับเถาฝักทองอยู่ ข้าจะกินแต่น้ำข้าวทุกวันไม่ได้ ไม่งั้นต่อให้ไม่ป่วยตายก็อดตาย"ตั้งแต่ร่างเดิมแต่งเข้ามาวันแรกก็ถูกซ่างกวนหลิวหยางทรมานทุกวัน สั่งบ่าวให้ส่งข้าวให้นางแค่วันเว้นวันอีกทั้งยังให้นางกินแค่วันละมื
สาวใช้ยืนตัวตรงไม่ยอมฟังคำสั่งนาง คนหนึ่งเป็นคนของจวนอ๋อง ส่วนอีกคนเป็นสาวใช้ส่วนตัวของโจวลิ่วผิง พวกนางยิ้มเยาะทันทีที่เห็นซ่างกวนหลิวหยางไม่เอ่ยสิ่งใด ก็แค่พระชายาที่มีแต่ชื่อ ไม่ได้มีอำนาจมีอะไรให้กลัวกันโจวหว่านถิงยิ้มหวานให้ซ่างกวนหลิวหยาง อีกทั้งยิ้มหวานให้อาฝู จนอาฝูใจคอไม่ดียิ้มแบบนี้เหมือนกับว่าอันตรายกำลังจะมาเยือนใครสักคนไม่ทันที่อาฝูจะรู้ตัวกระบี่จากเอวอาฝูก็ถูกโจวหว่าถิงชักออกมา ก่อนจะตวัดไปที่ขาสองข้างของสาวใช้ทั้งสองคน พวกนางล้มลงทันที เลือดไหลนองชุ่มพื้น ส่งเสียงโหยหวนออกมาซ่างกวนหลิวหยางตกใจอย่างยิ่ง จึงเข้าตรงแย่งกระบี่จากนางแต่ไม่ทัน โจวหว่านถิงตวัดกระบี่อีกสองครั้ง มือข้างที่ใช้ตบเสี่ยวชุยของสองคนนั้นถูกตัดขาดกระเด็นทันทีสาวใช้ทั้งสองเจ็บปวดระคนตกใจจนสลบไป โจวลิ่วผิงเดินถอยหลัง ตอนนี้โจวหว่านถิงเป็นบ้าไปแล้ว ท่านอ๋องยังหยุดนางไม่ได้เลย"เจ้าจะทำอะไร อย่าเข้ามานะไม่เช่นนั้นหากท่านอ๋องหย่าเจ้าแล้วจวนโจวไม่มีทางเอาเจ้าไว้แน่ๆ หากยังอยากมีที่ไปอย่าทำอะไรโง่ๆนะโจวหว่านถิงโจวหว่านถิงไม่ได้ฟังที่โจวลิ่วผิงพูดสักคำ นางตวัดปลายกระบี่ใส่ใบหน้างามทันที แต่ครั้งนี้ซ่างกวน
เสี่ยวชุ่ยกลับมาแล้ว ซ่างกวนหลิวหยางตื่นขึ้นมา ก็พบว่านางดิ้นหันหน้ามาทางเขา มือบางกอดเอวหนาของเขาเอาไว้ ซ่างกวนหลิวหยางหักใจที่จะไม่จูบปากจิ้มลิ้มนั่น สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหวก้มลงจุมพิตนาง โจวหว่านถิงกำลังฝันว่าเจ้าชิโรเลียหน้านางอยู่จึงผลักออกก่อนจะดุ" อย่าดื้อสิ ไม่งั้นจะตีให้ตายเลย"จากนั้นก็พลิกตัวหันหลัง เสี่ยวชุ่ยเข้ามาพอดี ซ่างกวนหลิวหยางก็รีบดีดตนเองมานั่งที่โต๊ะแล้วในมือถือหนังสืออยู่ทำท่าว่ากำลังอ่าน เห็นสาวใช้ของนางจ้องมองเขาจึงแปลกใจ"เจ้ามองหน้าข้าทำไม สาวใช้อย่างเจ้ากล้ามองหน้าอ๋องอย่างข้าตรงๆ ไม่กลัวถูกลงโทษหรือไง""บ่าวไม่กล้าเพคะ แค่อดทึ่งในความสามารถของท่านอ๋องไม่ได้ ท่านอ๋องทรงเก่งกาจยิ่งนัก ขนาดอ่านหนังสือกลับหัวได้ มิน่าคนถึงกล่าวว่าพระองค์เป็นอัจริยะเพคะ"ซ่างกวนหลิวหยางหน้าแดง เด็กบ้านี่เขาจึงวางหนังสือลงจากนั้นก็สบัดแขนเสื้อเดินจากไปไม่ใยดีพวกนางสักนิดอาฝูมารายงานว่าทางสกุลโจวต้องการพบโจวหว่านถิงที่ทำให้ใบหน้าของบุตรสาวต้องเป็นรอย ส่วนสาวใช้ของนางกับสาวใช้ของจวนอ๋องคนนั้นอาฝูจัดการให้เงินครอบครัวพวกนางไปแล้ว แต่ซ่างกวนหลิวหยางบอกให้ส่งของขวัญไปสกุลโจวเป็นการขอโ
เกือบสองเดือนแล้วที่โจวหว่านถิงกับเสี่ยวชุ่ยลงเรือมาถึงเมืองตงหลิง อีกไม่นานเท่าไหร่ก็จะถึงเมืองผิงอันแล้ว เท่าที่สอบถามคนที่เดินทางด้วยกันจากท่าเรือไปตำบลซานซานให้เวลาอีกสามวันและจากตัวตำบลเข้าหมู่บ้านเสวียนหยางต้องใช้เวลาอีกหนึ่งชั่วยามเสี่ยวชุ่นรู้แล้วว่าเจ้านายตั้งครรถ์ ตอนนี้ครรภ์นางใหญ่มากแล้วคนที่อยู่บนเรือต่างก็จิตใจดี คอยช่วยเหลือพวกนางตลอดเวลา ตอนนี่เสี่ยวชุยเรียกนางว่าพี่ใหญ่ ไม่มีฐานะนายบ่าวอีกต่อไป"พี่ใหญ่อีกสองวันเรือก็เทียนบท่าแล้วนะเจ้าคะ ท่านบอกว่าท่านแม่ทิ้งที่ดินและบ้านเอวไว้ให้ แต่ว่ามันก็สิบปีแล้วมิทรุดโทรมจนอาศัยไม่ได้แล้วหรือเจ้าคะ""ไม่เป็นไรหรอกเสี่ยวชุย อย่างน้อยก็มีที่ดินจ้างคนซ่อมแซมเอาก็ได้หลังจากคลอดแล้วข้ายังมีลู่ทางหาเงินได้อีก ข้าตัดเย็บเก่งสามารถออกแบบลายผ้าได้เจ้าก็รู้ แม่ว่าไม่มีคนร่ำรวยมากมายเช่นเมืองหลวงแต่สตรีไม่วง่าอย่างไรก็ชอบแต่งตัว หากข้าขายไม่แพงนักพวกนางคงอยากซื้อหา ตอนนี้ขอเพียงไปถึงหมู่บ้านเสวียนหยางไวๆก็พอ""คนผู้นั้นช่างใจร้ายนัก วันแต่งยังทำร้ายท่านข้าไม่เข้าใจ เหตุใดถึงพูดชื่อของชิงเสี่ยวหว่านไม่ได้เจ้าคะ เขากล้าเตะท่านได้อย่างไรกัน
เมืองผิงอัน โจวหว่านถิงมาถึงเมืองผิงอันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นางพักอยู่โรงเตี้ยมพรุ่งนี้จะเข้าตำบลซานซานก่อนจะเดินทางไปหมู่บ้านเสวียนหยาง เสี่ยวชุ่ยนอนหลับไปแล้วตอนนี้เงินที่เอาปิ่นกับกำไลหยกไปขายเหลืออยู่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบตำลึง โจวหว่านถิงอยากหาเงินสักก้อนก่อนไปหมู่บ้านเสวียนหยางจึงนั่งวาดรูปออกแบบเสื้อผ้าสามชุด เป็นชุดจีนประยุคที่ไม่โป้เกินไปแต่ดูทันสมัย ไม่เกะกะรุ่มร่ามเวลาเดินเหินหรือทำงานเสี่ยวชุ่ยที่กำลังจัดที่นอนเหลือเห็นชุดที่เจ้านายออกแบบก็อดทึ้งไม่ได้ช่างสวยงามเหลือเกินจริงๆ ยิ่งตอนที่นางลงสีเสร็จแล้วยิ่งสวย"เสี่ยวชุยเสร็จหรือยัง พวกเราไปเดินในตลาดในเมืองสักรอบเถอะ ลองหาเงินสักหน่อย หากว่าสามารถขายแบบเสื้อผ้าสามชุดนี้ได้เราจะได้มีทุนเพิ่มในการตั้งตัวอีก"โจวหว่านถิงไม่ต้องการเบิกเงินที่มารดาเก็บไว้ให้ เพราะนางอยากเก็บเอาไว้เวลาที่คลอดลูกต้องอยู่เดือนไม่สามารถทำอะไรได้ไม่นายสองนายบ่าวก็เดินมาถึงร้านขายผ้า โจวหว่านถิงยืนสังเกตุร้านผ้าในตรอก สังเกตุวิธีการต้อนรับลูกค้า สังเกตุจากการพูดคุยกับลูกค้า การไม่เลือกปฏิบัติร้านใหญ่มีคนเข้าออกมากมายนัก ล้วนแต่เป็นคุณหนูทั้งนั้น ส่วนร้
หลังจากทุกอย่าางเรียบร้อยก็ถึงเวลาที่เข้าไปหาหลี่ว่านถิงได้แล้ว คู่แฝดใบหน้าคล้ายกับมารดากับบิดาผสมกันมากเหลือเกินจมูกที่รั้นเหมือนมารดา คิ้วที่ดูหนาเจ้าอารมณ์เหมือนบิดา ปากน้อยๆนั่นคนหนึ่งเหมือนหลี่ว่านถิง อีกคนคล้ายซ่างกวนหลิวหยาง พวกเขาได้พ่อกับแม่มาคนละนิดละหน่อย ใบหน้าช่างน่ารักยิ่งนักหลี่ว่านถิงหยิบป้ายหยกของท่านพ่อใส่ห่อผ้าของคนที่จมูกและปากคล้ายนางมากที่สุด ซ่างกวนหลิวหยางรู้ทันทีว่านั้นคือคนเล็ก ป้ายห้อยเอวของเขาจึงถูกใส่ห่อผ้าที่ห่อบุตรชายคนโตเอาไว้ซ่างกวนหลิวหยางแนบหน้าผากของตนกับหน้าผากของนาง ก่อนจะเปิดโอกาสให้บรรดาแม่นมมาเตรียมวามพร้อมในการอยู่เดือนของนางหลังจากพระชายาคลอดบุตรชายชาวเมืองทั้งแปดมณฑลก็ดีใจ ชินอ๋องละเว้นภาษีให้พวกเขาห้าปี โดยภาษีที่ต้องจ่ายให้ราชสำนักทั้งหมด ตำหนักอ๋องจะรับผิดชอบเองห้าเดือนต่อมาได้รับข่าวว่าฮองเฮาเองก็คลอดพระโอรสและพระธิดาในครั้งเดียว หลี่ว่านถิงนึกขำในใจ คงเพราะเป็นกรรมพันธ์ ซ่างกวนหลิวหยางกับฮ่องเต้เป็นคู่แฝดกัน พอมีลูกก็ได้แต่ลูกแฝดซ่างกวนหลิวหยางที่กำลังคลุกเคล้าอยู่กับกลีบดอกไม้แสนหวานของหลี่ว่านถิงนางทำได้แค่เพียงจับศีรษะเขาแน่น
หลังจากประกาศแต่งตั้งฮองเฮาเรียบร้อยแล้ว ซ่างกวนหลิวหยางก็เตรียมออกเดินทางไปยังดินแดนตะวันออก หลี่ว่านถิงกำลังสั่งงานบ่าวไพร่ ป้าสวีเป็นบ่าวในเรือนที่ไม่เคยรังแกนางสักครั้งนับแต่นางแต่งเข้ามาจวนอ๋อง ทั้งๆที่หลายๆคนรังเกียจนางส่วนแม่ครัวหม่าที่มักเอาของเหลือมาโยนให้นางกับเสี่ยวชุ่ยประจำตอนที่ร่างเดิมยังอยู่ที่นี่ถูกหลี่ว่านถิงขายออกไป ตอนนี้บ่าวไพร่กำลังคุกเข่าฟังคำสั่งนาง"ป้าสวี จากนี้ไปท่านรับผิดชอบเรื่องในจวนทั้งหมด มีเรื่องอันใดให้ปรึกษาอาเต๋อ ส่วนป้าจงท่านรับหน้าที่เรื่องในครัว เดิมทีข้าอยากพาทุกคนไปด้วย แต่เนื่องจากทางนั้นยังไม่เรียบร้อย เอาเป็นว่าเมื่อไหร่ที่เข้าที่เข้าทางข้าจะส่งข่าวให้พวกเจ้า""เพคะพระชายา/พ่ะย่ะค่ะพระชายา"บ่าวไพร่รับคำสั่งก่อนที่หลี่ว่านถิงจะลุกขึ้น ซ่างกวนหลิวหยางก้มาถึง เขาช้อนอุ้มนางขึ้นมาจนหลี่ว่านถิงดุเขาเบาๆ"ท่านอ๋อง ต่อหน้าบ่าวไพร่หม่อมฉันเดินเองได้เพคะ""กลัวอะไร พี่รักเจ้าทุกคืนจนพวกเขาชินแล้วแค่อุ้มเจ้าไม่ใช่ปัญหาหรอก""ท่านนี่นะหน้าหนานักเชียว"ซ่างกวนหลิวหยางอุ้มหลี่ว่านถิงมานั่งที่โต๊ะอาหาร จากนั้นก็อุ้มคู่แฝดคนละข้างมานั่งตักก่อนจะป้อนข้าวให
รุ่งเช้าเหล่าทหารต่างตีฆ้องร้องป่าว เพื่อเฉลิมฉลองที่วันนี้จะประกาศราชโองการแต่งตั้งฮองเอาพร้อมกับข่าวดีที่ว่าฮองเฮากำลังทรงพระครรภ์ซ่างกวนหลิวหยางและหลี่ว่านถิงแต่ชุดเข้าเฝ้าเรียบร้อยแล้ว วันนี้คู่แฝดอยู่จวนเพราะว่าเป็นงานราชพิธี อาจจะทำให้เด็กทั้งสองเบื่อหน่าย อาจจะงอแงอีกด้วย เมื่อถึงเวลาทั้งสองก็ออกจากจวนเดินทางเข้าวังหลวง หลี่ว่านถิงไปหาหลี่ไฉ่หงก่อนเพื่อพุดคุย"พี่ว่านถิง ข้าคิดถึงท่านที่สุดเลย เหตุใดท่านมาหาข้าบ่อยๆไม่ได้เล่า""พระสนม ทรงโตแล้วนะเพคะ จะมางอแงไม่ได้อีกหน่อยต้องปกครองวังหลังต้องเข้มแข็งและหนักแน่น อีกเจ็ดวันหม่อมฉันจะไปดินแดนตะวันออกแล้ว ทรงอยู่ทางนี้หากมีเรื่องอันใดก็เรียกหาพี่หลิงหลิงนะเพคะ""แต่ข้าคิดถึงท่านนี่ หรือว่าบอกท่านอาหย่ง เอ่อ บอกฝ่าบาทว่าพี่เขยไม่ต้องไปดินแดนตะวันออกแล้วดีหรือไม่"หลี่ไฉ่หงเริ่มงอแง นางมาที่นี่นอกจากหลี่ว่านถิง ฟ่านหลิงหลิงแล้วนางไม่รู้จักใครเลย ฮ่องเต้กำลังจะเรียกเหลียนจางหมิ่นมารับตำแหน่งที่เมืองหลวง พี่สาวนางหลี่ไฉ่เหยียนจะได้มาด้วย แต่นั่นอีกตั้งหกเดือนฟ่านหลิงหลิงที่ใกล้คลอดเต็มทีพยุงครรภ์ใกล้คลอดเดินมาหาก่อนจะเอ่ย"พระสนม อ
ซ่างกวนหลิวหยางโอบไหล่มนเอาไว้ ก่อนจะจุมพิตหน้าผากนาง"เจ้าไม่โกรธเกลียดนาง อีกทั้งยังให้อภัยน้องหญิงไม่กลัวว่าวันหน้านางจะหันกลับมาทำร้ายเจ้าหรือ""นางไม่ได้เลวร้ายโดยเนื้อแท้ หลังจากที่หม่อมฉันจำทุกอย่างได้ ทั้งจวนมีเพียงนางที่ดีต่อท่านแม่ นางมักแอบเอาของกิน แอบเอาถ่านไม้ หรือผ้าห่มมาให้เสมอ อย่างที่นางบอกนางคิดว่าท่านแม่ทอดทิ้งนาง สกุลโจวให้ความสนใจเพียงโจวจื่อทงเท่านั้น หม่อมฉันกับนางไม่ต่างกันผิดแค่หม่อมฉันมีท่านคอยปกป้อง แต่นางไม่มีใครเลย กลับกันเถอะเพคะวันนี้ต้องเขาวังไปร่วมงานเลี้ยงฉลองที่ไฉ่หงตั้งครรภ์""อืม ไปเถอะ"ซ่างกวนหลิวหยางช้อนอุ้มร่างบางที่ตอนนี้หน้าท้องเริ่มนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจน นางตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว ว่างกวนหลิวหยางรับราชโองการไปปกครองดินแดนตะวันออกเรียบร้อยแล้ว คู่แฝดถูกแต่งตั้งเป็นองค์หญิงเพราะเป็นบุตรีคู่แรกที่กำเนิดในราชสกุลซ่างกวนปลายยามโหย่ว รถม้าก็มาถึงวังหลวง งานเลี้ยงกำลังจะเริ่ม มีโคมไฟประดับประดามากมาย ด้านหน้าที่นั่งของเหล่าขุนนางทั้งหลายมีอาหารหลากหลาย บางอย่างล้วนแปลกใหม่ พระชายาชินอ๋องทรงเป็นผู้บุกเบิกอาหารเหล่านั้น ตอนนี้หลายอย่างกำลังนิย
มาถึงเมืองหลวงได้เกือบเดือนแล้ว หลี่ว่านถิงที่ตอนนี้อยู่ที่จวนสกุลโจว บรรดาครอบครัวเดิมของสกุลโจวถูกเนรเทศไปจนหมด แม้กระทั่งบ่าวไพร่ก็เช่นกันถูกขายออกไป คนที่สอบแล้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ให้เป็นทาสหลวงหลี่ว่านถิงมองคนงานก่อสร้างกำลังรื้อป้ายจวนออก ต้นไม้บางต้นนางสั่งให้โค่นทิ้ง เรือนเล็กด้านหลังที่หลี่ว่านถิงเคยอยู่นางปรับปรุง ปิดประตูเล็กกั้นออกจากเรือนหลักหลี่ว่าถิงสั่งบ่าวไพร่ที่ตามมาให้ไปจัดการข้าวของในจวน ก่อนที่ตนเองจะเดินไปยังเรือนหลังเล็ก สตรีนางหนึ่งนั่งเหม่ออยู่ที่ศาลาริมน้ำ"เพ่ยเพ่ย ไปเฝ้าด้านหน้าอย่าให้ใครเข้ามา""เพคะพระชายา"สาวใช้คนใหม่รับคำสั่งก่อนจะปิดประตูเชื่อมเรือนหลักลง แล้วยืนเฝ้าที่ประตู หลี่ว่านถิงเดินไปจนถึงร่างผอมบางที่นั่งเหม่อมองไปด้านหน้า บุรุษนึงกำลังเช็ดใบหน้าให้นางอย่างถนอม เขารักนางมากตลอดเวลาแต่นางกลับมองไม่เห็นความรักนั้น ถูกใช้เป็นเครื่องมือจนกลายเป็นเช่นนี้"คุณหนูโจว ไม่พบกันเสียนานระหว่างเรามีหลายเรื่องให้พูดคุย ข้าจะไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว แต่จะถามเจ้าว่าอยากอยู่หรืออยากไป"โจวลิ่วผิงหันหน้ามาตามเสียง ก่อนจะเมินไม่ตอบคำถามนาง หลี่ว่านถิงไ
ยามอิ๋นหลี่ว่านถิงตื่นขึ้นมา ยังจำความฝันได้ดี เธอมองหน้าซ่างกวนหลิวหยาง มือบางลูบไล้ใบหน้าของเขา ซ่างกวนหลิวหยางลืมตาจับมือนางเอาไว้มาแนบอก“เป็นอะไรเด็กดีของพี่ นอนไม่หลับหรือ”ซ่างกวนหลิบหยางลูบหลังเบาๆ หลี่ว่านถิงกระเถิบตัวเข้าหาเขาอีก ซ่างกวนหลิวหยางกระขับอ้อมกอด“น้องหญิงเจ้าหนาวหรือ พี่เพิ่มผ้าห่มอีกดีไหม หรือเพิ่มถ่านในเตาอุ่นดี”“พี่หลิวหยาง โจวหว่านถิงนางไปแล้วเพคะ ครั้งนี้นางไปจริงๆ แล้ว”“หืม ฝันเห็นนางหรือ นางมาบอกว่าอย่างไร”“นางบอกขอบคุณที่หม่อมฉันรักท่าน ขอบคุณที่ยอมรับคู่แฝด นางไปเกิดเป็นบุตรสาวของพี่สะใภ้หม่อมฉันเพคะ คุณแม่อยากได้หลานสาวสักคนตอนนี้สมหวังแล้ว เพราะพี่ชายหม่อมฉันมีบุตรชายแล้วสามคน ไม่มีบุตรสาวเลย”“เป็นเช่นนี้ พี่จะได้สบายใจสักที”“จริงสิหม่อมฉันรู้สึกเหมือนทุกคืนท่านนอนไม่ค่อยหลับนะเพคะ”“พี่เคยรักโจวหว่านถิง แต่กลิ่นกายเจ้าแปลกไปตั้งแต่ขึ้นมาจากทะเลสาบ พี่รู้ว่าเจ้าความจำเสื่อมจึงไม่คิดมาก จนกระทั่งพี่หาเจ้าเจอ พี่เอาเปรียบเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่าจนแน่ใจแล้วว่าเจ้าไม่ใช่นางจริงๆ ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะเจ้าจำพี่ไม่ได้แต่เป้นอีกคน จนกระทั่งนางมาเข้าฝันว่านางเ
หมู่บ้านเสวียนหยางที่คึกคักจากงานแต่งงานตอนนี้เงียบสงัด มีเพียงโคมไฟที่ห้อยไปมา ส่องแสงสว่างให้ความรู้สึกสวยงาม สองพี่น้องสกุลฉู่ยืนกอดอกมองไปยังทางบ้านของหลี่ว่านถิง นางคือบุตรสาวของนายท่านยังมีสองเด็กน้อยที่พวกเขาต้องติดตามซ่างกวนหนิงเซียนและซ่างกวนหนิงฮวาอีกด้วยฉู่เหอหนานมองหน้าพี่ชายก่อนจะพากันหายไปในความมืด พวกเขาคือคนของพรรคไร้เงา จะออกมาเวลาเจ้านายมีภัยเท่านั้น ตอนนี้เจ้านายมีความสุขดีพวกเขาจึงเร้นกายรุ่งเช้า ชาวบ้านช่วยกันเก็บกวาดโต๊ะงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ ซ่างกวนหย่งเฉิงที่ไม่ยอมออกจากห้องหอจนซ่างกวนหลิวหยางอ่อนใจกับพี่ชาย จากนั้นซ่างกวนหลิวหยางก็ไปหาแม่ทัพใหญ่เพื่อพูดคุยเรื่องกลับเมืองหลวงสรุปว่าอีกครึ่งเดือนจะเดินทาง ตอนนี้ต่อรถม้าอย่าดีให้บรรดาภรรยาของพวกเขาก่อน ซ่างกวนหลิวหยางไปยังบ้านยของถังฮ่าวหรานเพื่อส่งมอบบัญชีของร้านผ้า อีกทั้งแบบลายใหม่ๆ ที่ทางสกุลถังจะสามารถใช้ได้ถึงสองปี หากออกแบบตามที่หลี่ว่านถิงบอก“ทุกสามเดือนค่อยออกงานชุดใหม่หนึ่งครั้ง นี่เป็นสี่งที่ถิงถิงบอก ฮ่าวหรานเจ้าจะไปหาข้าที่ดินแดนตะวันออกหรือไม่ ข้าจะกลับเมืองหลวงไปส่งเสด็จพี่เพื่อรับราชโองการแล้วอ
คู่แฝดไม่ได้นอนกับบิดาและมารดา เพราะมารดาต้องตื่นแต่เช้าพวกนางเป็นเด็กรู้ความจึงนอนกับแม่นมที่เสด็จพ่อประทานมาให้ทั้งสองคนหลับไปแล้ว อยู่ๆ หลี่ว่านถิงก็ฝันนางฝันเห็นคุณแม่กับพี่ชายและหลี่หงเพื่อนสนิท อยู่กลางทะเลพวกเขากำลังโปรยดอกไม้ให้เธอ แม่กับพี่ชายพาพี่สะใภ้กับหลานมาด้วย“อาเกี้ยวหนูจากพวกเราไปห้าปีแล้วนะ ตอนนี้พี่ชายหนูเป็นเจ้าของบริษัทมีกิจการเป็นของตัวเองแล้ว อีกทั้งยังมีหลานสาวให้แม่เพิ่มพี่สะใภ้หนูใกล้คลอดแล้วนะไม่รู้ว่าหลานสาวคนนี้เป็นหนูมาเกิดหรือเปล่า แต่แม่อยากให้เป็นหนูมาเกิดจริงๆ”“นี่ยายเกี้ยว ขอบใจเธอมากนะเงินสองแสนที่เธอโอนให้ฉัน มันทำให้ฉันลืมตาอ้าปากได้ ตอนนี้ฉันเปิดบริษัทออกแบบเสื้อผ้าแบรนด์ดืของตัวเอง มีลูกค้ามากมาย ยายเกี้ยวฉันกำลังจะแต่งงานกับคุณอาหยวนน้องชายคุณพ่อของเธอนะ คือตอนนี้ฉันกำลังมีเบบี๋แล้วด้วย เธอสบายดีนะ”พวกเขาพูดคุยกับเธอ หลี่ว่านถิงที่กำลังฝันอยู่ก็ร้องไห้ออกมา พวกเขาต่างมีชีวิตที่ดี แม่ต้องลำบากแล้ว พี่ชายสามารถยืนหยัดได้แล้ว ที่น่าขันคือหลี่หงกับเสี่ยวชุ่ยที่เหมือนกันราวกับแกะ หลี่หงแต่งงานกับคุณอา ส่วนเสี่ยวชุ่ยก็แต่งงานกับท่านหมอหยวนที่ใบหน
นอนคุยกันสักพักก็ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้ว บิดายังไม่ทันจะลุกซ่างกวนหนิงฮวาก็โถมมาใส่กอดเขาแน่นกระเง้ากระงอดออดอ้อน"เสด็จพ่อเพคะ ท่านอาอาฝูใจร้ายนัก ลูกไม่อยากเห็นหน้าเขาแล้วเพคะ""หื้ม ท่านอาทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจบอกพ่อสิเด็กดี"ซ่างกวนหนิงเซียนกลอกตาบน ก่อนจะเดินมานั่งที่เก้าอี้กลางห้องเอ่ยเสียงเรียบๆ กับน้องสาว"น้องเล็กอย่าชิงฟ้อง เรื่องที่ท่านอาห้ามนั่นถูกต้องแล้ว""พี่ใหญ่เจ้าคะข้าอยากไปนี่"ซ่างกวนหลิวหยางได้ยินแล้ว คนของเขารายงานว่าอาฝูไม่ยอมพาเจ้าตัวเล็กไปบ่อน วันนี้มีบ่อนเปิดใหม่ซ่างกวนหนิงฮวาอยากไปเสี่ยงดวงว่าตนเองมือขึ้นหรือไม่จึงมางอแงเอากับเขา เฮ้อนางเพิ่งจะห้าขวบ เสด็จพ่อสอนหลานเช่นไรกันถึงได้นิสัยนักพนันมาเช่นนี้"ฮวาเอ๋อร์การพนันเป็นสิ่งไม่ดี ลูกยังเด็กไม่สมควรไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขพวกนี้ ไปเล่นกับเด็กวัยเดียวกันหรือไม่ก็ไปเดินเล่นในตำบลดีหรือไม่""แต่ลูกอยากไปศึกษาเผื่ออนาคตลูกเป็นเจ้าของบ่อนพนันจะได้รู้ทันนักเสี่ยงโชคไงเพคะ หากเจอคนโกงเก่งๆ แบบเสด็จปู่ลูกขาดทุนพอดี"ซ่างกวนหนิงฮวานิ่งสักพักทำท่านใช้ความคิดจนมารดาต้องลุกขึ้นมานั่งก่อนจะบีบแก้มน้อยๆของนาง จนปากยู่“อื้อ อะ