เสี่ยวชุ่ยกลับมาแล้ว ซ่างกวนหลิวหยางตื่นขึ้นมา ก็พบว่านางดิ้นหันหน้ามาทางเขา มือบางกอดเอวหนาของเขาเอาไว้ ซ่างกวนหลิวหยางหักใจที่จะไม่จูบปากจิ้มลิ้มนั่น สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหวก้มลงจุมพิตนาง โจวหว่านถิงกำลังฝันว่าเจ้าชิโรเลียหน้านางอยู่จึงผลักออกก่อนจะดุ
" อย่าดื้อสิ ไม่งั้นจะตีให้ตายเลย"
จากนั้นก็พลิกตัวหันหลัง เสี่ยวชุ่ยเข้ามาพอดี ซ่างกวนหลิวหยางก็รีบดีดตนเองมานั่งที่โต๊ะแล้วในมือถือหนังสืออยู่ทำท่าว่ากำลังอ่าน เห็นสาวใช้ของนางจ้องมองเขาจึงแปลกใจ
"เจ้ามองหน้าข้าทำไม สาวใช้อย่างเจ้ากล้ามองหน้าอ๋องอย่างข้าตรงๆ ไม่กลัวถูกลงโทษหรือไง"
"บ่าวไม่กล้าเพคะ แค่อดทึ่งในความสามารถของท่านอ๋องไม่ได้ ท่านอ๋องทรงเก่งกาจยิ่งนัก ขนาดอ่านหนังสือกลับหัวได้ มิน่าคนถึงกล่าวว่าพระองค์เป็นอัจริยะเพคะ"
ซ่างกวนหลิวหยางหน้าแดง เด็กบ้านี่เขาจึงวางหนังสือลงจากนั้นก็สบัดแขนเสื้อเดินจากไปไม่ใยดีพวกนางสักนิด
อาฝูมารายงานว่าทางสกุลโจวต้องการพบโจวหว่านถิงที่ทำให้ใบหน้าของบุตรสาวต้องเป็นรอย ส่วนสาวใช้ของนางกับสาวใช้ของจวนอ๋องคนนั้นอาฝูจัดการให้เงินครอบครัวพวกนางไปแล้ว แต่ซ่างกวนหลิวหยางบอกให้ส่งของขวัญไปสกุลโจวเป็นการขอโทษแทน
ไม่นานข่าวลือเรื่องพระชายาชินอ๋องจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต หึงหวงจนคิดฆ่าได้แม้กระทั่งน้องสาวตนเองก็แพร่ออกไป
โจวหว่านถิงนอนพักมาห้าวันแล้ว นางคิดวางแผนหนีไม่สะดวกจริงๆ อีกไม่กี่วันก็งานแต่งแล้วแต่เพราะนางใจร้อน ทำให้ใบหน้าของโจวลิ่วผิงมีบาดแผล หมอบอกว่าต้องใช้เวลาร้อยวันงานแต่งจึงเลื่อนออกไป โจวหว่านถิงรอไม่ได้ ไม่เช่นนั้นท้องคงโย้แล้วจึงเรียกเสี่ยวชุ่ยมาปรึกษา
"เสี่ยวชุ่ย พวกเราควรไปจากที่นี่ เจ้าไปหาชุดบ่าวผุ้ชายมาสองชุด แล้วก็ดูว่าพวกเขาจะขนสิ่งปฏิกูลตอนไหน เราจะอาศัยเวลานั้นออกจากจวนไป"
"พระชายา แล้วจะไม่ถูกจับได้หรือเพคะ"
"ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้ของเหล่านั้นหรอก เสี่ยวชุ่ยข้าปกป้องเจ้าทุกครั้งไม่ได้ หากนางแต่งเข้ามาถึงตอนนั้นเจ้าและข้าก็คงถูกนางรังแกเหมือนที่แม่นางรังแกมารดาข้า เรื่องนี้ต้องรอบคอบอย่าเผยพิรุธ แม้ว่าสี่ห้าวันมานี้ซ่างกวนหลิวหยางจะให้คนส่งอาหารมาให้ทุกวันทุกมื้อ แต่ใช่ว่าเขาจะเปลี่ยนใจไม่เกลียดข้า คงแค่กลัวว่าข้าจะมาตายในจวนเขาต่างหาก "
เสียวชุ่ยรับปากโจวหว่านถิง ไม่นานเสี่ยวชุ่ยก็แอบขโมยชุดของบ่าวชายในจวนมาได้สองชุด นางหาเวลาที่บ่าวต้องนำสิ่งปฏิกูลไปเทได้แล้ว
พวกเขาจะขนสิ่งปฏิกูลไปตอนกลางยามอิ๋น(ประมาณตี4) สองนายบ่าวเก็บของเท่าที่จำเป็น มีเพียงกล่องไม้เท่านั้นที่โจวหว่านถิงซ่อนไว้อยางดี เสื้อผ้านางไม่เอาไปเอาติดตัวไปแค่คนละชุดเท่านั้น ก่อนจะตกลงกับเสี่ยวชุยว่าอีกสามวันจะหนีออกไป เพราะได้ยินว่าซ่างกวนหลิวหยางต้องประชุมงานและค้างในวัง
สามวันต่อมายามอิ๋น
สองนายบ่าวแต่งชุดบ่าวรับใช้ชายมายืนรอบ่าวที่มีหน้าที่นำสิ่งปฎิกูลไปทิ้ง ทันทีที่เห็นคนมาใหม่แต่ท่าทางอ้อนแอ้นบ่าวผู้ชายก็เอ่ยถาม
"เจ้าเป็นว่ามาใหม่หรือ ชื่ออะไรกันบ้าง"
"เอ่อพี่ชายข้าชื่อเสี่ยวจง นี่น้องชายข้าเสี่ยวจิ้งขอรับ พอดีพวกข้ามาจากทางเหนือเพิ่งหายป่วยจึงมาทำนวันแรก เสียงอาจแหบแห้งไปบ้าง แต่ว่าน้องชายข้าเป็นใบ้ขอรับ เขาพูดไม่ได้ แต่ๆได้ยินขอรับ"
"อืมๆ ไปๆรีบไปเถอะ เดี๋ยวคนมากนักจะกลับสาย วันนี้ท่านอ๋องจะกลับจากในวังต้องรีบให้เสร็จงานก่อนพระองค์กลับมา"
ทั้งสี่คนช่วยกันเข็ญรถที่ใส่สิ่งปฏิกูลไปตามทางกลิ่นชวนอาเจียนยิ่งนัก โจวหว่านถิงแทบไม่ไหวอยากอาเจียนเหลือทน
นางแพ้ท้องหนักมากแต่พยายามอดทนจนในที่สุดก็มาถึงที่ชะล้างและเททิ้ง นางจึงหันกลับมาหาเสี่ยวชุ่ย มีบ่าวจากจวนอื่นมาเช่นกัน บ่าวของจวนชินอ๋องเจอคนรู้จักก็ชวนคุย
นางกับเสี่ยวชุ่ยจึงค่อยๆถอนตัวออกมาอย่างแนบเนียน ไม่ช้าก็มาถึงตรอกเล็กๆ ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าจากบ่าวในจวนชินอ๋องเป็นบัณฑิตหน้าใสสองคน มีหนังสือกับถือพัดในมือ ก่อนจะออกมาหาซื้อซาลาเปาเอาไว้เป็นเสบียง
ประตูเมืองเปิดแล้ว ผู้คนกำลังต่อแถวเพื่อออกจากเมือง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจนมาถึงทั้งคู่เขาถามนางว่าจะไปไหนอีกทั้งเดินมาทางเสี่ยวชุ่ยที่ยืนอยู่
"พี่ชาย แค่กๆๆข้าป่วยน่ะขอรับแค่กๆๆ ทางสำนักสึกษาไม่อนุญาตให้ข้าพักต่อเพราะเกรงว่าจะติดเพื่อนนักเรียนคนอื่น แค่กๆๆๆๆ เด็กคนนี้เขาเป็นบ่าวติดตามของข้าแต่ว่าเขาพูดไม่ได้ขอรับแค่กๆๆๆ"
โจวหว่านถิงแสร้งไอหนักมาก จนเจ้าหน้าที่ต้องรีบให้ผ่านด่านเพราะว่าไม่อยากติดโรคร้ายแรงไปด้วย เป็นเพราะนางแพ้ท้องอย่างหนักหน้าจึงซีดเซียว ทำให้อาการแสร้งป่วยจึงสมจริงมากยิ่งขึ้น
ไม่นานสองนายบ่าวก็มาถึงท่าเรือ วันที่จัดการสาวใช้กับโจวลิ่วผิงนั้น นางแอบมือไวคว้าเอาปิ่นเงินกับกำไลหยกของพวกนางมาได้ พอร้านรับจำนำเปิดจึงรีบไปแลกเงินทันที
โจวหว่านถิงแยกกันไปกับเสี่ยวชุยสุดท้ายได้เงินมารวมกันเกือบสองร้อยตำลึง จึงแบ่งมาเป็นตั๋วเงินใบละสิบตำลึงและห้าตำลึงกับแลกเหรียญอีแปะไว้สองตำลึง
ยามเฉินเรือเที่ยวแรกก็ออกจากท่า เรือลำนี้เดินทางไปเมืองจ้านเจี้ยน นางจะไปเมืองผิงอันต้องไปเปลี่ยนเรือจากเมืองจ้านเจี้ยนไปลงเรือที่เมืองตงหลิงเพื่อไปเมืองผิงอัน
หากไปทางบกแล้วซ่างกวนหลิวหยางรู้ว่านางหนีออกจากจวนเขาอาจตามทัน เรืออาจใช้เวลาสองเดือนครึ่งกว่าจะถึงผิงอัน หากเป็นทางบกใช้เวลาเพียงครึ่งเดือนเท่านั้น
สองนายบ่าวอยู่ในห้องธรรมดา ไม่หรูหราไม่ยากจน ถึงเวลาอาหารก็ออกมารับเดินทางมาได้สามวันแล้วอีกเจ็ดวันก็จะถึงเมืองจ้านเจี้ยน
โจวหว่านถิงไม่รู้เลยว่าตอนนี้จวนอ๋องลุกเป็นไฟแล้ว บ่าวไพร่แทบเข้าหน้าไม่ติด เมียเขาหนีไม่พอยังทิ้งใบหย่าไว้ให้ ยิ่งกว่านั้นใบสั่งยาที่อาฝูเก็บมาจากโรงเตี้ยมคือใบสั่งยาของหยวนซานไห่อีกใบ
"ว่าอย่างไร เอาไปให้หยวนซานไห่ดูแล้วเขาว่าอย่างไร"
ซ่างกวนหลิวหยางถามองครักษ์คนสนิท อาฝูกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเอ่ย
"ทูลท่านอ๋องหยวนซานไห่ตอบว่าเป็นยาบำรุงครรภ์พ่ะย่ะค่ะ พระชายาบอกกับเขาว่านางหย่าขาดกับพระองค์แล้ว หากพระองค์รู้ว่านางตั้งครรภ์ย่อมไม่ต้องการให้นางอุ้มชูสายเลือดของพระองค์ หยวนซานไห่สงสารเด็กที่ยังไม่เกิดจะต้องมาถูกฆ่าตายจึงปิดเรื่องนี้ให้พระชายาพ่ะย่ะค่ะ"
"นางกล้าจริงๆ เขียนใบหย่าให้ข้า ขโมยลูกข้าอีกโจวหว่านถิงเจอเจ้าเมื่อไหร่จะให้เจ้าร้องขอเลยเชียวสั่งคนหานางให้ทั่วเมืองหลวง" อาฝูไปแล้วซ่างกวนหลิวหยางกำใบสั่งยาแน่น
"แม่ตัวดี หาเจ้าเจอเมื่อไหร่จะทำให้เจ้าคลอดบุตรให้ข้าสักสิบคน กล้าขโมยลูกข้าหรือโจวหว่านถิง เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก"
เกือบสองเดือนแล้วที่โจวหว่านถิงกับเสี่ยวชุ่ยลงเรือมาถึงเมืองตงหลิง อีกไม่นานเท่าไหร่ก็จะถึงเมืองผิงอันแล้ว เท่าที่สอบถามคนที่เดินทางด้วยกันจากท่าเรือไปตำบลซานซานให้เวลาอีกสามวันและจากตัวตำบลเข้าหมู่บ้านเสวียนหยางต้องใช้เวลาอีกหนึ่งชั่วยามเสี่ยวชุ่นรู้แล้วว่าเจ้านายตั้งครรถ์ ตอนนี้ครรภ์นางใหญ่มากแล้วคนที่อยู่บนเรือต่างก็จิตใจดี คอยช่วยเหลือพวกนางตลอดเวลา ตอนนี่เสี่ยวชุยเรียกนางว่าพี่ใหญ่ ไม่มีฐานะนายบ่าวอีกต่อไป"พี่ใหญ่อีกสองวันเรือก็เทียนบท่าแล้วนะเจ้าคะ ท่านบอกว่าท่านแม่ทิ้งที่ดินและบ้านเอวไว้ให้ แต่ว่ามันก็สิบปีแล้วมิทรุดโทรมจนอาศัยไม่ได้แล้วหรือเจ้าคะ""ไม่เป็นไรหรอกเสี่ยวชุย อย่างน้อยก็มีที่ดินจ้างคนซ่อมแซมเอาก็ได้หลังจากคลอดแล้วข้ายังมีลู่ทางหาเงินได้อีก ข้าตัดเย็บเก่งสามารถออกแบบลายผ้าได้เจ้าก็รู้ แม่ว่าไม่มีคนร่ำรวยมากมายเช่นเมืองหลวงแต่สตรีไม่วง่าอย่างไรก็ชอบแต่งตัว หากข้าขายไม่แพงนักพวกนางคงอยากซื้อหา ตอนนี้ขอเพียงไปถึงหมู่บ้านเสวียนหยางไวๆก็พอ""คนผู้นั้นช่างใจร้ายนัก วันแต่งยังทำร้ายท่านข้าไม่เข้าใจ เหตุใดถึงพูดชื่อของชิงเสี่ยวหว่านไม่ได้เจ้าคะ เขากล้าเตะท่านได้อย่างไรกัน
เมืองผิงอัน โจวหว่านถิงมาถึงเมืองผิงอันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นางพักอยู่โรงเตี้ยมพรุ่งนี้จะเข้าตำบลซานซานก่อนจะเดินทางไปหมู่บ้านเสวียนหยาง เสี่ยวชุ่ยนอนหลับไปแล้วตอนนี้เงินที่เอาปิ่นกับกำไลหยกไปขายเหลืออยู่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบตำลึง โจวหว่านถิงอยากหาเงินสักก้อนก่อนไปหมู่บ้านเสวียนหยางจึงนั่งวาดรูปออกแบบเสื้อผ้าสามชุด เป็นชุดจีนประยุคที่ไม่โป้เกินไปแต่ดูทันสมัย ไม่เกะกะรุ่มร่ามเวลาเดินเหินหรือทำงานเสี่ยวชุ่ยที่กำลังจัดที่นอนเหลือเห็นชุดที่เจ้านายออกแบบก็อดทึ้งไม่ได้ช่างสวยงามเหลือเกินจริงๆ ยิ่งตอนที่นางลงสีเสร็จแล้วยิ่งสวย"เสี่ยวชุยเสร็จหรือยัง พวกเราไปเดินในตลาดในเมืองสักรอบเถอะ ลองหาเงินสักหน่อย หากว่าสามารถขายแบบเสื้อผ้าสามชุดนี้ได้เราจะได้มีทุนเพิ่มในการตั้งตัวอีก"โจวหว่านถิงไม่ต้องการเบิกเงินที่มารดาเก็บไว้ให้ เพราะนางอยากเก็บเอาไว้เวลาที่คลอดลูกต้องอยู่เดือนไม่สามารถทำอะไรได้ไม่นายสองนายบ่าวก็เดินมาถึงร้านขายผ้า โจวหว่านถิงยืนสังเกตุร้านผ้าในตรอก สังเกตุวิธีการต้อนรับลูกค้า สังเกตุจากการพูดคุยกับลูกค้า การไม่เลือกปฏิบัติร้านใหญ่มีคนเข้าออกมากมายนัก ล้วนแต่เป็นคุณหนูทั้งนั้น ส่วนร้
"พรุ่งนี้ข้าเดินทางแล้ว หากท่านไม่อยากอยู่ที่นี่ก็ลองไปที่ตำบลซานซานดู ข้าอาจช่วยให้กิจการของบิดามารดาท่านฟื้นฟูขึ้นมาได้""ฮูหยิน ข้าอายุยี่สิบเอ็ดคงเป็นพี่สาวท่านได้ดูแล้วท่านคงอายุยังน้อย ข้ารียกเจ้าน้องสาวได้หรือไม่""ข้าอายุสิบแปด นี่น้องสาวข้านางอายุสิบสื่อชื่อเสี่ยวชุย พี่หญิงฟ่านข้าต้องกลับโรงเตี้ยมแล้ว จะไปเขียนแบบให้ท่านเจอกันตอนเช้า""เอ่อ ของที่โรงเตี้ยมมีเยอะไหมข้าจะไปช่วยขน เจ้านอนที่นี่เถอะ ทั้งร้านมีแค่ข้ากับเสี่ยวเหมย ข้าเป็นลูกคนเดียวท่านลุงกับป้าสะใภ้ข้าอยากได้สามห้องนี้เพื่อเอาใจฟางเหยียนแต่ข้าไม่ให้ จึงถูกพวกเขาก่อนกวนทุกวันเลย"ฟ่านหลิหลิงถอนหายใจหลังจากกล่าวจบ โจวหว่านถิงจึงเสนอแนะหนทางให้นาง"ข้าได้ยินคนคุยกันว่าสกุลถังกำลังมองหาห้องเพื่อเปิดกิจการนใหม่มิใช่หรือ หากท่านอยากย้ายไปตำบลซานซานลองบอกขายทางนั้นดูสิ พวกเขาไม่ถูกกับสกุลเยี่ย ท่านลองเอาแบบที่ข้าวาดเสนอเขาด้วย ทั้งสองตระกูลค้าผ้าเหมือนกัน ทุกวันนี้สกุลเยี่ยพยายามอย่างหนักที่จะโค่นล้มสกุลถัง แต่เพราะพวกเขาเป็นเพียงมดไม่ดูกำลังตนเอง""จริงรึ ถ้าเช่นนั้นข้าจะลองไปหาคุณชายถังดู เผื่อเขาสนใจแต่ว่ากันว่าคุณชาย
แม้จะโกรธที่เขาดูถูกนางแต่ก็ ช่างเถอะอย่างไรก็ไม่เจอกันอีกแล้ว พรุ่งนี้เตรียมขนของออกจากเมืองผิงอันดีกว่า คืนนี้จะไปนอนโรงเตี้ยมพร้อมกับเดินลงมาด้านล่าง"ท่านลุงท่านมาทำอะไรที่ร้านของมารดาข้ากัน นี่คือสินเดิมท่านแม่ข้าสกุลฟ่านของท่านต้องหน้าหนาเพียงใดหรือจึงอยากได้ของสะใภ้เหมือนผีอดอยากเช่นนี้""นี่หลิงหลิง เจ้าทำร้านก็ขาดทุนมิสู้ให้ลุงไปเจรจากับฟางเหยียนให้เขาช่วยเจ้ารับซื้อร้านต่ออีกทั้งแบบเสื้อที่เจ้าออกแบบเขาบอกว่าจะจ่ายเจ้าสามร้อยตำลึงต่อภาพเชียวนะ""อ้อ คงไม่ได้หรอก ข้าขายร้านให้ถังฮ่าวหรานคุณชายน้อยสกุลถังไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว ส่วนแบบเสื้อนั้นก็ขายให้เขาไปแล้วเช่นกัน ท่านลุงต้องมาเสียเที่ยวแล้วกลับดีนะเจ้าคะ ข้าไม่ส่ง"ฟ่านเจ๋อถึงกับหน้าดำเป็นก้นหม้อ ใครๆ ก็รู้ว่าสกุลเยี่ยเกรงกลัวสกุลถัง นางขายไปแล้วจะไปเอาคืนเช่นไรเล่า นังเด็กน่าตายนี่ช่างชาติชั่วจริง จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อจากไป"น้องหว่านถิง สมบัติข้าไม่มีสิ่งใดมากนัก มีเพียงของไม่กี่ชิ้นข้าจะเรียกคนมาเก็บแล้วจ้างคนรับจ้างไปส่ง พวกเราไปพักโรงเตี้ยมคืนนึงเถอะพรุ่งนี้บ่ายๆ ค่อยออกเดินทาง""คืนนี้ท่านไม่ค้างที่ร้านหรือเจ้าคะ พี
หมู่บ้านเสวียนหยางเดินทางมาสามวันในที่สุดก็ถิงหมู่บ้านเสวียนหยางแล้ว โจวหว่านถิงเดินเข้าไปถามเหล่าบรรดาสตรีที่นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่"เอ่อ ท่านป้าเจ้าคะมิทราบว่าบ้านของท่านผู้นำอยู่ที่ใดหรือเจ้าคะ""เจ้าเป็นใครกันเล่าแม่นาน เอ่อ ท้องโตเพียงนี้ไม่ใชเมียน้อยตาเฒ่าหลี่ต้านนะฮ่าๆๆ" สตรีที่เอ่ยคือนางหูน้องสะใภ้ของหลี่ต้านผู้นำหมู่บ้าน"เอ่อ หามิได้เจ้าค่ะ คือว่าข้ามาจากหลินตูได้รับที่ดินของมารดาเป็นมรดก เนื่องจากสามีของข้าแต่งเมียใหม่เข้าเรือนจึงรังเกียจแล้วขับไล่ข้าๆไร้ที่ไป พอดีมีที่ดินแล้วบ้านเก่าๆของท่านแม่อยู่ที่นี่เลยอยากมาหาที่ตั้งรกรากใหม่เจ้าค่ะ""หา มีบุรุษสาารเลวถึงเพียงนี้ด้วยหรือ ว่าแต่แม่เจ้าแซ่อะไรเป็นใครหรือ""ท่านตาข้าแซ่หลี่นามว่าต้วน มารดาหลี่ม่านเจ้าค่ะ""อ้อเจ้าเป็นบุตรของเสี่ยวม่านหรือ อ้าวแล้วหลี่ต้วนซิ่วไฉล่ะไปไหน มารดาเจ้าล่ะแม่นางน้อย""ท่านตาจากไปแล้ว ท่านแม่ก็เพิ่งจากไปไม่นานข้าจึงไร้ที่พึ่ง สามีเพิ่งสอบได้ภรรยาใหม่เป็นคนมีอำนาจ นางกลั่นแกล้งข้ายึดบ้านที่ท่านตาอาศัยไปทำให้ข้าไร้ที่อยู่เจ้าค่ะ ฮือๆ""อย่าร้องๆ ใครก็ได้ไปแจ้งผู้นำหน่อยว่าหลานสาวหลี่ต้
ตอนนี้หลี่หว่านถิงมาอยู่ที่หมู่บ้านเสวียนหยางได้สองปีแล้ว นางได้บุตรสาวฝาแฝดสองคน อุ้มท้องมาสิบเดือนแต่หน้าตาของคู่แฝดกับเหมือนซ่างกวงหลิวหยางราวกับแกะออกมาจากพิมพ์เดียวกันหากคนสารเลวนั่นเห็นเข้าเขาต้องรู้แน่ๆว่าเป็นลูกตนเอง แม้จะนึกออกแล้วว่าคนที่ทำร้ายนางคืนนั้นเป็นโจวจื่อทง แต่ก็ใช่ว่าซ่างกวนหลิวหยางจะไม่ใช่คนเลวแต่งงานคืนแรกเขาก็ทิ้งนางแล้วก็ไปปราบโจรภูเขาอันนี้พอรับได้เพราะเป็นเรื่องบ้านเมือง แต่พอเช้ามาคนของเขาก็ไล่นางกับเสี่ยวชุ่ยไปอยู่เรือนร้างหลังจวน ส่งข้าวแค่วันละมื้ออีกทั้งยังให้คนส่งข้าวแค่วันเว้นวัน ให้คนจับตาดูนางหากตายเมื่อไหร่ให้เอาไปโยนทิ้งสุสานไร้ญาติ ชาตินี้ทั้งชาติอย่าได้เจอกันอีกเลย ผู้ชายสารเลวซ่างกวงหลิวหยางตอนนี้หลี่หว่านถิงไม่ใช้แซ่โจวแล้วอีกทั้งเปลี่ยนจากหลี่หว่านถิงเป็นหลี่ว่านถิง ทิ้งทุกอย่างไว้เมืองหลวงพร้อมกับวิญญาณของโจวหว่านถิงคนเดิมที่นี่นางคือหลี่ว่านถิง ตอนนี้อาศัยออกแบบเสื้อผ้า ออกแบบเครื่องประดับ บางครั้งก็ขายสูตรอาหารต่างๆ ไม่ผูกขาดที่ใดที่หนึ่ง คำนวณดูว่าโรงเตี้ยมใดมีวัตถุดิบชนิดใดที่เหมาะสมกับสูตรอาหารเพราะหากนำวัตถุดิบมาจากที่อื่นจะต้องขา
"มีเรื่องอะไรมาพบน้องสาวข้า คนอย่างท่านคงไม่ได้มาดีแน่ๆนี่ท่านลุงเหลียนทางเข้าหมู่บ้านที่ท่านเพิ่งจะเข้ามามันใช้เป็นทางออกได้ด้วยนะเผื่อท่านไม่รู้ เชิญกลับได้แล้วไม่ส่งนะข้าไม่ว่าง""หลี่ ไฉ่ เหยียน เจ้าต้องหาเรื่องข้าให้ได้เลยใช่หรือไม่ฮะ"เหลียนจางหมิ่นกำลังจะหมดความอดทนกับเด็กผู้หญิงตรงหน้าแล้ว ตั้งแต่ครึ่งปีก่อนที่ม้าของเขาเกิดพยศวิ่งเฉี่ยวเพื่อนของนางจนสลบ เด็กคนนี้ก็เกลียดเขามาโดยตลอดเขาไม่ได้ตั้งใจมันเป็นเรื่องที่เขาก็ไม่ได้อยากให้เกิด แต่เด็กคนนี้กลับไม่จบไม่สิ้นจงเกลียดจงชังเขาอยู่ได้ ก่อนจะมีเสียงหวานของสตรีปลูกสติของเขา"ใต้เท้า ท่านมาหาข้าน้อยด้วยเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ"เหลียนจางหมิ่นหันไปตามเสียงก็พบสตรีใส่ชุดสีเขียวอ่อน ใบหน้างดงามยิ่งนัก เขามองจนตะลึงที่นี่มีสตรีงามเช่นนี้ด้วยหรือ จนกระทั่งหลี่ไฉ่เหยียนเดินมาขวางหน้าเขา นางเท้าเอวจ้องหน้าเขาเหมือนแม่เสือหวงลูกน้อย"เอ่อ ท่านคือแม่นางหลี่ผู้นั้นหรอกหรือ ข้าได้รับคำแนะนำมาจากเถ้าแก่สวีนางบอกว่าให้ข้าเดินทางมาหาท่านที่นี่ น้องสาวของข้ากำลังจะแต่งงาน แต่ว่าชุดแต่งงานที่ส่งมานั้นนางไม่พอใจสักชุด ใกล้วันงานมาแล้ว แม่นางหลี่ข้
พูดจบหลี่หว่าถิงก็เดินเข้าไปในบ้านเพื่อนำชุดแต่งงานออกมา เป็นชุดสีแดงปักด้วยไหมสีทอง ลายปักเป็นดอกเหมยเล็กๆตรงชายกระโปรง ด้านบนเป็นรูปหงส์ หากใส่แล้วยามก้าวเดินจะยิ่งดูสง่างามยิ่งนัก ส่วนอีกชุดเป้นสีแดงผสมสีเขียว ตัดเย็บตามแบบสมัยปัจจุบันที่นางจากมา ไม่รุ่มร่ามแขนเสื้อพอดีตัวคนใส่ เอวเล็กๆปักด้วยด้ายสีทอง มองแล้วงามทั้งสองชุด เหลียนจางหมิ่นเองเป็นบุรุษยังตะลึงกับความงามของชุดเลย"ข้าต้องการทั้งสองชุด รบกวนท่านคิดราคามาเถอะอาซ้อ""สองชุดนี้ใช้ผ้าและไหมอย่างดี ข้าลงรายละเอียดเองทุกฝีเข็ม ใช้เวลาแต่ละชุดนานหนึ่งเดือน ใต้เท้าข้าขายแพงนะท่านเลือกเอาเพียงหนึ่งชุดเถอะ""ข้าให้ท่านหนึ่งแสนตำลึง ข้าเชื่อว่าท่านตั้งใจทำมันจริงๆ เอ่อหลี่ไฉ่เหยีนนอภัยด้วยนะแต่ข้าคงต้องตัดหน้าเจ้าเสียแล้ว ไว้เจ้าหาเจ้าบ่าวได้ข้าจะจ่ายค่าชุดแต่งงานใหม่ให้เจ้าเอง""ใครบอกว่าข้าจะแต่งงานกัน นี่ท่านลุงท่านอย่ามาเพ้อเจ้อแถวนี้ รีบๆจ่ายเงินน้องสาวข้าแล้วก็รีบกลับไปได้แล้ว ข้ามีงานต้องทำ ไม่ว่างรับรองใครทั้งนั้น ข้าไม่ใช่พวกนั่งกินเบี้ยหวัดไปวันๆแล้วเอาแต่นังชนจอกท่องกลอน ขี่ม้าไล่ชนคน"หลี่หว่านถิงอึ้งในสายตาของใต้เท้าค
หลังจากทุกอย่าางเรียบร้อยก็ถึงเวลาที่เข้าไปหาหลี่ว่านถิงได้แล้ว คู่แฝดใบหน้าคล้ายกับมารดากับบิดาผสมกันมากเหลือเกินจมูกที่รั้นเหมือนมารดา คิ้วที่ดูหนาเจ้าอารมณ์เหมือนบิดา ปากน้อยๆนั่นคนหนึ่งเหมือนหลี่ว่านถิง อีกคนคล้ายซ่างกวนหลิวหยาง พวกเขาได้พ่อกับแม่มาคนละนิดละหน่อย ใบหน้าช่างน่ารักยิ่งนักหลี่ว่านถิงหยิบป้ายหยกของท่านพ่อใส่ห่อผ้าของคนที่จมูกและปากคล้ายนางมากที่สุด ซ่างกวนหลิวหยางรู้ทันทีว่านั้นคือคนเล็ก ป้ายห้อยเอวของเขาจึงถูกใส่ห่อผ้าที่ห่อบุตรชายคนโตเอาไว้ซ่างกวนหลิวหยางแนบหน้าผากของตนกับหน้าผากของนาง ก่อนจะเปิดโอกาสให้บรรดาแม่นมมาเตรียมวามพร้อมในการอยู่เดือนของนางหลังจากพระชายาคลอดบุตรชายชาวเมืองทั้งแปดมณฑลก็ดีใจ ชินอ๋องละเว้นภาษีให้พวกเขาห้าปี โดยภาษีที่ต้องจ่ายให้ราชสำนักทั้งหมด ตำหนักอ๋องจะรับผิดชอบเองห้าเดือนต่อมาได้รับข่าวว่าฮองเฮาเองก็คลอดพระโอรสและพระธิดาในครั้งเดียว หลี่ว่านถิงนึกขำในใจ คงเพราะเป็นกรรมพันธ์ ซ่างกวนหลิวหยางกับฮ่องเต้เป็นคู่แฝดกัน พอมีลูกก็ได้แต่ลูกแฝดซ่างกวนหลิวหยางที่กำลังคลุกเคล้าอยู่กับกลีบดอกไม้แสนหวานของหลี่ว่านถิงนางทำได้แค่เพียงจับศีรษะเขาแน่น
หลังจากประกาศแต่งตั้งฮองเฮาเรียบร้อยแล้ว ซ่างกวนหลิวหยางก็เตรียมออกเดินทางไปยังดินแดนตะวันออก หลี่ว่านถิงกำลังสั่งงานบ่าวไพร่ ป้าสวีเป็นบ่าวในเรือนที่ไม่เคยรังแกนางสักครั้งนับแต่นางแต่งเข้ามาจวนอ๋อง ทั้งๆที่หลายๆคนรังเกียจนางส่วนแม่ครัวหม่าที่มักเอาของเหลือมาโยนให้นางกับเสี่ยวชุ่ยประจำตอนที่ร่างเดิมยังอยู่ที่นี่ถูกหลี่ว่านถิงขายออกไป ตอนนี้บ่าวไพร่กำลังคุกเข่าฟังคำสั่งนาง"ป้าสวี จากนี้ไปท่านรับผิดชอบเรื่องในจวนทั้งหมด มีเรื่องอันใดให้ปรึกษาอาเต๋อ ส่วนป้าจงท่านรับหน้าที่เรื่องในครัว เดิมทีข้าอยากพาทุกคนไปด้วย แต่เนื่องจากทางนั้นยังไม่เรียบร้อย เอาเป็นว่าเมื่อไหร่ที่เข้าที่เข้าทางข้าจะส่งข่าวให้พวกเจ้า""เพคะพระชายา/พ่ะย่ะค่ะพระชายา"บ่าวไพร่รับคำสั่งก่อนที่หลี่ว่านถิงจะลุกขึ้น ซ่างกวนหลิวหยางก้มาถึง เขาช้อนอุ้มนางขึ้นมาจนหลี่ว่านถิงดุเขาเบาๆ"ท่านอ๋อง ต่อหน้าบ่าวไพร่หม่อมฉันเดินเองได้เพคะ""กลัวอะไร พี่รักเจ้าทุกคืนจนพวกเขาชินแล้วแค่อุ้มเจ้าไม่ใช่ปัญหาหรอก""ท่านนี่นะหน้าหนานักเชียว"ซ่างกวนหลิวหยางอุ้มหลี่ว่านถิงมานั่งที่โต๊ะอาหาร จากนั้นก็อุ้มคู่แฝดคนละข้างมานั่งตักก่อนจะป้อนข้าวให
รุ่งเช้าเหล่าทหารต่างตีฆ้องร้องป่าว เพื่อเฉลิมฉลองที่วันนี้จะประกาศราชโองการแต่งตั้งฮองเอาพร้อมกับข่าวดีที่ว่าฮองเฮากำลังทรงพระครรภ์ซ่างกวนหลิวหยางและหลี่ว่านถิงแต่ชุดเข้าเฝ้าเรียบร้อยแล้ว วันนี้คู่แฝดอยู่จวนเพราะว่าเป็นงานราชพิธี อาจจะทำให้เด็กทั้งสองเบื่อหน่าย อาจจะงอแงอีกด้วย เมื่อถึงเวลาทั้งสองก็ออกจากจวนเดินทางเข้าวังหลวง หลี่ว่านถิงไปหาหลี่ไฉ่หงก่อนเพื่อพุดคุย"พี่ว่านถิง ข้าคิดถึงท่านที่สุดเลย เหตุใดท่านมาหาข้าบ่อยๆไม่ได้เล่า""พระสนม ทรงโตแล้วนะเพคะ จะมางอแงไม่ได้อีกหน่อยต้องปกครองวังหลังต้องเข้มแข็งและหนักแน่น อีกเจ็ดวันหม่อมฉันจะไปดินแดนตะวันออกแล้ว ทรงอยู่ทางนี้หากมีเรื่องอันใดก็เรียกหาพี่หลิงหลิงนะเพคะ""แต่ข้าคิดถึงท่านนี่ หรือว่าบอกท่านอาหย่ง เอ่อ บอกฝ่าบาทว่าพี่เขยไม่ต้องไปดินแดนตะวันออกแล้วดีหรือไม่"หลี่ไฉ่หงเริ่มงอแง นางมาที่นี่นอกจากหลี่ว่านถิง ฟ่านหลิงหลิงแล้วนางไม่รู้จักใครเลย ฮ่องเต้กำลังจะเรียกเหลียนจางหมิ่นมารับตำแหน่งที่เมืองหลวง พี่สาวนางหลี่ไฉ่เหยียนจะได้มาด้วย แต่นั่นอีกตั้งหกเดือนฟ่านหลิงหลิงที่ใกล้คลอดเต็มทีพยุงครรภ์ใกล้คลอดเดินมาหาก่อนจะเอ่ย"พระสนม อ
ซ่างกวนหลิวหยางโอบไหล่มนเอาไว้ ก่อนจะจุมพิตหน้าผากนาง"เจ้าไม่โกรธเกลียดนาง อีกทั้งยังให้อภัยน้องหญิงไม่กลัวว่าวันหน้านางจะหันกลับมาทำร้ายเจ้าหรือ""นางไม่ได้เลวร้ายโดยเนื้อแท้ หลังจากที่หม่อมฉันจำทุกอย่างได้ ทั้งจวนมีเพียงนางที่ดีต่อท่านแม่ นางมักแอบเอาของกิน แอบเอาถ่านไม้ หรือผ้าห่มมาให้เสมอ อย่างที่นางบอกนางคิดว่าท่านแม่ทอดทิ้งนาง สกุลโจวให้ความสนใจเพียงโจวจื่อทงเท่านั้น หม่อมฉันกับนางไม่ต่างกันผิดแค่หม่อมฉันมีท่านคอยปกป้อง แต่นางไม่มีใครเลย กลับกันเถอะเพคะวันนี้ต้องเขาวังไปร่วมงานเลี้ยงฉลองที่ไฉ่หงตั้งครรภ์""อืม ไปเถอะ"ซ่างกวนหลิวหยางช้อนอุ้มร่างบางที่ตอนนี้หน้าท้องเริ่มนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจน นางตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว ว่างกวนหลิวหยางรับราชโองการไปปกครองดินแดนตะวันออกเรียบร้อยแล้ว คู่แฝดถูกแต่งตั้งเป็นองค์หญิงเพราะเป็นบุตรีคู่แรกที่กำเนิดในราชสกุลซ่างกวนปลายยามโหย่ว รถม้าก็มาถึงวังหลวง งานเลี้ยงกำลังจะเริ่ม มีโคมไฟประดับประดามากมาย ด้านหน้าที่นั่งของเหล่าขุนนางทั้งหลายมีอาหารหลากหลาย บางอย่างล้วนแปลกใหม่ พระชายาชินอ๋องทรงเป็นผู้บุกเบิกอาหารเหล่านั้น ตอนนี้หลายอย่างกำลังนิย
มาถึงเมืองหลวงได้เกือบเดือนแล้ว หลี่ว่านถิงที่ตอนนี้อยู่ที่จวนสกุลโจว บรรดาครอบครัวเดิมของสกุลโจวถูกเนรเทศไปจนหมด แม้กระทั่งบ่าวไพร่ก็เช่นกันถูกขายออกไป คนที่สอบแล้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ให้เป็นทาสหลวงหลี่ว่านถิงมองคนงานก่อสร้างกำลังรื้อป้ายจวนออก ต้นไม้บางต้นนางสั่งให้โค่นทิ้ง เรือนเล็กด้านหลังที่หลี่ว่านถิงเคยอยู่นางปรับปรุง ปิดประตูเล็กกั้นออกจากเรือนหลักหลี่ว่าถิงสั่งบ่าวไพร่ที่ตามมาให้ไปจัดการข้าวของในจวน ก่อนที่ตนเองจะเดินไปยังเรือนหลังเล็ก สตรีนางหนึ่งนั่งเหม่ออยู่ที่ศาลาริมน้ำ"เพ่ยเพ่ย ไปเฝ้าด้านหน้าอย่าให้ใครเข้ามา""เพคะพระชายา"สาวใช้คนใหม่รับคำสั่งก่อนจะปิดประตูเชื่อมเรือนหลักลง แล้วยืนเฝ้าที่ประตู หลี่ว่านถิงเดินไปจนถึงร่างผอมบางที่นั่งเหม่อมองไปด้านหน้า บุรุษนึงกำลังเช็ดใบหน้าให้นางอย่างถนอม เขารักนางมากตลอดเวลาแต่นางกลับมองไม่เห็นความรักนั้น ถูกใช้เป็นเครื่องมือจนกลายเป็นเช่นนี้"คุณหนูโจว ไม่พบกันเสียนานระหว่างเรามีหลายเรื่องให้พูดคุย ข้าจะไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว แต่จะถามเจ้าว่าอยากอยู่หรืออยากไป"โจวลิ่วผิงหันหน้ามาตามเสียง ก่อนจะเมินไม่ตอบคำถามนาง หลี่ว่านถิงไ
ยามอิ๋นหลี่ว่านถิงตื่นขึ้นมา ยังจำความฝันได้ดี เธอมองหน้าซ่างกวนหลิวหยาง มือบางลูบไล้ใบหน้าของเขา ซ่างกวนหลิวหยางลืมตาจับมือนางเอาไว้มาแนบอก“เป็นอะไรเด็กดีของพี่ นอนไม่หลับหรือ”ซ่างกวนหลิบหยางลูบหลังเบาๆ หลี่ว่านถิงกระเถิบตัวเข้าหาเขาอีก ซ่างกวนหลิวหยางกระขับอ้อมกอด“น้องหญิงเจ้าหนาวหรือ พี่เพิ่มผ้าห่มอีกดีไหม หรือเพิ่มถ่านในเตาอุ่นดี”“พี่หลิวหยาง โจวหว่านถิงนางไปแล้วเพคะ ครั้งนี้นางไปจริงๆ แล้ว”“หืม ฝันเห็นนางหรือ นางมาบอกว่าอย่างไร”“นางบอกขอบคุณที่หม่อมฉันรักท่าน ขอบคุณที่ยอมรับคู่แฝด นางไปเกิดเป็นบุตรสาวของพี่สะใภ้หม่อมฉันเพคะ คุณแม่อยากได้หลานสาวสักคนตอนนี้สมหวังแล้ว เพราะพี่ชายหม่อมฉันมีบุตรชายแล้วสามคน ไม่มีบุตรสาวเลย”“เป็นเช่นนี้ พี่จะได้สบายใจสักที”“จริงสิหม่อมฉันรู้สึกเหมือนทุกคืนท่านนอนไม่ค่อยหลับนะเพคะ”“พี่เคยรักโจวหว่านถิง แต่กลิ่นกายเจ้าแปลกไปตั้งแต่ขึ้นมาจากทะเลสาบ พี่รู้ว่าเจ้าความจำเสื่อมจึงไม่คิดมาก จนกระทั่งพี่หาเจ้าเจอ พี่เอาเปรียบเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่าจนแน่ใจแล้วว่าเจ้าไม่ใช่นางจริงๆ ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะเจ้าจำพี่ไม่ได้แต่เป้นอีกคน จนกระทั่งนางมาเข้าฝันว่านางเ
หมู่บ้านเสวียนหยางที่คึกคักจากงานแต่งงานตอนนี้เงียบสงัด มีเพียงโคมไฟที่ห้อยไปมา ส่องแสงสว่างให้ความรู้สึกสวยงาม สองพี่น้องสกุลฉู่ยืนกอดอกมองไปยังทางบ้านของหลี่ว่านถิง นางคือบุตรสาวของนายท่านยังมีสองเด็กน้อยที่พวกเขาต้องติดตามซ่างกวนหนิงเซียนและซ่างกวนหนิงฮวาอีกด้วยฉู่เหอหนานมองหน้าพี่ชายก่อนจะพากันหายไปในความมืด พวกเขาคือคนของพรรคไร้เงา จะออกมาเวลาเจ้านายมีภัยเท่านั้น ตอนนี้เจ้านายมีความสุขดีพวกเขาจึงเร้นกายรุ่งเช้า ชาวบ้านช่วยกันเก็บกวาดโต๊ะงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ ซ่างกวนหย่งเฉิงที่ไม่ยอมออกจากห้องหอจนซ่างกวนหลิวหยางอ่อนใจกับพี่ชาย จากนั้นซ่างกวนหลิวหยางก็ไปหาแม่ทัพใหญ่เพื่อพูดคุยเรื่องกลับเมืองหลวงสรุปว่าอีกครึ่งเดือนจะเดินทาง ตอนนี้ต่อรถม้าอย่าดีให้บรรดาภรรยาของพวกเขาก่อน ซ่างกวนหลิวหยางไปยังบ้านยของถังฮ่าวหรานเพื่อส่งมอบบัญชีของร้านผ้า อีกทั้งแบบลายใหม่ๆ ที่ทางสกุลถังจะสามารถใช้ได้ถึงสองปี หากออกแบบตามที่หลี่ว่านถิงบอก“ทุกสามเดือนค่อยออกงานชุดใหม่หนึ่งครั้ง นี่เป็นสี่งที่ถิงถิงบอก ฮ่าวหรานเจ้าจะไปหาข้าที่ดินแดนตะวันออกหรือไม่ ข้าจะกลับเมืองหลวงไปส่งเสด็จพี่เพื่อรับราชโองการแล้วอ
คู่แฝดไม่ได้นอนกับบิดาและมารดา เพราะมารดาต้องตื่นแต่เช้าพวกนางเป็นเด็กรู้ความจึงนอนกับแม่นมที่เสด็จพ่อประทานมาให้ทั้งสองคนหลับไปแล้ว อยู่ๆ หลี่ว่านถิงก็ฝันนางฝันเห็นคุณแม่กับพี่ชายและหลี่หงเพื่อนสนิท อยู่กลางทะเลพวกเขากำลังโปรยดอกไม้ให้เธอ แม่กับพี่ชายพาพี่สะใภ้กับหลานมาด้วย“อาเกี้ยวหนูจากพวกเราไปห้าปีแล้วนะ ตอนนี้พี่ชายหนูเป็นเจ้าของบริษัทมีกิจการเป็นของตัวเองแล้ว อีกทั้งยังมีหลานสาวให้แม่เพิ่มพี่สะใภ้หนูใกล้คลอดแล้วนะไม่รู้ว่าหลานสาวคนนี้เป็นหนูมาเกิดหรือเปล่า แต่แม่อยากให้เป็นหนูมาเกิดจริงๆ”“นี่ยายเกี้ยว ขอบใจเธอมากนะเงินสองแสนที่เธอโอนให้ฉัน มันทำให้ฉันลืมตาอ้าปากได้ ตอนนี้ฉันเปิดบริษัทออกแบบเสื้อผ้าแบรนด์ดืของตัวเอง มีลูกค้ามากมาย ยายเกี้ยวฉันกำลังจะแต่งงานกับคุณอาหยวนน้องชายคุณพ่อของเธอนะ คือตอนนี้ฉันกำลังมีเบบี๋แล้วด้วย เธอสบายดีนะ”พวกเขาพูดคุยกับเธอ หลี่ว่านถิงที่กำลังฝันอยู่ก็ร้องไห้ออกมา พวกเขาต่างมีชีวิตที่ดี แม่ต้องลำบากแล้ว พี่ชายสามารถยืนหยัดได้แล้ว ที่น่าขันคือหลี่หงกับเสี่ยวชุ่ยที่เหมือนกันราวกับแกะ หลี่หงแต่งงานกับคุณอา ส่วนเสี่ยวชุ่ยก็แต่งงานกับท่านหมอหยวนที่ใบหน
นอนคุยกันสักพักก็ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้ว บิดายังไม่ทันจะลุกซ่างกวนหนิงฮวาก็โถมมาใส่กอดเขาแน่นกระเง้ากระงอดออดอ้อน"เสด็จพ่อเพคะ ท่านอาอาฝูใจร้ายนัก ลูกไม่อยากเห็นหน้าเขาแล้วเพคะ""หื้ม ท่านอาทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจบอกพ่อสิเด็กดี"ซ่างกวนหนิงเซียนกลอกตาบน ก่อนจะเดินมานั่งที่เก้าอี้กลางห้องเอ่ยเสียงเรียบๆ กับน้องสาว"น้องเล็กอย่าชิงฟ้อง เรื่องที่ท่านอาห้ามนั่นถูกต้องแล้ว""พี่ใหญ่เจ้าคะข้าอยากไปนี่"ซ่างกวนหลิวหยางได้ยินแล้ว คนของเขารายงานว่าอาฝูไม่ยอมพาเจ้าตัวเล็กไปบ่อน วันนี้มีบ่อนเปิดใหม่ซ่างกวนหนิงฮวาอยากไปเสี่ยงดวงว่าตนเองมือขึ้นหรือไม่จึงมางอแงเอากับเขา เฮ้อนางเพิ่งจะห้าขวบ เสด็จพ่อสอนหลานเช่นไรกันถึงได้นิสัยนักพนันมาเช่นนี้"ฮวาเอ๋อร์การพนันเป็นสิ่งไม่ดี ลูกยังเด็กไม่สมควรไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขพวกนี้ ไปเล่นกับเด็กวัยเดียวกันหรือไม่ก็ไปเดินเล่นในตำบลดีหรือไม่""แต่ลูกอยากไปศึกษาเผื่ออนาคตลูกเป็นเจ้าของบ่อนพนันจะได้รู้ทันนักเสี่ยงโชคไงเพคะ หากเจอคนโกงเก่งๆ แบบเสด็จปู่ลูกขาดทุนพอดี"ซ่างกวนหนิงฮวานิ่งสักพักทำท่านใช้ความคิดจนมารดาต้องลุกขึ้นมานั่งก่อนจะบีบแก้มน้อยๆของนาง จนปากยู่“อื้อ อะ