แชร์

ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน
ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน
ผู้แต่ง: สายธารสะท้อนเงา

บทที่ 0001

หนาว!

น้ำเย็นจัดที่ไหลเข้าจมูกและลำคอนั้น ทำเอาไม่สามารถหายใจได้ในทันที

ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกได้ว่า ศีรษะของนางกำลังถูกใครบางคนกดเอาไว้ทำให้มิอาจลุกออกมาจากน้ำเย็นได้

ในระหว่างที่นางกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่นั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายผ่านคลื่นน้ำที่กระจายไปมาได้ในทันที เสมือนกับต้องการกดนางให้ตกตายลงไปอยู่ในใต้น้ำให้จงได้

เรี่ยวแรงที่ใกล้จะหมดลงเพราะขาดอากาศหายใจนั้น ทำเอาหัวสมองของนางเต็มไปด้วยความมึนเบลอ

หากนางยังมิคิดหาทางละก็ นางจักต้องตายอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน

ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงกลั้นหายใจ พร้อมกับเก็บเรี่ยวแรงสุดท้ายของตนเองเอาไว้ พร้อมทั้งเลิกขยับตัวไปมา ก่อนจะปล่อยให้ร่างของตนเองจมลงไปในใต้น้ำ

เมื่อสาวใช้ที่กดนางเห็นว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่ดิ้นรนอีกต่อไปแล้วนั้น ในที่สุดนางก็วางมือ ก่อนจะหันไปแย้มยิ้มให้กับสตรีที่นั่งอยู่บนศาลาว่า “พระชายาเพคะ นางตายแล้วเพคะ ตายเพราะพลาดพลั้งตกลงไปในน้ำ”

“ทำได้ดี ทั้งหมดล้วนแต่เป็นนางที่รนหาเรื่องตัวเองแท้ ๆ!” สตรีที่นั่งอยู่ในศาลาพลางหัวเราะเยาะเย้ยออกมาด้วยความเย็นชา “รีบตะโกนเรียกผู้ใดซักคนเสีย แล้วบอกว่าพระชายาเจ็ดตกลงไปในน้ำ…”

ยังมิทันที่สตรีนางนั้นจะพูดจบ สีหน้าของนางพลันเปลี่ยนสีไปในทันที พร้อมยกมือชี้นิ้วที่กำลังสั่นเทามาที่ด้านหลังของนางกำนัลรับใช้ "ไห่ถัง ข้างหลังเจ้า..."

ยังมิทันที่นางกำนัลรับใช้นามว่าไห่ถังจะหันกลับมานั้น นางพลันถูกตบหัวลงอย่างรุนแรง ยังมิทันที่จะได้สติกลับมานั้นนางก็เป็นลมหมดสติไปเรียบร้อยแล้ว

ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองนางกำนัลที่ตกลงไปในน้ำนั้น ก่อนจะคว้าผมของนางขึ้นมาและออกแรงลากให้ขึ้นฝั่งมาในทันที

เมื่อครู่นางโจมตีลงไปที่จุดบอดบนร่างกายของนางกำนัลผู้นั้นอย่างรุนแรง ทำให้นางเพียงแค่หมดสติไปเท่านั้นหาได้ถึงตายไม่

“เจ้า เจ้าเป็นคนหรือผีกันแน่?” สตรีที่อยู่บนศาลาพลางมองมาที่นางด้วยความหวาดกลัว “เจ้าทำอะไรไห่ถัง?”

ฉินเหยี่ยนเย่ว์เพียงแย้มยิ้มออกมาด้วยความเย็นชา

นั่นจึงทำให้สตรีที่อยู่บนศาลาพลันมีใบหน้าหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก นางมีนามว่าฉินเสวี่ยเย่ว์ เป็นน้องสาวต่างมารดาของนาง ทั้งยังเป็นคนที่ลงมือวางยากับเจ้าของร่างนี้อีกด้วย

“เจ้าคิดว่า ข้าเป็นคนหรือผีกัน?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงค่อย ๆ ก้าวขึ้นไปบนฝั่ง ด้วยร่างกายที่เปียกโชก เพียงแค่ลมหนาวพัดผ่านเข้ามานั้น ก็ทำเอาหนาวลึกเข้าไปจนถึงกระดูกในทันที

"เจ้า เจ้า..." ฉินเสวี่ยเย่ว์พลันก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว

แววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาของฉินเหยี่ยนเย่ว์ ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงของนาง พร้อมทั้งเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย รวมไปถึงใบหน้าที่เจือมไปด้วยความงดงามแต่ก็ดูสง่างามไม่น้อย ทำเอานางคล้ายกับผีสาวในยามราตรีที่กำลังผุดขึ้นมาจากผืนน้ำด้วยความน่ากลัว

เมื่อนางค่อย ๆ เดินไปหาฉินเสวี่ยเย่ว์ทีละก้าวแล้วนั้น

“เจ้า เจ้าคิดจะทำอะไร” น้ำเสียงของฉินเสวี่ยเย่ว์พลันสั่นเครือ

คนตรงหน้าคือฉินเหยี่ยนเย่ว์ แต่คล้ายกับมิใช่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็ไม่ปาน

ไม่มีทางที่สตรีโง่เง่าจักมีดวงตาที่เฉียบคมและฉายแววกลิ่นอายที่เต็มไปด้วยรังสีฆ่าเช่นนั้นไปได้อย่างแน่นอน

กลิ่นอายที่เต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันเช่นนี้ ทำเอานางนึกหวาดกลัวยิ่งนัก

"เจ้าอย่าเข้ามา ฉินเหยี่ยนเย่ว์ เจ้าอย่ามา..." ฉินเสวี่ยเย่ว์ค่อยก้าวถอยหลังไปทีละก้าวจนปถึงราวบันได ในที่สุดนางไม่มีที่ให้ถอยหนีได้อีก

“ดูอากาศเช่นนี้สิ เกรงว่าหิมะคงจะตกกระมัง?” เสียงของฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่แผ่วเบา กลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความอันตราย “เสื้อคลุมขนสัตว์ที่อยู่บนตัวเจ้าสวยดี ให้ข้ายืมได้หรือไม่?”

ยังมิทันที่ฉินเสวี่ยเย่ว์จะมีปฏิกิริยาตอบกลับมานั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็รับคว้าเสื้อคลุมที่อยู่บนตัวของนางเข้ามาคลุมบนร่างกายของตนเองได้ในทันที

เสื้อคลุมที่ช่วยปกป้องอากาศหนาวเย็นนั้น ทำเอาร่างกายของนางเต็มไปด้วยไอความเย็นอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย

“เจ้า เจ้ากล้าแย่งอาภรณ์ของข้าไปงั้นหรือ” ฉินเสวี่ยเย่ว์ที่สวมเพียงอาภรณ์เนื้อบางตัวเดียวนั้น เมื่อถูกไอลมหนาวพัดผ่านเข้ามาเช่นนี้ นางก็หนาวสั่นเสียทั่วร่างสั่นเทาไปในทันที ในยามที่อยากจะไปแย่งกลับมา

ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันขมวดคิ้วเล็กน้อย ในตอนที่ฉินเสวี่ยเย่ว์กระโจนเข้ามาหานางนั้น นางจึงเล็งไปถานจงในร่างกายพร้อมทั้งโจมตีลงไปอย่างเต็มแรงในทันที

ฉินเสวี่ยเย่ว์ที่รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมานั้น ยามที่นางคิดจะตอบโต้กลับ ทั่วร่างกลับเกิดอาการไร้เรี่ยวแรงไปในทันที พร้อมทังสีหน้าที่เปลี่ยนไปในทันใด "นังสารเลว เจ้าทำอันใดกับข้ากัน?"

“นังสารเลว เจ้ากำลังเอ่ยเรียกผู้ใดกัน?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตบไปที่ใบหน้าของนางในทันที

“เจ้ากล้าตบข้า?” ฉินเสวี่ยเย่ว์ทั้งโกรธทั้งกลัวทั้งตกใจยิ่งนัก นางพลันมองไปที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ดูแตกต่างไปจากเมื่อก่อน “ เจ้าเป็นใครกันแน่? เจ้า เจ้าถูกผีน้ำเข้าสิงไปแล้วหรืออย่างไร?”

“ผีน้ำ? เหตุใดเจ้ามิลองลงไปดูเล่าว่าในทะเลสาบมีผีน้ำอยู่จริงหรือไม่?” เสียงของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันแข็งกร้าวขึ้นมาในทันที

ฉินเสวี่ยเย่ว์ตัวสั่นเทาไปในทันที เมื่อนางได้ยินเสียงที่น่าขนลุกเช่นนี้ "เจ้า เจ้าอยากจะ... เจ้ากล้าดียังไง!"

ยังมิทันที่นางจะพูดจบ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็เตะนางลงไปในทะเลสาบทันที

พร้อมกับเสียงกรีดร้องที่ดังลั่น พร้อมทั้งฉินเสวี่ยเย่ว์ที่ตกลงไปในทะเลสาบที่น้ำเย็นยะเยือกในทันที ด้วยจุดตานจงซึ่งเป็นจุดบอดบนร่างกายที่ถูกควบคุมเอาไว้ ทำให้ทั่วร่างของนางไร้เรี่ยวแรงจนมิอาจออกมาจากทะเลสาบด้วยตัวเองได้ ก่อนจะได้กรีดร้องออกมาด้วยความกลัว

ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองดูท่าทางที่น่าสมเพชของฉินเสวี่ยเย่ว์นั้น พลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเย็นชาว่า "เจ้าทำกับคนอื่นเช่นไรก็ย่อมได้ไปแบบนั้น ยอมรับมันดี ๆ เสีย"

ตำแหน่งที่ฉินเสวี่ยเย่ว์ตกลงไปนั้นถือว่ามิลึกและไม่ตื้นเกินไป ย่อมมิอาจทำให้จมน้ำตายได้

อย่างไรก็ตาม มันก็เพียงพอที่จะมอบบทเรียนให้กับนางเล็ก ๆ น้อย ๆ

"เช่นนั้น เจ้าพอใจแล้วหรือยัง?" ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองดูท่าทางที่น่าสมเพชของฉินเสวี่ยเย่ว์ เสมือนกับนางกำลังพูดคุยกับความว่างเปล่า ทั้งยังคล้ายกับกำลังเอ่ยพูดกับตัวเองก็ไม่ปาน

ลมหนาวที่พัดพา พร้อมทั้งเกล็ดหิมะบางเบาที่ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า พลันหายไปในทันทีเมื่อตกลงไปในทะเลสาบ

ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงรีบออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว เพื่อกลับไปยังจวนอ๋องเจ็ดที่อยู่ไม่ไกลตามความทรงจำของตนในทันที

นางค่อย ๆ หลบเลี่ยงเหล่าข้ารับใช้ เพื่อกลับเข้าไปยังห้องของตนเอง ก่อนจะถอดอาภรณ์ที่เปียกแฉะออก ทั้งยังสั่งให้คนเตรียมน้ำร้อนและยาสมุนไพรไว้ หลังจากแช่น้ำร้อนแล้วนั้น ร่างกายที่แข็งตัวของนางก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายและฟื้นตัวขึ้นมาในทันที

“เหตุใดเจ้าถึงไม่สังหารนาง? เหตุใดไม่สังหารนางเสีย?” เสียงที่แหลมเล็กพลันดังขึ้นมาในหัวของนางในทันที

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่ถอนหายใจออกมา ก่อนจะหยิบกระบวนตักน้ำร้อนราดลงไปที่บนหัวของตนเอง

น้ำร้อนที่ค่อย ๆ ไหลราดลงนั้น ทำเอาเกิดไอน้ำที่พุ่งกระจายขึ้น พร้อมทั้งกลิ่นสมุนไพรที่ฟุ้งไปทั้วห้อง เมื่อได้กลิ่นสมุนไพรที่คุ้นเคยแล้วนั้น ก็ทำให้จิตใจของนางรู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย

เดิมทีนางเป็นเพียงคนธรรมดาที่อาศัยอยู่ในช่วงยุคเทคโนโลยีเท่านั้น

ปู่ของนางเป็นแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก หลังจากที่ปู่ของนางเสียชีวิต ในฐานะนางเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ นางกลับถูกตามล่าโดยชายลึกลับชุดดำผู้นั้น ชายชุดดำพยายามบังคับให้นางมอบสมบัติลับของปู่ให้กับเขา

แม้ว่าปู่ของนางจักเป็นหมอจีนผู้ยิ่งใหญ่ หากแต่เขาก็ช่วยเหลือผู้คนมากมายเสียจนสิ้นอายุขัย อีกทั้งใช้ชีวิตยากจนมาโดยตลอด ถุงเท้าของเขาถึงกับเย็บแล้วเย็บอีกแต่ก็ใช้มานานถึงสามปี ปู่ของนางหาได้มีสมบัติลับอันใดไม่

หลังจากที่ชายชุดดำจับตัวนางมาได้นั้น นางก็เอาตัวไปทรมานอย่างหนัก ไม่ง่ายเลยที่นางจะหนีออกมาได้นั้น แต่กลับต้องมาพบว่าที่ชายชุดดำพานางมานั้นคือเกาะร้าง นางที่ไม่มีทางเลือกจึงต้องเอาตัวรอดโดยการกระโดลงทะเล เมื่อคลื่นยักษ์ซัดเข้ามา ร่างกายของนางจึงถูกคลื่นยักษ์กลืนกินลงไป เมื่อได้สติกลับมานั้น นางก็มาโผล่ยังสถานที่บ้า ๆ ที่เกือบถูกคนจับกดน้ำตายเสียแล้ว

“ปู่ของข้าเป็นหมอ ข้าสืบทอดทักษะทางการแพทย์ทั้งหมดของเขาเอาไว้ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ข้าไม่อาจเป็นแพทย์ที่เก่งเท่ากับปู่ของข้าได้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวออกมา “ถึงกระนั้น ข้าเป็นเพียงหมอครึ่งเดียวเท่านั้น หมอย่อมมีหน้าที่ช่วยชีวิตแลรักษาผู้บาดเจ็บ หาใช่นักฆ่าไม่”

เสมือนว่านางกำลังเอ่ยกับตัวเอง

“เจ้ายึดร่างของข้าไป เหตุใดเจ้าถึงไม่ช่วยล้างแค้นให้กับข้าเล่า? จักสังหารพวกมันหรือไม่นั้น ก็ยากที่จะขจัดความเกลียดชังในใจของข้าไปได้อยู่ดี ความแค้นของข้ามิอาจสลายไปได้ง่าย ๆ ข้าไม่ยอม ”พร้อมทั้งเสียงที่ดังขึ้นมาในหัวของนางอีกครั้ง

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ค่อยเอนตัวนอนลงเพื่อปล่อยให้น้ำร้อนจมทั่วหัวของนาง

หลังจากที่นางกลั้นหายใจใต้น้ำไปได้สักพักหนึ่ง ถึงค่อย ๆโผล่พ้นน้ำขึ้นมา เพื่อให้สมองรู้สึกโล่งอีกครั้ง

“ในเมื่อเจ้าตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้แล้ว เหตุใดยังดื้อรั้นอยู่เล่า?”

“ข้าไม่ยอม ข้าถือว่านางเป็นน้องสาวที่ดีที่สุดของข้ามาโดยตลอด เป็นถึงคนสนิทที่สุด แต่นาง นาง…” เสียงเล็กแหลมที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าเอ่ยออกมา

น้ำเสียงที่เย็นชาฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงเอ่ยขึ้นมาว่า "ในตอนที่ข้าเข้ามาในร่างของเจ้านั้น เจ้าได้หมดแรงไปนานแล้ว นับว่าโชคดีที่รอดมาได้ ยิ่งไปกว่านั้น ข้าได้รวมความทรงจำทั้งหมดของเจ้าเอาไว้กับตนเองแล้วด้วย รู้ถึงสาเหตุและผลที่ตามมาเป็นอย่างดี เรื่องบางเรื่องล้วนแต่เป็นเจ้าที่กระทำด้วยตัวเองทั้งหมด หาได้ควรโทษโกรธผู้ใด "

“ไม่ ไม่ใช่ ข้าทำทุกอย่างเพื่อท่านอ๋องสาม เดิมทีข้าหมั้นหมายกับท่านอ๋องสามแล้ว พระองค์ก็ชมชอบข้าเช่นกัน ทั้งหมดนี่ล้วนแต่เป็นแผนการของนังสารเลวนั่น หากท่านอ๋องสามล่วงรู้ความจริงละก็ พระองค์จะต้องช่วยข้าแน่นอน ทั้งยังต้องมอบความยุติธรรม .....”

“พระชายาเพคะ ท่านอ๋องสามเสด็จมาแล้วเพคะ” ทันใดนั้นเสียงของสาวใช้ก็ดังขึ้นจากนอกประตูในทันที “ถึงหน้าประตูแล้วเพคะ”
ความคิดเห็น (7)
goodnovel comment avatar
Chatree Sedakum
ขอบคุณครับ
goodnovel comment avatar
Sornsawan Phanramruay
ดูคำสะกดก่อนมั้ยคะ​ สะกดผิดหลายคำ​ แย่มาก
goodnovel comment avatar
phiengsone
Good story
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status