Share

บทที่ 13

Author: จี้เวยเวย
ซ่งรั่วเจินกินอาหารมื้อกลางวันเสร็จก็ไปที่จวนตระกูลหลิ่ว

มองเห็นผู้คนมากมายเข้าออกประตูจวนตระกูลหลิ่วมาแต่ไกล คนไปมาหาสู่มีจำนวนไม่น้อย เมื่อเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงชมเชยเซ็งแซ่

“ไต้ซือเทียนสุ่ยมีวิชาแก่กล้าจริงๆ เจ้าจำหลานชายของตระกูลจ้าวที่หมู่นี้เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดได้หรือไม่ หาหมอมากมายล้วนไม่เห็นผล เห็นๆ อยู่ว่าสุขภาพย่ำแย่ลงทุกทีจนแทบจะไม่ไหวแล้ว พอไต้ซือเทียนสุ่ยลงมือเท่านั้นก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง!”

“นั่นน่ะสิ หลานชายข้าพักนี้ค้าขายไม่ราบรื่น เกือบทำกิจการของตระกูลล้มละลายไปเสียแล้ว ตั้งแต่ไต้ซือเทียนสุ่ยอัญเชิญเทพเจ้าแห่งโชคลาภมาให้ ทุกวันนี้การค้าเจริญรุ่งเรือง ดีวันดีคืน!”

“ตระกูลหลิ่วเองก็ไม่รู้ว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนไปมากมายเท่าไหร่จึงสามารถเชิญไต้ซือเทียนสุ่ยมาได้ วันหน้าจะต้องได้ดิบได้ดีแน่”

ได้ยินคำพูดแฝงความอิจฉาเหล่านั้น คิ้วใบหลิวของซ่งรั่วเจินก็เลิกขึ้นเล็กน้อย นางจะไปหยั่งเชิงไต้ซือเทียนสุ่ยผู้นี้ดูสักหน่อยว่ามีความสามารถจริงหรือไม่!

เมื่อนางเข้าไปในจวนตระกูลหลิ่ว เห็นข้ารับใช้ในจวนกำลังจัดฮวงจุ้ยตามคำแนะนำของไต้ซือเทียนสุ่ย ก็แค่นหัวเราะในใจ

ฮวงจุ้ยในจวนตระกูลหลิ่วเดิมทีก็ดีอยู่แล้ว แต่เมื่อปรับเปลี่ยนเช่นนี้กลับกลายเป็นว่าเละเทะไปหมด ตกลงแล้วคนผู้นี้ไม่เข้าใจหลักฮวงจุ้ยเลยหรือว่ามีความแค้นกับตระกูลหลิ่วกันแน่?

“รั่วเจิน เจ้าเพิ่งถอนหมั้นไปไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงมาที่นี่ได้?” หลิ่วอี้หมิง คุณชายใหญ่ตระกูลหลิ่วถามอย่างประหลาดใจ “ข้าได้ยินเรื่องที่จวนหลินโหวแล้ว เจ้า...”

“ญาติผู้พี่ ท่านอาจไม่รู้เรื่องนี้ ถึงซ่งรั่วเจินจะเป็นฝ่ายถอนหมั้น แต่ยังมีแก่ใจไปส่งสาวใช้ของตัวเองออกเรือน วันนี้มีเวลามาจวนตระกูลหลิ่วจะน่าแปลกตรงไหนกัน?”

“ยามนี้นางต้องอับอายขายหน้า อารมณ์ไม่ดีก็เริ่มไปลงกับคนใกล้ตัว ผู้หญิงจิตใจชั่วร้ายเช่นนี้ ท่านระวังไว้บ้างจะดีกว่า ถึงคราวเดือดร้อนเพราะนาง อย่ามาหาว่าข้าไม่เตือนท่านก็แล้วกัน!”

ซ่งรั่วเจินตวัดสายตาไปมองซุนฮั่นเฟยที่พูดจาเยาะเย้ยถากถาง สมกับที่เป็นพี่ชายของซุนเยียนเอ๋อร์ สองพี่น้องศีลเสมอกัน แค่มองหน้าเขาก็นึกอยากตบบ้องหูสักที

“เพียะ!”

ซ่งรั่วเจินไม่ได้แค่คิด แต่นางทำเช่นนั้นจริงๆ

“เจ้ากล้าตบข้า?”

ซุนฮั่นเฟยเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ ซ่งรั่วเจินเป็นกุลสตรีมาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยลงมือทำร้ายคนอื่นมาก่อน เมื่อก่อนเขาพูดจาล้ำเส้นยิ่งกว่านี้ แต่ละครั้งล้วนทำให้ซ่งรั่วเจินโกรธจัด แต่ก็ทำเพียงอดทนอดกลั้นทั้งขอบตาแดงเรื่อเท่านั้น วันนี้คิดไม่ถึงว่าจะกล้าตบเขา!

“ญาติผู้พี่ ข้าเห็นว่าสติของท่านไม่ค่อยแจ่มใสนัก จึงตบเรียกสติให้ท่านเจ้าค่ะ!”

“ยามนี้หลินโหวรังแกข้าก่อน ข้าถอนหมั้นก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว เรื่องพื้นๆ แค่นี้ท่านยังไม่เข้าใจก็มาวิพากษ์วิจารณ์อยู่ตรงนี้ ทำให้ข้าเสื่อมเสียชื่อเสียง แบบนี้ไม่สมควรถูกตบหรือเจ้าคะ?”

“ข้าเป็นบุตรสาวตระกูลซ่ง พ่อข้าคือผิงหยางโหว ท่านประกาศปาวๆ ว่าข้ามีจิตใจชั่วร้ายโดยไม่มีหลักฐาน แล้วจะปล่อยให้ท่านมากล่าวหาส่งเดชเช่นนี้ได้อย่างไร?”

สายตาซ่งรั่วเจินเย็นเยียบ ตระกูลซุนเป็นแค่ขุนนางขั้นห้าตัวเล็กๆ ถ้าพูดถึงลำดับชั้นแล้วยังห่างไกลจากตระกูลซ่งของตน แต่เพราะปกติท่านแม่ไม่ถือสาหาความ ที่ผ่านมาเวลาพบหน้าแม้แต่พวกพี่น้องของตนก็ยอมอดทนอดกลั้นต่อพวกเขามามาก

แต่ตอนนี้นางไม่มีนิสัยของเจ้าของร่างเดิมอีก แล่นมาพูดจาถากถางต่อหน้านางแบบนี้ นางย่อมไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ แน่!

“ข้าไปใส่ร้ายเจ้าตอนไหน? เพ่ยหลานแค่พูดผิดไปนิดเดียว เจ้าก็ให้นางแต่งไปเป็นอนุของพ่อบ้านหลิ่ว แบบนี้ไม่เรียกว่าชั่วร้ายจะให้เรียกอะไร?”

“สาวใช้ข้างกายคุณหนูบ้านใด สุดท้ายแล้วไม่ได้มีที่พักพิงดีๆ บ้าง? เจ้ากลับส่งนางไปเป็นอนุ ส่งคนไปตอนกลางดึกวันนั้น แม้แต่ตำแหน่งออกหน้าออกตาได้ก็ยังไม่มี แบบนี้ยังไม่เรียกว่าชั่วร้าย?”

ซุนฮั่นเฟยโมโหจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ วันนี้เขาตั้งใจพาสหายมาพบไต้ซือเทียนสุ่ย คิดไม่ถึงว่าจะไปได้ยินบทสนทนาระหว่างมารดาของตนเองกับพ่อบ้านหลิ่วเข้า ทั้งเห็นว่าซ่งรั่วเจินก็มาที่นี่ด้วยจึงอดจะพูดจาเหน็บแนมไม่ได้ แต่คิดไม่ถึงว่าซ่งรั่วเจินจะเปลี่ยนนิสัยแล้ว ยกมือขึ้นได้ก็ตบเขาทันที

“ญาติผู้พี่ ข้ารู้ว่าท่านไม่มีสมองมาแต่ไหนแต่ไร เพ่ยหลานทรยศข้าก่อน รับเงินจากคนอื่น นางเป็นสาวใช้ที่ท่านน้าของข้า ซึ่งก็คือท่านแม่ของท่านส่งมาให้ข้าอย่างไรเล่า!”

“ข้าไม่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่เพราะอยากรักษาหน้าตาให้ท่านน้า แต่ท่านกลับมาตำหนิข้าเพราะเรื่องนี้? ปกติข้าอดทนอดกลั้นต่อท่านมามากแล้ว แต่ท่านยังคิดจะใส่ร้ายข้า เช่นนั้นข้าก็คงต้องพูดให้ชัดเจนแล้ว!”

สหายหลายคนนั้นของซุนฮั่นเฟยย่อมรู้จักซ่งรั่วเจิน คุณหนูอันดับต้นๆ ของเมืองหลวง สองปีนี้คอยดูแลจวนหลินโหว ทำให้จวนหลินโหวที่ตอนแรกทรุดโทรมนับวันก็ยิ่งรุ่งเรือง เมื่อก่อนใครเห็นแล้วไม่เอ่ยชมเชยสักสองสามประโยคบ้าง?

เรื่องเมื่อวานลือกันไปทั่วเมืองหลวง ผู้คนพูดถึงเรื่องนี้แตกต่างกันไป บ้างคิดว่าหลินโหวเป็นผู้ชายหลายใจ บ้างคิดว่าซ่งรั่วเจินจิตใจคับแคบเกินไป

เรื่องใหญ่อย่างการแต่งงานไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เกี้ยวเจ้าสาวมาถึงหน้าประตูใหญ่แล้วพูดว่าไม่แต่งก็จะไม่แต่ง ยังได้ยินซุนฮั่นเฟยพูดแล้วพูดอีกว่านางจิตใจชั่วร้าย ทุกคนบังเกิดความประทับใจที่ไม่ดีไปโดยไม่รู้ตัว คิดไม่ถึงว่าเบื้องหลังยังมีเรื่องแบบนี้อยู่ด้วย?

“จะเป็นไปได้อย่างไร?”

ซุนฮั่นเฟยเห็นสายตาทุกคนที่มองตนเองเปลี่ยนไป สีหน้าพลันเปลี่ยน แต่เพ่ยหลานถูกคนซื้อตัว นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?

“เรื่องนี้จะว่าไปแล้วข้าก็อยากถามญาติผู้พี่เหมือนกัน เพ่ยหลานสนิทกับท่านมากไม่ใช่หรือเจ้าคะ? ท่านถึงได้มาทวงความเป็นธรรมให้สาวใช้คนหนึ่งเช่นนี้”

“คนที่ซื้อตัวนางไปคือฉินซวงซวง ข้าได้ยินมาว่าท่านสนิทสนมกับพี่ชายคนรองของฉิงซวงซวงมาก ท่านคงไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้หรอกใช่ไหมเจ้าคะ? ไม่อย่างนั้น ฉินซวงซวงจะซื้อตัวสาวใช้ของข้าได้อย่างไร?”

ใบหน้าพริ้มเพราของซ่งรั่วเจินฉายแววกังขา “เรื่องที่หลินโหวต้องการแต่งแม่นางฉิน ข้าถูกปิดบังมาโดยตลอด แต่คิดว่าตระกูลฉินคงทราบเรื่องมาแต่แรก ช่วงนี้ญาติผู้พี่ไปเยี่ยมเยือนจวนตระกูลฉินบ่อยๆ ไม่รู้ว่ามีเหตุผลอะไร คงไม่ได้ช่วยคนอื่นมารังแกญาติผู้น้องอย่างข้าหรอกนะเจ้าคะ?”

สาวน้อยกล่าวพลางถอยหลังไปหนึ่งก้าว ใบหน้าเผยความเจ็บปวด

ชั่วขณะนั้น อย่าว่าแต่หลิ่วอี้หมิง แม้แต่สหายของซุนฮั่นเฟยล้วนรู้สึกไม่เป็นธรรมแทนซ่งรั่วเจิน

ซ่งรั่วเจินอาจไม่รู้ แต่สหายอย่างพวกเขากลับรู้ดี ซุนฮั่นเฟยเคยบอกพวกเขาเรื่องที่หลินโหวต้องการตบแต่งฉินซวงซวง เมื่อก่อนพวกเขาไม่คิดว่ามีอันใดไม่เหมาะ แต่มารังแกญาติผู้น้องของตนเพื่อคนนอกเช่นนี้ไม่เกินไปหน่อยหรือ?

หลายปีมานี้ตระกูลซ่งดูแลตระกูลซุนอย่างดี คนที่คุ้นเคยกันล้วนรู้ดี ช่วยน้องสาวของสหายซื้อตัวสาวใช้ข้างกายญาติผู้น้อง เรื่องแบบนี้ทำลงไปได้อย่างไร?

“ซุนฮั่นเฟย เจ้าออกจะทำเกินไปหน่อยกระมัง แม่นางซ่งได้รับความไม่เป็นธรรมถึงเพียงนี้ ดีชั่วอย่างไรเจ้าก็เป็นญาติผู้พี่ มาทำเช่นนี้กับนางได้อย่างไร?”

“พวกเจ้า...”

ซุนฮั่นเฟยเผยอปาก มองซ่งรั่วเจินที่ก้มหน้าด้วยท่าทางเจ็บช้ำใจก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก

ซ่งรั่วเจินลอบยิ้มเย็นในใจ หลายปีมานี้นิสัยเจ้าของร่างเดิมหยั่งรากลึกในจิตใจคนหมู่มาก นับว่าอำนวยความสะดวกให้นางพอดี

“แม่นางซ่ง เจ้าพูดจาเหลวไหล ใส่ร้ายญาติผู้พี่ ประพฤติชั่วด้วยวาจา ทั้งยังจิตใจคับแคบ ทำให้เดินทางผิดได้ง่าย อาตมาขอเกลี้ยกล่อมให้เจ้าสั่งสมบุญกุศลผ่านวาจา มิฉะนั้นจะไม่ได้พบจุดจบที่ดี”

เวลานั้นเอง ชายวัยกลางคนที่แต่งกายอย่างผู้บำเพ็ญพรตคนหนึ่งเดินออกมาช้าๆ สายตาจับจ้องซ่งรั่วเจิน สีหน้าฉายแววหยิ่งยโส

“ไต้ซือเทียนสุ่ย!”

ซุนฮั่นเฟยราวกับเห็นดาวช่วยชีวิตก็ไม่ปาน เอ่ยอย่างย่ามใจว่า “ไต้ซือเทียนสุ่ย รีบมาเป็นพยานให้ข้าเถิด นางจงใจใส่ร้ายข้า!”

ซ่งรั่วเจินมองชายตรงหน้าอย่างประเมิน ขนคิ้วเบาบาง ตาลอย หน้าตอบ โหงวเฮ้งอัปมงคลแบบคนถ่อยได้ดี คนเช่นนี้น่ะหรือที่เป็นไต้ซือ?
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 14

    ไต้ซือเทียนสุ่ยมองซ่งรั่วเจินนิ่งๆ “แม่นางซ่ง หลายวันก่อนอาตมาไปดูฮวงจุ้ยที่จวนตระกูลซ่ง หมู่นี้จวนตระกูลซ่งเกิดเรื่องติดต่อกัน ใช่ว่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าเลยเสียทีเดียว”“อ้อ? ไหนท่านลองพูดให้ฟังที ว่าเกี่ยวข้องกับข้าอย่างไรบ้าง?”ซ่งรั่วเจินยิ้มหยัน มองคนตรงหน้าด้วยความสงบเยือกเย็น นางอยากรู้นักว่าคนผู้นี้จะแต่งเรื่องอย่างไรออกมา!“ข้าเคยดูเวลาตกฟากของเจ้ามาก่อน เจ้าชะตาอาภัพมีดวงพิฆาต หลินโหวเป็นดาวนำโชคในชีวิตเจ้า มีเพียงต้องออกเรือนให้เขาจึงจะสามารถคลี่คลายได้”“เดิมทีหลินโหวไม่มีทางแต่งเจ้า หากไม่ใช่เพราะข้าใช้วิธีการบางอย่าง แม้แต่ภรรยาหลวงเจ้าก็คงไม่ได้เป็น วันนี้เจ้าอยากอยู่อย่างสงบก็มีแต่ต้องเดินทางนี้เท่านั้น มิเช่นนั้น ดวงพิฆาตของเจ้ายังจะทำให้คนอื่นเคราะห์ร้ายไปด้วย”ได้ยินเช่นนั้น คนที่เดินตามไต้ซือเทียนสุ่ยออกมาล้วนเผยสีหน้าตื่นตกใจดวงพิฆาต นี่เป็นชะตาชีวิตที่ทุกคนหวาดกลัวที่สุด เดิมนึกว่าหลินโหวทอดทิ้งซ่งรั่วเจินเป็นการปฏิบัติต่อนางอย่างไม่เป็นธรรม แต่ดูจากตอนนี้ หลินโหวเป็นดาวช่วยชีวิตนาง นางกลับไม่รู้ดีชั่ว!“มิน่าเล่า หมู่นี้ตระกูลซ่งถึงได้เกิดเรื่องไม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 15

    สิ้นเสียงซ่งรั่วเจิน ทุกคนก็ขมวดคิ้ว รู้สึกว่านางช่างก้าวร้าวเสียจริง ส่วนว่าของสกปรกดังกล่าวคืออะไรกลับไม่รู้เลยแม้แต่น้อยแต่เมื่อไต้ซือเทียนสุ่ยได้ยินคำพูดนั้น ใบหน้าก็พลันเปลี่ยนสี นางรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?หรือนางจะเข้าใจฮวงจุ้ยจริงๆ? นั่นเป็นไปไม่ได้!ความคิดนั้นเพิ่งผุดขึ้นมา ไต้ซือเทียนสุ่ยก็ปัดทิ้งไปโดยไม่ลังเล ถ้ารู้จริงก็ควรค้นพบไปนานแล้ว จะเพิ่งมาคิดบัญชีเอาป่านนี้ได้อย่างไร?“เจ้าทำอะไรของเจ้า?”น้ำเสียงแฝงความไม่พอใจเสียงหนึ่งดังขึ้น หลังจากนั้นก็มีเสียงอ่อนหวานดังตามมาติดๆ“ท่านโหว ท่านอย่าโมโหไปเลยเจ้าค่ะ เรื่องนี้อาจมีอะไรเข้าใจผิดกันก็เป็นได้”ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มของฉินซวงซวงฉายแววบริสุทธิ์ใจ สายตาที่มองมาทางซ่งรั่วเจินยังสะท้อนความไม่สบายใจอยู่ในนั้น “คิดว่าแม่นางซ่งคงรู้สึกไม่ดีจึงได้มาก่อเรื่องเช่นนี้ ท่านโหวอย่าถือสานางเลยนะเจ้าคะ”“ซ่งรั่วเจิน เมื่อวานข้าขอโทษเจ้าไปแล้ว เป็นเจ้าที่ไม่อยากแต่งกับข้า ไฉนตอนนี้ยังมาให้ร้ายซวงซวงอีก?”ซ่งรั่วเจินกวาดสายตาไปมองก็สบเข้ากับแววตาคาดคั้นของหลินจือเยว่ “ข้าประลองกับไต้ซือเทียนสุ่ยเกี่ยวอันใดกับฉินซวงซวง? หลินโหว สม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 16

    ไต้ซือเทียนสุ่ยรับคำสั่งจากฉินซวงซวง สายตาที่ทอดมองซ่งรั่วเจินเองก็เจือไอเย็น สตรีผู้นี้บังอาจมาทำลายช่องทางทำมาหากินของเขา เขาจะจัดการให้หนักเลยทีเดียว!ครู่ถัดมา เขามองผีน้อยที่ตนเลี้ยงอย่างลำพองใจ เขาต้องเสียแรงไปมากถึงจะเลี้ยงออกมาได้ ยังได้รับคำชี้แนะจากผู้มีวิชาจึงมีความสามารถเช่นนี้สายตาซ่งรั่วเจินเองก็ตกลงบนตัวผีน้อย ผีน้อยตัวนี้อายุราวหกถึงเจ็ดขวบเท่านั้น เพราะถูกเลี้ยงดูอย่างดี รูปร่างกลับไม่น่ากลัว เพียงแต่กลิ่นอายชั่วร้ายยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้ชัดว่าคือวิญญาณอาฆาตตนหนึ่งตายอย่างไม่เป็นธรรม จึงสั่งสมไอแค้นไว้มากในฐานะคนของสำนักวิชาเต๋า เผชิญหน้ากับวิญญาณอาฆาตเช่นนี้สมควรหาวิธีกำจัดความอาฆาตพยาบาท ช่วยเหลือเขาให้ไปเกิดใหม่ในเร็ววันไต้ซือเทียนสุ่ยผู้นี้ ใช้ประโยชน์จากความอาฆาตพยาบาทเล็กน้อยนี้ ทำให้กลายเป็นกลวิธีหาเงิน“ไต้ซือเทียนสุ่ย ชาตินี้ข้ายังมีหวังจะหาตัวลูกสาวของข้าพบอีกหรือไม่?” สวีฮูหยินเอ่ยถามอย่างร้อนใจไต้ซือเทียนสุ่ยแสร้งหยิบกระดองเต่าออกมา ใส่แผ่นเหล็กสองชิ้นเข้าไปภายใน ปากบ่นงึมงำสวดคาถาขึ้นมาสกุลสวีตามหาลูกสาวคนนี้มานานนับสิบกว่าปีแล้ว ก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 17

    “องค์ชายสาม?”ชั่วขณะหลินจือเยว่มองเห็นฉู่จวินถิง สีหน้าก็เข้มขึ้น เขายังจำได้ดี เมื่อสองปีก่อนซวงซวงปฏิเสธเขาก็เพราะฉู่จวินถิง!“ข้าได้ยินว่ามีไต้ซือวิชาล้ำเลิศของลัทธิเต๋าท่านหนึ่งเดินทางมาเมืองหลวงจึงมาดูสักหน่อย มองรูปลักษณ์ดูแล้วยอดเยี่ยมกว่าที่คิดไว้มากนัก”ใบหน้าฉู่จวินถิงประดับยิ้ม ท่วงท่าที่แสดงออกมากลับไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าเขาเพียงยืนอยู่ที่นั่น พูดคุยอย่างสนุกสนานแต่กลับสง่างามเจิดจรัส ทำให้คนไม่กล้าล่วงเกินชั่วขณะที่ฉินซวงซวงมองเห็นฉู่จวินถิง ก็ยังมิอาจควบคุมความหลงใหลที่สะท้อนภายในสายตาได้แม้กลับชาติมาเกิดอีกครั้ง ยามได้พบฉู่จวินถิงก็ยังรู้สึกโหยหาอย่างมิอาจอดกลั้น บุรุษเช่นนี้ถึงจะเป็นคนที่นางต้องการอย่างแท้จริง สูงศักดิ์ หล่อเหลา ลึกลับ นางอยากรู้เหลือเกินว่าบุรุษเช่นนี้ จะเป็นอย่างไรหากวันหนึ่งเกิดหลงใหลยอมจำนนขึ้นมา?ทว่าน่าเสียดายชาติก่อนนางเสียเวลาไปมากเพียงนั้น เดินทางผิดมากเพียงนั้น สุดท้ายก็ไม่สามารถทำให้เขาชายตาแลได้ ตรงกันข้ามกลับกลายเป็นตัวตลกในสายตาของทุกคนซ่งรั่วเจินเองก็คิดไม่ถึงว่าจะได้พบฉู่จวินถิงที่นี่ มองเห็นโชคชะตาสีแดงจนเริ่มม่วงนั้นของเขา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 18

    หลังไต้ซือเทียนสุ่ยได้ยินคำนี้หัวใจก็เต้นตึกตัก จ้าวเหวินเทากลับย้อนคิดอย่างไม่เข้าใจ “หลานชายข้าเริ่มร้องไห้ราวเมื่อเจ็ดวันก่อน ไม่ยอมกินอะไร แม้กินแล้วก็อาเจียนออกมาอย่างรวดเร็ว...”พูดไปๆ เขาคล้ายนึกบางอย่างออกอย่างฉับพลัน ดวงตากลมโตหันมองเทียนสุ่ย “ไต้ซือเทียนสุ่ยคล้ายมาถึงเมืองหลวงในตอนนี้!”“ก่อนหลานชายท่านร้องไห้ เคยมีคนส่งของอันใดให้หรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามอีกครั้ง“เมื่อนั้นมีคนส่งจี้หยกหนึ่งชิ้นให้หลานชายข้าจริงๆ จี้หยกนี้ปลุกเสกมาก่อนแล้ว เป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง เดิมทีข้าไม่อยากรับไว้ แต่เห็นหลานชายคล้ายชอบจนไม่ยอมปล่อยมือจึงสวมคอของเขาไว้แล้วเริ่มตั้งแต่วันที่สอง เด็กก็ร้องไห้ไม่หวาดไม่ไหว จนกระทั่งเมื่อสองวันก่อนข้าพาหลานชายมาพบไต้ซือเทียนสุ่ย ไต้ซือเทียนสุ่ยมอบหยกอีกหนึ่งชิ้นให้อาการจึงดีขึ้น แต่หยกชิ้นนั้นก่อนหน้านี้ไม่รู้หายไปที่ใดแล้ว”ใต้เท้าจ้าวเล่าถึงตรงนี้ ตอบสนองเชื่องช้าอย่างไรก็รู้ได้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้นแล้วเดิมทีนี่ก็ไม่ใช่วิธีขับไล่สิ่งสกปรกที่เกาะตัวเด็ก แต่เป็นได้รับภัยโดยไร้สาเหตุ!จี้หยกชิ้นก่อนทำร้ายเด็ก ถัดมาผ่านกลวิธีของไต้ซือเทียนสุ่ย อันที่จริงขอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 19

    “ซวงซวงมิได้ตั้งใจ เหตุใดเจ้าต้องบีบคั้นคนอื่นถึงเพียงนี้?” หลินจือเยว่ปกป้องฉินซวงซวงไว้ทางด้านหลัง สีหน้าบึ้งตึง“ข้าบีบคั้นคน? คนมากมายที่นี่ถูกทำร้าย หลานชายของใต้เท้าจ้าวได้รับภัยโดยไร้สาเหตุ พี่รองข้าต้องตาบอดเพราะสวมสร้อยข้อมือเส้นนี้ บัดนี้หลินโหวพูดหนึ่งประโยคว่ามิได้ตั้งใจก็ถือว่าจบกันไปแล้วกระนั้นรึ? ท่านมีสิทธิ์อะไรพูดคำนี้กัน?”ใบหน้างดงามมีเสน่ห์ของฝ่ายหญิงเจืออารมณ์โกรธขึ้ง ดวงตาดำดุจหมึกคู่งามทอประกายวาวโรจน์ ท่าทีดุดันชัดเจน ถึงขั้นทำให้หลินโหวตะลึงงัน“ไต้ซือชั่วคนนี้หลอกพวกเราหลายคนเพียงนี้ หากมิใช่เพราะฉินซวงซวงเชิญมา พวกเราจะถูกหลอกได้อย่างไร?”“ตนเองตาไม่ดีก็ช่างเถอะ ยังพาหายนะเช่นนี้มาด้วย โชคร้ายที่พวกเราแต่ละคนหลงเชื่อ ทำร้ายพวกเราอย่างรันทดถึงเพียงนี้!”“หลินโหวเองก็มิใช่ว่าถูกหญิงคนนี้ใช้เล่ห์เหลี่ยมอันใดจับไว้แล้วหรือ หาไม่แล้วไฉนเลยจะลุ่มหลงนาง ไม่ยอมแต่งงานกับแม่นางซ่งที่ดีเพียงนี้ ต้องแต่งกับหญิงผู้นี้เท่านั้น?”ได้ยินเสียงตำหนิเกินควร ประโยคแรกว่ารุนแรงแล้วประโยคถัดมากลับรุนแรงยิ่งกว่า สีหน้าฉินซวงซวงเผือดซีด คิดดูแล้วก็ไม่เข้าใจ ทั้งที่ชาติก่อนไต้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 20

    หลินจือเยว่คิดแล้วก็ไม่เข้าใจ เหตุใดฉู่อ๋องจึงให้ท้ายซ่งรั่วเจินฉู่อ๋องถึงวัยออกเรือนแล้ว แต่กลับยังไม่แต่งงาน คุณหนูในเมืองหลวงมากมายล้วนหลงใหล กลับไม่มีผู้ใดสามารถเข้าตาของเขาได้ เหตุใดบัดนี้กลับปกป้องซ่งรั่วเจิน?“เมื่อครู่เป็นข้าเข้าใจผิดไป ขออภัย”หลินจือเยว่พูดขอโทษอย่างฝืนๆ อึดอัดคับข้องใจเป็นที่สุด เขาเป็นขุนนางใหม่ในราชสำนัก เมื่อหลายวันก่อนทุกคนในราชสำนักล้วนชื่นชม ทุกคนที่ได้พบต่างเข้ามาผูกไมตรีกับเขา ทว่านับตั้งแต่เมื่อวานก็เริ่มขายหน้าอย่างต่อเนื่อง“หวังว่าท่านโหวจะจดจำไว้ อย่าเปิดปากขอโทษเพราะทำผิดบ่อยเกินไปนัก ข้าฟังแล้วเลี่ยนนัก” ซ่งรั่วเจินรับคำนิ่งๆ ไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อยสายตาฉู่จวินถิงกวาดมองบนตัวพวกซุนฮั่นเฟย “เมื่อครู่คนพูดจาส่งเดชคล้ายมิใช่เพียงหลินโหวคนเดียวกระมัง?”เห็นสถานการณ์แล้ว หลิ่วเฟยเยี่ยนที่กำลังวางแผนหลบหลีกเข้ากลุ่มคนพลันชะงักฝีเท้า ใบหน้าเผยรอยยิ้มประจบเอาใจ “รั่วเจิน ล้วนเป็นน้าไม่ดีเอง เข้าใจเจ้าผิดไปแล้ว น้าเองก็กังวลเจ้าพูดผิดไปจะสร้างปัญหาเอาได้ เจ้าไม่ถือสาน้าใช่หรือไม่?”“ญาติผู้น้อง พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน” ซุนฮั่นเฟยพูดยิ้ม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 21

    ซ่งรั่วเจินหัวเราะเยาะในใจ ตอนที่อ่านนิยายนางก็รู้สึกว่าตระกูลหลิ่วทั้งตระกูลไม่ใช่คนดี หลิ่วเฟยเยี่ยนกล้ากระทำการอย่างโจ่งแจ้งก็เพราะอาศัยการสนับสนุนจากตระกูลหลิ่วตอนแรกแม่ของนางก็เคยไม่พอใจ แต่ใครจะคิดว่าตระกูลนี้ลำเอียงมากนัก มักจะพูดตลอดว่าหลิ่วเฟยเยี่ยนเป็นน้องสาวแท้ ๆ ในฐานะพี่สาวควรดูแลน้องให้มาก ทั้ง ๆ ที่ผู้ที่ตกที่นั่งลำบากคือท่านแม่ของนาง ทว่าสุดท้ายกลับถูกตำหนิว่าจิตใจแคบหลายปีที่ผ่านมานี้ เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนเป็นปกติ เมื่อปิดประตูพูดคุยกัน ก็จะทำให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก ไม่แน่ว่าอาจจะถูกใส่ร้ายซ้ำอีกด้วย“จะเป็นการดูถูกได้อย่างไร? เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนมากมายเช่นนี้ ท่านน้าก็บอกแล้วว่านางโดนใส่ความ แน่นอนว่าต้องให้ทุกคนได้รับรู้ความจริงเพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด ข้าหวังดีต่อท่านน้าจริง ๆ นะเจ้าคะ!”ซ่งรั่วเจินมีสายตาใสบริสุทธิ์ ท่าทางจริงใจจนแม้แต่หลิ่วซวี่หยางก็ยังคล้อยตาม แต่ในใจเขารู้ดีว่าไม่มีการใส่ความอะไรทั้งนั้น“เจตนาดีของเจ้า ตารู้ดี เพียงแต่น้าของเจ้าเป็นสตรี หากมีข่าวลือออกไป...”“ข้าก็อยากฟังเหตุผลเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าตระก

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 862

    ในช่วงฤดูที่สายหมอกและสายฝนโปรยปราย จ้าวซวี่ไป๋ได้บังเอิญพบเจอกับแม่นางเหมียวเหมี่ยวที่ลืมพกร่มมา    นางมีผิวพรรณขาวผ่องงดงาม ราวกับดอกไม้สีขาวที่เบ่งบานอยู่ริมทาง ทั้งบริสุทธิ์ อ่อนโยน และดูไร้เดียงสา จนผู้คนอดไม่ได้ที่จะอยากปกป้อง ยามที่นางยิ้มก็ยิ่งอ่อนหวาน ราวกับรอยยิ้มนั้นได้แทรกซึมเข้าสู่หัวใจผู้คน    จ้าวซวี่ไป๋พูดไปพูดมาก็อดไม่ได้ที่จะเผลอเผยรอยยิ้มออกมา ครั้นเมื่อกล่าวถึงช่วงท้าย แก้มก็ยิ่งแดงขึ้นกว่าเดิม    ซ่งรั่วเจินสบตากับคนอื่น ๆ แวบหนึ่ง แม้เขาจะไม่ได้กล่าวออกมาอย่างชัดเจน แต่ทุกคนล้วนเข้าใจดีว่า การพบเจอกันเช่นใดที่สามารถทำให้จิตใจของบุรุษว้าวุ่น จนถูกช่วงชิงวิญญาณไปโดยสิ้นเชิง    รสชาติแห่งความลุ่มหลงในความฝันนี้ คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาเป็นแน่    “อวิ๋นอ๋อง ก่อนหน้านี้ท่านกล่าวว่าคุณชายจ้าวเคยมีสหายรักตั้งแต่วัยเยาว์ที่พลัดตกน้ำตายเมื่อหลายปีก่อน มีนามว่าอะไรหรือ?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถาม    ฉู่อวิ๋นกุยขมวดคิ้ว “ข้ากับแม่นางผู้นั้นมิได้สนิทสนมกันนัก อีกทั้งยังผ่านมาหลายปีเช่นนี้ กล่าวตามตรง ข้าก็จำมิได้”    “นางคือเฉียนชิ่งเหมียว” นายหญิงจ้าวรีบเอ่ยขึ้น    “เฉี

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 861

    “จ้าวฮูหยิน สถานการณ์ของคุณชายจ้าวมิอาจปล่อยให้ล่าช้าได้อีก หากปล่อยให้ล่าช้าต่อไป เกรงว่ายากที่จะมีชีวิตรอด”   ซ่งรั่วเจินเหลือบตามองเฉียนหย่าหลินเล็กน้อย “หากคุณชายจ้าวต้องเป็นอะไรไปเพราะการขัดขวางของท่าน ท่านจะรับผิดชอบไหวใช่หรือไม่?”    เฉียนหย่าหลินสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เจ้าพูดอะไรไร้สาระ? ซวี่ไป๋จะไม่เป็นอะไร!”    ก่อนหน้านี้ฉู่อวิ๋นกุยก็รู้เรื่องที่เฉียนหย่าหลินกับซ่งรั่วเจินขัดแย้งกันมาก่อน วันนี้จึงถือเป็นการได้เห็นว่า แท้จริงแล้วสตรีนางนี้บ้าคลั่งขนาดไหน ฉู่เทียนเช่อสามารถทนกับฮูหยินเช่นนางได้นานขนาดนี้ ก็ถือว่าเก่งมากยิ่งนัก!    “ไสหัวไป!”    ฉู่จวินถิงส่งสายตาหนึ่งที เพื่อให้อวิ๋นหยางไล่เฉียนหย่าหลินออกไปทันที    “ท่านน้า ท่านดูสิว่าพวกเขาทำกับข้าเช่นไร! ท่านอย่าทำร้ายซวี่ไป๋เลยนะ!” เฉียนหย่าหลินพูดด้วยความร้อนรน    นายหญิงจ้าวมีสีหน้าอับอาย พลางกล่าวว่า “ขออภัยจริง ๆ เฉียนหย่าหลินชินกับความเอาแต่ใจตั้งแต่เด็ก พูดจาไม่คำนึงถึงความเหมาะสม พวกท่านทั้งหลายอย่าถือสาเลยนะ”   เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งรั่วเจินจึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วจ้าวซวี่ไป๋กับเฉียนหย่าหลินเป็นญา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 860

    “ผีสาวอะไรกัน เหมียวเหมี่ยวคือนางเซียน เจ้าอย่าใส่ร้ายนาง!” จ้าวซวี่ไป๋เลือดขึ้นหน้า“นางเซียน?” ฉู่อวิ๋นกุยแทบหัวเราะออกมาเพราะความโมโห “ถ้าเป็นนางเซียนจริง ตอนนี้เจ้าก็ควรกระปรี้ประเปร่าอิ่มเอิบ ทั้งยังเป็นไปได้ว่าอาจมีอายุยืนเป็นร้อยปีเพราะได้รับความช่วยเหลือจากนาง แต่เจ้าดูซิว่าตอนนี้เจ้ามีสารรูปแบบไหน?”“เจ้าดูตัวเองในกระจก สารรูปเหมือนใกล้จะลงโลงแบบนี้ เมื่อก่อนเจ้าชอบอ้างว่าตัวเองไม่มีทางถูกความรู้สึกบังตา จะต้องกตัญญูต่อพ่อแม่ไม่ใช่หรือไร?”“ตอนนี้เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ ข้าแนะให้เจ้าใคร่ครวญดูให้ดีเสียเถอะ!”จ้าวซวี่ไป๋รับกระจกที่ฉู่อวิ๋นกุยโยนมาให้แล้วเหลือบมองไปโดยจิตใต้สำนึก หลังจากเห็นใบหน้าที่ซูบตอบซีดเซียว ไม่มีชีวิตชีวาแม้แต่น้อย ในใจก็ต้องตกตะลึง เหมือนคิดไม่ถึงว่าตนเองจะกลายเป็นแบบนี้ซ่งรั่วเจินเพิ่งเคยเห็นท่าทางเดือดดาลเช่นนี้ของฉู่อวิ๋นกุยเป็นครั้งแรก เห็นได้ชัดว่าคนทั้งสองเป็นสหายสนิทกันอย่างแท้จริง ไม่อย่างนั้นก็คงไม่โมโหถึงขั้นนี้“เจ้าดูอะไรออกหรือยัง? เป็นเพราะผีสาวตามรังควานจริงๆ หรือ?” ฉู่จวินถิงถามซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ท่านดูพลังชีวิตของเขา พลังหยางแทบถู

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 859

    ทุกคนล้วนฝันกันทั้งนั้นฝันเป็นเรื่องราวติดต่อกันหลายวัน เรื่องแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่เคยมีมาก่อนทว่าทุกวันล้วนฝัน สรรพสิ่งในฝันแทบเหมือนเป็นโลกอีกใบ เรื่องแบบนี้พวกเขากลับไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแม่นางในฝันที่จะแต่งงานด้วยในตอนนี้!ซ่งรั่วเจินกลับไม่ประหลาดใจนัก เพียงแต่นึกยินดีอยู่บ้างโชคดีที่พวกนางมาได้ค่อนข้างทันเวลา ถ้าช้ากว่านี้สักหลายวัน รอจนคนทั้งสองแต่งงานกันจริงไปแล้ว นั่นก็จะช่วยยากจริงๆ แล้ว...“ฮูหยิน ท่านอ๋องทั้งสองมาแล้วเจ้าค่ะ” แม่นมรีบมารายงานนายหญิงจ้าวได้ยินคำรายงานนี้ก็ออกมาจากในห้องทันที เห็นพวกฉู่จวินถิงอยู่ข้างนอกก็รีบร้อนแสดงคารวะ “คารวะท่านอ๋องทั้งสอง”“ท่านป้า ที่ข้ามาวันนี้ก็เพราะรู้เรื่องซวี่ไป๋จึงตั้งใจมาเยี่ยมโดยเฉพาะ” ฉู่อวิ๋นกุยกล่าวตามตรงสายตานายหญิงจ้าวตกลงบนร่างซ่งรั่วเจินโดยไม่รู้ตัว นางย่อมเคยได้ยินมาก่อนว่าแม่นางตระกูลซ่งผู้นี้เชี่ยวชาญวิชาคุณไสย ตอนนั้นไม่เพียงช่วยสวีฮูหยินตามหาลูกสาวแท้ๆ จนเจอ ต่อมายังเปิดโปงความจริงเรื่องที่ตระกูลหลิ่วสลับตัวลูกอีกด้วยเดิมนางก็คิดว่าจะไปเชิญพระอาจารย์ที่มีวิชาแก่กล้ามาดูว่าลูกชายต้องคุ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 858

    “วันนี้พ่อของหม่อมฉันเข้าวังไปแล้ว ก่อนหน้านี้เกิดเรื่องขึ้นมากมายที่เมืองผิงหยาง วันนี้กลับมาแล้ว ไม่รู้ว่าทุกอย่างราบรื่นดีหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถาม“วางใจเถอะ เดิมทีท่านลุงก็เป็นขุนนางจงรัก คราวนี้สาเหตุที่อยู่ที่เมืองผิงหยางนานขนาดนี้ก็เป็นเพราะถูกบังคับ”“วันนี้รองแม่ทัพคนอื่นๆ ก็เข้าวังไปด้วยเหมือนกัน ก่อนหน้านี้เสด็จพ่อก็ทรงนึกเสียดายที่ท่านลุงพลีชีพไปในสมรภูมิ ตอนนี้เห็นเขากลับมาแล้วก็ดีพระทัยมาก”ซ่งรั่วเจินได้ยินอย่างนั้นก็ค่อยวางใจ “เช่นนั้นก็ดีเพคะ”“ข้ารู้ว่าหลังจากท่านลุงกลับมาจะต้องไม่ยอมปล่อยเรื่องที่เกิดขึ้นในสมรภูมิไปง่ายๆ เป็นแน่ แต่เรื่องก็ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ฝ่ายตรงข้ามก็คงใช้วิธีการตุกติกไปแล้ว ดังนั้นคิดจะพลิกคดีนี้ขึ้นมาอีกครั้งคงไม่ง่ายดายปานนั้น”“รอจนเจ้ากลับไปแล้วก็ลองเกลี้ยกล่อมท่านลุงดู อย่าได้ร้อนใจเกินไป ความจริงจะต้องถูกตรวจสอบออกมาได้ไม่ช้าก็เร็ว”“หม่อมฉันเข้าใจเพคะ”ซ่งรั่วเจินมองฉู่จวินถิงอย่างลึกซึ้ง เขาคาดเดาความคิดในใจของท่านพ่อได้จริงๆ ด้วย แต่คิดจะทำเรื่องนี้หาได้ง่ายดายไม่ แต่ดำย่อมไม่อาจกลายเป็นขาว ความจริงจะต้องปรากฏออกมาในสักวันณ ต

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 857

    หวงซือถิงได้ยินวาจานั้นแล้วก็เหลือบมองอวิ๋นเฉิงเจ๋อโดยไม่รู้ตัว ดวงตาแฝงรอยคาดหวังหลังจากพบกันคราวก่อน นางก็พบว่าท่าทีของอวิ๋นเฉิงเจ๋อเย็นชาอย่างมาก แม้นางจะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน แต่ก็เข้าใจว่านั่นไม่ใช่ท่าทางของคนที่ได้พบคนในดวงใจเดิมทีเขาก็ไม่ได้เต็มใจมาพบนาง เพราะได้รับความช่วยเหลือจากญาติผู้ใหญ่จึงมีโอกาสเจอหน้ากัน กระทั่งว่าตอนจากลา ท่าทีของเขาก็แสดงออกชัดเจนยิ่งว่าไม่มีความคิดจะแต่งงาน อย่ามาเสียเวลากับเขาเลยแต่ตอนนั้นนางพบอวิ๋นเฉิงเจ๋อครั้งแรกก็ตกหลุมรักทันที ตอนนี้ถึงวัยออกเรือนแล้วจึงอยากจะลองดูสักครั้งในเมื่อเขาไม่มีคนในดวงใจ เช่นนั้นตนเองก็ไม่แน่ว่าจะไม่มีโอกาสเอาเสียเลยอวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอย่างนั้นก็รู้ว่าอวิ๋นเนี่ยนชูกำลังโกรธเคืองเขาอยู่จึงกล่าวว่า “ระวังคำพูดและการกระทำ เรื่องที่ไม่มีมูลก็อย่าพูดจาส่งเดช จะทำให้ชื่อเสียงแม่นางหวงเสื่อมเสียเอาได้”“เรื่องที่ไม่มีมูล?”ดวงตาอวิ๋นเนี่ยนชูฉายแววตกตะลึงพลางมองไปทางหวงซือถิงโดยไม่รู้ตัว แล้วก็มองเห็นความผิดหวังบนสีหน้าของอีกฝ่ายแววตานางเปลี่ยนไปหลายส่วนโดยไม่รู้ตัว เห็นทีแม่นางผู้นี้คงเหมือนกับนางสินะ...

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 856

    “ข้าจำได้ว่าตอนนั้นเจ้าได้รับความตกใจ หลังกลับมาก็มีไข้สูงไปสามวัน ต่อมาถึงได้ดีขึ้น”เนื่องจากตอนนั้นนี่เป็นเรื่องครึกโครมมาก เขาจึงจำเรื่องนี้ได้แม่น ตอนนั้นคนที่กลับมาล้วนถูกสั่งสอนอย่างหนัก ฉู่จวินถิงจึงมีความประทับใจเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งตอนนั้นเขายังพยายามทำความเข้าใจต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้โดยละเอียด หลังจากจ้าวซวี่ไป๋ทะเลาะกับแม่นางผู้นั้น สองฝ่ายก็แยกทางกัน พวกเขาไปเล่นบริเวณไม่ไกลออกไป ทั้งยังไม่คิดว่าแม่นางผู้นั้นจะเกิดเรื่องไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดอยู่ดีๆ จึงพลัดตกน้ำฉู่อวิ๋นกุยนึกถึงเรื่องในตอนนั้นขึ้นมาแล้วก็รู้สึกขนลุกซู่จึงลูบแขนโดยไม่รู้ตัว “แม่นางซ่ง เจ้าคงไม่ได้หมายความว่าแม่นางในความฝันของซวี่ไป๋คือเพื่อนเล่นสมัยเด็กผู้นั้นหรอกนะ?”หลังจากซ่งรั่วเจินได้ยินว่าที่นั่นเคยมีคนจมน้ำตายมาก่อนจริงๆ ทั้งยังเป็นแม่นางที่รู้จักก็รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูง“ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้นี้ ถ้าไม่มีต้นสายปลายเหตุเสียเลย จู่ๆ ฝ่ายตรงข้ามไม่มีทางมาพัวพันกะทันหันเช่นนี้”“แม่น้ำทุกสายล้วนเคยมีคนตายมาก่อน คนที่ตกน้ำยิ่งมีจำนวนนับไม่ถ้วน แต่คนส่วนใหญ่ หลังจากตกน้ำก็ไม่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 855

    ซ่งรั่วเจินฟังคำบอกเล่านั้นแล้ว ดวงตาก็ฉายแววประหลาดใจ นี่คงไม่ใช่...เจ้าสาวผีหรอกนะ?เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับนางแต่อย่างใด อันที่จริงในหมู่ชาวบ้านก็มักเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นบ่อยๆ กระทั่งว่าจัดงานแต่งงานกับผีก็ยังมี แต่เห็นได้ชัดว่าครอบครัวคนผู้นี้ไม่รู้เรื่อง ทั้งยังถูกผีสาวตามพัวพันสำเร็จแล้วด้วย?“เจ้าว่าเรื่องนี้แปลกไหม?”ฉู่อวิ๋นกุยมีสีหน้าร้อนใจ ถ้าเป็นตอนก่อนหน้าที่จะได้รู้จักซ่งรั่วเจิน เขาจะต้องไม่คิดอะไรมากเป็นแน่ คงคิดแค่ว่าเจ้าหมอนี่หมกมุ่นตอนกลางวันเอาไปฝันตอนกลางคืน พูดตรงๆ ก็คือแตกหนุ่มแล้วแต่หลังจากที่เขาได้เห็นสีหน้าที่ทั้งอิดโรยและไม่น่ามองของจ้าวซวี่ไป๋ก็รู้สึกว่าจะต้องมีปัญหาแน่นอนซ่งรั่วเจินพยักหน้าน้อยๆ แต่ก็ไม่ได้พูดยืนยันออกมาตรงๆ“จากที่ท่านพูดมา สถานการณ์ก็ประหลาดอยู่บ้างจริงๆ นั่นแหละ แต่ตกลงแล้วเป็นเรื่องอะไรกันแน่ ยังต้องไปดูด้วยตาตัวเองก่อนจึงจะยืนยันได้”“ตอนนี้สุขภาพเขาย่ำแย่ลงทุกที ท่านบอกว่าเขาล้มป่วยหนัก รู้หรือไม่ว่าป่วยเป็นอะไร?”“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” ฉู่อวิ๋นกุยส่ายศีรษะ “หมอหลายคนไปดูอาการให้แล้ว แต่ดูเหมือนก็ตรวจไม่พบอะไร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 854

    “ไม่ได้เจอกันพักเดียว แม่นางซ่งงามขึ้นกว่าเมื่อก่อนเสียอีก มิน่าเล่าเสด็จพี่ไม่ได้เจอวันเดียวก็อดใจไม่ไหวต้องมาหาเสียแล้ว”ฉู่อวิ๋นกุยเห็นท่าทางอัดอั้นตันใจของเสด็จพี่สามของตนแล้วก็อดนึกขันไม่ได้เมื่อก่อนมีแต่ผู้หญิงที่หมุนรอบตัวเขา ตอนนี้กลับต้องมาหมุนรอบตัวแม่นางซ่ง แบบนี้คงเรียกว่าแพ้ทางสินะ!ฉู่จวินถิงปรายตามองเขา สายตาเต็มไปด้วยแววตักเตือนฉู่อวิ๋นกุยลูบจมูก แต่ก็หาได้กลัวไม่ อย่างไรเสียพี่สะใภ้ก็อยู่ด้วยจึงไม่ต้องกังวลเรื่องไฟโทสะของเสด็จพี่สามซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงมีสีหน้าเย็นชาราวกับว่ามีคนค้างเงินเขาแล้วยังไม่คืนกระนั้น นางกล่าวว่า“อย่าโกรธเลยเพคะ หม่อมฉันคิดว่าท่านเพิ่งกลับมา ทั้งยังต้องเข้าวังไปรายงาน ในจวนอ๋องก็มีเรื่องมากมายต้องจัดการ หม่อมฉันไม่อยากรบกวนท่านอย่างไรเล่าเพคะ?”ฉู่จวินถิงหัวเราะเบาๆ “ข้าว่าเจ้าไม่อยากให้ข้ารบกวนเจ้ามากกว่ากระมัง? คืนวานข้าให้คนมาแจ้งเจ้าแล้วนะว่าวันนี้ว่าง”ซ่งรั่วเจินที่ถูกพูดแทงใจดำ “...”วันนี้เดิมทีนางก็แค่อยากมาดูเรื่องสนุก การใส่ใจเรื่องคนอื่นแบบนี้ จะพาฉู่จวินถิงมาด้วยก็คงไม่ได้หรือเปล่า?ดูอย่างไรเขาก็ไม่เหมือนคนที่จะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status