Share

บทที่ 14

Author: จี้เวยเวย
ไต้ซือเทียนสุ่ยมองซ่งรั่วเจินนิ่งๆ “แม่นางซ่ง หลายวันก่อนอาตมาไปดูฮวงจุ้ยที่จวนตระกูลซ่ง หมู่นี้จวนตระกูลซ่งเกิดเรื่องติดต่อกัน ใช่ว่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าเลยเสียทีเดียว”

“อ้อ? ไหนท่านลองพูดให้ฟังที ว่าเกี่ยวข้องกับข้าอย่างไรบ้าง?”

ซ่งรั่วเจินยิ้มหยัน มองคนตรงหน้าด้วยความสงบเยือกเย็น นางอยากรู้นักว่าคนผู้นี้จะแต่งเรื่องอย่างไรออกมา!

“ข้าเคยดูเวลาตกฟากของเจ้ามาก่อน เจ้าชะตาอาภัพมีดวงพิฆาต หลินโหวเป็นดาวนำโชคในชีวิตเจ้า มีเพียงต้องออกเรือนให้เขาจึงจะสามารถคลี่คลายได้”

“เดิมทีหลินโหวไม่มีทางแต่งเจ้า หากไม่ใช่เพราะข้าใช้วิธีการบางอย่าง แม้แต่ภรรยาหลวงเจ้าก็คงไม่ได้เป็น วันนี้เจ้าอยากอยู่อย่างสงบก็มีแต่ต้องเดินทางนี้เท่านั้น มิเช่นนั้น ดวงพิฆาตของเจ้ายังจะทำให้คนอื่นเคราะห์ร้ายไปด้วย”

ได้ยินเช่นนั้น คนที่เดินตามไต้ซือเทียนสุ่ยออกมาล้วนเผยสีหน้าตื่นตกใจ

ดวงพิฆาต นี่เป็นชะตาชีวิตที่ทุกคนหวาดกลัวที่สุด เดิมนึกว่าหลินโหวทอดทิ้งซ่งรั่วเจินเป็นการปฏิบัติต่อนางอย่างไม่เป็นธรรม แต่ดูจากตอนนี้ หลินโหวเป็นดาวช่วยชีวิตนาง นางกลับไม่รู้ดีชั่ว!

“มิน่าเล่า หมู่นี้ตระกูลซ่งถึงได้เกิดเรื่องไม่หยุดหย่อน ที่แท้ก็เคราะห์ร้ายเพราะซ่งรั่วเจินหรือนี่?”

“ไต้ซือเทียนสุ่ยเคยทำนายดวงชะตาให้นาง นางรู้ดีว่าจะเดือดร้อนถึงคนในครอบครัวแต่ก็ยังถอนหมั้นต่อหน้าธารกำนัล นี่ไม่ใช่แค่ไม่รู้ความแล้ว แต่เรียกว่าจิตใจชั่วช้าอำมหิตมากกว่า!”

“นั่นน่ะสิ ข้าได้ยินมาว่าคืนวาน ฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลหลินกับหลินโหวไปขอโทษแล้ว แต่กลับถูกไล่ออกมา ไม่รู้จริงๆ ว่านางยังไม่พอใจอะไรอีก?

“ผู้ชายมีสามภรรยาสี่อนุเป็นเรื่องปกติ ดีชั่วอย่างไรก็เป็นคุณหนูผู้ดี ความใจกว้างแค่นี้ก็ยังไม่มี ข้ากลับคิดว่าแม่นางฉินที่หลินโหวแต่งเป็นภรรยาวันนั้นดีกว่ามาก”

“ซ่งรั่วเจินน่ะหรือ ไม่คู่ควรเป็นฮูหยินของจวนโหวเลยสักนิด!”

“สามภรรยาสี่อนุเป็นเรื่องปกติ ท่านเต็มใจแต่งก็ไปแต่งเองสิ พ่อแม่ข้ายังไม่คัดค้าน ท่านมีสิทธิ์อะไรมาวิพากษวิจารณ์อยู่ตรงนี้?”

ซ่งรั่วเจินปรายตามองฝ่ายตรงข้ามอย่างเย็นชา แววตาลึกล้ำดุจบ่อลึกฉายประกายเย็นเยียบ ไอสังหารที่กดดันผู้คนแผ่ซ่านออกมาอย่างโจ่งแจ้ง

หญิงผู้นั้นรู้ว่าซ่งรั่วเจินมีนิสัยหัวอ่อนถึงได้กล้าเอ่ยปากอย่างเหิมเกริม จู่ๆ ถูกสายตาคู่นั้นจับจ้องก็รู้สึกหนาววาบในใจ เงียบเสียงไปโดยไม่รู้ตัว

“ไต้ซือเทียนสุ่ย ท่านพูดว่าข้ามีดวงพิฆาต แต่ดวงชะตาที่ข้าดูมาตั้งเด็กล้วนดีเลิศมาโดยตลอด”

“นอกจากนี้ หลายวันก่อน แม่ข้าเชิญท่านมาดูฮวงจุ้ยที่จวน ท่านรับเงินหนึ่งแสนตำลึงไปแล้ว บอกว่าแค่ต้องถมสระบัว อีกทั้งในร้อยปีนี้ห้ามไปแตะต้อง เช่นนี้จึงจะสามารถแก้ไขชะตาของตระกูลซ่งได้”

“แต่ท่านพูดเช่นนั้นได้ไม่ทันไร พี่รองของข้าก็ตาบอดสองข้าง งานวิวาห์ของข้าก็เกิดเรื่อง วันนี้ท่านเห็นว่าเรื่องราวไม่อาจคลี่คลายได้ก็หันมาพูดว่าข้ามีดวงพิฆาต ช่างพูดจากลอกกลับดีเสียจริง คำพูดแบบใดล้วนถูกท่านพูดออกมาจนหมดแล้ว!”

ซ่งรั่วเจินมองไต้ซือเทียนสุ่ยอย่างเย็นชา สายตาไปหยุดลงบนเงาดำกลุ่มหนึ่งด้านหลังเขา

ชั่วขณะที่คนผู้นี้ปรากฏตัว นางก็สังเกตเห็นแล้ว ต้องยอมรับว่าคนผู้นี้มีความสามารถ ถึงกับเลี้ยงผีน้อยเอาไว้ด้วยตนหนึ่ง

จะว่าไปก็น่าขัน นักพรตหรือภิกษุทั่วไปล้วนบำเพ็ญตนเพื่อละวางกิเลส โปรดสรรพสัตว์ คนตรงหน้ากลับประเสริฐนัก เลี้ยงผีน้อยตนหนึ่งไว้ข้างกาย อาศัยผีน้อยตนนี้จนได้ชื่อว่าเป็นไต้ซือ

แต่พลังของผีน้อยมีจำกัด ต่อให้สามารถมองทะลุสิ่งของบางอย่างได้ แต่ไม่มีความสามารถส่งวิญญาณไปสู่สุคติ

“อาตมาจัดการทุกอย่างไว้ดีแล้ว ถ้าแม่นางซ่งยอมออกเรือนไปแต่โดยดี ทุกอย่างก็จะคลี่คลายไปเอง แต่เจ้าไม่ยินยอม ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในวันนี้ จะมาโทษอาตมาได้อย่างไร?”

ไต้ซือเทียนสุ่ยแค่นเสียง สีหน้าเย็นชาถึงที่สุด “อาตมาเห็นแก่หน้าฮูหยินตระกูลซุนจึงได้คิดจะช่วยเหลือเจ้า แต่ตอนนี้เจ้าไม่รับน้ำใจ อาตมาก็จะไม่ช่วยอีกแล้ว!”

“เจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม? แม่ข้าทุ่มเทเพียงใดเพื่อช่วยเหลือเจ้า แต่เจ้านอกจากจะไม่รับน้ำใจแล้วยังมาล่วงเกินไต้ซือเทียนสุ่ยอีก เกรงว่าตระกูลซ่งคงต้องเคราะห์ร้ายหมดบ้านเพราะเจ้าคนเดียว!”

ซุนฮั่นเฟยสุดจะระงับความพลุ่งพล่าน มารดากับท่านป้าเป็นพี่น้องกันแท้ๆ แต่กลับไม่ได้ออกเรือนให้ตระกูลสูงศักดิ์เหมือนท่านป้า กอปรกับพี่น้องตระกูลซ่งล้วนมีชื่อเสียงอยู่ข้างนอก เหนือกว่าเขาไปเสียทุกอย่าง เวลาปกติถึงออกไปไหนด้วยกัน เขาก็เป็นได้แค่ตัวประกอบมาตลอด

ยามนี้ตระกูลซ่งเสื่อมถอย คนเหล่านั้นทยอยเกิดเรื่องไปทีละคน ไม่ต้องบอกเลยว่าในใจเขารู้สึกปลอดโปร่งมากแค่ไหน!

“อาศัยแค่คำโกหกพกลมของพวกสิบแปดมงกุฎอย่างท่าน ก็คิดจะมาตัดสินชะตาตระกูลซ่ง ท่านคู่ควรด้วยรึ?”

“ข้าจะทำนายให้ท่านก็แล้วกัน ท่านหว่างคิ้วหม่นหมอง ขนคิ้วบางเบา ใบหน้ามีสีแดงเรื่อ ผีน้อยข้างกายเลี้ยงไว้นานไปจะต้องแว้งกัดแน่นอน อย่างมากไม่เกินสามวัน จะต้องประสบกับเคราะห์ร้ายเลือดตกยางออก!”

ซ่งรั่วเจินแววตาเฉยเมย วิญญาณอาฆาตข้างหลังคนผู้นี้ขยายใหญ่ขึ้นทุกที เงาดำนั้นแทบจะกลืนกินเขาหมดแล้ว

เลี้ยงผีน้อย ตนเองก็ต้องมีความสามารถข่มมันได้ หากไม่มีความสามารถนั้น ไม่เพียงแต่จะต้องสูญเสียสิ่งที่ได้มาเพราะอาศัยผีน้อย เจ้าตัวยังต้องประสบกับการแว้งกัด คนผู้นี้เห็นได้ชัดว่ากำลังจะรับมือไม่ไหวแล้ว

สิ้นเสียงซ่งรั่วเจิน คนรอบข้างก็พูดถากถางขึ้นมา

“นางพูดเหลวไหลอะไร? ทำนายดวงชะตาให้ไต้ซือเทียนสุ่ยเนี่ยนะ?”

“เกรงว่าซ่งรั่วเจินคงสะเทือนใจเกินไปจนเริ่มพูดจาเหลวไหลเลื่อนเปื้อนแล้วกระมัง?”

ไต้ซือเทียนสุ่ยมีสีหน้าเย้ยหยัน “แม้แต่ฮวงจุ้ยง่ายๆ เจ้ายังดูไม่เป็น ถึงกับกล้าพูดว่าข้าจะมีเคราะห์โชกเลือด ช่างเหลวไหลไร้สาระสิ้นดี!”

“ญาติผู้น้อง ข้าว่าเจ้ายอมรับผิดแต่โดยดีเถอะ ไยต้องปากแข็ง? ก่อเรื่องต่อไปไม่เป็นผลดีต่อเจ้าหรอกนะ”

ซุนฮั่นเฟยแสร้งเกลี้ยกล่อมด้วยความปรารถนาดี ในใจกลับอดหัวเราะเยาะเย้ยไม่ได้ ญาติผู้น้องคงสมองเลอะเลือนไปแล้ว ถึงกับกล้าสงสัยไต้ซือเทียนสุ่ยทั้งยังสาปแช่งเขาอีกด้วย!

“ไต้ซือเทียนสุ่ย ลูกสาวข้าหายตัวไปหลายปี ได้โปรดช่วยทำนายให้ข้าด้วยเถิดเจ้าค่ะว่าชีวิตนี้ข้ายังมีโอกาสหาลูกสาวพบหรือไม่?”

ฮูหยินหน้าตางดงามนางหนึ่งที่อยู่ข้างๆ มองไต้ซือเทียนสุ่ยด้วยความร้อนใจ นางทุ่มเทไปมากกว่าจะได้พบไต้ซือเทียนสุ่ย เดิมนั้นตอนนี้ควรช่วยนางคลี่คลายปัญหาได้แล้ว คิดไม่ถึงว่าจะถูกขัดจังหวะเพราะการปรากฏตัวขึ้นของซ่งรั่วเจิน

นางไม่อาจปล่อยให้โอกาสนี้ผ่านไปโดยไม่ทำอะไรเลย จะต้องหาลูกสาวนางให้พบให้ได้

ซ่งรั่วเจินได้ยินแล้วก็หันไปมองผู้หญิงตรงหน้าคนนั้น นางแต่งกายเรียบร้อย สวมเครื่องประดับหรูหรา ทั้งยังดูคุ้นตาอย่างมาก เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน

“ลูกสาวหายสาบสูญไปเมื่อหลายปีก่อน คงไม่ใช่ฮูหยินของราชครูสวีหรอกนะ?”

ในสมองปรากฏภาพคนผู้หนึ่งอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นเรื่องนี้โด่งดังไปทั่วเมืองหลวง ได้ยินว่าสวีฮูหยินพาลูกสาวไปเดินเล่นที่งานวัด แต่ลูกสาวกลับหายตัวไป ยังหาคนไม่พบจนถึงบัดนี้

ไต้ซือเทียนสุ่ยเหลือบมองสวีฮูหยินแวบหนึ่ง แล้วหันไปมองซ่งรั่วเจิน ฉับพลันก็คิดแผนการขึ้นได้

“ในเมื่อเจ้าพูดเองว่าตัวเองมีความสามารถในการทำนายทายทัก มิสู้พวกเรามาประลองกันว่าใครทำนายได้แม่นยำกว่ากัน? ดูว่าใครจะสามารถตามหาลูกสาวให้ฮูหยินท่านนี้ได้ก่อน!”

เมื่อวาจานั้นดังขึ้น ทุกคนล้วนกวาดสายตามามองซ่งรั่วเจิน รู้สึกเพียงว่านางหาเรื่องใส่ตัว นางที่เป็นคุณหนูที่อยู่แต่ในเรือน จะไปรู้เรื่องพวกนั้นได้อย่างไร?

ทว่ามุมปากของซ่งรั่วเจินกลับหยักขึ้นเป็นรอยยิ้มนึกสนุก “ตกลง!”

“ถ้าข้าชนะ ท่านจะต้องโขกศีรษะขอขมาข้า และสารภาพว่าใครเป็นคนบงการให้ท่านนำของสกปรกมาฝังไว้ในสระบัวบ้านข้า!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 15

    สิ้นเสียงซ่งรั่วเจิน ทุกคนก็ขมวดคิ้ว รู้สึกว่านางช่างก้าวร้าวเสียจริง ส่วนว่าของสกปรกดังกล่าวคืออะไรกลับไม่รู้เลยแม้แต่น้อยแต่เมื่อไต้ซือเทียนสุ่ยได้ยินคำพูดนั้น ใบหน้าก็พลันเปลี่ยนสี นางรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?หรือนางจะเข้าใจฮวงจุ้ยจริงๆ? นั่นเป็นไปไม่ได้!ความคิดนั้นเพิ่งผุดขึ้นมา ไต้ซือเทียนสุ่ยก็ปัดทิ้งไปโดยไม่ลังเล ถ้ารู้จริงก็ควรค้นพบไปนานแล้ว จะเพิ่งมาคิดบัญชีเอาป่านนี้ได้อย่างไร?“เจ้าทำอะไรของเจ้า?”น้ำเสียงแฝงความไม่พอใจเสียงหนึ่งดังขึ้น หลังจากนั้นก็มีเสียงอ่อนหวานดังตามมาติดๆ“ท่านโหว ท่านอย่าโมโหไปเลยเจ้าค่ะ เรื่องนี้อาจมีอะไรเข้าใจผิดกันก็เป็นได้”ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มของฉินซวงซวงฉายแววบริสุทธิ์ใจ สายตาที่มองมาทางซ่งรั่วเจินยังสะท้อนความไม่สบายใจอยู่ในนั้น “คิดว่าแม่นางซ่งคงรู้สึกไม่ดีจึงได้มาก่อเรื่องเช่นนี้ ท่านโหวอย่าถือสานางเลยนะเจ้าคะ”“ซ่งรั่วเจิน เมื่อวานข้าขอโทษเจ้าไปแล้ว เป็นเจ้าที่ไม่อยากแต่งกับข้า ไฉนตอนนี้ยังมาให้ร้ายซวงซวงอีก?”ซ่งรั่วเจินกวาดสายตาไปมองก็สบเข้ากับแววตาคาดคั้นของหลินจือเยว่ “ข้าประลองกับไต้ซือเทียนสุ่ยเกี่ยวอันใดกับฉินซวงซวง? หลินโหว สม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 16

    ไต้ซือเทียนสุ่ยรับคำสั่งจากฉินซวงซวง สายตาที่ทอดมองซ่งรั่วเจินเองก็เจือไอเย็น สตรีผู้นี้บังอาจมาทำลายช่องทางทำมาหากินของเขา เขาจะจัดการให้หนักเลยทีเดียว!ครู่ถัดมา เขามองผีน้อยที่ตนเลี้ยงอย่างลำพองใจ เขาต้องเสียแรงไปมากถึงจะเลี้ยงออกมาได้ ยังได้รับคำชี้แนะจากผู้มีวิชาจึงมีความสามารถเช่นนี้สายตาซ่งรั่วเจินเองก็ตกลงบนตัวผีน้อย ผีน้อยตัวนี้อายุราวหกถึงเจ็ดขวบเท่านั้น เพราะถูกเลี้ยงดูอย่างดี รูปร่างกลับไม่น่ากลัว เพียงแต่กลิ่นอายชั่วร้ายยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้ชัดว่าคือวิญญาณอาฆาตตนหนึ่งตายอย่างไม่เป็นธรรม จึงสั่งสมไอแค้นไว้มากในฐานะคนของสำนักวิชาเต๋า เผชิญหน้ากับวิญญาณอาฆาตเช่นนี้สมควรหาวิธีกำจัดความอาฆาตพยาบาท ช่วยเหลือเขาให้ไปเกิดใหม่ในเร็ววันไต้ซือเทียนสุ่ยผู้นี้ ใช้ประโยชน์จากความอาฆาตพยาบาทเล็กน้อยนี้ ทำให้กลายเป็นกลวิธีหาเงิน“ไต้ซือเทียนสุ่ย ชาตินี้ข้ายังมีหวังจะหาตัวลูกสาวของข้าพบอีกหรือไม่?” สวีฮูหยินเอ่ยถามอย่างร้อนใจไต้ซือเทียนสุ่ยแสร้งหยิบกระดองเต่าออกมา ใส่แผ่นเหล็กสองชิ้นเข้าไปภายใน ปากบ่นงึมงำสวดคาถาขึ้นมาสกุลสวีตามหาลูกสาวคนนี้มานานนับสิบกว่าปีแล้ว ก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 17

    “องค์ชายสาม?”ชั่วขณะหลินจือเยว่มองเห็นฉู่จวินถิง สีหน้าก็เข้มขึ้น เขายังจำได้ดี เมื่อสองปีก่อนซวงซวงปฏิเสธเขาก็เพราะฉู่จวินถิง!“ข้าได้ยินว่ามีไต้ซือวิชาล้ำเลิศของลัทธิเต๋าท่านหนึ่งเดินทางมาเมืองหลวงจึงมาดูสักหน่อย มองรูปลักษณ์ดูแล้วยอดเยี่ยมกว่าที่คิดไว้มากนัก”ใบหน้าฉู่จวินถิงประดับยิ้ม ท่วงท่าที่แสดงออกมากลับไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าเขาเพียงยืนอยู่ที่นั่น พูดคุยอย่างสนุกสนานแต่กลับสง่างามเจิดจรัส ทำให้คนไม่กล้าล่วงเกินชั่วขณะที่ฉินซวงซวงมองเห็นฉู่จวินถิง ก็ยังมิอาจควบคุมความหลงใหลที่สะท้อนภายในสายตาได้แม้กลับชาติมาเกิดอีกครั้ง ยามได้พบฉู่จวินถิงก็ยังรู้สึกโหยหาอย่างมิอาจอดกลั้น บุรุษเช่นนี้ถึงจะเป็นคนที่นางต้องการอย่างแท้จริง สูงศักดิ์ หล่อเหลา ลึกลับ นางอยากรู้เหลือเกินว่าบุรุษเช่นนี้ จะเป็นอย่างไรหากวันหนึ่งเกิดหลงใหลยอมจำนนขึ้นมา?ทว่าน่าเสียดายชาติก่อนนางเสียเวลาไปมากเพียงนั้น เดินทางผิดมากเพียงนั้น สุดท้ายก็ไม่สามารถทำให้เขาชายตาแลได้ ตรงกันข้ามกลับกลายเป็นตัวตลกในสายตาของทุกคนซ่งรั่วเจินเองก็คิดไม่ถึงว่าจะได้พบฉู่จวินถิงที่นี่ มองเห็นโชคชะตาสีแดงจนเริ่มม่วงนั้นของเขา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 18

    หลังไต้ซือเทียนสุ่ยได้ยินคำนี้หัวใจก็เต้นตึกตัก จ้าวเหวินเทากลับย้อนคิดอย่างไม่เข้าใจ “หลานชายข้าเริ่มร้องไห้ราวเมื่อเจ็ดวันก่อน ไม่ยอมกินอะไร แม้กินแล้วก็อาเจียนออกมาอย่างรวดเร็ว...”พูดไปๆ เขาคล้ายนึกบางอย่างออกอย่างฉับพลัน ดวงตากลมโตหันมองเทียนสุ่ย “ไต้ซือเทียนสุ่ยคล้ายมาถึงเมืองหลวงในตอนนี้!”“ก่อนหลานชายท่านร้องไห้ เคยมีคนส่งของอันใดให้หรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามอีกครั้ง“เมื่อนั้นมีคนส่งจี้หยกหนึ่งชิ้นให้หลานชายข้าจริงๆ จี้หยกนี้ปลุกเสกมาก่อนแล้ว เป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง เดิมทีข้าไม่อยากรับไว้ แต่เห็นหลานชายคล้ายชอบจนไม่ยอมปล่อยมือจึงสวมคอของเขาไว้แล้วเริ่มตั้งแต่วันที่สอง เด็กก็ร้องไห้ไม่หวาดไม่ไหว จนกระทั่งเมื่อสองวันก่อนข้าพาหลานชายมาพบไต้ซือเทียนสุ่ย ไต้ซือเทียนสุ่ยมอบหยกอีกหนึ่งชิ้นให้อาการจึงดีขึ้น แต่หยกชิ้นนั้นก่อนหน้านี้ไม่รู้หายไปที่ใดแล้ว”ใต้เท้าจ้าวเล่าถึงตรงนี้ ตอบสนองเชื่องช้าอย่างไรก็รู้ได้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้นแล้วเดิมทีนี่ก็ไม่ใช่วิธีขับไล่สิ่งสกปรกที่เกาะตัวเด็ก แต่เป็นได้รับภัยโดยไร้สาเหตุ!จี้หยกชิ้นก่อนทำร้ายเด็ก ถัดมาผ่านกลวิธีของไต้ซือเทียนสุ่ย อันที่จริงขอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 19

    “ซวงซวงมิได้ตั้งใจ เหตุใดเจ้าต้องบีบคั้นคนอื่นถึงเพียงนี้?” หลินจือเยว่ปกป้องฉินซวงซวงไว้ทางด้านหลัง สีหน้าบึ้งตึง“ข้าบีบคั้นคน? คนมากมายที่นี่ถูกทำร้าย หลานชายของใต้เท้าจ้าวได้รับภัยโดยไร้สาเหตุ พี่รองข้าต้องตาบอดเพราะสวมสร้อยข้อมือเส้นนี้ บัดนี้หลินโหวพูดหนึ่งประโยคว่ามิได้ตั้งใจก็ถือว่าจบกันไปแล้วกระนั้นรึ? ท่านมีสิทธิ์อะไรพูดคำนี้กัน?”ใบหน้างดงามมีเสน่ห์ของฝ่ายหญิงเจืออารมณ์โกรธขึ้ง ดวงตาดำดุจหมึกคู่งามทอประกายวาวโรจน์ ท่าทีดุดันชัดเจน ถึงขั้นทำให้หลินโหวตะลึงงัน“ไต้ซือชั่วคนนี้หลอกพวกเราหลายคนเพียงนี้ หากมิใช่เพราะฉินซวงซวงเชิญมา พวกเราจะถูกหลอกได้อย่างไร?”“ตนเองตาไม่ดีก็ช่างเถอะ ยังพาหายนะเช่นนี้มาด้วย โชคร้ายที่พวกเราแต่ละคนหลงเชื่อ ทำร้ายพวกเราอย่างรันทดถึงเพียงนี้!”“หลินโหวเองก็มิใช่ว่าถูกหญิงคนนี้ใช้เล่ห์เหลี่ยมอันใดจับไว้แล้วหรือ หาไม่แล้วไฉนเลยจะลุ่มหลงนาง ไม่ยอมแต่งงานกับแม่นางซ่งที่ดีเพียงนี้ ต้องแต่งกับหญิงผู้นี้เท่านั้น?”ได้ยินเสียงตำหนิเกินควร ประโยคแรกว่ารุนแรงแล้วประโยคถัดมากลับรุนแรงยิ่งกว่า สีหน้าฉินซวงซวงเผือดซีด คิดดูแล้วก็ไม่เข้าใจ ทั้งที่ชาติก่อนไต้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 20

    หลินจือเยว่คิดแล้วก็ไม่เข้าใจ เหตุใดฉู่อ๋องจึงให้ท้ายซ่งรั่วเจินฉู่อ๋องถึงวัยออกเรือนแล้ว แต่กลับยังไม่แต่งงาน คุณหนูในเมืองหลวงมากมายล้วนหลงใหล กลับไม่มีผู้ใดสามารถเข้าตาของเขาได้ เหตุใดบัดนี้กลับปกป้องซ่งรั่วเจิน?“เมื่อครู่เป็นข้าเข้าใจผิดไป ขออภัย”หลินจือเยว่พูดขอโทษอย่างฝืนๆ อึดอัดคับข้องใจเป็นที่สุด เขาเป็นขุนนางใหม่ในราชสำนัก เมื่อหลายวันก่อนทุกคนในราชสำนักล้วนชื่นชม ทุกคนที่ได้พบต่างเข้ามาผูกไมตรีกับเขา ทว่านับตั้งแต่เมื่อวานก็เริ่มขายหน้าอย่างต่อเนื่อง“หวังว่าท่านโหวจะจดจำไว้ อย่าเปิดปากขอโทษเพราะทำผิดบ่อยเกินไปนัก ข้าฟังแล้วเลี่ยนนัก” ซ่งรั่วเจินรับคำนิ่งๆ ไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อยสายตาฉู่จวินถิงกวาดมองบนตัวพวกซุนฮั่นเฟย “เมื่อครู่คนพูดจาส่งเดชคล้ายมิใช่เพียงหลินโหวคนเดียวกระมัง?”เห็นสถานการณ์แล้ว หลิ่วเฟยเยี่ยนที่กำลังวางแผนหลบหลีกเข้ากลุ่มคนพลันชะงักฝีเท้า ใบหน้าเผยรอยยิ้มประจบเอาใจ “รั่วเจิน ล้วนเป็นน้าไม่ดีเอง เข้าใจเจ้าผิดไปแล้ว น้าเองก็กังวลเจ้าพูดผิดไปจะสร้างปัญหาเอาได้ เจ้าไม่ถือสาน้าใช่หรือไม่?”“ญาติผู้น้อง พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน” ซุนฮั่นเฟยพูดยิ้ม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 21

    ซ่งรั่วเจินหัวเราะเยาะในใจ ตอนที่อ่านนิยายนางก็รู้สึกว่าตระกูลหลิ่วทั้งตระกูลไม่ใช่คนดี หลิ่วเฟยเยี่ยนกล้ากระทำการอย่างโจ่งแจ้งก็เพราะอาศัยการสนับสนุนจากตระกูลหลิ่วตอนแรกแม่ของนางก็เคยไม่พอใจ แต่ใครจะคิดว่าตระกูลนี้ลำเอียงมากนัก มักจะพูดตลอดว่าหลิ่วเฟยเยี่ยนเป็นน้องสาวแท้ ๆ ในฐานะพี่สาวควรดูแลน้องให้มาก ทั้ง ๆ ที่ผู้ที่ตกที่นั่งลำบากคือท่านแม่ของนาง ทว่าสุดท้ายกลับถูกตำหนิว่าจิตใจแคบหลายปีที่ผ่านมานี้ เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนเป็นปกติ เมื่อปิดประตูพูดคุยกัน ก็จะทำให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก ไม่แน่ว่าอาจจะถูกใส่ร้ายซ้ำอีกด้วย“จะเป็นการดูถูกได้อย่างไร? เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนมากมายเช่นนี้ ท่านน้าก็บอกแล้วว่านางโดนใส่ความ แน่นอนว่าต้องให้ทุกคนได้รับรู้ความจริงเพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด ข้าหวังดีต่อท่านน้าจริง ๆ นะเจ้าคะ!”ซ่งรั่วเจินมีสายตาใสบริสุทธิ์ ท่าทางจริงใจจนแม้แต่หลิ่วซวี่หยางก็ยังคล้อยตาม แต่ในใจเขารู้ดีว่าไม่มีการใส่ความอะไรทั้งนั้น“เจตนาดีของเจ้า ตารู้ดี เพียงแต่น้าของเจ้าเป็นสตรี หากมีข่าวลือออกไป...”“ข้าก็อยากฟังเหตุผลเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าตระก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 22

    ฉู่จวินถิงมองเห็นความหมายแฝงในสายตาของซ่งรั่วเจิน รอยยิ้มในดวงตาเขาลุ่มลึกขึ้น “แน่นอน”ช่วยแล้วก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด เขาก็อยากจะดูว่าเรื่องขับขันเรื่องนี้ ตระกูลหลิ่วและตระกูลฉินจะอธิบายอย่างไรเพ่ยหลานเดิมไม่เชื่อคำพูดของซ่งรั่วเจิน เพราะมีหลิ่วเฟยเยี่ยนและแม่นางฉินหนุนหลัง นางจึงไม่จำเป็นต้องกลัวซ่งรั่วเจินที่ดูอ่อนปวกเปียกแต่เมื่อเห็นท่านอ๋องพูด นางจึงตระหนักว่าเรื่องที่ตนจะถูกตีจนตายอาจเป็นเรื่องจริง ในใจให้หวาดกลัวอย่างถึงที่สุด“พูดมา ใครกันแน่ที่ซื้อตัวเจ้า?” ซ่งรั่วเจินถามอย่างเย็นชาเพ่ยหลานเห็นว่าหลิ่วเฟยเยี่ยนและฉินซวงซวงไม่สนใจนาง จึงกัดฟันพูดว่า “ไม่เกี่ยวกับฮูหยินและแม่นางฉิน ข้าไม่ได้ถูกพวกเขาซื้อตัว”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลิ่วเฟยเยี่ยนและฉินซวงซวงต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขอแค่นางไม่บอกว่าพวกเขาเป็นคนซื้อตัวก็พอทั้งสองคนมองซ่งรั่วเจินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความได้ใจ คิดว่านางจะไม่มีทางออกแล้ว!“ดี งั้นก็ลากออกไปตีจนตายเสีย!” สีหน้าของซ่งรั่วเจินไม่เปลี่ยน ดูเหมือนจะไม่แปลกใจเลย “หวังหลู่ เจ้าไปคุมเอง ห้ามใครยุ่งเกี่ยว ตีให้ตายแล้วนำไปโยนทิ้งที่หลุมฝังศพรว

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 862

    ในช่วงฤดูที่สายหมอกและสายฝนโปรยปราย จ้าวซวี่ไป๋ได้บังเอิญพบเจอกับแม่นางเหมียวเหมี่ยวที่ลืมพกร่มมา    นางมีผิวพรรณขาวผ่องงดงาม ราวกับดอกไม้สีขาวที่เบ่งบานอยู่ริมทาง ทั้งบริสุทธิ์ อ่อนโยน และดูไร้เดียงสา จนผู้คนอดไม่ได้ที่จะอยากปกป้อง ยามที่นางยิ้มก็ยิ่งอ่อนหวาน ราวกับรอยยิ้มนั้นได้แทรกซึมเข้าสู่หัวใจผู้คน    จ้าวซวี่ไป๋พูดไปพูดมาก็อดไม่ได้ที่จะเผลอเผยรอยยิ้มออกมา ครั้นเมื่อกล่าวถึงช่วงท้าย แก้มก็ยิ่งแดงขึ้นกว่าเดิม    ซ่งรั่วเจินสบตากับคนอื่น ๆ แวบหนึ่ง แม้เขาจะไม่ได้กล่าวออกมาอย่างชัดเจน แต่ทุกคนล้วนเข้าใจดีว่า การพบเจอกันเช่นใดที่สามารถทำให้จิตใจของบุรุษว้าวุ่น จนถูกช่วงชิงวิญญาณไปโดยสิ้นเชิง    รสชาติแห่งความลุ่มหลงในความฝันนี้ คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาเป็นแน่    “อวิ๋นอ๋อง ก่อนหน้านี้ท่านกล่าวว่าคุณชายจ้าวเคยมีสหายรักตั้งแต่วัยเยาว์ที่พลัดตกน้ำตายเมื่อหลายปีก่อน มีนามว่าอะไรหรือ?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถาม    ฉู่อวิ๋นกุยขมวดคิ้ว “ข้ากับแม่นางผู้นั้นมิได้สนิทสนมกันนัก อีกทั้งยังผ่านมาหลายปีเช่นนี้ กล่าวตามตรง ข้าก็จำมิได้”    “นางคือเฉียนชิ่งเหมียว” นายหญิงจ้าวรีบเอ่ยขึ้น    “เฉี

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 861

    “จ้าวฮูหยิน สถานการณ์ของคุณชายจ้าวมิอาจปล่อยให้ล่าช้าได้อีก หากปล่อยให้ล่าช้าต่อไป เกรงว่ายากที่จะมีชีวิตรอด”   ซ่งรั่วเจินเหลือบตามองเฉียนหย่าหลินเล็กน้อย “หากคุณชายจ้าวต้องเป็นอะไรไปเพราะการขัดขวางของท่าน ท่านจะรับผิดชอบไหวใช่หรือไม่?”    เฉียนหย่าหลินสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เจ้าพูดอะไรไร้สาระ? ซวี่ไป๋จะไม่เป็นอะไร!”    ก่อนหน้านี้ฉู่อวิ๋นกุยก็รู้เรื่องที่เฉียนหย่าหลินกับซ่งรั่วเจินขัดแย้งกันมาก่อน วันนี้จึงถือเป็นการได้เห็นว่า แท้จริงแล้วสตรีนางนี้บ้าคลั่งขนาดไหน ฉู่เทียนเช่อสามารถทนกับฮูหยินเช่นนางได้นานขนาดนี้ ก็ถือว่าเก่งมากยิ่งนัก!    “ไสหัวไป!”    ฉู่จวินถิงส่งสายตาหนึ่งที เพื่อให้อวิ๋นหยางไล่เฉียนหย่าหลินออกไปทันที    “ท่านน้า ท่านดูสิว่าพวกเขาทำกับข้าเช่นไร! ท่านอย่าทำร้ายซวี่ไป๋เลยนะ!” เฉียนหย่าหลินพูดด้วยความร้อนรน    นายหญิงจ้าวมีสีหน้าอับอาย พลางกล่าวว่า “ขออภัยจริง ๆ เฉียนหย่าหลินชินกับความเอาแต่ใจตั้งแต่เด็ก พูดจาไม่คำนึงถึงความเหมาะสม พวกท่านทั้งหลายอย่าถือสาเลยนะ”   เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งรั่วเจินจึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วจ้าวซวี่ไป๋กับเฉียนหย่าหลินเป็นญา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 860

    “ผีสาวอะไรกัน เหมียวเหมี่ยวคือนางเซียน เจ้าอย่าใส่ร้ายนาง!” จ้าวซวี่ไป๋เลือดขึ้นหน้า“นางเซียน?” ฉู่อวิ๋นกุยแทบหัวเราะออกมาเพราะความโมโห “ถ้าเป็นนางเซียนจริง ตอนนี้เจ้าก็ควรกระปรี้ประเปร่าอิ่มเอิบ ทั้งยังเป็นไปได้ว่าอาจมีอายุยืนเป็นร้อยปีเพราะได้รับความช่วยเหลือจากนาง แต่เจ้าดูซิว่าตอนนี้เจ้ามีสารรูปแบบไหน?”“เจ้าดูตัวเองในกระจก สารรูปเหมือนใกล้จะลงโลงแบบนี้ เมื่อก่อนเจ้าชอบอ้างว่าตัวเองไม่มีทางถูกความรู้สึกบังตา จะต้องกตัญญูต่อพ่อแม่ไม่ใช่หรือไร?”“ตอนนี้เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ ข้าแนะให้เจ้าใคร่ครวญดูให้ดีเสียเถอะ!”จ้าวซวี่ไป๋รับกระจกที่ฉู่อวิ๋นกุยโยนมาให้แล้วเหลือบมองไปโดยจิตใต้สำนึก หลังจากเห็นใบหน้าที่ซูบตอบซีดเซียว ไม่มีชีวิตชีวาแม้แต่น้อย ในใจก็ต้องตกตะลึง เหมือนคิดไม่ถึงว่าตนเองจะกลายเป็นแบบนี้ซ่งรั่วเจินเพิ่งเคยเห็นท่าทางเดือดดาลเช่นนี้ของฉู่อวิ๋นกุยเป็นครั้งแรก เห็นได้ชัดว่าคนทั้งสองเป็นสหายสนิทกันอย่างแท้จริง ไม่อย่างนั้นก็คงไม่โมโหถึงขั้นนี้“เจ้าดูอะไรออกหรือยัง? เป็นเพราะผีสาวตามรังควานจริงๆ หรือ?” ฉู่จวินถิงถามซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ท่านดูพลังชีวิตของเขา พลังหยางแทบถู

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 859

    ทุกคนล้วนฝันกันทั้งนั้นฝันเป็นเรื่องราวติดต่อกันหลายวัน เรื่องแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่เคยมีมาก่อนทว่าทุกวันล้วนฝัน สรรพสิ่งในฝันแทบเหมือนเป็นโลกอีกใบ เรื่องแบบนี้พวกเขากลับไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแม่นางในฝันที่จะแต่งงานด้วยในตอนนี้!ซ่งรั่วเจินกลับไม่ประหลาดใจนัก เพียงแต่นึกยินดีอยู่บ้างโชคดีที่พวกนางมาได้ค่อนข้างทันเวลา ถ้าช้ากว่านี้สักหลายวัน รอจนคนทั้งสองแต่งงานกันจริงไปแล้ว นั่นก็จะช่วยยากจริงๆ แล้ว...“ฮูหยิน ท่านอ๋องทั้งสองมาแล้วเจ้าค่ะ” แม่นมรีบมารายงานนายหญิงจ้าวได้ยินคำรายงานนี้ก็ออกมาจากในห้องทันที เห็นพวกฉู่จวินถิงอยู่ข้างนอกก็รีบร้อนแสดงคารวะ “คารวะท่านอ๋องทั้งสอง”“ท่านป้า ที่ข้ามาวันนี้ก็เพราะรู้เรื่องซวี่ไป๋จึงตั้งใจมาเยี่ยมโดยเฉพาะ” ฉู่อวิ๋นกุยกล่าวตามตรงสายตานายหญิงจ้าวตกลงบนร่างซ่งรั่วเจินโดยไม่รู้ตัว นางย่อมเคยได้ยินมาก่อนว่าแม่นางตระกูลซ่งผู้นี้เชี่ยวชาญวิชาคุณไสย ตอนนั้นไม่เพียงช่วยสวีฮูหยินตามหาลูกสาวแท้ๆ จนเจอ ต่อมายังเปิดโปงความจริงเรื่องที่ตระกูลหลิ่วสลับตัวลูกอีกด้วยเดิมนางก็คิดว่าจะไปเชิญพระอาจารย์ที่มีวิชาแก่กล้ามาดูว่าลูกชายต้องคุ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 858

    “วันนี้พ่อของหม่อมฉันเข้าวังไปแล้ว ก่อนหน้านี้เกิดเรื่องขึ้นมากมายที่เมืองผิงหยาง วันนี้กลับมาแล้ว ไม่รู้ว่าทุกอย่างราบรื่นดีหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถาม“วางใจเถอะ เดิมทีท่านลุงก็เป็นขุนนางจงรัก คราวนี้สาเหตุที่อยู่ที่เมืองผิงหยางนานขนาดนี้ก็เป็นเพราะถูกบังคับ”“วันนี้รองแม่ทัพคนอื่นๆ ก็เข้าวังไปด้วยเหมือนกัน ก่อนหน้านี้เสด็จพ่อก็ทรงนึกเสียดายที่ท่านลุงพลีชีพไปในสมรภูมิ ตอนนี้เห็นเขากลับมาแล้วก็ดีพระทัยมาก”ซ่งรั่วเจินได้ยินอย่างนั้นก็ค่อยวางใจ “เช่นนั้นก็ดีเพคะ”“ข้ารู้ว่าหลังจากท่านลุงกลับมาจะต้องไม่ยอมปล่อยเรื่องที่เกิดขึ้นในสมรภูมิไปง่ายๆ เป็นแน่ แต่เรื่องก็ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ฝ่ายตรงข้ามก็คงใช้วิธีการตุกติกไปแล้ว ดังนั้นคิดจะพลิกคดีนี้ขึ้นมาอีกครั้งคงไม่ง่ายดายปานนั้น”“รอจนเจ้ากลับไปแล้วก็ลองเกลี้ยกล่อมท่านลุงดู อย่าได้ร้อนใจเกินไป ความจริงจะต้องถูกตรวจสอบออกมาได้ไม่ช้าก็เร็ว”“หม่อมฉันเข้าใจเพคะ”ซ่งรั่วเจินมองฉู่จวินถิงอย่างลึกซึ้ง เขาคาดเดาความคิดในใจของท่านพ่อได้จริงๆ ด้วย แต่คิดจะทำเรื่องนี้หาได้ง่ายดายไม่ แต่ดำย่อมไม่อาจกลายเป็นขาว ความจริงจะต้องปรากฏออกมาในสักวันณ ต

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 857

    หวงซือถิงได้ยินวาจานั้นแล้วก็เหลือบมองอวิ๋นเฉิงเจ๋อโดยไม่รู้ตัว ดวงตาแฝงรอยคาดหวังหลังจากพบกันคราวก่อน นางก็พบว่าท่าทีของอวิ๋นเฉิงเจ๋อเย็นชาอย่างมาก แม้นางจะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน แต่ก็เข้าใจว่านั่นไม่ใช่ท่าทางของคนที่ได้พบคนในดวงใจเดิมทีเขาก็ไม่ได้เต็มใจมาพบนาง เพราะได้รับความช่วยเหลือจากญาติผู้ใหญ่จึงมีโอกาสเจอหน้ากัน กระทั่งว่าตอนจากลา ท่าทีของเขาก็แสดงออกชัดเจนยิ่งว่าไม่มีความคิดจะแต่งงาน อย่ามาเสียเวลากับเขาเลยแต่ตอนนั้นนางพบอวิ๋นเฉิงเจ๋อครั้งแรกก็ตกหลุมรักทันที ตอนนี้ถึงวัยออกเรือนแล้วจึงอยากจะลองดูสักครั้งในเมื่อเขาไม่มีคนในดวงใจ เช่นนั้นตนเองก็ไม่แน่ว่าจะไม่มีโอกาสเอาเสียเลยอวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอย่างนั้นก็รู้ว่าอวิ๋นเนี่ยนชูกำลังโกรธเคืองเขาอยู่จึงกล่าวว่า “ระวังคำพูดและการกระทำ เรื่องที่ไม่มีมูลก็อย่าพูดจาส่งเดช จะทำให้ชื่อเสียงแม่นางหวงเสื่อมเสียเอาได้”“เรื่องที่ไม่มีมูล?”ดวงตาอวิ๋นเนี่ยนชูฉายแววตกตะลึงพลางมองไปทางหวงซือถิงโดยไม่รู้ตัว แล้วก็มองเห็นความผิดหวังบนสีหน้าของอีกฝ่ายแววตานางเปลี่ยนไปหลายส่วนโดยไม่รู้ตัว เห็นทีแม่นางผู้นี้คงเหมือนกับนางสินะ...

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 856

    “ข้าจำได้ว่าตอนนั้นเจ้าได้รับความตกใจ หลังกลับมาก็มีไข้สูงไปสามวัน ต่อมาถึงได้ดีขึ้น”เนื่องจากตอนนั้นนี่เป็นเรื่องครึกโครมมาก เขาจึงจำเรื่องนี้ได้แม่น ตอนนั้นคนที่กลับมาล้วนถูกสั่งสอนอย่างหนัก ฉู่จวินถิงจึงมีความประทับใจเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งตอนนั้นเขายังพยายามทำความเข้าใจต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้โดยละเอียด หลังจากจ้าวซวี่ไป๋ทะเลาะกับแม่นางผู้นั้น สองฝ่ายก็แยกทางกัน พวกเขาไปเล่นบริเวณไม่ไกลออกไป ทั้งยังไม่คิดว่าแม่นางผู้นั้นจะเกิดเรื่องไม่มีใครรู้ว่าเหตุใดอยู่ดีๆ จึงพลัดตกน้ำฉู่อวิ๋นกุยนึกถึงเรื่องในตอนนั้นขึ้นมาแล้วก็รู้สึกขนลุกซู่จึงลูบแขนโดยไม่รู้ตัว “แม่นางซ่ง เจ้าคงไม่ได้หมายความว่าแม่นางในความฝันของซวี่ไป๋คือเพื่อนเล่นสมัยเด็กผู้นั้นหรอกนะ?”หลังจากซ่งรั่วเจินได้ยินว่าที่นั่นเคยมีคนจมน้ำตายมาก่อนจริงๆ ทั้งยังเป็นแม่นางที่รู้จักก็รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูง“ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้นี้ ถ้าไม่มีต้นสายปลายเหตุเสียเลย จู่ๆ ฝ่ายตรงข้ามไม่มีทางมาพัวพันกะทันหันเช่นนี้”“แม่น้ำทุกสายล้วนเคยมีคนตายมาก่อน คนที่ตกน้ำยิ่งมีจำนวนนับไม่ถ้วน แต่คนส่วนใหญ่ หลังจากตกน้ำก็ไม่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 855

    ซ่งรั่วเจินฟังคำบอกเล่านั้นแล้ว ดวงตาก็ฉายแววประหลาดใจ นี่คงไม่ใช่...เจ้าสาวผีหรอกนะ?เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับนางแต่อย่างใด อันที่จริงในหมู่ชาวบ้านก็มักเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นบ่อยๆ กระทั่งว่าจัดงานแต่งงานกับผีก็ยังมี แต่เห็นได้ชัดว่าครอบครัวคนผู้นี้ไม่รู้เรื่อง ทั้งยังถูกผีสาวตามพัวพันสำเร็จแล้วด้วย?“เจ้าว่าเรื่องนี้แปลกไหม?”ฉู่อวิ๋นกุยมีสีหน้าร้อนใจ ถ้าเป็นตอนก่อนหน้าที่จะได้รู้จักซ่งรั่วเจิน เขาจะต้องไม่คิดอะไรมากเป็นแน่ คงคิดแค่ว่าเจ้าหมอนี่หมกมุ่นตอนกลางวันเอาไปฝันตอนกลางคืน พูดตรงๆ ก็คือแตกหนุ่มแล้วแต่หลังจากที่เขาได้เห็นสีหน้าที่ทั้งอิดโรยและไม่น่ามองของจ้าวซวี่ไป๋ก็รู้สึกว่าจะต้องมีปัญหาแน่นอนซ่งรั่วเจินพยักหน้าน้อยๆ แต่ก็ไม่ได้พูดยืนยันออกมาตรงๆ“จากที่ท่านพูดมา สถานการณ์ก็ประหลาดอยู่บ้างจริงๆ นั่นแหละ แต่ตกลงแล้วเป็นเรื่องอะไรกันแน่ ยังต้องไปดูด้วยตาตัวเองก่อนจึงจะยืนยันได้”“ตอนนี้สุขภาพเขาย่ำแย่ลงทุกที ท่านบอกว่าเขาล้มป่วยหนัก รู้หรือไม่ว่าป่วยเป็นอะไร?”“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” ฉู่อวิ๋นกุยส่ายศีรษะ “หมอหลายคนไปดูอาการให้แล้ว แต่ดูเหมือนก็ตรวจไม่พบอะไร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 854

    “ไม่ได้เจอกันพักเดียว แม่นางซ่งงามขึ้นกว่าเมื่อก่อนเสียอีก มิน่าเล่าเสด็จพี่ไม่ได้เจอวันเดียวก็อดใจไม่ไหวต้องมาหาเสียแล้ว”ฉู่อวิ๋นกุยเห็นท่าทางอัดอั้นตันใจของเสด็จพี่สามของตนแล้วก็อดนึกขันไม่ได้เมื่อก่อนมีแต่ผู้หญิงที่หมุนรอบตัวเขา ตอนนี้กลับต้องมาหมุนรอบตัวแม่นางซ่ง แบบนี้คงเรียกว่าแพ้ทางสินะ!ฉู่จวินถิงปรายตามองเขา สายตาเต็มไปด้วยแววตักเตือนฉู่อวิ๋นกุยลูบจมูก แต่ก็หาได้กลัวไม่ อย่างไรเสียพี่สะใภ้ก็อยู่ด้วยจึงไม่ต้องกังวลเรื่องไฟโทสะของเสด็จพี่สามซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงมีสีหน้าเย็นชาราวกับว่ามีคนค้างเงินเขาแล้วยังไม่คืนกระนั้น นางกล่าวว่า“อย่าโกรธเลยเพคะ หม่อมฉันคิดว่าท่านเพิ่งกลับมา ทั้งยังต้องเข้าวังไปรายงาน ในจวนอ๋องก็มีเรื่องมากมายต้องจัดการ หม่อมฉันไม่อยากรบกวนท่านอย่างไรเล่าเพคะ?”ฉู่จวินถิงหัวเราะเบาๆ “ข้าว่าเจ้าไม่อยากให้ข้ารบกวนเจ้ามากกว่ากระมัง? คืนวานข้าให้คนมาแจ้งเจ้าแล้วนะว่าวันนี้ว่าง”ซ่งรั่วเจินที่ถูกพูดแทงใจดำ “...”วันนี้เดิมทีนางก็แค่อยากมาดูเรื่องสนุก การใส่ใจเรื่องคนอื่นแบบนี้ จะพาฉู่จวินถิงมาด้วยก็คงไม่ได้หรือเปล่า?ดูอย่างไรเขาก็ไม่เหมือนคนที่จะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status