“อ๋องหื่น” “หึหึ...ข้าหื่นที่ไหนกันเล่า ข้าแค่อยากแสดงความรักกับเจ้าเท่านั้นเอง และตอนนี้ก็ลับตาคน ข้าว่าเรามาเย้ยฟ้าท้ายุทธภพกันดีไหม” เขาพูดจบก็ผลักร่างเล็กโน้มลงไปนอนราบกับหลังคาทันทีแล้วตัวเองก็คร่อมทับ “อือ...เดี๋ยวหลังคาบ้านเขาพังหรอก” “ไม่ลองไม่รู้เถียนเถียน” “บ้าน่า อย่าทำอะไรพิสดารได้ไหม เดี๋ยวพลาดท่าตกไปพิการเอาหรอก” “ข้ามีวิชาตัวเบา ไม่ทำให้เจ้าเป็นอันตรายหรอกเมียข้า” เขาพูดแล้วก็โน้มหน้าหมายจะลงไปซุกไซ้ซอกคอระหงทันที......
View Moreภาพที่ตู้เหลียงเฉิงตวัดดาบตัดหัวของมู่เหลียงเฉิงทำให้หลิงหลิงสาวใช้ของท่านหญิงหมิงเทียนแทบก้าวขาไม่ออก ความโหดเหี้ยมของท่านอ๋องตู้นั้นสังหารพี่ชายเพียงดาบเดียว หลิงหลิงก้าวเท้าออกมาจากที่ซ่อนของตัวเองเดินเข้าไปหาท่านอ๋องตู้ที่กำลังจะเดินไปทางม้าของท่านอ๋อง “เจ้าหลิงหลิง คนของท่านหญิงหมิงเทียนนี่” เขามองไปทางคนที่เดินตัวสั่นมาทางตนเองพร้อมเอ่ยถาม “เพคะท่านอ๋องตู้ หม่อมฉันมาส่งข่าวเพคะ” “ข่าวอะไรของเจ้า” “ท่านหญิงหมิงเทียนให้หม่อมฉันมาทูลท่านอ๋องตู้ว่าตอนนี้พระชายาชู่เอ๋อนั้นอยู่กับท่านหญิงที่ตำหนักเพคะ” นางเอ่ยเสียงสั่นเบาในลำคอ “ขอบใจเจ้าที่มาบอกข้า หากเจ้าไม่มาบอก ข้าคงตามหาพระชายาแบบไร้จุดหมาย” น้ำเสียงเข้มห้าวเอ่ยพร้อมกับเหวี่ยงตัวโหนขึ้นหลังม้า “ฟ่านตง เจ้าเข้าไปในวังหลวงก่อน เราจะไปหาพ
ฮือ!เสียงหอบเหนื่อยของทั้งสองดังขึ้นพร้อมกับสองเท้าหยุดวิ่งเมื่อคิดว่าหนีมาไกลจนปลอดภัยแล้ว แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งตัวเกร็งเมื่อมีดาบยื่นมาจากด้านหลังจ่อที่ลำคอของนาง“คิดเหรอว่าจะหนีรอด หากไม่มีเจ้า ท่านพี่อ๋องตู้ก็คงเลือกข้าเป็นพระชายา” เสียงเล็กแหลมดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับเจ้าของต้นเสียงเดินมาหยุดตรงหน้านาง ชู่เอ๋อมองเจ้าของน้ำเสียงเล็กแหลมน่าเกลียดด้วยความเดือดดาล แต่ทำอะไรไม่ได้เมื่อที่คอมีดาบจ่ออยู่“ทหารจับตัวมันไป” ท่านหญิงหมิงเทียนเอ่ยสั่งทหารของตนเองให้จับชู่เอ๋อและหลันหลงพร้อมสั่งมัดมือมัดปากของทั้งสองก่อนจะพาขึ้นรถม้าตัวเอง“อือ...ยัยท่านหญิง อ่ะ...อื้อ” แล้วเสียงชู่เอ๋อก็หลุดหายไปในลำคอเมื่อมีผ้าปิดปากเผียะ!“ตอนนี้ชีวิตของเจ้าอยู่ในกำมือข้า นังชู่เอ๋อ” มือเล็กตวัดตบหน้าของชู่เอ๋อก่อนจะเดินขึ้นรถม้าตัวเองไปแล้วชู่เอ๋อและสาวใช้ก็ถูกทหารของนางลากดึงขึ้นรถม้าตามหลังไป และทันทีที่ทุกคนขึ้นมาบนรถม้าแล้ว รถม้าก็เคลื่อนตัวไปทันที“หลิงหลิง เจ้าไปดักรอที่หน้าจวนอ๋องตู้เพื่อส่งข่
“ลุย!” ตู้เหลียงเฉิงร้องสั่งทหารของตัวเองและเหล่าแม่ทัพของตัวเองให้บุกโจมตีกบฏในยามเช้ามืดเฮ!เสียงทหารและเสียงม้าศึกได้วิ่งควบบุกเข้าโจมตีค่ายของกบฏด้วยความห้าวหาญ เสียงดาบดังกระทบกันหนักหน่วงพร้อมเสียงร้องโหยหวนของกบฏและทหารที่พลาดพลั้งเสียท่าเพล้ง! ฉัวะ! เพล้ง! ฉัวะ! เสียงคมดาบกระทบกระทั่งกันพร้อมเสียงร้องทรมานของผู้เสียท่า“ท่านอ๋องตู้มิต้องห่วงทางนี้ ท่านนำทหารของเราไปในเมืองจับกุมท่านอ๋องมู่เถอะพ่ะย่ะค่ะ” เสียงเข้มทุ้มของแม่ทัพใหญ่ชู่เว่ยเอ่ยดังขึ้น“งั้นทางนี้ข้าฝากท่านอาจารย์ด้วย ข้ากับฟ่านตงจักไปจับท่านอ๋องมู่ก่อนที่ทางนั้นจะไหวตัวทัน”“พ่ะย่ะค่ะ” ชู่เว่ยรับคำแล้วควบม้าไปร่วมต่อสู้กับทหารคนอื่น“ตามข้ามาฟ่านตง และพวกเจ้าด้วย” เสียงเข้มเอ่ยเหี้ยมพร้อมควบม้าวิ่งไปอีกทางทันที โดยมีฟ่านตงและเหล่าทหารศึกควบม้าวิ่งตามเขาไปกุก กุดุดุก กุดุมู่เหลียงเฉิงไม่รู้เลยว่าตอนนี้ค่ายลับของตัวเองได้ถูกตู้เหลียงเฉิงปราบ
ปึก! เสียงประตูปิดแนบสนิทพร้อมกับเพลิงกามสวาทได้เริ่มบรรเลงขึ้น เมื่อเสื้อผ้าอาภรณ์ของชู่เอ๋อถูกปลดเปลื้องออกด้วยมือของพระสวามี ตู้เหลียงเฉิงปลดเปลื้องอาภรณ์ของนางยอดรักและของตนออกทิ้งแล้วอุ้มนางไปยังเตียงนอนนุ่มที่อยู่ห่างจากหน้าประตูมิไกลนัก “อ่ะ...อื้อ ท่านอ๋องตู้ ท่าน...อ่า...ท่านกำลังแกล้งหม่อมฉันใช่รึไม่เพคะ” ตอนนี้ชู่เอ๋อรู้แล้วว่าแท้จริงแล้วพระสวามีหาได้เกรี้ยวโกรธตัวเองไม่ “หึหึ...ข้าแกล้งอันใดเจ้ายอดรักของข้า” ปากหนาที่เคลื่อนไล้จูบขบเม้มลำคอระหงผละออกมาเอ่ยถามนางในดวงใจ “ก่อนหน้านี้ท่านมิได้โกรธหม่อมฉันใช่รึไม่เพคะ” หึหึ เขาทำเพียงขำตอบ และนั่นก็ยิ่งทำให้ชู่เอ๋อรู้สึกขุ่นเคืองเมื่อโดนอ๋องตู้ร้อยเล่ห์หลอกอีกครั้ง “ท่านมันคนร้อยเล่ห์”&nbs
ชู่เอ๋อที่กำลังนั่งอ่านจดหมายฉบับเก่าๆ วนไปวนมาด้วยความคิดถึงเจ้าของจดหมาย และวันนี้นางก็เฝ้ารอม้าเร็วมาส่งจดหมายของพระสวามี แต่ชะเง้อคอมองประตูของจวน มองแล้วมองอีกก็ยังคงเงียบไม่มีวี่แววว่าจะมีผู้ใดมาเยือนจวนสักคน“คุณหนูไปกินข้าวกันเถอะเจ้าค่ะ หลันหลงเตรียมมื้อเช้าเสร็จแล้วเจ้าค่ะ” หลันหลงเห็นคุณหนูตัวเองตื่นเช้ามารอจดหมายรักจากท่านอ๋องตู้ก็นึกสงสาร เพราะนี่ก็เริ่มสายแล้ว แต่ม้าเร็วยังมินำจดหมายมาส่งสักที“เราไม่หิวหลันหลง เจ้าไปกินเถอะ ไม่ต้องห่วงข้า”“แต่...”“ไม่มีแต่ ไปเถอะหลันหลง ข้าจะนั่งอยู่ที่นี่ไม่ไปไหน”“เจ้าค่ะ งั้นหลันหลงไปนำขนมและน้ำชามาให้คุณหนูนะเจ้าคะ”“อือ...ไปเถอะหลันหลง”นางตอบโดยมิสนใจจะมองสาวใช้ นางหยิบจดหมายฉบับเมื่อวานขึ้นมาอ่านวนซ้ำอีก และตั้งแต่เช้าก็อ่านหลายรอบแล้ว อ่านจนจำเนื้อความในจดหมายได้ขึ้นใจ ด้านหลันหลงมองคุณหนูของตัวเองแล้วก็เดินไปจัดเตรียมขนมน้ำชามาให้คุณหนูเฮ้อ!ผ่านไปนานจนแน่ใจแล้วว่าวันนี้ไม่มีจดหมายจากตู้เหลียงเฉิงแน่นอน นางก็ลุ
“เจ้ามาหาข้าเองชายาข้า จะวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ เจ้าก็เป็นของข้าอยู่ดีท่านหญิง มิมีใครมาแย่งเจ้าไปจากข้าได้หรอกทูนหัว อ่ะ...อื้อ” พูดจบเขาก็รั้งท้ายทอยเล็กให้แหงนเงยขึ้นพร้อมทาบทับประกบริมฝีปากหนาบดจูบคลอเคลียกลีบปากอวบฉ่ำสีระเรื่อ“อ่ะ...อื้อ” ริมฝีปากหนาบดเร่าดูดกลืนกลีบปากอ่อนนุ่มของท่านหญิง พร้อมกับมือใหญ่สากกร้านจากการทำศึกจับดาบก็ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของหญิงงามในดวงใจไปด้วย“อ่ะ...อ่อย” แข้งขาของท่านหญิงอ่อนระทวยแทบจะยืนทรงตัวอยู่มิไหวจนต้องจับไหล่หนารั้งร่างตัวเองไว้ เพลานี้นางไม่อาจต่อต้านได้เลย นางทำตัวไม่ถูก และนางก็เกลียดตัวเองยิ่งนักที่เผลอแอ่นเด้งตัวเสียดสีไปกับร่างใหญ่ของมู่เหลียงเฉิง และร้องครางเผลอไผลไปกับจูบน่ารังเกียจ“อ่า...เห็นรึไม่ว่าเจ้าตอบสนองข้าดีแค่ไหนท่านหญิง” ปากหนาผละจูบออกมาเอ่ยเย้ยหยันพร้อมกับช้อนอุ้มนางเดินไปยังเก้าอี้ตัวที่นั่งก่อนหน้านี้แล้วดันร่างน้อยเพรียวระหงของท่านหญิงให้นั่งไปกับเก้าอี้“หม่อมฉันเกลียดท่านอ๋องมู่”“ข้ารู้ว่าในใจเจ้ามีเพียงไอ้อ๋องตู้ แต่เพลานี้ร่างกายของเจ้าเป็นของพี่คนเดียวท่านหญิง” เขาตอบสวนกลับพ
ไม่เคยต้องแยกห่างกันเช่นนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่ตู้เหลียงเฉิงต้องแยกห่างจากพระชายายอดรักของตนเอง เพราะหน้าที่และความปลอดภัยของนางและของทุกคนในแคว้นเฉิง เขาจึงจำเป็นต้องไปอยู่ที่ค่ายทหาร จนกว่าจะปราบกลุ่มกบฏของมู่เหลียงเฉิงได้ “คิดถึงข้าบ้างนะดวงใจข้า” มือใหญ่สากกร้านลูบไล้แก้มนวลเนียนของพระชายาคนงามที่เดินมาส่งตนเองหน้าจวนอย่างอ้อยอิ่ง “หม่อมฉันจะคิดถึงท่านอ๋องตู้เพคะ” นางตอบอย่างใสซื่อพร้อมแหงนเงยหน้าขึ้นสบตาร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้า และตู้เหลียงเฉิงก็อดจะโน้มหน้าลงมาทาบทับริมฝีปากหนากับริมฝีปากอวบอิ่มแสนหวานของนางในดวงใจเสียมิได้ “อ่ะ...อื้อ” เหล่าทหาร สาวใช้ต่างพากันก้มหน้ามองเท้าตัวเองเมื่อนายกำลังสั่งลากันด้วยจูบดูดดื่ม “ท่านอ๋องตู้” นางทุบตีอกของพระสวามีไม่จริงจังนักเมื่ออีกฝ่ายผละจูบออกห่าง “ก็ข้าคิดถึงเจ้านี่ชู่เอ๋อ ไม่รู้ว่าไปคราวนี้จะได้
ฟ่านตงควบม้าตามท่านอ๋องของตัวเองมาติดๆ เพื่อติดตามให้ความปลอดภัยโดยมีหลันหลงสาวรับใช้ของพระชายานั่งซ้อนอยู่ด้านหน้าตัวเองมาด้วย ในทีแรกเขาไม่อยากพานางมาด้วย แต่เมื่อเป็นความต้องการของพระชายา มีหรือฟ่านตงจะขัดคำสั่งได้ “ท่านฟ่านตงช้าๆ ได้รึไหมเจ้าคะ หลันหลงมึนหัวเจ้าค่ะ” นางเอี้ยวหน้าแหงนเงยขึ้นบอกคนที่นั่งซ้อนโอบกอดตัวเองควบม้าอยู่ด้านหลังเมื่อเริ่มรู้สึกมึนหัว “ถ้าช้าก็ตามท่านอ๋องตู้กับพระชายามิทันสิหลันหลง” “แต่ข้ามึนหัวมากท่านฟ่านตง” “งั้นเจ้าก็เดินเอาเสีย ข้าจะควบม้ารักษาความปลอดภัยให้ท่านอ๋องตู้และพระชายา..ชูว์!” ฟ่านตงพูดพร้อมกับดึงบังเหียนม้าให้หยุดวิ่ง “ท่านหยุดม้าทำไมท่านฟ่านตง” “ให้เจ้าลงเดินยังไงเล่า มึนหัวมิใช่รึ” “ท่านฟ่านตง”
ความสุขอาจจะอยู่กับเราได้ไม่นาน แต่หากเมื่อไหร่ที่ได้พบแล้วก็จงกอบโกยความสุขที่ได้พบไว้ เสียงครางพึมพำกระเส่าห้วนหวานจังหวะเร่าร้อนได้เริ่มขยับโยกไหวอยู่ในจวนของตู้เหลียงเฉิงกับพระชายาจอมพยศแสนดื้อของเขา ในเพลานี้หากใครมาบุกก็มิอาจจะหยุดการเคลื่อนไหวเร่าร้อนของทั้งคู่ได้ “อ่า...ชายาของข้า อ่า...เจ้าช่างงามเหลือเกินชู่เอ๋อ” ตู้เหลียงเฉิงครางพร่าซ่านเสียวพร้อมบดเร่ากดคลึงหนักหน่วงจังหวะเร่าร้อนเข้าออกช่องทางรักของแม่น้องนางคนงาม ชู่เอ๋อเองก็เช่นกัน เพลานี้นางเองก็โหยหาความร้อนรุ่มของท่อนเนื้อมังกรอวบใหญ่ของพระสวามี “อือ...ไม่ไหวแล้ว ชู่เอ๋อไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะท่านอ๋องตู้ อ่ะ...อื้อ” ร่างน้อยบิดเร่าอาบท่วมไปด้วยเหงื่อไคลร้องครางกระเส่าซ่านทรมานกลางลำตัวที่มีมังกรทองสอดเร่าเข้าออกกลางเรียวขาเล็กของนาง “อ่ะ...โอว์ เจ้าช่างตอดรัดเร่าคลึงข้าดีนักชู่เอ๋อของข้า อ่า...ไม่ไหวแล้ว อ่า...พร้อมกันชายาข้า อ่า...ซี้ด” พั่บ
ซู่หลิงเถียน หรือเถียนเถียน วัย 20 ปี ได้กระจกเก่าแก่แกะสลักลวดลายสวยงามมาเป็นมรดกจากพ่อและแม่ที่เสียไปเพราะอุบัติเหตุเมื่อสองเดือนก่อน และทรัพย์สมบัติทุกอย่างก็ตกเป็นของเธอ แต่ต้องอยู่คนเดียวบนโลกอันโหดร้ายแห่งนี้ ซู่หลิงเถียนใบหน้าสวยจิ้มลิ้ม ผิวขาวนวลเนียน ดวงตาเล็กเหมือนสาวทั่วไปของเมืองตุนหวง ประเทศจีน งานอดิเรกของซู่หลิงเถียนคือวาดรูปและเปิดร้านคาเฟ่เล็กๆ งานทุกอย่างคือความชอบ ความฝันของเธอ แต่ตอนนี้ความสนุกกับการได้ทำสิ่งที่ชอบเริ่มหายไป เมื่อพ่อกับแม่ที่รักยิ่งได้จากไปแบบไม่มีวันหวนกลับ มือเรียวสวยลูบไล้ไปมาตามขอบกระจกที่ตั้งอยู่ในห้องนอน ยิ่งนับวันกระจกที่ได้มายิ่งทำให้เธอหลงใหลชอบเหมือนมีอะไรสักอย่างซ่อนอยู่ในกระจก เธอเคยได้ยินมาว่ากระจกโบราณเป็นกระจกมาจากคุณทวดของคุณแม่ที่ส่งทอดสืบต่อกันมาและตอนนี้มาตกอยู่ในมือของเธอ เธอจะต้องยกให้ลูกสาวในอนาคต ซึ่งซู่หลิงเถียนมองไม่ออกเลยว่าตัวเองจะยกให้ใครได้ เพราะเธอยังไม่มีแฟนและไม่คิดจะมีด้วย เมื่อเสพลวดลายของกรอบกระจกที่ตั้งอยู่จนพอใจแล้ว เธอก็เดินหน้าเศร้าไปยังห้องน้ำเพื่อจะอาบน้ำ วันนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์...
Comments