“แล้วเจ้าจะไปเป็นของใครได้ถ้าไม่ใช่ของข้า เจ้ามาเพื่อเป็นของข้าเถียนเถียน” เขาพูดพร้อมกับเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงออกให้อีกฝ่าย
“ไม่เป็นของใครทั้งนั้น ไม่ว่าของเจ้าหรือของใคร ข้าก็ไม่เป็นทั้งนั้น”
หึหึ
“แต่ตอนนี้เจ้าเป็นของข้าแล้วเถียนเถียน เจ้าแต่งงานกับข้าแล้ว”
“ท่านบังคับ”
“ถ้าเจ้าดื้อไม่ยอม ข้าก็ไม่บังคับ แต่เจ้าก็ยินยอมพร้อมใจแต่งงานเองมิใช่รึ” อ๋องใหญ่เอ่ยเมื่อนึกถึงหลายวันก่อนที่เขาบอกสาวงามที่ตรึงใจตั้งแต่แรกเห็นในกระจกจนตอนนี้มากุมหัวใจที่แข็งกระด้างของเขาไปเสียแล้ว หากนางดื้อไม่ยอม เขาก็จะไม่บังคับ แต่นางยอม แถมไม่โวยวายด้วย
“ก็วันนั้นข้าคิดว่าท่านพูดเล่นกับข้า ใครจะคิดว่าวันนี้จะได้แต่งงานจริงๆ ข้ายังไม่อยากแต่งงาน”
“แต่ตอนนี้ก็แต่งแล้ว และตอนนี้ก็เป็นเวลาที่เราต้องทำมันด้วยกันแล้วนะเจ้า”
“ข้าไม่พร้อม”
“แต่ข้าพร้อม เจ้าก็รู้มิใช่รึว่าข้าต้องการเจ้ามากแค่ไหน นอนหลับบนเตียงด้วยกันทุกค่ำคืนแต่ไม่อาจแตะต้องได้ ข้าทรมานมากแค่ไหน เจ้ารู้รึไม่”
น้ำเสียงแววตาของเขาที่จดจ้องมายังซู่หลิงเถียนนั้นแสดงความเจ็บปวดออกมาให้เห็นชัดเจนจนเธอเริ่มลังเลแล้วว่าจะสมยอมอ๋องใหญ่ในคืนเข้าหอนี้หรือไม่ หรือยังไงกัน แต่แล้วเธอก็ไม่อาจยอมได้ เพราะเพิ่งจะเจอกันไม่นานจะให้ร่วมหออุ่นเตียงกันได้ยังไง เธอจึงรีบเอ่ยบอกแนะนำอีกฝ่ายไป
“ท่านก็มีสนมเผยเผย ทำไมไม่ไปหานางล่ะ”
“ก็ข้าไม่อยากได้ใคร ข้าอยากได้เจ้าได้ยินไหมเถียนเถียน เจ้าคนเดียวเท่านั้น ตอนนี้ที่ข้าปรารถนา” มือใหญ่จับดวงหน้าสวยของนางในดวงใจพร้อมลูบไล้มายังลำคอระหง
“แต่ข้าไม่...”
“อย่าปฏิเสธข้าเลยเถียนเถียน”
“ก็ข้าไม่ได้อยากเป็นเมียท่าน” คำพูดที่สวนกลับรวดเร็วทำให้คนฟังขึงโกรธขึ้นมาทันที
“ไม่อยากเป็นเมียข้า แล้วเจ้าอยากเป็นเมียผู้ใดเถียนเถียน บอกข้ามาว่าเจ้ามีใครนอกจากข้ารึเปล่า” เขาจับหัวไหล่เล็กเขย่าแรงๆ ด้วยความหึง
“ท่านเป็นอะไรจ้าวซ่านลู่ จะมาขึ้นเสียงใส่ข้าไม่ได้นะ ข้าจะมีใครหรือไม่มีก็เรื่องของข้ามิใช่ของท่าน ข้ากับท่านเราอยู่กันคนละยุคจะให้มาแต่งงานกันแบบนี้ได้ยังไง ปล่อยได้แล้ว ข้าจะเปลี่ยนชุดนอน หนักหัวก็หนัก” เธอปัดมือของอ๋องใหญ่ออกจากไหล่ตัวเองแล้วลุกขึ้นหมายจะเดินไปยังห้องเปลี่ยนชุด แต่ก็ถูกคว้าเอวเล็กสวมกอดจากทางด้านหลังรั้งไว้
“ให้ข้าถอดให้ เป็นของข้านะเถียนเถียน เป็นของข้า ข้าต้องการเจ้าจริงๆ” อ๋องใหญ่ไม่เข้าใจหรอกว่าที่นางพูดนั้นคือะไร คนละยุคอะไรกัน เขารู้แต่ว่าตอนนี้นางคือของเขาและจักต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
“อือ...ปล่อยข้านะจ้าวซ่านลู่”
“ไม่ปล่อยจนกว่าเจ้าจะเป็นของข้า และคืนนี้ข้าจักไม่ปล่อยเจ้าได้นอนหลับเหมือนทุกคืนแล้วเถียนเถียน ข้ามิอาจใจเย็นนอนมองแผ่นหลังเจ้าได้เหมือนทุกคืนที่ผ่านมาได้อีกแล้ว” เขาเกยคางไปกับไหล่เล็กของเธอพร้อมกับหันหน้าแนบถูปลายจมูกโด่งไปกับซอกคอระหงของซู่หลิงเถียน
“อือ...อย่าทำแบบนี้จ้าวซ่านลู่ ข้ายังไม่พร้อม”
“เดี๋ยวข้าทำให้เจ้าพร้อมเองเถียนเถียน”
“มะ...ไม่ได้นะ”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ชายหญิงเราถูกสร้างมาเพื่อให้เป็นของกันและกัน และเจ้า...เถียนเถียน เจ้าก็ถูกสร้างมาเพื่อข้าเหมือนข้าที่ถูกสร้างมาเพื่อครอบครองเจ้า”
“ไม่เลย ท่านไม่ใช่ของข้าคนเดียว ท่านเป็นของคนอื่นด้วย ท่านไม่ได้มีแค่ข้าคนเดียว” เธอแย้งเขา
“เจ้าไม่ชอบรึที่ข้ามีสนม หรือเจ้าหวงข้าเถียนเถียน”
“ไม่ใช่สักหน่อย ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น ที่ข้าพูดเพราะข้า...เอ่อ...” เธอหาคำพูดของตัวเองไม่เจอซะงั้น ตอนนี้หัวใจของซู่หลิงเถียนนั้นเต้นแรงเหลือเกิน เพราะใจมันอ่อนแอหรือเพราะตกหลุมรักอ๋องใหญ่คิดหื่นไปแล้วกันแน่
“งั้นเจ้าหมายความว่ายังไงเถียนเถียน”
เขาหมุนตัวเธอให้หันมาเผชิญหน้ากับตัวเองพร้อมเชยคางมนสวยให้แหงนเงยขึ้นหาตัวเองที่ก้มหน้ามองดูเธออยู่ ยิ่งเห็นริมฝีปากแดงระเรื่อเม้มแน่นก็ยิ่งอยากโน้มลงไปกัดเม้ม และก็ไม่ปล่อยให้ความต้องการนั้นอยู่ในหัวนาน อ๋องใหญ่โน้มลงมาบดจูบปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อของแม่นางในดวงใจตัวเองพร้อมกับบังคับคางมนให้อยู่นิ่งไม่ให้ขยับบิดเบือนดิ้นหนีจูบร้อนของตัวเอง
“อ่ะ...อื้อ”
ซู่หลิงเถียนพยายามบิดหน้าหนี แต่ก็ถูกมือใหญ่บีบล็อกคางไว้จนเจ็บ และหนักเครื่องประดับบนหัวอีก ปากที่เม้มแน่นปิดสนิทถูกบังคับจูบพร้อมเขาขบเม้มปากของเธอให้ปากเปิดให้เขาได้สอดแทรกเรียวลิ้นเข้ามาในโพรงปาก เธอรู้สึกแปลกและทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกบังคับปล้ำเอาจูบแรกไปแบบนี้ พยายามดันร่างสูงตรงหน้าออกแต่ยิ่งพยายามก็ยิ่งถูกอ๋องใหญ่กอดรัดฟัดแน่น
“อ่า...อื้อ”
ซู่หลิงเถียน หรือเถียนเถียน วัย 20 ปี ได้กระจกเก่าแก่แกะสลักลวดลายสวยงามมาเป็นมรดกจากพ่อและแม่ที่เสียไปเพราะอุบัติเหตุเมื่อสองเดือนก่อน และทรัพย์สมบัติทุกอย่างก็ตกเป็นของเธอ แต่ต้องอยู่คนเดียวบนโลกอันโหดร้ายแห่งนี้ ซู่หลิงเถียนใบหน้าสวยจิ้มลิ้ม ผิวขาวนวลเนียน ดวงตาเล็กเหมือนสาวทั่วไปของเมืองตุนหวง ประเทศจีน งานอดิเรกของซู่หลิงเถียนคือวาดรูปและเปิดร้านคาเฟ่เล็กๆ งานทุกอย่างคือความชอบ ความฝันของเธอ แต่ตอนนี้ความสนุกกับการได้ทำสิ่งที่ชอบเริ่มหายไป เมื่อพ่อกับแม่ที่รักยิ่งได้จากไปแบบไม่มีวันหวนกลับ มือเรียวสวยลูบไล้ไปมาตามขอบกระจกที่ตั้งอยู่ในห้องนอน ยิ่งนับวันกระจกที่ได้มายิ่งทำให้เธอหลงใหลชอบเหมือนมีอะไรสักอย่างซ่อนอยู่ในกระจก เธอเคยได้ยินมาว่ากระจกโบราณเป็นกระจกมาจากคุณทวดของคุณแม่ที่ส่งทอดสืบต่อกันมาและตอนนี้มาตกอยู่ในมือของเธอ เธอจะต้องยกให้ลูกสาวในอนาคต ซึ่งซู่หลิงเถียนมองไม่ออกเลยว่าตัวเองจะยกให้ใครได้ เพราะเธอยังไม่มีแฟนและไม่คิดจะมีด้วย เมื่อเสพลวดลายของกรอบกระจกที่ตั้งอยู่จนพอใจแล้ว เธอก็เดินหน้าเศร้าไปยังห้องน้ำเพื่อจะอาบน้ำ วันนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์
ร่างเล็กขยับพลิกตัวไล่ความขี้เกียจในยามเช้าเหมือนทุกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับปรับระดับการมองเห็นของสายตาให้คุ้นชินกับความสว่างในยามเช้า เมื่อตื่นขึ้นมาเธอก็ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าตอนนี้ทุกอย่างรอบตัวของตัวเองเปลี่ยนไปแล้ว ส่วนคนที่นอนร่วมเตียงเดียวกับหญิงสาวก็ตื่นตั้งแต่เช้าแล้ว และก็ตกใจมากเมื่อตื่นขึ้นมาก็มีหญิงสาวที่เจอในกระจกเมื่อคืนมานอนอิงแอบซุกอกตัวเอง จ้าวซ่านลู่มองสำรวจใบหน้าจิ้มลิ้มและเสื้อผ้าที่นางแต่งแล้วก็เกิดความสงสัย และที่สำคัญนางมาได้ยังไงกัน แล้วนางมาจากไหน แต่จะมาจากไหนไม่สำคัญ สิ่งสำคัญตอนนี้คือเขาชอบแม่นางคนนี้แล้วสิ ปากนิด จมูกหน่อย ผิวแก้มนวลเนียนสีระเรื่อเหมือนลูกท้อมิมีผิดเพี้ยน “วันนี้ต้องไปเปิดร้าน” ซู่หลิงเถียนพึมพำกับตัวเองแล้วลุกก้าวลงจากเตียงโดยไม่สนใจสิ่งรอบตัวของตัวเองที่เปลี่ยนไปเลยสักนิด “เอ๊ะ! กระจกทำไมมาตั้งตรงนี้ แล้วห้องน้ำ แล้ว...ที่นี่ที่ไหนเนี่ย” เธอเพิ่งมองไปรอบๆ ห้องที่ตัวเองตื่นมาในเช้านี้ว่ามันเปลี่ยนไป มันไม่ใช่ห้องของตัวเอง แล้วก็ต้องร้องตกใจอีกครั้งเมื่อมองไปเห็นผู้ชายอยู่บนเต
“อือ ยะ...อย่ามาทำแบบนี้นะ ถ้าไม่ปล่อยจะคุยกันได้ยังไง เป็นถึงอ๋องใหญ่ ใช่ไหม อ๋องใหญ่” “อือ...ข้าเป็นอ๋องใหญ่ จวนสิบสี่ และที่นี่ก็จวนข้า และเจ้าก็มาโผล่ที่นี่ ฉะนั้นต่อไปนี้เจ้าคือของข้า เป็นสมบัติของข้า” ว้าย! “ปล่อยนะ ไอ้อ๋องใหญ่จอมหื่น” ซู่หลิงเถียนดิ้นเมื่อถูกยกอุ้มขึ้นแบบไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ด้วยความกลัวตกก็กอดรั้งไหล่หนาของเขาไว้ หึหึ อ๋องใหญ่ทำเพียงแค่ยิ้มขำในลำคอแล้วก้าวเดินยาวๆ กลับไปยังเตียงที่นอนก่อนหน้านี้พร้อมกับเหวี่ยงร่างเล็กที่ยกอุ้มลงไปกับเตียง ตุ้บ! “โอ๊ย! ฉันเจ็บนะจ้าวซ่านลู่” เธอบอกเขาพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้นเมื่อตั้งตัวได้ก็มองหาทางเอาตัวรอดอีก แต่พอได้มองสบสายตาดุดันเด็ดเดี่ยวของชายตรงหน้าแล้วก็ได้แต่กลืนน้ำลาย เมื่อรู้แล้วว่าตอนนี้ตัวเองข้ามมาอยู่อีกภพอีกมิติหนึ่งของโลก แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง หรือนี่คือความฝัน เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ลุกขึ้นแล้วเคลื่อนตัวไปหาคนที่ยืนอยู่ปลายเตียงแล้วยกมือขึ้นตวัดเต็มแรงใส่หน้าของอีกฝ่าย เผียะ! หน้าอ๋องใหญ่หันไปตามแรงตบแบบไม่ทันได้ตั้งตัว เขากัดกรามแกร่งแ
ซู่หลิงเถียนนั่งเท้าคางตัวเองที่สวนของจวนสิบสี่ ช่างเหมือนในละครโบราณเหลือเกิน ทุกอย่างสวยงาม ไม่อยากจะเชื่อว่าจะหลุดมาอยู่ในมิติอดีตได้สามสัปดาห์แล้ว ตอนนี้จะว่าไปเธอก็ปรับตัวเป็นคนโบราณไปเต็มตัวแล้วก็ว่าได้ “คุณหนู ท่านอ๋องใหญ่มาเจ้าค่ะ” นี่คือเสียงของหมิงเหนียน สาวใช้คู่ใจที่จ้าวซ่านลู่ให้มาดูแลติดตามเธอจนตอนนี้สนิทสนมกันและเป็นเพื่อนคนเดียวของเธอก็ว่าได้ “อือ...ข้ารู้แล้ว”ปากบอกรู้ แต่ก็ไม่สนใจคนที่มานั่งลงตรงข้ามตัวเองตรงหน้ากลับหยิบกล้วยที่ถาดตรงหน้ามาปอกกินไม่สนใจแล้วก็มองไปทางอื่น ก็อ๋องใหญ่ที่ทุกคนนับถือน่ะตัวดีเลย ชีวิตของเธอมันวุ่นวายเพราะเขา ตอนกลางคืนเขาก็คอยจ้องแต่จะเอาเปรียบตลอด ไหนจะสนมของเขาอีก ที่มาคอยหาเรื่องเธอแทบจะวันเว้นวัน “หมิงเหนียนบอกว่าเจ้าไม่ยอมกินข้าวเช้า” อ๋องใหญ่ถามคนที่สนใจกล้วยในมือมากกว่าตัวเองที่นั่งตรงหน้าของนาง “ก็ข้าไม่หิว” เธอตอบสั้นๆ “ไม่หิวก็ต้องกิน ช่วงนี้เจ้าซูบผอมมากเถียนเถียน” “ก็ข้าไดเอท” เธอตอบแล้ววางกล้วยที่กินยังไม่หมดลงที่เดิม “ไดเอทคืออะไร?” จ้าวซ่านลู่ถามอย่างสงสัย
“แล้วเจ้าจะไปเป็นของใครได้ถ้าไม่ใช่ของข้า เจ้ามาเพื่อเป็นของข้าเถียนเถียน” เขาพูดพร้อมกับเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงออกให้อีกฝ่าย “ไม่เป็นของใครทั้งนั้น ไม่ว่าของเจ้าหรือของใคร ข้าก็ไม่เป็นทั้งนั้น” หึหึ “แต่ตอนนี้เจ้าเป็นของข้าแล้วเถียนเถียน เจ้าแต่งงานกับข้าแล้ว” “ท่านบังคับ” “ถ้าเจ้าดื้อไม่ยอม ข้าก็ไม่บังคับ แต่เจ้าก็ยินยอมพร้อมใจแต่งงานเองมิใช่รึ” อ๋องใหญ่เอ่ยเมื่อนึกถึงหลายวันก่อนที่เขาบอกสาวงามที่ตรึงใจตั้งแต่แรกเห็นในกระจกจนตอนนี้มากุมหัวใจที่แข็งกระด้างของเขาไปเสียแล้ว หากนางดื้อไม่ยอม เขาก็จะไม่บังคับ แต่นางยอม แถมไม่โวยวายด้วย “ก็วันนั้นข้าคิดว่าท่านพูดเล่นกับข้า ใครจะคิดว่าวันนี้จะได้แต่งงานจริงๆ ข้ายังไม่อยากแต่งงาน” “แต่ตอนนี้ก็แต่งแล้ว และตอนนี้ก็เป็นเวลาที่เราต้องทำมันด้วยกันแล้วนะเจ้า” “ข้าไม่พร้อม” “แต่ข้าพร้อม เจ้าก็รู้มิใช่รึว่าข้าต้องการเจ้ามากแค่ไหน นอนหลับบนเตียงด้วยกันทุกค่ำคืนแต่ไม่อาจแตะต้องได้ ข้าทรมานมากแค่ไหน เจ้ารู้รึไม่”น้ำเสียงแววตาของเขาที่จดจ้องมายังซู่หลิงเถียนนั้นแสดงคว
ซู่หลิงเถียนนั่งเท้าคางตัวเองที่สวนของจวนสิบสี่ ช่างเหมือนในละครโบราณเหลือเกิน ทุกอย่างสวยงาม ไม่อยากจะเชื่อว่าจะหลุดมาอยู่ในมิติอดีตได้สามสัปดาห์แล้ว ตอนนี้จะว่าไปเธอก็ปรับตัวเป็นคนโบราณไปเต็มตัวแล้วก็ว่าได้ “คุณหนู ท่านอ๋องใหญ่มาเจ้าค่ะ” นี่คือเสียงของหมิงเหนียน สาวใช้คู่ใจที่จ้าวซ่านลู่ให้มาดูแลติดตามเธอจนตอนนี้สนิทสนมกันและเป็นเพื่อนคนเดียวของเธอก็ว่าได้ “อือ...ข้ารู้แล้ว”ปากบอกรู้ แต่ก็ไม่สนใจคนที่มานั่งลงตรงข้ามตัวเองตรงหน้ากลับหยิบกล้วยที่ถาดตรงหน้ามาปอกกินไม่สนใจแล้วก็มองไปทางอื่น ก็อ๋องใหญ่ที่ทุกคนนับถือน่ะตัวดีเลย ชีวิตของเธอมันวุ่นวายเพราะเขา ตอนกลางคืนเขาก็คอยจ้องแต่จะเอาเปรียบตลอด ไหนจะสนมของเขาอีก ที่มาคอยหาเรื่องเธอแทบจะวันเว้นวัน “หมิงเหนียนบอกว่าเจ้าไม่ยอมกินข้าวเช้า” อ๋องใหญ่ถามคนที่สนใจกล้วยในมือมากกว่าตัวเองที่นั่งตรงหน้าของนาง “ก็ข้าไม่หิว” เธอตอบสั้นๆ “ไม่หิวก็ต้องกิน ช่วงนี้เจ้าซูบผอมมากเถียนเถียน” “ก็ข้าไดเอท” เธอตอบแล้ววางกล้วยที่กินยังไม่หมดลงที่เดิม “ไดเอทคืออะไร?” จ้าวซ่านลู่ถามอย่างสงสัย
“อือ ยะ...อย่ามาทำแบบนี้นะ ถ้าไม่ปล่อยจะคุยกันได้ยังไง เป็นถึงอ๋องใหญ่ ใช่ไหม อ๋องใหญ่” “อือ...ข้าเป็นอ๋องใหญ่ จวนสิบสี่ และที่นี่ก็จวนข้า และเจ้าก็มาโผล่ที่นี่ ฉะนั้นต่อไปนี้เจ้าคือของข้า เป็นสมบัติของข้า” ว้าย! “ปล่อยนะ ไอ้อ๋องใหญ่จอมหื่น” ซู่หลิงเถียนดิ้นเมื่อถูกยกอุ้มขึ้นแบบไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ด้วยความกลัวตกก็กอดรั้งไหล่หนาของเขาไว้ หึหึ อ๋องใหญ่ทำเพียงแค่ยิ้มขำในลำคอแล้วก้าวเดินยาวๆ กลับไปยังเตียงที่นอนก่อนหน้านี้พร้อมกับเหวี่ยงร่างเล็กที่ยกอุ้มลงไปกับเตียง ตุ้บ! “โอ๊ย! ฉันเจ็บนะจ้าวซ่านลู่” เธอบอกเขาพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้นเมื่อตั้งตัวได้ก็มองหาทางเอาตัวรอดอีก แต่พอได้มองสบสายตาดุดันเด็ดเดี่ยวของชายตรงหน้าแล้วก็ได้แต่กลืนน้ำลาย เมื่อรู้แล้วว่าตอนนี้ตัวเองข้ามมาอยู่อีกภพอีกมิติหนึ่งของโลก แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง หรือนี่คือความฝัน เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ลุกขึ้นแล้วเคลื่อนตัวไปหาคนที่ยืนอยู่ปลายเตียงแล้วยกมือขึ้นตวัดเต็มแรงใส่หน้าของอีกฝ่าย เผียะ! หน้าอ๋องใหญ่หันไปตามแรงตบแบบไม่ทันได้ตั้งตัว เขากัดกรามแกร่งแ
ร่างเล็กขยับพลิกตัวไล่ความขี้เกียจในยามเช้าเหมือนทุกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับปรับระดับการมองเห็นของสายตาให้คุ้นชินกับความสว่างในยามเช้า เมื่อตื่นขึ้นมาเธอก็ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าตอนนี้ทุกอย่างรอบตัวของตัวเองเปลี่ยนไปแล้ว ส่วนคนที่นอนร่วมเตียงเดียวกับหญิงสาวก็ตื่นตั้งแต่เช้าแล้ว และก็ตกใจมากเมื่อตื่นขึ้นมาก็มีหญิงสาวที่เจอในกระจกเมื่อคืนมานอนอิงแอบซุกอกตัวเอง จ้าวซ่านลู่มองสำรวจใบหน้าจิ้มลิ้มและเสื้อผ้าที่นางแต่งแล้วก็เกิดความสงสัย และที่สำคัญนางมาได้ยังไงกัน แล้วนางมาจากไหน แต่จะมาจากไหนไม่สำคัญ สิ่งสำคัญตอนนี้คือเขาชอบแม่นางคนนี้แล้วสิ ปากนิด จมูกหน่อย ผิวแก้มนวลเนียนสีระเรื่อเหมือนลูกท้อมิมีผิดเพี้ยน “วันนี้ต้องไปเปิดร้าน” ซู่หลิงเถียนพึมพำกับตัวเองแล้วลุกก้าวลงจากเตียงโดยไม่สนใจสิ่งรอบตัวของตัวเองที่เปลี่ยนไปเลยสักนิด “เอ๊ะ! กระจกทำไมมาตั้งตรงนี้ แล้วห้องน้ำ แล้ว...ที่นี่ที่ไหนเนี่ย” เธอเพิ่งมองไปรอบๆ ห้องที่ตัวเองตื่นมาในเช้านี้ว่ามันเปลี่ยนไป มันไม่ใช่ห้องของตัวเอง แล้วก็ต้องร้องตกใจอีกครั้งเมื่อมองไปเห็นผู้ชายอยู่บนเต
ซู่หลิงเถียน หรือเถียนเถียน วัย 20 ปี ได้กระจกเก่าแก่แกะสลักลวดลายสวยงามมาเป็นมรดกจากพ่อและแม่ที่เสียไปเพราะอุบัติเหตุเมื่อสองเดือนก่อน และทรัพย์สมบัติทุกอย่างก็ตกเป็นของเธอ แต่ต้องอยู่คนเดียวบนโลกอันโหดร้ายแห่งนี้ ซู่หลิงเถียนใบหน้าสวยจิ้มลิ้ม ผิวขาวนวลเนียน ดวงตาเล็กเหมือนสาวทั่วไปของเมืองตุนหวง ประเทศจีน งานอดิเรกของซู่หลิงเถียนคือวาดรูปและเปิดร้านคาเฟ่เล็กๆ งานทุกอย่างคือความชอบ ความฝันของเธอ แต่ตอนนี้ความสนุกกับการได้ทำสิ่งที่ชอบเริ่มหายไป เมื่อพ่อกับแม่ที่รักยิ่งได้จากไปแบบไม่มีวันหวนกลับ มือเรียวสวยลูบไล้ไปมาตามขอบกระจกที่ตั้งอยู่ในห้องนอน ยิ่งนับวันกระจกที่ได้มายิ่งทำให้เธอหลงใหลชอบเหมือนมีอะไรสักอย่างซ่อนอยู่ในกระจก เธอเคยได้ยินมาว่ากระจกโบราณเป็นกระจกมาจากคุณทวดของคุณแม่ที่ส่งทอดสืบต่อกันมาและตอนนี้มาตกอยู่ในมือของเธอ เธอจะต้องยกให้ลูกสาวในอนาคต ซึ่งซู่หลิงเถียนมองไม่ออกเลยว่าตัวเองจะยกให้ใครได้ เพราะเธอยังไม่มีแฟนและไม่คิดจะมีด้วย เมื่อเสพลวดลายของกรอบกระจกที่ตั้งอยู่จนพอใจแล้ว เธอก็เดินหน้าเศร้าไปยังห้องน้ำเพื่อจะอาบน้ำ วันนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์