อวิ๋นฝูหลิงเดินทางข้ามมิติแล้ว ทันทีที่ลืมตา ไม่เพียงกลายเป็นแม่คนโดยที่ไม่ต้องเจ็บปวด มีลูกชายอายุสามปีครึ่งหนึ่งคน ยังต้องเผชิญหน้ากับอันตรายของภัยน้ำท่วมอีก จึงได้แต่หอบข้าวหอบของหนีภัย ไม่มีกินไม่มีดื่มหรือ? ไม่กลัว พี่สาวมีเสบียงเต็มมิติ! อันธพาลเจ้าถิ่นหาเรื่องหรือ? ไม่กลัว เข็มเดียวก็ทำให้เขาไปพบยมบาลได้! มีทักษะการแพทย์อยู่ในมือ ทั่วหล้าก็เป็นของข้า แค่ช่วยชายรูปงามผู้หนึ่งเอาไว้ เหตุใดเขาจึงติดนางจนสลัดอย่างไรก็ไม่หลุดเสียแล้ว “ฮูหยิน พวกเรามีลูกคนที่สองกันเถอะ!”
View Moreชาวบ้านหลายคนที่บาดเจ็บสาหัสเจียนตาย ก็รอดชีวิตมาได้แล้วโดยเฉพาะหวังเอ้อร์เหอ รอยแผลจากการเย็บตรงท้องเริ่มสมานกันแล้วหลายวันนี้ หวังเอ้อร์เหอราวกับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อ มีคนไปมุงดูเขาทุกวันไม่ขาดสายเรื่องหนังท้องเปิด หลังจากใช้เข็มกับด้ายเย็บ คนยังสามารถมีชีวิตรอด เป็นสิ่งที่หาดูได้ยากมากหลังจากดูของหายากเสร็จ ก็อดไม่ได้ที่จะชมแม่นางอวิ๋นว่าฝีมือการแพทย์สูงส่งนายท่านหานกับติงหมิงรุ่ยก็ไปดูด้วยตัวเองเช่นกันถึงขั้นคุยกับหวังเอ้อร์เหอ ขอให้เขาเลิกเสื้อขึ้นเพื่อดูบาดแผลของเขาแวบหนึ่งบาดแผลของหวังเอ้อร์เหอเริ่มตกสะเก็ดแล้ว การสมานของแผลเป็นไปด้วยดีหลังจากได้เห็นกับตา ติงหมิงรุ่ยรู้สึกเลื่อมใสฝีมือการแพทย์ของอวิ๋นฝูหลิงจากใจส่วนนายท่านหาน ราวกับค้นพบสมบัติตะลึงโลกอะไรบางอย่าง ยิ่งอยากชักชวนอวิ๋นฝูหลิงมาอยู่สำนักผิงอันของตัวเองถ้าหากสำนักผิงอันมีหมอเทวดาเช่นนี้หนึ่งท่าน ชื่อเสียงและการค้าของสำนักผิงอัน นับวันยิ่งเจริญรุ่งเรืองแน่นอนเป็นเช่นนี้ผ่านไปเจ็ดแปดวัน ในที่สุดทางอวิ๋นฝูหลิงก็ได้รับการยืนยันจากเซียวจิ่งอี้ จัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พวกเขาสาม
หลังจากเซียวจิ่งอี้ฟังต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวทั้งหมด ตกใจจนเกือบเหงื่อแตกโชคดีที่เขาให้เหยากวงอยู่ปกป้องสองแม่ลูกอวิ๋นฝูหลิง ไม่เช่นนั้นไม่กล้าคิดถึงผลที่ตามมาอวิ๋นฝูหลิงจิบชาตั้งสติครู่หนึ่ง จึงจะกล่าวถาม “ต่อจากนี้ทำอย่างไรดี? พวกเราจะออกจากที่นี่โดยเร็วหรือไม่?” เซียวจิ่งอี้ส่ายศีรษะ “เจ้าบอกว่าชาวบ้านที่บาดเจ็บต้องพักฟื้นไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นก็ถือโอกาสนี้ อยู่ที่หมู่บ้านนี้อีกสักสองสามวัน ส่วนเรื่องอื่นปล่อยให้ข้าจัดการก็พอ”เมื่ออวิ๋นฝูหลิงได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้แล้วว่าเซียวจิ่งอี้พบอะไรบางอย่างที่เหมืองแร่ เกรงว่าต้องใช้เวลาในการจัดการเรื่องนี้พอสมควรนางไม่ได้ถามอะไรมาก พยักหน้าคล้อยตามทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะปลอบคนในหมู่บ้านเอง”“เรื่องในวันนี้ ข้าแค่บอกว่าคนพวกนั้นเป็นโจร จะปล้นทรัพย์ฆ่าคน”“ส่วนเรื่องอื่น ไม่จำเป็นต้องบอกพวกเขา ให้พวกเขามีส่วนต้องมาวิตกกังวลไปด้วย”คนเหล่านี้ของหมู่บ้านหลินซาน เป็นเพียงชาวบ้านตัวเล็กๆ ที่หาเช้ากินค่ำ เรื่องใหญ่อย่างการกบฏชิงบัลลังก์ พวกเขาไม่รู้มันจะดีกว่าเซียวจิ่งอี้เข้าใจความกังวลของอวิ๋นฝูหลิง จึงพยักหน้ารับการกบฏที่เป็นเร
แค่ฟังจากเสียง ก็สามารถรู้สึกถึงความเจ็บปวดในนั้นอวิ๋นซานหูอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น การกระทำที่กำลังฟันศพอยู่ชะงักคนอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบก็หันมามองเช่นกันอวิ๋นฝูหลิงกลับยืนอยู่ข้างๆ อย่างใจเย็น อีกทั้งยังมีรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้า เหมือนกำลังเพลิดเพลินกับบทเพลงที่ไพเราะอะไรแผ่นหลังของทุกคนถึงกับมีเหงื่อเย็นผุดขึ้น และบอกกับตัวเองอย่างหนักแน่นอีกครั้ง ต่อไปห้ามล่วงเกินแม่นางอวิ๋นเด็ดขาดหัวหน้าหมู่บ้านหม่าไม่สามารถทนต่อการทรมานที่เจ็บไปถึงหัวใจนี้ ไม่นานก็สารภาพออกมาอย่างหมดเปลือกนอกจากคนที่ไปช่วยงานทางเหมืองแร่ ยังมีคนกลุ่มเล็กๆ สิบคนที่ลาดตระเวนโดยรอบเพื่อควบคุมตัวพวกอวิ๋นฝูหลิง คนที่เหลือล้วนเฝ้าอยู่ในหมู่บ้านอีกทั้งหลังจากที่หัวหน้าหมู่บ้านหม่ารู้ว่าเกิดข้อผิดพลาด ก็ได้เรียกคนทั้งหมดในหมู่บ้านมาทางนี้แล้วหลังจากอวิ๋นฝูหลิงได้ยิน อยากขอบคุณหัวหน้าหมู่บ้านหม่าจริงๆเขาเรียกคนมาทั้งหมดเช่นนี้ นับว่าช่วยนางประหยัดเวลาได้ไม่น้อยอวิ๋นฝูหลิงให้คนนับจำนวนคนครู่หนึ่ง หลังจากเทียบก็เหมือนกับที่หัวหน้าหมู่บ้านหม่าพูดพบว่าไม่มีใครหลุดรอดไปได้ อวิ๋นฝูหลิงถอนหายใจอย่างโล่งอกเ
เมื่ออวิ๋นฝูหลิงเห็นหัวหน้าหมู่บ้านหม่าจะหนี ก็ตะโกนเสียงดังทันที “แย่แล้ว อย่าปล่อยให้หัวหน้าของพวกมันหนี!”เมื่อผู้หญิงชุดดำได้ยิน ร่างกายก็พุ่งพรวดออกไปประดุจมังกรแหวกว่าย หลังจากขวางคนไว้ได้ ก็ชูกระบี่ฆ่าทันที สีหน้าอวิ๋นฝูหลิงเปลี่ยนฉับพลัน รีบกล่าว “เก็บเขาไว้!”ทิศทางกระบี่ของผู้หญิงชุดดำเปลี่ยนฉับพลัน ฟันโดนแขนเสื้อหัวหน้าหมู่บ้านหม่า จากนั้นยกปลายกระบี่ขึ้น ตัดเส้นเอ็นเท้าทั้งสองข้างของเขาขาดหัวหน้าหมู่บ้านหม่าส่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดราวกับหัวใจแตกเป็นเสี่ยงทันทีอวิ๋นฝูหลิงมองท่าทางที่เจ็บปวดของเขา กลับรู้สึกสะใจมากนางอยากให้กากเดนเช่นนี้ตายไปเสียเดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำแต่ว่าในเมื่อคนคนนี้เป็นผู้นำของหมู่บ้าน ก็แสดงว่าเป็นคนที่รู้ความลับมากที่สุดถ้าหากมีคนเช่นนี้อยู่ในมือ มีประโยชน์อย่างมากสำหรับพวกเขามีการช่วยเหลือของผู้หญิงชุดดำ พวกเขาสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วนอกจากพวกคนที่ตายแล้ว ยังสามารถจับเชลยได้อีกเจ็ดแปดคนอวิ๋นฝูหลิงไม่ได้สนใจเชลยเหล่านั้น แต่หันไปกล่าวกับหัวหน้าหมู่บ้านโจวก่อน“ให้คนไปเฝ้าที่หน้าหมู่บ้าน แล้วหาดูว่ายังมีทางออกอื่นในหมู่บ้า
ถ้าหากจะหาแรงงาน ก็พูดกับพวกเขาตรงๆ อย่างเปิดเผยก็ได้ เหตุใดต้องวางยาพวกเขา?เกรงว่างานที่ได้เงินดีที่อีกฝ่ายพูดถึง ไม่ใช่เรื่องดีอะไรชาวบ้านคนอื่นก็ไม่โง่เช่นกัน ล้วนมองออกว่างานที่หัวหน้าหมู่บ้านหม่าพูด ไม่ใช่งานที่ดีอะไรแน่นอนอวิ๋นฝูหลิงครุ่นคิดแผนรับมือในใจอย่างรวดเร็วคนที่หัวหน้าหมู่บ้านหม่าพามานั้น ดูด้วยสายตาแล้วมีประมาณสี่สิบถึงห้าสิบคน อีกทั้งแต่ละคนร่างกายกำยำ มือถือดาบที่คมกริบ ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีหันกลับมามองฝั่งของตัวเอง แม้มีคนมากกว่าอีกฝ่ายสองเท่า แต่คนส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บ อาวุธก็เป็นพวกจอบหรือท่อนไม้ ไม่ต่างอะไรกับทหารแตกทัพที่หนีเอาชีวิตรอดถ้าหากลงมือกันขึ้นมาจริงๆ จะสู้ได้หรือ?นางหันไปมองโดยรอบ ลูกพี่อู๋กับจางซานมู่ยังไม่กลับมาสวี่ตงกับคังหมิงหย่วนคอยคุ้มกันอยู่ข้างๆ อวิ๋นจิงมั่วจับมือของนางแน่น เหมือนกลัวเล็กน้อยหัวหน้าหมู่บ้านหม่าเห็นหัวหน้าหมู่บ้านโจวและคนอื่นเงียบ ก็หมดความอดทนแล้วเช่นกันอย่างไรก็ความแตกแล้ว เสแสร้งรับมือคนเหล่านี้ต่อไปก็ไม่มีความหมายอะไรเขากวักมือให้คนที่อยู่ข้างหลัง “จับพวกเขามัดให้หมด ผู้ชายส่งไปให้ผู้ดูแลเฉียน ผู้หญิงข
“ช่วยข้าด้วย!”“แม่นางอวิ๋น เจ้าไม่ช่วยข้า คิดว่าโจรป่าพวกนี้จะปล่อยพวกเจ้าหรือ?”“ทุกคนจะตายกันหมด!”อวิ๋นฝูหลิงตะโกนสุดเสียง ทำให้คนหมู่บ้านหลิงซานที่กำลังพักผ่อนในห้องตกใจมีคนออกมาตรวจดู หลังจากเห็นอวิ๋นซานหูก็ตกใจยกใหญ่ พร้อมกับโพล่งออกจากปาก “แม่นางซานหู เจ้าไปก่อนแล้วไม่ใช่หรือ มาอยู่นี่ได้อย่างไร?”กลุ่มคนที่จับอวิ๋นซานหู มองพวกอวิ๋นฝูหลิงด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปฉับพลันคราวนี้พวกเขารู้แล้ว อวิ๋นซานหูกับพวกอวิ๋นฝูหลิงรู้จักกันเช่นนั้นคำพูดที่พวกเขาแต่งขึ้นเมื่อครู่ก็ดูน่าขำมากแล้ว!สำหรับอวิ๋นซานหู นางยังจะมีเวลาอะไรไปสนใจบุญคุณความแค้นระหว่างนางกับอวิ๋นฝูหลิง การเอาชีวิตรอดจึงจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้แม้กระทั่งเพื่อความอยู่รอด นางยอมก้มหัวขอความช่วยเหลือจากอวิ๋นฝูหลิงทว่าอวิ๋นฝูหลิงกลับกำลังด่าอวิ๋นซานหูที่โง่เขลาคนนี้อย่างบ้าคลั่งการกระทำทั้งหมดนี้ของนาง ทำให้แผนนิ่งสยบความเคลื่อนไหวของอวิ๋นฝูหลิงพังไม่เป็นท่าและลากพวกเขาทั้งหมดเข้าไปในเหวที่อันตรายโดยตรงชั่วขณะที่ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน โดยรอบเงียบสงัด มีเพียงเสียงตะโกนของอวิ๋นซานหูพลัน ‘ซานจื่อ’ ชายที่
เมื่อพวกเขาสอบถาผู้ลี้ภัยเหล่านี้ ก็เข้าใจสาเหตุความเป็นมาแล้วหัวหน้าหมู่บ้านหม่าเพิ่งจะเคยได้ยินครั้งแรกว่าหนังท้องถูกผ่าจนเปิด ยังสามารถเย็บด้วยเข็มกับด้าย อีกทั้งเย็บเสร็จแล้วยังสามารถมีชีวิตอยู่ต่อ“ในโลกนี้มีฝีมือการแพทย์เช่นนี้ด้วย?”เขาทำหน้าตกใจ จากนั้นก็รู้สึกว่าชักจะไม่ดีแล้ว “แย่แล้ว ฝีมือการแพทย์ของผู้หญิงคนนั้นสูงส่งเช่นนี้ แล้วนางจะไม่รู้เรื่องที่พวกเราวางยาหรือ?” หลิวเฟิงก็สงสัยเรื่องนี้ จึงรีบมารายงาน“หัวหน้า ตอนนี้พวกเราทำอย่างไรดี?”หัวหน้าหมู่บ้านหม่าหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง เตือนตัวเองให้ใจเย็นๆ“อย่าตื่นตระหนก พวกเขารู้ว่าถูกพวกเราวางยา แต่เหตุใดจึงไม่มีการเคลื่อนไหวเลย?”“ไม่เพียงไม่มาโวยวายกับพวกเรา และไม่มีท่าทีที่จะจากไป?”หลิวเฟิงหรี่ตาครุ่นคิดครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็กล่าว “หรือว่ามีแผนอื่น? หรือไม่ก็ไม่รู้ตัวว่าถูกพวกเราวางยา?”อย่างไรเสียยาที่พวกเขาใช้ก็น้อยมาก ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ง่ายๆทั้งหมดนี้เพราะฝ่ายตรงข้ามมีคนเยอะเกินไป อีกทั้งยังสามารถฆ่ากระทั่งเสือ ดูแล้วเหี้ยมโหดมากถ้าหากลงมือโดยตรง พวกเขาไม่มั่นใจว่าสามารถจับคนทั้งหมด ดังนั้นจึงใช้วิธีวางย
“เช้าวันนี้ข้าไปขอน้ำกับคนในหมู่บ้านหนึ่งกาเพื่อต้มชา กลับพบว่าในน้ำมีกลิ่นของหญ้าไม้เมา”“แม้กลิ่นจางมาก ปริมาณที่ใช้ไม่เยอะ แต่ข้าคลุกคลีกับสมุนไพรมาสามสิบกว่าปีแล้ว ไม่ผิดแน่นอน!”นายท่านหานพูดยังไม่ทันสิ้นเสียง อวิ๋นฝูหลิงก็กล่าวต่อ“ไม่เพียงน้ำที่ส่งมาเมื่อเช้า ในน้ำแกงเนื้อกับขนมแป้งที่ส่งมาเมื่อคืน ก็มีการใส่หญ้าไม้เมาเล็กน้อยเช่นกัน!”พลันนายท่านหางตกใจมากทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเดิมทีกลิ่นของหญ้าไม้เมาก็ไม่ได้ฉุนมากนักและเมื่อคืนก็มีกลิ่นของน้ำเก่งเนื้อกับขนมแป้งปกปิด กลิ่นของหญ้าไม้เมาก็ย่อมถูกกลบ ประกอบกับความเหนื่อยล้าจากการสู้กับเสือขาว เขาจึงไม่ทันสังเกตคิดไม่ถึงว่าอวิ๋นฝูหลิงกลับสังเกตเห็นมันหัวหน้าหมู่บ้านโจวลนลานอย่างเห็นได้ชัดทันที “แม่นางอวิ๋น เจ้าพบว่ามีพิษในอาหาร เหตุใดจึงไม่บอกทุกคนล่ะ?”นายท่านหานตบไหล่ของหัวหน้าหมู่บ้านโจว พลางกล่าวปลอบใจเขา “เจ้าใจเย็นๆ ก่อน หญ้าไม้เมาไม่นับเป็นพิษ แค่จะทำให้ไร้เรี่ยวแรงเท่านั้น”“ปริมาณที่พวกเขาใช้น้อยเช่นนี้ อย่างน้อยก็ต้องสามถึงสี่วัน จึงจะสังเกตเห็นอาการ”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ ข้ากลัวแหวกหญ้าให้งูต
เซียวจิ่งอี้คอยสังเกตสถานการณ์โดยรอบอยู่ที่ข้างนอกอย่างละเอียด ไม่นาน ทางเหมืองแร่ก็มีการเคลื่อนไหวเห็นเพียงเกวียนสิบกว่าคันทยอยแล่นออกไป และมีผ้าน้ำมันสีดำคลุมอยู่บนเกวียนทุกคันหลังจากเกวียนแล่นผ่าน ได้ทิ้งรอยล้อลึกสายหนึ่งไว้ จะเห็นได้ว่าของที่อยู่บนเกวียนมีน้ำหนักมากเกวียนแต่ละคันมีคนคุ้มกันอย่างน้อยสี่คน ทั้งขบวนเกวียนรวมกัน มีประมาณเจ็ดสิบถึงแปดสิบคนเซียวจิ่งอี้ออกคำสั่งกับไคหยางและเทียนซูทันที“พวกเจ้าสองคนตามไป สืบให้รู้ว่าขบวนเกวียนนี้ไปที่ไหน และขนของอะไรบนเกวียน?”ไคหยางกับเทียนจีรับคำสั่งก็ออกไปทันทีหลักจากทั้งสองไปแล้ว ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง เทียนจีที่รับคำสั่งไปดูลาดเลาในเหมืองแร่จึงจะกลับมา“นายท่าน ข้าน้อยเข้าไปสำรวจแล้ว เหมืองแร่แห่งนี้ลึกมาก ดูจากร่องรอยของการขุด ขุดมาแล้วอย่างน้อยสามปีขอรับ”“เฉพาะคนงานเหมืองที่อยู่ข้างใน ก็มีไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยคน”“โดยรอบของเหมือนแร่มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา คนคุ้มกันก็ไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่สามารถบุกเข้าไปได้ง่ายๆ”“ข้าน้อยได้แอบนำหินแร่ออกมาด้วยสองสามก้อนขอรับ”เทียนจีส่งหินแร่ที่นำออกมาให้เขาเมื่อเซียวจิ่งอี้รับม
Comments