Share

บทที่ 6

โหวซานได้ยินดังนั้นก็นึกว่านี่เป็นแผนการที่ลูกพี่อู๋คิดขึ้นเพื่อกำราบอวิ๋นฝูหลิง สีหน้าจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย

อีกอย่างอวิ๋นฝูหลิงรูปงาม ลูกพี่อู๋อยากจะลองลิ้มรสชาติของนางก่อนก็เป็นเรื่องปกติ

โหวซานนึกว่าเดาใจลูกพี่อู๋ถูก จึงหัวเราะแล้วหันไปยักคิ้วหลิ่วตาใส่ลูกพี่อู๋ จากนั้นเอ่ยขึ้น

“หญิงสาวที่งดงามขนาดนี้ หากฆ่าทิ้งคงเสียดายแย่ ไม่สู้ให้นางได้เล่นสนุกกับลูกพี่อู๋ก่อน รอให้พี่น้องทุกคนสนุกกันเต็มที่แล้ว ข้าค่อยสังหารนาง เพื่อแก้แค้นให้พี่ใหญ่ก็ยังไม่สาย”

ลูกพี่อู๋ได้ยินดังนั้น แม้ใบหน้าจะยิ้มแย้ม ทว่าในดวงตากลับเหี้ยมเกรียมขึ้นทันใด

เขาอยากจะตบแต่งอวิ๋นฝูหลิงด้วยใจจริง ย่อมทนฟังโหวซานเหยียดหยามนางด้วยคำพูดเช่นนี้ไม่ได้

ชายจมูกงุ้มหลายคนเห็นสีหน้าของลูกพี่ พลันรู้ได้ทันทีว่าเขาโมโหแล้ว

แต่โหวซานยังไม่รู้ตัว ยังคงพูดจาหยาบโลนต่อไปไม่หยุด

ดวงตาอวิ๋นฝูหลิงเยือกเย็น ทว่าใบหน้ากลับยิ้มแย้ม “ได้สิ งั้นข้าจะเล่นสนุกกับพวกเจ้าก่อน”

พอดีกับยามนี้ที่มีสายลมพัดผ่านไปยังทิศทางของพวกลูกพี่อู๋

อวิ๋นฝูหลิงฉวยโอกาสตอนทุกคนเผลอ โปรยผงยาหนึ่งห่อ

ผงยาโชยไปตามลมใส่หน้าพวกลูกพี่อู๋ จากนั้นถูกพวกเขาสูดดมเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว

เวลาเพียงสองอึดใจ พวกลูกพี่อู๋ที่มีกันกลุ่มใหญ่ แขนขาอ่อนแรงแล้วล้มลง

อวิ๋นฝูหลิงเลิกคิ้วเท้าสะเอว “อย่างพวกเจ้าเนี่ยนะ ยังคิดจะมีเรื่องกับข้า?”

อวิ๋นจิงมั่วตะลึงงัน พลันมองอวิ๋นฝูหลิงตาวาว “ท่านแม่ ท่านเก่งมาก!”

อวิ๋นฝูหลิงยิ้มพร้อมลูบหัวเขา

ลูกพี่อู๋ดิ้นรนอยู่หลายที พบว่ามือเท้าตัวเองอ่อนแรง พละกำลังทั่วร่างคล้ายถูกบางสิ่งดูดไป จึงรู้สึกตกใจไม่น้อย

“เจ้า…เจ้าทำอะไรพวกข้า?”

เขาพยายามประคองสติ แต่น้ำเสียงที่สั่นเครือแสดงให้เห็นความหวาดกลัวจากส่วนลึกของจิตใจ

อวิ๋นฝูหลิงเหยียบลงไปบนหน้าอกของเขาพร้อมยิ้มอ่อน “วางใจเถอะ ก็แค่ผงยาที่ทำให้พวกเจ้าหมดแรง ไม่เป็นอันตรายกับชีวิตพวกเจ้าหรอก”

ลูกพี่อู๋ได้ยินเช่นนั้น ยังไม่ทันได้โล่งอก พลันเห็นอวิ๋นฝูหลิงถือมีดเล่มยาวซึ่งไม่รู้ว่าไปหามาจากที่ใด

นางวาดดาบไปมาบนตัวเขา พร้อมกับหัวเราะแล้วกล่าวขึ้น

“อยากเล่นสนุกไม่ใช่หรือ?”

“เจ้าว่าหากข้าใช้มีดเฉือนลงไปบนร่างเจ้าหลายๆ ที ในป่านี้จะมีสัตว์ป่าตามมาถึงนี่เพราะกลิ่นเลือดหรือไม่?”

“พวกเจ้าถูกยาของข้า อยากหนีก็ไร้เรี่ยวแรง แหกปากให้ตายคนในหมู่บ้านก็ไม่ได้ยิน”

“ถึงตอนนั้นคงต้องทนเห็นตัวเองถูกสัตว์ป่าพวกนั้นรุมทึ้ง เลือดเนื้อถูกสัตวป่ากัดกินทีละคำ…”

แผ่นหลังลูกพี่อู๋เย็นวาบ รู้สึกแค่ว่ารอยยิ้มอ่อนโยนของอวิ๋นฝูหลิงในยามนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน

ความรักใคร่ชอบพอที่มีให้นางก่อนหน้านี้พลันหายมลายสิ้น

เขาไม่กล้าคิดเป็นอื่นกับอวิ๋นฝูหลิงแม้แต่น้อย

ท่าทางเช่นนี้ของอวิ๋นฝูหลิง ทำให้ลูกน้องคนอื่นๆ ของลูกพี่อู๋ตกใจไปตามๆ กัน

พวกเขาหลายคนร้องห่มร้องไห้ ต่างเอ่ยปากวิงวอน

พวกเขาไม่เคยบาดหมางกับอวิ๋นฝูหลิง แต่ล้วนถูกโหวซานซื้อตัว จึงได้มาหาเรื่องอวิ๋นฝูหลิง

โหวซานจำมีดในมืออวิ๋นฝูหลิงได้ แล้วนึกไปถึงความโหดร้ายที่อวิ๋นฝูหลิงฆ่าคนติดต่อกันสามคน ทำให้ใจเขาสั่นสะท้านอย่างลืมตัว

ทว่าเมื่อได้ยินชายจมูกงุ้มหลายคนโยนความผิดทั้งหมดให้เขา และปฏิเสธความเกี่ยวข้องใดๆ กับเขา ทำให้เขาทั้งโกรธทั้งแค้น

จนด่าทอเสียงดังแล้วทะเลาะกับชายจมูกงุ้มหลายคนนั้น

ชั่วขณะนั้น ทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันอย่างดุเดือด

แม้โหวซานจะพูดจาฉะฉาน แต่เขาตัวคนเดียวจะเอาชนะพวกชายจมูกงุ้มได้อย่างไร

อวิ๋นฝูหลิงดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ปล่อยให้พวกเขาทะเลาะกัน กลับได้รับรู้ข่าวสารไม่น้อยจากการทะเลาะกันของพวกเขา

อวิ๋นจิงมั่วยังจำท่าทางดุร้ายของคนพวกนี้ตอนหาเรื่องเมื่อครู่ได้ ตอนนี้เมื่อเห็นพวกเขาโยนความผิดให้กัน ทันใดนั้นจึงมือเท้าสะเอว แล้วตะโกนด้วยน้ำเสียงของเด็กน้อย

“พวกเจ้าทั้งหมดล้วนเป็นคนเลว”

พวกชายจมูกงุ้มตกใจกับคำพูดของอวิ๋นจิงมั่วจนเงียบทันที

อวิ๋นจิงมั่ววิ่งไปข้างหน้าอย่างโมโห แล้วเข้าไปเตะพวกเขาทีละคน

ทุกครั้งที่เตะ ต้องด่าทออย่างโกรธแค้น “คนเลว”

ตอนถึงตาโหวซาน อวิ๋นจิงมั่วเตะซ้ำลงไปหลายที

เขาจำได้ว่าคนนี้ดุร้ายที่สุด ซ้ำยังพูดว่าจะฆ่าท่านแม่!

อวิ๋นฝูหลิงไม่ได้ห้ามอวิ๋นจิงมั่ว

ไม่ว่าจะอยู่ในโลกใด ล้วนมีคนเลวโดยสันดาน

แม้อวิ๋นมั่วจิงอายุยังน้อย ทว่าอวิ๋นฝูหลิงไม่คิดจะเลี้ยงเขาให้เติบโตเหมือนดอกไม้ในเรือนกระจก ที่ไร้เดียงสาและไม่รู้จักความโหดร้ายของโลกภายนอก

เมื่อได้เห็นความโหดร้ายของโลกใบนี้ ถึงจะรู้ว่าต้องปกป้องตัวเองอย่างไร

ทว่าระหว่างนี้จำเป็นต้องชี้แนะอย่างดี จึงจะรักษาปณิธานเอาไว้ไม่เข้าสู่หนทางที่ผิด

อวิ๋นฝูหลิงไม่เพียงไม่ห้ามปราม กลับคอยส่งเสริมอยู่ข้างๆ ปล่อยให้อวิ๋นจิงมั่วซัดพวกโหวซานเหมือนกระสอบทราย ปล่อยให้เขาเล่นให้สะใจ

หลังจากอวิ๋นจิงมั่วสั่งสอนพวกอวิ๋นซานทีละคนจนครบ อวิ๋นฝูหลิงกำลังจะเอ่ยปาก พลันได้ยินพงหญ้าด้านหลังนางมีเสียงความเคลื่อนไหว

อวิ๋นฝูหลิงหันมองตามสัญชาตญาณ

แต่ใครจะไปคิดว่าชั่วขณะนั้น โหวซานจะไขว้ขาเป็นรูปกรรไกร แล้วหนีบขาอวิ๋นจิงมั่วเอาไว้

อวิ๋นจิงมั่วตัวเล็ก เมื่อถูกโจมตีกะทันหันทำให้ยืนไม่มั่นล้มลงกับพื้นทันที

โหวซานใช้กำลังเล็กน้อยที่แอบสะสมเอาไว้พลิกตัว จากนั้นใช้น้ำหนักตัวของเขา ทับอวิ๋นจิงมั่วเอาไว้ใต้ร่าง

“ข้าฆ่าเจ้าไม่ได้ก็ฆ่าลูกชายเจ้าแทน ถือว่าได้แก้แค้นแล้ว”

โหวซานมองอวิ๋นฝูหลิงอย่างเหี้ยมเกรียม ใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความแค้น ดูคลุ้มคลั่งอย่างเห็นได้ชัด

เขารู้ว่าหนีไม่รอด เพราะอวิ๋นฝูหลิงไม่ปล่อยเขาไปแน่

แต่ก่อนตายได้ลากเจ้าเด็กอวิ๋นจิงมั่วลงนรกไปพร้อมกัน ก็ถือว่าคุ้มค่า

ดวงตาโหวซานเต็มไปด้วยความแค้น อ้าปากเตรียมกัดลงไปที่ลำคออวิ๋นจิงมั่ว

อวิ๋นฝูหลิงสีหน้าตระหนก รีบโผเข้าไปช่วยอวิ๋นจิงมั่วทันที

ในขณะนั้นเอง หินก้อนหนึ่งบินออกมาจากพงหญ้า

หินก้อนนั้นฝ่าอากาศจนเกิดเสียงดัง คล้ายมีกำลังมหาศาล แล้วพุ่งใส่ท้ายทอยโหวซาน

ทันใดนั้นร่างของโหวซานอ่อนปวกเปียก และไม่มีความเคลื่อนไหวอีก

อวิ๋นฝูหลิงรีบทะยานเข้าไปหาแล้วผลักโหวซานออก จากนั้นช่วยอวิ๋นจิงมั่วออกจากใต้ร่างเขา

“มั่วเอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นไรนะ? บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”

อวิ๋นฝูหลิงสำรวจทั่วร่างของเขา แล้วย้ำสำรวจบริเวณลำคอและคอหอยของเขา

เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่โหวซานคิดจะกัดคอหอยอวิ๋นจิงมั่วให้ขาด คิดจะฆ่าเขาให้ตาย

เมื่อเห็นลำคออวิ๋นมั่วจิงสะอาดหมดจด ไม่มีแม้แต่รอยถลอก อวิ๋นฝูหลิงถึงได้โล่งอก

อวิ๋นจิงมั่วตกใจกับการกระทำบ้าคลั่งของโหวซาน

เมื่อกลับสู่อ้อมกอดของอวิ๋นฝูหลิงอีกครั้งเขาถึงรู้สึกตัว จากนั้นร้องไห้จ้าเสียงดัง

อวิ๋นฝูหลิงตบหลังเขาเบาๆ ปลอบประโลมจิตใจของเขาอย่างอ่อนโยน

เมื่อครู่นางประมาทเอง นึกว่าโหวซานถูกผงยาของนางแล้วแขนขาอ่อนแรง คงไม่มีอันตรายใด

กลับไม่คิดว่าเขาจะแอบสะสมกำลังที่เหลืออยู่น้อยนิด แล้วใช้กำลังทั้งหมดลงมือกับอวิ๋นจิงมั่ว

แม้อวิ๋นฝูหลิงจะเป็นหมอรักษาและช่วยชีวิตคน แต่นางเคยเห็นความชั่วร้ายของคนในโลกวิบัติมานักต่อนักแล้ว ดังนั้นจิตใจจึงถูกหล่อหลอมจนแข็งกระด้าง

แม้ชีวิตคนจะมีค่า แต่ชีวิตของคนบางคนไม่มีค่าให้เก็บไว้

อวิ๋นฝูหลิงมองโหวซานอย่างเยือกเย็น ในใจหมายจะฆ่าอีกฝ่าย

แต่ใครจะไปคิดว่าโหวซานกลับมีเลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด แล้วตายไปทันที

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status