Share

บทที่ 5

โจวโหย่วเหลียงเพิ่งมารวมตัวกับครอบครัวบนยอดเขา ก็ได้รู้เรื่องที่อวิ๋นฝูหลิงช่วยชีวิตลูกเมียของเขาจากปากเจิ้งซื่อ

เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกใจหาย

หลังจากตั้งสติได้ เขาก็บอกเรื่องนี้กับบิดามารดาของตน จากนั้นก็ถือลูกเดือยถุงหนึ่ง พาลูกเมียมาขอบคุณ

เมื่อเห็นอวิ๋นฝูหลิงบ่ายเบี่ยง โจวโหย่วเหลียงที่เป็นผู้ชายก็ไม่สะดวกที่จะคะยั้นคะยออวิ๋นฝูหลิง ได้แต่ขอบคุณบุญคุณที่ช่วยชีวิตของอวิ๋นฝูหลิงอยู่ข้างๆ อย่างจริงใจ

จากนั้นก็ดึงโจวฉางจี๋มาตรงหน้า

ก่อนมาโจวฉางจี๋ก็ถูกอบรมก่อนแล้ว เขากล่าวด้วยเสียงที่นุ่มนิ่ม “ขอบคุณป้าอวิ๋น!”

อวิ๋นฝูหลิงเห็นใบหน้าเล็กที่อวบอิ่มและรูปร่างอ้วนเล็กน้อยของเขา ดวงตาที่เหมือนองุ่นดำก็สดใสขึ้นมาทันที

และรู้ด้วยว่าเขาเป็นที่รักของคนตระกูลโจว ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถกินจนได้รูปร่างเช่นนี้ในครอบครัวชาวนา

อวิ๋นฝูหลิงเห็นเขาน่ารักมาก อดไม่ได้ที่จะลูบศีรษะของเขา พลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร!”

พูดจบก็หันไปพูดกับสองสามีภรรยา “สถานการณ์เช่นก่อนหน้านี้ ข้าคิดว่าใครพบเจอก็ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทุกคนเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน ช่วยเหลือกันและกันเป็นสิ่งที่สมควรทำ พวกเจ้าไม่จำต้องทำเช่นนี้”

พวกผู้ใหญ่คุยกัน เด็กน้อยสองคนที่อยู่ข้างๆ พวกเขา ต่างคนต่างมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า

เมื่อก่อนอวิ๋นจิงมั่วมักถูกขังอยู่ในบ้านเสียส่วนใหญ่ น้อยครั้งที่จะได้ออกมาเล่นข้างนอก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการหาเพื่อน

คราวนี้มาเจอเด็กที่อายุไล่เลี่ยกับตัวเอง จึงอดไม่ได้ที่จะแอบมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า

ส่วนโจวฉางจี๋ไม่เคยเห็นเด็กที่หน้าตาน่ารักอย่างอวิ๋นจิงมั่ว

เขาฉีกยิ้มให้อวิ๋นจิงมั่วอย่างซื่อบื้อโดยไม่รู้ตัว

อวิ๋นจิงมั่วรู้สึกถึงเจตนาดีของเขา ก็เม้มปากยิ้มเช่นกัน

ท้ายที่สุดอวิ๋นฝูหลิงก็ไม่สามารถทนต่อการรบเร้าของสองสามีภรรยาไหว ได้แต่รับลูกเดือยถุงนั้นเอาไว้

หลังจากสองสามีภรรยามอบของตอบแทนเสร็จ ก็กล่าวขอบคุณอีกครั้ง ก่อนจะอุ้มลูกชายโจวฉางจี๋จากไป

เวลานี้ ชาวบ้านต่างคนต่างหาพื้นที่พักผ่อนจุดละสองสามคนแล้ว

บางคนที่ตากฝน ก็เปลี่ยนชุดที่เปียก

หลังจากนั้นบิดเสื้อจนน้ำแห้ง ถือโอกาสตอนนี้ยังมีแดด นำกิ่งไม้มาต่อกันแล้วตากไว้ข้างบน

คนที่ไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนทำได้เพียงบิดน้ำที่อยู่ในเสื้อผ้า หลังจากนั้นก็ไปตากแดดโดยใช้ร่างกายเป็นราวตากผ้า

ดีที่ตอนนี้เป็นหน้าร้อน สวมใส่เสื้อผ้าที่เบาบางและแดดก็แรง ตากเพียงครู่เดียวเสื้อผ้าก็ตากจนเกือบแห้งแล้ว

หลังจากอวิ๋นฝูหลิงกวาดมองหนึ่งรอบ ในใจก็เริ่มมีแผนแล้ว

ในเวลาช่วงสั้นๆ เกรงว่าพวกเขาต้องอยู่บนยอดเขา รอให้น้ำท่วมลดลง

เช่นนั้นก็ต้องคิดเรื่องอาหาร ที่พัก และความปลอดภัยแล้ว

อวิ๋นฝูหลิงนำเสื้อกันฝนและลูกเดือยถุงนั้นใส่ในตะกร้าไม้ไผ่ จากนั้นก็แบกตะกร้าไม้ไผ่ จูงมืออวิ๋นจิงมั่วไปเก็บฟืนในละแวกนี้

อีกไม่กี่ชั่วโมงฟ้าก็จะมืดแล้ว นางต้องอาศัยโอกาสนี้เก็บฟืนมาตากให้แห้ง

เช่นนี้จึงจะก่อไฟหุงข้าว ให้แสงสว่างและความอบอุ่นได้สะดวก

อวิ๋นจิงมั่วฉลาดมาก หลังจากดูครู่หนึ่ง ก็ขยับขาสั้นๆ เก็บฟืนส่งให้อวิ๋นฝูหลิง

อวิ๋นฝูหลิงรับฟืนมาหนึ่งท่อน ก็ชมอวิ๋นจิงมั่วหนึ่งคำ

อวิ๋นจิงมั่วถูกชมจนมีความสุข ยิ่งมีความกระตือรือร้นในการเก็บฟืนเพิ่มขึ้น

สองแม่ลูกยิ่งเดินยิ่งห่างออกไปจากจุดที่ชาวบ้านรวมตัวกันโดยไม่รู้ตัว

เมื่อโหวซานและคนอื่นเห็น ต่างส่งสัญญาณทางสายตาให้กันและกัน จากนั้นก็รีบตามไปทันที

ระหว่างที่อวิ๋นฝูหลิงเก็บฟืน ยังได้เจอเห็ดไม่น้อยด้วย

นอกจากนี้ สมุนไพรบนภูเขาแห่งนี้เติบโตได้เขียวชอุ่ม อวิ๋นฝูหลิงก็เลยอาศัยโอกาสนี้เก็บมาบางส่วน

อวิ๋นฝูหลิงกำลังขุดขิงป่าพุ่มหนึ่ง จู่ๆ ก็ได้กลิ่นคาวเลือดจางๆ ในอากาศ

หลังจากร่างกายร่างนี้ของนางได้รับการดัดแปลงจากหยดน้ำแห่งจิตวิญญาณ ประสาทสัมผัสทั้งห้าจึงเฉียบคมมาก

นางรีบลุกขึ้นยืน ดมแล้วดมอีกอย่างละเอียด

เป็นกลิ่นคาวของเลือดจริงๆ อีกทั้งกลิ่นแรงกว่าเมื่อครู่หลายส่วน

ที่นี่มีกลิ่นคาวเลือดไม่ใช่เรื่องดีอะไร มันสามารถดึงดูดสัตว์ป่ามาทางนี้

สีหน้าอวิ๋นฝูหลิงเคร่งขรึมทันที

นางมองไปตามทิศทางที่กลิ่นคาวเลือดลอยมา ก็มองเห็นพุ่มหญ้าป่าขนาดใหญ่ที่สูงเท่าครึ่งคน

เวลานี้ไร้ลม พุ่มหญ้าป่ากลับกำลังสั่นเบาๆ เห็นได้ชัดว่ามีสิ่งมีชีวิตอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ข้างใน

อวิ๋นฝูหลิงกลัวเจอสัตว์ป่าขนาดใหญ่ พลันแน่นหน้าอก รีบจูงมืออวิ๋นจิงมั่ว คิดจะจากไปทันที

ใครจะรู้ว่านางเพิ่งหมุนกาย ก็เห็นโหวซานและคนอื่นใกล้เข้ามา

อวิ๋นฝูหลิงรีบป้องอวิ๋นจิงมั่วไว้ข้างกาย มองไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา

“พวกเจ้าคิดจะทำอะไร?”

สีหน้าโหวซานโกรธแค้น “เจ้าฆ่าพวกพี่ใหญ่ข้า ข้าย่อมจะมาฆ่าเจ้าเพื่อแก้แค้นให้พวกเขา!”

อวิ๋นฝูหลิงนึกถึงภาพใต้เขาที่ถูกน้ำท่วม นางเลิกคิ้วทันที แสร้งแสดงสีหน้าโกรธเคืองเพราะถูกปรักปรำ

“เจ้าบอกว่าข้าฆ่าคน มีหลักฐานหรือไม่?”

“มันเป็นแค่คำพูดฝ่ายเดียวของเจ้าก็เท่านั้น ตอนนี้ข้าตะโกนแค่คำเดียว ดึงดูดชาวบ้านมาทางนี้ เจ้าว่าพวกเขาจะเชื่อเจ้าหรือเชื่อข้า?”

เจ้าของร่างเดิมอ่อนแอมาโดยตลอด ใครจะเชื่อว่านางสามารถฆ่าคนได้?

อีกทั้งเมื่อครู่นางเพิ่งช่วยสะใภ้ใหญ่กับหลานชายคนโตของครอบครัวหัวหน้าหมู่บ้านโจว

เมื่อเทียบกับอันธพาลเจ้าถิ่นเหล่านี้ คาดว่าคนในหมู่บ้านหลินซานจะเชื่อนางมากกว่า

ราชวงศ์ต้าฉีสถาปนาแคว้นจนถึงตอนนี้ก็มีฮ่องเต้สามพระองค์แล้ว ปัจจุบันทั่วหล้าสงบสุข มีกฎหมายปกครองแคว้น ย่อมไม่ได้วุ่นวายและอันตรายเหมือนตอนที่นางอยู่โลกวิบัติ

อวิ๋นฝูหลิงในเวลานี้ก็ไม่ได้บู่มบ่ามเหมือนตอนที่เพิ่งฟื้น

นางรู้ดี แม้ว่ามิติเวลาแห่งนี้เป็นยุคศักดินาที่ปกครองโดยราชอำนาจ แต่ถ้าหากอยากใช้ชีวิตที่นี่ในฐานะเจ้าของร่าง การกระทำของนางไม่สามารถป่าเถื่อนเหมือนตอนอยู่โลกวิบัติได้

หากต้องการจัดการปัญหาตรงหน้ากลุ่มนี้ มีวิธีเยอะแยะโดยไม่ต้องทำร้ายคน

บางครั้งแสดงความอ่อนแอ ยืมแรงต้านแรง ก็เป็นวิธีที่ไม่เลว

โหวซานรู้ดีว่าหลักฐานถูกทำลายหมดแล้ว เวลานี้ได้ยินอวิ๋นฝูหลิงพูดถึง เขาจึงโกรธมาก

“ข้าจะฆ่านังแพศยาอย่างเจ้าให้ได้!”

ทว่าโหวซานยังไม่ทันได้ลงมือ ก็ถูกลูกพี่อู๋ที่เป็นผู้นำขัดขวาง

ลูกพี่อู๋คว้าไหล่ของโหวซาน กล่าวอย่างยิ้มแย้ม “โหวซาน ไม่ต้องรีบลงมือ”

เขามองไปทางอวิ๋นฝูหลิง ในดวงตาเต็มไปด้วยความตะลึง เมื่อมาดูใกล้ๆ เช่นนี้ เหมือนจะยิ่งงามกว่าเดิม

อวิ๋นฝูหลิงถูกสายตาของลูกพี่อู๋มองจนขมวดคิ้ว

แต่คนผู้นี้นอกจากสายตาที่มองมาอย่างเร่าร้อน ก็ไม่ได้ดูหื่นกาม ที่เห็นแล้วทำให้รู้สึกอึดอัดเหมือนพวกโหวซาน

แต่อวิ๋นฝูหลิงก็ไม่ชอบที่ถูกคนมองเช่นนี้

นางกำลังจะระเบิดอารมณ์ ลูกพี่อู๋กลับชิงเอ่ยปากกล่าวก่อน

“แม่นางอวิ๋น เลิกขู่พวกเราได้แล้ว ที่นี่อยู่ห่างจากจุดรวมตัวของชาวบ้านไกลมาก เกรงว่าเจ้าตะโกนจนคอแตก พวกเขาทุกคนก็ไม่ได้ยิน!”

อวิ๋นฝูหลิงจึงจะพบว่า รู้ตัวอีกทีนางก็อยู่ห่างจากจุดรวมตัวของชาวบ้านไกลมากแล้ว

ลูกพี่อู๋กล่าวต่อ “เจ้าบอบบางตัวคนเดียวและยังพาลูกมาด้วย หนีไม่พ้นจากเงื้อมมือของพวกเราหรอก!”

“เช่นนี้ก็แล้วกัน ขอแค่เจ้ายอมแต่งงานกับข้า ข้าก็ช่วยเจ้าคุยกับโหวซาน คลายความแค้นนี้”

เมื่อชายจมูกงุ้มและคนอื่นได้ยิน ก็เริ่มหยอกเย้าทันที ชั่วขณะเสียงเรียกอวิ๋นฝูหลิงว่า ‘ซ้อใหญ่’ ดังขึ้นเรื่อยๆ

มีเพียงสีหน้าของโหวซานที่น่าเกลียดมาก

“ลูกพี่อู๋ ก่อนหน้านี้พวกเราไม่ได้คุยกันแบบนี้นี่!”

ลูกพี่อู๋ตบไหล่ของโหวซาน เขากล่าวเสียงเบา “สบายใจได้ ข้ารู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status