Share

บทที่ 10

Penulis: หลันซานอวี่
last update Terakhir Diperbarui: 2024-09-24 14:36:00
อวิ๋นซานหูจับแขนเสื้อติงหมิงรุ่ยแล้วเขย่าไปมาพลางออดอ้อน “ท่านพี่ นางก็แค่โชคดีเหมือนแมวตาบอดจับหนูตายได้ จะไปมีความรู้วิชาแพทย์ที่สูงส่งได้อย่างไร!”

ติงหมิงรุ่ยถูกนางปลอบ จึงสบายใจขึ้นมาบ้าง

ใช่สินะ ก็แค่หญิงบ้านนอกคนหนึ่ง ที่มีความรู้ระดับภูมิปัญญาชาวบ้านเท่านั้น

แต่เขาไม่เหมือนกัน เขามีพรสวรรค์ล้ำเลิศ เกิดมาในตระกูลแพทย์

อีกทั้งมีชื่อเสียงแต่เด็ก ภายหน้าต้องสอบเข้าสำนักหมอหลวง มียศถาบรรดาศักดิ์ กลายเป็นหมอหลวงที่มีชื่อเสียง

หนำซ้ำแวดวงการแพทย์ยังเป็นพื้นที่ของบุรุษมาโดยตลอด

แม้สตรีจะเรียนรู้วิชาแพทย์ แต่สังคมไม่ยอมให้พวกนางมานั่งรักษาอยู่ในสำนักอย่างเปิดเผย

อย่างมากก็แค่ได้เข้าไปเป็นหมอหลวงระดับล่างสุดในสำนักหมอหลวง เป็นลูกมือให้พวกหมอหลวงชายเท่านั้น

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ติงหมิงรุ่ยสบายใจขึ้นมาก จากนั้นกลับมามั่นอกมั่นใจอีกครั้ง

ความวุ่นวายในตระกูลเฉินดำเนินไปสักพักใหญ่ถึงจะสงบลง

จากการเตือนสติของผู้ใหญ่บ้านโจว สองสามีรรยาเฉินเหล่าเอ้อร์ถึงจำบุญคุณของอวิ๋นฝูหลิงได้

จากคำซุบซิบของชาวบ้านรอบข้าง ทำให้อวิ๋นฝูหลิงพอปะติดปะต่อเหตุการณ์ของตระกูลเฉินได้

แม่เฒ่าเฉินเป็นม่ายสามีตายตั้งแต่ยังสาว จึงเลี้ยงดูลูกชายทั้งสองมาเพียงลำพัง

ดังนั้นลูกชายทั้งสองจึงกตัญญูมาก โดยเฉพาะเฉินเหล่าต้าที่เชื่อฟังแม่เฒ่าเฉินแทบจะทุกอย่าง

หลังจากลูกชายทั้งสองแต่งงานมีครอบครัว ตั้งแต่สะใภ้ใหญ่เฉินคลอดเฉินต้ายา ก็ไม่เคยตั้งท้องอีกเลย

ส่วนสะใภ้รองเฉินกลับคลอดลูกชายเฉินเสียวเป่าออกมาในครั้งเดียว

เดิมทีแม่เฒ่าเฉินก็รักเด็กชายมากกว่าเด็กหญิงอยู่แล้ว ตอนยังสาวยังได้ใจที่ตัวเองคลอดลูกชายออกมาถึงสองคน

จึงได้รักเฉินเสียวเป่าหลานชายเพียงคนเดียวดั่งแก้วตาดวงใจ และรู้สึกว่าสะใภ้ใหญ่กับเฉินต้ายาขัดหูขัดตา

ส่วนเฉินเหล่าต้าที่ไม่มีลูกชายก็อดไม่ได้ที่จะโกรธเคืองเมียตัวเอง

ดังนั้นความเป็นอยู่ของสะใภ้ใหญ่เฉินและเฉินต้ายาจึงยิ่งย่ำแย่

อวิ๋นฝูหลิงไม่ชอบวิถีของคนตระกูลเฉิน เมื่อเห็นสองสามีภรรยาเฉินเหล่าเอ้อร์มากล่าวขอบคุณ จึงทำสีหน้าเรียบเฉยและตอบอย่างขอไปที แล้วให้ทั้งสองกลับไป

อวิ๋นฝูหลิงพลิกฟืนที่ตากเอาไว้ เพื่อให้พวกมันแห้งเร็วขึ้น

ขณะนี้พวกของลูกพี่อู๋ แบกฟืนและน้ำกลับมาพอดี

พวกเขาตัดไม้ไผ่ลำใหญ่มาทำเป็นกระบอก แล้วรองน้ำกลับมา

หลังจากอวิ๋นฝูหลิงตรวจสอบทีละอย่าง นางพยักหน้าชื่นชม “ทำได้ไม่เลว!”

พวกของลูกพี่อู๋ยิ้มทันที

อวิ๋นฝูหลิงใช้ตะกร้าไม้ไผ่บัง จากนั้นนำไหดินและกระทะเหล็กสองหูออกมาจากมิติ

นี่เป็นสิ่งของที่นางได้มาจากร้านสะดวกซื้อในชาติก่อน

เดิมทีไหดินเอาไว้ปักดอกไม้ แต่ตอนนี้เอามารดน้ำได้พอดี ส่วนกระทะเหล็กเอามาทำอาหาร

ก่อนหน้านี้นางจงใจเลือกตะกร้าไม้ไผ่ที่มีฝาปิด ก็เพื่อเอาไว้บดบัง นางจะได้หยิบของออกมาจากมิติอย่างสะดวก

“ไปเอาน้ำกลับมาอีกสักหน่อยเถอะ แหล่งน้ำอยู่ไกลจากนี่หรือไม่?”

ลูกพี่อู๋ชี้ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ “ไม่ไกล ตรงนั้นมีลำธารสายหนึ่ง”

ลูกพี่อู๋รับไหดินและกระทะมาอย่างคล่องแคล่ว ไม่ถามอวิ๋นฝูหลิงสักคำว่าทำไมก่อนหน้านี้ไม่ให้อุปกรณ์รองน้ำทั้งสองชิ้นแก่พวกเขา

เมื่อชาวบ้านรอบข้างเห็นการกระทำของพวกลูกพี่อู๋ ก็พากันตะลึงอย่างมาก

ทุกคนคิดกันไปต่างๆ นานา แล้วแอบซุบซิบเสียงค่อย

หลังจากพวกลูกพี่อู๋จากไป เจิ้งซื่อสะใภ้ใหญ่ของผู้ใหญ่บ้านโจวก็รีบเข้าไปใกล้อวิ๋นฝูหลิง พร้อมเอ่ยเตือนนาง “พวกลูกพี่อู๋เป็นคนชั่วที่มีชื่อเสียงในย่านนี้ พวกเขาไม่ใช่คนดี เจ้าต้องอยู่ให้ห่างจากพวกเขานะ”

อวิ๋นฝูหลิงหัวเราะพลางพยักหน้า “ขอบคุณอาซ้อใหญ่เจิ้งที่ตักเตือน”

นางไม่ได้อธิบาย เพียงมอบตะไคร้และสมุนไพรหลายชนิดที่เก็บมาให้นางส่วนหนึ่ง

“กลิ่นของสมุนไพรเหล่านี้ไล่แมลงและงูได้ สมุนไพรก็พบเห็นได้ทั่วไปบนเขา หากไม่พอ เจ้าก็ไปเก็บมาใช้เองได้”

เจิ้งซื่อรับไปอย่างหน้าชื่น “ขอบคุณแม่นางอวิ๋นมาก”

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเวลาอยู่ในป่าคือแมลงและงูต่างๆ โดยเฉพาะเด็กเล็ก อีกอย่างตอนนี้เป็นฤดูร้อน เป็นช่วงที่แมลง มด งูเงี้ยวเขี้ยวขอมากที่สุด

เจิ้งซื่อนึกไม่ถึงว่าแม่นางอวิ๋นจะมีความรู้วิชาแพทย์ เมื่อนึกถึงเรื่องที่นางช่วยเฉินเสียวเป่าเอาไว้ ในใจยิ่งอยากเข้าใกล้นางให้มากขึ้น

ในหมู่บ้านมีหมออยู่ ต่อไปจะปวดหัวตัวร้อนก็ไม่ต้องกลัวแล้ว

หลังจากเจิ้งซื่อนำสมุนไพรกลับไป ก็ไปเรียกหญิงออกเรือนหลายคนที่สนิทกันให้ไปช่วยกันเก็บสมุนไพรไล่แมลง

พวกชาวบ้านเห็นดังนั้น จึงไปสืบเสาะจนรู้ แล้วพากันไปเก็บสมุนไพรกับพวกเจิ้งซื่อ และมีบางคนที่มาขอตัวอย่างจากอวิ๋นฝู

หลิง พวกเขาจะได้ไปหาตามนั้น

อวิ๋นฝูหลิงจึงแบ่งสมุนไพรไล่งูและแมลงออกเป็นหลายชุด แล้วยกให้พวกชาวบ้าน

พวกชาวบ้านไปรวมตัวกันเป็นกลุ่ม แล้วนำสมุนไพรตัวอย่างที่อวิ๋นฝูหลิงให้ไปเก็บสมุนไพร

โชคดีที่ป่าแห่งนี้พืชพันธุ์เจริญงอกงาม สมุนไพรหลายชนิดนั้นพบเห็นได้ทั่วไป เมื่อก่อนชาวบ้านคิดว่าเป็นหญ้า แต่เพียงไม่นานก็เก็บกลับไปเป็นกองใหญ่

ก่อนหน้านี้อวิ๋นฝูหลิงช่วยหลานชายตระกูลเฉิน ตอนนี้ยังบอกสมุนไพรที่ช่วยไล่แมลงและงูอย่างเปิดเผย ทำให้ชาวบ้านรู้สึกดีกับอวิ๋นฝูหลิงทั้งที่ไม่ได้สนิทสนมกับนาง

ดวงตะวันคล้อยต่ำลง

อวิ๋นฝูหลิงเลือกฟืนที่ตากแห้งบางส่วน เตรียมนำไปทำอาหาร

ยามนี้อยู่ในป่าไม่ค่อยสะดวกสบาย หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง อวิ๋นฝูหลิงก็อยากทำน้ำแกงเห็ดรวม กินกับหมั่นโถว

ฝีมือทำกับข้าวของอวิ๋นฝูหลิงไม่เลว บวกกับความสดใหม่ของเห็ดป่า จึงเกิดเป็นกลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ

อวิ๋นจิงมั่วนั่งอยู่ข้างหม้อ สูดดมกลิ่นหอมที่โชยออกมา พลางกลืนน้ำลาย “หอมมาก หอมมาก…”

หลังจากพวกลูกพี่อู๋เก็บฟืนตักน้ำกลับมา เห็นอวิ๋นฝูหลิงไม่ได้สั่งให้ทำสิ่งใด จึงหาที่ด้านข้างนั่งลง

ขณะนี้เมื่อได้กลิ่นหอม พวกเขาชะเง้อคอมองอย่างลืมตัว

หลังจากน้ำแกงเห็ดรวมทำเสร็จแล้ว อวิ๋นฝูหลิงตักให้อวิ๋นจิงมั่วหนึ่งถ้วย

อวิ๋นจิงมั่วถือถ้วยเอาไว้ เขาไม่ดื่มแต่กลับย้อนถาม “ท่านแม่ ข้ามอบน้ำแกงถ้วยนี้ให้ท่านอาคนนั้นได้หรือไม่?”

เมื่ออวิ๋นฝูหลิงหันมองตามสายตาอวิ๋นจิงมั่ว พลันเห็นชายบาดเจ็บที่ช่วยอวิ๋นจิงมั่วเอาไว้ก่อนหน้านี้ เขากำลังพิงเสาพักผ่อนอยู่ไม่ไกล

อวิ๋นฝูหลิงสบตาของลูกชายที่ดำขลับ จึงไม่อยากปฏิเสธ

นางพยักหน้า “ไปสิ”

“ขอบคุณท่านแม่”

อวิ๋นจิงมั่วฉีกยิ้ม แล้วรีบยกน้ำแกงเห็ดไปหาอีกฝ่ายทันที

เซียวจิ่งอี้กำลังหลับตาพักผ่อน ทันใดนั้นรู้สึกว่ามีคนเข้าใกล้

เขาลืมตาขึ้น พลันเห็นอวิ๋นจิงมั่วยื่นน้ำแกงในมือมาตรงหน้า “ท่านอา ดื่มน้ำแกง”

เซียวจิ่งอี้ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นยื่นมือไปรับ

เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง อวิ๋นจิงมั่วได้จากไปแล้ว

เมื่อได้กลิ่นหอมของน้ำแกงเห็ด ท้องของเซียวจิ่งอี้ก็ร้องขึ้นมาทันที

เขาเองก็ไม่ยึกยัก ทันใดนั้นยกถ้วยน้ำแกงขึ้นดื่ม

บุญคุณนี้ ภายหน้าเขาต้องตอบแทนแน่นอน

หลังจากอวิ๋นฝูหลิงตักน้ำแกงสองถ้วย เห็นว่าภายในหม้อยังมีน้ำแกงอยู่มาก จึงกวักมือเรียกพวกลูกพี่อู๋

“น้ำแกงที่เหลือเป็นของพวกเจ้า”

ระหว่างที่พูด อวิ๋นฝูหลิงหยิบหมั่นโถวมาสี่ลูก แล้วแจกให้พวกเขาทุกคน

จากนั้นนางไม่สนใจพวกเขา พาอวิ๋นจิงมั่วไปนั่งกินข้าวเย็นอีกที่หนึ่ง

รสชาติน้ำแกงเห็ดป่าอร่อยมาก เมื่อดื่มเข้าไป ทำให้รู้สึกสบายอย่างมาก

บวกกับหมั่วโถวที่นุ่มเด้ง รู้สึกว่าชีวิตช่างสมบูรณ์แบบเหลือเกิน

Bab terkait

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 11

    อวิ๋นฝูหลิงชิมน้ำแกงเห็ดคำหนึ่ง ต่อหมั่นโถวอีกคำด้วยความเพลิดเพลินหลังคราวโลกวิบัติอมนุษย์ครองเมือง พืชพันธุ์กลายพันธุ์ ทำให้อาหารขาดแคลน จะหาเห็ดป่าหอมหวานสดใหม่เช่นนี้ได้จากที่ไหนอีกแม้ต่อมาฐานปฏิบัติการจะพยายามวิจัยเพาะพันธุ์พืชบางชนิด แต่ผลผลิตที่ได้กลับน้อยนิดหมั่นโถวสิบกว่าลูกที่อวิ๋นฝูหลิงเก็บเอาไว้ในมิติ ก็ล้วนเป็นสิ่งที่นางใช้เส้นสาย พึ่งคะแนนสมทบซื้อมาได้อย่างยากลำบากเมื่อครู่ให้พวกลูกพี่อู๋ทั้งสี่คนไป อาลัยอาวรณ์เสียจนหืดขึ้นคอแต่ถ้าอยากให้ม้าวิ่งก็มีแต่ต้องให้อาหารม้านางต้องการชักนำพวกลูกพี่อู๋มาเป็นพวกของนางโดยเบ็ดเสร็จ ให้พวกเขาจงรักภักดีเชื่อฟังนางอย่างสุดจิตสุดใจแต่เพียงผู้เดียว การลงทุนด้วยหมั่นโถวขาวสี่ลูกนี้จึงนับว่าได้หว่านเมล็ดแล้วอีกอย่าง จากการสังเกตคร่าวๆ โลกนี้มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งไม่ได้อยู่ในช่วงระส่ำระสาย การหุงหาอาหารจึงไม่ใช่เรื่องยากนักอวิ๋นฝูหลิงมีความคิดแล่นโลดอยู่ในใจ วางแผนชีวิตวันข้างหน้าของตนทว่าลูกพี่อู๋ทั้งสี่ต่างเมียงมองดูหมั่นโถวขาวในมือ ค่อยๆ กลืนน้ำลายลงเฮือกหมั่นโถวจากแป้งขาวเชียวนะ!แม่นางอวิ๋นไม่เพียงแต่แบ่งอาหาร

    Terakhir Diperbarui : 2024-09-24
  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 12

    เพียงแต่ศาสตร์ฝังเข็มฉบับตกทอดในสกุลอวิ๋นที่นางเคยเรียน มีเพียงครึ่งแรกเท่านั้นว่ากันว่าอีกส่วนหนึ่งสาบสูญไปตอนบ้านเมืองระส่ำระสาย ดังนั้นลูกหลานสกุลอวิ๋นที่เรียนศาสตร์ฝังเข็ม จึงได้เรียนเพียงส่วนที่เหลืออยู่ แต่ศาสตร์ฝังเข็มฉบับนั้นก็ละเอียดมาก แม้จะมีเพียงครึ่งเดียว ก็มากพอจะทำให้สกุลอวิ๋นตั้งตัวในแดนซิ่งหลินได้อวิ๋นฝูหลิงเปิดดูศาสตร์ฝังเข็มสกุลอวิ๋นในมือออกดู พบว่าศาสตร์ฝังเข็มที่บันทึกไว้มีเนื้อหาเยอะกว่าครึ่งที่ตกทอดในสกุลอวิ๋นอยู่มากศาสตร์ฝังเข็มสกุลอวิ๋นในมือนางนี้ ดูท่าจะเป็นฉบับสมบูรณ์ เหตุใดศาสตร์ฝังเข็มที่สกุลอวิ๋นตกทอดกันมา จึงปรากฏอยู่ที่นี่ได้?หรือว่าเจ้าของร่างเดิมกับสกุลอวิ๋นชาติที่แล้วของนางจะเกี่ยวข้องกัน? ไม่ใช่ว่าเป็นบรรพบุรุษสกุลอวิ๋นของนางหรอกหรือ?ในใจอวิ๋นฝูหลิงผุดข้อสงสัยขึ้นมากมายแม้ความทรงจำที่เจ้าของร่างเดิมเหลือให้นางจะไม่สมบูรณ์นัก แต่ว่าอวิ๋นฝูหลิงกลับรู้สึกได้ว่าฐานะของเจ้าของร่างเดิมเกรงว่าจะไม่ธรรมดาลูกหลานตาสีตาสา มีหรือจะจ้างแม่นมมาให้เด็กน้อยบ้านตนได้?อีกอย่างเจ้าของร่างเดิมกับแม่นมยังใช้ฐานะแม่กับลูกสาว ใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อนอยู่

    Terakhir Diperbarui : 2024-09-24
  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 13

    อวิ๋นฝูหลิงเอ่ย “ลมภายนอกเข้าสู่ร่างกาย อีกทั้งความตื่นกลัว จึงทำให้ไข้ขึ้นสูงไม่ยอมลด หากจะรักษาก็ไม่ยาก ข้าจะเขียนเทียบยาให้ ดื่มยาสักสองวันเป็นอันใช้ได้”เฉินเหล่าต้าได้ยินว่าลูกตนตื่นกลัว ก็นึกถึงเรื่องวันก่อนที่ตบนางไปฝ่ามือหนึ่ง ในใจเกิดรู้สึกผิดขึ้นมาบ้างสะใภ้ใหญ่เฉินดวงตาแดงก่ำ “รบกวนแม่นางอวิ๋นแล้ว ส่วนค่าหยูกยา...”สะใภ้ใหญ่เฉินยังพูดไม่ทันจบ คนสกุลเฉินคนอื่นๆ ก็ต่างกระโดดเข้าวง เอ่ยขึ้นอย่างเหน็บแนม“บ้านเรามีเงินจ่ายค่ายาให้ต้ายาที่ไหนกัน!”“ของขาดทุนแท้ๆ แค่ทนเอาสักหน่อยก็หายแล้วเชียว”“ลำเอียงให้รักก็แล้ว ยังต้องมาเสียเงินซื้อหยูกยา”“พวกเจ้าให้นางรักษา เช่นนั้นค่าหยูกยาพวกเจ้าต้องเป็นคนจ่าย!”เฉินเหล่าต้ารู้ดีว่าการลี้ภัยในครั้งนี้ แม่จะต้องเอาทุกสิ่งอย่างที่มีติดมาด้วยเป็นแน่ ไม่มีทางไร้เงินติดกายเขามองไปยังลูกสาวที่จับไข้จนหน้าแดงเถือก แม้เมื่อเผชิญหน้ากับแม่บังเกิดเกล้าตนจะไม่กล้ามีปากมีเสียงทว่าก็ยังเปิดปากพูด “ท่านแม่ พวกข้ามีเงินเสียที่ไหน? เงินที่พวกข้าหามาได้ก็ให้ท่านแม่ไปหมดแล้ว...”แม่เฒ่าเฉินจ้องเขม็ง “ที่เจ้าดื่มเจ้ากินก็ล้วนเป็นของที่บ้าน ได้

    Terakhir Diperbarui : 2024-09-24
  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 14

    ปฏิกิริยาแรกของอวิ๋นซานหูคือ อวิ๋นฝูหลิงจะต้องซื้อยาลูกกลอนมาจากสำนักช่วยชีพเป็นแน่แต่ยาลูกกลอนของสำนักช่วยชีพราคาสูงลิบลิ่ว ตลอดมาเสนอขายให้กับคนมีลาภยศเท่านั้นอวิ๋นฝูหลิงหญิงบ้านนอก สวมเสื้อผ้าซอมซ่อ จะซื้อยาลูกกลอนของสำนักช่วยชีพไหวได้อย่างไร?นึกไม่ถึงว่าอวิ๋นฝูหลิงกลับบอกว่ายาลูกกลอนนี้นางทำขึ้นมาเองจะเป็นไปได้อย่างไร?ยาลูกกลอนนี้เป็นสูตรลับของสำนักช่วยชีพ นอกจากสกุลอวิ๋นของพวกนางแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดทำออกมาได้! สำนักแพทย์ในราชวงศ์ต้าฉีไม่ได้มีเพียงสำนักช่วยชีพสำนักเดียว สำนักอื่นจะไม่อิจฉาตาร้อนการค้าของสำนักช่วยชีพหรือ?ย่อมไม่ใช่ เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่อาจทำยาลูกกลอนเช่นสำนักช่วยชีพออกมาได้ จึงแย่งชิงส่วนแบ่งไปไม่ได้เท่านั้นเองอวิ๋นซานหูจ้องเขม็งไปยังอวิ๋นฝูหลิง น้ำเสียงกดดันคน “เจ้าโกหก คนอย่างเจ้าจะทำยาลูกกลอนออกมาได้อย่างไร?”อวิ๋นฝูหลิงร้อง “หา?”ใบหน้านางเปี่ยมด้วยความสงสัยก็แค่ยาลูกกลอนเม็ดเดียวเท่านั้น ทำไมนางจะทำออกมาไม่ได้?อวิ๋นฝูหลิงกำลังจะโต้กลับ ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากข้างกาย “แม้ยาลูกกลอนจะทำขึ้นโดยผู้อาวุโสอวิ๋นแห่งสำนักช่วยชีพ ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้อื

    Terakhir Diperbarui : 2024-09-24
  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 15

    ยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งต่อหนึ่งตำลึงเงิน แม้ว่าเงินนี้แม่เฒ่าเฉินไม่ใช่คนออก นางก็ยังรู้สึกเสียดายจนลมแทบจับอย่างไรนางก็นับว่าสินเดิมของลูกสะใภ้เป็นทรัพย์สินของตนอยู่นานแล้วลูกสะใภ้ใช้จ่ายสินเดิมของตน ก็เท่ากับว่าใช้เงินของนางไม่ใช่หรือ?ทว่าสิ่งที่อวิ๋นซานหูจดจ่อคือยาลูกกลอนของสำนักช่วยชีพ ราคาถูกที่สุดก็ยังสิบตำลึงเงินต่อหนึ่งเม็ดอวิ๋นฝูหลิงขายเพียงหนึ่งตำลึงเงินต่อหนึ่งเม็ด ขายตัดราคาเช่นนี้ ในใจนางจึงอยู่ไม่สุขยิ่งหากยาลูกกลอนไม่ใช่สิ่งที่สำนักช่วยชีพครอบครองแต่เพียงผู้เดียวแล้ว อีกทั้งราคายังถูกถึงขั้นหนึ่งตำลึงเงินต่อหนึ่งเม็ด ใครจะมาซื้อยาลูกกลอนของสำนักช่วยชีพอีก? เช่นนั้นก็ไม่เป็นผลดีต่อสำนักช่วยชีพแล้ว!ทว่าคนสองคนคิดเห็นเช่นไร ต่างไม่มีใครสนใจสะใภ้ใหญ่เฉินไปนำเงินมาโดยไม่ได้ปริปากแต่นางมีไหวพริบ ไม่ได้ตรงไปเอาตำลึงเงินหรือเหรียญอีแปะโดยตรง แต่หยิบเอาปิ่นปักผมเงินสลักดอกเหมยซึ่งเป็นสินเดิมของนางออกมาปิ่นปักผมชิ้นนี้มีเพียงส่วนดอกเหมยของปิ่นที่ทำจากเงิน อีกอย่างเมื่อเวลาผ่านไป เนื้อเงินก็เปลี่ยนเป็นสีดำแล้ว อย่างมากราคาก็เพียงหนึ่งตำลึงเงินอวิ๋นฝูหลิงเหลือบมองสะ

    Terakhir Diperbarui : 2024-09-24
  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 16

    หลังจากทั้งสองนั่งลงบนก้อนหินแล้ว อวิ๋นฝูหลิงจึงเอ่ยถาม “ข้าเห็นแม่นางที่ชื่ออวิ๋นซานหูหยิ่งทะนงตนนัก นางบอกว่านางเป็นคนของจวนจี้ชุนโหว สำนักช่วยชีพก็เป็นของบ้านนาง จวนจี้ชุนโหวกับสำนักช่วยชีพร้ายกาจมากเลยหรือ?”มีความประหลาดใจเสี้ยวหนึ่งวาบผ่านแววตานายท่านหางสำนักช่วยชีพมีอยู่ทั่วเขตปกครองต่างๆ ของต้าฉี เกรงว่าราษฎรของต้าฉีไม่มีใครไม่รู้จักสำนักแพทย์แห่งนี้แต่เมื่อคิดว่าหมู่บ้านหลินซานตั้งอยู่ในภูเขาพื้นที่อันห่างไกล ชาวบ้านไม่รู้ข่าวก็ไม่แปลกเขากล่าวอธิบาย “พูดถึงจวนจี้ชุนโหวกับสำนักช่วยชีพ ก็ต้องพูดถึงหมอเทวดาผู้เฒ่าอวิ๋นของสกุลอวิ๋น”“เล่ากันว่าหมอเทวดาผู้เฒ่าอวิ๋นมาจากเกาะเย่าหวัง ตอนนั้นออกจากเกาะเพื่อสั่งสมประสบการณ์ บังเอิญฮ่องเต้เกาจู่ก่อกบฏ ทุกที่เต็มไปด้วยสงคราม”“ครั้งหนึ่งในสงคราม ฮ่องเต้เกาจู่ถูกลูกธนูยิง ชีวิตตกอยู่ในอันตราย และหมอเทวดาผู้เฒ่าอวิ๋นก็ผ่านมาพอดี จึงช่วยชีวิตฮ่องเต้เกาจู่ไว้”“ต่อมาหมอเทวดาผู้เฒ่าอวิ๋นได้เข้าสังกัดภายใต้บัญชาของฮ่องเต้เกาจู่ในฐานะแพทย์ทหาร”“ต่อมาฮ่องเต้เกาจู่สยบทั่วหล้า สถาปนาราชวงศ์ต้าฉี แต่งตั้งขุนนางตามผลงาน”“หมอเทวดาผู้เฒ่

    Terakhir Diperbarui : 2024-09-24
  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 17

    ต่อให้นายท่านหางจะไม่พอใจอย่างไรก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างไรเสียทักษะเขาก็สู้ผู้อื่นไม่ได้เองใครใช้ให้พวกเขาทำยาลูกกลอนนี่ไม่เป็นเองเล่า?แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้วสายตาของนายท่านหางตกที่อวิ๋นฝูหลิง เริ่มครุ่นคิดในใจถ้าหากเขาสามารถชักชวนอวิ๋นฝูหลิงมาเป็นพวก จัดหายาลูกกลอนให้สำนักผิงอันได้เป็นระยะ เช่นนั้นสำนักผิงอันก็จะมีข้อได้เปรียบมากกว่าสำนักแพทย์อื่นๆในวันข้างหน้าอาจมีชื่อเสียงโด่งดังกว่าสำนักช่วยชีพก็เป็นไปได้ในฐานะที่เป็นทายาทโดยตรงของสกุลหาง ข่าวสารของนายท่านหางจึงไวมากเขาได้ยินมาว่าตั้งแต่จี้ชุนโหวรุ่นแรกเสียชีวิต นายท่านรองของจี้ชุนโหวผู้นั้นก็แบกรับกิจการขนาดใหญ่ของสกุลอวิ๋นไม่ไหวประการแรกเป็นเพราะฝีมือการแพทย์ของเขาธรรมดา ไม่ได้ล้ำเลิศเหมือนที่ป่าวประกาศต่อโลกภายนอกประการที่สอง เพราะชาติกำเนิดของเขาไม่ได้ถูกหลักทำนองคลองธรรมมากนัก ลือกันว่าเขาไม่ใช่ทายาทของสกุลอวิ๋นแม้ไม่รู้ว่าข่าวนี้จริงหรือเท็จ แต่หากไม่มีลม ไหนเลยจะมีคลื่น[1]ด้วยเหตุนี้คนเก่าคนแก่มากมายของสำนักช่วยชีพจึงไม่พอใจนายท่านรองของจวนจี้ชุนโหวผู้นี้เท่าไรนัก แม้ชั่วขณะภายนอกยังมองอะไรไม่ออก แต่ภาย

    Terakhir Diperbarui : 2024-09-24
  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 18

    แม้บนใบหน้าติงหมิงรุ่ยเต็มไปด้วยความผิดหวัง แต่ก็ไม่ได้รบเร้า เขาประสานมือกล่าว “รบกวนแล้ว” จากนั้นก็จากไปอวิ๋นซานหูเห็นญาติผู้พี่กลับมา เดินเข้าไปกระตุกแขนเสื้อของเขาพลางกล่าวถามทันที “ญาติผู้พี่ ท่านไปหาหญิงผู้นั้นทำไม?”แม้ติงหมิงรุ่ยไม่ชอบน้ำเสียงที่สอบถามของอวิ๋นซานหู กลับยังกล่าวอธิบายอย่างอดทน “เจ้าสงสัยที่มาของยาลูกกลอนที่นางเอาออกมาไม่ใช่หรือ? เดิมทีข้าอยากขอซื้อกับนางเม็ดหนึ่งมาลองศึกษาดูดีๆ ใครจะรู้ว่านางขายสองเม็ดที่เหลือให้นายท่านหางไปแล้ว”เดิมทีติงหมิงรุ่ยภูมิใจในตัวเองมากเขาพรสวรรค์โดดเด่น มีชื่อเสียงตั้งแต่ยังเยาว์วัย เป็นหมอเทวดาน้อยที่มีชื่อเสียงในเขตปกครองลั่วอันออกจากบ้านครั้งนี้ ท่านปู่ยังได้บอกเขาว่าถึงเวลาที่ควรออกไปเปิดหูเปิดตาแล้ว จะได้รู้ว่าเหนือคนยังมีคนเดิมทีเขาไม่เก็บเอาคำพูดนี้มาใส่ใจ กระทั่งเจอแม่นางอวิ๋นตอนแรกใช้วิธีแปลกๆ ช่วยชีวิตเด็กที่พุทราติดคอ จากนั้นก็นำยาลูกกลอนลดไข้ออกมาติงหมิงรุ่ยที่เย่อหยิ่งเหมือนถูกคนชกอย่างแรงจนเกิดรอยร้าวแม้เขาไม่พอใจนัก ในใจกลับต้องยอมรับ แม่นางอวิ๋นผู้นั้นมีความสามารถพอสมควรส่วนอวิ๋นซานหูไม่รู้คิดอะไร จู

    Terakhir Diperbarui : 2024-09-24

Bab terbaru

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 204

    เมื่ออวิ๋นจิงมั่วกลับมา เห็นซี่โครงผัดเปรี้ยวหวาน ผักกาดขาวผัดลูกชิ้น และกุ้งผัดซอส ก็รู้วืท่านแม่เป็นคนทำอาหารด้วยตัวเองอวิ๋นจิงมั่วโผเข้าไปในอ้อมกอดของอวิ๋นฝูหลิงอย่างมีความสุข “ท่านแม่ ท่านดีที่สุดเลยขอรับ!”หลายวันมานี้อวิ๋นฝูหลิงยุ่งมากมาโดยตลอด จึงไม่มีเวลาและเรี่ยวแรงมาทำอาหารให้เขากินอวิ๋นจิงมั่วรู้ความจึงไม่ได้รบกวนแม่ แต่ในใจกลับอยากกินอาหารที่แม่ทำเป็นอย่างมากอาหารที่แม่ทำอร่อยที่สุดในใต้หล้า!วันนี้อวิ๋นฝูหลิงก็อารมณ์ดีเช่นกัน คิดว่าไม่ได้ทำอาหารมาหลายวัน จึงทำอาหารมาหลายจานยามนี้เมื่อเห็นท่าทางมีความสุขของอวิ๋นจิงมั่ว อวิ๋นฝูหลิงก็อดไม่ได้ที่จะใคร่ครวญตัวเอง หลายวันมานี้นางละเลยอวิ๋นจิงมั่วไปจริงๆตั้งแต่อวิ๋นจิงมั่วกับเซียวจิ่งอี้รู้จักกันในฐานะพ่อลูก อวิ๋นฝูหลิงก็มักจะให้อวิ๋นจิงมั่วไปอยู่กับเซียวจิ่งอี้ ในขณะที่นางให้ความสนใจอยู่กับเรื่องของตัวเองอวิ๋นฝูหลิงจิ้มจมูกของอวิ๋นจิงมั่ว “ดูดินบนตัวสิ สกปรกเชียว รีบไปล้างเร็ว”อวิ๋นฝูหลิงตักน้ำมาแล้ว ขณะที่อวิ๋นจิงมั่วล้างมือ ก็เล่าเรื่องที่ไปเล่นกับเพื่อนของเขาให้อวิ๋นฝูหลิงฟังอย่างมีความสุข“พวกพี่ฉางจี๋พาข้าไ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 203

    สวนสมุนไพรรวมถึงโรงปรุงยา จำเป็นต้องใช้แรงงานไม่น้อย แต่นี่หาใช่เรื่องเล็ก นางจะเป็นต้องวางแผนให้ดีอวิ๋นฝูหลิงครุ่นคิด พลางสำรวจพื้นที่รอบหมู่บ้านซวงหลิน เพื่อดูว่ามีสถานที่ใดเหมาะแก่การสร้างสวนสมุนไพรกับโรงปรุงยาหลังจากสำรวจแล้ว ก็มีสถานที่ที่เข้าตาอยู่สองที่เมื่อกลับมา อวิ๋นฝูหลิงก็เรียกลูกพี่อู๋มาสั่งงาน “เจ้าลองไปสอบถามดูเสียหน่อย ว่ายอดเขาทางเหนือของหมู่บ้านมีเจ้าของหรือไม่? รวมถึงพื้นที่รกร้างใกล้แม่น้ำที่ท้ายหมู่บ้านด้วย หากไม่มีเจ้าของ ก็สอบถามราคาและทางเข้าที่นี่มา ดูด้วยว่าจะซื้อได้อย่างไร?”ลูกพี่อู๋กำลังจะตอบกลับ คาดไม่ถึงว่าจะเหยากวงจะเอ่ยขึ้นมาอย่างกะทันหัน “นายท่าน เรื่องนี้ให้ข้าจัดการได้หรือไม่?”ก่อนหน้านี้ยามที่เหยากวงเคยไปเดินรอบหมู่บ้านกับอวิ๋นฝูหลิง ก็พบว่านางมองที่ดินรกร้างและยอดเขานอกหมู่บ้านอยู่ตลอดแม้จะเป็นที่ดินรกร้าง แต่หากต้องการซื้อก็ต้องผ่านทางการ เรื่องที่ต้องติดต่อกับทางการ ให้เขาจัดการย่อมดีกว่ามอบหมายให้ลูกพี่อู๋ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องอื่น เพียงแค่เอ่ยนามของอี้อ๋อง ข้าราชการระดับล่างย่อมแย่งกันรับหน้าที่นี้ไปจัดการยิ่งไปกว่านั้นที่ยังเป็นโ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 202

    นางไม่เพียงแต่ลดความกังวลในใจได้ ทว่ายังแก้ไขปัญหาเรื่องงานของพวกชาวบ้านได้อีกด้วย ทำให้พวกเขามีรายได้ระยะยาวแต่ยามนี้ยังมิใช่เวลาที่ควรพูดเรื่องนี้นางนั่งอยู่ที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านโจวครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวลาและจากมาหลังจากอวิ๋นฝูหลิงออกไป ฟางซื่อภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านโจวก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า “ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน ท่านพูดยืดยาวถึงเพียงนั้น เหตุใดไม่บอกแม่นางอวิ๋นไปตามตรงเล่า”“นางทำงานเป็นหมออยู่ในเมือง ทั้งยังรู้จักคนใหญ่คนโต หากนางยอมช่วย การจะหางานให้คนในหมู่บ้านย่อมไม่ใช่เรื่องยากเป็นแน่”หัวหน้าหมู่บ้านโจวร้อนใจมาโดยตลอด หลายวันมานี้ก็ทอดถอนใจ ทั้งยังกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะเรื่องการดำรงชีวิตของคนในหมู่บ้านฟางซื่อเห็นก็ทุกข์ใจเช่นกันนางคิดว่าหากอวิ๋นฝูหลิงช่วย ครอบครัวของตนย่อมได้ประโยชน์ไปด้วยพวกลูกชายย่อมล้วนออกไปทำงาน และมีรายได้มากขึ้นแม้ความเป็นอยู่ของสกุลโจวจะดีกว่าคนอื่นเล็กน้อย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเช่นกันยามนี้มาอยู่อาศัยที่ใหม่ ย่อมมีค่าใช้จ่ายไปเสียทุกอย่างหากไม่คิดหาหนทางสร้างรายได้ ก็ทำได้เพียงนั่งกินนอนกินมิใช่หรือ?หัวหน้าหมู่บ้านโจวกลอกตาใส่ฟ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 201

    อวิ๋นฝูหลิงไปหานายช่างใหญ่อวี่เพื่อดูความคืบหน้าในการก่อสร้างเรือนและได้ทราบว่าอีกประมาณสองวันก็เสร็จแล้วหลังจากเดินชมเรือนหลังใหม่จนทั่ว อวิ๋นฝูหลิงจึงเพิ่งเก็บข้างของ และไปพูดคุยกับหัวหน้าหมู่บ้านโจวเห็นอวิ๋นฝูหลิงนำขนมและผลไม้มา หัวหน้าหมู่บ้านโจวก็มีรอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้า ขณะที่พูดว่าแพงเกินไปและปฏิเสธที่จะรับไว้ แต่ในใจกลับรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งขนมกับผลไม้เหล่านี้แม้จะไม่มีราคาเท่าเนื้อปลา แต่ก็มิใช่ของราคาถูกเช่นกันโดยเฉพาะขนมซึ่งมีความประณีตเป็นอย่างมาก ซึ่งดูต่างจากขนมในร้านรวงธรรมดาทั้งยังมีลูกท้อสีชมพูขาวสดใหม่ที่แต่ละลูกมีขนาดเท่ากำปั้น และแตงโมเหลืองอร่ามซึ่งมีกลิ่นหอม ทุกอย่างล้วนเป็นผลไม้ชั้นดีที่พวกเขาไม่เคยกินมาก่อนอวิ๋นฝูหลิงกล่าวว่า “ทั้งหมดนี้ล้วนซื้อมาจากที่หัวเมือง ท่านกินตอนที่มันยังสด ๆ อยู่เถอะ”“หลายวันมานี้ที่ข้าไม่อยู่ในเรือน เรื่องมากมายในเหย้าก็รบกวนให้ท่านดูแล”“เรือนข้าสร้างเสร็จเร็วถึงเพียงนี้ นับว่าเป็นเพราะท่านแล้ว”“ลูกพี่อู๋บอกข้าว่า ท่านพาคนไปช่วยสร้างเรือนหลายคน”หัวหน้าหมู่บ้านโจวโบกไม้โบกมือ ใบหน้าชราแดงขึ้นเล็กน้อย “หาได้ช่วย

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 200

    หมอซุนก็มองเห็นอวิ๋นฝูหลิงเช่นกันสีหน้าหมอซุนดูไม่ดีนัก และไม่นานก็หันหน้าหนี แล้วขับรถล่อออกจากประตูเมืองฝั่งทิศใต้อย่างเร่งรีบแล้วค่อนข้างเหมือนการหนีเอาชีวิตรอดในใจอวิ๋นฝูหลิงก็รู้สึกไม่ดีนักแต่นางไม่ได้เห็นใจหมอซุน อย่างไรก็ตามหมอซุนเป็นคนเสนอประลองวิชาแพทย์ในเมื่อเขาทำได้ ก็ต้องยอมรับผลลัพธ์นี้ให้ได้สมมุติว่าคนที่แพ้การประลองวิชาแพทย์ในวันนั้นคือนาง เกรงว่าหมอซุนกับสำนักช่วยชีพมีแต่จะปรบมือตะโกนว่าดี หลังจากนั้นก็ขับไล่นางออกจากเขตปกครองเจียงหนิง ไม่มีทางเกิดความเมตตาต่อนางแน่นอนแม้อวิ๋นฝูหลิงไม่ถึงกับซ้ำเติมหมอซุน แต่นางก็ไม่ใช่แม่พระอยู่บนโลกใบนี้ ทุกคนล้วนต้องรับผิดชอบคำพูดและการกระทำของตัวเองต่างคนต่างมีการปฏิบัติของตัวเองหมอซุนสำหรับอวิ๋นฝูหลิง เป็นเพียงเหตุการณ์แทรกเล็กๆ ทำให้เกิดคลื่นในใจอวิ๋นฝูหลิงเพียงเล็กน้อย และไม่นานก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยรถม้าแล่นออกจากเมือง มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านซวงหลินจู่ๆ ชาวบ้านที่อยู่หน้าหมู่บ้านเห็นรถม้าที่หรูหราคันหนึ่ง ยังมีคนเดินตามข้างรถม้าหลายคน ขณะเดียวกับที่สงสัย ในใจก็ระแวงเล็กน้อยเช่นกันและมีคนในหมู่บ้านไปรายงานห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 199

    “ดังนั้นท่านพ่อให้ข้าไปสองสามวันก็กลับ และต้องพาท่านแม่กลับมาด้วย”“ท่านพ่อยังบอกอีกว่า ให้ข้าจับตาดูคนที่อยู่ข้างกายท่านไม่ให้ดี ห้ามมีคนมาแย่งท่านแม่กับเขา”“ถ้าหากมีคนเอาใจท่านแม่ ต้องแอบบอกท่านพ่อขอรับ”อวิ๋นจิงมั่วขายเซียวจิ่งอี้อย่างหมดเปลือกแม้เขาชอบเซียวจิ่งอี้พ่อคนนี้มาก แต่ลึกๆ ในใจยังสนิทกับอวิ๋นฝูหลิงมากกว่า อวิ๋นฝูหลิงฟังแล้วหน้าบึ้งทันที แต่ก็รู้สึกขำเล็กน้อยอย่างน่าประหลาดคิดในใจถ้าหากเซียวจิ่งอี้รู้ว่าอวิ๋นจิงมั่วลูกชายคนดีคนนี้ของเขาขายเขาจนหมดเปลือก ไม่รู้จะรู้สึกอย่างไรนางหยิกแก้มของอวิ๋นจิงมั่ว กล่าวอย่างหยอกล้อ “เจ้าน่ะรู้จักช่วยพ่อของเจ้า และยังช่วยเขาดูข้า เหตุใดไม่ช่วยแม่เจ้าดูเขาบ้างเลย?”อวิ๋นจิงมั่วแสดงผลงานทันที “ข้าย่อมช่วยท่านแม่อยู่แล้ว”อวิ๋นจิงมั่วแอบกล่าวกับอวิ๋นฝูหลิง “วันนั้นมีขุนนางคนหนึ่ง ส่งพี่สาวสวยๆ มาให้ท่านพ่อหลายคน ท่านพ่อโกรธมาก จับขุนนางคนนั้นไปโบย และยังไล่พี่สาวสวยๆ พวกนั้นออกมาจากสวนด้วย”“ฮึ่มๆ ข้าเห็นทั้งหมด ข้าบอกกับท่านพ่อแล้ว ข้าไม่เอาแม่เลี้ยง!”“แม่เลี้ยงล้วนเป็นคนไม่ดี!”“ถ้าหากท่านพ่อจะหาแม่เลี้ยงให้ข้า ข้าก็ไม่เ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 198

    อวิ๋นฝูหลิงเห็นเสื้อผ้าอวิ๋นจิงมั่วเปียกไปหมดแล้ว จึงพาเขาไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดดีที่ตอนนี้เป็นหน้าร้อน ไม่เช่นนั้นสวมเสื้อผ้าเปียกๆ ต้องเป็นหวัดแน่อวิ๋นจิงมั่วเห็นท่านแม่เขม็งใส่ท่านพ่อเงียบๆ หลายที รีบอธิบายแทนท่านพ่อทันที “ท่านแม่ ท่านพ่อได้สั่งให้คนเอาเสื้อผ้ามาให้ข้าเปลี่ยนแล้ว แต่ข้ารู้สึกว่ามันยุ่งยากเกินไป กลับมาแล้วค่อยเปลี่ยนก็สิ้นเรื่อง”พลันเซียวจิ่งอี้อุ่นใจ คิดในใจว่าช่างเป็นลูกที่ดีจริงๆอวิ๋นฝูหลิงพ่นลมออกจากจมูกเบาๆ ทีหนึ่งโดยไม่พูดอะไรหลังจากอวิ๋นจิ่งมั่วเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ คนทั้งครอบครัวนั่งรวมกันกินฝักบัวเซียวจิ่งอี้นำฝักบัวกลับมาเยอะมากที่อวิ๋นจิงมั่วเก็บเองมีเพียงส่วนน้อย ส่วนใหญ่ล้วนเก็บโดยพวกเซียวจิ่งอี้อย่างไรเสียอวิ๋นจิ่งมั่วก็ตัวเล็กไม่มีแรง เก็บไม่ได้เท่าไรอวิ๋นฝูหลิงฉีกฝักบัว แกะเมล็ดบัวที่อยู่ข้างในออกมาเมล็ดบัวสดนุ่มหวาน ทำให้กินแล้วอยากกินอีกอวิ๋นฝูหลิงไม่ได้กินเมล็ดบัวที่สดนุ่มหวานเช่นนี้มานานมากแล้วตอนวันโลกาวินาศ ทุกที่ล้วนเต็มไปด้วยอมนุษย์ พืชพันธุ์มากมายล้วนปนเปื้อนมลพิษ อวิ๋นฝูหลิงก็ไม่เคยเห็นสระบัวและเมล็ดบัวอีกเ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 197

    ฮูหยินถังพยักหน้าให้สามี จากนั้นเอ่ยปากด้วยรอยยิ้ม “แม่นางอวิ๋นสามารถรักษาโรคของลูกได้ จ่ายเทียบยาแล้ว และทาขี้ผึ้งแล้ว อีกไม่กี่วันผื่นก็จะหายไปเอง”ในที่สุดหัวใจของท่านเจ้าเมืองถังก็สงบลงเขากังวลมากเกินไปแล้ว ที่จริงแค่เห็นเมื่อครู่ภรรยาเดินออกมาด้วยรอยยิ้ม ก็รู้แล้วว่าแม่นางอวิ๋นสามารถรักษาโรคของลูกสาวท่านเจ้าเมืองถังรีบประสานมือขอบคุณแม่นางอวิ๋น ทำเอาฮูหยินถังเหลือบมองอวิ๋นฝูหลิงบอกลาท่านเจ้าเมืองถังกับฮูหยินถังสองสามีภรรยาท่านเจ้าเมืองถังส่งอวิ๋นฝูหลิงออกจากประตูด้วยตัวเอง และยังกำชับคนขับรถม้าส่งแม่นางอวิ๋นกลับสวนอิ่งดีๆฮูหยินถังจ่ายค่ารักษาสองเท่า และยังสั่งให้คนเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่หนึ่งส่วน ล้วนถูกขนขึ้นรถม้านานแล้วรอหลังจากอวิ๋นฝูหลิงไปแล้ว ฮูหยินถังสั่งให้คนรับใช้ถอยออกไป จึงจะถามท่านเจ้าเมืองถังอย่างไม่เข้าใจ “แม้แม่นางอวิ๋นฝีมือการแพทย์เลิศล้ำ แต่ก็เป็นแค่สตรีสามัญชน สุภาพหน่อยก็พอแล้ว”“ท่านเป็นถึงเจ้าเมืองขั้นสี่ชั้นเอก มีแต่นางที่ต้องคำนับท่าน นอบน้อมต่อท่าน เหตุใดจึงย้อนกลับมาเป็นท่านที่นอบน้อมต่อนางเช่นนั้น?”ฮูหยินถังแปลกใจตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว รู้สึก

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 196

    อวิ๋นฝูหลิงกล่าว “ย้ายดอกดาวเรืองหม้อออกไปก่อนชั่วคราว อย่าให้คุณหนูถังเข้าใกล้อีก ถ้าหากผื่นหายแล้วไม่กำเริบอีก สาเหตุก็มาจากดอกดาวเรืองหม้อกระถางนี้ ทางที่ดีต่อไปคุณหนูถังอย่าไปสัมผัสอีก”ฮูหยินถังสวดมนต์ทันที “อมิตาภพุทธ ในที่สุดก็หาสาเหตุของโรคได้แล้ว!”ตั้งแต่ลูกสาวมีผื่นแดงตามร่างกาย ฮูหยินถังไม่ใช่ไม่เคยหาหมอมาดูแต่ร่างกายของเด็กผู้หญิง จะให้ผู้ชายที่เป็นคนนอกมาดูได้อย่างไร ดังนั้นหมอผู้ชายจึงทำได้เพียงตรวจชีพจรโดยมีม่านกั้น แล้วฟังนางกับสาวใช้เล่าอาการป่วยหลังจากหมอส่วนใหญ่ตรวจชีพจร ล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไฟในอกลูกสาวแกร่ง ในร่างกายมีลมร้อน ดังนั้นจึงเกิดผื่นแดงดื่มยาดับร้อนเป็นถ้วยๆ แต่ผื่นแดงบนร่างกายลูกสาวกลับไม่เห็นหายดี และยังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆอีกทั้งอีกสามเดือนก็จะเป็นวันออกเรือนของลูกสาวแล้ว ฮูหยินถังจึงร้อนใจมากสภาพเช่นนี้ของลูกสาว จะออกเรือนอย่างไร?ถ้าหากว่าที่ลูกเขยมาเห็นผื่นแดงตามใบหน้าและร่างกายของลูกสาว จะไม่ตกใจจนวิ่งหนีหรือ ชีวิตในวันข้างหน้าจะสมบูรณ์ได้อย่างไร?ช่วงนี้ท่านเจ้าเมืองถังกับฮูหยินถังกังวลจนกินไม่ได้นอนไม่หลับบังเอิญวันนั้นท่านเจ้

DMCA.com Protection Status