แชร์

ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ผู้แต่ง: จี้เวยเวย

บทที่ 1

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
ราชวงศ์ฉู่โยว เมืองหลวง

เกี้ยวเจ้าสาวสองหลังหยุดเรียงกันหน้าประตูจวนหลินโหว ตามมาด้วยเสียงประทัดฆ้องกลอง ครึกครื้นมากเป็นพิเศษ

แขกเหรื่อมาร่วมงานเห็นภาพนี้แล้วก็ตกตะลึง “เหตุใดมีเกี้ยวเจ้าสาวสองหลังกันเล่า?”

“แม่นางห้าสกุลซ่ง—ซ่งรั่วเจิน รอหลินโหวมานานสองปี ดูแลงานทั้งจวนโหวแทนเขา บัดนี้หลินโหวคว้าชัยชนะกลับมา ตบแต่งแม่นางซ่งก็คือเรื่องดีของเมืองหลวง แต่เกี้ยวเจ้าสาวเข้าประตูพร้อมกัน มิใช่ว่ายังแต่งกับคนอื่นด้วยหรือ?”

“คุณหนู ตอนนี้จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”

ซ่งรั่วเจินรู้สึกเพียงเสียงดังเอะอะอยู่ข้างหูพักหนึ่ง ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว ลืมตาทั้งสองข้างก็มองเห็นชุดแต่งงานสีแดงเข้ม?

เกิดเหตุอันใดขึ้น?

ชุดแต่งงานซิ่วเหอและเกี้ยวเจ้าสาวสีแดงเข้ม นี่มิใช่ขบวนแต่งงานหรอกหรือ?

“ท่านโหวทำเกินไปแล้ว ก่อนนี้เขาออกรบอยู่ภายนอก หากมิได้ท่านดูแลฮูหยินผู้เฒ่า ไฉนเลยเขาจะสามารถออกรบอย่างสบายใจได้? บัดนี้กลับมาอย่างยากลำบาก เขาถึงขั้นตบแต่งฉินซวงซวงเป็นภรรยาหลวงลำดับเดียวกันในวันแต่งงาน ไม่บอกกล่าวแม้คำเดียว เห็นได้ชัดว่ากำลังรังแกคุณหนู!”

เฉินเซียงยิ่งพูดยิ่งโมโห บัดนี้เกี้ยวเจ้าสาวทั้งสองหลังหยุดอยู่หน้าประตูจวนโหว มีสายตาจับจ้องมากเพียงนี้ พวกเขาเข้าไปก็ไม่ใช่ ถอยหลังก็ไม่ใช่

ท่านโหว? ฉินซวงซวง? ภรรยาหลวงลำดับเดียวกัน?

ซ่งรั่วเจินได้ยินชื่อคุ้นเคยเหล่านั้นรวมถึงฉากเบื้องหน้าแล้ว ทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่านางที่เป็นเลิศทั้งแพทย์และพิษ เจ้าสำนักวิชาเต๋าทะลุมิติเข้ามาในนิยายแล้ว!

ทะลุมิติเข้ามาในนิยายกลับชาติมาเกิดสุดฟินที่ได้อ่านเมื่อหลายวันก่อนชื่อว่า ‘เกิดใหม่ครานี้กลายเป็นภรรยาสุดโปรดของท่านโหว’ บังเอิญเหมือนกับอดีตภรรยาที่ด่วนจากไปของพระเอกเหมือนนางทุกกระเบียดนิ้ว!

เพราะชื่อนี้ นางจึงตั้งใจอ่านมากเป็นพิเศษหลายรอบ คิดเพียงอดีตภรรยาด่วนจากไปคนนี้ช่างอาภัพนัก ลงทุนลงแรงมานานหลายปีเพื่อเย็บชุดเจ้าสาวให้คนอื่นได้ประโยชน์ไปเสียอย่างนั้น

พระเอกหลินจือเยว่มีคนรักในดวงใจที่มิอาจครองคู่ดุจแสงขาวของจันทรานามว่าฉินซวงซวง แต่ชาติก่อนฉินซวงซวงตามืดบอด ปล่อยคนที่รักนางด้วยใจจริงอย่างท่านโหว ไปไล่ตามองค์ชายสามผู้สูงศักดิ์อย่างฉู่จวินถิง จนกระทั่งต่อมาตระกูลตกอับ หลินจือเยว่กลับไม่ทอดทิ้งไม่หนีจาก ทั้งสองจึงได้อยู่ด้วยกัน

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉินซวงซวงตัดสินใจเลิกเดินทางอ้อม ตบแต่งกับหลินจือเยว่ตั้งแต่เริ่มต้น ชาตินี้อยู่ร่วมกับเขาดีๆ

เดิมทีเนื้อหานี้ก็ไม่มีอันใดไม่เหมาะสม แต่อดีตภรรยาที่ด่วนจากไปทะลุมิติมา นั่นก็แตกต่างออกไปแล้ว

หลังหลินจือเยว่ถูกฉินซวงซวงปฏิเสธ เสียใจสิ้นหวังขอขันอาสาไปออกรบที่ชายแดน ทิ้งซ่งรั่วเจินที่หมั้นหมายไว้แล้วอยู่ที่บ้านช่วยดูแลมารดาเฒ่า

ซ่งรั่วเจินหนักเอาเบาสู้ตามหาหมอมีชื่อเสียงมารักษาฮูหยินผู้เฒ่าตลอดสองปี เห็นว่าจวนโหวตกอับ ก็ใช้ทรัพย์สินส่วนตนชดเชยเข้าไป เฝ้ารอหลินจือเยว่กลับมา

เดิมทีคิดว่าสมดั่งปรารถนาแล้ว ทว่ารอจนถึงวันแต่งงานอันน่าอับอาย นางก็บังเอิญทะลุมิติมาในตอนนี้พอดี!

“ชายหลายใจ ใจหนึ่งก็ต้องการอยู่ร่วมกับหญิงในดวงใจ อีกใจหนึ่งก็มิอาจหักใจในเงินทองของข้า?”

ซ่งรั่วเจินเผยสีหน้ารังเกียจ นางยังไม่ทันทำอันใด ก็ได้ยินเสียงสาวใช้อีกคน

“คุณหนูต้องคิดให้ตกนะเจ้าคะ ชายใดจะรักษาตัวใช้ชีวิตกับฮูหยินเพียงคนเดียวกันเล่า? เกี้ยวล้วนหยุดหน้าประตูจวนโหวแล้ว หากเอาแต่ใจตอนนี้ โวยวายเอิกเกริกขึ้นมาก็จัดการไม่ง่ายแล้ว!”

“เพ่ยหลาน ไยเจ้าพูดเช่นนี้? แม้ภายภาคหน้าท่านโหวต้องการแต่งอนุ นั่นก็คืออนุ ไฉนเลยจะแต่งเข้ามาเป็นภรรยาหลวงลำดับเดียวกันได้ หากเล่าลือออกไปแล้วคุณหนูของพวกเราจะกลายเป็นอะไร?” เฉินเซียงพูดอย่างกรุ่นโกรธ

สายตาทอประกายของหลินจือเยว่มองคนรักของตนฉินซวงซวงในชุดแดงเข้มลงจากเกี้ยวเจ้าสาวโดยมีแม่สื่อช่วยประคอง เดินนวยนาดเข้ามาทางเขา ใบหน้าหล่อเหลาเผยความหวังและความสุขออกมาอย่างหาได้ยาก

เดิมทีคิดว่าชาตินี้ไม่อาจอยู่ร่วมกับฉินซวงซวงได้อีกแล้ว คิดไม่ถึงว่าหลังกลับมาจะมีเรื่องตกตะลึงระคนดีใจเช่นนี้!

ในที่สุดเขาก็ได้ตบแต่งกับคนรักของตน!

“ซวงซวง”

สายตาเร่าร้อนของหลินจือเยว่ใกล้หลอมละลายฉินซวงซวงแล้ว

“ท่านโหว” สุ้มเสียงฉินซวงซวงนุ่มนวล ทั้งยังมีความสนิมสนม แม้ถูกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวบังไว้แต่ก็สามารถสัมผัสถึงความสุขได้

ขณะหลินจือเยว่เตรียมอุ้มฉินซวงซวงเข้าจวนโหว เสียงเอ่ยเตือนของผู้ติดตามก็ดังขึ้น “ท่านโหว แม่นางซ่งยังไม่ลงจากเกี้ยวขอรับ”

เมื่อได้ยิน หลินจือเยว่ถึงดึงสติกลับมาได้ สายตาทอดมองเกี้ยวอีกฝั่งหนึ่ง ขมวดคิ้วแน่น

“คุณหนูของเจ้าเป็นอันใด? หรือว่ายังต้องการให้ข้าไปเชิญนางลงจากเกี้ยว?”

“ท่านโหว คุณหนูของข้าและท่านหมั้นหมายกันไว้ก่อนแต่แรก ก่อนนี้ท่านไม่เคยพูดว่าจะตบแต่งภรรยาหลวงลำดับเดียวกัน วันนี้เกี้ยวสองหลังผ่านเข้าประตูพร้อมกัน ท่านจะให้คุณหนูของข้าไปอยู่ที่ใด?”

เฉินเซียงถามไล่เรียง คุณหนูของตนอ่อนโยนมีเมตตา จัดการดูแลเรือนได้เป็นอย่างดี รอการกลับมาของท่านโหวนานถึงสองปี ผ่านช่วงเวลาเบ่งบานมาจนถึงตอนนี้!

บัดนี้ท่านโหวกลับมาแล้วถึงขั้นทำร้ายคุณหนูเพียงนี้ จะให้นางทนอย่างไรไหว?

สีหน้าหลินจือเยว่บึ้งตึง “รั่วเจิน เจ้าอบรมบ่าวรับใช้เช่นนี้หรือ? ไม่รู้กฎระเบียบแม้แต่น้อย!”

“ใครไม่รู้กฎระเบียบกันแน่?” ซ่งรั่วเจินเปิดผ้าเดินลงไป “หลินจือเยว่ ท่านรังแกข้าก่อน ต่อมาก็หมิ่นแคลนข้าอีก บัดนี้ยังมีหน้ามาอบรมสาวใช้ของข้า ท่านกล้าดีอย่างไร?”

“รั่วเจิน วันนี้แขกเหรื่อมากมายเพียงนี้ เจ้าอย่าเลอะเลือนเป็นอันขาด!” หลินจือเยว่กล่าวเตือนเสียงแหบเบา “ซวงซวงคือภรรยาหลวงลำดับเดียวกัน หลังแต่งเข้ามาแล้วขอเพียงเจ้ายินดีอยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง ข้าไม่มีวันทำไม่ดีต่อเจ้า”

“ไม่จำเป็นแล้ว”

ซ่งรั่วเจินยกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวขึ้น ช้อนตามองชายที่เจ้าของร่างเดิมมอบทุกอย่างให้ สายตาสะท้อนไอเย็น

“งานแต่งวันนี้ ก็ให้จบลงเช่นนี้เถอะ!”

เสียงเยียบเย็นใสกังวานของฝ่ายหญิงดังขึ้น คล้ายน้ำพุเย็นสายหนึ่งท่ามกลางบรรยากาศอึกทึกครึกครื้น ทำให้ทุกคนเงียบลง

“เจ้าพูดอะไร?” หลินจือเยว่จับข้อมือซ่งรั่วเจิน สายตาเย็นชาปานน้ำค้างแข็ง “ในสถานการณ์เช่นนี้ เจ้าต้องเอาแต่ใจให้ได้ ต้องโวยวายให้ทุกคนหลีกทางให้ จึงจะทำให้เจ้าดีใจกระนั้นหรือ?”

ซังรั่วเจินมีจิตปฏิพัทธ์ต่อเขา เขารู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนแล้ว

หากถอนหมั้น ชื่อเสียงซ่งรั่วเจินต้องเสียหาย ยังไม่ต้องพูดว่าเขาทำให้ซ่งรั่วเจินเสียเวลาไปสองปี นางผ่านช่วงวัยอันดีในการแต่งงานไปตั้งแต่แรกแล้ว

คนทั้งเมืองหลวงล้วนรู้ว่าภายในใจนางมีเพียงเขา หากถอนหมั้น ยังมีใครต้องการแต่งกับนางอีกเล่า?

นี่ก็คือสาเหตุที่เขาไม่บอกกล่าวและรับภรรยาหลวงลำดับเดียวกันโดยตรง เขาไม่อยากทำให้ซวงซวงเสียใจ มิหนำซ้ำยังมั่นใจว่าซ่งรั่วเจินทำได้เพียงยอมกล้ำกลืนฝืนตกลง

ทว่า สถานการณ์คล้ายอยู่เหนือความคาดหมายของเขาอยู่บ้าง?

“หลินจือเยว่ ท่านมีศักดิ์ศรีสักหน่อยได้หรือไม่?”

ซ่งรั่วเจินสะบัดมือฝ่ายชายออก ใบหน้างดงามโดดเด่นเปี่ยมความรังเกียจ

“สองปีก่อนหลังพวกเราหมั้นหมายแล้ว ยังไม่ทันแต่งงานท่านก็ไปออกรบ ก่อนจากไปยังพูดว่าไม่อยากทำให้ข้าเสียใจ ดังนั้นต้องการตบแต่งข้าอย่างผ่าเผยหลังทำความดีความชอบคว้าชัยชนะกลับมาได้ มิหนำซ้ำยังมอบจวนโหวอันยุ่งเหยิงวุ่นวายและฮูหยินผู้เฒ่าให้ข้าดูแล”

“ข้าเห็นแก่สัญญาหมั้นหมายจึงดูแลฮูหยินผู้เฒ่า ตามหาหมอที่มีชื่อเสียง ใช้ยาล้ำค่าหายากไม่รู้กี่มากน้อยรักษาชีวิตฮูหยินผู้เฒ่าไว้ ยังไม่ต้องพูดว่าก่อนท่านออกจากจวนโหวก็นำเงินทั้งหมดติดตัวไปด้วย”

“แม้แต่ตอนที่อยู่ชายแดนสองปีนี้ ยังเขียนจดหมายมาขอเงินจากข้าเป็นครั้งคราว ข้าใช้ทรัพย์สมบัติตนเองชดเชยให้ท่าน คิดว่าท่านกลับมาแล้วจะต้องปฏิบัติต่อข้าอย่างดีเป็นแน่”

“ผลปรากฏว่า...ตบแต่งภรรยาหลวงลำดับเดียวกันในวันแต่งงาน ใช้เงินข้าสู่ขอหญิงอื่นเข้าบ้าน นี่คือการที่ท่านปฏิบัติต่อข้าอย่างดีกระนั้นหรือ?”

“หลินจือเยว่ ท่านยังมีศักดิ์ศรีอยู่หรือไม่?”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
BoOm
จะตามอ่านจนถึงตอนจบ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 2

    ซ่งรัวเจินถามไล่เรียงกระแทกลงไป กระแทกเสียจนสีหน้าหลินจือเยว่เผือดซีด หวุดหวิดจะเป็นลมหมดสติไปแล้วเหตุใดนางกล้าพูดเรื่องเหล่านี้ออกมาต่อหน้าคนมากมายเพียงนี้!“เรื่องนี้ก็ไม่ซื่อสัตย์จริงใจจริงนั่นล่ะ ได้ยินมาว่าหลินโหวและฉินซวงซวงมีใจปฏิพัทธ์ต่อกันมาตั้งแต่แรกแล้ว สองปีก่อนฉินซวงซวงไม่ยอมแต่งกับเขา นี่เขาถึงตกลงหมั้นหมายกับสกุลซ่ง ใครเคยคิดเล่าว่าทำความดีความชอบกลับมา ฉินซวงซวงกลับยอมแต่งกับเขาแล้ว ดังนั้นจึงคิดทำเช่นนี้ จุ๊ ๆ ...”“แม่นางสกุลซ่งไม่กลายเป็นตัวโง่งมไปแล้วหรือ?”ความทุ่มเทตลอดสองปีสูญเปล่าไปแล้ว เย็บชุดเจ้าสาวให้ผู้อื่นสวม ได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัสแต่ยังต้องกลั้นก้อนสะอื้น นี่ใครยังสามารถทนได้กันเล่า?“พี่หญิง อย่าโมโหไปเลย”ฉินซวงซวงก้าวเท้าฉับไวขึ้นมา มิอาจข่มความแปลกใจภายในใจเอาไว้ได้เห็นได้ชัดว่าซ่งรั่วเจินเป็นพลับอ่อนให้คนบดขยี้ แต่งเข้าบ้านพร้อมกันก็เป็นนางและจือเยว่ร่วมกันวางแผน แม้นางไม่ยอมแต่ก็ต้องกล้ำกลืนฝืนรับปาก ไม่โวยวายใหญ่โตอันใดใครคาดคิดนางถึงขั้นเปิดผ้าคลุมหน้าลงจากเกี้ยวเจ้าสาว โวยวายอยู่ที่หน้าประตูเช่นนี้?“ล้วนเป็นความผิดของซวงซวง ท่าน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 3

    “แม่นางฉิน ได้โปรดถอดออก เพียงมองดูก็จะทราบได้” เฉินเซียงเอ่ยเพียงฉินซวงซวงถอดออก เฉินเซียงก็หยิบกำไลหยกไปให้ทุกคนดูหนึ่งรอบ “ทุกท่านล้วนเห็นอย่างชัดเจนแล้ว ด้านบนแกะสลักชื่อเล่นของคุณหนูข้าเจินเอ๋อร์เอาไว้!”“ยังไม่ต้องพูดว่าท่านโหวและคุณหนูข้ายังไม่แต่งงานกัน ต่อให้แต่งงานแล้วจริง คนมีหน้ามีตาที่ใดยักยอกสินเดิมของฮูหยินตนเองด้วยหรือ?”นับแต่โบราณจนถึงตอนนี้ สินเดิมล้วนเป็นสิ่งของติดตัวฝ่ายหญิง แม้แต่บ้านสามีก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้อง เว้นเสียแต่ตนเองยินยอม ทว่าหลินจือเยว่หยิบไปโดยตรงไม่บอกกล่าวเช่นนี้ เรียกว่าขโมยก็ไม่เกินจริงครั้นซ่งจืออวี้พี่ชายสามของซ่งรั่วเจินเร่งเดินทางมาถึงก็ได้ยินว่าหลินจือเยว่ยกกำไลหยกที่ท่านแม่มอบให้เจินเอ๋อร์เป็นสินเดิมให้กับฉินซวงซวง กำปั้นเจือความเกรี้ยวกราดกระแทกเข้าไปโดยตรงหนึ่งหมัด!“ไอ้สารเลว!”หลินจือเยว่ถูกกำปั้นกระแทกหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ดวงหน้าหันไปอีกฝั่งหนึ่ง เลือดไหลออกจากมุมปากซ่งจืออวี้ไม่คิดยั้งมือเลยแม้แต่น้อย วันนี้เป็นวันมงคลยิ่งใหญ่ของน้องหญิง พวกเขาทั้งครอบครัวส่งนางออกจากจวนอย่างดีใจมีความสุข ใครคาดคิดมาถึงจวนหลินโหวจะถูกหมิ่นแคล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 4

    “เรื่องนี้โทษท่านแม่ไม่ได้ พูดได้เพียงว่าหลินจือเยว่แสดงละครได้อย่างยอดเยี่ยม หน้าหนาไร้ยางอาย!”ซ่งรั่วเจินยิ่งพูดยิ่งรังเกียจ โชคดีช่วงเวลาที่นางทะลุมิติเข้ามาในหนังสือยังมิได้แต่งเข้าจวนสกุลหลิน หากแต่งเข้าไปแล้ว นั่นต่างหากถึงจบสิ้น!หลิ่วหรูเยียนเห็นลูกสาวผู้เพียบพร้อมของตนพูดถ้อยคำหล่านี้ออกมา ยิ่งมั่นใจว่านางกำลังเสียใจ น้ำตาคลอหน่วย “ลูกสาวชะตาอาภัพของข้า...”แต่น้ำตาที่หางตายังไม่ทันตกก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากด้านนอก ของทั้งใหญ่ทั้งเล็กถูกยกเข้ามา หยาดน้ำตาหยุดชะงักในทันใด“เจินเอ๋อร์ นี่ นี่คืออะไรกัน?”“อย่างไรเสียก็ไม่แต่งแล้ว สิ่งของย่อมต้องนำกลับมา ฉินซวงซวงคนนั้นพูดทุกคำว่ารักชอบท่านโหว ข้าอยากเห็นเหลือเกินว่านางจะยอมหักใจชดเชยจวนโหวโล่งโจ้งนั่นหรือไม่!”ซ่งรั่วเจินเคยอ่านต้นฉบับหนังสือมาก่อน ย่อมรู้ว่าฉินซวงซวงก็คือคนมีอุปนิสัยชมชอบความร่ำรวยคนหนึ่ง หาไม่แล้วเพียงนางเอ่ยปาก หลินจือเยว่ก็ต้องถอนหมั้นนางเป็นแน่!แต่นางกลับไม่ทำ ก็เพื่อเงินของจวนสกุลซ่งบัดนี้เงินตกอยู่ในมือนางแล้ว ฉินซวงซวงทางหนึ่งคิดจะหลับนอนกับบุรุษของเจ้าของร่างเดิม ทางหนึ่งใช้จ่ายเงินของเจ้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 5

    ซ่งรั่วเจินพูดอย่างจริงจัง อาการป่วยนี้สำหรับนางกลับรักษาไม่ยาก แต่ต้องใส่ใจมากก็เท่านั้นเดิมทีซ่งอี้อันคิดว่าน้องหญิงปลอบโยนตนเอง มิได้เก็บมาใส่ใจ ทว่าเห็นนางพูดอย่างตั้งใจมากเป็นพิเศษ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเชื่อขึ้นมาหลายส่วน“น้องหญิงคนดี พี่รองเชื่อเจ้า”ซ่งจืออวี้เห็นซ่งอี้อันคล้ายถูกเกลี้ยกล่อมสำเร็จแล้ว เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “พี่รอง ท่านเชื่อจริงหรือ? น้องหญิงห้าไม่เคยเรียนวิชาแพทย์มาก่อนนะ”“น้องหญิงห้าดีใจก็พอ ตอนนี้ข้าก็กลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว หมอทั้งเมืองหลวงล้วนมาดูแล้ว ยังมีอันใดให้กลัวอีกเล่า?”ซ่งอี้อันยกมุมปากยิ้มขมปร่า นับตั้งแต่วันที่ตาบอดอนาคตอันรุ่งโรจน์ของเขาก็สูญสลายกลายเป็นหมอกผ่านตา ถอนหมั้นก็คือเรื่องที่คาดการณ์ไว้แล้ว น้องหญิงไม่ยอมให้เขายอมแพ้ ก็เพราะหวังดีต่อเขาส่วนเป็นเรื่องจริงหรือไม่...สำคัญด้วยหรือ?ซ่งรั่วเจินมิได้ใส่ใจบทสนทนาของทั้งสองคน สายตานางเบือนไปทางด้านหลัง นับตั้งแต่เหยียบเท้าเข้าจวนสกุลซ่ง นางก็สังเกตุเห็นว่าเรือนด้านหลังถูกพลังชั่วร้ายปกคลุมอยู่เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นวันแสงแดดจ้า ทว่าด้านหลังกลับอึมครึม ต้องมีบางสิ่งกำลังสร้างปัญหาอย่างแน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 6

    “เจ้าหมายถึงสร้อยข้อมือเส้นนี้หรือ?”ซ่งอี้อันถอดสร้อยข้อมือออกแล้วส่งมาให้ ก่อนหน้านี้ตัวสร้อยถูกแขนเสื้อปกคลุมเอาไว้ ซ่งรั่วเจินจึงมองไม่เห็น ครั้นเมื่อเห็นสร้อยข้อมือที่สะท้อนใต้แสงแดด ก็พบว่าของสิ่งนี้มีกระแสไอของความอัปมงคลที่หมุนวนขึ้นมา“เจ้าไม่พูดข้าก็เกือบลืมไปเสียสนิท สร้อยข้อมือเส้นนี้เป็นของที่หลินโหวส่งมาให้ ตอนนี้งานวิวาห์ยกเลิกไปแล้ว สร้อยข้อมือเส้นนี้ก็ไม่ควรเก็บไว้”ผู้เป็นพี่คิดเพียงว่าน้องสาวของเขาแค่ตั้งใจเตือนตนเอง เพราะอย่างไรเสีย ตอนนี้สองตระกูลไม่มีความเกี่ยวข้องกันแล้ว เก็บไว้ก็ไม่เหมาะสมจริง ๆ“ท่านบอกว่าสร้อยข้อมือเส้นนี้เป็นของที่หลินจือเยว่ส่งมาหรือ?”ของสิ่งนี้อาบชโลมด้วยโลหิตมนุษย์ ไออัปมงคลหลอมรวม เป็นของสกปรกขุ่นมัว หลินจือเยว่จงใจหาของแบบนี้มามอบให้ ช่างมีน้ำใจนัก!ซ่งอี้อันพยักหน้า “ครั้งก่อนที่หลินโหวมาเยี่ยมเจ้าที่จวน เขาก็ให้ข้ามา บอกว่ารู้ว่าข้าชื่นชอบ ใช้เงินไปไม่น้อยเพื่อซื้อมาให้โดยเฉพาะ”“หากพี่ชายรองชอบสร้อยข้อมือก็เอาเส้นที่เป็นของข้าไปก่อน ส่วน ‘ของล้ำค่า’ ชิ้นนี้ส่งคืนให้หลินจือเยว่เถิด”ซ่งรั่วเจินหยิบสร้อยข้อมืออีกเส้นส่งไปให้ หล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 7

    จวนตระกูลซ่งหลิ่วหรูเยียนค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นซ่งรั่วเจินอยู่ตรงหน้าก็รีบเอ่ยถามว่า “เจินเอ๋อร์ จวนตระกูลจ้าวขอถอนหมั้นแล้วจริงหรือ?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า มองดูใบหน้าซีดเผือดของผู้เป็นมารดาด้วยแววตาที่ไม่อาจหักหาญใจ “ท่านแม่ ในเมื่อจวนตระกูลจ้าวเลือกที่จะเลิกหมั้นในช่วงเวลานี้ ก็เห็นได้ชัดว่านางมิใช่คู่ที่ดีของพี่ชาย เราไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องการหมั้นนี้”“เดิมทีจ้าวซูหว่านก็ไม่เหมาะสมกับพี่ชายรองอยู่แล้ว ข้าคิดว่าการถอนหมั้นเป็นเรื่องดี มิฉะนั้น การแต่งงานกับหญิงสาวเช่นนี้ เกรงว่าในอนาคตคงไร้ซึ้งความสุขสงบ”“แม่รู้ดีว่าจ้าวซูหว่านไม่เหมาะกับพี่ชายของเจ้า แม่เองก็ไม่เห็นด้วยกับการหมั้นหมายนี้ตั้งแต่แรก เพียงแต่พี่ชายของเจ้าไม่มีหญิงสาวที่หมายปองเสียที ในเมื่อทั้งสองคนรักกัน แม่ก็ไม่อยากจะขัดขวาง”“ตอนนี้พี่ชายของเจ้าตาบอด หมอจากทั่วเมืองมาตรวจดูแล้วล้วนบอกว่ารักษาไม่ได้ แม่ไม่อยากให้พี่ของเจ้าต้องเจ็บปวดซ้ำ ๆ …”“พ่อของเจ้าจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด ถ้าเขารู้ว่าในเวลาที่ตนไม่อยู่ ข้าไม่สามารถดูแลพวกเจ้าให้ดีได้…”หลิ่วหรูเยียนพูดพลางน้ำตาก็คลอเบ้า หมู่นี้ในจวนมีแต่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 8

    สองปีก่อนเขาไม่อาจแต่งงานกับนางในดวงใจได้จึงรู้สึกหมดหวัง ตอนรู้ว่าผู้เป็นแม่ได้จัดการหมั้นหมายให้แล้ว เขาก็ตอบรับทั้ง ๆ ที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่แม้แต่จะชายตามองนางเลยสักนิด คิดเพียงว่าคุณหนูตระกูลใหญ่ส่วนมากจะหัวโบราณและขี้ขลาด ไม่เหมือนกับซวงซวงผู้น่ารักและมีเสน่ห์ดึงดูดใจทว่าในขณะนี้เมื่อเขาเห็นซ่งรั่วเจิน ถึงได้รู้ว่านางนั้นงดงามน่ามองเพียงใดซ่งรั่วเจินเห็นหลินจือเยว่จ้องนางตาไม่กะพริบ ใจของนางก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ มีเพียงความคิดเดียวในหัวคืออยากจะควักลูกตาของคนผู้นี้ออกมาเสียมองอะไร! อัปมงคลเสียจริง!“แม่นางซ่ง เรื่องวันนี้เป็นความผิดของข้าเองที่ไม่ได้บอกเจ้าตั้งแต่แรก ข้าขอโทษ” หลินจือเยว่กล่าวซ่งรั่วเจินหัวเราะเบา ๆ “หลินโหว ตอนขบวนเจ้าสาวของข้ากำลังจะเข้าเรือน ก็พึ่งได้รู้ว่ามีสตรีอีกนางจะแต่งเข้าพร้อมกับข้า วันนี้ท่านยังพูดต่อหน้าแขกมากมายอีกว่าในใจท่านมีเพียงแม่นางฉินเท่านั้น”“ในเมื่อพวกท่านรักกัน ข้าก็ยินดีทำให้สมหวัง ไยต้องมาที่นี่อีก?”เมื่อเห็นหญิงสาวพูดจาไม่น่าฟัง หลินจือเยว่ก็ขมวดคิ้วไม่พอใจ เขายอมมาขอโทษด้วยตัวเองก็ถือว่าให้เกียรติตระกูลซ่งมากแล้ว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 9

    “นางย่อมเป็นคนใจดีและใจกว้าง นางเป็นคุณหนูตระกูลฉิน ฐานะไม่ต่ำกว่าเจ้า แต่เพราะข้ายอมรับเจ้า เจ้ากลับมีจิตใจคับแคบ เทียบกับนางไม่ได้เลยแม้แต่น้อย และไม่มีวาสนาพอรับน้ำใจของนางได้!”หลินจือเยว่คว้าสร้อยข้อมือไปและสวมไว้ที่ข้อมือตนเองซ่งรั่วเจินยกคิ้วขึ้น คดีไขได้แล้ว เป็นฉินซวงซวงจริง ๆ ด้วย!“ฮูหยินซ่ง เรื่องนี้ต้องคิดให้รอบคอบ!”หลินรั่วหลานร้อนใจมาก สองปีนี้นางนำเงินของตระกูลซ่งไปใช้ชีวิตอย่างสบาย ออกไปที่ใดก็มีแต่คนอิจฉา นางใช้ชีวิตกินดีอยู่สบายจนเคยชินแล้ว ไหนเลยจะยอมกลับไปใช้ชีวิตลำบากแบบเดิมได้?หากซ่งรั่วเจินไม่แต่งงานเข้ามา จวนหลินโหวก็จะว่างเปล่า อย่าว่าแต่ชีวิตที่กินดีอยู่สบายเลย เงินที่มีก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง แม้แต่เงินที่จะจ่ายให้คนรับใช้ก็ไม่มี“ความสัมพันธ์ของสองตระกูลดีเพียงนี้ จะขาดสะบั้นเพราะเรื่องเล็กน้อยนี้ได้อย่างไร? เยว่เอ๋อร์ยังหนุ่ม เพียงแค่หลงผิดไป รอให้เวลาผันผ่านย่อมรู้ว่ารั่วเจินต่างหากที่เป็นคู่ครองที่ดี”หลิ่วหรูเยียนปัดมือของหลินรั่วหลานออก “ไม่จำเป็น ลูกสาวของข้าไม่จำเป็นต้องอดทนรอให้ใครกลับใจ การหมั้นหมายล้มเลิกแต่เพียงเท่านี้ เราทั้งสองต่างก็เป็นค

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 938

    “ซ่งรั่วเจินและฉู่อ๋องมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เดิมทีอยากให้เชี่ยนเอ๋อร์แต่งงานกับฉู่อ๋อง ทั้งหมดจะได้คลี่คลาย ทางฝั่งฮองเฮาก็ถูกเจ้าพูดจนหวั่นไหวแล้วไม่ใช่หรือ? เหตุใดจู่ๆ ก็เปลี่ยนไปกันเล่า?”สีหน้านายหญิงหลิงแข็งทื่อ “ยังเพราะอันใดอีกเล่า? ไม่รู้ซ่งรั่วเจินกรอกน้ำแกงลุ่มหลงอันใดให้ฉู่อ๋องกิน ภายในสายตาเขามีเพียงซ่งรั่วเจินคนเดียว ไม่สนใจเชี่ยนเอ๋อร์เลยสักนิด ไม่ว่าพวกเราพยายามมากเพียงใดก็ไร้ผล”“ยังเป็นเช่นนี้ต่อไปจะต้องไม่ดีแน่ เดิมทีเชี่ยนเอ๋อร์ก็ถึงวัยแต่งงานแล้ว ก่อนหน้านี้เช่ออ๋องเอาอกเอาใจนางมากไม่ใช่หรือ?”“อย่างไรเสียบัดนี้เช่ออ๋องก็ไม่มีพระชายา คนก่อนนั้นก็ถูกจับขังคุกไปแล้ว ประจวบเหมาะกับเชี่ยนเอ๋อร์พอดี ขอเพียงนางแต่งเข้าราชวงศ์ได้ ตำแหน่งของสกุลหลิงพวกเราก็จะมั่นคงขึ้นอีกนิด”หลิงไท่ซือเอ่ยปากเสียงเย็น พูดตัดสินชี้ขาดออกมานายท่านหลิงพยักหน้า มองทางนายหญิงหลิง “อีกเดี๋ยวเจ้าบอกเรื่องนี้ให้เชี่ยนเอ๋อร์รู้ ให้นางรีบจัดการเรื่องนี้โดยเร็ว”“เชี่ยนเอ๋อร์คล้ายไม่ชอบเช่ออ๋องเจ้าค่ะ” นายหญิงหลิงลังเลเล็กน้อย “ก่อนหน้านี้เช่ออ๋องเอาอกเอาใจเชี่ยนเอ๋อร์อย่างมากจริงๆ แต่สถานกา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 937

    “เรื่องในตอนนั้นของกระหม่อมโด่งดังอึกทึกครึกโครม คนทั้งเมืองหลวงล้วนรู้ว่ากระหม่อมตาบอดไป กระหม่อมเองก็ไม่ได้สนใจมิใช่หรือ?”ซ่งจิ่งเซินเผยสีหน้าไม่ใส่ใจ แม้ตอนเขารู้เรื่องที่ตนทำในอดีตไม่กล้าออกไปสู้หน้าคนจริง แต่อย่างไรเสียที่ผ่านมาหน้าตาที่ควรเสียไปก็เสียไปจนสิ้นแล้ว บัดนี้ไม่มีอะไรให้ใส่ใจอีกซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ท่านเรียนรู้จากพี่สี่หม่อมฉันเถอะ เรื่องในตอนนั้นอึกทึกครึกโครมจนคนในเมืองหลวงต่างรู้กันอย่างถ้วนทั่ว เขากลับไม่สนใจเลยสักนิด เดิมทีก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ไม่เป็นไรหรอกเพคะ”“พูดให้ละเอียดดูแล้ว ชายโฉดหญิงชั่วล้วนมีศีลเสมอกัน คิดเพียงจะกอดซ้ายกอดขวา เสวยสุขกับคนรักมากมาย ไม่มีความสามารถเลยสักนิด”“ไปจากพวกท่านแล้วก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น”“พี่สะใภ้ ท่านพูดถูกแล้ว ผิดก็ผิดไปแล้ว ภายภาคหน้าหากข้ามีคนที่ชอบอีก ข้าจะบอกท่านแน่ ให้ท่านช่วยข้าดู”ฉู่มู่เหยากะพริบตาปริบๆ ตัดสินใจภายในใจ ภายภาคหน้าจะไม่มีวันทำเรื่องขายหน้าเช่นนี้อีก!“กระหม่อมเองก็สามารถช่วยท่านดูได้” ซ่งจิ่งเซินพูดเย้าฉู่มู่เหยาเผยสีหน้าสงสัย “เจ้า?”“อะไรกัน? ดูเบากระหม่อมหรือ?” สายตาซ่งจิ่งเซินคมกริบ ตอบโ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 936

    “พี่สะใภ้ ขออภัยจริงๆ ก่อนหน้านี้ข้าเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะเลียนแบบร้านปิ้งย่างที่ท่านเปิด หากว่ารู้ ข้าไม่มีวันปล่อยให้พวกเขาทำเช่นนี้เป็นอันขาด”ฉู่มู่เหยาเผยสีหน้ารู้สึกผิด ก่อนหน้านี้นางก็รู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง เหตุใดตอนนางถามเสิ่นหวยอันว่าเตรียมจะเปิดร้านอะไร เขาถึงหลีกเลี่ยงไม่ยอมตอบมาโดยตลอด พูดเพียงว่าต้องการสร้างความประหลาดใจระคนดีใจให้นางอย่างหนึ่งจนกระทั่งมาวันนี้ หลังได้เห็นป้ายร้านเองกับตา อารมณ์ของนางก็แย่ลงทั้งๆ ที่เสิ่นหวยอันรู้ความสัมพันธ์ระหว่างนางและพี่สะใภ้ ร้านนี้ยังเอามาจากมือของพี่สะใภ้อีกด้วย ปรากฏว่าเขาทำเรื่องพรรค์นี้ออกมา เห็นได้ชัดว่าไม่คำนึงถึงนางเลยสักนิด“ท่านไม่รู้เรื่องนี้เสียหน่อย ไฉนเลยจะโทษท่านได้?”ซ่งรั่วเจินจูงมือของฉู่มู่เหยา “อย่าอารมณ์ไม่ดีเพราะคนพรรค์นี้เลย ใครบ้างเล่าอายุยังน้อยไม่เคยตาบอดมองคนพลาดมาก่อน? ขอเพียงตอนนี้มองออกอย่างชัดเจนก็พอ!”“แต่พวกเขาเปิดร้านนี้จะส่งผลกระทบต่อพวกท่านหรือไม่?” ฉู่มู่เหยายังรู้สึกผิดอยู่มาก บัดนี้รู้สึกเพียงว่าเสด็จแม่และพี่ห้าด่าว่าไม่ผิดไปเลยสักนิด“แค่ร้านของพวกเขานี้ ยังส่งผลต่อการค้าของพวกเราอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 935

    “องค์หญิง เหตุใดท่านใจร้ายถึงเพียงนี้?” ซ่งปี้อวิ๋นพูดออกมาอย่างสุดระงับฉู่มู่เหยาขมวดคิ้วแน่น กลับถูกซ่งรั่วเจินห้ามไว้ “เจ้าใจดีถึงเพียงนั้นก็ดูแลดีๆ เถอะ แต่เห็นแก่สายสัมพันธ์ของญาติพี่น้อง ข้าจะต้องเตือนเจ้าหนึ่งประโยค”“เจ้าเป็นแม่นางที่ยังไม่ออกเรือนคนหนึ่ง อยู่ภายนอกจะต้องรักษาระยะห่างให้ดี ยื้อยุดฉุดกระชากท่ามกลางผู้คนมากมาย หากถูกท่านลุงใหญ่รู้เข้า คาดว่าจะต้องไม่พอใจกระมัง?”สีหน้าซ่งปี้อวิ๋นเปลี่ยนไป “หรือว่าท่านจะฟ้องท่านพ่อข้า?”“ข้าไม่ใช่คนชอบใส่ใจไม่เข้าเรื่องหรอกนะ เพียงแต่เตือนเจ้าสักครั้งเท่านั้น หากเจ้าไม่โง่ ก็ควรรู้ว่าผู้ชายเช่นนี้ไม่คู่ควรให้พึ่งพาอาศัย”“หันหลังกลับตอนนี้ยังมีโอกาส”เมื่อครู่ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนายดูแล้ว ทำนายได้ว่าหลังซ่งปี้อวิ๋นแต่งงานกับเสิ่นหวยอัน จะได้พบจุดจบอย่างอนาถแม้พูดว่าความสัมพันธ์ของพวกนางไม่ดีเท่าใดนัก แต่เดิมทีก็มีสายสัมพันธ์เป็นญาติมิตร นางจึงเตือนหนึ่งประโยค แต่ตกลงฟังหรือไม่ ยังต้องดูตัวซ่งปี้อวิ๋นเองเพียงซ่งปี้อวิ๋นได้ยิน รู้สึกเพียงว่าซ่งรั่วเจินกำลังวางตัวสูงส่งเอ่ยเตือนนาง เห็นได้ชัดว่ากำลังดูเบานาง!“ข้าย่อมรู้ข

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 934

    หากรู้ตั้งแต่แรก ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่มีวันบอกเสด็จแม่ บัดนี้ทุกคนล้วนรู้แล้ว นางไม่มีหน้าหลงเหลือแล้วจริงๆ“ญาติผู้พี่ แม้พูดว่าพวกเราแยกบ้านกันแล้ว แต่อย่างไรเสียก็มีบรรพบุรุษคนเดียวกัน ท่านก็แค่ไม่พอใจที่คุณชายเสิ่นเปิดร้านปิ้งย่าง ไม่ถึงขั้นต้องพูดจาว่าร้ายพวกเราต่อหน้าองค์หญิงหรอกกระมัง?”ซ่งปี้อวิ๋นเห็นทุกคนพูดเรื่องระหว่างนางและเสิ่นหวยอันออกมาแล้ว รู้สึกร้อนใจอย่างอดไม่ได้ฉู่มู่เหยาสั่งให้คนโบยเขาไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นความรักของพวกเขาอยู่ในสายตา เช่นนั้นก็ไม่สามารถปล่อยให้เรื่องลุกลามไปมากกว่านี้ได้อีก หาไม่แล้วสิ่งที่เสียหายก็คือชื่อเสียง“พวกเจ้าเปิดร้านปิ้งย่าง เหตุใดพวกเราต้องไม่สบอารมณ์ด้วยเล่า?” จู่ๆ ซ่งจิ่งเซินก็ถามกลับซ่งปี้อวิ๋นเผยท่าทางแข็งกระด้าง ย่อมรู้ว่าถ้อยคำนี้ของซ่งจิ่งเซินคือจงใจชี้นำนางให้พูดออกมาว่าเลียนแบบ เพียงแต่ระหว่างเลียนแบบและตั้งใจทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงความผิดสองข้อนี้ ย่อมต้องเลือกอย่างแรกคนเลียนแบบสกุลซ่งไม่ได้มีเพียงพวกเขาสองคน ไม่มีผู้ใดกำหนดว่ามีเพียงสกุลซ่งสามารถขายปิ้งย่างได้ พวกเขาเองก็สามารถขายได้เช่นเดียวกัน“ข้ารู้ร้านปิ้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 933

    ฉู่มู่เหยาเห็นเสิ่นหวยอันพูดเลยเถิดเกินไปมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากโทสะแล้ว มากที่สุดคือความอับอายนางไม่มีหน้าพบพี่สะใภ้และซ่งจิ่งเซินแล้ว!“เจ้ายังไม่หุบปากอีก!” ฉู่มู่เหยาโมโหจนอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรง พูดเสียงเปี่ยมโทสะ “เข้ามา เสิ่นหวยอันจงใจทำลายชื่อเสียงของข้า ลากเขาออกไปโบยยี่สิบไม้!”“พ่ะย่ะค่ะ องค์หญิง”จากนั้นองครักษ์ด้านนอกถลันขึ้นมาข้างหน้าอย่างว่องไว ลากเสิ่นหวยอันไปด้านนอกโดยไม่พูดจาเสิ่นหวยอันเห็นฉู่มู่เหยาพูดคล้ายไม่ใช่กำลังขู่เขา สีหน้าถึงเปลี่ยนไป พูดออกมาด้วยความเสียใจ“องค์หญิง ข้าผิดไปแล้ว เพราะภายในใจข้ามีท่านถึงพูดเช่นนี้ ทั้งๆ ที่ข้าจริงใจต่อท่าน แต่ท่านกลับสงสัยข้าเพียงเพราะคำพูดไม่กี่ประโยคของพวกเขา ข้าเสียใจจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ!”ฉู่มู่เหยาเห็นเสิ่นหวยอันยังไม่ยอมหุบปาก ปักใจทำลายชื่อเสียงของนาง นี่จึงตวาดเสียงเฉียบออกไป “ยังไม่รีบลากเขาออกไปอีก!”จนกระทั่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นที่หน้าประตู สายตาซ่งปี้อวิ๋นเองก็สะท้อนความตกตะลึงว้าวุ่น “องค์หญิง หากยังตียี่สิบไม้ต่อไป คุณชายเสิ่นจะทนไม่ไหวนะเพคะ!”“หากเจ้าสงสารเขา มิสู้เจ้าไปช่วยรับโทษแทนเขาดีหรือไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 932

    เสิ่นหวยอันมองซ่งจิ่งเซินที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวออกมา สีหน้าเข้มขึ้น “นี่เกี่ยวอันใดกับเจ้าด้วย?”“ข้าเห็นเจ้าขัดตา เพื่อต่อสู้กับอธรรม ข้าก็พร้อมชักดาบเข้าช่วย มีปัญหาอันใดหรือไม่?”“รูปร่างเหมือนคนแต่จิตใจกลับคล้ายสุนัข ไม่ทำเรื่องดีของคน อ้างบุญคุณช่วยชีวิต ไหว้วานองค์หญิงให้พวกเราสกุลซ่งยอมมอบร้านให้เจ้า ปรากฏว่าเจ้านำมาเปิดร้านปิ้งย่าง นี่ไม่มียางอายเลยหรือ?”“บัดนี้ร้านเปิดแล้ว พวกเราล้วนไม่พูดอันใด ยังคิดเชิดหน้าชูคอเป็นราชบุตรเขยอีกกระนั้น? เจ้าเองก็ไม่ส่องคันฉ่องดูบ้างเล่า ดูว่าตกลงเจ้าคู่ควรหรือไม่?”ซ่งจิ่งเซินเลิกคิ้วคมขึ้น ใบหน้างดงามเจือความโอหังและอันธพาลเล็กน้อย เขาเคยเห็นคนไร้ยางอายเช่นนี้มามากแล้ว เก็บกวาดได้ถนัดมือยิ่งนัก“มู่เหยา ท่านไม่เป็นไรกระมัง?”ซ่งรั่วเจินมองฉู่มู่เหยาอย่างห่วงใย นางสามารถมองออกว่าฉู่มู่เหยาถูกทำให้โมโหไม่เบา เดิมทีคิดอยากสั่งสอนเสิ่นหวยอันเพื่อคลายโทสะให้นาง ทว่าพลังต่อสู้ของพี่สี่บ้านตนนี้ มองดูแล้วนางไม่จำเป็นต้องออกหน้า!ฉู่มู่เหยาส่ายหน้า กลับรู้สึกอึดอัดภายในใจ เดิมทีก็ไม่อาจกลืนโทสะนี้ลงไปได้“พี่สะใภ้ เขาจงใจทำลายชื่อเสียงของข้า ทั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 931

    “องค์หญิง ตกลงท่านเป็นอะไรไป? มีเรื่องใดไม่สบอารมณ์ พวกเราพูดคุยกันส่วนตัวดีหรือไม่? เหตุใดจะต้องโวยวายจนถึงขั้นนี้?”เสิ่นหวยอันได้ยินเสียงเย้ยหยันเย็นชานั้น ฝืนข่มโทสะลงไป บัดนี้ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วเขาดีชั่วอย่างไรก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง เหตุใดฉู่มู่เหยาต้องหักหน้าเขาต่อหน้าธารกำนัลครั้งแล้วครั้งเล่า?“ข้าโวยวายอะไร? คุณชายเสิ่น คำนี้ของท่านพูดได้แปลกยิ่งนัก”ฉู่มู่เหยามองเสิ่นหวยอันด้วยสายตาเย็นชา สังเกตเห็นโทสะภายในสายตาของเขา รู้สึกอยากขันภายในใจผู้ชายคนนี้คล้ายใช้ไม่ได้จริงๆ ก่อนหน้านี้ตนเองไม่เคยสังเกตมาก่อน บัดนี้เพราะเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ก็เริ่มโมโหเสียแล้ว“แม้ว่าท่านเป็นผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตข้า ท่านพูดว่าต้องการร้านอาหารนี้ ข้าก็ให้แม่นางซ่งยอมตัดใจยกให้พวกท่านแล้ว”“บัดนี้ร้านอาหารเปิดกิจการ ข้าก็นำของขวัญมามอบให้ด้วยตนเอง เพียงแต่พวกท่านไม่ชอบนั่นก็ช่างเถอะ แต่หวังว่าท่านจะรู้ฐานะของตน อย่าละเมิดกฎ อีกทั้งอย่าได้คิดถึงสิ่งที่ไม่สมควรคิดเหล่านั้น!”เสิ่นหวยอันกระวนกระวายใจมากขึ้นเรื่อยๆ สังเกตเห็นว่าสถานการณ์ในวันนี้ไม่ชอบมาพากลฉู่มู่เหยาไม่ใช่กำลังหยั่งเชิง แต่ต้อ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 930

    ทุกคนล้วนร้องจิ๊ออกมาอย่างเสียดาย เพียงแค่พระหยกองค์นี้ราคาก็ไม่ธรรมดาแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงวันแรกของการเปิดร้าน ที่ต้องระวังที่สุดก็คือสิ่งเหล่านี้ทุกคนเองก็เก้อกระดากเกินกว่าจะพูดออกมาโดยตรง แต่กลับรู้ดีภายในใจว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น น่ากลัวว่าการค้าของร้านนี้ไม่มีวันเจริญรุ่งเรือง“ปี้อวิ๋น ตกลงเจ้าเป็นอะไรไป?”สายตาเสิ่นหวยอันสะท้อนความไม่พอใจ แม้แต่เสียงเองก็เจือคำตำหนิของที่ฉู่มู่เหยามอบให้จะต้องไม่ธรรมดา สิ่งของภายในวังล้วนไม่แย่ ยิ่งไปกว่านั้นนางเห็นตนเป็นคนในดวงใจ จะต้องตั้งใจเลือกออกมาอย่างดีแน่บัดนี้เขาก็ชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดว่าเทพเจ้าแห่งโชคลาภนี้เป็นมงคลเยี่ยงไร ต่อให้ภายภาคหน้าไม่มีเงินจริง นำไปขายก็ได้เงินมหาศาล!บัดนี้กลับดี แตกไปเช่นนี้แล้ว“หวยอัน ไม่ใช่ข้าจริงๆ เมื่อครู่ข้ายังไม่ทันยื่นมือออกไป สาวใช้คนนั้นก็ปล่อยมือแล้ว ดังนั้นของจึงตกพื้นแตก”ซ่งปี้อวิ๋นเผยสีหน้าอึดอัดคับข้องใจ นางบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง ของดีล้ำค่าถึงเพียงนี้ นางอยากจะรับไปดีๆ ใครคิดเล่าว่าจะเกิดผลลัพธ์เช่นนี้?เพียงชุ่ยจูได้ยินก็รีบพูดว่า “องค์หญิง ไม่ใช่บ่าวไม่

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status