Share

บทที่ 3

“แม่นางฉิน ได้โปรดถอดออก เพียงมองดูก็จะทราบได้” เฉินเซียงเอ่ย

เพียงฉินซวงซวงถอดออก เฉินเซียงก็หยิบกำไลหยกไปให้ทุกคนดูหนึ่งรอบ “ทุกท่านล้วนเห็นอย่างชัดเจนแล้ว ด้านบนแกะสลักชื่อเล่นของคุณหนูข้าเจินเอ๋อร์เอาไว้!”

“ยังไม่ต้องพูดว่าท่านโหวและคุณหนูข้ายังไม่แต่งงานกัน ต่อให้แต่งงานแล้วจริง คนมีหน้ามีตาที่ใดยักยอกสินเดิมของฮูหยินตนเองด้วยหรือ?”

นับแต่โบราณจนถึงตอนนี้ สินเดิมล้วนเป็นสิ่งของติดตัวฝ่ายหญิง แม้แต่บ้านสามีก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้อง เว้นเสียแต่ตนเองยินยอม ทว่าหลินจือเยว่หยิบไปโดยตรงไม่บอกกล่าวเช่นนี้ เรียกว่าขโมยก็ไม่เกินจริง

ครั้นซ่งจืออวี้พี่ชายสามของซ่งรั่วเจินเร่งเดินทางมาถึงก็ได้ยินว่าหลินจือเยว่ยกกำไลหยกที่ท่านแม่มอบให้เจินเอ๋อร์เป็นสินเดิมให้กับฉินซวงซวง กำปั้นเจือความเกรี้ยวกราดกระแทกเข้าไปโดยตรงหนึ่งหมัด!

“ไอ้สารเลว!”

หลินจือเยว่ถูกกำปั้นกระแทกหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ดวงหน้าหันไปอีกฝั่งหนึ่ง เลือดไหลออกจากมุมปาก

ซ่งจืออวี้ไม่คิดยั้งมือเลยแม้แต่น้อย วันนี้เป็นวันมงคลยิ่งใหญ่ของน้องหญิง พวกเขาทั้งครอบครัวส่งนางออกจากจวนอย่างดีใจมีความสุข ใครคาดคิดมาถึงจวนหลินโหวจะถูกหมิ่นแคลนทำให้อับอายเช่นนี้!

“ผลั่ก ผลั่ก ผลั่ก !”

กำปั้นกระแทกเข้าไปไม่หยุด ซ่งจืออวี้เกรี้ยวกราดคล้ายสิงโต น้องหญิงที่พวกเขาวางไว้อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ เหตุใดต้องเสียใจเพียงนี้!

“คุณชายซ่ง ท่านรีบยั้งมือเดี๋ยวนี้!”

ฉินซวงซวงเห็นหลินจือเยว่ถูกต่อยจนตาแดงแล้ว ถลันเข้าไปขวางหน้าหลินจือเยว่ จากนั้น...ถูกซ่งจืออวี้ตบหน้าแรงๆ หนึ่งฉาด

“นางแพศยา เจ้านับเป็นตัวอะไร? ขวัญกล้าทำลายงานแต่งของน้องหญิงข้า!”

ซ่งรั่วเจินมองการกระทำของพี่สามบ้านตน ลอบปรบมือร้องว่าดีในใจ ทำได้เยี่ยมมาก!

“ซ่งจืออวี้ เจ้าต่อยข้าก็ช่างเถอะ มีสิทธิ์อะไรมาตบซวงซวง?”

หลินจือเยว่เห็นฉินซวงซวงถูกตบก็ทนไม่ได้ หนึ่งหมัดเหวี่ยงไปทางซ่งจืออวี้

ดวงตาคู่สวยของซ่งรั่วเจินหรี่เล็กลง ชายหลายใจคนนี้ยังคิดลงมือกับพี่ชายนาง? ฝันไปเถอะ!

นางหยิบหินขึ้นมาหนึ่งก้อนอย่างไม่ตั้งใจขว้างออกไปแล้ว มองเห็นหินเล็กๆ ถูกขว้างออกไปกระแทกเข้ากับข้อเท้าของหลินจือเยว่อย่างแรง ทำให้เขาเซถลาคุกเข่าลงตรงหน้าซ่งจืออวี้

ซ่งจืออวี้ “…?”

“หลินจือเยว่ เพื่อเงินเจ้าถึงขั้นไม่สนศักดิ์ศรี แต่หากเจ้าต้องการคุกเข่าก็ควรคุกเข่าให้น้องหญิงข้า คุกเข่าให้ข้าล้วนไม่มีประโยชน์!”

ซ่งรั่วเจินเกือบหลุดหัวเราะออกมาแล้ว ช่างเป็นพี่สามแสนดีของนางจริงๆ!

สีหน้าหลินจือเยว่บึ้งตึงจนน่ากลัว ฉินซวงซวงประคองเขาขึ้นมา ใบหน้าแดงก่ำโมโหเดือดดาล “เมื่อครู่เป็นฝีมือใคร? ใครปาหินใส่ข้า!”

ไม่มีคนตอบ

“น่ากลัวกรรมตามสนองแล้วกระมัง?” ซ่งรั่วเจินแสร้งตกตะลึง “ฟ้าดินมีวิญญาณ คนผู้นี้ไร้ยางอายเกินไป ย่อมถูกสวรรค์ลงโทษ”

หลินจือเยว่กำลังจะขยับ ฉินซวงซวงก็เปิดปากปกป้องแล้ว “แม่นางซ่ง ระหว่างเจ้าและท่านโหวยังมีเยื่อใยต่อกัน เปล่งวาจาเช่นนี้ใจร้ายเกินไปหรือไม่?”

“ข้าใจร้าย?” ซ่งรั่วเจินนั่งบนเก้าอี้ที่เฉินเซียงยกมา ในมือขาดเมล็ดแตงให้แทะระหว่างรับชมละครฉากสนุก นางเหยียดนิ้วชี้ไปทางหลินจือเยว่ “หนึ่งคนใช้เงินของข้าเลี้ยงดูหญิงอื่น หนึ่งคนไม่มียางอายยึดครองว่าที่สามีของข้า พวกเจ้าสองคนสมคบคิดกัน เหตุใดยังกล้าพูดว่าข้าใจร้ายเล่า?”

“นางคนต่ำช้าไร้ยางอาย!” ซ่งจืออวี้เผยสีหน้ารังเกียจ หันมองน้องหญิงของตนอย่างสงสาร “น้องหญิงไม่ต้องกังวล เจ้าคือไข่มุกล้ำค่าของพวกเราสกุลซ่ง ไฉนเลยจะสามารถถูกนางแพศยาพรรค์นี้รังแกได้?”

“ข้าว่าหลินจือเยว่เองก็ตาบอด งานแต่งนี้ยกเลิกก็ช่างเถอะ!”

“เข้ามา ย้ายของของบ้านข้าสกุลซ่งทั้งหมดออกไป หากขนไม่หมดก็ทุบทิ้งเสีย สิ่งของของบ้านข้าสกุลซ่ง พวกเขาไม่คู่ควร!”

มองเห็นเครื่องประดับหลากหลายชนิด ผ้าแพรต่วน เงินในคลังไปจนถึงตั่งเตียงโต๊ะแปดเซียน แม้แต่กระถางดอกไม้ก็ถูกยกออกไป กระเบื้องที่ถูกปูใหม่บนหลังคาถูกทุบทิ้ง แสงแดดเจิดจ้าสาดเข้าเรือน

ซ่งรั่วเจินยกมือขึ้นอย่างพึงพอใจ “คนที่มาจัดงานเลี้ยงถือของตามข้าไป จัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองกับราษฎรริมถนนหน้าจวนข้าสามวัน!”

หลินจือเยว่โมโหจนสีหน้าเขียวคล้ำ ซ่งรั่วเจินกลับกระแทกสมุดบัญชีเล่มหนึ่งใส่

“เว้นเสียแต่ของที่ข้านำไป ท่านโหวยังติดค้างข้าแปดล้านตำลึง ต้องนำไปส่งให้ถึงจวนสกุลซ่งของข้าภายในหนึ่งวัน หาไม่แล้วข้าจะไปฟ้องร้องต่อศาลกับท่าน!”

“อะไรนะ? แปดล้านตำลึง?” สีหน้าหลินจือเยว่เปลี่ยนไปแล้ว “เพียงสองปีสั้นๆ จวนโหวจะสามารถใช้จ่ายเงินมากเพียงนี้ได้อย่างไร?”

“ท่านโหวอย่าเพิ่งร้อนใจ ทุกรายการล้วนบันทึกไว้ในสมุดบัญชีทั้งหมดแล้ว ยังไม่ต้องพูดเรื่องอื่น สองปีมานี้ท่านส่งจดหมายถึงข้าสิบสองฉบับ ทุกครั้งล้วนอ้าปากขอเงิน หรือท่านแกล้งไม่รู้?”

ซ่งรั่วเจินแค่นหัวเราะเสียงเย็นทีหนึ่ง ขณะเดินออกจากจวนหลินโหว ก็ปลดป้ายจวนหลินโหวลงมาแล้ว

“เพล้ง” เสียงดังขึ้น แตกออกเป็นสี่ห้าส่วน

“ป้ายนี้เองก็เป็นข้าสั่งให้คนทำขึ้นเมื่อหลายวันก่อน บัดนี้ไม่ได้ใช้งาน ทำลายทิ้งก็ไม่เกินไปกระมัง?”

ซ่งรั่วเจินปรายสายตาเย้ยหยันให้หลินจือเยว่แวบหนึ่ง ก่อนจะก้าวอย่างมั่นคงออกจากจวนหลินโหว แต่กลับมองเห็นเงาร่างสง่างามน่าเกรงขามสายหนึ่งที่หน้าประตู

ฝ่ายชายหล่อเหลาเปล่งประกาย ชุดผ้าแพรสีดำขับเน้นให้เขาสง่างามไม่ธรรมดา ดวงตาดำดุจหมึกคู่นั้นคล้ายหลุมลึก สงบไร้คลื่น สุขุมสง่างาม

สายตากวาดมองอย่างแปลกใจแวบหนึ่ง ดวงชะตาของคนผู้นี้ดีกว่าหลินจือเยว่อีกกระนั้นหรือ?

ฉู่จวินถิงสบมองซ่งรั่วเจินที่แก้แค้นอย่างมีความสุขตรงหน้า ในใจให้นึกแปลกใจ เห็นได้ชัดว่าชาติก่อนซ่งรั่วเจินกล้ำกลืนฝืนทนอยู่ตลอด ปูทางต่อสะพานให้หลินจือเยว่จนเขาประสบความสำเร็จไปทั้งชาติ หรือว่า...นางเองก็กลับชาติมาเกิด?

นี่...น่าสนใจยิ่งนัก!

ณ จวนสกุลซ่ง

“เจินเอ๋อร์ เหตุใดจึงกลับมา?”

หลิ่วหรูเยียนก้าวเท้าฉับไวขึ้นไปด้านหน้า สายตาเปี่ยมความตกตะลึง กลับบ้านมารดาในวันแต่งงาน มีหลักการนี้ที่ใดกัน?

“ท่านแม่ ข้าไม่แต่งแล้ว”

“จวนโหวเฮงซวยอะไร น้องหญิงห้าไม่แต่งแล้ว ก่อนนี้ข้าเห็นหลินจือเยว่ดูเป็นคนที่พึ่งพาได้ คิดไม่ถึงเรื่องที่ทำออกมาน่ารังเกียจเพียงนี้ วันแต่งงานกลับตบแต่งภรรยาหลวงศักดิ์เทียมกันอีกคน ไม่เห็นหัวคนสกุลซ่งแล้วกระนั้นรึ?”

ซ่งจืออวี้ยังระบายโทสะภายในใจไม่หมด เพียงเปิดปากก็บ่นยาวเป็นพรวนคล้ายจุดประทัด

“ฉินซวงซวงอะไรนั่น หลายปีก่อนคลั่งใคล้หลงใหลองค์ชายสามอยู่ตลอด บัดนี้อายุมากแล้วแต่งไม่ออกจึงตกลงแต่งงานกับหลินจือเยว่ สรุปว่าไอ้คนไม่ได้เรื่องคนนั้นรีบตอบตกลงเห็นเป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง วันนี้ตีหัวเขาไม่แตกช่างไม่สบอารมณ์จริงๆ!”

“อะ อะไรนะ?” สีหน้าหลิ่วหรูเยียนเผือดซีด หวุดหวิดจะเป็นลมหมดสติไปแล้ว ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ สุ้มเสียงสิ้นหวัง “เหตุใดจวนสกุลหลินเหยียดหยามลูกสาวข้าเพียงนี้ พวกเราสกุลซ่งทำผิดต่อพวกเขาที่ใด?”

ซ่งรั่วเจินตาไวมือไว รีบประคองนางไว้ก่อน “ท่านแม่ ท่านอย่าเสียใจไปเลย วันนี้ข้าไม่แต่ง ท่านสมควรดีใจแทนข้าต่างหาก”

“ยังไม่ต้องพูดว่าข้าและเขาหมั้นหมายกันตั้งแต่แรก ครานั้นเป็นเขาคุกเข่าภายในจวนขอข้าแต่งงาน เขายังเป็นสหายร่วมเป็นร่วมตายกับพี่ใหญ่อีกด้วย ขอเพียงเป็นคน ล้วนไม่ทำไม่ดีต่อข้า แต่วันนี้เขาสามารถทำเรื่องพรรค์นี้ออกมาได้ เห็นได้ชัดว่าเขาไร้คุณธรรม ไร้มโนธรรม เห็นแก่ตัวไม่มีหัวใจ”

“หากข้าแต่งกับเขาแล้ว นั่นต่างหากถึงสิ้นหวังชั่วชีวิต”

หลิ่วหรูเยียนจับมือนาง สายตาเปี่ยมสงสาร “บัดนี้นายท่านหายตัวไป พี่ใหญ่และพี่รองของเจ้าล้วนเกิดเรื่อง อยู่ในช่วงตระกูลเผชิญวิกฤตพอดี เดิมทีข้าอยากให้เจ้าแต่งกับหลินโหวเพื่อให้มีชีวิตสงบสุข คิดไม่ถึงว่า…”

“เจินเอ๋อร์ ล้วนเป็นแม่ทำร้ายเจ้าแล้ว คิดว่าหลินโหวจะเป็นคนที่สามารถฝากฝังไว้ได้คนหนึ่ง!”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status