Share

บทที่ 5

Author: จี้เวยเวย
ซ่งรั่วเจินพูดอย่างจริงจัง อาการป่วยนี้สำหรับนางกลับรักษาไม่ยาก แต่ต้องใส่ใจมากก็เท่านั้น

เดิมทีซ่งอี้อันคิดว่าน้องหญิงปลอบโยนตนเอง มิได้เก็บมาใส่ใจ ทว่าเห็นนางพูดอย่างตั้งใจมากเป็นพิเศษ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเชื่อขึ้นมาหลายส่วน

“น้องหญิงคนดี พี่รองเชื่อเจ้า”

ซ่งจืออวี้เห็นซ่งอี้อันคล้ายถูกเกลี้ยกล่อมสำเร็จแล้ว เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “พี่รอง ท่านเชื่อจริงหรือ? น้องหญิงห้าไม่เคยเรียนวิชาแพทย์มาก่อนนะ”

“น้องหญิงห้าดีใจก็พอ ตอนนี้ข้าก็กลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว หมอทั้งเมืองหลวงล้วนมาดูแล้ว ยังมีอันใดให้กลัวอีกเล่า?”

ซ่งอี้อันยกมุมปากยิ้มขมปร่า นับตั้งแต่วันที่ตาบอดอนาคตอันรุ่งโรจน์ของเขาก็สูญสลายกลายเป็นหมอกผ่านตา ถอนหมั้นก็คือเรื่องที่คาดการณ์ไว้แล้ว น้องหญิงไม่ยอมให้เขายอมแพ้ ก็เพราะหวังดีต่อเขา

ส่วนเป็นเรื่องจริงหรือไม่...สำคัญด้วยหรือ?

ซ่งรั่วเจินมิได้ใส่ใจบทสนทนาของทั้งสองคน สายตานางเบือนไปทางด้านหลัง นับตั้งแต่เหยียบเท้าเข้าจวนสกุลซ่ง นางก็สังเกตุเห็นว่าเรือนด้านหลังถูกพลังชั่วร้ายปกคลุมอยู่

เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นวันแสงแดดจ้า ทว่าด้านหลังกลับอึมครึม ต้องมีบางสิ่งกำลังสร้างปัญหาอย่างแน่นอน

“ข้าไปดูด้านหลังสักหน่อย”

เห็นซ่งรั่วเจินพูดจบก็ไปที่เรือนด้านหลังแล้ว ซ่งจืออวี้รีบไล่ตามไป “น้องหญิงห้า รอข้าด้วย”

ยิ่งเข้าใกล้เรือนด้านหลัง พลังชั่วร้ายก็ยิ่งหนาแน่น เดิมทีอากาสควรอบอุ่น มาถึงที่นี่แล้วกลับเปลี่ยนเป็นเยียบเย็นอย่างฉับพลัน ชวนให้คนเย็นสันหลังวูบ

สายตาซ่งรั่วเจินจับจ้องพลังชั่วร้ายล่องลอยในอากาศ ขมวดคิ้วแน่น “พี่สาม ช่วงนี้เรือนด้านหลังมีอันใดเปลี่ยนไปหรือไม่?”

“ไม่มีนี่” ซ่งจืออวี้ส่ายหน้า

“เช่นก่อสร้างอะไรจำพวกนั้น” สายตาซ่งรั่วเจินจริงจัง ก่อนนี้ยามนางอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องสกุลซ่ง เป็นเพียงการเขียนแบบผ่านๆ เท่านั้น มิได้เขียนรายละเอียดเหล่านี้ ย่อมไม่แน่ใจเฉกเดียวกัน

ซ่งจืออวี้นึกขึ้นได้ “น้องหญิงห้า เจ้ากำลังพูดถึงสระบัวที่เพิ่งถมให้เรียบกระมัง?”

“สระบัว?” ซ่งรั่วเจินชี้ไปด้านหน้า “อยู่ที่นี่หรือ?”

“ใช่แล้ว” ซ่งจืออวี้พยักหน้า “ช่วงนี้ที่บ้านไม่สงบสุข ท่านพ่อเองก็หายตัวไปจนถึงตอนนี้ พี่ใหญ่ได้รับบาดเจ็บที่ขาทั้งสองข้าง ท่านแม่เองก็กระวนกระวายใจอยู่ตลอด”

“ก่อนหน้านี้ได้ฟังคำชี้แนะ จึงเชิญผู้มีวิชามาดูฮวงจุ้ย พูดว่าสระบัวนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายอัปมงคล ทำลายโชคชะตาภายในจวน นี่ถึงเกิดเรื่องอย่างต่อเนื่องเช่นนี้”

“ท่านแม่คิดว่านับตั้งแต่มีสระบัวนี้ ภายในบ้านก็เกิดเรื่องแล้วเรื่องเล่าขึ้นจริง จึงฟังคำพูดของคนผู้นั้น ถมสระบัวให้เรียบ หวังเพียงให้งานแต่งของเจ้าราบรื่น คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องขึ้นอีก...”

ซ่งรั่วเจินจับประเด็นสำคัญได้แล้ว “ท่านแม่ฟังใครชี้แนะ?”

สระบัวนี้มีปัญหาจริง ขัดต่อโชคชะตาของจวนสกุลซ่ง แต่เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย อิงตามหลักการแล้วหลังถมจนเรียบก็สามารถกลับร้ายกลายเป็นดีได้ ไม่มีวันมีพลังชั่วร้ายหนาแน่นเพียงนี้

เกรงว่า...จะมีใครเพิ่มบางอย่างเข้าไป

เปลี่ยนโชคชะตาอะไรกัน? เห็นได้ชัดว่าตั้งใจทำลายโชคชะตาของจวนสกุลซ่ง ทำให้ทั้งจวนสกุลซ่งไม่มีโอกาสกลับมารุ่งโรจน์ได้อีก!

“ฟังท่านน้าชี้แนะมา”

“ท่านน้า?” ซ่งรั่วเจินนึกขึ้นได้

ท่านน้าท่านนี้แม้เป็นน้องสาวของหลิ่วหรูเยียน แต่แท้จริงแล้วสนิทสนมกับครอบครัวทางฝั่งฉินซวงซวงมากกว่า ก่อนหน้านี้ยามอ่านหนังสือก็รู้สึกแปลกใจมาก

ตระกูลหลิ่วเป็นตระกูลเล็ก ส่วนกู้อวิ๋นเวยมารดาฉินซวงซวงเป็นบุตรีของราชครูกู้ ฐานะสูงศักดิ์ มิหนำซ้ำสายตายังแหลมคม ไม่ชายตามองคนธรรมดา แต่กลับผูกไมตรีกับท่านน้าของสกุลหลิ่ว ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย

“ก่อนหน้าท่านน้ามาแล้ว ก็เพราะเชิญผู้ทรงศีลท่านนี้มา หลอกเอาของจากมือท่านแม่ไปไม่น้อย ผ่านมานานหลายปี เคยชินเสียแล้ว”

ซ่งรั่วเจินรู้ดีมากว่าท่านน้าหลิ่วเฟยเยี่ยนคือผู้ช่วยของฉินซวงซวง แค่ไม่รู้ว่าตกลงทั้งสองคนสมรู้ร่วมคิดกันเช่นไร

หันมองพลังชั่วร้ายขยายวงกว้าง สายตาพลันเยียบเย็น นางก็พูดแล้วเชียวแม้ฉินซวงซวงและหลินจือเยว่รักกัน ก็ไม่ถึงขั้นต้องทำให้ทั้งสกุลซ่งล่มสลาย คนในครอบครัวล้วนตายอย่างอนาจหรอกกระมัง บัดนี้มองดูแล้ว...เห็นได้ชัดว่าถูกยึดโชคชะตาไปแล้ว!

“พวกเจ้า ขุดที่นี่ออก!” ซ่งรั่วเจินสั่ง

สีหน้าซ่งจืออวี้เปลี่ยนไป “น้องหญิงห้า ก่อนหน้านี้ผู้มีวิชาเคยสำทับมาก่อนว่าหลังจากถมดินแล้ว ห้ามมิให้แตะต้องอีกภายในร้อยปี หาไม่แล้วต้องเกิดเภทภัย เลือดตกยางออก!”

“ห้ามมิให้แตะต้องภายในร้อยปี?” ซ่งรั่วเจินยิ้มเยาะทีหนึ่ง คนทำเช่นนี้นับว่ามีความสามารถจริงๆ เพียงหนึ่งประโยคก็ทำให้คนสกุลซ่งไม่กล้าแตะต้องแล้ว

เลือดตกยางออก

เดิมทีสกุลซ่งก็ตกอยู่ในสถานการณ์ง่อนแง่นวุ่นวายอยู่แล้ว ไฉนเลยจะกล้าขุดออกมาดู?

เวลายิ่งนาน โชคชะตาก็ถูกยึดครองไปจนหมด นี่ต่างหากถึงทำให้ทั้งตระกูลต้องเลือดตกยางออก!

“เช่นนั้นรอท่านแม่ฟื้นแล้วค่อยถามดีๆ อีกครั้งเถอะ ข้าเองก็อยากรู้ว่าผู้มีวิชาท่านใดมีความสามารถถึงเพียงนี้!”

ซ่งรั่วเจินใคร่ครวญพลางเอ่ย วันนี้ท่านแม่ถูกทำให้สะเทือนอารมณ์มากแล้ว หากฟื้นขึ้นมารู้ว่านางขุดดินอีก เกรงว่าต้องตกใจจนหมดสติอีกเป็นแน่ มิสู้รอนางจับคนหลอกลวงออกมาก่อน ยังทำให้ท่านแม่จิตใจสงบลงได้อีกด้วย

ซ่งจืออวี้สงสัย เหตุใดคิดว่าน้องหญิงห้าคล้ายกำลังเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันยามพูดคำนี้ออกมากันเล่า?

หญิงสาวหยิบยันต์ออกมาและซ่อนไว้ที่ใต้ต้นไม้ทางด้านข้าง แสงสีทองอ่อนๆ หนึ่งชั้นแผ่ขยายออกไป พริบตาเดียวก็ปกคลุมพลังชั่วร้ายนั้น เมื่อสำรวจอย่างถี่ถ้วน พบว่าพลังชั่วร้ายถูกย้อมด้วยสีแดง ถึงขั้นกลายเป็นพลังโลหิตพิฆาต

หากยังไม่รีบกำจัด ต้องเกิดเรื่องกับสกุลซ่งอีกเป็นแน่

หลังพลังชั่วร้ายถูกสะกดลงไป ซ่งจืออวี้รู้สึกเพียงความหนาวเย็นหายไปแล้ว กลับกลายเป็นอบอุ่นขึ้นมา

“ทุกครั้งข้าผ่านมาที่นี่ล้วนคิดว่าหนาวเย็นเป็นพิเศษ รู้สึกกลัวอยู่บ้าง เมื่อครู่ความรู้สึกนี้ยังอยู่ บัดนี้กลับไม่มีแล้ว?”

ซ่งจืออวี้มองไม่เห็นพลังชั่วร้าย เพียงรู้สึกว่าที่แห่งนี้ชวนให้คนขนลุกภายในใจ ตอนนี้กลับกลายเป็นสบายเสียแล้ว

“ใครอยู่ทางฝั่งนั้น?” ซ่งรั่วเจินชี้ไปที่เรือนอยู่ห่างจากสระบัวไม่ไกล ภายในมีกลิ่นอายแห่งความตายอ่อนๆ

“เป็นพี่ใหญ่อย่างไรเล่า!” ซ่งจืออวี้มองซ่งรั่วเจินอย่างกังวล “น้องหญิงห้า หากเจ้าไม่สบายก็ไปพักผ่อนในห้องก่อนเถอะ วันนี้เกิดเรื่องมากเพียงนี้ เจ้าอย่ายุ่งอีกเลย”

เดิมทีเขาคิดว่าน้องหญิงห้าปล่อยวางอย่างที่แสดงออกมาแล้วจริงๆ ไม่เก็บเรื่องถอนหมั้นมาใส่ใจอีก ทว่าบัดนี้ลืมกระทั่งพี่ใหญ่พักที่ใด นี่ยังไม่ใช่เพราะสะเทือนอารมณ์อีกหรือ?

“เพราะเหตุนี้ถึงมีกลิ่นอายของความตายอ่อนๆ ที่แท้ก็อยากฆ่าตัวตาย” ซ่งรั่วเจินพูดงึมงำกับตนเอง “กระนั้นยังดี กลิ่นอายของความตายไม่รุนแรง ยังไม่ตายเร็วๆ นี้ ไม่ต้องใส่ใจ”

ซ่งจืออวี้ได้ฟังก็ตกใจ “…!”

พี่ใหญ่คิดฆ่าตัวตาย!

น้องหญิงห้าพูดว่ายังไม่ตายเร็วๆ นี้ ไม่ต้องใส่ใจ?!

สวรรค์!

ซ่งอี้อันมาถึงที่นี่โดยมีบ่าวรับใช้ประคอง เห็นว่าน้องหญิงของตนมีท่าทีคล้ายจะรื้อบ้าน รู้สึกแปลกใจอย่างสุดระงับ เมื่อครู่น้องหญิงโวยวายใหญ่โตที่จวนโหว เกือบรื้อจวนโหวแล้ว ครั้งนี้กลับมาแล้วก็เตรียมรื้อบ้านกระนั้นหรือ?

“พี่รอง ช่วงนี้ท่านมีของชิ้นใหม่อันใดหรือไม่?”

ซ่งรั่วเจินตรวจสอบซ่งอี้อัน หว่างคิ้วทั้งสองข้างของเขามีสีดำ ดวงตาทั้งสองข้างแดงเรื่อ เป็นลางบอกเหตุว่าจะได้รับอันตราย

เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่ยามพบหน้า ใบหน้าเขาไม่เป็นถึงขั้นนี้ ภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงครู่เดียว กลับมีการเปลี่ยนแปลงเสียแล้ว
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 6

    “เจ้าหมายถึงสร้อยข้อมือเส้นนี้หรือ?”ซ่งอี้อันถอดสร้อยข้อมือออกแล้วส่งมาให้ ก่อนหน้านี้ตัวสร้อยถูกแขนเสื้อปกคลุมเอาไว้ ซ่งรั่วเจินจึงมองไม่เห็น ครั้นเมื่อเห็นสร้อยข้อมือที่สะท้อนใต้แสงแดด ก็พบว่าของสิ่งนี้มีกระแสไอของความอัปมงคลที่หมุนวนขึ้นมา“เจ้าไม่พูดข้าก็เกือบลืมไปเสียสนิท สร้อยข้อมือเส้นนี้เป็นของที่หลินโหวส่งมาให้ ตอนนี้งานวิวาห์ยกเลิกไปแล้ว สร้อยข้อมือเส้นนี้ก็ไม่ควรเก็บไว้”ผู้เป็นพี่คิดเพียงว่าน้องสาวของเขาแค่ตั้งใจเตือนตนเอง เพราะอย่างไรเสีย ตอนนี้สองตระกูลไม่มีความเกี่ยวข้องกันแล้ว เก็บไว้ก็ไม่เหมาะสมจริง ๆ“ท่านบอกว่าสร้อยข้อมือเส้นนี้เป็นของที่หลินจือเยว่ส่งมาหรือ?”ของสิ่งนี้อาบชโลมด้วยโลหิตมนุษย์ ไออัปมงคลหลอมรวม เป็นของสกปรกขุ่นมัว หลินจือเยว่จงใจหาของแบบนี้มามอบให้ ช่างมีน้ำใจนัก!ซ่งอี้อันพยักหน้า “ครั้งก่อนที่หลินโหวมาเยี่ยมเจ้าที่จวน เขาก็ให้ข้ามา บอกว่ารู้ว่าข้าชื่นชอบ ใช้เงินไปไม่น้อยเพื่อซื้อมาให้โดยเฉพาะ”“หากพี่ชายรองชอบสร้อยข้อมือก็เอาเส้นที่เป็นของข้าไปก่อน ส่วน ‘ของล้ำค่า’ ชิ้นนี้ส่งคืนให้หลินจือเยว่เถิด”ซ่งรั่วเจินหยิบสร้อยข้อมืออีกเส้นส่งไปให้ หล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 7

    จวนตระกูลซ่งหลิ่วหรูเยียนค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นซ่งรั่วเจินอยู่ตรงหน้าก็รีบเอ่ยถามว่า “เจินเอ๋อร์ จวนตระกูลจ้าวขอถอนหมั้นแล้วจริงหรือ?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า มองดูใบหน้าซีดเผือดของผู้เป็นมารดาด้วยแววตาที่ไม่อาจหักหาญใจ “ท่านแม่ ในเมื่อจวนตระกูลจ้าวเลือกที่จะเลิกหมั้นในช่วงเวลานี้ ก็เห็นได้ชัดว่านางมิใช่คู่ที่ดีของพี่ชาย เราไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องการหมั้นนี้”“เดิมทีจ้าวซูหว่านก็ไม่เหมาะสมกับพี่ชายรองอยู่แล้ว ข้าคิดว่าการถอนหมั้นเป็นเรื่องดี มิฉะนั้น การแต่งงานกับหญิงสาวเช่นนี้ เกรงว่าในอนาคตคงไร้ซึ้งความสุขสงบ”“แม่รู้ดีว่าจ้าวซูหว่านไม่เหมาะกับพี่ชายของเจ้า แม่เองก็ไม่เห็นด้วยกับการหมั้นหมายนี้ตั้งแต่แรก เพียงแต่พี่ชายของเจ้าไม่มีหญิงสาวที่หมายปองเสียที ในเมื่อทั้งสองคนรักกัน แม่ก็ไม่อยากจะขัดขวาง”“ตอนนี้พี่ชายของเจ้าตาบอด หมอจากทั่วเมืองมาตรวจดูแล้วล้วนบอกว่ารักษาไม่ได้ แม่ไม่อยากให้พี่ของเจ้าต้องเจ็บปวดซ้ำ ๆ …”“พ่อของเจ้าจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด ถ้าเขารู้ว่าในเวลาที่ตนไม่อยู่ ข้าไม่สามารถดูแลพวกเจ้าให้ดีได้…”หลิ่วหรูเยียนพูดพลางน้ำตาก็คลอเบ้า หมู่นี้ในจวนมีแต่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 8

    สองปีก่อนเขาไม่อาจแต่งงานกับนางในดวงใจได้จึงรู้สึกหมดหวัง ตอนรู้ว่าผู้เป็นแม่ได้จัดการหมั้นหมายให้แล้ว เขาก็ตอบรับทั้ง ๆ ที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่แม้แต่จะชายตามองนางเลยสักนิด คิดเพียงว่าคุณหนูตระกูลใหญ่ส่วนมากจะหัวโบราณและขี้ขลาด ไม่เหมือนกับซวงซวงผู้น่ารักและมีเสน่ห์ดึงดูดใจทว่าในขณะนี้เมื่อเขาเห็นซ่งรั่วเจิน ถึงได้รู้ว่านางนั้นงดงามน่ามองเพียงใดซ่งรั่วเจินเห็นหลินจือเยว่จ้องนางตาไม่กะพริบ ใจของนางก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ มีเพียงความคิดเดียวในหัวคืออยากจะควักลูกตาของคนผู้นี้ออกมาเสียมองอะไร! อัปมงคลเสียจริง!“แม่นางซ่ง เรื่องวันนี้เป็นความผิดของข้าเองที่ไม่ได้บอกเจ้าตั้งแต่แรก ข้าขอโทษ” หลินจือเยว่กล่าวซ่งรั่วเจินหัวเราะเบา ๆ “หลินโหว ตอนขบวนเจ้าสาวของข้ากำลังจะเข้าเรือน ก็พึ่งได้รู้ว่ามีสตรีอีกนางจะแต่งเข้าพร้อมกับข้า วันนี้ท่านยังพูดต่อหน้าแขกมากมายอีกว่าในใจท่านมีเพียงแม่นางฉินเท่านั้น”“ในเมื่อพวกท่านรักกัน ข้าก็ยินดีทำให้สมหวัง ไยต้องมาที่นี่อีก?”เมื่อเห็นหญิงสาวพูดจาไม่น่าฟัง หลินจือเยว่ก็ขมวดคิ้วไม่พอใจ เขายอมมาขอโทษด้วยตัวเองก็ถือว่าให้เกียรติตระกูลซ่งมากแล้ว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 9

    “นางย่อมเป็นคนใจดีและใจกว้าง นางเป็นคุณหนูตระกูลฉิน ฐานะไม่ต่ำกว่าเจ้า แต่เพราะข้ายอมรับเจ้า เจ้ากลับมีจิตใจคับแคบ เทียบกับนางไม่ได้เลยแม้แต่น้อย และไม่มีวาสนาพอรับน้ำใจของนางได้!”หลินจือเยว่คว้าสร้อยข้อมือไปและสวมไว้ที่ข้อมือตนเองซ่งรั่วเจินยกคิ้วขึ้น คดีไขได้แล้ว เป็นฉินซวงซวงจริง ๆ ด้วย!“ฮูหยินซ่ง เรื่องนี้ต้องคิดให้รอบคอบ!”หลินรั่วหลานร้อนใจมาก สองปีนี้นางนำเงินของตระกูลซ่งไปใช้ชีวิตอย่างสบาย ออกไปที่ใดก็มีแต่คนอิจฉา นางใช้ชีวิตกินดีอยู่สบายจนเคยชินแล้ว ไหนเลยจะยอมกลับไปใช้ชีวิตลำบากแบบเดิมได้?หากซ่งรั่วเจินไม่แต่งงานเข้ามา จวนหลินโหวก็จะว่างเปล่า อย่าว่าแต่ชีวิตที่กินดีอยู่สบายเลย เงินที่มีก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง แม้แต่เงินที่จะจ่ายให้คนรับใช้ก็ไม่มี“ความสัมพันธ์ของสองตระกูลดีเพียงนี้ จะขาดสะบั้นเพราะเรื่องเล็กน้อยนี้ได้อย่างไร? เยว่เอ๋อร์ยังหนุ่ม เพียงแค่หลงผิดไป รอให้เวลาผันผ่านย่อมรู้ว่ารั่วเจินต่างหากที่เป็นคู่ครองที่ดี”หลิ่วหรูเยียนปัดมือของหลินรั่วหลานออก “ไม่จำเป็น ลูกสาวของข้าไม่จำเป็นต้องอดทนรอให้ใครกลับใจ การหมั้นหมายล้มเลิกแต่เพียงเท่านี้ เราทั้งสองต่างก็เป็นค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 10

    เฉินเซียงตกตะลึง “คุณหนู นี่อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือไม่เจ้าคะ?”“เจ้าดูสิ ชุดที่นางใส่อยู่เป็นผ้าแบบเดียวกับคนใช้ของฉินซวงซวง คนรู้ก็รู้ว่าเจ้าเป็นสาวใช้ของข้า แต่คนไม่รู้คงคิดว่าเจ้าเป็นสาวใช้ของนาง!”ซ่งรั่วเจินมองด้วยสายตาเย็นชา ตอนที่อ่านนิยายนางก็รู้เรื่องนี้แล้ว เหตุผลที่ฉินซวงซวงรู้เรื่องของตัวเอกคนเดิมได้ดี เพราะนางได้วางคนเอาไว้ใกล้ตัวนางเอกมานานแล้วเมื่อคิดดูอย่างละเอียด เพ่ยหลานก็คือสาวใช้ที่ ‘ท่านน้าคนดี’ ของนางเลือกมาให้โดยเฉพาะนอกจากนี้ ตั้งแต่ที่นางทะลุมิติมา ก็ได้ตรวจร่างกายอย่างละเอียด พบว่าสุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีปัญหาใด ๆ แต่ตัวเอกหลังจากแต่งงานกับหลินโหวเพียงสองปีก็เสียชีวิตก่อนหน้านี้ที่อ่านนิยายนางไม่ได้คิดเรื่องนี้ เพียงคิดว่าไม่ได้รับความรักจากสามี และทำงานหนักเพื่อจวนหลินโหวจนป่วย แต่ตอนนี้พอคิดถึงวิธีการที่โหดร้ายและเพ่ยหลานที่อยู่ข้างกาย เกรงว่าอาจมีสาเหตุการตายที่น่าสงสัยกว่านั้น มิใช่เพราะร่างกายอ่อนแอ แต่เพราะมีคนไม่อยากให้นางมีชีวิตอยู่ต่างหาก!คนชั่วช้าเช่นนี้ต้องรีบจัดการออกไปโดยเร็ว!“พวกเจ้า นำตัวเพ่ยหลานไปตระกูลหลิ่ว!” ซ่งรั่วเจินยกมือขึ้น

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 11

    “ที่ท่านน้าพูด หมายความว่าสิ่งที่ข้าทำที่จวนตระกูลซ่งวันนี้เป็นเรื่องเสื่อมเสียหรือเจ้าคะ?”ซ่งรั่วเจินมองหลิ่วเฟยเยี่ยนตรงหน้าอย่างประเมิน ท่อนบนสวมเสื้อคลุมชวีจวี [1] ตัวยาวสีเขียวน้ำทะเลปักลายโบตั๋น ท่อนล่างคือกระโปรงเนื้อบางสีเหลืองปักลายโบตั๋น ทรงผมที่จัดแต่งอย่างประณีตนั้นประดับด้วยปิ่นปักผมลวดลายโบตั๋น สร้อยมุกโมราตรงลำคอยิ่งวาววับจับตา การแต่งตัวยังหรูหรากว่ามารดาของนางเสียอีกแต่ถึงแม้หลิ่วเฟยเยี่ยนกับหลิ่วหรูเยียนจะเป็นพี่น้องแท้ๆ กัน รูปโฉมของนางกลับด้อยกว่าหลิ่วหรูเยียนชนิดทิ้งห่างกันไกลถึงตอนนี้จะสวมเครื่องประดับเต็มยศ แต่เมื่อมานั่งอยู่ข้างกายหลิ่วหรูเยียนผู้อ่อนโยนที่แต่งกายเรียบง่ายก็ยังคงเทียบไม่ติด กลับดูพะรุงพะรัง แต่งเยอะเกินงาม“รั่วเจิน น้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น แต่เจ้าอายุเกินยี่สิบปีแล้ว เลือกคู่ครองดีๆ ไม่ได้แล้ว มิหนำซ้ำหลินโหวกำลังรุ่งโรจน์ ก่อเรื่องเช่นนี้แล้วผู้ใดจะกล้าเสี่ยงล่วงเกินหลินโหวมาสู่ขอเจ้า?”หลิ่วเฟยเยี่ยนเอ่ยราวกับปรารถนาดี หากมิใช่เพราะซ่งรั่วเจินรู้โฉมหน้าที่แท้จริงของนางแล้ว มาได้ยินถ้อยคำเปี่ยมน้ำใสใจจริงเช่นนี้เกรงว่าคงหลงเชื่อว่านาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 12

    เฉินเซียงที่อยู่ข้างๆ ได้ยินคำพูดคุณหนูของตนเองแล้วก็นึกขำอย่างอดไม่ได้ เมื่อวานเพ่ยหลานถูกมัดตัวส่งไปที่จวนตระกูลหลิ่วชัดๆ โดยส่งตรงถึงเรือนพักของพ่อบ้านหลิ่วเมื่อพ่อบ้านหลิ่วรู้ว่าเป็นเรื่องมงคลที่คุณหนูจัดแจงให้ก็หาได้ปฏิเสธ สานต่อเรื่องดีจนสำเร็จ พวกเขายังจดให้คนมาเฝ้าอยู่ข้างนอก ได้ยินว่าตอนแรกเพ่ยหลานไม่ยินยอม แต่ตอนหลังเสียงที่ดังออกมานั้นก็ฟังต่อไปไม่ไหวจริงๆจากคำบอกกล่าวของคนที่มารายงาน ตอนออกมาเช้าวันนี้เห็นภรรยาเอกของพ่อบ้านหลิ่วสีหน้าดำคล้ำนำคนบุกไปจัดการเพ่ยหลานอย่างเกรี้ยวกราด ได้ยินเสียงกรีดร้องน่าอนาถดังมาจากข้างหลัง รายละเอียดเป็นอย่างไรก็ไม่มีแก่ใจจะอยู่ฟังต่อไปแล้ว“นี่มันเหลวไหลชัดๆ รั่วเจิน ต่อให้งานวิวาห์ของเจ้ามีปัญหาก็ไม่ควรเอาไปลงกับคนรับใช้เช่นนี้! ดีชั่วอย่างไรเพ่ยหลานก็ติดตามเจ้ามาหลายปี เจ้าทำลายชีวิตนางเช่นนี้ไม่เกินไปหน่อยหรือ?”หลิ่วเฟยเยี่ยนพลันนึกโมโห เดิมเข้าใจว่าแค่ส่งคนกลับไป อย่างมากแค่รอให้ผ่านไปสักพักค่อยให้กลับมาก็ได้ แต่กลายเป็นว่าแต่งให้หลิ่วเหิงไปเสียแล้ว?หลิ่วเหิงไม่ได้เป็นแค่พ่อบ้าน เตียงของเขา คนแบบเพ่ยหลานสามารถปีนขึ้นไปได้เช่นนั้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 13

    ซ่งรั่วเจินกินอาหารมื้อกลางวันเสร็จก็ไปที่จวนตระกูลหลิ่วมองเห็นผู้คนมากมายเข้าออกประตูจวนตระกูลหลิ่วมาแต่ไกล คนไปมาหาสู่มีจำนวนไม่น้อย เมื่อเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงชมเชยเซ็งแซ่“ไต้ซือเทียนสุ่ยมีวิชาแก่กล้าจริงๆ เจ้าจำหลานชายของตระกูลจ้าวที่หมู่นี้เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดได้หรือไม่ หาหมอมากมายล้วนไม่เห็นผล เห็นๆ อยู่ว่าสุขภาพย่ำแย่ลงทุกทีจนแทบจะไม่ไหวแล้ว พอไต้ซือเทียนสุ่ยลงมือเท่านั้นก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง!”“นั่นน่ะสิ หลานชายข้าพักนี้ค้าขายไม่ราบรื่น เกือบทำกิจการของตระกูลล้มละลายไปเสียแล้ว ตั้งแต่ไต้ซือเทียนสุ่ยอัญเชิญเทพเจ้าแห่งโชคลาภมาให้ ทุกวันนี้การค้าเจริญรุ่งเรือง ดีวันดีคืน!”“ตระกูลหลิ่วเองก็ไม่รู้ว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนไปมากมายเท่าไหร่จึงสามารถเชิญไต้ซือเทียนสุ่ยมาได้ วันหน้าจะต้องได้ดิบได้ดีแน่”ได้ยินคำพูดแฝงความอิจฉาเหล่านั้น คิ้วใบหลิวของซ่งรั่วเจินก็เลิกขึ้นเล็กน้อย นางจะไปหยั่งเชิงไต้ซือเทียนสุ่ยผู้นี้ดูสักหน่อยว่ามีความสามารถจริงหรือไม่!เมื่อนางเข้าไปในจวนตระกูลหลิ่ว เห็นข้ารับใช้ในจวนกำลังจัดฮวงจุ้ยตามคำแนะนำของไต้ซือเทียนสุ่ย ก็แค่นหัวเราะในใจฮวงจุ้ยในจวนตระกูลหลิ่ว

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 850

    หญิงสาวใสซื่อไร้เดียงสาดุจบุปผาสีขาวบุรุษส่วนมากล้วนชมชอบหญิงสาวเช่นนี้“รอข้าเสียใจภายหลัง เจ้าอย่าให้อภัยข้าเป็นอันขาด” ซ่งจิ่งเซินพูดเสียงแผ่ว ซวยจริงๆเห็นเคอหยวนจื่อโมโหจากไปแล้ว ซ่งรั่วเจินตบบ่าซ่งจิ่งเซิน “พี่สี่ ตอนนี้ข้าสงสัยเหลือเกินหากความทรงจำของท่านฟื้นคืนกลับมาแล้วจะเสียใจภายหลังที่ได้ทำเรื่องนี้หรือไม่”“ที่ผ่านมาสมองของข้าต้องเสียไปแล้วแน่ถึงได้ชอบนาง บัดนี้คิดตกทั้งหมดแล้ว”“ความรักระหว่างข้าและนางไม่ต้องพูดถึง ก็แค่ข้าชอบนาง นางกลับไม่จริงใจต่อข้าเลยสักเศษเสี้ยว นี่จะแต่งกลับไปให้ท่านพ่อท่านแม่โมโหข้ากระนั้นหรือ?”ซ่งจิ่งเซินนึกถึงท่านลุงสามที่ตนยังไม่เคยพบหน้าก็ถูกสกุลกู้ขับไล่ไปแล้วท่านนั้น นั่นก็คือตัวอย่างอย่างไรเล่า!“ข้าได้ยินมาว่านับตั้งแต่กู้ชิงเจ๋อถูกไล่ออกมา ฮูหยินก็หย่ากลับบ้านไป หลิ่วอวิ๋นเวยเองก็ตายไปแล้ว บัดนี้ดื่มเหล้าเมามาย ใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข”ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วเรียวยาวดุจกิ่งหลิว “เพิ่งกลับมาไม่ใช่หรือ ท่านก็รู้เรื่องมากถึงเพียงนี้แล้ว?”“ย่อมเป็นเช่นนั้น ข่าวของพี่สี่เจ้าไม่ใช่เรื่องคุยโวโอ้อวดอย่างแน่นอน ข้าไม่อยากหลงใหลไม่ลืมหูลืม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 849

    “จิ่งเซิน ก็ถือเสียว่าในอดีตไม่มีอันใดเกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ข้ารับปากเลือกชวีคั่วก็เพราะถูกครอบครัวบังคับ ข้าทำอันใดไม่ได้!”เคอหยวนจื่อสบมองซ่งจิ่งเซินอย่างลึกซึ้ง “ข้ายอมรับก่อนหน้านี้ข้าผิดจริง ตอนนั้นเพราะท่านอยู่ข้างกายข้ามาโดยตลอด ข้าชินชากับการมีอยู่ของท่าน ไม่รู้ว่าท่านมีความสำคัญต่อข้ามากเพียงใด”“ช่วงเวลานี้ นับตั้งแต่ท่านลืมข้าไป ข้าเจ็บปวดใจราวกับถูกมีดกรีด นี่ถึงรู้ว่าที่แท้ภายในใจข้าไม่อาจไม่มีท่านได้ ท่านสามารถมอบโอกาสให้ข้าสักครั้งได้หรือไม่?”ซ่งรั่วเจินได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ภายในใจสะท้อนแววนึกสนุก เหตุใดเนื้อเรื่องคล้ายภรรยาตระหนักได้จึงไล่ตามง้อสามีเลยเล่า?ในอดีตยามซ่งจิ่งเซินไล่ตามนาง นางกลับไม่รู้สึกอันใด คิดเพียงว่าซ่งจิ่งเซินเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี บัดนี้จู่ๆ คนไร้ศักดิ์ศรีก็มีศักดิ์ศรีแล้ว นางถึงรู้ว่าชอบซ่งจิ่งเซินไปแล้ว?นางหันมองทางซ่งจิ่งเซินอย่างอดไม่ได้ อยากรู้ว่าคนคลั่งรักอย่างเขาได้รู้สถานการณ์นนี้แล้วความคิดจะเปลี่ยนไปหรือไม่ซ่งจิ่งเซินได้เห็นสายตาของซ่งรั่วเจินก็หยั่งเดาความคิดออกแล้ว กลอกตาขาวอย่างอดไม่ได้ เขาเป็นตัวโง่งมหลอกง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 848

    “นั่นเพราะเดิมทีเจ้าก็ไม่สำคัญต่อข้า ดังนั้นข้าจึงลืมไปแล้ว” ซ่งจิ่งเซินพูดท่าทีของเคอหยวนจื่อแข็งทื่อไป “ไม่ เป็นเพราะข้าพิเศษที่สุดภายในใจท่าน ดังนั้นท่านถึงลืมเพียงข้า ข้าก็คือหนึ่งเดียวคนนั้นอย่างไรเล่า!”“ข้าว่าแม่นางเคอ ภายในใจข้า ท่านพ่อท่านแม่ข้า ครอบครัวของข้าต่างหากสำคัญที่สุด”“เจ้าพูดไปเสียทุกคำว่าความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ของพวกเราดีมาก แต่ข้าจำได้ว่าตอนพบหน้ากัน เจ้าคิดเพียงอยากแต่งงานกับชวีคั่ว”“หากระหว่างพวกเรามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งถึงเพียงนี้จริง เจ้าก็คงไม่อยากแต่งงานกับคนอื่น น่ากลัวว่าเจ้าอยากฉวยโอกาสตอนข้าสูญเสียความทรงจำมาหลอกข้ากระมัง?”ซ่งรั่วเจินได้ยินคำพูดของซ่งจิ่งเซิน คิดว่าเขามีสติยิ่งกว่าในอดีตมาก คาดว่าต่อให้ฟื้นคืนความทรงจำ ก็ไม่มีวันขาดสติเหมือนในอดีตอีกเคอหยวนจื่อได้ยินแล้วก็คล้ายเข้าใจขึ้นมา ใบหน้าเผยรอยยิ้ม“ข้าก็รู้ท่านพูดเรื่องทั้งหมดนี้เพราะเรื่องงานแต่งของข้าและชวีคั่ว ท่านกำลังโกรธ ท่านเพิ่งกลับมาจึงน่าจะยังไม่รู้ ข้าและชวีคั่วถอนหมั้นกันแล้ว คราวนี้ท่านดีใจแล้วกระมัง?”ดวงตาซ่งจิ่งเซินเบิกกว้างอย่างตกตะลึง “เหตุใดชวีคั่วไอ้โง่ถูกหลอกใช้ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 847

    ซ่งรั่วเจินตามซ่งจิ่งเซินเข้ามาภายในร้าน มองคนมากมายกลุ่มนั้น ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้นับตั้งแต่ร้านไก่ทอดและไส้กรอกย่างเปิดตัว การค้าก็ดีมากมาโดยตลอด ทั้งๆ ที่เปิดสาขาไม่น้อย แต่การค้ายังเหมือนที่ผ่านมา“น้องหญิงห้า เจ้ายอดเยี่ยมจริงๆ ไม่รู้คิดของอร่อยถึงเพียงนี้ออกมาได้เยี่ยงไร”ซ่งจิ่งเซินถอนใจอย่างอดไม่ได้ แต่ไหนแต่ไรมาการค้าของสกุลซ่งพวกเขาไม่เลวมาโดยตลอด แต่ของกินที่น้องหญิงห้าเพิ่งคิดค้น รสชาติอร่อยเกินไปแล้ว!ซ่งรั่วเจินมองบรรยากาศครึกครื้นเบื้องหน้า นึกถึงร้านปิ้งย่างอันเป็นที่นิยมมาอย่างยาวนานตามตรอกซอกซอยขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ปิ้งย่าง ทุกคนล้วนรักเสมอมา“พี่สี่ ข้านึกถึงของกินที่การค้าได้รับความนิยมยิ่งกว่านี้ขึ้นได้อย่างหนึ่ง” ซ่งรั่วเจินพูดถ้อยคำนี้พูดออกมาแล้ว ซ่งจิ่งเซินเบิกตากว้างอย่างเหลือจะเชื่อ “จริงหรือ?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “หรือข้ายังจะหลอกท่านอีกกระนั้น? อันที่จริงก็คล้ายไส้กรอกย่าง แต่ไส้กรอกย่างเป็นเพียงแค่หนึ่งชนิดในนั้น พวกเราสามารถเพิ่มหลากหลายอย่างเข้าไปได้ ทุกคนเองก็สามารถเลือกได้มากยิ่งขึ้น”“คือสิ่งใด?”“ปิ้งย่าง!”ต่อจากคำพูดของซ่งรั่วเจิน ซ่งจิ่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 846

    เดิมทีเขาก็เป็นคนให้ความสำคัญและหนักแน่นในความสัมพันธ์ บัดนี้สหายมากมายต้องตายเพราะเขา เขาไม่มีวันยอมเลิกราได้ยิน สีหน้ากู้หรูเยียนหม่นลงหลายส่วน แต่กลับมาหนักแน่นอย่างว่องไว“ข้ารู้อุปนิสัยของพ่อเจ้าดี เขาไม่มีวันยอมแพ้ ข้าก็แค่กังวลความปลอดภัยของเขา แต่คิดดูอย่างละเอียดแล้วหากเขามีอุปนิสัยน่ารังเกียจ เผชิญหน้ากับอันตรายก็ถอยกลับอย่างหวาดกลัว ข้าก็คงไม่แต่งกับเขา”ถ้อยคำนี้พูดออกมา ทุกคนล้วนหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้“ท่านแม่พูดถูกแล้ว ท่านพ่อเป็นเช่นนี้ถึงแข็งแกร่งสมชายชาตรี ไม่รู้อยู่ที่ภายนอกมีคนอิจฉากี่มากน้อย ก็ดูเจ้าคนไร้น้ำยาที่หลิ่วเฟยเยี่ยนตบแต่งเถอะ ไม่สามารถเทียบได้เลยสักเศษเสี้ยว”ซ่งจิ่งเซินเผยสีหน้าภาคภูมิใจ เขาคิดว่าบิดาเขาแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดามากขณะกำลังสนทนา ลั่วหวยหลี่ก็มาแล้ว“หวยหลี่มารับเนี่ยนชูออกไปหรือ?” หลิ่วหรูเยียนพูดยิ้มๆลั่วหวยหลี่ทำความเคารพ พูดอย่างเก้อเขิน “เมื่อวานนัดหมายไว้ดีแล้ว วันนี้อยากเชิญน้องเนี่ยนชูไปชมละครขอรับ”“ช่วงนี้คณะงิ้วเปิดตัวใหม่แสดงได้ดีมาก การค้ารุ่งเรือง ตั๋วหาได้ยากยิ่ง”ทันใดนั้นซ่งจิ่งเซินก็รู้แล้วว่าลั่วหวยหลี่กำลังพ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 845

    สีหน้าอวิ๋นเนี่ยนชูซับซ้อน นึกถึงสายตาเย็นชาของญาติผู้พี่ยามจากไปในวันนี้ รู้สึกเพียงตนเองคล้ายตัวตลกนางเกลียดที่ไม่แต่งงานโดยเร็ว ภายภาคหน้าก็มีโอกาสพบญาติผู้พี่ได้น้อยมาก อีกทั้งยังไม่ต้องคิดเหลวไหลที่ผ่านมานางเฝ้ารอญาติผู้พี่กลับมาเร็วๆ ทุกวัน ต่อให้ไม่พูดอันใด ขอเพียงได้เห็นเขาก็ดีใจมากแล้ว ทว่าบัดนี้เพียงได้ยินเรื่องของญาติผู้พี่และแม่นางหวง นางก็รู้สึกเจ็บปวดราวหัวใจถูกเข็มแทงก็มิปานอยากทำเพียงหลบซ่อน ไม่อยากได้ยินอันใด“ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้า”ซ่งรั่วเจินปลอบโยนอวิ๋นเนี่ยนชู ไม่ว่าใครก็ล้วนเคยมีช่วงเวลาอยากหลีกหนีปัญหา โดยเฉพาะหลังเกิดเรื่องพรรค์นี้แล้ว“เจ้ารู้สึกว่าความคิดเช่นนี้ไม่ถูกต้อง พรุ่งนี้ยังต้องออกไปเที่ยวกับลั่วหวยหลี่อีกด้วย คิดว่ากำลังหลอกใช้ประโยชน์จากเขา รู้สึกผิดต่อเขากระมัง?”อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้า “รั่วเจิน เจ้าช่างเข้าใจความรู้สึกของข้าจริงๆ อันที่จริงข้าคิดมาโดยตลอด ข้าที่เป็นเช่นนี้ต่ำช้าเกินไปแล้วกระมัง?”“อันที่จริงเมื่อครู่ข้าสมควรปฏิเสธ แต่ข้าไม่ได้ทำ ไม่รู้เพราะทะนงตนหรืออยากเปลี่ยนความคิดจริงๆ ข้าจึงไม่ได้ปฏิเสธ...”“อย่าคิดมากถึงเพียง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 844

    “ญาติผู้พี่ไม่จำเป็นต้องกังวล รั่วเจินไม่รังเกียจข้าหรอกเจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูเอ่ยตอบลูกกระเดือกอวิ๋นเฉิงเจ๋อกลิ้งขึ้นลง พูดเนิบๆ “พรุ่งนี้เจ้าจะออกไปหรือ?”“เมื่อครู่ท่านก็ได้ยินแล้วมิใช่หรือ? นัดหมายวันพรุ่งนี้ถูกกำหนดไว้ดีแล้ว ข้าย่อมต้องไปเจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูเอ่ยรับดวงตาดำขลับของอวิ๋นเฉิงเจ๋อถูกปกคลุมด้วยหมอกหนา สุ้มเสียงกลับสงบนิ่งไร้คลื่นอารมณ์ “ได้ ข้าไปล่ะ”เห็นฝ่ายชายหันหลังจากไปโดยไม่หันหน้ากลับมา อวิ๋นเนี่ยนชูเองก็หันหลังกลับเข้าสกุลซ่งตอนนี้ซ่งรั่วเจินถูกลั่วชิงอินเรียกไปสอบถามสถานการณ์อยู่ทางด้านข้าง“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านถามถึงความชอบของเนี่ยนชู คงไม่ใช่...”เนตรขนงของซ่งรั่วเจินเผยแววแปลกใจ ภายในสมองกลับเริ่มครุ่นคิดภายในต้นฉบับเขียนความสัมพันธ์ระหว่างลั่วหวยหลี่และอวิ๋นเนี่ยนชูหรือไม่?เอือมระอาหนังสือเล่มนี้เขียนเพียงเรื่องราวเกี่ยวกับฉินซวงซวงและหลินจือเยว่ คนอื่นเป็นเพียงตัวประกอบ ส่วนเนี่ยนชูในฐานะสหายที่ดีของนาง สุดท้ายก็ตายไปเพราะนางแม้แต่สถานการณ์ของอวิ๋นเฉิงเจ๋อเองก็ไม่ได้เขียนมากนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลั่วหวยหลี่ นี่คล้ายกำลังคลี่คลายเนื้อเรื่องลับ!ร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 843

    เยี่ยนชิงอวี้สบตาลั่วกั๋วกงแวบหนึ่ง ฝ่ายหลังย่อมสังเกตเห็นปัญหา“ชุลมุนอยู่นาน เจ้าเด็กตัวเหม็นคนนี้มีแม่นางที่ชมชอบตั้งแต่แรกแล้ว?” ลั่วกั๋วกงลดเสียงให้เบาลง “ข้ายังคิดว่าเจ้าจับคู่ยวนยางส่งเดชเสียอีก”เยี่ยนชิงอวี้มองลั่วกั๋วกงอย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง “พูดเหลวไหลอันใด? ข้าเป็นคนตาไม่มีแววถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?”หากเปลี่ยนเป็นเวลาปกติ นางก็คงไม่วู่วามเอ่ยเรื่องนี้ออกมา นางสังเกตเห็นว่านับตั้งแต่เนี่ยนชูมา หวยหลี่ก็ลอบมองนางไม่ใช่เพียงครั้งเดียว นี่ถึงตั้งใจถามดูสักหน่อยเป็นมารดาย่อมรู้จักลูกชายดี นางเข้าใจดี!งานเลี้ยงครั้งนี้ เหล่าผู้อาวุโสแย้มยิ้มเบิกบาน เหล่าคนรุ่นหลังกลับมีความคิดของตนลั่วชิงอินมองน้องชายของตนและพูดว่า “ท่านแม่ทำให้เจ้าถึงขั้นนี้แล้ว จากนี้ไปเจ้าต้องพยายามด้วยตนเองดีๆ ล่ะ”“พี่หญิงรอง ไม่รู้ท่านกำลังพูดเหลวไหลอันใด?” ลั่วหวยหลี่พูดอย่างกระอักกระอ่วน“เจ้าอย่าคิดว่าข้ามองไม่ออก ตั้งแต่เด็กเจ้าไม่ใช่ชอบไปเล่นกับน้องหญิงเนี่ยนชูของเจ้าหรอกหรือ? ทว่านับตั้งแต่ญาติผู้พี่ของนางมา ทุกครั้งนางก็ไล่ตามหลังญาติผู้พี่ของนาง”“ตอนนั้นเจ้ายังโมโหเพราะเรื่องนี้อยู่เลย พู

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 842

    ยิ่งไปกว่านั้น ลั่วหวยหลี่เองก็เป็นคนจิตใจดี เป็นคู่ที่เหมาะสมอย่างแท้จริง!“เนี่ยนชูมีคนภายในใจแล้วหรือไม่? หากไม่มี ไม่สู้ให้เด็กทั้งสองคนได้ทำความรู้จักกัน?”เยี่ยนชิงอวี้สบมองสีหน้าจางเหวินก็รู้ว่าความคิดของนางเหมือนกับตนเอง ใบหน้าเผยรอยยิ้มนับตั้งแต่ได้เห็นชิงอินและเยี่ยนโจวมีความสัมพันธ์อันดีถึงเพียงนี้ นางก็คิดว่าคู่รักในวัยเยาว์ที่รู้จักกันตั้งแต่เด็กเข้ากันได้ไม่เลวจางเหวินเหลือบมองเนี่ยนชูแวบหนึ่ง เห็นนางมิได้ปฏิเสธจึงพูดยิ้มๆ “เด็กหน้าบาง ตอนนี้น่ากลัวว่าเขินอายเกินกว่าจะพูด มิสู้นัดพวกเขาออกไปเที่ยวเล่นด้วยกัน”“ไม่เลวๆ หวยหลี่คนนี้รู้จักสถานที่น่าสนใจไม่น้อย พวกเจ้าคนหนุ่มสาวสามารถไปเที่ยวเล่นได้ เชื่อว่าจะต้องชอบแน่”ใบหน้าเยี่ยนชิงอวี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม หากการจับคู่นี้สำเร็จ นั่นก็ดีเหลือเกินลั่วกั๋วกงทางด้านข้างกลับไม่มีความเห็น เดิมทีหวยหลี่ก็ถึงวัยแต่งงานแล้ว แม้ว่าจางเหวินหย่าร้าง แต่คนสง่างามน่าเลื่อมใส ไม่ว่าเนี่ยนชูหรือเฉิงเจ๋อก็ล้วนสั่งสอนออกมาได้ดีมาก เดิมทีก็ไม่ต้องกังวลซ่งรั่วเจินนั่งรับชมอยู่ทางด้านข้างเงียบๆ นางและลั่วหวยหลี่ได้ติดต่อกันมากที่สุดก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status