Home / รักโบราณ / สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง / บทที่ 16 อยากลองจับมันหรือไม่

Share

บทที่ 16 อยากลองจับมันหรือไม่

last update Last Updated: 2025-04-15 20:00:52

บทที่ 16

อยากลองจับมันหรือไม่

ใบหน้าคมคายเลื่อนลงมาที่ลำคอระหง ไม่รีรอที่จะฝากฝังรอยรักสีเข้มไว้บนเนื้อขาวๆ ของนาง เป็นหลักฐานว่าฟางเหนียงได้เต็มใจร่วมค่ำคืนนี้กับเขาแล้ว ทั้งดูดและเลียอย่างเชื่องช้าราวกับกำลังตราตรึงสัมผัสนี้เข้าไปในกายของนาง

“อื้อ ท่านพี่...”

“ชอบหรือไม่”

“อึก อื้อ” นางไม่ยอมตอบ และถึงแม้จะอยากตอบสิ่งใดออกไปก็ทำได้ยากเย็นเหลือเกิน เมื่อจินหมิงเยว่รุกรานนางอย่างหนักหน่วง แม้แต่การหายใจยังยากแล้ว อารมณ์วาบหวามทำให้นางมิอาจควบคุมตนเองได้

“เปล่งเสียงออกมาเถิด ข้าชอบเสียงของเจ้า” บุรุษเอ่ย ขณะที่ฝ่ามือหยาบปลดอาภรณ์ของนางผิวขาวนวลเนียนที่อยู่ด้านใน กระตุกปมของเอี๊ยมสีขาวออกเผยทรวงอกอวบอิ่มที่เคยสัมผัสเมื่อคืนวันวสันต์ และบัดนี้ความงดงามปรากฏแกสายตาอีกครั้ง

ฝ่ามือหยาบกอบกุมความอวบอิ่มทั้งสองเต้า ฟ้อนเฟ้นด้วยความมันเขี้ยว ก่อนจะปาดป่ายหยอกล้อเล่นกับยอดอกสีหวาน ฟางเหนียงเกร็งไปทั่วทั้งร่างกับสัมผัสวาบหวามนี้ นางเม้มริมฝีปากเน้นจนเป็นเส้นตรง แต่เมื่อถูกความอุ่นของอุ้งปากครอบครองยอดอก นางก็เผลอร้องเสียงหวานออกมาทันที

“อ๊า!”

สัมผัสของบุรุษช่างรัญจวนใจเหลือเกิน นางสั่นระริกไปทั่วทั้งร่าง ยอดอกที่ถูกดูดคล้ายกับจะหลุดติดปากของบุรุษไปเสียแล้ว ฟางเหนียงยกมือขึ้นปิดปากของตนเองด้วยความอาย กระนั้นเสียงหวานๆ ก็ยังงเล็ดลอดออกมาให้บุรุษได้ยิน

จินหมิงเยว่ทั้งดูดทั้งเลียจนยอดอกแข็งสู้ลิ้น จึงใช้เรียวลิ้นขดขยี้มันแล้วดูดดึงอย่างรุนแรง สร้างความเสียวซ่านไม่รู้จักจบให้กับสตรีตัวน้อย ฟางเหนียงกลั้นหายใจเป็นระยะจนรู้สึกเหนื่อย ทั้ๆ ที่เป็นฝ่ายนอนให้บุรุษปรนเปรอ

มือหนาลูบไล้ตามส่วนเว้าส่วนโค้งของนาง โดยไม่ลืมที่จะเกี่ยวอาภรณ์บนร่างบอบบางให้ติดมือมาด้วย เผยผิวขาวเนียนที่ได้รับการดูแลมาเป็นอย่างดี

“อ่า เหนียงเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าจึง น่ากินเช่นนี้”

...คงมิได้หมายถึงน่ากินจริงๆ หรือใช่ไหม?...

“อ๊ะ ทะ ท่านพี่ ตรงนั้นมัน...!” ไม่ทันที่ฟางเหนียงจะได้เอ่ยถาม และไม่ทันที่นางจะเอ่ยจนจบถ้อยคำนั้นเลยด้วยซ้ำ นิ้วแกร่งของบุรุษก็สอดเข้าไปในกลีบกายของนางเสียแล้ว

ลมหายใจของฟางเหนียงขาดห้วง ความเสียวซ่านเล่นงานนางเสียจนแทบลืมหายใจ นางเกร็งไปทั่วทั้งตัว ยิ่งเป็นการทำให้ช่องรักของนางบีบรัดนิ้วแกร่งของจินหมิงเยว่แนบแน่น บุรุษครางเสียงต่ำในลำคออย่างระงับอารมณ์ ในยามนี้บุรุษพร้อมที่จะเจ้าไปในตัวของนางแล้ว หากแต่ยังอยากปรนเปรอให้นางสุขสม อยากจะเชยชิมนางให้มากกว่านี้

“อ๊ะ! ทะ ท่านพี่...!”

“ชอบหรือไม่?”

“อื้อ อ๊า!”

“เหตุใดจึงไม่ตอบ?

“อึก!”

นิ้วแกร่งจงใจงอแล้วสะกิดจุดอ่อนไหวที่อยู่ด้านใน จุดอ่อนไหวซึ่งไวต่อสัมผัสของนาง จนนางร้องครวญครางเสียงกระเส่า นิ้วแกร่งสอดเข้าและสอดออกเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฟางเหนียงบิดเร้าร่างกายจนแทบเป็นเกลียว ส่วนล่างของนางถูกรุกราน ส่วนบนของนางก็ถูกริมฝีปากหยักดูดดื่มอย่างจาบจ้วง ความอ่อนโยนค่อยๆ มลายหายไป แทนที่ด้วยความเร่าร้อนเสียจนสตรีตัวน้อยแทบขาดใจ

และแล้วในที่สุดช่องรักก็บีบตัวคับแน่น ตอดนิ้วของบุรุษราวกบจงใจกระตุ้นกำหนัด

ไม่เพียงเท่านั้น บุรุษยังจับเรียวขาที่อ่อนเรี่ยวแรงจากการที่เพิ่งสุขสมเมื่อครู่นี้แยกออกจากกันกว้างจนแทบจะแนบไปกับเตียง ก่อนจะซุกหน้าเข้าที่ระหว่างขาของนาง แล้วใช้ลิ้นแกรงแหวกกลีบกายเข้าไปเชมชิมความหวานที่อยู่ด้านใน

“อ๊า!!” คราวนี้ฟางเหนียงร้องเสียงกระเส่า นางทั้งถดถอย ทั้งยกสะโพกสู้ลิ้นสากของบุรุษอย่างไร้เดียงสา ปล่อยให้ร่างกายนำพา ละทิ้งสติสัมปชัญญะของตนเองไปเสียสิ้น ถูกครอบงำด้วยราคะโดยสมบูรณ์

เรียวลิ้นของบุรุษอ่อนนุ่มแต่สัมผัสที่มอบให้นั้นร้อนแรงเกินต้านทาน เป็นเพียงเรียวลิ้นส่วนเล็กๆ ของร่างกาย แต่กลับยกสะโพกกลมกลึงของฟางเหนียงขึ้นมาได้อย่างร้ายกาจ

“อ๊ะ อ๊า!!”

เป็นอีกครั้งที่ฟางเหนียงสุขสมในกามารมณ์ นางหอบหายใจเหนื่อยแล้วยื่นมือออกไปปิดความงามของกลีบกายซึ่งเปียกชุ่มไปด้วยน้ำกามหวานๆ

“ทะ ท่าน แฮ่ก ท่านพี่ พอแล้วเจ้าค่ะ แฮ่ก เหนียงเอ๋อร์ ไม่ไหวแล้ว”

“ข้าเองก็ไม่ไหวแล้วเช่นกัน”

“...?” ฟางเหนียงฉงนใจได้ไม่นาน ความกำยำของบุรุษก็ถูกเปิดเผยต่อหน้าของนาง

แก่นกายเป็นแท่งยาวซึ่งมีขนาดและความยาวอันน่าหวาดหวั่น นางมีเพียงจินหมิงเยว่เพียงผู้เดียว จึงไม่รู้ว่าขนาดของบุรุษเพศนั้นแบบใดจึงจะเรียกว่าใหญ่ หากทว่าสำหรับนางแล้วของจินหมิงเยว่นั้นเรียกได้ว่าใหญ่โตเสียจนน่าหวาดหวั่นว่าจะสามารถเข้ามาในตัวของนางได้หรือไม่ ทั้งๆ ที่ครั้นก่อนหน้านี้ก็เคยเข้ามาแล้ว

สตรีตัวน้อยลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอด้วยความประหม่า...

เส้นเลือดรอบลำแก่น ราวกับว่ามันพร้อมที่จะแตกออก

เมื่อเห็นสตรีตัวน้อยจ้องมองเช่นนั้น จินหมิงเยว่จึงเอ่ยทีเล่นทีจริงว่า...

“อยากลองจับดูหรือไม่?”

“มะ ไม่ ขะ ข้า...”

“อย่าได้กลัวมันเลย มันออกจะชอบเจ้า” ไม่เอ่ยเปล่า ยังจับมือของนางไปสัมผัสที่ลำแก่นของแท่งหยกนั้นอย่างเชื่องช้า ฟางเหนียงสะดุ้งเมื่อแก่นกายของบุรุษกระตุกสู้มือของนาง

“เอ่อ เจ็บหรือไม่เจ้าคะ?”

“เจ็บปวดมาก ข้าต้องปลดปล่อยมัน” คราวนี้จินหมิงเยว่โน้มกายไปข้างหน้าแล้วกระซิบที่ข้างหูของนางเสียงกระเส่า”...ในตัวของเจ้า”

“อ๊ะ!”

สิ้นถ้อยคำนั้น ความแข็งแกร่งของบุรุษก็ถูกชำแรกเข้าไปด้านในอย่างเชื่องช้า แม้จินหมิงเยว่จะพยายามอ่อนโยนกับนางแล้ว แต่ก็ยังสร้างความเจ็บปวดให้กับนางอยู่ดี เพราะนี่เป็นเป็นครั้งที่สองของนาง

“อื้อ เจ็บ...!”

“ชู่ว อย่าเกร็ง เด็กดี...!”

บุรุษทั้งปลอบสตรีตัวน้อย และอดทนอดกลั้นกับอารมณ์วาบหวามของตนเองที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สองแขนเรียวเล็กโอบรอบลำคอแกร่งแน่น สร้างรอยแผลเล็กๆ บนแผ่นหลังของบุรุษอย่างไม่รู้ตัว ทว่าไม่นานมันก็จางหายไปเนื่องจากบาดแผลจากเล็บของนางไม่ลึกเพียงพอที่จะสร้างความเจ็บปวดให้กับบุรุษ อีกทั้งภายในตัวของจินหมิงเยว่ยังมีลูกแก้วจิ้งจอก เมื่อมีมันก็ไม่ต่างจากบุรุษไร้เทียมทาน!

กึด

จนในที่สุดก็สามารถสอดแทรกแก่นกายเข้าไปภายในช่องรักคับแคบของนางได้

“อือ...” ฟางเหนียงร้องครางเสียงหวาน ร่างกายของนางอ่อนแรงเหลือเกิน แม้ว่าบทรักในครั้งนี้จะเพิ่งเริ่มต้นก็ตาม แต่จินหมิงเยว่ก็ทำให้นางสุขสมไปถึงสองครั้งสองคราเสียแล้ว “ทะ ท่านพี่ อย่ารังแกข้านะเจ้าคะ”

“เจ้าต่างหากที่รังแกข้า”

กึด!

“อื้อ!”

บุรุษถอดถอนแก่นกายออกแล้วดุนดันเข้าไปใหม่ พาให้ร่างบอบบางอ่อนระทวย มิอาจรับรู้ได้ถึงความหมายที่แท้จริงของถ้อยคำนั้น

ช่องรักของนางบีบรัด ตอดแก่นกายของบุรุษแนบแน่นเช่นนี้ ไม่ต่างจากรังแกบุรุษหรอกหรือ?

สะโพกสอบตอกกระแทกเป็นจังหวะอย่างนาบเนิบในช่วงแรก กลีบกายของฟางเหนียงก็ช่องโอบรัดร่างแก่นกายของบุรุษเหลือเกิน โอบรัดราวกับจะกลืนกินมันไปทั้งอัน และถึงเป็นเช่นนั้นจินหมิงเยว่ก็พร้อมที่จะยอมให้นางกลืนกินโดยไม่คิดที่จะขัดขิน

“ท่านพี่ อื้อ!” ความเสียวซ่านส่งผลให้ร่างบอบบางแทบขาดใจ ความแข็งแกร่งของบุรุษทะลุทะลวงเข้าไปในช่องรักของนาง ไม่ว่าจะเป็นเข้าหรือออกก็ล้วนแล้วแต่สร้างความรัญจวนใจให้นางเหลือเกิน

ฟางเหนียงเม้มริมฝีปากแน่น ปล่อยอารมณ์ของตนเองให้นำพาไป ลำคอและทรวงอกถูกริมฝีปากหยักดูดดื่มอย่างเร่าร้อน ตีตราจับจองตัวนาไปทั่วทั้งร่าง แม้มิได้ออกไปอวดโฉมให้แก่ผู้ใด เพราะตำหนักพันปีไม่ต่างไปจากตำหนักต้องห้าม กระนั้นจินหมิงเยว่ก็ยังหวงแหนฟางเหนียง จำต้องฝากฝังร่องรอยเผยถึงความรักใคร่ที่มีต่อนางออกไปให้หมด

สะโพกแกร่งเพิ่มความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ จากดารขับเคลื่อนแก่นกายที่นาบเนิบและอ่อนโยน บัดนี้กลับร้อนแรงดั่งเปลวเพลิงโหมกระหน่ำ ทำเอาฟางเหนียงร้องเสียงกระเส่าไม่หยุด เสียงของนางที่ดังข้างหูของบุรุษราวกับจงใจกระตุ้นกำหนัดให้พลุกพล่าน

จนในที่สุดฟางเหนียงก็สุขสมในกามารมณ์ หากทว่าจินหมิงเยว่ยังคงไม่สุขสม ตอกสะโพกถี่ยิบจนจนเกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังกังวานไปทั่วทั้งห้อง เมื่อบุรุษสุขสมจนปลดปล่อยสายธารสีขาวขุ่นเต็มช่องรักจนมันล้นออกมา จินหมิงเยว่ก็ไม่รอช้าที่จะบรรเลงบทรักร้อนแรงอีกครั้งในทันที

“อื้อ ท่านพี่...!” ร่างบอบบางถูกอุ้มขึ้นโดยที่สองขาเกี่ยวร่างของจินหมิงเยว่เอาไว้ จากนั้นบุรุษก็เด้งสะโพกตอกความกำยำเข้าไปในช่องรัก

ฟางเหนียงร้องเสียงหวาน โอบรัดลำคอแกร่งแนบแน่น ท่วงท่านี้มันทั้งลึกและโดนจุดอ่อนไหวของนางเสียจนฟางเหนียงมิอาจต้านทานได้ นางทั้งร้องครวญคราง ทั้งแอ่นกลีบกายรับกับแรงกระแทกของบุรุษ ที่มอบบทรักของนางให้ในท่ายืน ท่าทางที่ไม่เคยสัมผัสใครจะรู้ว่ามันสร้างความเสียวซ่านให้นางมากถึงเพียงนี้

ไม่เพียงแค่ท่านั้น แต่จินหมิงเยว่พานางเปลี่ยนท่าทางไปเรื่อยๆ ไม่มีหยุดพัก แม้ว่านางจะร้องขอให้หยุดเพื่อพักผ่อนเพียงชั่วครู่ แต่บุรุษก็เพียงตอบกลับเสียงกระเส่า

“ข้าขออีกรอบ”

ซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่เอ่ยถ้อยคำนั้นออกมา แล้วเอารัดเอาเปรียบนาง ทุกพื้นที่ในห้องถูกใช้เป็นพื้นที่สำหรับการร่วมรักอย่างอย่างเร่าร้อน จวบจนกระทั่งรุ่งเช้ามาเยือน...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 17 ลูกแก้วจิ้งจอก

    บทที่ 17ลูกแก้วจิ้งจอกไม่รู้กี่โมงกี่ยามแล้ว แต่เจ้าของดวงตากลมก็ค่อยๆ เปิดออกอย่างเชื่องช้า เมื่อแสงแดดด้านนอกส่องเข้ามาจนนางรู้สึกแสบตา พลันบางสิ่งก็บดบังแสงนั้นให้นาง เมื่อฟางเหนียงลืมตาขึ้นด้วยความสงสัย ก็เห็นว่าหางนุ่มนิ่มของจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั่นเองที่โผล่ออกมาเพื่อบังแสงแดดให้กับนางมือเล็กๆ ยื่นออกไปสัมผัสความนุ่มนิ่มของมันเล่นอย่างเอาแต่ใจ หางสีขาวขยับเข้ามาหานางแล้วลูบไล้ตามร่างกายจนนางรู้สึกจั๊กจี้“คิกคิก อย่าแกล้งข้าสิเจ้าคะ”“หึหึ” จินหมิงเยว่หัวเราะก่อนจะตวัดร่างของตนเองไปอีกฝั่งของเตียง เพื่อใช้ร่างกายของตนเองบดบังแสงแดดให้นาง “ตื่นแล้วหรือ? หิวหรือไม่?”ไม่เอ่ยอย่างเดียว กลับโน้มใบหน้าลงไปประทับริมฝีปาก ฝากฝังรอยจูบลงบนหน้าผากเนียนของนางอย่างรักใคร่“กี่ยามแล้วเจ้าคะ?”“ยามเชิน[1]แล้ว”“เจ้าคะ!?” ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง ก่อนจะค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้น หากแต่ความปวดร

    Last Updated : 2025-04-16
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 18 มิอาจยอมให้นางเสียหาย

    บทที่ 18มิอาจยอมให้นางเสียหายลิ้นสากหลีกหนีเรียวลิ้นของนาง ลิ้นของนางก็ยังตามติดไม่ออก กลายเป็นจูบที่แสนดูดดื่มจนเกิดเสียงน่าอาย เมื่อยามที่ฟางเหนียงยอมแพ้คิดจะถอนริมฝีปากออก จินหมิงเยว่ก็เป็นฝ่ายคว้าท้ายทอยของนางแล้วกดให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็เป็นฝ่ายรุกรานโพรงปากอุ่น ตักตวงความหอมหวานอย่างเร่าร้อน ทั้งๆ ที่เมื่อครู่เอาแต่หลีกหนีปฏิเสธนางแท้ๆ...จิ้งจอกเจ้าเล่ห์!!...อดมิได้ที่จะต่อว่าบุรุษในใจที่คิดหลอกนาง แต่ก็ยอมให้บุรุษรุกรานแต่โดยดี เพราะจูบหวานๆ ที่ถูกส่งมอบมามันพาให้ร่างของนางอ่อนระทวย เคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบซึ่งราวกับเอาอกเอาใจนาง นางจะยอมให้อภัยจินหมิงเยว่ก็แล้วกันเนิ่นนานกว่าทั้งสองจะถอนริมฝีปากออกจากัน ดวงตาสบประสานกันของหวานซึ้ง คล้ายกับกำลังแลกเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้กันและกัน“เอาลูกแก้วคืนไปหรือยังเจ้าคะ?”“ยัง”“อ้าว?”“ข้าฝากไว้กับเจ้า หากข้าบาดเจ็บเจ้าจะได้จู

    Last Updated : 2025-04-17
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 19 จิ้งจอกเจ้าเล่ห์

    บทที่ 19จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ดวงตาคู่งามเปิดอย่างเชื่องช้า คราวนี้ฟางเหนียงไม่ตกใจอีกแล้วว่านางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร สถานที่ที่ไม่ต่างไปจากสรวงสวรรค์ นางคงถูกเทพองค์นั้นเรียกตัวมาอีกเป็นแน่นางเตรียมที่จะมองหาตัวของผู้ที่เรียกนางมา แต่ไม่ทันที่จะได้หยัดกายลุกขึ้นเสียด้วยซ้ำ เสียงทุ้มน่าฟังก็ดังขึ้นเหนือหัว“เดี๋ยวนี้เจ้าไม่ตกใจแล้วหรือ?”ฟางเหนียงหยัดกายลุกขึ้น ก่อนจะหันไปยอบกายคำนับตามมารยาท“คำนับ ท่านเทพเจ้าค่ะ”“อ่า เจ้ารู้แล้วสินะ… รู้ได้อย่างไร หมิงเยว่บอกเจ้าหรือ?”“ท่านพี่ของข้ารู้จักกับท่านเป็นการส่วนตัวด้วยหรือเจ้าคะ?”“อ่า มิใช่สินะ”ใบหน้าคมคายหม่นลงเล็กน้อย ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้กับฟางเหนียงดูเหมือนว่าทั้งสองจะรู้จักกันสินะ แต่รู้จักกันด้วยดีหรือร้ายมิอานคาดเดาได้“ท่านเทพ… จุดประสงค์ของท่านคือสิ่งใดกันแน่?”สตรีตัวน้อยรู้สึกหวาดหวั่นเหลือเกิน หวาดกลัวว

    Last Updated : 2025-04-18
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 20 งอน

    บทที่ 20งอน“ลองขย่มข้าสิ”“ตะ แต่ข้าไม่รู้”“ทำแบบนี้”“อ๊ะ!?”ฝ่ามือหยาบยกสะโพกกลมขึ้นแล้วกดลงให้ครอบครองความแข็งแกร่งของตนเอง ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างบอบบางฟางเหนียงขยับตามการนำพาของบุรุษ กระทั่งหาจังหวะของตนเองเจอ จินหมิงเยว่ก็เปลี่ยนเป็นบีบเคล้นสะโพกกลมกลึงด้วยความมันเขี้วแทนท่วงท่าของนางสร้างความรัญจวนในเหลือเกิน มันเชื่องช้าและละมุนละไม ราวกับจงใจทรมานจินหมิงเยว่ให้ต้องอดทนกับกามารมณ์ เกร็งทั่วทั้งร่างจนเห็นก้อนกล้ามเนื้อชัดเจน อีกทั้งเส้นเลือดยังปูดโปนออกมา“อ่า เหนียงเอ๋อร์ เจ้าช่าง...” บุรุษมิอาจเอื้อนเอ่ยได้อีก เมื่อนางเริ่มขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆ มิได้เข้าสุดออกสุดเหมือนอย่างในครั้งแรก แต่เป็นการกดสะโพกระรัว“อืม” นางครางเสียงหวานแล้วแหงนหน้าขึ้นตามอารมณ์ จินหมิงเยว่ก้ามหน้าลงดูดดื่มกับยอดอกสีหวานเข้าปากอย่างกระหายความรู้สึกวาบหวา

    Last Updated : 2025-04-19
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 21 รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป

    บทที่ 21รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปวันเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ฟางเหนียงในวัยสิบหกปีครั้นมาที่ดินแดนจิ้งจอกแห่งนี้เป็นครั้งแรก บัดนี้นางอายุสิบแปดหนาวเสียแล้วความงดงามของนางนั้นเพิ่มมากขึ้นเสียจนจินหมิงเยว่แทบจะกกกอดนางเอาไว้ภายในห้องตลอดทั้งวันทั้งคืน ถึงแม้ว่ารอบตำหนักพันปีจะไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามาได้ หากมิได้รับอนุญาตก็ตาม“ท่านพี่เจ้าคะ!” เสียงเจื้อยแจ้วของฟางเหนียงดังขึ้น พร้อมการปรากฏกายของนาง ในขณะที่จินหมิงเยว่กำลังฝึกพละกำลังและอาคมบุรุษตวัดฝ่ามือครั้งหนึ่งพาร่างบอบบางลอยละล่องมานั่งบนตักของตนเอง แล้วฉวยโอกาสหอมแก้มนางไปหนึ่งที“ว้าย! ท่านพี่! ฮวาอินก็อยู่นะเจ้าคะ”“เฮ้อ ฮวาอินออกจะชอบที่ข้ากับเจ้าพลอดรักกัน”“ท่านพี่!!”เพี๊ยะ!!ว่าแล้วก็ตีท่อนแขนแกร่งไปหนึ่งทีด้วยความเขินอาย จินหมิงเยว่หัวเราะเสียงดัง ยิ่งได้เห็นพวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อก็ยิ่งอยากแกล้

    Last Updated : 2025-04-20
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 22 สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อย

    บทที่ 22สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อยฟางเหนียงขยับกายไปนั่งลงบนตักของบุรุษ จากนั้นก็ใช้สะโพกกดลงบนความแข็งแกร่ง ครอบครองแก่นกายบุรุษเพศเข้าไปในตัวของตนเอง“อ่า...” ทั้งฟางเหนียงและจินหมิงเยว่ครางด้วยความสุขสมสตรีตัวน้อยโอบกอดบุรุษแนบอกแล้วเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะจะเริ่มขยับสะโพกของตนเองด้วยท่าทางที่ดูเก้ๆ กังๆ ในช่วงแรก ทว่าไม่นานความวาบหวาม รัญจวนใจ ร่างกายก็ได้นำพาให้นางสามารถขับเคลื่อนร่างกาย มอบความเสียวซ่านให้กับบุรุษได้เป็นอย่างดีนางเอนกายไปข้างหลัง ใช้มือเกาะบ่าของบุรุษเอาไว้ก่อนจะเด้งสะโพกระรัว รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของแก่นกายได้อย่างชัดเจน“อ๊า ท่านพี่ อื้ม!” ทรวงอกของนางถูกดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย แม้มันจะเจ็บเล็กน้อยเพราะมีรอยแผลจากการกระทำของบุรุษเมื่อครั้นก่อนหน้า หากแต่ความวาบหวามนั้นมีมากกว่า นางจึงยิ่งแอ่นอกให้ปากหยักดูดดื่มและกลืนกินตามต้องการฟางเหนียงเชิดหน้าขึ้นแล้วร้องครางเสียงหวานอย่างลืมอาย สูญสิ้นสติในการยับยั้งชั่งใจ กลีบกา

    Last Updated : 2025-04-21
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 23 เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทน

    บทที่ 23เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทนฟางเหนียงลงมือทำอาหารหลายอย่าง รวมถึงของหวานด้วย นางคีบทั้งผักทั้งปลาใส่ในถ้วยของบุรุษ ส่วนจินหมิงเยว่ก็คีบแต่พวกเนื้อสัตว์ใส่ถ้วยให้นางเช่นเดิม“เมื่อใดเจ้าจะอ้วนเสียที หืม?”“ข้าไม่อยากอ้วนเจ้าค่ะ”“เหตุใดจึงไม่อยากอ้วน?”“ข้าเป็นสตรี ก็ต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา หากอ้วนเมื่อสวมใส่อาภรณ์ใดๆ ก็ไร้ความมั่นใจนี่เจ้าค่ะ”“เจ้าเคยอ้วนหรือ?”“ไม่เคยเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหากอ้วนแล้วจะไม่งดงาม”“เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเคยมาก่อนที่เจ้าค่ะ! อีกอย่างข้าไม่เคยบอกว่าไม่อ้วนแล้วจะไม่งดงาม ข้าก็แค่คิดว่าคงไม่มีความมั่นใจ”“อ้วนให้ข้าหน่อยเถิด”“เอ๊ะ! ท่านพี่นี่อย่างไร หากอยากได้สตรีอ้วนๆ ก็ไปหาที่อื่น ไม่ต้องมาหาที่ข้า!”&l

    Last Updated : 2025-04-22
  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 24 เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้ว

    บทที่ 24เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้วยามนั้นเองบางสิ่งร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เส้นแสงสีขาวหลายสายล้อมรอบพวกเขาเอาไว้“...!”จินหมิงเยว่และหลี่ตงหยางตวัดแขนขึ้นไปด้านหน้า ล้อมฟางเหนียงเอาไว้เพื่อปกป้องนางสตรีตัวน้อยสะดุ้งตกใจ โอบกอดจินหมิงเยว่เอาไว้ด้วยความหวาดกลัว...คนพวกนี้เป็นใครกัน?...“ส่งตัวนางมา หากต่อต้านจะถือว่าปรปักษ์ต่อสรวงสวรรค์”...สรวงสวรรค์หรือ!?...ดวงตาคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นางสับสนว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่!?“หากอยากได้ตัวนางนัก ก็เข้ามา!!” เป็นจินหมิงเยว่ที่เอ่ยออกไปอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะเป็นผู้ใดหากมาพรากฟางเหนียงไปจากเขา บุรุษไม่ยินยอม!!เกิดการต่อสู้กันระหว่างปีศาจจิ้งจอก เทพหนุ่มตกสวรรค์และองครักษ์สวรรค์ โดยที่ฟางเหนียงอยู่ในการปกป้องของจินหมิงเยว่ตลอดการต่อสู้“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ เหตุใ

    Last Updated : 2025-04-23

Latest chapter

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 26 ห้วงคำนึงถึงนาง

    บทที่ 26ห้วงคำนึงถึงนางหลายฤดูผ่านไปจินหมิงอันเติบใหญ่เป็นจิ้งจอกหนุ่ม มีอิทธิฤทธิ์มากล้นเดินตามรอยของผู้เป็นบิดา ฟางเหนียงภาคภูมิใจเหลือคณานับที่บุตรชายสง่างามเช่นนี้ อีกทั้งยังรวบรวมพลังสร้างลูกแก้วจิ้งจอกของตนเองได้แล้ว แม้ว่าลูกแก้วจิ้งจอกนั้นจะยังแข็งแกร่งไม่เท่าลูกแก้วจิ้งจอกที่อยู่ในตัวของนางก็ตามยามนั้นเองสายลมพัดผ่านพาเอาความเย็นสบายโอบรอบร่าง ทว่ามีบางสิ่งลอยมากับสายลมด้วย กลิ่นที่คุ้นเคยพาให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นมาฟางเหนียงหยัดกายขึ้นแล้วพุ่งตัวออกไปตามกลิ่นนั่น แหวกผ่านพงไพร เป็นหนึ่งเดียวกับสายลม กระทั่งมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง นางเดินตามหาไม่นานก็มาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง“ยินดีด้วยเจ้าค่ะ ท่านเจ้าตระกูลได้บุตรชายเจ้าค่ะ!”เสียงเด็กร้องไห้โยเยดังลอดออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับเสียงแสดงความยินดีให้กับบิดาและมารดา นางยืนฟังเสียงร้องไห้นั้นอยู่นาน กระทั่งมีคนผู้หนึ่งทักนางเข้า“มาหาผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 25 สูญเสียไปตลอดกาล

    บทที่ 25สูญเสียไปตลอดกาลดวงตาคู่งามลืมตาขึ้นท่ามกลางพงไพรอันคุ้นเคย ด้านข้างของนางคือร่างของจิ้งจอกหนุ่ม คนรักของนาง… ร่างของบุรุษที่รักนอนแน่นิ่งจนน่าหวาดหวั่นความอบอุ่นที่อยู่กลางอกบ่งบอกให้นางรับรู้ได้ถึงพลังชีวิตอันมหาศาล รวมถึงอิทธิฤทธิ์ของปีศาจจิ้งจอก มันคือลูกแก้วจิ้งจอกไม่ผิดแน่ใช่แล้ว ลูกแก้วจิ้งจอกอยู่กับนางมาตลอด ลูกแก้วจิ้งจอกที่เปรียบเสมือนพลังชีวิตของจินหมิงเยว่ บุรุษเคยบอกกับนางเช่นนั้น นั่นหมายความว่าไม่มีทางที่จินหมิงเยว่จะตาย เขาก็แค่หมดเรี่ยวแรงจึงหลับไปเท่านั้นนางเอ่ยปลอบตนเองแล้วหันไปหาบุรุษ หากทว่าเมื่อมือเล็กๆ แตะที่ร่างของบุรุษ ความเย็นยะเยือกก็แล่นผ่านเข้ามาในร่างของนาง สตรีตัวน้อยตัวแข็งทื่อ พลันน้ำตาก็ไหลอาบสู่สองข้างแก้ม“ไม่จริง ท่านพี่บอกว่า หากมีข้า มีลูกแก้วจิ้งจอก อย่างไรก็ไม่มีทางตายนี่”ฝ่ามือเล็กคว้าท่อนแขนของบุรุษแล้วออกแรงเขย่าแรงๆ เพื่อหวังให้บุรุษฟื้นตื่นขึ้นมา แม้ว่าบุรุษจะเจ็บ หากฟื้นขึ้นมานางจะยินยอมน

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 24 เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้ว

    บทที่ 24เดิมทีนางควรจะตายไปตั้งนานแล้วยามนั้นเองบางสิ่งร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เส้นแสงสีขาวหลายสายล้อมรอบพวกเขาเอาไว้“...!”จินหมิงเยว่และหลี่ตงหยางตวัดแขนขึ้นไปด้านหน้า ล้อมฟางเหนียงเอาไว้เพื่อปกป้องนางสตรีตัวน้อยสะดุ้งตกใจ โอบกอดจินหมิงเยว่เอาไว้ด้วยความหวาดกลัว...คนพวกนี้เป็นใครกัน?...“ส่งตัวนางมา หากต่อต้านจะถือว่าปรปักษ์ต่อสรวงสวรรค์”...สรวงสวรรค์หรือ!?...ดวงตาคู่งามเบิกกว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน นางสับสนว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่!?“หากอยากได้ตัวนางนัก ก็เข้ามา!!” เป็นจินหมิงเยว่ที่เอ่ยออกไปอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะเป็นผู้ใดหากมาพรากฟางเหนียงไปจากเขา บุรุษไม่ยินยอม!!เกิดการต่อสู้กันระหว่างปีศาจจิ้งจอก เทพหนุ่มตกสวรรค์และองครักษ์สวรรค์ โดยที่ฟางเหนียงอยู่ในการปกป้องของจินหมิงเยว่ตลอดการต่อสู้“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ เหตุใ

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 23 เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทน

    บทที่ 23เช่นนั้นข้าปรนนิบัติเจ้าแทนฟางเหนียงลงมือทำอาหารหลายอย่าง รวมถึงของหวานด้วย นางคีบทั้งผักทั้งปลาใส่ในถ้วยของบุรุษ ส่วนจินหมิงเยว่ก็คีบแต่พวกเนื้อสัตว์ใส่ถ้วยให้นางเช่นเดิม“เมื่อใดเจ้าจะอ้วนเสียที หืม?”“ข้าไม่อยากอ้วนเจ้าค่ะ”“เหตุใดจึงไม่อยากอ้วน?”“ข้าเป็นสตรี ก็ต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา หากอ้วนเมื่อสวมใส่อาภรณ์ใดๆ ก็ไร้ความมั่นใจนี่เจ้าค่ะ”“เจ้าเคยอ้วนหรือ?”“ไม่เคยเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นเจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าหากอ้วนแล้วจะไม่งดงาม”“เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเคยมาก่อนที่เจ้าค่ะ! อีกอย่างข้าไม่เคยบอกว่าไม่อ้วนแล้วจะไม่งดงาม ข้าก็แค่คิดว่าคงไม่มีความมั่นใจ”“อ้วนให้ข้าหน่อยเถิด”“เอ๊ะ! ท่านพี่นี่อย่างไร หากอยากได้สตรีอ้วนๆ ก็ไปหาที่อื่น ไม่ต้องมาหาที่ข้า!”&l

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 22 สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อย

    บทที่ 22สัญชาตญาณที่ต้องปลดปล่อยฟางเหนียงขยับกายไปนั่งลงบนตักของบุรุษ จากนั้นก็ใช้สะโพกกดลงบนความแข็งแกร่ง ครอบครองแก่นกายบุรุษเพศเข้าไปในตัวของตนเอง“อ่า...” ทั้งฟางเหนียงและจินหมิงเยว่ครางด้วยความสุขสมสตรีตัวน้อยโอบกอดบุรุษแนบอกแล้วเชิดหน้าขึ้น ก่อนจะจะเริ่มขยับสะโพกของตนเองด้วยท่าทางที่ดูเก้ๆ กังๆ ในช่วงแรก ทว่าไม่นานความวาบหวาม รัญจวนใจ ร่างกายก็ได้นำพาให้นางสามารถขับเคลื่อนร่างกาย มอบความเสียวซ่านให้กับบุรุษได้เป็นอย่างดีนางเอนกายไปข้างหลัง ใช้มือเกาะบ่าของบุรุษเอาไว้ก่อนจะเด้งสะโพกระรัว รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของแก่นกายได้อย่างชัดเจน“อ๊า ท่านพี่ อื้ม!” ทรวงอกของนางถูกดูดดื่มอย่างหื่นกระหาย แม้มันจะเจ็บเล็กน้อยเพราะมีรอยแผลจากการกระทำของบุรุษเมื่อครั้นก่อนหน้า หากแต่ความวาบหวามนั้นมีมากกว่า นางจึงยิ่งแอ่นอกให้ปากหยักดูดดื่มและกลืนกินตามต้องการฟางเหนียงเชิดหน้าขึ้นแล้วร้องครางเสียงหวานอย่างลืมอาย สูญสิ้นสติในการยับยั้งชั่งใจ กลีบกา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 21 รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป

    บทที่ 21รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปวันเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ฟางเหนียงในวัยสิบหกปีครั้นมาที่ดินแดนจิ้งจอกแห่งนี้เป็นครั้งแรก บัดนี้นางอายุสิบแปดหนาวเสียแล้วความงดงามของนางนั้นเพิ่มมากขึ้นเสียจนจินหมิงเยว่แทบจะกกกอดนางเอาไว้ภายในห้องตลอดทั้งวันทั้งคืน ถึงแม้ว่ารอบตำหนักพันปีจะไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามาได้ หากมิได้รับอนุญาตก็ตาม“ท่านพี่เจ้าคะ!” เสียงเจื้อยแจ้วของฟางเหนียงดังขึ้น พร้อมการปรากฏกายของนาง ในขณะที่จินหมิงเยว่กำลังฝึกพละกำลังและอาคมบุรุษตวัดฝ่ามือครั้งหนึ่งพาร่างบอบบางลอยละล่องมานั่งบนตักของตนเอง แล้วฉวยโอกาสหอมแก้มนางไปหนึ่งที“ว้าย! ท่านพี่! ฮวาอินก็อยู่นะเจ้าคะ”“เฮ้อ ฮวาอินออกจะชอบที่ข้ากับเจ้าพลอดรักกัน”“ท่านพี่!!”เพี๊ยะ!!ว่าแล้วก็ตีท่อนแขนแกร่งไปหนึ่งทีด้วยความเขินอาย จินหมิงเยว่หัวเราะเสียงดัง ยิ่งได้เห็นพวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อก็ยิ่งอยากแกล้

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 20 งอน

    บทที่ 20งอน“ลองขย่มข้าสิ”“ตะ แต่ข้าไม่รู้”“ทำแบบนี้”“อ๊ะ!?”ฝ่ามือหยาบยกสะโพกกลมขึ้นแล้วกดลงให้ครอบครองความแข็งแกร่งของตนเอง ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างบอบบางฟางเหนียงขยับตามการนำพาของบุรุษ กระทั่งหาจังหวะของตนเองเจอ จินหมิงเยว่ก็เปลี่ยนเป็นบีบเคล้นสะโพกกลมกลึงด้วยความมันเขี้วแทนท่วงท่าของนางสร้างความรัญจวนในเหลือเกิน มันเชื่องช้าและละมุนละไม ราวกับจงใจทรมานจินหมิงเยว่ให้ต้องอดทนกับกามารมณ์ เกร็งทั่วทั้งร่างจนเห็นก้อนกล้ามเนื้อชัดเจน อีกทั้งเส้นเลือดยังปูดโปนออกมา“อ่า เหนียงเอ๋อร์ เจ้าช่าง...” บุรุษมิอาจเอื้อนเอ่ยได้อีก เมื่อนางเริ่มขยับถี่ขึ้นเรื่อยๆ มิได้เข้าสุดออกสุดเหมือนอย่างในครั้งแรก แต่เป็นการกดสะโพกระรัว“อืม” นางครางเสียงหวานแล้วแหงนหน้าขึ้นตามอารมณ์ จินหมิงเยว่ก้ามหน้าลงดูดดื่มกับยอดอกสีหวานเข้าปากอย่างกระหายความรู้สึกวาบหวา

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 19 จิ้งจอกเจ้าเล่ห์

    บทที่ 19จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ดวงตาคู่งามเปิดอย่างเชื่องช้า คราวนี้ฟางเหนียงไม่ตกใจอีกแล้วว่านางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร สถานที่ที่ไม่ต่างไปจากสรวงสวรรค์ นางคงถูกเทพองค์นั้นเรียกตัวมาอีกเป็นแน่นางเตรียมที่จะมองหาตัวของผู้ที่เรียกนางมา แต่ไม่ทันที่จะได้หยัดกายลุกขึ้นเสียด้วยซ้ำ เสียงทุ้มน่าฟังก็ดังขึ้นเหนือหัว“เดี๋ยวนี้เจ้าไม่ตกใจแล้วหรือ?”ฟางเหนียงหยัดกายลุกขึ้น ก่อนจะหันไปยอบกายคำนับตามมารยาท“คำนับ ท่านเทพเจ้าค่ะ”“อ่า เจ้ารู้แล้วสินะ… รู้ได้อย่างไร หมิงเยว่บอกเจ้าหรือ?”“ท่านพี่ของข้ารู้จักกับท่านเป็นการส่วนตัวด้วยหรือเจ้าคะ?”“อ่า มิใช่สินะ”ใบหน้าคมคายหม่นลงเล็กน้อย ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้กับฟางเหนียงดูเหมือนว่าทั้งสองจะรู้จักกันสินะ แต่รู้จักกันด้วยดีหรือร้ายมิอานคาดเดาได้“ท่านเทพ… จุดประสงค์ของท่านคือสิ่งใดกันแน่?”สตรีตัวน้อยรู้สึกหวาดหวั่นเหลือเกิน หวาดกลัวว

  • สตรีในปกครองของจิ้งจอกเก้าหาง   บทที่ 18 มิอาจยอมให้นางเสียหาย

    บทที่ 18มิอาจยอมให้นางเสียหายลิ้นสากหลีกหนีเรียวลิ้นของนาง ลิ้นของนางก็ยังตามติดไม่ออก กลายเป็นจูบที่แสนดูดดื่มจนเกิดเสียงน่าอาย เมื่อยามที่ฟางเหนียงยอมแพ้คิดจะถอนริมฝีปากออก จินหมิงเยว่ก็เป็นฝ่ายคว้าท้ายทอยของนางแล้วกดให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม จากนั้นก็เป็นฝ่ายรุกรานโพรงปากอุ่น ตักตวงความหอมหวานอย่างเร่าร้อน ทั้งๆ ที่เมื่อครู่เอาแต่หลีกหนีปฏิเสธนางแท้ๆ...จิ้งจอกเจ้าเล่ห์!!...อดมิได้ที่จะต่อว่าบุรุษในใจที่คิดหลอกนาง แต่ก็ยอมให้บุรุษรุกรานแต่โดยดี เพราะจูบหวานๆ ที่ถูกส่งมอบมามันพาให้ร่างของนางอ่อนระทวย เคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบซึ่งราวกับเอาอกเอาใจนาง นางจะยอมให้อภัยจินหมิงเยว่ก็แล้วกันเนิ่นนานกว่าทั้งสองจะถอนริมฝีปากออกจากัน ดวงตาสบประสานกันของหวานซึ้ง คล้ายกับกำลังแลกเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้กันและกัน“เอาลูกแก้วคืนไปหรือยังเจ้าคะ?”“ยัง”“อ้าว?”“ข้าฝากไว้กับเจ้า หากข้าบาดเจ็บเจ้าจะได้จู

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status