สุ่ยเฉินเฟิงบุตรีแม่ทัพใหญ่ได้รับมหันตภัยจากคู่หมายที่มีผู้เรืองอำนาจหนุนหลัง ฉินอ๋อง เทพสงครามผู้สง่างามและเฉลียวฉลาดต้องผจญภัยเหนือจินตนาการเพื่อปราบปรามผู้ฉ้อราษฎร์บังหลวงและช่วยเหลือนาง ไม่ว่าภารกิจจะสำเร็จหรือล้มเหลว ความสัมพันธ์ในราชวงศ์ก็จะเปลี่ยนไปตลอดกาล ความยากลำบากที่ต้องเผชิญเป็นได้ทั้งลิขิตจากสวรรค์หรือคำสั่งจากนรก
View Moreก่อนที่สุ่ยฝานหรงจะออกไป ฉินอ๋องสั่งการเพิ่มเติมว่า “ตอนที่จับกุมเมิ่งกุ้ยเฟย คนที่สุสานบรรพชนล้วนถูกลงโทษ นางกำนัลอู่ก็ติดตามกุ้ยเฟยไปที่สุสานด้วย ท่านตรวจสอบด้วยว่าผู้ใดช่วยเหลือให้นางหลบหนีจนรอดพ้นได้” “พ่ะย่ะค่ะ”สุ่ยฝานหรงออกไปแล้ว ฉินอ๋องกลับเข้าไปในห้องบรรทมของพระเจ้าเต๋อหมิง มีโต๊ะวางไว้มุมห้อง เขาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ จางชุนรินน้ำชาส่งให้ เขารับมาถือไว้นิ่ง ๆ มองตรงไปก็เห็นญาติผู้พี่นอนนิ่ง พระพักตร์ซีดเซียว นี่คือสิ่งที่เขากังวลอยู่เสมอว่าจะเกิดขึ้น และแล้วก็เกิดขึ้นจริง พี่สี่ของเขาพระทัยอ่อน ใช้สายพระเนตรที่เมตตามองผู้คนโดยรอบ ใช้พระคุณแต่เพียงอย่างเดียวในการปกครองเวลาผ่านไป แม่ทัพใหญ่สุ่ยฝานหรงกลับมาอีกครั้งเมื่อเข้ายามอิ๋น เขาสีหน้าไม่ดีนัก รายงานว่า“ตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพ่ะย่ะค่ะ นางกำนัลอู่ไม่ถูกจับกุมเพราะนางลากลับบ้านเดิมเพื่อจัดการงานศพของมารดา เมื่องานศพเสร็จแล้ว ระหว่างทางที่เดินทางกลับเมืองหลวง ก็ได้ข่าวว่าคนที่สุสานบรรพชนถูกจับกุม นางจึงซ่อนเร้นตัว เมื่อทหารที่ไปตรวจค้นสุสานบรรพชนและทำลายเห็ดเมากลับไปแล้ว นางก็ลักลอบเข้าไปในสุสานบรรพชน เพราะนางอยู่ที่นั่นกั
“พ่ะย่ะค่ะ เสด็จป้าสะใภ้ หลานจะสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้สภาพในคุกไม่เหมาะสำหรับผู้บาดเจ็บ” เขาหันถามหัวหน้าหมอหลวงว่า “จะเคลื่อนย้ายฝ่าบาทได้หรือไม่ หรือต้องรอให้อาการดีขึ้นกว่านี้ก่อน”หัวหน้าหมอหลวงตอบว่า “สามารถเคลื่อนย้ายได้แล้วพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง คุกหลวงไม่เหมาะกับการรักษาผู้ป่วยจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”ในที่สุด พระเจ้าเต๋อหมิงก็ถูกเคลื่อนย้ายไปยังตำหนักเฉียนชิง ฉินอ๋องประคองไทเฮา สือจินอวี้ไปพร้อมกัน โดยให้สุ่ยฝานหรงซึ่งตามมาถึงแล้ว ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ไทเฮานั่งกุมพระหัตถ์พระราชโอรส พระพักตร์ของพระองค์และพระเจ้าเต๋อหมิงซีดขาวพอกัน"เสด็จป้าสะใภ้พักผ่อนก่อนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” ไทเฮาสือจินอวี้ส่ายพระพักตร์ “ป้าสะใภ้จะเฝ้าเต๋อเอ๋อร์ เมื่อเขาฟื้นจะได้เห็นหน้าแม่เป็นคนแรก”“ถ้าเช่นนั้นหลานจะให้คนจัดห้องด้านข้างเป็นที่บรรทมชั่วคราวดีไหมพ่ะย่ะค่ะ เสด็จป้าสะใภ้ไปพักผ่อนก่อน มิฉะนั้นอาจจะประชวรไปอีกพระองค์ หากพี่สี่รู้สึกตัวแม้เพียงเล็กน้อยจะให้คนไปทูลให้ทรงทราบทันที”ไทเฮาพยักพระพักตร์ ฉินอ๋องจึงสั่งให้ขันทีประจำตำหนักเฉียนชิงเร่งจัดห้องบรรทมช
ในห้องขังห้องหนึ่งของคุกหลวง บนโต๊ะตัวเล็กซึ่งวางไว้มุมหนึ่งมีกับข้าวสองอย่างและน้ำ แม้จานอาหารจะไม่ได้ตกแต่งอย่างสวยงาม แต่กับข้าวก็มีทั้งเนื้อและผัก อีกมุมหนึ่งมีผ้าผืนใหญ่ค่อนข้างหนาปูไว้บนพื้นสำหรับใช้เป็นที่นอน อากาศเย็นและอับชื้น โคมไฟที่มุมกำแพงส่องแสงลอดลูกกรงเข้ามาทำให้ในห้องขังไม่มืดองค์ชายรอง เทียนตี้ฮุ่ย นั่งอยู่บนผ้าปูนอน หลังพิงกำแพงคุกหลวง สามวันแล้วที่เขาเข้ามาอยู่ในคุกหลวง แม้ว่าอาหารจะไม่เป็นที่พอใจแต่เขาก็รับประทานได้ ไม่มีเหตุผลที่ต้องทรมานตัวเอง ข้อเท้าของเขาได้รับการรักษา หมอหลวงเข้ามาทำแผลให้วันละสองครั้ง แต่ถึงกระนั้นก็ยังอักเสบ มีเลือดและน้ำหนองซึมออกมา เขาไม่สามารถเดินได้ แม้จะเป็นระยะทางใกล้ ๆ จากที่นอนตรงไปยังโต๊ะอาหาร เขาต้องคลานไป ช่างน่าอนาถนักมีเงาไหววูบอยู่หน้าห้องขัง เขามองออกไปก็เห็นบุรุษรูปร่างสูงผอมที่คุ้นเคย ทั้งหน้าตาผิวพรรณและเครื่องแต่งกายล้วนสูงส่ง พระเจ้าเต๋อหมิงมองผ่านลูกกรงเข้ามา ตรัสถามว่า“แผลที่ขาเป็นอย่างไรบ้างพี่รอง”องค์ชายรอง เทียนตี้ฮุ่ย หันหน้าไปอีกทางหนึ่ง ใบหน้าเศร้าโศก ไม่พูดไม่จา พระเจ้าเต๋อหมิงจึงให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไขกุญแ
พระเจ้าเต๋อหมิงลุกขึ้นจากบัลลังก์มังกร ตรงไปหยุดยืนตรงหน้าพี่รองของเขา พระเนตรฉายแววเสียพระทัยชัดเจน องค์ชายรองที่นั่งคุกเข่าเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นน้องชาย ฝ่ายหนึ่งดูสูงส่ง อีกฝ่ายหนึ่งดูไร้ค่า ภาพนั้นสะท้อนเข้าตาของอดีตเมิ่งกุ้ยเฟย น้ำตารินไหลลงมาอาบใบหน้าองค์ชายรองถูกมัดมือแต่ไม่ได้มัดเท้า เขาผุดลุกขึ้นยืนประจันหน้า “ถือว่าข้าเพลี่ยงพล้ำในหมากกระดานนี้ สังหารข้าเสียเถิด”“ไม่....” เสียงของอดีตเมิ่งกุ้ยเฟยร้องดังลั่นท้องพระโรง ทุกสายตาหันไปจับจ้องนางที่ทรุดตัวลงไปนั่งราบลงกับพื้น สองมือที่ถูกมัดแน่นเหยียดนิ้วออกกราบลงบนพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ได้โปรดอภัยให้เย่าชือเพคะ ได้โปรดเห็นแก่ความเป็นพี่น้อง”ในขณะที่ทุกสายตาจับจ้องไปที่อดีตพระสนมของฮ่องเต้องค์ก่อน องค์ชายรองก็พุ่งตัวสุดแรงเข้าหาผู้เป็นน้องชาย เป็นความหวังครั้งสุดท้าย หากพระเศียรของพระเจ้าเต๋อหมิงกระทบพื้นแข็งของท้องพระโรงที่ถูกขัดจนขึ้นเงานั้น พระชนม์ชีพอาจไม่เหลือแล้วมีอาวุธบางอย่างถูกซัดออกมาจากหลังฉาก อาวุธลับนั้นหมุนแหวกอากาศส่งเสียงแหลมดังเสียดแทงโสตประสาท สกัดองค์ชายรองให้ทรุดลงกับพื้นก่อนที่จะถึงพระวรกายของพระเจ้าเต๋อหมิง
“เจ้านั่งคอยหลังฉากก่อนนะ ข้าอยากจะฟังว่าพี่รองจะแก้ตัวอย่างไร”พระเจ้าเต๋อหมิงตรัสสั่ง ฉินอ๋องจึงเดินไปนั่งหลังฉาก พระเจ้าเต๋อหมิงตรงไปยังบัลลังก์มังกร ยามนั้นเป็นเวลาเซิน ไม่มีการประชุมขุนนาง ในท้องพระโรงอันกว้างใหญ่จึงมีเพียงองค์ชายรอง เทียนตี้ฮุ่ย และเมิ่งกุ้ยเฟย ยืนอยู่กลางห้อง มือของพวกเขาถูกพันธนาการไว้ด้วยเชือกแน่นหนา รายล้อมไปด้วยทหารหน่วยพยัคฆ์เหินและหน่วยมัจฉาพระกาฬ นอกจากนั้นก็คือบรรดาองครักษ์ประจำพระองค์ของพระเจ้าเต๋อหมิง เมื่อพระเจ้าเต๋อหมิงประทับบนบัลลังก์ ทหารหน่วยพยัคฆ์เหินซึ่งควบคุมตัวองค์ชายรองก็ใช้ฝ่ามือกดลงบนบ่าแล้วเอ่ยว่า “คุกเข่า”เทียนตี้ฮุ่ยสีหน้าเรียบเฉย เขาทรุดตัวลงคุกเข่าแต่โดยดีเพราะรู้ว่าขัดขืนไปก็ไม่มีประโยชน์ ในขณะที่อดีตเมิ่งกุ้ยเฟยคุกเข่าลงพร้อมกัน “พี่รองทำเช่นนี้ทำไม”“เจ้าไม่น่าจะใช้คำถามนี้กับข้า” เทียนตี้ฮุ่ยตอบด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ไร้ความอ่อนน้อมที่เคยฉาบไว้ แม้แต่สรรพนามก็เปลี่ยนไปด้วย “พี่รองทั้งลักลอบเพาะปลูกเห็ดเมา ทั้งอยู่เบื้องหลังบ่อนการพนันทั้งหลาย สิ่งเหล่านี้ล้วนทำลายเยาวชน ทำลายราษฎร เป็นการทำร้ายแคว้นต้าเจียอย่างถึงรากนั่นเชียว
ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง และแม่ทัพใหญ่ สุ่ยฝานหรง รับรู้การตัดสินพระทัยของพระเจ้าเต๋อหมิงด้วยความกังวล แต่เรื่องนี้ก็มีพระราชโองการแล้วจึงได้แต่เก็บปากเก็บคำเมื่อเทียนตี้ฮุ่ยคืนสู่ตำแหน่งฉู่อ๋องแล้ว ฉินอ๋องก็คาดว่าเขาคงจะขอพระราชทานอภัยโทษให้เมิ่งกุ้ยเฟยผู้เป็นมารดาด้วย แต่หลังจากเวลาผ่านไปพอสมควร องค์ชายรอง เทียนตี้ฮุ่ย ก็ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ ทำให้แปลกใจฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง ไม่ได้ไปเยือนจวนแม่ทัพใหญ่นานแล้วเพราะสุ่ยเฉินเฟิงแต่งให้เขาแล้ว จวนแม่ทัพใหญ่จึงไม่มีแรงดึงดูดเขาอีกต่อไป กลับกลายเป็นว่าสุ่ยฝานหรงเป็นฝ่ายมาเยือนจวนอ๋องมากขึ้น สุ่ยฝานหรงมักจะแวะไปรับเหมยกุ้ยมาด้วยวันนี้ก็เช่นกัน ทั้งสี่คนนั่งล้อมวงในลานข้าง อากาศอบอุ่น กลิ่นดอกไม้หอมอ่อน ๆ ทำให้บรรยากาศสดชื่น บนโต๊ะมีอาหารหลายชนิด สุ่ยเฉินเฟิงจับตามองพี่ชายเงียบ ๆ นางรู้สึกว่าเขาเอาใจใส่เหมยกุ้ยเป็นพิเศษ สุ่ยฝานหรงคีบอาหารวางให้บนข้าวของเหมยกุ้ย“เจ้าลองซักคำ เนื้อกวางป่าผัดเห็ดนี่อร่อยมาก”เหมยกุ้ยใช้ตะเกียบคีบเห็ดขึ้นมาดูแล้วกล่าวว่า “คล้ายเห็ดเมาเลย”ทำให้ผู้ร่วมโต๊ะต่างก็เพ่งตามองเห็ด สุ่ยฝานหรงบอกว่า “ไม่ใช่เห็ดเมา เพียงแ
องค์ชายรองตะโกนลั่น เหล่ามือปราบตรงเข้าฟาดฟันบรรดานายบ่อนการพนันเถื่อน ปกตินายบ่อนจะจ้างนักเลงคุ้มกัน แน่นอนว่านักเลงหัวไม้ไม่สามารถต่อสู้กับมือปราบที่ได้รับการฝึกฝนอย่างเป็นระบบ ไม่นานนักห้องโถงใต้ดินของหอฟ้าลั่นก็เต็มไปด้วยร่างไร้วิญญาณของบรรดานายบ่อนการพนันเถื่อนและนักเลงคุมบ่อน เอกสารต่าง ๆ ในห้องโถงเป็นหลักฐานที่ชี้ชัดถึงการกระทำผิด ทั้งการจัดตั้งบ่อนการพนันเถื่อน ทั้งการสั่งให้คนปล้นฆ่าและวางเพลิง แต่น่าแปลกใจไม่มีหลักฐานการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ของทางการก่อนตายคหบดีตงกูชี้นิ้วมือที่สั่นระริกไปยังองค์ชายรอง “ท่าน ทอ..ระ..” ดาบในมือขององค์ชายรองฟันฉับลงบนคอของคหบดีตงกู ในขณะเดียวกันหน่วยมือปราบส่วนหนึ่งก็ไปตรวจค้นและจับกุมนักเลงคุมบ่อนและนักพนันในบ่อนเถื่อนต่าง ๆ ได้จำนวนมาก ล้วนแต่เป็นองค์ชายรองชี้เป้าให้ทั้งนั้น พระเจ้าเต๋อหมิงมอบหมายให้มือปราบวังหลวงไปสนธิกำลังปราบปรามบ่อนการพนันเถื่อนด้วยเช้าวันรุ่งขึ้น ข่าวการปราบปรามบ่อนการพนันเถื่อนก็เลื่องลือไปทั้งเมืองหลวง ราษฎรผู้ทำมาหากินสุจริตดีใจแทบน้ำตาไหลกันแล้ว สังคมค่อย ๆ กลับคืนสู่ความสงบสุข การทำมาค้าขายก็คึกคักเช่นเดิมพระเ
ไม่คาดคิด องค์ชายรอง เทียนตี้ฮุ่ย ขอเข้าเฝ้าเพื่อแจ้งข่าวเกี่ยวกับขบวนการบ่อนการพนันเถื่อน พระเจ้าเต๋อหมิงอนุญาตให้เข้าเฝ้าที่ห้องทรงพระอักษร“คารวะฮ่องเต้พ่ะย่ะค่ะ”องค์ชายรอง เทียนตี้ฮุ่ยทำความเคารพอย่างอ่อนน้อม มองดูน้องชายซึ่งบัดนี้อยู่ในตำแหน่งสูงสุดเหนือกว่าผู้ใดในใต้หล้า พระเจ้าเต๋อหมิงสุขภาพแข็งแรงขึ้น ร่างกายมิได้ผอมบางเหมือนก่อน ผิวพรรณขาวแต่ไม่ซีด เพียงแต่ในเวลาไม่นานที่ขึ้นครองราชย์ พระเศียรก็มีพระเกศาสีขาวขึ้นแซมบ้างแล้ว พระเนตรของพระเจ้าเต๋อหมิงยังคงเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณาเช่นเดิม “ไม่ต้องมากพิธี พี่รองเชิญนั่งเถิด”“ขอบพระทัยฝ่าบาท”พระเจ้าเต๋อหมิงมิได้อนุญาตให้เทียนตี้ฮุ่ยเรียกเขาอย่างสนิทสนมว่าน้องสี่อีกต่อไป แม้จะอภัยให้ในความผิดที่พี่ชายก่อแล้ว แต่ก็ควรจะมีระยะห่างพอสมควร สำหรับเทียนตี้หย่งนั้นแตกต่างออกไป พระเจ้าเต๋อหมิงถือว่าเขาเป็นหนี้ชีวิตเทียนตี้หย่ง จึงให้เรียกขานว่าพี่สี่เช่นเดิม“พี่รองมีธุระอะไรหรือจึงมาขอเข้าเฝ้า”“กระหม่อมทราบว่าฝ่าบาทกังวลพระทัยเรื่องอาชญากรรมในเมืองหลวงที่พุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว กระหม่อมขอบังอาจเสนอแนะวิธีการปราบปรามบ่อนการพนันเถื่
พระชายากู้ชุนฉือนั่งหน้าซีดตัวสั่นฟังข่าวที่ลูกสะใภ้เล่าให้ฟัง “ถ้าพวกเรานำองครักษ์ไปน้อยอาจจะถูกฆ่าชิงทรัพย์ตั้งแต่เมื่อวานแล้วก็ได้” นางหันไปทางโอรส “พวกมันน่ากลัวมากนะจื่อหยวน เมื่อวานมันจ้องแม่เขม็งเลย ทำท่าเหมือนจะเข้ามาหาแม่ด้วย”ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง สีหน้าเคร่งขรึม “ตอนนี้อาชญากรรมพุ่งสูงมากพ่ะย่ะค่ะ จำนวนมือปราบมีไม่มากพอรับมือพวกมัน”สุ่ยเฉินเฟิงสงสัยว่า “แล้วทางการรับสมัครมือปราบเพิ่มให้เพียงพอไม่ได้หรือเพคะ”“ข้าเสนอแนะพี่สี่ไปแล้ว แต่มีผู้แย้งว่าตอนนี้เก็บภาษีจากราษฎรไม่ค่อยได้ เงินในท้องพระคลังเหลืออยู่ไม่มาก พี่สี่จึงให้ชะลอการเพิ่มคนออกไปอีกหน่อย”“แต่ความเดือดร้อนของราษฎรรอได้หรือจื่อหยวน” พระชายากู้ชุนฉือแย้งขึ้นมา แล้ววงสนทนานั้นก็เงียบกริบในวันต่อมา ฉินอ๋องก็บอกกล่าวผู้เป็นมารดาว่า “จับกุมตัวคนร้ายที่ปล้นฆ่าเถ้าแก่เนี้ยและลูกจ้างร้านเหวินได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เป็นโจรมาจากที่อื่นใช่หรือไม่ แต่ก่อนเมืองหลวงไม่เคยมีการปล้นฆ่ามากเท่านี้เลยนะ”“เป็นคนต้าเจียนี่แหละพ่ะย่ะค่ะ บางคนอายุยังน้อยอยู่เลย แต่ริเป็นโจร”สุ่ยเฉินเฟิงถามว่า “เป็นคนยากไร้หรือเพคะ แต่ก่อนเมืองหลวงมีเศร
บทนำ ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่งพร้อมหน่วยมัจฉาพระกาฬเคลื่อนตัวลงน้ำอย่างแผ่วเบา พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างปราดเปรียวในน้ำ ลัดเลาะริมฝั่งนี้ เมื่อมองไปยังฝั่งตรงข้าม ก็เห็นรากไม้ในน้ำพยายามยืดรากออกมาจนสุด หวังจะเกี่ยวกระหวัดกลุ่มคนไปเป็นอาหาร บางรากถึงขนาดพุ่งออกมาจากลำต้นหวังจะแทงทะลุร่างกำยำหลายร่างที่ดำน้ำท้าทาย น่าเสียดายที่เมื่อหลุดจากขั้วก็ร่วงผลอยเป็นปุ๋ยอยู่ในน้ำ หน่วยมัจฉาพระกาฬโผล่ขึ้นหายใจเป็นช่วง ๆ ต้องเร่งรีบว่ายน้ำไปให้ถึงจุดหมายโดยเร็วที่สุด ระยะเวลาต้องสอดคล้องกับการดำเนินการที่ต้นทางของสหายสนิท มิฉะนั้น ไม่เพียงแต่ชีวิตของหญิงสาวผู้เป็นดวงใจจะสูญสิ้น เขาและหน่วยมัจฉาพระกาฬก็คงต้องฝังร่างไว้ใต้โคลนเลนของแม่น้ำแห่งนี้ด้วย ไม่ว่าภารกิจนี้จะสำเร็จหรือล้มเหลว ความสัมพันธ์ในราชวงศ์ก็จะเปลี่ยนไปตลอดกาล ความยากลำบากที่ต้องเผชิญในภายหน้าเป็นได้ทั้งลิขิตจากสวรรค์หรือคำสั่งจากนรก บทที่ 1 ท่านอ๋องผู้สง่างาม รถม้าคันใหญ่ตกแต่งอย่างหรูหราเคลื่อนมาจอดตรงหน้าจวนแม่ทัพใหญ่ ร่างสูงสง่าของชายหนุ่มก้าวลงมาอย่างคล่องแคล่ว กลิ่นอายความสูงส่งแผ่กระจาย ดวงตาดำขลับยาวรีปลายเฉียงชี้ฟ้านั้นทรงพ...
Comments