“ผู้กองเพลิง” นายตำรวจหนุ่มแห่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษได้เข้าจับกุมทลายแก๊งค้ามนุษย์ข้ามชาติ จนได้พบกับ “ณิชญารีย์” หรือ หนูนิด ที่กระโดดเอาตัวขวางหน้ารถระหว่างที่เขากำลังขับรถกลับบ้าน หญิงสาวอ้างตัวว่าไม่มีที่ไป ออกจากบ้านมาหางานทำแต่กลับไม่มีใครรับ ทั้งที่บ้านก็ยากจนข้นแค้น เมื่อได้ฟังเรื่องราวที่ถูกเธอปั้นแต่งผู้กองหนุ่มจึงรับเธอมาเลี้ยงต้อย เอ๊ย! เลี้ยงดูด้วยความจำใจ ทว่าความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเธอคือลูกสาวของผู้บังคับบัญชาผู้เป็นนายของเขา เขาจะทำอย่างไรเมื่อหนูนิดคนนี้ทั้งเอาแต่ใจและดื้อรั้น แต่ก็มากไปด้วยความอ่อนหวานไร้เดียงสาที่พร้อมจะเขย่าหัวใจเขาตลอดเวลา ผู้กองหนุ่มจะตัดสินใจแบบไหน ระหว่างส่งคืนเธอให้ผู้เป็นพ่อ หรือ! เก็บเธอไว้ข้างกาย ติดตามได้ใน เล่ห์รักผู้กองเพลิงนะคะ ^^ ............................... ซีรีส์เล่ห์รักผู้กอง ประกอบด้วย 1. เล่ห์รักผู้กองเพลิง 2. ผู้กองปราบกำราบรัก
View More2 เดือนต่อมางานแต่งงานของร้อยตำรวจเอกเพลิง พงศ์พิริยะ และนางสาวณิชญารีย์ เดชอนันต์ ได้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่โรงแรมที่มีชื่อเสียงที่สุดในจังหวัดแขกเหรื่อมากหน้าหลายตามากมายมาแสดงความยินดีกับคนทั้งคู่ ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวต่างเหนื่อยกับการต้อนรับไปหมด แต่ว่าหน้ายังคงฉีกยิ้มเพราะตอนนี้ทั้งคู่กำลังมีความสุขมากเมื่อได้แต่งงานกันสักทีพิธีการถูกดำเนินไปเรื่อย ๆ ตามกำหนด จนมาถึงพิธีการสำคัญนั่นคือการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอ ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายและเพื่อนสนิทของทั้งสองจึงได้ขึ้นไปส่งยังห้องที่ทางโรงแรมเตรียมไว้พร้อมกับค่อย ๆ อวยพรให้ทั้งสองทีละคน“แม่ขอให้ลูกทั้งสองรักกันนาน ๆ หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันนะลูกนะ” คุณนิตยาพูดพร้อมกับจับมือบ่าวสาวไว้“พ่อฝากน้องด้วยนะเพลิงจากนี้ดูแลน้องแทนพ่อด้วย รักกันนาน ๆ นะลูก” ผู้การณรงค์พูดบ้าง“พ่อขอให้เพลิงคิดอ่านสิ่งใดด้วยความรอบคอบ ตอนนี้ไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว แต่มีอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องดูแล ดังนั้นถ้ามีปัญหาอะไรปรึกษาพ่อกับแม่ได้เสมอ ลูกก็เหมือนกันนะหนูนิด พ่อดีใจที่ได้เราเป็นลูกสะใภ้” ผู้พันพีระพูดด้วยรอยยิ้ม“แม่ขอให้ลูกทั้งสองคนมีแต่ความรักและความ
เช้าวันต่อมารถยนต์คันหรูได้เคลื่อนตัวออกจากบ้านพงศ์พิริยะตรงไปที่บ้านเดชอนันต์ ใช้เวลาร่วมสองชั่วโมงก็เดินทางมาถึง แม้จะไม่ไกลมากแต่ท้องถนนการจราจรติดขัดจึงไม่สามารถขับรถเร็วกว่านี้ได้ เมื่อมาถึงประตูรั้วบ้านพงศ์พิริยะก็เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว“สวัสดีครับผู้พันพีระ คุณพิมพ์พิมล เชิญด้านในครับ”“ขอบคุณครับผู้การณรงค์” ผู้พันพีระพูดเดินตามพลตำรวจที่ยศน้อยกว่าตนด้วยรอยยิ้ม โดยมีคุณพิมพ์พิมลผู้เป็นภรรยาเดินยิ้มอยู่ข้าง ๆ และที่ยิ้มมากที่สุดคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้กองเพลิง!“มากันแล้วเหรอคะคุณ ยายพิมพ์!” คุณนิตยาที่ไปเตรียมน้ำมาต้อนรับแขกด้วยตัวเองเมื่อเห็นแขกเดินเข้ามาในบ้านแล้วจึงถามผู้เป็นสามี ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นเพื่อนสมัยประถมยืนยิ้มอยู่ข้าง ๆ ชายวัยกลางคน และอีกหนึ่งหนุ่มที่เธอรู้จัก“ว่าไงยายนิดตกใจเลยล่ะสิ”“ใช่ แล้วนี่เธอมาทำไม แล้ว?” คุณนิตยาเอ่ยถามด้วยความสับสนงุนงง คุณพิมพ์พิมลเห็นท่าทางแบบนั้นจึงได้แนะนำลูกชายและสามีให้อีกฝ่ายได้รู้จัก คุณนิตยาเธอเป็นเพื่อนกับคุณพิมพ์พิมลจริง และมีความคิดที่จะให้ลูกสาวเธอและลูกชายเพื่อนคนนี้ได้รู้จักกัน แต่ไม่คิดเลยว่าเจอกันอีกครั้งในวันนี้
“สวัสดีค่ะเมื่อวานนี้เวลาสิบนาฬิกาได้มีการบุกเข้าจับกุมแก๊งค้ามนุษย์ข้ามชาติและสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ ศาลพิจารณาให้เป็นคดีอาชญากรรม ซึ่งถ้าพูดถึงผู้ร้ายหรือที่ศาลเรียกว่านักโทษอาชญากรรายใหญ่ทางตอนเหนือของประเทศไทยไม่คิดเลยนะคะว่าจะเป็นเจ้าสัวในคราบนักบุญ หรือที่ใครหลายคนรู้จักกันในนาม เจ้าสัวใจบุญ อย่างเจ้าสัวอิทธินั่นเองค่ะ”“ผลการจับกุมครั้งนี้ปรากฏว่าเมื่อทำการสืบสาวและไต่สวนกลับพบว่าเบื้องหลังกลับมีคนใหญ่คนโตเกี่ยวข้องมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัวอิทธิที่ตายคาที่ระหว่างจับกุม อีกคนคือนายอำเภอบุญ ที่มีข่าวว่าใจดีชอบช่วยเหลือผู้คนก็เกี่ยวข้องในคดีนี้เช่นกัน ทั้งนี้ลูกสาวของนายอำเภอบุญยังตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ถูกยิงอาการสาหัสนอนอยู่ที่โรงพยาบาลโดยมีตำรวจคอยเฝ้าระวังด้วย และนอกจากนี้ยังมีผู้ต้องสงสัยคนอื่น ๆ ในคดีนี้อีกด้วย แต่ว่าศาลขอปิดเป็นความลับเนื่องจากเกี่ยวข้องกับรูปคดี” “อย่างไรก็ตามการจับกุมในครั้งนี้เป็นการจับกุมครั้งใหญ่จึงได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลายได้รวมตัวกันเข้าร่วมภารกิจในครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตามการปฏิบัติภารกิจหน้าที่จับกุมคนร้ายอาชญากรในครั้งนี้นำทีมโดยผู
ร้อยตำรวจเอกเพลิงได้วางแผนรับมือกับเหตุการณ์ที่จะจับกุมแก๊งค้ามนุษย์ข้ามชาติและสิ่งผิดกฎหมายในอีกสองวันข้างหน้าไว้เป็นอย่างดีแล้วทุกอย่างถูกเตรียมไว้พร้อมสรรพทั้งหลักฐานและพยานบุคคลต่าง ๆ รวมถึงด้านกำลังคนและเจ้าหน้าที่ทั้งกองกำลังพิเศษทางตำรวจและทหาร ไหนจะเจ้าหน้าที่สากลที่เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ด้วยเนื่องจากนี่เป็นการจับกุมครั้งยิ่งใหญ่เพราะผู้ร้ายอาชญากรเหล่านี้ก่อคดีอาชญากรรมมีการทำงานเป็นลูกโซ่หลายต่อ ดังนั้นเมื่อต้องการจับกุมและทำลายองค์กรใหญ่พวกนี้ ข้าราชการและเอกชนหลายหน่วยงานจึงต้องร่วมมือกันเพื่อจับกุมและทำลายกลุ่มคนเหล่านี้นั่นเองทางด้านเจ้าสัวอิทธิตอนนี้ได้เดินทางมายังบ้านนายอำเภอบุญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อมาดูสินค้าที่นายอำเภอบุญได้จัดเก็บไว้ รวมถึงวางแผนจะจัดการผู้กองเพลิงอีกด้วยก่อนหน้านี้ที่เขาได้ให้ลูกน้องฝีมือดีมาเก็บผู้กองเพลิง กลับพบว่าพวกมันทำงานพลาดทั้งยังไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย สุดท้ายเจ้าสัวหนุ่มใหญ่จึงต้องรีบเปลี่ยนแผนการทั้งหมดใหม่คืนนั้นเจ้าสัวได้นอนพักที่บ้านของนายอำเภอบุญ กลางดึกของคืนนั้นเองที่มีสิ่งไม่สมควรเกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งไม่ดี เพราะสิ่งที่เก
“เด็กดีกลับบ้านไปก่อนนะครับ” ผู้กองหนุ่มเอ่ยบอกคนที่นั่งบนหน้าตักซุกหน้าที่ซอกคอมือกอดเอวเขาไว้ไม่ยอมปล่อยเช้าวันนี้ผู้กองเพลิงถูกหนูนิดออดอ้อนครั้งแล้วครั้งเล่าหลายครั้งที่เขารู้สึกอยากใจอ่อนให้เธออยู่ที่บ้านหลังนี้ต่อ แต่เมื่อนึกถึงความปลอดภัยของหญิงสาวระหว่างที่เขาไปทำภารกิจจับกุมคนร้าย บางทีระหว่างนั้นอาจมีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ ยิ่งช่วงนี้มีคนแปลกหน้ามาป้วนเปี้ยนหน้าบ้านอยู่หลายครั้ง ชายหนุ่มยิ่งระวังตัวเป็นเท่าตัว“หนูนิดไม่อยากกลับ พี่เพลิงให้หนูนิดอยู่ด้วยนะคะ หนูนิดสัญญาว่าจะไม่ดื้อไม่ซน” หนูนิดพูดพร้อมทั้งกระชับกอดให้แน่นขึ้น“ไม่ได้ครับ”“เพราะพี่เพลิงได้หนูนิดแล้วใช่ไหมพี่เพลิงถึงได้เป็นแบบนี้ พี่เพลิงผลักไสไล่ส่งหนูนิด พอหนูนิดกลับบ้านพี่เพลิงก็จะไปหาผู้หญิงคนอื่น”“เหลวไหล! ใจพี่มีเพียงหนูนิด พี่จะไปมีคนอื่นได้ยังไง” ผู้กองเพลิงรีบแย้งเพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ แล้วเร่งอธิบายต่อว่า“พี่จะไปทำภารกิจ ดังนั้นถ้าหนูนิดอยู่ที่นี่ถึงจะอยู่ในบ้านพี่ก็ไม่สบายใจ พี่กลัวว่าจะโดนคนพวกนั้นตลบหลังและมาเล่นงานหนูนิดแทน ถ้าไม่ใช่อย่างที่พี่คิดมันก็ดีไป แต่ถ้าใช่ล่ะ
“ตื่นแล้วเหรอครับเด็กดี”ผู้กองเพลิงพูดทักทาย เมื่อเขาเห็นว่ารางเล็กของหนูนิดเริ่มขยับไปมา แล้วมือเจ้าตัวก็ยกขึ้นปิดตาก่อนจะกะพริบตาไปมาเพื่อปรับให้เข้ากับแสงที่ส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้อง“อย่าขยี้ตาครับ เดี๋ยวตาแดง”ผู้กองเพลิงรีบเอ่ยห้ามและจับมือหนูนิดไว้ทันทีเมื่อเห็นว่าเธอยกมือหมายจะขยี้ตาหนูนิดมองสบตาคมดุที่มองเธออยู่ก่อนแล้วอย่างหงุดหงิดที่ถูกห้าม แต่พอนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนใบหน้าสวยก็เห่อแดงขึ้นมาแล้วรีบหยิบผ้าห่มมาคลุมหน้าไว้ ริมฝีปากของเธอขบกันแน่น ในหัวสับสนวุ่นวายไม่สามารถจัดเรียงความคิดได้ อาการของหญิงสาวตรงข้ามกับผู้กองเพลิงลิบลับ ชายหนุ่มยกยิ้มขำและเอ็นดูเด็กดื้อของเขาคนนี้เหลือเกิน ร่างใหญ่นั่งลงบนเตียงนอนส่งผลให้ร่างเล็กตัวแข็งทื่อ ทว่าหญิงสาวเกร็งตัวได้ไม่นานก็ต้องดีดตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วเมื่อได้ฟังคำพูดของเขา“ถ้าหนูนิดยังไม่ยอมลุกขึ้นมาดี ๆ พี่จะปลุกหนูนิดด้วยการเอาน้องชายไปทักทายน้องสาวดีไหมครับ”“อ้าว ไม่นอนห่มผ้าต่อแล้วเหรอครับ” ผู้กองเพลิงเอ่ยปากถาม ทั้งยังยิ้มล้อเลียนหญิงสาวจนได้รับค้อนวงโตจากเธอ“ไม่ต้องมาพูดเลยนะ ห้ามยิ้มด้วย”“ไม่ยิ้มได้ไง
ผู้กองเพลิงบดขยี้ความร้อนรุ่มลงบนริมฝีปากบางอย่างดุดัน ลิ้นหนาตวัดเกี่ยวกับลิ้นบาง จนหนูนิดที่ถูกสอนจูบอยู่บ่อย ๆ ก็ยังโต้ตอบและหายใจไม่ทัน ไหนจะสมองเบลอเพราะถูกคนที่โชกโชนไปด้วยประสบการณ์หลอกล่ออีกตุบ ตุบเมื่อสู้ไม่ไหวหนูนิดก็ต้องทุบตีเรียกสติของเขา ทว่าเขายอมให้เธอหายใจเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ริมฝีปากหนาก็บดจูบลงมาอีกครั้ง คราวนี้เขาทั้งขบกัดริมฝีปากเธอจนได้กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ“อื้อ อื้อ”หนูนิดครางประท้วงเพราะรู้สึกเจ็บ ผู้กองหนุ่มจึงละจากริมฝีปากแล้วขยับปากไปตามกรอบหน้าของเธอจนไปหยุดที่ใบหูเล็ก เขาหยอกล้อขบเม้มติ่งหูของเธอไปมา ก่อนจะส่งลิ้นเข้าไปเลียในใบหูของเธอจนหญิงสาวต้องย่นคอหนีผู้กองเพลิงเห็นคนตัวเล็กขัดขืนก็เกิดความไม่ชอบใจ จึงเปลี่ยนเป้าหมายจากใบหูเป็นซอกคอขาวระหงของเธอแทน เขาซุกไซ้จนหญิงสาวอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงไปหมด คอขาวเกิดร่องรอยสีแดงที่ใครหลายคนเรียกว่ารอยคิสมาร์ก รอยดูด หรือรอยรัก อยู่สองสามจุดเมื่อสร้างรอยรักตีตราจองจนพอใจแล้ว ผู้กองเพลิงก็เปลี่ยนเป้าหมายไปยังดอกบัวตูมที่ทั้งนุ่มทั้งเด้งสู้มือเขายามมันถูกบีบขย้ำ“พะ... พี่เพลิง”หนูนิดเรียกชื่อเขาเสียงสั่
“เพลิง เพลิงคะ”ใบเตยรีบเข้าไปเขย่าร่างของชายหนุ่มและพยายามเรียกสติเพื่อดูว่าเขาไร้สติจริงหรือเปล่า เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มสติไม่ครบร้อยรวมทั้งฝ่ามือหนาที่ลูบไล้เอวคอดของเธออีกหญิงสาวก็รู้สึกสบายใจ ประคองชายหนุ่มขึ้นไปยังห้องนอนของเธอทันที“ในที่สุดคุณก็จะเป็นของเตย”หญิงสาวพูดใช้มือลูบไปตามกรอบหน้าหล่อเหลาของเขาด้วยความอ่อนโยนและเสน่หา จากนั้นจึงเริ่มปลดเสื้อออกจากตัวเขาและเธอใบหน้าของใบเตยก้มหน้าไปแนบชิดกับผู้กองเพลิงช้า ๆ ริมฝีปากบางยกยิ้ม ดวงตาสวยกวาดมองไปทั่วใบหน้านี้อีกครั้งแล้วมาหยุดลงที่ริมฝีปากหนา จากนั้นจึงก้มหน้าหวังประกบริมฝีปากและดำเนินกิจกรรมรักตามที่เธอฝันเสียทีทว่าอีกเพียงแค่คืบเดียวปากเธอและเขาจะประกบกัน สติของหญิงสาวก็ขาดหายไป หลับกลางอากาศก่อนจะฟุบหน้าลงที่ซอกคอของชายหนุ่มอย่างไร้สติ“หึ! ถ้าไม่ใช่หนูนิดอย่าหวังเลยว่าจะได้แอ้มผม ดีนะที่เป็นตำรวจร่างกายจึงแข็งแรงและมีความอดทนอดกลั้นดีกว่าคนอื่น ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถสงบสติอารมณ์ที่พลุ่งพล่านได้แน่” ผู้กองเพลิงพูดก่อนหน้าที่เขาจะมาที่บ้านของนายอำเภอบุญ ผู้กองปราบเพื่อนของเขาได้เตือนเขาเรื่องยาปลุกเซ็กซ์ไว้เสียหลายค
ด้านร้อยตำรวจเอกเพลิงหลังจากขับรถมอเตอร์ไซค์ลูกรักออกมาจากบ้านได้แล้ว ผู้กองหนุ่มก็แวะไปสถานที่นัดหมายก่อนถึงบ้านนายอำเภอเพื่อรับของและเตรียมการบางอย่าง หากมีอะไรเกิดขึ้นและจวนตัวเขาจะได้หลบหนีออกมาได้ทัน“ไอ้เพลิง แกเข้าไปในถ้ำเสือก็ระวังด้วยนะเว้ย ทางที่ดีพยายามเลี่ยงที่จะอยู่กับลูกสาวนายอำเภออย่างคุณใบเตยดีกว่าว่ะ บอกตามตรงว่าฉันกลัวแทนแกมาก ผู้หญิงอะไรวะจ้องแต่จะเขมือบแก”“เออน่าฉันรู้ ว่าแต่แกเถอะเตรียมการทุกอย่างให้เรียบร้อยนะเว้ย ฉันจะได้ใช้โอกาสนั้นหนีออกมา”“ทำไม รีบหนีนี่ไม่ได้กลัวคุณใบเตย แต่แกกลัวหญิงสาวคนสวยที่รอแกอยู่ที่บ้านใช่มะ” ผู้กองปราบเอ่ยแซว“เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับแก”“อู้ว... ร้ายกาจ ๆ ไม่ต้องห่วงนะผู้กองเพลิงหากแกพลาดท่าเสียทีให้คุณใบเตยลูกสาวนายอำเภอ ฉันผู้กองปราบ ปราบดา เพื่อนสนิทแกคนนี้จะคอยดูแลคนทางบ้านให้แกเอง”“ไอ้ปราบ!”“อุ้ย ไม่แกล้งแล้วก็ได้ ยังไงก็ระวังตัวด้วย” เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อเรียบ ๆ ด้วยน้ำเสียงกดต่ำชวนขนลุกและสายตาฟาดฟันที่ส่งมาจากผู้กองเพลิง ผู้กองปราบก็ยิ้มขอโทษก่อนจะเปลี่ยนเรื่องทันทีผู้กองเพลิงไม่สนใจเพื่อนสนิทของตัวเองนัก เมื่อแผนก
ปัง ปัง ปังเสียงปืนดังสนั่นอยู่ภายในโกดังเก็บสินค้าแนวตะเข็บชายแดนไทยพม่า โดยที่ฝั่งหนึ่งเป็นคนของทางการและอีกฝั่งเป็นผู้ร้าย ทั้งสองต่างสาดกระสุนเข้าห้ำหั่นกันทำให้ตอนนี้ภายในโกดังสินค้าอยู่ในช่วงโกลาหลฝั่งหนึ่งนำโดยผู้กองเพลิงและผู้กองปราบ สองเพื่อนรักต่างสังกัดแต่มีหน้าที่เดียวกัน นั่นคือเข้าปราบปรามโจรผู้ร้ายก่อนหน้านี้ทั้งสองได้รับข่าวจากสายข่าวที่แฝงตัวเข้ามาบอกว่า ที่โกดังสินค้าร้างโกดังหนึ่งถูกซ่องสุมกำลังคน และมีการกักขังหน่วงเหนี่ยวทั้งยังมีการค้าขายมนุษย์ข้ามชาติ วันนี้ทั้งสองผู้กองจึงได้นำกำลังเข้าปราบปรามปัง ปัง ปังเสียงกระสุนยังดังต่อเนื่องต่างฝ่ายต่างสาดกระสุนใส่กันโดยไม่มีใครยอมใคร เพราะต่างคนก็ต่างก็มีหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายรวมถึงผ่านการฝึกทรหดทั้งสิ้นขณะที่ฝั่งทางราชการถูกฝึกมาเพื่อปราบปรามและตรวจความเรียบร้อยแนวตะเข็บชายแดน และอีกฝั่งล้วนเป็นนักรบเดนตายที่ถูกว่าจ้างให้เข้าร่วมเป็นกองกำลังค้ามนุษย์ข้ามชาติรายใหญ่ทางตอนเหนือของประเทศไทยเมื่อมีโอกาสเผชิญหน้ากันทั้งสองฝ่ายจึงสาดกระสุนเข้าใส่กันโดยไม่มีใครกลัวใคร และไม่มีใครกลัวตาย ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเองไ...
Comments