Beranda / รักโบราณ / ดอกไม้ในเปลวเพลิง / บทที่ 105 ฟางเส้นสุดท้าย

Share

บทที่ 105 ฟางเส้นสุดท้าย

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-12 22:38:34

ในห้องขังห้องหนึ่งของคุกหลวง บนโต๊ะตัวเล็กซึ่งวางไว้มุมหนึ่งมีกับข้าวสองอย่างและน้ำ แม้จานอาหารจะไม่ได้ตกแต่งอย่างสวยงาม แต่กับข้าวก็มีทั้งเนื้อและผัก อีกมุมหนึ่งมีผ้าผืนใหญ่ค่อนข้างหนาปูไว้บนพื้นสำหรับใช้เป็นที่นอน อากาศเย็นและอับชื้น โคมไฟที่มุมกำแพงส่องแสงลอดลูกกรงเข้ามาทำให้ในห้องขังไม่มืด

องค์ชายรอง เทียนตี้ฮุ่ย นั่งอยู่บนผ้าปูนอน หลังพิงกำแพงคุกหลวง สามวันแล้วที่เขาเข้ามาอยู่ในคุกหลวง แม้ว่าอาหารจะไม่เป็นที่พอใจแต่เขาก็รับประทานได้ ไม่มีเหตุผลที่ต้องทรมานตัวเอง ข้อเท้าของเขาได้รับการรักษา หมอหลวงเข้ามาทำแผลให้วันละสองครั้ง แต่ถึงกระนั้นก็ยังอักเสบ มีเลือดและน้ำหนองซึมออกมา เขาไม่สามารถเดินได้ แม้จะเป็นระยะทางใกล้ ๆ จากที่นอนตรงไปยังโต๊ะอาหาร เขาต้องคลานไป ช่างน่าอนาถนัก

มีเงาไหววูบอยู่หน้าห้องขัง เขามองออกไปก็เห็นบุรุษรูปร่างสูงผอมที่คุ้นเคย ทั้งหน้าตาผิวพรรณและเครื่องแต่งกายล้วนสูงส่ง พระเจ้าเต๋อหมิงมองผ่านลูกกรงเข้ามา ตรัสถามว่า

“แผลที่ขาเป็นอย่างไรบ้างพี่รอง”

องค์ชายรอง เทียนตี้ฮุ่ย หันหน้าไปอีกทางหนึ่ง ใบหน้าเศร้าโศก ไม่พูดไม่จา พระเจ้าเต๋อหมิงจึงให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไขกุญแ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 106 บาดเจ็บสาหัส

    “พ่ะย่ะค่ะ เสด็จป้าสะใภ้ หลานจะสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้สภาพในคุกไม่เหมาะสำหรับผู้บาดเจ็บ” เขาหันถามหัวหน้าหมอหลวงว่า “จะเคลื่อนย้ายฝ่าบาทได้หรือไม่ หรือต้องรอให้อาการดีขึ้นกว่านี้ก่อน”หัวหน้าหมอหลวงตอบว่า “สามารถเคลื่อนย้ายได้แล้วพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง คุกหลวงไม่เหมาะกับการรักษาผู้ป่วยจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”ในที่สุด พระเจ้าเต๋อหมิงก็ถูกเคลื่อนย้ายไปยังตำหนักเฉียนชิง ฉินอ๋องประคองไทเฮา สือจินอวี้ไปพร้อมกัน โดยให้สุ่ยฝานหรงซึ่งตามมาถึงแล้ว ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ไทเฮานั่งกุมพระหัตถ์พระราชโอรส พระพักตร์ของพระองค์และพระเจ้าเต๋อหมิงซีดขาวพอกัน"เสด็จป้าสะใภ้พักผ่อนก่อนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” ไทเฮาสือจินอวี้ส่ายพระพักตร์ “ป้าสะใภ้จะเฝ้าเต๋อเอ๋อร์ เมื่อเขาฟื้นจะได้เห็นหน้าแม่เป็นคนแรก”“ถ้าเช่นนั้นหลานจะให้คนจัดห้องด้านข้างเป็นที่บรรทมชั่วคราวดีไหมพ่ะย่ะค่ะ เสด็จป้าสะใภ้ไปพักผ่อนก่อน มิฉะนั้นอาจจะประชวรไปอีกพระองค์ หากพี่สี่รู้สึกตัวแม้เพียงเล็กน้อยจะให้คนไปทูลให้ทรงทราบทันที”ไทเฮาพยักพระพักตร์ ฉินอ๋องจึงสั่งให้ขันทีประจำตำหนักเฉียนชิงเร่งจัดห้องบรรทมช

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-13
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 107 ขบวนการทำลายแคว้นจบสิ้น

    ก่อนที่สุ่ยฝานหรงจะออกไป ฉินอ๋องสั่งการเพิ่มเติมว่า “ตอนที่จับกุมเมิ่งกุ้ยเฟย คนที่สุสานบรรพชนล้วนถูกลงโทษ นางกำนัลอู่ก็ติดตามกุ้ยเฟยไปที่สุสานด้วย ท่านตรวจสอบด้วยว่าผู้ใดช่วยเหลือให้นางหลบหนีจนรอดพ้นได้” “พ่ะย่ะค่ะ”สุ่ยฝานหรงออกไปแล้ว ฉินอ๋องกลับเข้าไปในห้องบรรทมของพระเจ้าเต๋อหมิง มีโต๊ะวางไว้มุมห้อง เขาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ จางชุนรินน้ำชาส่งให้ เขารับมาถือไว้นิ่ง ๆ มองตรงไปก็เห็นญาติผู้พี่นอนนิ่ง พระพักตร์ซีดเซียว นี่คือสิ่งที่เขากังวลอยู่เสมอว่าจะเกิดขึ้น และแล้วก็เกิดขึ้นจริง พี่สี่ของเขาพระทัยอ่อน ใช้สายพระเนตรที่เมตตามองผู้คนโดยรอบ ใช้พระคุณแต่เพียงอย่างเดียวในการปกครองเวลาผ่านไป แม่ทัพใหญ่สุ่ยฝานหรงกลับมาอีกครั้งเมื่อเข้ายามอิ๋น เขาสีหน้าไม่ดีนัก รายงานว่า“ตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพ่ะย่ะค่ะ นางกำนัลอู่ไม่ถูกจับกุมเพราะนางลากลับบ้านเดิมเพื่อจัดการงานศพของมารดา เมื่องานศพเสร็จแล้ว ระหว่างทางที่เดินทางกลับเมืองหลวง ก็ได้ข่าวว่าคนที่สุสานบรรพชนถูกจับกุม นางจึงซ่อนเร้นตัว เมื่อทหารที่ไปตรวจค้นสุสานบรรพชนและทำลายเห็ดเมากลับไปแล้ว นางก็ลักลอบเข้าไปในสุสานบรรพชน เพราะนางอยู่ที่นั่นกั

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-13
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 108 ศาสตร์และศิลป์ในการปกครอง

    พระเจ้าเต๋อหมิงบาดเจ็บสาหัส นับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุพระองค์ก็ยังไม่ลืมพระเนตรขึ้นมา มีเพียงชีพจรและลมหายใจแผ่วเบาเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่ายังมีพระชนม์ชีพอยู่ เกิดความโกลาหลในการบริหารงานเล็กน้อย ไทเฮาสือจินอวี้ต้องออกนั่งเป็นประธานการประชุมขุนนางในฐานะผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน พระนางไม่ประทับบนบัลลังก์มังกร แต่กลับให้คนนำเก้าอี้หงส์จากตำหนักของพระนางมาใช้ประทับเป็นการชั่วคราวแม้ว่าปกติไม่ว่าไทเฮาหรือฮองเฮาพระองค์ใดก็ตาม ไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการของวังหลวงได้ ผู้เป็นมารดาของแผ่นดินมีหน้าที่ควบคุมกำกับดูแลวังหลังให้เป็นไปโดยเรียบร้อย แต่สถานการณ์ของแคว้นต้าเจียในคราวนี้แตกต่างออกไป พระเจ้าเต๋อหมิงไม่ได้อภิเษกสมรสเพราะอยู่ระหว่างการไว้ทุกข์ให้กับไท่ซ่างหวงซึ่งก็คือเสด็จพ่อของพระองค์นั่นเอง อีกทั้งพระเจ้าเต๋อหมิงก็ไม่มีสนมจึงยังไม่มีพระราชโอรสหรือพระราชธิดาแม้แต่พระองค์เดียว แคว้นต้าเจียจึงยังไม่มีรัชทายาทเดิมทีเหล่าขุนนางตั้งใจว่าหลังจากพ้นการไว้ทุกข์ให้ไท่ซ่างหวงแล้ว พวกเขาจะกดดันให้พระเจ้าเต๋อหมิงอภิเษกสมรสและแต่งตั้งฮองเฮา รวมทั้งให้เริ่มการคัดเลือกสนมเข้ามาปรนนิบัติตามธรรมเนียมท

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-14
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 109 เทพสงครามครองบัลลังก์มังกร

    หลังจากพระเจ้าเต๋อหมิงได้รับบาดเจ็บ คณะหมอหลวงก็พยายามทุกวิธีในการรักษา เพราะฤทธิ์ยาระงับความเจ็บปวดที่หมอหลวงปรุงขึ้น แม้พระพักตร์จะขาวซีดแต่ก็ไม่แสดงถึงความเจ็บปวด เวลาผ่านไปสิบกว่าวัน ลมหายใจที่แผ่วเบานั้นก็หยุดนิ่ง หัวหน้าหมอหลวงตรวจชีพจรอีกครั้งก่อนจะหันมาทูลต่อไทเฮาสือจินอวี้ว่า“พระองค์กลับคืนสู่สวรรค์แล้วพ่ะย่ะค่ะ”ไทเฮาสือจินอวี้ตัวอ่อน เป็นลมล้มพับ ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง ที่ยืนอยู่ใกล้กันรับตัวเสด็จป้าสะใภ้ไว้ทันก่อนพระวรกายกระทบพื้น หมอหลวงแบ่งคนมาปฐมพยาบาลไทเฮา ความเศร้าโศกเสียใจล้นห้องบรรทมออกไปครอบคลุมวังหลวงและกระจายออกไปทั่วแคว้น พระเจ้าเต๋อหมิงเป็นผู้ปกครองใต้หล้าด้วยความเมตตา จึงเป็นที่รักใคร่ของราษฎร ในช่วงเวลาอันเศร้าหมอง ฉินอ๋องเป็นกำลังหลักในการสั่งการเรื่องต่าง ๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยหลังจากพิธีการต่าง ๆ ผ่านพ้นไป ไทเฮาสือจินอวี้ก็เรียกฉินอ๋องเข้าเฝ้า สุ่ยเฉินเฟิงดูแลเครื่องแต่งกายให้พระสวามี ฉินอ๋องใช้นิ้วดันคางของนางให้เงยหน้าขึ้น“เฟิงเอ๋อร์ เจ้ากังวลอะไรหรือ”สุ่ยเฉินเฟิงถอนหายใจ “ไม่แน่ว่าการเรียกตัวเข้าเฝ้าในครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับบัลลังก์ที่ว่างอยู่เพ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-14
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 110 ใคร ๆ ก็หลงรักฮ่องเต้ผู้สง่างาม

    พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เทียนตี้หย่ง ขึ้นครองราชย์สถาปนาเป็นฮ่องเต้เทียนคงอิงฉ๋ง ราษฎรทั่วแคว้นต้าเจียเฉลิมฉลองเจ็ดวันเจ็ดคืน พวกเขาล้วนมีความหวังที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งใดที่เคยหวัง ต่างแคว้นล้วนส่งทูตมาแสดงความยินดี ไม่มีแคว้นใดหาญกล้าทดสอบความแข็งแกร่งของฮ่องเต้พระองค์ใหม่เผ่าตู้เป็นชนเผ่าที่เคยถูกแคว้นต้าเลี่ยงรุกรานและสร้างความอัปยศให้แก่องค์หญิงหลายองค์จนปลิดชีพตนเอง เมื่อแคว้นต้าเจียปราบปรามแคว้นต้าเลี่ยงทำให้เผ่าตู้ได้รับอิสระอีกครั้ง เมื่อมาแสดงความยินดีในครั้งนี้ มีองค์หญิงน้อยเผ่าตู้ร่วมเดินทางมาด้วย องค์หญิงนาราเป็นองค์หญิงองค์เดียวที่ปลอดภัยจากการรุกราน เนื่องจากช่วงเวลานั้นไม่ได้อยู่ในดินแดนเผ่าตู้ ในท้องพระโรง พระเจ้าเทียนคงอิงฉ๋ง เทียนตี้หย่ง ประทับอยู่บนบัลลังก์มังกร พระพักตร์ขาวใส ดวงตาดำขลับยาวรีปลายชี้ฟ้า จมูกโด่งเป็นสัน ช่างสง่างามเหลือเกิน องค์หญิงน้อยมองดูด้วยความตะลึง หลงรักบุรุษผู้สง่างามนี้ทันทีเทียนตี้หย่งแย้มพระโอษฐ์ขอบคุณแคว้นต่าง ๆ ที่มาร่วมแสดงความยินดี และเชิญทูตทุกแคว้นทุกชนเผ่าเข้าร่วมงานเลี้ยงในตอนเย็น เนื่องจากยังไม่มีการแต่

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-15
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทนำ และ บทที่ 1 ท่านอ๋องผู้สง่างาม

    บทนำ ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่งพร้อมหน่วยมัจฉาพระกาฬเคลื่อนตัวลงน้ำอย่างแผ่วเบา พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างปราดเปรียวในน้ำ ลัดเลาะริมฝั่งนี้ เมื่อมองไปยังฝั่งตรงข้าม ก็เห็นรากไม้ในน้ำพยายามยืดรากออกมาจนสุด หวังจะเกี่ยวกระหวัดกลุ่มคนไปเป็นอาหาร บางรากถึงขนาดพุ่งออกมาจากลำต้นหวังจะแทงทะลุร่างกำยำหลายร่างที่ดำน้ำท้าทาย น่าเสียดายที่เมื่อหลุดจากขั้วก็ร่วงผลอยเป็นปุ๋ยอยู่ในน้ำ หน่วยมัจฉาพระกาฬโผล่ขึ้นหายใจเป็นช่วง ๆ ต้องเร่งรีบว่ายน้ำไปให้ถึงจุดหมายโดยเร็วที่สุด ระยะเวลาต้องสอดคล้องกับการดำเนินการที่ต้นทางของสหายสนิท มิฉะนั้น ไม่เพียงแต่ชีวิตของหญิงสาวผู้เป็นดวงใจจะสูญสิ้น เขาและหน่วยมัจฉาพระกาฬก็คงต้องฝังร่างไว้ใต้โคลนเลนของแม่น้ำแห่งนี้ด้วย ไม่ว่าภารกิจนี้จะสำเร็จหรือล้มเหลว ความสัมพันธ์ในราชวงศ์ก็จะเปลี่ยนไปตลอดกาล ความยากลำบากที่ต้องเผชิญในภายหน้าเป็นได้ทั้งลิขิตจากสวรรค์หรือคำสั่งจากนรก บทที่ 1 ท่านอ๋องผู้สง่างาม รถม้าคันใหญ่ตกแต่งอย่างหรูหราเคลื่อนมาจอดตรงหน้าจวนแม่ทัพใหญ่ ร่างสูงสง่าของชายหนุ่มก้าวลงมาอย่างคล่องแคล่ว กลิ่นอายความสูงส่งแผ่กระจาย ดวงตาดำขลับยาวรีปลายเฉียงชี้ฟ้านั้นทรงพ

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-02
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 2 น้องสาวของพวกเราจะสมรส

    ในที่สุดสุ่ยเฉินเฟิงก็รับกล่องไม้ไว้ เมิ่งหยางยิ้มแววตาแจ่มใส กล่าวต่อไปว่า “เฟิงเอ๋อร์ ข้าคิดว่างานมงคลของเราสมควรจัดได้แล้ว หากเจ้าไม่ว่าอันใด ข้าจะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขออย่างเป็นทางการ สามหนังสือหกพิธีการจะทำให้ครบถ้วนเหมาะสม เป็นหน้าเป็นตาให้เจ้า” สุ่ยเฉินเฟิงสะดุ้ง นางยังต้องการอิสระ ยังไม่พร้อมรับหน้าที่เป็นฮูหยินควบคุมกำกับดูแลเรือนของผู้ใด ตอนนี้เป็นคุณหนูสุ่ยก็มีความสุขมากอยู่แล้ว สุ่ยเฉินเฟิงหลุบตาลงต่ำ หญิงสาวตัดสินใจบอกตามตรงว่า“พี่หยาง ขอบอกตามตรงว่าตอนนี้ข้ายังอยากใช้ชีวิตอิสระอีกสักหน่อย”เมิ่งหยางถอนหายใจ “พวกเราก็รู้จักกันมานานมากแล้ว ครอบครัวทั้งสองฝ่ายล้วนยินดี อีกสองเดือนพวกเราทำพิธีหมั้นหมายให้เรียบร้อยเถิด แล้วกำหนดวันแต่งเสียเลย”ในที่สุดสุ่ยเฉินเฟิงก็รับคำ นางมองเมิ่งหยางเฉกเช่นพี่ชายคนหนึ่ง มิได้มีจิตปฏิพัทธ์เช่นหนุ่มสาว แต่ก็เป็นหน้าที่ของนางที่ต้องแต่งให้เมิ่งหยาง นอกจากสุ่ยเฉินเฟิงแล้ว ยังมีอีกคนในห้องอักษรที่หายใจไม่ทั่วท้อง เขาสั่งให้คนเปิดหน้าต่างให้กว้างเพื่อฟังเสียงสนทนาของคนบนศาลากลางน้ำ แต่ห้องอักษรก็ไกลเกินไป จางชุนซึ่งเป็นองครักษ์คนสนิทจึงต้องทำหน้า

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-02
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 3 ร้างรัก

    “คดีที่มือปราบเมิ่งจับกุมได้ในระยะนี้ มีสองสามคดีที่เมื่อจับกุมได้แล้วกลับต้องปล่อยตัวภายหลัง ท่านหาเวลาไปตรวจสอบหน่อยก็แล้วกัน”รองผู้บัญชาการทหารม้ารับคำแล้วจึงไปสืบสวนและตรวจสอบคดีที่เมิ่งหยางเป็นผู้จับกุมอย่างละเอียด สุ่ยฝานหรงสังหรณ์ใจว่าต้องมีสิ่งซ่อนเร้น แต่ไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นหลักฐานชัดเจนว่าเมิ่งหยางพัวพันในทางมิชอบวันแต่งงานของเมิ่งหยางและสุ่ยเฉินเฟิงก็ใกล้เข้ามาแล้ว เขานึกเป็นห่วงน้องสาวอย่างบอกไม่ถูกจึงตัดสินใจบอกกล่าวข้อกังวลนี้ สุ่ยเฉินเฟิงฟังแล้วก็นิ่งอึ้งไปนาน ทั้งสองนำความไปปรึกษาแม่ทัพใหญ่สุ่ยลี่หรงผู้เป็นบิดาและฮูหยินเจียงไจฉือผู้เป็นมารดาฮูหยินแม่ทัพใหญ่ใบหน้าซีดเผือด หันมามองบุตรีผู้งดงามด้วยความสงสาร หากแต่งงานไปแล้วเมิ่งหยางถูกจับกุมเนื่องจากการกระทำความผิด เช่นนั้นแล้วบุตรีของนางจะมีชีวิตต่อไปเช่นไร ในขณะที่แม่ทัพใหญ่สุ่ยลี่หรงนิ่งเงียบ แต่มีเพลิงโทสะอัดแน่นในดวงตา“คนสกปรกเช่นนี้ จะปล่อยให้เข้ามาเกี่ยวพันกับตระกูลของเราได้อย่างไร” ท่านแม่ทัพใหญ่หันไปสั่งการบุตรชายเสียงราบเรียบ แต่น่าสะพรึงกลัวว่า “เจ้าไปหาจุดอ่อนของเมิ่งหยางมาให้ข้า ต้องหาให้ได้” อีกไ

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-02

Bab terbaru

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 110 ใคร ๆ ก็หลงรักฮ่องเต้ผู้สง่างาม

    พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เทียนตี้หย่ง ขึ้นครองราชย์สถาปนาเป็นฮ่องเต้เทียนคงอิงฉ๋ง ราษฎรทั่วแคว้นต้าเจียเฉลิมฉลองเจ็ดวันเจ็ดคืน พวกเขาล้วนมีความหวังที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งใดที่เคยหวัง ต่างแคว้นล้วนส่งทูตมาแสดงความยินดี ไม่มีแคว้นใดหาญกล้าทดสอบความแข็งแกร่งของฮ่องเต้พระองค์ใหม่เผ่าตู้เป็นชนเผ่าที่เคยถูกแคว้นต้าเลี่ยงรุกรานและสร้างความอัปยศให้แก่องค์หญิงหลายองค์จนปลิดชีพตนเอง เมื่อแคว้นต้าเจียปราบปรามแคว้นต้าเลี่ยงทำให้เผ่าตู้ได้รับอิสระอีกครั้ง เมื่อมาแสดงความยินดีในครั้งนี้ มีองค์หญิงน้อยเผ่าตู้ร่วมเดินทางมาด้วย องค์หญิงนาราเป็นองค์หญิงองค์เดียวที่ปลอดภัยจากการรุกราน เนื่องจากช่วงเวลานั้นไม่ได้อยู่ในดินแดนเผ่าตู้ ในท้องพระโรง พระเจ้าเทียนคงอิงฉ๋ง เทียนตี้หย่ง ประทับอยู่บนบัลลังก์มังกร พระพักตร์ขาวใส ดวงตาดำขลับยาวรีปลายชี้ฟ้า จมูกโด่งเป็นสัน ช่างสง่างามเหลือเกิน องค์หญิงน้อยมองดูด้วยความตะลึง หลงรักบุรุษผู้สง่างามนี้ทันทีเทียนตี้หย่งแย้มพระโอษฐ์ขอบคุณแคว้นต่าง ๆ ที่มาร่วมแสดงความยินดี และเชิญทูตทุกแคว้นทุกชนเผ่าเข้าร่วมงานเลี้ยงในตอนเย็น เนื่องจากยังไม่มีการแต่

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 109 เทพสงครามครองบัลลังก์มังกร

    หลังจากพระเจ้าเต๋อหมิงได้รับบาดเจ็บ คณะหมอหลวงก็พยายามทุกวิธีในการรักษา เพราะฤทธิ์ยาระงับความเจ็บปวดที่หมอหลวงปรุงขึ้น แม้พระพักตร์จะขาวซีดแต่ก็ไม่แสดงถึงความเจ็บปวด เวลาผ่านไปสิบกว่าวัน ลมหายใจที่แผ่วเบานั้นก็หยุดนิ่ง หัวหน้าหมอหลวงตรวจชีพจรอีกครั้งก่อนจะหันมาทูลต่อไทเฮาสือจินอวี้ว่า“พระองค์กลับคืนสู่สวรรค์แล้วพ่ะย่ะค่ะ”ไทเฮาสือจินอวี้ตัวอ่อน เป็นลมล้มพับ ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง ที่ยืนอยู่ใกล้กันรับตัวเสด็จป้าสะใภ้ไว้ทันก่อนพระวรกายกระทบพื้น หมอหลวงแบ่งคนมาปฐมพยาบาลไทเฮา ความเศร้าโศกเสียใจล้นห้องบรรทมออกไปครอบคลุมวังหลวงและกระจายออกไปทั่วแคว้น พระเจ้าเต๋อหมิงเป็นผู้ปกครองใต้หล้าด้วยความเมตตา จึงเป็นที่รักใคร่ของราษฎร ในช่วงเวลาอันเศร้าหมอง ฉินอ๋องเป็นกำลังหลักในการสั่งการเรื่องต่าง ๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยหลังจากพิธีการต่าง ๆ ผ่านพ้นไป ไทเฮาสือจินอวี้ก็เรียกฉินอ๋องเข้าเฝ้า สุ่ยเฉินเฟิงดูแลเครื่องแต่งกายให้พระสวามี ฉินอ๋องใช้นิ้วดันคางของนางให้เงยหน้าขึ้น“เฟิงเอ๋อร์ เจ้ากังวลอะไรหรือ”สุ่ยเฉินเฟิงถอนหายใจ “ไม่แน่ว่าการเรียกตัวเข้าเฝ้าในครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับบัลลังก์ที่ว่างอยู่เพ

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 108 ศาสตร์และศิลป์ในการปกครอง

    พระเจ้าเต๋อหมิงบาดเจ็บสาหัส นับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุพระองค์ก็ยังไม่ลืมพระเนตรขึ้นมา มีเพียงชีพจรและลมหายใจแผ่วเบาเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่ายังมีพระชนม์ชีพอยู่ เกิดความโกลาหลในการบริหารงานเล็กน้อย ไทเฮาสือจินอวี้ต้องออกนั่งเป็นประธานการประชุมขุนนางในฐานะผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน พระนางไม่ประทับบนบัลลังก์มังกร แต่กลับให้คนนำเก้าอี้หงส์จากตำหนักของพระนางมาใช้ประทับเป็นการชั่วคราวแม้ว่าปกติไม่ว่าไทเฮาหรือฮองเฮาพระองค์ใดก็ตาม ไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการของวังหลวงได้ ผู้เป็นมารดาของแผ่นดินมีหน้าที่ควบคุมกำกับดูแลวังหลังให้เป็นไปโดยเรียบร้อย แต่สถานการณ์ของแคว้นต้าเจียในคราวนี้แตกต่างออกไป พระเจ้าเต๋อหมิงไม่ได้อภิเษกสมรสเพราะอยู่ระหว่างการไว้ทุกข์ให้กับไท่ซ่างหวงซึ่งก็คือเสด็จพ่อของพระองค์นั่นเอง อีกทั้งพระเจ้าเต๋อหมิงก็ไม่มีสนมจึงยังไม่มีพระราชโอรสหรือพระราชธิดาแม้แต่พระองค์เดียว แคว้นต้าเจียจึงยังไม่มีรัชทายาทเดิมทีเหล่าขุนนางตั้งใจว่าหลังจากพ้นการไว้ทุกข์ให้ไท่ซ่างหวงแล้ว พวกเขาจะกดดันให้พระเจ้าเต๋อหมิงอภิเษกสมรสและแต่งตั้งฮองเฮา รวมทั้งให้เริ่มการคัดเลือกสนมเข้ามาปรนนิบัติตามธรรมเนียมท

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 107 ขบวนการทำลายแคว้นจบสิ้น

    ก่อนที่สุ่ยฝานหรงจะออกไป ฉินอ๋องสั่งการเพิ่มเติมว่า “ตอนที่จับกุมเมิ่งกุ้ยเฟย คนที่สุสานบรรพชนล้วนถูกลงโทษ นางกำนัลอู่ก็ติดตามกุ้ยเฟยไปที่สุสานด้วย ท่านตรวจสอบด้วยว่าผู้ใดช่วยเหลือให้นางหลบหนีจนรอดพ้นได้” “พ่ะย่ะค่ะ”สุ่ยฝานหรงออกไปแล้ว ฉินอ๋องกลับเข้าไปในห้องบรรทมของพระเจ้าเต๋อหมิง มีโต๊ะวางไว้มุมห้อง เขาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ จางชุนรินน้ำชาส่งให้ เขารับมาถือไว้นิ่ง ๆ มองตรงไปก็เห็นญาติผู้พี่นอนนิ่ง พระพักตร์ซีดเซียว นี่คือสิ่งที่เขากังวลอยู่เสมอว่าจะเกิดขึ้น และแล้วก็เกิดขึ้นจริง พี่สี่ของเขาพระทัยอ่อน ใช้สายพระเนตรที่เมตตามองผู้คนโดยรอบ ใช้พระคุณแต่เพียงอย่างเดียวในการปกครองเวลาผ่านไป แม่ทัพใหญ่สุ่ยฝานหรงกลับมาอีกครั้งเมื่อเข้ายามอิ๋น เขาสีหน้าไม่ดีนัก รายงานว่า“ตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพ่ะย่ะค่ะ นางกำนัลอู่ไม่ถูกจับกุมเพราะนางลากลับบ้านเดิมเพื่อจัดการงานศพของมารดา เมื่องานศพเสร็จแล้ว ระหว่างทางที่เดินทางกลับเมืองหลวง ก็ได้ข่าวว่าคนที่สุสานบรรพชนถูกจับกุม นางจึงซ่อนเร้นตัว เมื่อทหารที่ไปตรวจค้นสุสานบรรพชนและทำลายเห็ดเมากลับไปแล้ว นางก็ลักลอบเข้าไปในสุสานบรรพชน เพราะนางอยู่ที่นั่นกั

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 106 บาดเจ็บสาหัส

    “พ่ะย่ะค่ะ เสด็จป้าสะใภ้ หลานจะสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้สภาพในคุกไม่เหมาะสำหรับผู้บาดเจ็บ” เขาหันถามหัวหน้าหมอหลวงว่า “จะเคลื่อนย้ายฝ่าบาทได้หรือไม่ หรือต้องรอให้อาการดีขึ้นกว่านี้ก่อน”หัวหน้าหมอหลวงตอบว่า “สามารถเคลื่อนย้ายได้แล้วพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง คุกหลวงไม่เหมาะกับการรักษาผู้ป่วยจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”ในที่สุด พระเจ้าเต๋อหมิงก็ถูกเคลื่อนย้ายไปยังตำหนักเฉียนชิง ฉินอ๋องประคองไทเฮา สือจินอวี้ไปพร้อมกัน โดยให้สุ่ยฝานหรงซึ่งตามมาถึงแล้ว ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ไทเฮานั่งกุมพระหัตถ์พระราชโอรส พระพักตร์ของพระองค์และพระเจ้าเต๋อหมิงซีดขาวพอกัน"เสด็จป้าสะใภ้พักผ่อนก่อนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” ไทเฮาสือจินอวี้ส่ายพระพักตร์ “ป้าสะใภ้จะเฝ้าเต๋อเอ๋อร์ เมื่อเขาฟื้นจะได้เห็นหน้าแม่เป็นคนแรก”“ถ้าเช่นนั้นหลานจะให้คนจัดห้องด้านข้างเป็นที่บรรทมชั่วคราวดีไหมพ่ะย่ะค่ะ เสด็จป้าสะใภ้ไปพักผ่อนก่อน มิฉะนั้นอาจจะประชวรไปอีกพระองค์ หากพี่สี่รู้สึกตัวแม้เพียงเล็กน้อยจะให้คนไปทูลให้ทรงทราบทันที”ไทเฮาพยักพระพักตร์ ฉินอ๋องจึงสั่งให้ขันทีประจำตำหนักเฉียนชิงเร่งจัดห้องบรรทมช

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 105 ฟางเส้นสุดท้าย

    ในห้องขังห้องหนึ่งของคุกหลวง บนโต๊ะตัวเล็กซึ่งวางไว้มุมหนึ่งมีกับข้าวสองอย่างและน้ำ แม้จานอาหารจะไม่ได้ตกแต่งอย่างสวยงาม แต่กับข้าวก็มีทั้งเนื้อและผัก อีกมุมหนึ่งมีผ้าผืนใหญ่ค่อนข้างหนาปูไว้บนพื้นสำหรับใช้เป็นที่นอน อากาศเย็นและอับชื้น โคมไฟที่มุมกำแพงส่องแสงลอดลูกกรงเข้ามาทำให้ในห้องขังไม่มืดองค์ชายรอง เทียนตี้ฮุ่ย นั่งอยู่บนผ้าปูนอน หลังพิงกำแพงคุกหลวง สามวันแล้วที่เขาเข้ามาอยู่ในคุกหลวง แม้ว่าอาหารจะไม่เป็นที่พอใจแต่เขาก็รับประทานได้ ไม่มีเหตุผลที่ต้องทรมานตัวเอง ข้อเท้าของเขาได้รับการรักษา หมอหลวงเข้ามาทำแผลให้วันละสองครั้ง แต่ถึงกระนั้นก็ยังอักเสบ มีเลือดและน้ำหนองซึมออกมา เขาไม่สามารถเดินได้ แม้จะเป็นระยะทางใกล้ ๆ จากที่นอนตรงไปยังโต๊ะอาหาร เขาต้องคลานไป ช่างน่าอนาถนักมีเงาไหววูบอยู่หน้าห้องขัง เขามองออกไปก็เห็นบุรุษรูปร่างสูงผอมที่คุ้นเคย ทั้งหน้าตาผิวพรรณและเครื่องแต่งกายล้วนสูงส่ง พระเจ้าเต๋อหมิงมองผ่านลูกกรงเข้ามา ตรัสถามว่า“แผลที่ขาเป็นอย่างไรบ้างพี่รอง”องค์ชายรอง เทียนตี้ฮุ่ย หันหน้าไปอีกทางหนึ่ง ใบหน้าเศร้าโศก ไม่พูดไม่จา พระเจ้าเต๋อหมิงจึงให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไขกุญแ

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 104 จื่อหยวน เจ้าอีกแล้ว

    พระเจ้าเต๋อหมิงลุกขึ้นจากบัลลังก์มังกร ตรงไปหยุดยืนตรงหน้าพี่รองของเขา พระเนตรฉายแววเสียพระทัยชัดเจน องค์ชายรองที่นั่งคุกเข่าเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นน้องชาย ฝ่ายหนึ่งดูสูงส่ง อีกฝ่ายหนึ่งดูไร้ค่า ภาพนั้นสะท้อนเข้าตาของอดีตเมิ่งกุ้ยเฟย น้ำตารินไหลลงมาอาบใบหน้าองค์ชายรองถูกมัดมือแต่ไม่ได้มัดเท้า เขาผุดลุกขึ้นยืนประจันหน้า “ถือว่าข้าเพลี่ยงพล้ำในหมากกระดานนี้ สังหารข้าเสียเถิด”“ไม่....” เสียงของอดีตเมิ่งกุ้ยเฟยร้องดังลั่นท้องพระโรง ทุกสายตาหันไปจับจ้องนางที่ทรุดตัวลงไปนั่งราบลงกับพื้น สองมือที่ถูกมัดแน่นเหยียดนิ้วออกกราบลงบนพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ได้โปรดอภัยให้เย่าชือเพคะ ได้โปรดเห็นแก่ความเป็นพี่น้อง”ในขณะที่ทุกสายตาจับจ้องไปที่อดีตพระสนมของฮ่องเต้องค์ก่อน องค์ชายรองก็พุ่งตัวสุดแรงเข้าหาผู้เป็นน้องชาย เป็นความหวังครั้งสุดท้าย หากพระเศียรของพระเจ้าเต๋อหมิงกระทบพื้นแข็งของท้องพระโรงที่ถูกขัดจนขึ้นเงานั้น พระชนม์ชีพอาจไม่เหลือแล้วมีอาวุธบางอย่างถูกซัดออกมาจากหลังฉาก อาวุธลับนั้นหมุนแหวกอากาศส่งเสียงแหลมดังเสียดแทงโสตประสาท สกัดองค์ชายรองให้ทรุดลงกับพื้นก่อนที่จะถึงพระวรกายของพระเจ้าเต๋อหมิง

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 103 แคว้นอบายมุข

    “เจ้านั่งคอยหลังฉากก่อนนะ ข้าอยากจะฟังว่าพี่รองจะแก้ตัวอย่างไร”พระเจ้าเต๋อหมิงตรัสสั่ง ฉินอ๋องจึงเดินไปนั่งหลังฉาก พระเจ้าเต๋อหมิงตรงไปยังบัลลังก์มังกร ยามนั้นเป็นเวลาเซิน ไม่มีการประชุมขุนนาง ในท้องพระโรงอันกว้างใหญ่จึงมีเพียงองค์ชายรอง เทียนตี้ฮุ่ย และเมิ่งกุ้ยเฟย ยืนอยู่กลางห้อง มือของพวกเขาถูกพันธนาการไว้ด้วยเชือกแน่นหนา รายล้อมไปด้วยทหารหน่วยพยัคฆ์เหินและหน่วยมัจฉาพระกาฬ นอกจากนั้นก็คือบรรดาองครักษ์ประจำพระองค์ของพระเจ้าเต๋อหมิง เมื่อพระเจ้าเต๋อหมิงประทับบนบัลลังก์ ทหารหน่วยพยัคฆ์เหินซึ่งควบคุมตัวองค์ชายรองก็ใช้ฝ่ามือกดลงบนบ่าแล้วเอ่ยว่า “คุกเข่า”เทียนตี้ฮุ่ยสีหน้าเรียบเฉย เขาทรุดตัวลงคุกเข่าแต่โดยดีเพราะรู้ว่าขัดขืนไปก็ไม่มีประโยชน์ ในขณะที่อดีตเมิ่งกุ้ยเฟยคุกเข่าลงพร้อมกัน “พี่รองทำเช่นนี้ทำไม”“เจ้าไม่น่าจะใช้คำถามนี้กับข้า” เทียนตี้ฮุ่ยตอบด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ไร้ความอ่อนน้อมที่เคยฉาบไว้ แม้แต่สรรพนามก็เปลี่ยนไปด้วย “พี่รองทั้งลักลอบเพาะปลูกเห็ดเมา ทั้งอยู่เบื้องหลังบ่อนการพนันทั้งหลาย สิ่งเหล่านี้ล้วนทำลายเยาวชน ทำลายราษฎร เป็นการทำร้ายแคว้นต้าเจียอย่างถึงรากนั่นเชียว

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 102 ที่แท้เขากลับมาเพื่อทำลาย

    ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง และแม่ทัพใหญ่ สุ่ยฝานหรง รับรู้การตัดสินพระทัยของพระเจ้าเต๋อหมิงด้วยความกังวล แต่เรื่องนี้ก็มีพระราชโองการแล้วจึงได้แต่เก็บปากเก็บคำเมื่อเทียนตี้ฮุ่ยคืนสู่ตำแหน่งฉู่อ๋องแล้ว ฉินอ๋องก็คาดว่าเขาคงจะขอพระราชทานอภัยโทษให้เมิ่งกุ้ยเฟยผู้เป็นมารดาด้วย แต่หลังจากเวลาผ่านไปพอสมควร องค์ชายรอง เทียนตี้ฮุ่ย ก็ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ ทำให้แปลกใจฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง ไม่ได้ไปเยือนจวนแม่ทัพใหญ่นานแล้วเพราะสุ่ยเฉินเฟิงแต่งให้เขาแล้ว จวนแม่ทัพใหญ่จึงไม่มีแรงดึงดูดเขาอีกต่อไป กลับกลายเป็นว่าสุ่ยฝานหรงเป็นฝ่ายมาเยือนจวนอ๋องมากขึ้น สุ่ยฝานหรงมักจะแวะไปรับเหมยกุ้ยมาด้วยวันนี้ก็เช่นกัน ทั้งสี่คนนั่งล้อมวงในลานข้าง อากาศอบอุ่น กลิ่นดอกไม้หอมอ่อน ๆ ทำให้บรรยากาศสดชื่น บนโต๊ะมีอาหารหลายชนิด สุ่ยเฉินเฟิงจับตามองพี่ชายเงียบ ๆ นางรู้สึกว่าเขาเอาใจใส่เหมยกุ้ยเป็นพิเศษ สุ่ยฝานหรงคีบอาหารวางให้บนข้าวของเหมยกุ้ย“เจ้าลองซักคำ เนื้อกวางป่าผัดเห็ดนี่อร่อยมาก”เหมยกุ้ยใช้ตะเกียบคีบเห็ดขึ้นมาดูแล้วกล่าวว่า “คล้ายเห็ดเมาเลย”ทำให้ผู้ร่วมโต๊ะต่างก็เพ่งตามองเห็ด สุ่ยฝานหรงบอกว่า “ไม่ใช่เห็ดเมา เพียงแ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status