ฉีกสัญญารัก จดสัญญาใจ

ฉีกสัญญารัก จดสัญญาใจ

By:  คริสตัลแร็กคูน  Updated just now
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
Not enough ratings
30Chapters
6views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
Leave your review on App

ซูโม่ที่รู้ดีว่าการแต่งงานกับกู้เฉินเป็นเพียงแค่สัญญาแผ่นหนึ่ง  และเมื่อคนที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดกลับมาแล้ว กู้เชินก็ขอหย่าในทันที  ในมือของซูโม่ที่ถือชุดทดสอบการตั้งครรภ์ไว้ เธอพูดอะไรไม่ออกสักคำ  ต่อมา เธอถูกบังคับให้ออกจากบ้านโดยไม่มีอะไรเลย และต้องเแบกท้องโตเดินบนเส้นทางของการเป็นนักวาด อย่างไรก็ตาม กู้เชินสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ ยามที่ซูโม่คลื่นไส้เขาก็คลื่นไส้เช่นกัน ยามที่เธออยากของเปรี้ยวเขาก็เป็นเช่นกัน ยามที่ซูโม่คลอดบุตรเขาก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดเช่นกัน  ผู้ชายอกสามศอกต้องทรมานจากการอุ้มท้องถึงสิบเดือน  จนในที่สุด ซูโม่พูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “ยังไงลูกก็ต้องใช้นามสกุลซู!” กู้เชินที่ถือขวดนมไว้ในมือข้างหนึ่ง และมืออีกข้างหนึ่งถือผ้าอ้อมเด็กไว้ “ใช้นามสกุลซูก็ได้ครับ! คุณภรรยา ดูสิ ๆ แล้วเมื่อไหร่จะให้สามีใช้นามสกุลซูด้วยล่ะครับ?”

View More
ฉีกสัญญารัก จดสัญญาใจ Novels Online Free PDF Download

Latest chapter

Interesting books of the same period

Comments

No Comments
30 Chapters

บทที่ 1

โรงพยาบาล “ผลการตรวจต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงนะคะ”นางพยาบาลยิ้มด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน เธอพูดในขณะที่เก็บตัวอย่างเลือดออกไป ซูโม่กดก้านสำลีบริเวณที่ถูกเจาะเลือดเอาไว้ และหาที่นั่งใบหน้าของเธอซีดเซียว แต่นัยน์ตาของเธอกลับเต็มไปด้วยความคาดหวัง เธอเดาว่าตัวเองตั้งครรภ์ จึงมาตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อความแน่ใจ สามปีก่อนหน้า กู้เชินต้องตกอยู่ในอาการโคม่าเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ แพทย์วินิจฉัยว่าเขาจะต้องเป็นเจ้าชายนิทรา ในฐานะที่เป็นรักแรกของเขา แต่ซูหลีไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศโดยไม่สนใจ ทว่าคุณย่ากู้กลับไปฟังคำใครมาก็ไม่อาจทราบได้ บอกว่าซูโม่เป็นผู้มีบุญคุณของกู้เชิน และยืนกรานที่จะให้ซูโม่แต่งงานกับกู้เชินให้ได้ และตามเงื่อนไขแล้ว ตระกูลกู้จะเข้ามาช่วยเหลือเรื่องแม่ของเธอที่เสียสติ ซูโม่ไร้ซึ่งทางเลือกใด ๆไม่มีใครล่วงรู้เลยว่า ซูโม่เองก็แอบชอบกู้เชินมานานหลายปีแล้ว แต่น่าแปลกที่หลังจากการแต่งงานเกิดขึ้น กู้เชินกลับฟื้นขึ้นมาจริง ๆ ยังไม่ทันที่ซูโม่จะได้ดีใจ เธอกลับต้องได้ยินคำพูดแสนเย็นชาจากกู้เชิน “เพื่อเป็นการเห็นแก่หน้าคุณย่า ฉันจะให้เธอเป็นคุณผู้หญิงของตร
Read more

บทที่ 2

“นี่ข้อตกลงการหย่า เธอดูเอาเองแล้วกัน”หลังกลับจากโรงพยาบาล เมื่อกู้เชินมาถึง เขาพูดเรื่องหย่ากับซูโม่แทบจะในทันที เมื่อนึกใบหน้าอันเศร้าสร้อยของซูหลียามที่ต้องจากกัน ใจของเขารู้สึกทำอะไรไม่ถูก ที่ผลักเธอออก ไม่ใช่แค่เพราะโรคกลัวเชื้อโรคของตน แต่ยังเป็นเพราะอาการคลื่นไส้และอ่อนแรงของเขาในตอนนั้น เขาคิดว่าบางครั้งมันก็เกิดขึ้นได้ และไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพียงแต่เมื่อได้พบซูโม่ ความทรมานกายกลับชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อซูโม่กลับมาจากโรงพยาบาล ยังไม่ทันที่เธอจะได้เรียบเรียงความคิด เธอก็ต้องตกตะลึงกับข้อสำคัญการหย่าที่อยู่ตรงหน้า ใช้เวลาสักพัก กว่าที่เธอจะเปล่งเสียงออกมาอย่างสั่นเทา “ต้องหย่าจริง ๆ ใช่ไหมคะ?”“อืม”ซูโม่มือสั่น เธออดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวและถามออกไปว่า “เพราะว่าซูหลีกลับมาแล้วใช่ไหม?”กู้เชินเอื้อมมือไปปลดเนกไท ด้วยใบหน้าแสนเย็นชา “สามปีก่อน ฉันยังพูดไม่ชัดพออีกหรือไง?”เขาพูดไว้ชัดเจนแล้ว และเธอเองก็เห็นด้วยแต่ทว่า แต่ว่า……ซูโม่กัดริมฝีปาก “ถ้าเกิดว่า… ฉันอยากพูดว่า ถ้าเกิด…”กู้เชินตัดรำคาญ “ซูโม่ เกิดเป็นคนอย่าละโมบให้มากนักเลย”ซูโม่เงยหน้าขึ้นในทันใด มอง
Read more

บทที่ 3

“ที่ฉันทำก็เพื่อตระกูลซูเหมือนกัน”ซูจุนเหว่ยจิบน้ำ น้ำเสียงกดต่ำ“สายสัมพันธ์การแต่งงานระหว่างตระกูลซูและกู้จะจบลงไม่ได้”“ข้อแรก แกอยู่กับกู้เชินมาตั้งสามปี แต่ก็ยังไม่มีลูกสักที ข้อที่สอง แกเอาชนะใจกู้เชินไม่ได้ ข้อที่สาม แกไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้คนตระกูลซูเลยสักนิด”“ในเมื่อวันนี้หลีเอ๋อร์กลับมาแล้ว แถมกู้เชินและหลีเอ๋อร์ก็ต่างมีความรู้สึกดีให้กัน ดังนั้นแล้วเรื่องทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร”“ฉันก็จะได้มีเงินมารักษาแม่แกให้ดีขึ้น”ซูโม่ต้องตะลึงงันอีกครั้งกับความหน้าซื่อใจคดของซูจุนเหว่ยเธอพูดเพื่อย้ำเตือน “ทำไมซูหลีถึงต้องไปต่างประเทศ เธอคงลืมไปแล้วงั้นสิ แล้วเธอคิดว่าคนตระกูลกู้เขาจะลืมด้วยไหม?”“เพราะงั้นแล้ว ถึงอยากให้เธอหย่ากับกู้เชินก่อนไง”ซูโม่รู้ดีว่าพวกเขากำลังวางแผนอะไรกันหากเธอเป็นฝ่ายยอมสละฐานะของตน ซูหลีก็จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นั้น และผลประโยชน์ทั้งหมดก็จะเกิดแก่บ้านตระกูลซูหลังจากเงียบไปนาน ซูโม่พูดขึ้นมาว่า “ฉันจะหย่าให้ก็ได้ แต่ว่าฉันมีข้อแม้”“ฉันต้องการหุ้นของแม่ ส่วนที่แม่ควรได้รับโดยชอบธรรม”ทันใดนั้นสีหน้าของซูจุนเหว่ยก็เคร่งขรึม เมื่
Read more

บทที่ 4

“ประธานกู้ให้ผมมาเอาเสื้อผ้าให้ครับ”“ไม่ใช่ว่ามาเอาไปแล้วหรอ?”เสี่ยวฉีมองไปที่ซูโม่ด้วยสายตาบ่น ๆ “ทำไมถึงได้ส่งแต่เสื้อผ้าที่นายหญิงซื้อให้ล่ะครับ? ทำไมไม่เลือกชุดอื่นแทน”นายหญิงที่เขาหมายถึงคือแม่ของกู้เชิน หยางรั่วหนิง ปกติดูเหมือนว่าเธอจะดีต่อกู้เชินมาก แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอแทบไม่ใส่ใจเลยซูโม่จำได้ว่า เสื้อตัวนั้นไม่ได้ผิดแค่แบรนด์ที่กู้เชินมักจะชอบใส่ แถมขนาดยังผิดอีกต่างหาก ไม่แน่ว่ากู้เชินคงโยนเสื้อตัวนั้นทิ้งไปแล้ว “ประธานกู้แนะนำมาครับว่า อย่าขี้งอนกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ครับ มันทำให้เสียเวลาน่ะครับ”ซูโม่ที่ได้ยินดังนั้น ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเธอกลับคิดว่ามันน่าตลก “ซูหลีบอกว่าฉันเป็นคนหยิบให้ใช่ไหม?” ซูหลีพูดอะไร เขาก็เชื่อไปหมดสินะ เสี่ยวฉีไม่ได้ตอบ เพียงเร่งเร้าให้ซูโม่รีบหน่อยเพียงเท่านั้น ซูโม่จัดแจงเสื้อตัวใหม่ให้ ยื่นให้เสี่ยวฉี เธอไม่ได้ปล่อยมือให้ในทันที อีกทั้งยังพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเฉย ๆ ว่า “เสี่ยวฉี คุณอยู่กับกู้เชินมาสามสี่ปีแล้วใช่ไหม?”“คุณรู้ไหมว่า ทำไมคุณถึงยังเป็นแค่ผู้ช่วยอยู่”“เลือกปฏิบัติตามลำดับความสำคัญ คุณเองก็ฉลาดนะ น่าเสีย
Read more

บทที่ 5

การปิดแล็ปท็อปในทันทีคือปฏิกิริยาแรกของเธอ “เดี๋ยวฉันบอกเธอทีหลัง”เธอรีบวางสายโทรศัพท์อย่างร้อนรน หันกลับไปมองกู้เชิน “นี่เพิ่งกลางวันเอง ทำไมถึงกลับมาล่ะคะ?”กู้เชินหรี่ตามองกิริยาของเธอ เมื่อล้างมือเสร็จก็ตอบไปว่า “กลับมาเอาของ” ซูโม่ตอบแค่ “อ๋อค่ะ”สายตาของกู้เชินเหลือบไปเห็นถุงใบหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ บะหมี่เนื้อผักกาดดองคงจะมาจากร้านเมื่อตอนกลางวันที่เธอไปทานอาหารสินะ มันอร่อยขนาดนั้นเลยหรืออย่างไร?ซูโม่ใจสั่นระรัว รีบอธิบายไปทันควัน “อันนี้ซื้อมาฝากลั่วอี้น่ะ ไม่ใช่ของฉันค่ะ”เมื่อคราวที่คนทั้งคู่แต่งงานกันใหม่ ๆ ซูโม่ซื้อบะหมี่เย็นจากร้านเล็ก ๆ ข้างทางมา เมื่อกลับมาและถูกกู้เชินเห็นเข้า เขากลับหน้าดำคร่ำเครียด เขาส่งบทความไปให้เธอมากกว่าหนึ่งโหลอีกบทความทั้งหมดกล่าวถึง “อันตรายจากน้ำมันใช้ซ้ำ” “ร้านค้าริมถนนไม่ถูกสุขอนามัย” “ของกินตามร้านข้างทางสกปรกมากเท่าไร” เป็นประเภทนี้หมดเลย ตั้งแต่นั้นมา เธอไม่เคยกินของจากร้านข้างนอกต่อหน้าเขาอีกเลย วันนี้ประมาทเกินไปเลยไม่ได้เก็บไว้ให้ดี กู้เชินสบถออกมาอย่างเยือกเย็น สายตาจับจ้องไปที่สมุดจดที่อยู่ข้างกายเสียงกระดิ่
Read more

บทที่ 6

ยังไม่ทันที่หลิวชูหย่าจะได้พูดอะไร ก็ได้ยินเสียงสบถ “เหอะ” “ซูโม่ เธอพูดกับแม่ของฉันแบบนั้นเหรอ!”ซูหยางพูดขึ้น เขาเป็นน้องชายสุดที่รักของซูหลี ผมครึ่งหัวของเขาถูกย้อมด้วยสีม่วง บนแขนหนาเต็มไปด้วยรอยสัก พร้อมกับใบหน้าหยิ่งยโส เขาถูกหลิวชูหย่าตามใจมาตั้งแต่เล็ก ผนวกกับที่บ้านตระกูลซูก็พอมีเงินอยู่บ้าง เขาเลยใช้เงินซื้อพวกกลุ่มอันธพาลในท้องถิ่นมาเป็นพรรคพวก หลังจากนั้นจึงตั้งตนทำเหมือนเป็นหัวหน้าแก๊งอันธพาล นึกไม่ถึงเลยว่า วันนี้เขาจะมาด้วย ซูโม่เหลือบมองไปที่เขาอย่างเฉยเมย ไม่ได้สนใจเขาซูจุนเหว่ยเดินลงมาจากชั้นบน พร้อมแผดเสียงเย็น “ซูหยาง!”ซูหยางเม้มริมฝีปาก นั่งลงบนโซฟาด้วยใบหน้าอมทุกข์ซูจุนเหว่ยให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้ “พี่แกไม่ได้กลับบ้านมาง่าย ๆ ฉันก็แค่อยากจะกินข้าวกับคนในบ้านแบบพร้อมหน้าพร้อมตา”“รีบนั่งเถอะ”“ฉันขอให้แม่แกทำปลาต้มที่แกชอบไว้ด้วย”หลิวชูหย่ารีบนำมาให้ ความมันเงาของอาหารในจานสะท้อนขึ้น กลิ่นคาวอ่อน ๆ จากตัวปลา ทำให้ซูโม่อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ทำได้แต่เลื่อนจานออกไปไกล ๆ ตัว “เป็นหวัด ไม่ค่อยอยากกินข้าว”“ฉันมาเอาของแล้วก็จะกลับเลย”ซูจุนเหว
Read more

บทที่ 7

ทุกคำที่ซูหยางพูดขึ้น มักตามมาด้วยการตบตีบนเรือนร่างของซูโม่ ซูโม่คว้ากระเป๋ามาบังเอาไว้ ถึงทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ เรื่องที่เธอโกรธเคือง ไม่ได้มากมายอะไรนัก แต่กำลังแปลกใจมากกว่าที่ซูหยางกล้าลงไม้ลงมือ ช่วงตั้งครรภ์แรก ๆ เธออ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงทำได้หลีกเลี่ยงอย่าตระหนกคนตระกูลซูดูเหมือนจะกลัวกันหมดในจังหวะนี้ ไม่มีใครกล้าขยับ ซูจุนเหว่ยที่กำลังจะออกปากห้าม กลับถูกหลิวชูหย่าพูดดัก “ซูหยางจะแรงเยอะขนาดไหนกันเชียว? ตียายเด็กนี่บ้างก็ดี จะได้เชื่อฟัง” ซูจุนเหว่ยสีหน้าเคร่งขรึมและเลือกที่จะนั่งลง ตัวเธอที่ผิดหวังในตัวพ่อมาตั้งนานแล้วกลับไม่คิดเลยว่า หัวใจดวงนี้ของเธอยังต้องรู้สึกเจ็บปวดยิ่งเข้าไปอีก เมื่อเห็นว่าซูหยางกำลังเข้ามา ซูโม่รู้ในทันทีว่ามีแค่ตัวเธอเองเท่านั้นที่จะปกป้องตนเองได้เธอถีบเก้าอี้ออกไปแล้วหยิบมีดปอกผลไม้ข้างกายขึ้นมา ชี้ปลายมีดไปทางซูหยาง “ถ้าเข้ามาอีกก้าวเดียว ฉันเอานายตายแน่”ซูหยางที่โดนขวางด้วยเก้าอี้ ทำให้เขาเกือบล้มเขาเอามือปาดไปที่มุมปาก “เธอกล้ารึไง?”ซูโม่กำมีดในมือแน่น ใบหน้าซีดเซียว แววตาของเธอเต็มไปด้วยความเยือกเย็น “ถ้าอยากลองก็เ
Read more

บทที่ 8

ในรถ ทั้งสองไม่พูดไม่จา ต่างพากันข่มอาการคลื่นไส้และเวียนศีรษะ กู้เชินคลายเนกไทอย่างฉุนเฉียว “สองสามวันนี้อย่าเพิ่งไปไหนแล้วกัน รอให้ใจเย็นลงก่อน ถึงตอนนั้นค่อยมาคุยกัน”ร่างกายของซูโม่ระบมอยู่หลายที่เนื่องจากการถูกทำร้าย ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัวเสียด้วยซ้ำ เธอหลับตาลงอย่างแผ่วเบา ไม่นานก็ถามออกไปว่า “คุณก็คิดว่าเป็นความผิดฉันสินะ?” ถึงแม้ชีวิตนี้ของกู้เชินที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนฟื้นขึ้นมาได้ เขาก็ไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อนเขาถอดเนกไทออก “ไว้หย่ากันแล้ว เธอจะฆ่าใคร ฉันก็ไม่ขวาง”เขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าใบหน้าของเธอซีดเซียวแค่ไหน ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าทำไมเธอถึงทำอย่างนั้น และไม่สนใจเลยว่าเธอจะทำให้ตัวเองบาดเจ็บหรือเปล่าเขาสนใจแค่ว่าเธอจะทำให้เขาเหนื่อยหรือไม่ สำหรับกู้เชินแล้วซูโม่ก็แค่แม่บ้านคนหนึ่งน่าขำสิ้นดี สามปีมานี้ที่หัวใจของเธอถูกฉีกกระชาก จนสุดท้ายแล้วก็ยังเป็นความผิดเธอสินะซูโม่มองแสงไฟที่สะท้อนตรงหน้าต่าง ถามออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “แล้วจะหย่ากันเมื่อไหร่?”กู้เชินขมวดคิ้ว นึกถึงคำที่แพทย์เคยพูดเอาไว้ “คุณกู้ครับ ผมไม่เคยได้ยินสถานการณ์อย่างนี้มาก่อนเล
Read more

บทที่ 9

ซูโม่คล้ายคนที่กำลังคว้าเชือกเส้นสุดท้ายเอาไว้ “ฉันปวดท้อง กู้เชิน ขอร้องล่ะ พาฉันไปส่งที่โรงพยาบาลที”ไม่ต้องให้เธอบอกกู้เชินก็รู้ว่าเธอปวดท้อง สิ่งที่เขาอยากถามคือ ทำไมเธอถึงปวดท้องขึ้นมาได้?ไม่สบาย คลื่นไส้ เขาเข้าใจทั้งหมดแต่เรื่องที่ปวดท้องนี่เกิดขึ้นได้อย่างไร?ซูโม่พยายามพูด เธอกัดฟันกรอด “ประจำเดือนมาน่ะ”กู้เชินขุ่นเคืองในทันที เขารีบพาซูโม่ไปส่งห้องฉุกเฉินด้วยตนเองกู้เชินที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ของโรงพยาบาล ยังไม่อยากจะเชื่อตนเองว่า มีอยู่วันหนึ่งที่เขารู้สึกเหมือนปวดประจำเดือนขึ้นมา เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็มีสีหน้าเคร่งขรึมอีกครั้ง เขาจ้องมองไปที่ประตูของห้องฉุกเฉิน อยากจะเผามันให้รู้แล้วรู้รอด ภายในห้องฉุกเฉิน ซูโม่หายใจหอบ “คุณหมอคะ ฉันท้องได้หกสัปดาห์แล้วค่ะ มีทะเลาะวิวาทมาเมื่อตอนเย็นค่ะ ตอนนี้ปวดท้องมาก ๆ เลยค่ะ”คุณหมอเห็นรอยแตกที่มุมปากรวมถึงรอยฟกช้ำตามร่างกาย เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ความรุนแรงภายในครอบครัวใช่ไหมครับ?” “ด้านนอกคือคุณสามีใช่ไหมครับ?”ซูโม่ค่อย ๆ อ้าปากพูด พร้อมรีบส่ายหน้า “เป็นสามีฉันเองค่ะ ไม่ใช่คนในครอบครัวค่ะ”มีผู้ห
Read more

บทที่ 10

ซูโม่หยุดก้าวเดินในทันที เธอมองไปที่กู้เชินด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน แต่ก็ไม่ได้อธิบายอะไรออกไป แค่ตอบไปว่า “ฉันจะไปรับยานะคะ”ทั้งที่ในใจทั้งเจ็บและปวดไปหมด ถึงแม้จะเพื่อเป็นการปกป้องตัวเองแต่เธอก็พูดอะไรไม่ออกเลย คนตระกูลซูปฏิบัติต่อเธออย่างไร ในตอนแรกกู้เชินไม่เคยได้รับรู้เลย แต่ระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาเขาไม่รู้สึกเลยหรืออย่างไร? เขาก็แค่ไม่ได้สนใจ ก็แค่เชื่อซูหลีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พวกเขาอยู่ฝั่งเดียวกัน เธอก็เป็นเพียงคนนอกที่งี่เง่าไร้เหตุผลคนหนึ่งเท่านั้น แล้วจะต้องให้อธิบายอะไรอีก?ยังดี ที่คุณหมอบอกว่า เธอเพียงแค่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนค่อนข้างต่ำ ลองกินยาประมาณหนึ่งอาทิตย์ไปก่อน หากไม่มีอาการเลือดไหล ก็ไม่ต้องกังวลใจไป ลูกยังอยู่กับเธอ เธอยังคงมีครอบครัวของตัวเองอยู่ บนทางกลับบ้าน กู้เชินรับสายจากซูหลี “พี่เชิน แม่โกรธซูโม่มากจนเป็นลมไปเลย พี่มาโรงพยาบาลเป็นเพื่อนฉันได้ไหม? ฉันกลัว”เสียงนั้นลอยไปถึงหูซูโม่อย่างชัดเจน เธอไม่ต้องถามกู้เชินหรอกว่าเขาจะเลือกอะไร เธอพูดออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งว่า “คุณให้ฉันลงตรงสี่แยกข้างหน้าก็ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันเรียกรถกลับเอง”แววตาข
Read more
DMCA.com Protection Status