Share

บทที่ 8

ในรถ

ทั้งสองไม่พูดไม่จา ต่างพากันข่มอาการคลื่นไส้และเวียนศีรษะ

กู้เชินคลายเนกไทอย่างฉุนเฉียว “สองสามวันนี้อย่าเพิ่งไปไหนแล้วกัน รอให้ใจเย็นลงก่อน ถึงตอนนั้นค่อยมาคุยกัน”

ร่างกายของซูโม่ระบมอยู่หลายที่เนื่องจากการถูกทำร้าย ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัวเสียด้วยซ้ำ

เธอหลับตาลงอย่างแผ่วเบา ไม่นานก็ถามออกไปว่า “คุณก็คิดว่าเป็นความผิดฉันสินะ?”

ถึงแม้ชีวิตนี้ของกู้เชินที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนฟื้นขึ้นมาได้ เขาก็ไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อน

เขาถอดเนกไทออก “ไว้หย่ากันแล้ว เธอจะฆ่าใคร ฉันก็ไม่ขวาง”

เขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าใบหน้าของเธอซีดเซียวแค่ไหน ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าทำไมเธอถึงทำอย่างนั้น และไม่สนใจเลยว่าเธอจะทำให้ตัวเองบาดเจ็บหรือเปล่า

เขาสนใจแค่ว่าเธอจะทำให้เขาเหนื่อยหรือไม่

สำหรับกู้เชินแล้วซูโม่ก็แค่แม่บ้านคนหนึ่ง

น่าขำสิ้นดี สามปีมานี้ที่หัวใจของเธอถูกฉีกกระชาก จนสุดท้ายแล้วก็ยังเป็นความผิดเธอสินะ

ซูโม่มองแสงไฟที่สะท้อนตรงหน้าต่าง ถามออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “แล้วจะหย่ากันเมื่อไหร่?”

กู้เชินขมวดคิ้ว นึกถึงคำที่แพทย์เคยพูดเอาไว้

“คุณกู้ครับ ผมไม่เคยได้ยินสถานการณ์อย่างนี้มาก่อนเลย ผมคิดว่า บางทีทฤษฎีสนามแม่เหล็กอาจจะให้คำอธิบายได้นะครับ”

“ลองแยกกันอยู่ดูนะครับ”

แต่เพราะสนามแม่เหล็กมีอิทธิพลซึ่งกันและกัน ซึ่งอาจเสี่ยงเกินไปที่จะแยกจากกันในทันที

มันจะดีว่าถ้า……

“ฉันมีไปดูงานวันมะรืน กลับมาแล้วฉันจะจัดการทันที”

ซูโม่รู้สึกคัดจมูก เธอเกือบจะร้องไห้ออกมา

เธอกัดริมฝีปากอย่างเอาเป็นเอาตาย ตอบกลับเสียงเบาว่า “ค่ะ”

เมื่อถึงบ้าน ซูโม่ตรวจดูรอยแผลตามร่างกายอย่างละเอียด นอกจากมุมปากที่แตกหลังจากโดนตบครั้งแรกแล้ว บริเวณอื่นยังมีรอยฟกช้ำอีก

เธอเช็ดน้ำตาที่ไหล ถ่ายรูปเอาไว้สองสามรูป คิดไว้ว่าวันพรุ่งนี้จะไปตรวจร่างกายอีกที

ในขณะที่กำลังยุ่ง ๆ กู้เชินกลับเคาะประตูอยู่ด้านนอก

ซูโม่โผล่หน้าออกมาแค่ครึ่งซีก ดวงตาทั้งสองบวมแดง

“ทำอาหาร”

ซูโม่นึกขึ้นได้ในทันทีว่า ทั้งสองคนยังไม่มีใครทำอาหาร เธอจึงรีบออกไปในทันที

ด้วยความเร่งรีบ จึงทำให้ลืมไปว่าตนใส่ชุดนอนกระโปรงตัวสั้นอยู่ จึงทำให้เห็นเรียวขาสวย

ผมสีดำสลวยยาวประบ่า

เธอใช้ยางรัดผมที่อยู่บนข้อมือรวบผมขึ้นไปเผยคอยาวระหง

กู้เชินที่เคยเจอผู้หญิงสวย ๆ มานับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีใครเทียบได้เลยกับซูโม่

สายตาของเขาเป็นประกาย มีความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวเขา

ปากก็บอกว่าจะหย่า แต่กลับสวมชุดนอนมายั่วกันซะงั้น

ผู้หญิงคนนี้ มีความกล้ามากกว่าเดิมเป็นไหน ๆ

ซูโม่ผู้ที่ไม่ได้รับรู้เลยว่าเขากำลังคิดสิ่งใด ไม่อย่างนั้นเธอคงจะเรียกมันว่าไม่ยุติธรรม

ถึงแม้จะพูดว่าสั้นก็เถอะ แต่ก็เป็นระดับความสั้นที่พอใส่ไปนอกบ้านได้อยู่

มันยั่วตรงไหนกัน?

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ซูโม่มองไปที่ตู้เย็นและพูดขึ้นมาว่า “ไม่มีวัตถุดิบเลย ฉันทำบะหมี่มะเขือเทศผัดไข่ให้แล้วกันนะคะ”

กู้เชินเลิกคิ้วขึ้น

ไม่อยากกินเลย

ซูโม่ตกที่นั่งลำบาก เธอพึมพำออกมาว่า “นอกจากบะหมี่มะเขือเทศผัดไข่ ก็เหลือแค่บะหมี่เนื้อผักกาดดองเมื่อตอนกลางวันแล้วค่ะ”

“ถ้างั้นก็บะหมี่เนื้อผักกาดดองก็ได้”

“คะ?”

ซูโม่มองไปที่เขาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง “คุณไม่ทานไม่ใช่หรือคะ?”

กู้เชินเหลือบมองเวลาพลางเร่งเร้า “ไปอุ่นมาเร็ว ๆ อีกครึ่งชั่วโมงฉันมีประชุมต่ออีก”

ซูโม่เริ่มทำอาหารด้วยความงุนงน เมื่อถึงเวลาต้องยกไปให้กู้เชิน เธอเองก็ยังคงเป็นกังวลใจ

กลัวว่าเขาจะเทมันทิ้งนี่สิ

กู้เชินมองอยู่พักใหญ่ ๆ จนสุดท้ายก็หยิบตะเกียบขึ้นมา

ซูโม่ถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นจึงค่อย ๆ กินบะหมี่ของตัวเองบ้าง

เรื่องในวันนี้ เธอไม่โกรธกู้เชินหรอก

เพียงเพราะเธอรักเขา ไม่ได้หมายความว่าเธอจะขอให้เขามารักเธอได้

เธอก็แค่เศร้านิดหน่อยเพียงเท่านั้น

มันน่าเสียใจตรงที่เธออยู่ข้างกายเขามาสามปี แต่เธอไม่เคยได้รับการปกป้องจากเขาเลย

บางทีอาจจะเป็นเพราะเมื่อตอนเย็นถูกกระตุ้น ตกกลางดึกท้องของเธอก็รู้สึกปวดขึ้นมา

ความเจ็บไม่ได้รุนแรงมาก แต่ก็ถือว่าทรมาน

ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยเม็ดเหยื่อเย็น ๆ ที่ค่อย ๆ ไหลออกมา

นอกจากความเจ็บ ซูโม่ทั้งกลัวจนตัวสั่น เธอพยายามลุกขึ้นเพื่อพาตัวเองไปโรงพยาบาล

เธอกลัวว่าเด็กคนนี้จะไม่อยู่กับเธอแล้ว

เธอไม่เคยมีความรัก และไม่เคยได้รับความรักจากครอบครัว สิ่งเดียวที่เธอตั้งตารอคือเด็กคนนี้

กู้เชินเปิดประตูเข้าไปดู “เป็นอะไรอีก?”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status