Share

บทที่ 9

ซูโม่คล้ายคนที่กำลังคว้าเชือกเส้นสุดท้ายเอาไว้ “ฉันปวดท้อง กู้เชิน ขอร้องล่ะ พาฉันไปส่งที่โรงพยาบาลที”

ไม่ต้องให้เธอบอกกู้เชินก็รู้ว่าเธอปวดท้อง สิ่งที่เขาอยากถามคือ ทำไมเธอถึงปวดท้องขึ้นมาได้?

ไม่สบาย คลื่นไส้ เขาเข้าใจทั้งหมด

แต่เรื่องที่ปวดท้องนี่เกิดขึ้นได้อย่างไร?

ซูโม่พยายามพูด เธอกัดฟันกรอด “ประจำเดือนมาน่ะ”

กู้เชินขุ่นเคืองในทันที

เขารีบพาซูโม่ไปส่งห้องฉุกเฉินด้วยตนเอง

กู้เชินที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ของโรงพยาบาล ยังไม่อยากจะเชื่อตนเองว่า มีอยู่วันหนึ่งที่เขารู้สึกเหมือนปวดประจำเดือนขึ้นมา

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็มีสีหน้าเคร่งขรึมอีกครั้ง

เขาจ้องมองไปที่ประตูของห้องฉุกเฉิน อยากจะเผามันให้รู้แล้วรู้รอด

ภายในห้องฉุกเฉิน ซูโม่หายใจหอบ

“คุณหมอคะ ฉันท้องได้หกสัปดาห์แล้วค่ะ มีทะเลาะวิวาทมาเมื่อตอนเย็นค่ะ ตอนนี้ปวดท้องมาก ๆ เลยค่ะ”

คุณหมอเห็นรอยแตกที่มุมปากรวมถึงรอยฟกช้ำตามร่างกาย เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ความรุนแรงภายในครอบครัวใช่ไหมครับ?”

“ด้านนอกคือคุณสามีใช่ไหมครับ?”

ซูโม่ค่อย ๆ อ้าปากพูด พร้อมรีบส่ายหน้า “เป็นสามีฉันเองค่ะ ไม่ใช่คนในครอบครัวค่ะ”

มีผู้หญิงคนไหนบ้างที่มาโรงพยาบาลกลางดึกแล้วไม่พูดแบบนั้น?

“คุณท้องอยู่นะครับ เขาทำร้ายคุณได้ยังไงกัน!”

ซูโม่ไม่รู้จะพูดอย่างไร เพียงแค่บอกไปว่า “เขายังไม่รู้ว่าฉันท้องค่ะ ฉันแค่บอกเขาว่าปวดท้องประจำเดือน รบกวนคุณหมอช่วยเก็บเป็นความลับด้วยเถอะนะคะ”

คุณหมอมองไปที่ซูโม่ด้วยความสงสารจับใจ “คุณวางใจเถอะครับ เดี๋ยวหมอจะติดต่อแพทย์จากสูติและนรีเวชให้นะครับ”

“คนไข้ไม่ต้องกังวลใจไปนะครับ น้องแข็งแรงมาก คนไข้ต้องเชื่อใจน้องนะครับ”

ซูโม่ฝืนยิ้ม

คุณหมอพูดขึ้นอย่างจริงจัง “สถานการณ์ของคุณตอนนี้ หมอแนะนำว่าให้รายงานการถูกทำร้ายนะครับ”

ซูโม่พยักหน้าเบา ๆ ตอนแรกเธอเองก็อยากจะทำอยู่แล้ว จะให้โดนซูหยางตบฟรี ๆ อย่างนั้นหรือ ไม่มีทางอยู่แล้ว

คุณหมอถอนหายใจ

กู้เชินที่ในตอนแรกมีประชุม แต่เพราะซูโม่ปวดท้องกะทันหัน จึงทำให้ต้องเลื่อนการประชุมออกไป

มีสายจากต่างประเทศติดต่อมาเพื่อรายงานการประชุม

เมื่อเขารับสายนั้น กลับพบว่าทั้งแพทย์และพยาบาลที่เดินไปมา ต่างพากันมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ

บางคนถึงกับหลบและชี้มาทางเขา

แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งเขาบังเอิญได้ยินคำพูดของพยาบาลตรงบันได ทันใดนั้นเส้นเลือดที่หน้าผากก็ปูดโปน

“เป็นคนแต่ทำตัวเหมือนหมา คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นไม่ใช่ลูกผู้ชายแถมใช้ความรุนแรงในครอบครัว หน้าหล่อ ๆ มีไปก็ไร้ประโยชน์”

“นั่นน่ะสิ! ภรรยาเขาสวยขนาดนั้น แค่ดูแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นผู้หญิงที่อ่อยโยนขนาดไหน ทำไมถึงทำกันได้ลงนะ?”

“นี่ เธอว่าคนเป็นภรรยาจะหย่ากับเขาไหม?”

“การใช้ความรุนแรงในครอบครัวมีแค่ศูนย์ครั้งกับนับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นแหละ ถ้าถามฉันนะ ฉันว่าหย่าแน่!”

หนึ่งในพยาบาลถอนหายใจออกมา “ถึงอยากหย่าก็น่าจะยากอยู่แหละ เธอดูสิ ตั้งแต่เราอยู่เวรกลางคืนห้องฉุกเฉินรับคนไข้มา มีใครบ้างที่จะหย่าตั้งแต่ครั้งแรกที่โดนทำร้ายน่ะ”

เมื่อซูโม่ออกมาจากห้องฉุกเฉิน เธอเห็นสีหน้าอำมหิตของกู้เชิน เธอก็สั่นสะท้านด้วยความกลัว

การใช้ความรุนแรงในครอบครัวโทษหนักใช่ย่อย

คุณหมอเดินมาที่ด้านหน้าของซูโม่ “ตอนนี้คนไข้ไม่สบาย คนในครอบครัวควรดูแลเอาใจใส่ให้มากนะครับ”

เขาซ่อนความหมายลึก ๆ ในคำพูดที่กล่าวว่า “การเป็นผู้ชายที่ออกไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัวถือว่าเป็นเรื่องลูกผู้ชายตัวจริง”

เส้นเลือดปูดโปนปรากฏบนหน้าผากของเขาอีกครั้ง “คุณพูดพล่ามเรื่องอะไรกันแน่?”

ซูโม่หน้าดำคร่ำเคร่ง รีบคว้าตัวคุณหมอเอาไว้ “ขอบคุณนะคะคุณหมอ ขอโทษที่มารบกวนตอนดึก ๆ นะคะ”

พูดเสร็จเธอก็ไม่เปิดโอกาสให้หมอได้พูดอะไรแล้วจูงมือกู้เชินออกไป

คุณหมอส่ายหน้าแล้วตะโกนกำชับมาแต่ไกล “หลังจากกลับไปก็ต้องพักผ่อนด้วยนะครับ ใส่ใจเรื่องอาหารด้วยนะครับ”

เมื่อเดินมาไกลแล้ว ซูโม่ปล่อยมือของกู้เชิน อธิบายไปว่า “หมอเห็นรอยบนหน้าฉัน เขาก็เลยเข้าใจผิดน่ะค่ะ”

“ฉันอธิบายแล้วแต่เขาไม่เชื่อ”

ในตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งสังเกตเห็นรอยช้ำตรงมุมปากของเธอ เขาขมวดคิ้ว “คนตระกูลซูทำใช่ไหม?”

ซูโม่หันหลังไป ตอบด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ ว่า “อืม”

กู้เชินสบถหัวเราะด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ซูหลีบอกว่าพ่อแม่ของเธอเป็นคนที่ดีมาก ๆ เธอไปทำอะไรเข้าล่ะ พวกเขาถึงได้ลงไม้ลงมือแบบนี้?”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status