ภายในห้องครัว กลิ่นหอมของเครื่องเทศอันเผ็ดร้อนโชยมาตามลม ซูโม่อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย เมื่อเข้ามามองใกล้ ๆ ถึงได้รู้ว่ากลิ่นนั่นมาจากขวดผักดองที่พ่อครัวหวังกำลังเปิดอยู่นั่นเอง “ผักกาดนี่ดองได้ดีเลย”ซูโม่กล่าวชม เมื่อพ่อครัวหวังเห็นเธอ ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงร่าเริงว่า “วันนี้มีปลาดอร์ลี่ส่งมาตั้งสองตัวครับ ผมกำลังคิดว่าจะทำปลาต้มผักกาดดอง คุณผู้หญิงคิดว่าดีไหมครับ?”ซูโม่รีบพยักหน้า “ใส่พริกน้อยหน่อยนะคะ”ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสทุกคนในตระกูลจะมารวมตัวกันที่นี่ และไม่ได้บ่ายเบี่ยงอาหารรสจัด แต่เพราะคุณหญิงก็มีอายุมากขึ้นทุกวัน ต้องใส่ใจเรื่องสุขภาพ ดังนั้นรสชาติอาหารก็ควรไม่จัดมาก เนื่องจากในครัวมีกลิ่นอาหารฉุนตลบอบอวล ซูโม่จึงชงน้ำมะนาวแก้วหนึ่งแล้วรีบออกมา จากนั้นก็ขึ้นไปชั้นบน ……ชั้นบน กู้เชินไม่ได้พาซูหลีไปพบคุณย่า แต่กลับพาเธอมาพักผ่อนที่ห้อง และเขาออกไปพบคุณย่าเพียงลำพัง เมื่อคุณย่ากู้รู้ว่าเขาพาซูหลีกลับบ้านมาด้วย เขาก็โดนด่าจนหูเกือบดับ “นี่คือคำตอบที่แกให้ย่าใช่ไหม? สิ่งที่หลานเรียนรู้มาตลอดหลายปีไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยใช่ไหม?”กู้เชินเม้มริมฝีปากแน่น เขาพูดออ
“คุณย่า ผมไม่ได้รักเธอ การบังคับให้เธออยู่ในตระกูลกู้ต่อไปก็มีแต่จะทำให้เธอทุกข์มากขึ้นนะครับ”ถึงแม้ว่าจะพอเดา ๆ ความคิดของกู้เชินได้ แต่ด้วยน้ำเสียงที่เขาพูดออกมานั้น หัวใจของซูโม่ก็แตกอย่างเป็นเสี่ยง ๆ ยังดีที่ ซูหลีถูกลุงเฉินกันไว้ข้างนอก เธอจึงไม่ได้รู้สึกอึดอัดไปมากกว่านี้ คุณย่ากู้ฟาดไม้เท้าไปที่กู้เชินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซูโม่ผลักบานประตูเพื่อเปิดออก เธอตะโกนเสียงเอื่อย “คุณย่าคะ”เมื่อคุณย่ากู้เห็นเธอ จึงได้หยุดการกระทำนั้นลง “โม่โม่ หนูมาได้ยังไง?”ในขณะที่พูด คุณย่ากู้เก็บไม้เท้าในมือ จะเดินไปหาซูโม่ ซูโม่เอื้อมมือไปช่วยพยุงคุณหญิง และนั่งลงข้าง ๆ โดยที่เธอไม่ได้สนใจกู้เชินแม้แต่น้อย “คุณย่าคะ คุณย่ายังต้องทานยาอยู่ จะโมโหขนาดนี้ไม่ได้นะคะ“ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ”คุณย่ากู้แสดงสีหน้าไม่เป็นหวังดั่งใจ “แต่มันก็ต้องไม่ใช่เพราะเรื่องนี้สิ!”เธอพูด ในขณะที่ก็ทนไม่ไหวจนต้องใช้ไม้เท้าฟาดไปที่กู้เชินอีกครั้ง ซูโม่รีบเข้าไปขวาง “หนูรู้นะคะว่าคุณย่ากำลังโกรธเรื่องอะไรอยู่ แต่คุณย่าก็ดุว่าและลงโทษเขาไปแล้วนะคะ คุณย่าละทิ้งความโกรธในใจเถอะค่ะ แล้วให้ลุงเฉินพาไปทานยาดีกว่านะคะ”
คุณย่ากู้ปรายตามองเขา “ฝันไปเถอะ!”“คำทำนายนักบวชนั้นศักดิ์สิทธิ์ โม่โม่เป็นผู้มีบุญคุณของเชินเอ๋อร์ เพียงแค่มีเธออยู่เท่านั้น เชินเอ๋อร์ถึงจะปลอดภัย”“ต่อให้ไม่ใช่เพราะเหตุนี้ ฉันก็จะไม่อนุญาตให้ยายซูหลีคนนั้นเข้ามาในตระกูลกู้!”“แล้วคุณท่านยังจะ…?”คุณย่ากู้ถอนหายใจ “จับตาดูให้ดี ถ้าเลยเถิดไปจนถึงขึ้นหย่าจริง ๆ แล้วนายค่อยมาบอกฉัน”ซูโม่คิดว่าคุณย่ากู้เห็นด้วยกับการหย่า เธอจึงรู้สึกโล่งใจคุณย่ากู้ดีต่อเธอมาก เรื่องการหย่า เธอไม่ได้อยากจะทำให้ท่านเสียใจเมื่อเธอกลับไปที่ห้อง ประจวบเหมาะที่กู้เชินเองก็กำลังถอดเสื้อผ้าอยู่ผิวสีแทนยิ่งขับให้กล้ามเนื้อของเขาดูแข็งแรงมากขึ้น รอยดำที่เกิดจากไม้ค้ำยิ่งทำให้เขายิ่งมีเสน่ห์มากขึ้นเมื่อมองลงไป…กู้เชินปรายตามองเธอ “ช่วยฉันทายาหน่อย”ซูโม่ไม่กล้ามอง เธอกดเสียงต่ำ “ให้ซูหลีมาช่วยเถอะค่ะ”เขาพาซูหลีกลับมาแล้วยังจะให้เธอทายาให้อีกอย่างนั้นหรือ?จู่ ๆ กู้เชินก็รู้สึกอึดอัดมากเมื่อเขาพาซูหลีกลับมา คนในบ้านดูเหมือนจะมีปฏิกิริยากับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก มีเพียงภรรยาแค่ในนามคนนี้ที่ดูนิ่งเฉยมากที่สุดยกเว้นในตอนแรกที่พูดถึงเรื่องการหย่
ซูโม่เริ่มรู้สึกเจ็บปวดท่วมท้นในใจเขาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอเพื่อให้หน้าแก่ซูหลีการแต่งงานที่ผ่านมาสามปีนี้มันช่างเป็นเรื่องที่น่าขำเสียจริงคุณย่ากู้มองไปที่กู้เชินด้วยสายตาที่ไม่เห็นด้วย เธอกำลังจะเปิดปากพูด แต่กลับเห็นซูโม่ยิ้มออกมาเบา ๆ “ซูหลีเป็นแขก เป็นเรื่องที่ฉันควรทำอยู่แล้ว”เธอรับกาน้ำชามาจากมือของคนรับใช้ รินให้คุณย่ากู้เป็นแก้วแรก แล้ววนไปรอบโต๊ะ เมื่อรินให้กับทุกคนแล้วเธอจึงเดินไปที่ข้าง ๆ ซูหลีซูหลียิ้มให้เธอ สายตาเต็มไปด้วยความภูมิใจ “รบกวนเธอด้วยนะ”เธอยื่นมือไปรับ แต่แกล้งทำเป็นโดนชาลวก ทำให้น้ำชากระเด็นไปทางซูโม่อุบายเช่นนี้ซูโม่เคยเห็นมาตั้งแต่เด็กหลายครั้งแล้ว เธอจะไม่ระวังได้อย่างไร?เธอก็เลยรีบชักมือกลับมาน้ำชาที่ร้อนผ่าวหกใส่กระโปรงสีชมพูของซูหลี ทำให้เปียกโชกไปหมด ซ้ำยังมีไอร้อนออกมาผ่าว ๆ “กรี๊ด…“ซูหลีรีบสะบัดกระโปรงในทันที เธอมองไปที่ซูโม่อย่างไม่อยากจะเชื่อใครจะรู้ ซูโม่มีสีหน้ารู้สึกผิด “ฉันเห็นว่าพี่ถือไว้ดีแล้วก็เลยปล่อยมือ ไม่คิดว่ามันจะลวกพี่แบบนี้ ขอโทษจริง ๆ นะคะพี่”ซูหลี “เห็น ๆ อยู่ว่าเธอตั้งใจ!”เธอหันไปมองกู้เชินด้วยความน้อ
กู้เหยียนหรานไม่ชอบผักกาดดองอีกทั้งวันนี้เธอยังต้องไปเจอเพื่อน ๆ ถ้าทั้งตัวมีแต่กลิ่นเหม็นจะทำอย่างไรเล่า?ป้าจ้าวที่อยู่ข้าง ๆ ลำบากใจเล็กน้อย “คุณผู้หญิงสั่งให้ทำค่ะ นี่…”กู้เหยียนหรานพูดเยาะเย้ย “คุณผู้หญิงอะไรกันล่ะ! เอากลับไป ๆ”ประโยคนี้ทำให้สีหน้าคุณย่ากู้ค่อย ๆ เปลี่ยนไปหยางรั่วหนิงรีบพูดขึ้น “ผักกาดดองมันไม่ดีต่อสุขภาพ ซูโม่คงไม่รู้หรอก พวกเธอก็ไม่รู้ใช่ไหม? คราวหน้าคราวหลังไม่ต้องเอามาเสิร์ฟอีก”เธอมองด้กู้เหยียนหรานด้วยความรำคาญ “มัวแต่บ่นอยู่นั่นแหละ ยังไม่นั่งลงอีก”ซูโม่ที่ยังอยู่ในห้องครัว เห็นคนใช้นำปลาต้มผักกาดดองกลับลงมา ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยป้าจ้าวบ่นอุบ “ทำไมคุณผู้หญิงต้องยืนกรานจะให้ทำปลาต้มนี่ด้วย ป้าเลยต้องทนโดนคุณหนูใหญ่ดุว่าเลยเนี่ย”ซูโม่ …เมนูอาหารในงานคืนนี้หยางรั่วหนิงเป็นคนสั่งไม่ใช่หรือ?เธอเพียงแค่แสดงความคิดเห็นตอนที่เห็นผักกาดดองเท่านั้นเองนะ ไหนเลยกลายเป็นเธอยืนกรานที่จะทำไปได้เล่า?แต่งานเลี้ยงก่อนหน้านี้ยังคงดำเนินต่อไป เธอไม่อยากสร้างปัญหาไปมากกว่านี้ จึงแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินป้าจ้าวหน้ามุ่ยใส่เธอ แล้วเดินออกไป พ่อครัวหวังถอดหมว
เมื่อซูโม่ทานปลาต้มผักกาดดองเสร็จแล้ว ความหิวที่มีมาทั้งวันก็ถูกเติมเต็มเธอเองก็ไม่กล้าทานเยอะ อย่างไรผักกาดดองก็เป็นของดอง ทานเยอะไปก็คงไม่ดีต่อเด็กในท้องหลังจากที่ตั้งครรภ์ เธอตรวจสอบข้อควรระวังด้านอาหารและเครื่องดื่มโดยเฉพาะ สิ่งที่ไม่ควรกินระหว่างการตั้งครรภ์ เธอก็จดจำเอาไว้ทั้งหมดตั้งแต่นั้นมา เธอก็ไม่อยากผักกาดดองอีกเลย แต่จะทานผลไม้รสเปรี้ยวแทนแน่นอนว่า การทานบ้างเป็นครั้งคราว ก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรใจของเธอรู้ดีว่าอะไรเหมาะสมไม่เหมาะสมเธอคิดว่าการมาหลบอยู่ตรงนี้ จะไม่ก่อปัญหาวุ่นวายอะไรเมื่อทานข้าวเสร็จ เมื่อถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องหยิบขนมไหว้พระจันทร์ สถานการณ์ก็เริ่มวุ่นวายขึ้นอีกครั้งอาหารมื้อนี้ทำให้คุณย่ากู้รู้สึกไม่มีความสุข เธอคร้านที่จะรับมือกับการทดสอบตัวเองของซูหลีต่อคนในตระกูลกู้ ดังนั้นเธอจึงออกจากโต๊ะไปพักผ่อนก่อนและปล่อยให้หยางรั่วหนิงต้องรับมือกับเรื่องประสาท ๆ ไปคนเดียวเธอเก็บความโกรธเอาไว้ในใจ แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีขนมไหว้พระจันทร์ที่ทำเอง อารมณ์ของเธอก็ปะทุขึ้นทันทีตัวคนเป็นพี่สาวมาที่นี่เพื่อทำให้ต้นตระกูลกู้กลายเป็นเรื่องที่ถูกหัวเราะเยาะสำห
คุณย่ากู้เดินถือไม้เท้าเข้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยความเยือกเย็น“สะใภ้ใหญ่ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่พอใจหลานสะใภ้ที่ฉันเลือกมากเลยนะ”หยางรั่วหนิงรู้สึกผิดนิดหน่อย “เปล่านะคะ คุณแม่ หนูก็แค่สอนเรื่องหลักการเป็นลูกสะใภ้ให้เธอนิดหน่อยเองค่ะ”“นี่มันความคิดแบบศักดินาประเภทไหนกัน อยากให้ฉันสอนเธอเรื่องหลักการเป็นสะใภ้ให้ด้วยไหมล่ะ?”เมื่อก่อนเธอก็ไม่ชอบสะใภ้คนนี้ แต่เธอก็ไม่เคยใช้สถานะของตนในฐานะผู้อาวุโสมารังแกหยางรั่วหนิงเลย ไม่รู้ว่าหยางรั่วหนิงไปเรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาจากไหน หยางรั่วหนิงรีบพูดขึ้น “คุณแม่คะ… คุณแม่คงไม่อยากให้พวกเด็ก ๆ เยาะเย้ยหนูใช่ไหมคะ?”เธอกระแอมแล้วมองไปที่ซูโม่ “ไม่เป็นไร ย่าคงทำให้หนูตกใจแล้ว ดูสิว่าหนูดูกังวลแค่ไหน”ซูโม่จ้องไปที่โทรศัพท์ของเธอหยางรั่วหนิงได้แต่ก่นด่าอยู่ในใจแล้วกดโทรออกอีกครั้งซูโม่โล่งใจ “ขอบคุณค่ะคุณย่า”คุณย่ากู้มองไปที่รอยแดงบนใบหน้าของเธอ เธอเองก็รู้สึกเป็นทุกข์อย่างยิ่ง จึงดึงเธอขึ้นมานั่งแล้วสั่งลุงเฉินว่า “ไปเอายานวดของฉันมาให้หน่อย” ซูโม่ที่เหนื่อยทั้งกายและใจ อยากจะหาที่เงียบ ๆ ที่ไม่มีใครเพื่ออยู่คนเดียวสักพัก จึงพูดขึ้น “ไม่เป็
กู้เชินที่มองไปที่ซูโม่ กลับพบว่าเธอทำราวกับว่าไม่ได้ยินเสียอย่างนั้น และเธอเพียงแค่หลับตาลงเขาค่อย ๆ ตระหนักรู้ว่า ดูเหมือนว่าเขาจะให้ความสำคัญกับปฏิกิริยาของซูโม่มากเกินไปเป็นเพราะความเชื่อมโยงระหว่างเขาและเธอที่ไม่สามารถอธิบายได้ มันทำให้เขากลัวว่าซูโม่จะมีอิทธิพลต่อตัวเขาเองบ้าไปแล้วจริง ๆ“คฤหาสน์จิ้นเจียงยังว่าง เธอพักที่นั่นก็ได้”“แต่ว่า…”กู้เชินมองซูหลีผ่านกระจกมองหลังซูหลีค่อย ๆ ปิดปากเงียบตอนแรกซูโม่แค่แกล้งหลับ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็กลายเป็นหลับไปจริง ๆเมื่อตื่นขึ้นมาอีกที ก็ถึงที่จอดรถเทียนหย่าการ์เด้นแล้วบนตัวเธอยังคงถูกคลุมด้วยเสื้อคลุมของกู้เชินกู้เชินวางมือข้างหนึ่งไว้บนหน้าต่างรถ และกำลังพ่นควันออกไปใบหน้าของเขาที่สว่างครึ่งมืดครึ่ง ทำให้รู้สึกว่ามีเสน่ห์อย่างมากซูโม่ขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจทั้งรถเต็มไปด้วยกลิ่นควันบุหรี่เธอค่อย ๆ ขยับตัว กู้เชินรีบหันมามองในทันที “เธอนี่นอนเก่งจริง ๆ”ซูโม่ชะงัก “แล้วทำไมไม่ปลุกฉันล่ะ?”เธอปลดเข็มขัดนิรภัยออก พลันเปิดประตู แล้วเอามือปัดมวลอากาศไปมาอย่างไม่พอใจกู้เชินมองบุหรี่ที่อยู่ในมือแล้วสบถเสียง “จิ