คุณย่ากู้ปรายตามองเขา “ฝันไปเถอะ!”“คำทำนายนักบวชนั้นศักดิ์สิทธิ์ โม่โม่เป็นผู้มีบุญคุณของเชินเอ๋อร์ เพียงแค่มีเธออยู่เท่านั้น เชินเอ๋อร์ถึงจะปลอดภัย”“ต่อให้ไม่ใช่เพราะเหตุนี้ ฉันก็จะไม่อนุญาตให้ยายซูหลีคนนั้นเข้ามาในตระกูลกู้!”“แล้วคุณท่านยังจะ…?”คุณย่ากู้ถอนหายใจ “จับตาดูให้ดี ถ้าเลยเถิดไปจนถึงขึ้นหย่าจริง ๆ แล้วนายค่อยมาบอกฉัน”ซูโม่คิดว่าคุณย่ากู้เห็นด้วยกับการหย่า เธอจึงรู้สึกโล่งใจคุณย่ากู้ดีต่อเธอมาก เรื่องการหย่า เธอไม่ได้อยากจะทำให้ท่านเสียใจเมื่อเธอกลับไปที่ห้อง ประจวบเหมาะที่กู้เชินเองก็กำลังถอดเสื้อผ้าอยู่ผิวสีแทนยิ่งขับให้กล้ามเนื้อของเขาดูแข็งแรงมากขึ้น รอยดำที่เกิดจากไม้ค้ำยิ่งทำให้เขายิ่งมีเสน่ห์มากขึ้นเมื่อมองลงไป…กู้เชินปรายตามองเธอ “ช่วยฉันทายาหน่อย”ซูโม่ไม่กล้ามอง เธอกดเสียงต่ำ “ให้ซูหลีมาช่วยเถอะค่ะ”เขาพาซูหลีกลับมาแล้วยังจะให้เธอทายาให้อีกอย่างนั้นหรือ?จู่ ๆ กู้เชินก็รู้สึกอึดอัดมากเมื่อเขาพาซูหลีกลับมา คนในบ้านดูเหมือนจะมีปฏิกิริยากับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก มีเพียงภรรยาแค่ในนามคนนี้ที่ดูนิ่งเฉยมากที่สุดยกเว้นในตอนแรกที่พูดถึงเรื่องการหย่
ซูโม่เริ่มรู้สึกเจ็บปวดท่วมท้นในใจเขาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอเพื่อให้หน้าแก่ซูหลีการแต่งงานที่ผ่านมาสามปีนี้มันช่างเป็นเรื่องที่น่าขำเสียจริงคุณย่ากู้มองไปที่กู้เชินด้วยสายตาที่ไม่เห็นด้วย เธอกำลังจะเปิดปากพูด แต่กลับเห็นซูโม่ยิ้มออกมาเบา ๆ “ซูหลีเป็นแขก เป็นเรื่องที่ฉันควรทำอยู่แล้ว”เธอรับกาน้ำชามาจากมือของคนรับใช้ รินให้คุณย่ากู้เป็นแก้วแรก แล้ววนไปรอบโต๊ะ เมื่อรินให้กับทุกคนแล้วเธอจึงเดินไปที่ข้าง ๆ ซูหลีซูหลียิ้มให้เธอ สายตาเต็มไปด้วยความภูมิใจ “รบกวนเธอด้วยนะ”เธอยื่นมือไปรับ แต่แกล้งทำเป็นโดนชาลวก ทำให้น้ำชากระเด็นไปทางซูโม่อุบายเช่นนี้ซูโม่เคยเห็นมาตั้งแต่เด็กหลายครั้งแล้ว เธอจะไม่ระวังได้อย่างไร?เธอก็เลยรีบชักมือกลับมาน้ำชาที่ร้อนผ่าวหกใส่กระโปรงสีชมพูของซูหลี ทำให้เปียกโชกไปหมด ซ้ำยังมีไอร้อนออกมาผ่าว ๆ “กรี๊ด…“ซูหลีรีบสะบัดกระโปรงในทันที เธอมองไปที่ซูโม่อย่างไม่อยากจะเชื่อใครจะรู้ ซูโม่มีสีหน้ารู้สึกผิด “ฉันเห็นว่าพี่ถือไว้ดีแล้วก็เลยปล่อยมือ ไม่คิดว่ามันจะลวกพี่แบบนี้ ขอโทษจริง ๆ นะคะพี่”ซูหลี “เห็น ๆ อยู่ว่าเธอตั้งใจ!”เธอหันไปมองกู้เชินด้วยความน้อ
กู้เหยียนหรานไม่ชอบผักกาดดองอีกทั้งวันนี้เธอยังต้องไปเจอเพื่อน ๆ ถ้าทั้งตัวมีแต่กลิ่นเหม็นจะทำอย่างไรเล่า?ป้าจ้าวที่อยู่ข้าง ๆ ลำบากใจเล็กน้อย “คุณผู้หญิงสั่งให้ทำค่ะ นี่…”กู้เหยียนหรานพูดเยาะเย้ย “คุณผู้หญิงอะไรกันล่ะ! เอากลับไป ๆ”ประโยคนี้ทำให้สีหน้าคุณย่ากู้ค่อย ๆ เปลี่ยนไปหยางรั่วหนิงรีบพูดขึ้น “ผักกาดดองมันไม่ดีต่อสุขภาพ ซูโม่คงไม่รู้หรอก พวกเธอก็ไม่รู้ใช่ไหม? คราวหน้าคราวหลังไม่ต้องเอามาเสิร์ฟอีก”เธอมองด้กู้เหยียนหรานด้วยความรำคาญ “มัวแต่บ่นอยู่นั่นแหละ ยังไม่นั่งลงอีก”ซูโม่ที่ยังอยู่ในห้องครัว เห็นคนใช้นำปลาต้มผักกาดดองกลับลงมา ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยป้าจ้าวบ่นอุบ “ทำไมคุณผู้หญิงต้องยืนกรานจะให้ทำปลาต้มนี่ด้วย ป้าเลยต้องทนโดนคุณหนูใหญ่ดุว่าเลยเนี่ย”ซูโม่ …เมนูอาหารในงานคืนนี้หยางรั่วหนิงเป็นคนสั่งไม่ใช่หรือ?เธอเพียงแค่แสดงความคิดเห็นตอนที่เห็นผักกาดดองเท่านั้นเองนะ ไหนเลยกลายเป็นเธอยืนกรานที่จะทำไปได้เล่า?แต่งานเลี้ยงก่อนหน้านี้ยังคงดำเนินต่อไป เธอไม่อยากสร้างปัญหาไปมากกว่านี้ จึงแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินป้าจ้าวหน้ามุ่ยใส่เธอ แล้วเดินออกไป พ่อครัวหวังถอดหมว
เมื่อซูโม่ทานปลาต้มผักกาดดองเสร็จแล้ว ความหิวที่มีมาทั้งวันก็ถูกเติมเต็มเธอเองก็ไม่กล้าทานเยอะ อย่างไรผักกาดดองก็เป็นของดอง ทานเยอะไปก็คงไม่ดีต่อเด็กในท้องหลังจากที่ตั้งครรภ์ เธอตรวจสอบข้อควรระวังด้านอาหารและเครื่องดื่มโดยเฉพาะ สิ่งที่ไม่ควรกินระหว่างการตั้งครรภ์ เธอก็จดจำเอาไว้ทั้งหมดตั้งแต่นั้นมา เธอก็ไม่อยากผักกาดดองอีกเลย แต่จะทานผลไม้รสเปรี้ยวแทนแน่นอนว่า การทานบ้างเป็นครั้งคราว ก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรใจของเธอรู้ดีว่าอะไรเหมาะสมไม่เหมาะสมเธอคิดว่าการมาหลบอยู่ตรงนี้ จะไม่ก่อปัญหาวุ่นวายอะไรเมื่อทานข้าวเสร็จ เมื่อถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องหยิบขนมไหว้พระจันทร์ สถานการณ์ก็เริ่มวุ่นวายขึ้นอีกครั้งอาหารมื้อนี้ทำให้คุณย่ากู้รู้สึกไม่มีความสุข เธอคร้านที่จะรับมือกับการทดสอบตัวเองของซูหลีต่อคนในตระกูลกู้ ดังนั้นเธอจึงออกจากโต๊ะไปพักผ่อนก่อนและปล่อยให้หยางรั่วหนิงต้องรับมือกับเรื่องประสาท ๆ ไปคนเดียวเธอเก็บความโกรธเอาไว้ในใจ แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีขนมไหว้พระจันทร์ที่ทำเอง อารมณ์ของเธอก็ปะทุขึ้นทันทีตัวคนเป็นพี่สาวมาที่นี่เพื่อทำให้ต้นตระกูลกู้กลายเป็นเรื่องที่ถูกหัวเราะเยาะสำห
คุณย่ากู้เดินถือไม้เท้าเข้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยความเยือกเย็น“สะใภ้ใหญ่ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่พอใจหลานสะใภ้ที่ฉันเลือกมากเลยนะ”หยางรั่วหนิงรู้สึกผิดนิดหน่อย “เปล่านะคะ คุณแม่ หนูก็แค่สอนเรื่องหลักการเป็นลูกสะใภ้ให้เธอนิดหน่อยเองค่ะ”“นี่มันความคิดแบบศักดินาประเภทไหนกัน อยากให้ฉันสอนเธอเรื่องหลักการเป็นสะใภ้ให้ด้วยไหมล่ะ?”เมื่อก่อนเธอก็ไม่ชอบสะใภ้คนนี้ แต่เธอก็ไม่เคยใช้สถานะของตนในฐานะผู้อาวุโสมารังแกหยางรั่วหนิงเลย ไม่รู้ว่าหยางรั่วหนิงไปเรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาจากไหน หยางรั่วหนิงรีบพูดขึ้น “คุณแม่คะ… คุณแม่คงไม่อยากให้พวกเด็ก ๆ เยาะเย้ยหนูใช่ไหมคะ?”เธอกระแอมแล้วมองไปที่ซูโม่ “ไม่เป็นไร ย่าคงทำให้หนูตกใจแล้ว ดูสิว่าหนูดูกังวลแค่ไหน”ซูโม่จ้องไปที่โทรศัพท์ของเธอหยางรั่วหนิงได้แต่ก่นด่าอยู่ในใจแล้วกดโทรออกอีกครั้งซูโม่โล่งใจ “ขอบคุณค่ะคุณย่า”คุณย่ากู้มองไปที่รอยแดงบนใบหน้าของเธอ เธอเองก็รู้สึกเป็นทุกข์อย่างยิ่ง จึงดึงเธอขึ้นมานั่งแล้วสั่งลุงเฉินว่า “ไปเอายานวดของฉันมาให้หน่อย” ซูโม่ที่เหนื่อยทั้งกายและใจ อยากจะหาที่เงียบ ๆ ที่ไม่มีใครเพื่ออยู่คนเดียวสักพัก จึงพูดขึ้น “ไม่เป็
กู้เชินที่มองไปที่ซูโม่ กลับพบว่าเธอทำราวกับว่าไม่ได้ยินเสียอย่างนั้น และเธอเพียงแค่หลับตาลงเขาค่อย ๆ ตระหนักรู้ว่า ดูเหมือนว่าเขาจะให้ความสำคัญกับปฏิกิริยาของซูโม่มากเกินไปเป็นเพราะความเชื่อมโยงระหว่างเขาและเธอที่ไม่สามารถอธิบายได้ มันทำให้เขากลัวว่าซูโม่จะมีอิทธิพลต่อตัวเขาเองบ้าไปแล้วจริง ๆ“คฤหาสน์จิ้นเจียงยังว่าง เธอพักที่นั่นก็ได้”“แต่ว่า…”กู้เชินมองซูหลีผ่านกระจกมองหลังซูหลีค่อย ๆ ปิดปากเงียบตอนแรกซูโม่แค่แกล้งหลับ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็กลายเป็นหลับไปจริง ๆเมื่อตื่นขึ้นมาอีกที ก็ถึงที่จอดรถเทียนหย่าการ์เด้นแล้วบนตัวเธอยังคงถูกคลุมด้วยเสื้อคลุมของกู้เชินกู้เชินวางมือข้างหนึ่งไว้บนหน้าต่างรถ และกำลังพ่นควันออกไปใบหน้าของเขาที่สว่างครึ่งมืดครึ่ง ทำให้รู้สึกว่ามีเสน่ห์อย่างมากซูโม่ขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจทั้งรถเต็มไปด้วยกลิ่นควันบุหรี่เธอค่อย ๆ ขยับตัว กู้เชินรีบหันมามองในทันที “เธอนี่นอนเก่งจริง ๆ”ซูโม่ชะงัก “แล้วทำไมไม่ปลุกฉันล่ะ?”เธอปลดเข็มขัดนิรภัยออก พลันเปิดประตู แล้วเอามือปัดมวลอากาศไปมาอย่างไม่พอใจกู้เชินมองบุหรี่ที่อยู่ในมือแล้วสบถเสียง “จิ
วันรุ่งขึ้น เมื่อซูโม่ตื่นขึ้นมา ก็ต่อสายตรงหาซูจุนเหว่ยเมื่อวานเธอมัวแต่โกรธ ก็เลยลืมเรื่องตระกูลซูไปเลย“เรื่องที่ฉันขอไปครั้งที่แล้ว พ่อคิดได้แล้วหรือยัง?”ซูจุนเว่ยที่อยู่ปลายสายเงียบไป เขานิ่งไปสักพัก ถึงพูดออกมา “โม่โม่ แกกลับมาที่บ้านก่อนแล้วเราค่อยมาคุยกันต่อหน้า”“ฉันไม่กล้าไปหรอกค่ะ ครั้งที่แล้วฉันยังโชคดีที่ไม่ถูกตีจนตาย ครั้งนี้ฉันไม่มั่นใจเลยจริง ๆ”ซูจุนเว่ยเงียบไปอีกครั้ง “งั้นแกพูดมา แกจะให้ฉันทำยังไง?”“มาหาฉันกับแม่”ผ่านไปสักพัก ซูจุนเว่ยที่อยู่ปลายสายก็ตอบกลับมา “ก็ได้”เธอออกมาจากห้อง กู้เชินก็บังเอิญออกมาเหมือนกันกู้เชินกลับมาเยือกเย็นและเคร่งขรึมเหมือนอย่างเคย แล้วพูดน้ำเสียงสงบว่า “ตอนเที่ยง ทนายจะเอาข้อตกลงการหย่ามาให้”“เรื่องของแม่เธอก็เป็นอย่างที่คุณย่าสัญญาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เธอไม่ต้องกังวล ส่วนเรื่องอะพาร์ตเมนต์ยังไงก็ยกให้เธอเหมือนเดิม”ซูโม่ก้มหน้างุด “เขียนตามที่ฉันพูดก็พอ”“ซูโม่!”น้ำเสียงของกู้เชินมีการเตือนซูโม่มองไปที่เขา “ฉันไม่ต้องการให้ใครใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ฉันหลังจากที่หย่ากันไปแล้ว”“ถ้าเธอไม่ไปยุ่งกับพวกเขาก่อน แล้วใครจะมาขู
หลิวชูหย่าแผดเสียงแหลมขึ้นมา “ฝันไปเถอะ !”“ซูแฟชั่นเป็นสมบัติหลังแต่งงานของพ่อเธอ ถ้าจำเป็นต้องแบ่งหุ้นฉันก็จะเป็นคนแบ่งให้ ไม่เกี่ยวอะไรกับแม่ของเธอเลย”ซูจุนเหว่ยเงียบไปซูโม่รู้ดี พ่อผู้ให้กำเนิดของเธอก็เป็นแบบนี้มาตลอด ยอมให้หลิวชูหย่าพูดสิ่งที่ไม่น่าฟังออกมาหากยังยอมปล่อยให้หลิวชูหย่าอยู่ตรงนี้ ก็ไม่มีประโยชน์อะไร “ที่นี่เป็นห้องพักผู้ป่วย ไม่ใช่ที่ที่คุณจะมาโวยวายอะไรได้ เชิญคุณออกไปด้วย”มีหรือที่หลิวชูหย่าจะยอมซูโม่ให้พยาบาล “เชิญ” เธอออกไปในขณะที่หลิวชูหย่าถูกเชิญออกไป ทว่าไม่มีใครทันเห็นสายตาของโจวพ่านที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังเมื่อห้องพักคนไข้เงียบลง ซูจุนเหว่ยถึงจะเปิดปากพูดอย่างช้า ๆ “โม่โม่ พ่อรู้ว่ามันไม่ง่ายเลยที่แกต้องดูแลแม่ของแกตลอดหลายปีที่ผ่านมา และการที่แกให้ความสำคัญกับเรื่องเงิน ก็ไม่ใช่ความผิดของแกหรอก”“แต่แกก็ต้องรู้ว่าที่แกพูดมา มันไม่เป็นไปตามข้อกฎหมาย”“แล้วมันก็ไม่มีผู้หญิงที่ไหนที่แต่งงานออกนอกบ้านไปแล้ว จะมาขอเงินครอบครัวตั้งสองพันล้านหรอกนะ”บางทีอาจเป็นอาการคลื่นไส้ขณะตั้งครรภ์ ซูโม่รู้สึกคลื่นไส้มาก เธอต้องอดทนระงับความรู้อยากอาเจีย