Share

ฉีกสัญญารัก จดสัญญาใจ
ฉีกสัญญารัก จดสัญญาใจ
ผู้แต่ง: คริสตัลแร็กคูน

บทที่ 1

โรงพยาบาล

“ผลการตรวจต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงนะคะ”

นางพยาบาลยิ้มด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน เธอพูดในขณะที่เก็บตัวอย่างเลือดออกไป

ซูโม่กดก้านสำลีบริเวณที่ถูกเจาะเลือดเอาไว้ และหาที่นั่ง

ใบหน้าของเธอซีดเซียว แต่นัยน์ตาของเธอกลับเต็มไปด้วยความคาดหวัง

เธอเดาว่าตัวเองตั้งครรภ์ จึงมาตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อความแน่ใจ

สามปีก่อนหน้า กู้เชินต้องตกอยู่ในอาการโคม่าเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ แพทย์วินิจฉัยว่าเขาจะต้องเป็นเจ้าชายนิทรา

ในฐานะที่เป็นรักแรกของเขา แต่ซูหลีไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศโดยไม่สนใจ

ทว่าคุณย่ากู้กลับไปฟังคำใครมาก็ไม่อาจทราบได้ บอกว่าซูโม่เป็นผู้มีบุญคุณของกู้เชิน และยืนกรานที่จะให้ซูโม่แต่งงานกับกู้เชินให้ได้

และตามเงื่อนไขแล้ว ตระกูลกู้จะเข้ามาช่วยเหลือเรื่องแม่ของเธอที่เสียสติ

ซูโม่ไร้ซึ่งทางเลือกใด ๆ

ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่า ซูโม่เองก็แอบชอบกู้เชินมานานหลายปีแล้ว

แต่น่าแปลกที่หลังจากการแต่งงานเกิดขึ้น กู้เชินกลับฟื้นขึ้นมาจริง ๆ

ยังไม่ทันที่ซูโม่จะได้ดีใจ เธอกลับต้องได้ยินคำพูดแสนเย็นชาจากกู้เชิน “เพื่อเป็นการเห็นแก่หน้าคุณย่า ฉันจะให้เธอเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลกู้สามปี”

“อีกสามปีซูหลีจะกลับมา ฉันจะแต่งงานกับซูหลี”

ซูโม่คิดว่า เธอคงจะรับข้อเสนอนี้ไหว และเมื่อถึงเวลานั้นค่อยจากกันไปด้วยดี

คาดไม่ถึงเลยว่า ก่อนหน้านี้เดือนครึ่งจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น

วันนั้นคือวันครบรอบวันตายของพ่อกู้เชิน

กู้เชินกลับมาจากข้างนอกด้วยอาการเมาอย่างหนัก ซูโม่จึงต้องพยุงเขาเข้าห้องเพียงลำพัง

ตัวคนเมาร่างกายหนักอึ้ง เธอต้องใช้แรงทั้งหมดที่มีในการก้าวแต่ก้าว

ทันใดนั้นก็ไม่อาจฝืนรั้งอีกต่อไป ทั้งคู่ล้มลงไม่ไกลจากทางเข้า

ริมฝีปากแนบชิดกันอย่างไม่ทันระวัง

ซูโม่ถือว่าเป็นศัตรูตัวร้ายสำหรับเขา

กู้เชินเป็นโรคกลัวเชื้อโรคอย่างหนัก ในทุก ๆ วันเขาจะไม่ยุ่งกับใครทั้งนั้น

แต่จูบในครั้งนี้เหมือนเป็นการเปิดสวิตช์

กู้เชินกลับโน้วตัวลงมาอีกครั้ง

ราวกับมีผีตนใดเข้าสิง ซูโม่เองก็ไม่ได้ผลักเขาออกไป

หลังจากเกิดเรื่องขึ้น ซูโม่ไม่อาจนอนอยู่บนเตียงนั้นได้ต่อ เธออาศัยช่วงที่กู้เชินกำลังหลับลึก ทำราวกับว่าเรื่องทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้น

……

ภายในโรงพยาบาลเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ น้อยนักที่จะมาด้วยตัวคนเดียวเช่นซูโม่

เธอเปิดผลตรวจในมืออย่างระมัดระวัง

“ระยะการตั้งครรภ์อยู่ในระยะไตรมาสที่หนึ่ง แนะนำให้ทำการอัลตราซาวนด์อีกครั้ง”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูโม่ เธอใช้มือปิดปากเอาไว้เพื่อไม่ให้เสียงหัวเราะเล็ดลอดออกมา

ไม่ว่าชีวิตแต่งงานของเธอจะเป็นอย่างไร เด็กน้อยคนนี้ก็ถือเป็นของขวัญอันล้ำค่า

เธอแทบจะรอไม่ไหวที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อบอกข่าวดีนี้แก่กู้เชิน

วินาทีที่จะกดโทรออก เธอชะงักไปครู่หนึ่ง

เพราะโรคกลัวเชื้อโรคของกู้เชิน

โรคกลัวเชื้อโรคของเขาไม่เพียงเกิดขึ้นแต่กับสิ่งของ แต่รวมถึงตัวบุคคลด้วย

ซูโม่เคยเห็นเขาแสดงอาการวิตกเมื่อต้องพบปะกับผู้คน

เขาถูมือไปมาจนเลือดแทบออก

คนตระกูลกู้รู้ดีว่าเขาคงไม่มีสัมพันธ์ด้วยแน่ ๆ

แต่เพื่อหลานชาย แม่สามีถึงขั้นเคยร้องขอ รบเร้าให้พวกเขาลองทำกิ๊ฟต์เสียด้วยซ้ำ แต่ก็ถูกกู้เชินปฏิเสธไป

แต่เขาดันดื่มจนเมาและจำอะไรไม่ได้

ถ้าเธอบอกว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเขา กู้เชินจะเชื่อหรือ?

ซูโม่ไม่รู้จะทำอย่างไรไปขณะหนึ่ง

เธอรู้สึกปวดหัวขึ้นมานิดหน่อย แน่นหน้าอกไปหมด คล้ายอยากอาเจียน

กลุ่มแพทย์ในชุดกาวน์สีขาวเดินผ่านเธอไปอย่างเร่งรีบ จนเกือบชนมือถือของเธอกระเด็น

เธอจึงรีบหลีกทางให้

“ปรึกษาแผนกฉุกเฉิน ขอทางด้วยนะคะ”

คุณพยาบาลยิ้มขอโทษเธอ และรีบเดินไป

ดูเหมือนจะเป็นเหตุร้ายแรง

ซูโม่มองไปที่ประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ได้ตั้งใจ

วินาทีนั้น นัยน์ตาดำของเธอวูบไหว

กู้เชินอุ้มซูหลีลงมาจากรถฉุกเฉิน พยุงเธอขึ้นเปลหามอย่างระมัดระวัง และรีบมุ่งหน้าไปยังห้องวีไอพีภายใต้การช่วยเหลือของทุก ๆ ฝ่าย

ทันใดนั้นร่างกายของซูโม่ถึงกับชาไปครึ่งท่อน ขาทั้งสองอ่อนแรง ทำให้ต้องคว้าราวบันไดไว้อย่างช่วยไม่ได้

ซูหลีกลับมาแล้ว!

เธอกลับมาแล้วจริง ๆ!

ห้องพักผู้ป่วย

แพทย์กำลังอธิบายสถานการณ์ให้กู้เชินฟัง “ในเบื้องต้นที่ศีรษะของคนไข้ได้รับการกระทบกระเทือนเล็กน้อย ต้องรอผลตรวจออกมาก่อนนะครับ”

กู้เชินสีหน้าเคร่งขรึม “รีบหน่อยเถอะครับหมอ ใช้สิทธิพิเศษผู้ป่วยวีไอพีเลยก็ได้ครับ”

ซูหลีนอนอยู่บนเปลหาม ยิ้มให้กู้เชินอย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า “พี่เชินดีกับฉันจังเลยนะคะ”

เธอมุ่ยปากแล้วมุ่ยปากอีก “เพราะฉันประมาทเองแหละ ใครจะไปรู้ล่ะว่าแค่โดนรถจักรยานชนแล้วหัวจะไปกระแทกน่ะ”

“อยู่ในอเมริกาแท้ ๆ ทุกคนน่าจะรู้ว่าต้องขับช้า ๆ สิ”

กู้เชินปรายตามองไปที่เธอ

จู่ ๆ ซูหลีก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา “พี่เชิน เรื่องเวลาของโปรเจกต์อวิ๋นโจวที่ค่อนข้างกระชั้น ฉันมาป่วยแบบนี้มันจะไม่ทำให้กินเวลาออกไปอีกเหรอ?”

(อวิ๋นโจว) คือโปรเจกต์ใหม่ของซิงเฉินเทคโนโลยีซึ่งเป็นบริษัทเกมของกู้เชิน และซูหลีกลับมาเป็นผู้รับผิดชอบงานศิลป์ของโปรเจกต์ในครั้งนี้

“ไม่เอา ฉันไม่นอนโรงพยาบาลนะ ฉันต้องกลับไปที่บริษัท”

ขณะที่พูด เธอทำท่าจะลุกขึ้นจากเปลหาม

กู้เชินเอื้อมมือออกไปขวางเธอเอาไว้ เขากดไปที่ไหล่ของเธอเพื่อให้นั่งลงดังเดิม “อย่าดื้อจะได้ไหม”

ด้านนอกของห้องผู้ป่วยวีไอพี ซูโม่กัดฟันกรอด กับภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า

ที่จริงแล้วโรคกลัวเชื้อโรคของกู้เชินเองก็มีข้อยกเว้นเหมือนกันสินะ

ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนไม่อ่อนโยน แต่เพราะความอ่อนโยนทั้งหมดมีให้แค่ซูหลีเท่านั้น

ทันใดนั้นที่จมูกก็รู้สึกเสียวแปล๊บ ๆ ซูโม่ใช้มือบีบจมูกเพื่อกดอารมณ์ที่อยากจะร้องไห้เอาไว้

ไม่รู้ทำไมแต่อยู่ดี ๆ เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกไปยังสายของกู้เชิน

ภายในห้องผู้ป่วย กู้เชินมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปรายตามองเพียงเสี้ยววิ และยื่นให้กับผู้ช่วยเสี่ยวฉีที่อยู่ใกล้ ๆ

“บอกไปว่าฉันประชุมอยู่”

ซูโม่ได้เห็นใบหน้าที่หงุดหงิดใจดังนั้นหัวใจของเธอก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวอย่างท่วมท้น

เสี่ยวฉีเดินออกมาด้านข้าง พูดเสียงเบาว่า “คุณผู้หญิง สวัสดีครับ คุณผู้ชายกำลังประชุมอยู่ครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”

ซูโม่โค้งริมฝีปากพยายามยิ้มแต่ทำไม่ได้

“ไม่มีอะไร แค่กดผิดน่ะ”

คิ้วของเสี่ยวฉีขมวดกันแน่น “คุณผู้ชายค่อนข้างยุ่งนะครับ ครั้งหน้ารบกวนคุณผู้หญิงระวังด้วยนะครับ”

ครั้งหน้าอย่างนั้นหรือ?

ยังจะมีครั้งหน้าอีกหรือ?

เมื่อได้ยินเสี่ยวฉีพูดอย่างนั้น ดวงตาของซูหลีก็ประกายแววสงสัย

จังหวะที่ยกมือขึ้น เผยให้เห็นปลาสเตอร์สีชมพูบนหลังฝ่ามือ

มันดึงดูดสายตาของกู้เชินในทันที น้ำเสียงปนความสงสัยที่เปล่งออกมากล่าวว่า “ผ่านมาก็ตั้งหลายปี เธอยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ”

ซูหลียิ้มเจื่อน “มันแน่อยู่แล้ว ฉันน่ะชอบ Hello kitty สุด ๆ เลย”

แววตาของคนทั้งคู่สบกันหยาดเยิ้ม

ซูโม่ไม่อาจทนดูได้อีกต่อไป กำโทรศัพท์เอาไว้และหันหลังเดินออกไป

เรื่องในคืนนั้นระหว่างทั้งสอง เธอคิดว่ามันคงจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง แต่มันกลับไม่มีอะไรมากไปกว่าคำว่าเธอคิดผิดเอง

ฤดูใบไม้ร่วงในหรงเฉิงอากาศร้อนอบอ้าว เครื่องปรับอากาศภายในโรงพยาบาลถูกเปิดใช้อย่างเต็มที่ สายลมที่พาดผ่านร่างกายไปทีละคน ทำให้ผู้คนตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

หน้าอกเริ่มรู้สึกแน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ซูโม่รู้สึกว่าร่างกายของเธอเบาหวิวราวกับกำลังลอยอยู่

เด็กผู้ชายคนหนึ่งวิ่งผ่านมา และชนเข้ากับซูโม่เข้าอย่างจัง

ซูโม่สีหน้าถอดสี เธอช่วยพยุงเด็กขึ้นนั้นให้ลุกขึ้น แต่ก้าวของเธอไม่มั่นคง ทำให้ล้มลงไปกองที่พื้น

การล้มในครั้งนี้ ทำให้แผ่นหลังของเธอสั่นสะท้าน ได้แต่เอามือกุมท้องเอาไว้ไม่กล้าขยับตัว

เด็กน้อยผู้นั้นร้องไห้ฟูมฟายยกใหญ่ ดึงดูดความสนใจของคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี

แม่ของเด็กน้อยจึงรีบวิ่งมา เมื่อดูอาการของลูกน้อยแล้วพบว่าไม่เป็นอะไร จึงอุ้มลูกเอาไว้ในอ้อมอก ซ้ำยังหันมาตำหนิซูโม่ว่า “เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลยหรือไง? มาชนลูกฉันแบบนี้คุณจะรับผิดชอบยังไง! ”

ซูโม่ยังคงกังวลถึงลูกในครรภ์ เธอไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงกับคนเป็นแม่ รีบลุกขึ้นเดินไปแผนกสูตินรีเวชที่ชั้นสอง

คนเป็นแม่ไม่ยอมแพ้ เธอยังคงดึงดันซูโม่ไว้ “ชนลูกคนอื่นแล้วจะหนีงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ!”

ซูโม่ที่ถูกฉุดรั้งจนสะดุดเซเล็กน้อย เธอหันกลับมาและพูดอย่างใจเย็นว่า “ไปเปิดกล้องดูไหมคะ?”

คนเป็นแม่ผู้นั้นรีบเดินจากไปพร้อมกับลูกในอ้อมอก

ภาพตรงหน้าของซูโม่วูบดำไปชั่วครู่ เธอกุมหน้าอกพร้อมพิงราวบันไดไม่กล้าขยับตัว

ห้องพักผู้ป่วยวีไอพี

ซูหลีมองไปที่กู้เชินด้วยความหลงใหล เธอรวบรวมความกล้าเพื่อเข้าไปจูบเขา

กู้เชินที่เดิมทีหรี่ตาลงไม่ได้ขยับไปไหน แต่เมื่อซูหลีขยับเข้ามาใกล้ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกอยากอาเจียน ภาพตรงหน้ามืดดำ แน่นหน้าอกไปหมด

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เขาผลักซูหลีออกไปอย่างแรง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status