นายหัวผู้เพียบพร้อมไปหมดทุกอย่าง ราชันไม่เคยคิดที่จะรักใคร เพราะเขาไม่เคยไว้ใจผู้หญิงคนไหนที่เข้ามาจีบเขา แต่ใครจะไปเชื่อว่าหญิงสาวที่โดนกล้อนผม หน้าตาบวมช้ำ โดนโยนทิ้งไว้กลางทะเล จะกลายมาเป็นนายหญิงของเกาะ โดยที่ราชันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอคือใคร ปะการังหญิงสาวที่อยู่ดีๆไม่รู้ว่าพรหมลิขิตหรือเวรกรรมอะไร ส่งให้เขาต้องได้มาช่วยชีวิตเธอ และยังจะต้องกลายมาเป็นสามีภรรยากันอีก นายหัวคิดแล้วก็ขำ สงสัยตัวเขาเองจะเลือกมากเกินไป พอถึงเวลาที่จะได้มีเมียจริงๆเลยไม่ต้องเลือกเลย
View More9นายหญิงของเกาะ “ทรายขาวมากเลยค่ะ” เมื่อราชันพาปะการังมาถึงชายหาดที่สวยที่สุดในเกาะ หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นที่ทรายเป็นสีขาว ตัดกับสีของน้ำทะเลที่เป็นสีฟ้า ดูสวยงามเหมือนในภาพถ่ายเลย “ที่นี่เราไม่เคยให้คนนอกมาเล่น พวกเราอยากรักษาไว้ พ่อของผมเคยมีเกาะอยู่ที่หนึ่งแต่เป็นเพียงเกาะเล็กๆ ไม่มีคนอยู่ เราพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำเพียงแค่นั้น แต่ไม่นานทุกอย่างก็ถูกทำลาย พ่อโดนผู้มีอิทธิพลบีบให้ขาย และตอนนี้ที่นี่ก็กำลังโดนบีบอยู่เหมือนกัน ” ราชันมองหน้านายหญิงคนใหม่ด้วยความรู้สึกเหมือนคนที่กำลังเหนื่อยและต้องการกำลังใจ “แต่ฉันเชื่อนะว่าคุณจะรักษาเกาะนี้ไว้ได้ เพราะที่นี่มีชาวบ้าน พวกเขารู้ว่าคุณรักพวกเขา ดังนั้นพวกเขาคงไม่อยากตกไปอยู่ในการดูแลของคนอื่นแน่ๆ ” พูดจบหญิงสาวก็เดินมาจับมือของนายหัว และมองสบตาด้วยรอยยิ้มที่แสนหวาน “ส่วนฉันคงช่วยอะไรไม่ได้มาก นอกจากเป็นกำลังใจให้นะ” ยังไม่ทันจะตั้งตัวหญิงสาวร่างบาง ก็ถูกนายหัวอุ้มเธอจนตัวลอย แล้วเอาไปโยนลงทะเล ก่อนจะล้มตัวลงไปกอดเธอจากทางด้านหลัง เพราะกลัวหญิงสาวจะ
8เมียนายหัว..ความทรงจำใหม่ เรื่องการพูดในวันนี้ราชันไม่เป็นกังวลเลยสักนิด แต่สิ่งที่ชายหนุ่มกลัว คือการที่เขากับเธอจะอยู่กันแบบไหน ในฐานะสามีภรรยา ราชันเป็นผู้ชายที่ถือได้ว่ารูปร่างหน้าตาดี แต่ดีในแบบเถื่อนๆ ฐานะก็ดีการศึกษาก็จบจากเมืองนอก เขาไม่ค่อยสนใจผู้หญิงที่เข้ามาจีบเขาสักคน เพราะคิดว่าทุกคนต่างก็มองเขาที่ภายนอก เอาเข้าจริงก็ไม่มีใครสามารถมาใช้ชีวิตที่เกาะกับเขาได้ ปะการังหญิงสาวที่อยู่ดีๆไม่รู้ว่าพรหมลิขิตหรือเวรกรรมอะไร ส่งให้เขาต้องได้มาช่วยชีวิตเธอ และยังจะต้องกลายมาเป็นสามีภรรยากันอีก นายหัวคิดแล้วก็ขำ สงสัยตัวเขาเองจะเลือกมากพอถึงเวลาจริงๆเลยไม่ต้องเลือกเลย เวลาประชุมมาถึงหลายครอบครัวต่างมาพร้อมหน้ากันที่ลานหน้าบ้านของนายหัว มีบางคนที่ไม่ได้มาก็ส่งคนในครอบครัวมาแทน “เรื่องแรกที่ผมจะพูดกับทุกคนคือเรื่องของราคามะพร้าวที่ตกต่ำอยู่ตอนนี้ เราอาจต้องยอมขายราคาถูกไปก่อน ผมกำลังหาทางที่จะเอามะพร้าวของเรามาแปรรูปเป็นอย่างอื่นเพื่อเพิ่มราคา” นายหัวหันไปสบตาหญิงสาวอยู่บ่อยๆเวลาพูด เหมือนกำลังรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง“เรื่องที่สองเรื่
7เช้าสดใสของปะการัง ปะการังเธอตื่นนอนและรีบอาบน้ำแต่งตัว ชายหนุ่มที่นอนข้างๆ เธอเขายังคงหลับสนิทเลยไม่อยากที่จะปลุก วันนี้นายหัวบอกไว้ว่าจะแนะนำเธอให้ชาวบ้านที่เกาะรู้จัก เธอเลยต้องพยายามแต่งตัวให้ดูดีหน่อยถึงแม้จะมีเครื่องแต่งตัวแค่ผ้าถุงและเสื้ออีกแค่ไม่กี่ตัว ปะการังมองสภาพผมของเธอในกระจก ก็อดขำไม่ได้ ถ้าอยู่ในเมืองแบบนี้ เธอคงไม่กล้าที่จะเดินออกจากบ้านแน่ๆ “ตื่นแล้วไม่ปลุกกันบ้างเลย” นายหัวในสภาพงัวเงีย นอนมองหญิงสาวผมแหว่งที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง “เห็นนายหัวนอนหลับสนิทฉันเลยยังไม่อยากปลุก คิดว่าคงจะเหนื่อยจากการขับเรือกลางพายุมา” “ว๊าย! มณีขอโทษค่ะ” หญิงชาวบ้านที่เคยทำหน้าที่ยกกับข้าวขึ้นมาให้ปะการัง เห็นประตูไม่ได้ล็อกเลยเปิดเข้ามาโดยไม่ได้เคาะประตูก่อน ยังไม่ทันที่คนในห้องจะพูดอะไร มณีก็รีบวางถาดข้าว และไม่กล้าหันไปมองนายหัวที่ใส่แค่เพียงเสื้อกล้ามนอนอยู่บนเตียงของหญิงสาวผู้มาใหม่ “มณี นี่ก็แปลกทำเหมือนเจอตัวประหลาดต้องรีบวางรีบไปแบบนั้น” ราชันบ่นอุบอิบ แต่ก็คง
6คืนนี้กับสาวผมแหว่ง หลังจากอาบน้ำเสร็จ หญิงสาวมองตัวเองในกระจก หน้าตาและทรงผมของเธอตอนนี้ ดูเหมือนเธอเป็นทอมมากกว่าเป็นสาว ปะการังอดขำสภาพตัวเองไม่ได้ สองคืนที่เธอมาถึงเกาะนี้ ไม่มีคืนไหนที่เธอไม่ฝันร้าย ปะการังจะรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมน้ำทุกครั้งที่ทำท่าจะหลับจริงๆ จนต้องสะดุ้งตื่น คืนนี้เธอยังอดกังวลไม่ได้ ว่าเธอจะเผลอโวยวายกลางดึกเหมือนทุกคืนไหม เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นมีหวังนายหัวได้ตกใจแน่ๆ “หวีจังผม เหลืออยู่แค่นั้น ” ราชันเดินเข้ามาในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้แต่ก็ทันได้เห็น หญิงสาวที่กำลังนั่งหวีผม ที่แทบจะไม่มีให้หวี “สวยดีเหมือนกันนะคะ” หญิงสาวตอบไม่ตรงกับใจ “อีกนานไหมกว่าผมเธอจะยาว เห็นแบบนี้อดคิดว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงเหมือนจะเป็นทอมมากกว่า” ราชันแอบคิดแบบนั้นอยู่เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่แน่ใจเพราะยังไม่เคยคุยกับปะการังเป็นเรื่องเป็นราวสักที “ฉันก็จำไม่ได้ หรือจริงแล้วฉันอาจจะเป็นทอม พยายามจะคิดที่ไร มันก็ปวดหัวทุกที” หญิงสาวตีบทแตก แสดงละครให้เหมือนกับคนที่สูญเสียความจำจริงๆ “แต่
5สาวชาวเกาะ วันนี้ราชันได้สมใจที่คิดๆไว้ เพราะเมื่อขับเรือออกจากเกาะได้ไม่นาน ฝนก็ตกอยู่กลางทะเล ลมพายุโหมกระหน่ำ เขาได้ฝึกจากสถานการณ์จริง ที่เขาต้องการมานาน “สนุกเป็นบ้าเลยพร้าวเอ๋ย” นายหัวรู้สึกตื่นเต้นกับการได้ขับเรือท่ามกลางพายุและฝนที่ตกหนัก เพราะเขาต้องการที่จะฝึกตัวเองให้แข็งแกร่งที่สุด การดูแลเกาะทั้งเกาะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ราชันต้องการที่จะทำทุกอย่างให้เก่งเหมือนที่พ่อของเขาทำได้ เพื่อจะได้ดูแลเกาะนี้ให้ดีที่สุด ให้สมกับที่พ่อของเขาไว้ใจ “นายหัวกลับกันได้แล้วครับ นี่เราเปียกฝนกันมาจะชั่วโมงแล้ว ถ้าพรุ่งนี้เราไม่ป่วยก็แสดงให้เห็นว่าเราร่างกายแข็งแรง และมีความอดทน” ชายหนุ่มรุ่นน้องความสนิทสนมทำให้เขารู้ว่า ราชันกำลังต้องการทดสอบความอดทนและความแข็งแรงของทั้งร่างกายและจิตใจ พร้าวจึงพยายามพูดให้เขารู้ว่าการพิสูจน์แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว “กลับก็กลับ เป็นห่วงคนที่เกาะเหมือนกันไม่รู้ว่าจะโดนพายุหนักเหมือนกลางทะเลไหม” เมื่อมองขึ้นไปบนฟ้า เงาดำปกคลุมอยู่เหนือเกาะ ราชันเองก็เริ่มเป็นห่วงชาวบ้านที่อยู่บนเกาะแล้ว
4กอบโกย พ่อเลี้ยงสินชัยยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก คุณหมอไม่ยอมให้ธิดาเข้าไปเยี่ยมด้านใน อ้างว่ากลัวจะทำให้คนป่วยติดเชื้อ ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้อยากเข้าไปเยี่ยมเพราะความห่วงใยแต่แค่เพียงอยากรู้ว่าโอกาสรอดมีน้อยหรือมาก จะได้รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อ “นภาฉันคงไม่ได้มาเยี่ยมบ่อยๆนะ เพราะงานที่บริษัทกำลังยุ่ง ฉันเองก็ต้องมานั่งเรียนรู้ พ่อเลี้ยงเล่นไม่เคยบอกอะไรฉันเลย งงไปหมด แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด เพื่อรอวันที่หนูปลากลับมา ฝากด้วยนะนภา” นภารู้ดีว่าภรรยาของเจ้านายเป็นผู้หญิงแบบไหน แต่ตอนนี้เธอจำเป็นต้องแสดงว่าเชื่อ ว่านภาห่วงสามีและลูกเลี้ยงจริงๆ “คุณธิดาไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันจะดูแลพ่อเลี้ยงให้ดีที่สุด ไว้มีอะไรฉันจะโทรไปบอกแล้วคุณค่อยมาก็ได้ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางไปมา” ธิดาจับมือนภาด้วยใบหน้าที่พยายามแสดงถึงความซึ้งใจ ทั้งที่ใจจริงกำลังยิ้มเพราะเชื่อว่านภารู้ไม่เท่าทันเธอ หลังจากที่ธิดาออกจากโรงพยาบาลไป เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลและเข้าไปยังห้องผู้ป่วยหนักทันที นภาเองมีหน้าที่แค่คอยดูหน้าห้อ
3การต้อนรับ “ป้าแก้วไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคืนนี้ผมดูแลเธอเอง” เมื่อความมืดเริ่มปกคลุมเกาะ ป้าแก้วก็เอาข้าวต้มขึ้นมาให้คนเจ็บ แต่ราชันบอกว่าเขาจะเป็นคนดูแลเธอเอง “แน่ใจนะคะนายหัว ไม่ต้องให้ป้านอนข้างบนด้วยแน่นะ” ป้าแก้วถามเพื่อความแน่ใจ เพราะเขายังไม่เคยเห็น ชายหนุ่มตรงหน้าที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดจะเคยดูแลใครเลย เคยแต่เป็นฝ่ายถูกเขาดูแลเสียมากกว่า “เชื่อใจผมสิครับ ลูกชายคนนี้โตแล้วนะ รับรองจะดูแลอย่างดี” นายหัวของเกาะกอดเอวแม่คนที่สองของเขาอย่างเอาใจ ปะการังนอนดูทั้งสองคนแสดงความรักต่อกัน เธอยิ่งรู้สึกอ่อนแอ เธอคิดถึงแม่ คิดถึงป้านภา คิดถึงพ่อ เธอจะต้องกลับไปหาทุกคนให้ได้ แต่เธอต้องหาทางแก้แค้นให้ได้เสียก่อน “มากินข้าวกัน ค่อยๆลุกนะ เดี๋ยวผมช่วย” นายหัวผู้เอาแต่ใจของเกาะ วันนี้ต้องเป็นพยาบาลจำเป็นดูแลคนเจ็บ รอยฟกช้ำบนหน้าที่ได้รูปของหญิงสาว ยิ่งทำให้ราชันเห็นแล้วรู้สึกสงสาร ใครกันนะที่ทำกับผู้หญิงตัวเล็กได้ถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มอยากให้ความทรงจำของปะการังกลับมา เขาอยากช่วยเธอแก้แค้นไอ้พวกที่ชอบรังแกผู้หญิง
“คนเมื่อกี้นี้ เขาเป็นเจ้าของเกาะ คนที่นี่เขาเรียกกันว่า นายหัวกัน แต่จริง ๆ เขาชื่อราชัน” ป้าแก้วแนะนำ “ต่อไปนี้เธอชื่อปะการังนะ ดูแล้วเธอก็น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายฉัน มันชื่อเจ้าพร้าว เดี๋ยวคงไม่เจอกับมัน” แม่บ้านของเกาะหรือจะถือได้ว่าเป็นแม่คนที่สองของราชัน รู้สึกถูกชะตาปะการัง อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยมีลูกสาว เลยรู้สึกเห็นแล้วสงสารและเอ็นดู “ที่นี่อยู่ไกลจากฝั่งมากไหมคะ” หญิงสาวอยากรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ตรงไหนของแผนที่ประเทศไทย “ไกลเหมือนกัน จากนี่ไปฝั่งถ้านั่งเรือธรรมดาก็เกือบสามชั่วโมง ถามทำไมจะไปภูเก็ตเหรอ เริ่มจำอะไรได้แล้วหรือไง” “เปล่าค่ะป้า ฉันแค่ถามเฉยๆ เพราะอยากรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ไกลจากฝั่งมากแค่ไหน” หญิงสาวเกือบเผลอตัว ทำให้โดนจับได้ว่าเธอแกล้งจำทุกอย่างไม่ได้ “ป้าไปทำกับข้าวก่อนนะ พวกไปเรือเตรียมจะออกไปหาปลากันแล้ว” เมื่อถูกทิ้งให้นอนอยู่คนเดียวกลางบ้าน หญิงสาวก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ถ้าไม่เจอกับสองคนนั้น ป่านนี้เธอคงกลายเป็นศพไปแล้ว ระหว่างที่โดนจับ
2เป็นคนใหม่ ธิดาได้รับทราบอาการของสามีจากนภา ที่อยู่เฝ้าเจ้านายอยู่ตลอดเวลา โดยที่ทางโรงพยาบาลจัดหาห้องไว้ให้ “นภาเธออยู่ที่นั่นแหละดีแล้ว เสื้อผ้าของเครื่องใช้ต่าง ๆ ฉันจะให้คนเอาไปให้นะ” ธิดารู้สึกสบายใจที่สามีของเธอไม่รู้เรื่องอะไรอีกแล้ว ถ้ารอดมาก็จะเป็นเพียงผักที่หายใจไปวันๆ และตอนนี้คนเก่าคนแก่ของบ้าน ก็จะขอไปเฝ้าเจ้านายที่โรงพยาบาลเลย ทางยิ่งสะดวก “งานเรียบร้อยดีใช่ไหม แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าอีนั่นมันตายแล้ว” ลูกน้องที่ถูกจ้างให้จับตัวปาฐิตาไว้ โทรมาทวงค่าทำงาน ธิดาจึงอยากแน่ใจ ว่าลูกเลี้ยงของเธอไม่มีชีวิตอยู่แล้วแน่ๆ “พวกผมทั้งตบทั้งตี จนสลบและอุ้มมันโยนลงทะเลแบบนั้น มีเหรอที่มันจะรอด ป่านนี้โดนสัตว์ทะเลกินจนใครมาเจอศพก็ไม่รู้แล้วว่าเป็นใคร” พวกโจรเถื่อนที่ธิดาจ้างยืนยันในผลงานของตัวเอง เพราะพวกมันซ้อมปาฐิตาจนสลบขนาดนั้น มีหรือที่เธอจะฟื้นมาช่วยตัวเองกลางทะเลได้ ธิดายอมจ่ายเงินกว่าห้าล้านบาท เพื่อเป็นค่าจ้างในการทำลายเสี้ยนหนามของเธอในครั้งนี้ พ่อเลี้ยงสินชัยป่วยหนัก ปาฐิตาก็หายตัวไปอย่าง
1เรียกค่าไถ่ “คุณคะ นี่ลูกหายไปหลายวันแล้วนะคะ” ธิดาทำท่าทางผุดลุกผุดนั่ง เพื่อให้พ่อเลี้ยงสินใจ คิดว่าเธอเป็นห่วง ปาฐิตาซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเธอจริงๆ“ผมให้เพื่อนที่ภูเก็ต ช่วยสืบข่าวอยู่ คุณคิดว่าผมสบายใจเหรอ”พ่อเลี้ยงสินชัยมีเพื่อนทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทอยู่ที่ภูเก็ตหลายคน ทุกคนกำลังช่วยกันตามหาและสืบข่าวของปาฐิตาอยู่ แต่ยังไร้วี่แววกริ๊ง กริ๊ง“คุณคะใครโทรมาเบอร์บ้าน ”ธิดาทำท่าตกใจ เพราะทุกวันนี้เวลาติดต่อกัน ส่วนมาทุกคนก็ใช้แต่โทรศัพท์มือถือ“สวัสดีค่ะ” ธิดาเป็นคนรับโทรศัพท์“มีอะไรเกิดขึ้น”สินชัยรีบลุกจากโซฟา มารับภรรยาที่ทำท่าจะเป็นลมและปล่อยโทรศัพท์หลุดออกจากมือ“ฉันไม่เป็นไรค่ะ พวกมันจับตัวลูกสาวเราไปเรียกค่าไถ่”ธิดาเธอเป็นแม่เลี้ยงที่สร้างภาพได้อย่างสวยงาม ไม่เคยมีคำว่าลูกฉันลูกคุณ เพราะตัวเธอก็มีลูกติดมาหนึ่งคน จึงหวังจะสร้างภาพความครอบครัวเดียวกัน เพื่อให้พ่อเลี้ยงสินชัย รักลูกสาวของเธอเหมือนลูกแท้ๆด้วย“ว่าไง พวกแกเป็นใครและต้องการอะไร” สินชัยคว้าโทรศัพท์ที่ล่วงจากมือของธิดาขึ้นมาคุยต่อ“พ่อคะ พ่อช่วยปลาด้วย”สินชัยใจแทบขาด เมื่อได้ยินเสียง ที่เขาจำได้ด...
Comments