8
เมียนายหัว..ความทรงจำใหม่
เรื่องการพูดในวันนี้ราชันไม่เป็นกังวลเลยสักนิด แต่สิ่งที่ชายหนุ่มกลัว คือการที่เขากับเธอจะอยู่กันแบบไหน ในฐานะสามีภรรยา
ราชันเป็นผู้ชายที่ถือได้ว่ารูปร่างหน้าตาดี แต่ดีในแบบเถื่อนๆ ฐานะก็ดีการศึกษาก็จบจากเมืองนอก เขาไม่ค่อยสนใจผู้หญิงที่เข้ามาจีบเขาสักคน เพราะคิดว่าทุกคนต่างก็มองเขาที่ภายนอก เอาเข้าจริงก็ไม่มีใครสามารถมาใช้ชีวิตที่เกาะกับเขาได้
ปะการังหญิงสาวที่อยู่ดีๆไม่รู้ว่าพรหมลิขิตหรือเวรกรรมอะไร ส่งให้เขาต้องได้มาช่วยชีวิตเธอ และยังจะต้องกลายมาเป็นสามีภรรยากันอีก นายหัวคิดแล้วก็ขำ สงสัยตัวเขาเองจะเลือกมากพอถึงเวลาจริงๆเลยไม่ต้องเลือกเลย
เวลาประชุมมาถึงหลายครอบครัวต่างมาพร้อมหน้ากันที่ลานหน้าบ้านของนายหัว มีบางคนที่ไม่ได้มาก็ส่งคนในครอบครัวมาแทน
“เรื่องแรกที่ผมจะพูดกับทุกคนคือเรื่องของราคามะพร้าวที่ตกต่ำอยู่ตอนนี้ เราอาจต้องยอมขายราคาถูกไปก่อน ผมกำลังหาทางที่จะเอามะพร้าวของเรามาแปรรูปเป็นอย่างอื่นเพื่อเพิ่มราคา”
นายหัวหันไปสบตาหญิงสาวอยู่บ่อยๆเวลาพูด เหมือนกำลังรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง
“เรื่องที่สองเรื่องการงดออกจากฝั่งในช่วงนี้ ผมขอบอกวันต่อวันแล้วกัน เพราะต้องดูสภาพอากาศ แต่เราจะไม่ออกไปไกลเหมือนก่อน เพราะช่วงนี้พายุเข้า”
เรื่องที่สองพูดจบนายหัวเริ่มเปลี่ยนสีหน้า ปะการังพอจะเดาได้ออกว่า เรื่องที่สามจะเป็นเรื่องอะไร
“เรื่องที่สาม ผมนายหัวของที่นี่จะขอแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักภรรยาของผมเพราะเธอจะมาเป็นนายหญิงของที่นี่ เธอชื่อปะการัง”
หญิงสาวยืนขึ้นและยกมือสวัสดีทุกคน สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมาที่เธอ ด้วยทรงผมที่ดูแปลกบางคนก็พากันแอบหัวเราะ แต่ปะการังก็เข้าใจว่าถ้าเป็นเธอก็อดขำไม่ได้
“หนูเป็นสมาชิกใหม่ของที่นี่ มีอะไรก็ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ส่วนทรงผม คิดว่าอีกไม่นานมันก็คงจะยาวพอให้ตัดเป็นทรงได้ค่ะ ทนดูกันไปอีกนิดนะคะ”
ทุกคนพากันขำให้กับประโยคทิ้งท้ายของนายหญิง ที่ดูแล้วเธอเป็นคนอารมณ์ดี ไม่ได้ถือสาที่หลายคนมองผมเธอแล้วแอบหัวเราะกัน
“เรื่องที่สี่ ตอนนี้การอยู่เวรยามขอให้เคร่งครัด ถ้าครอบครัวไหนมีลูกอ่อนให้สามีอยู่เวรยามเฉพาะช่วงบ่ายถึงหัวค่ำเท่านั้น ฝ่ายจัดเวรส่งตารางเวรและแผนรับมือให้ผมทุกสัปดาห์นะ”
เรื่องที่สี่ปะการังไม่แน่ใจว่ามันเกี่ยวกับเรื่องที่เธอมาอยู่ที่นี่ไหม เขาถึงได้มีการจัดเวรยามอย่างเคร่งครัดแบบนี้
จบจากการประชุมราชันพาปะการังซ้อนมอเตอร์ไซค์ขับชมรอบเกาะตามสัญญา และตั้งใจจะพาเธอไปเล่นน้ำที่ชายหาดตามที่สัญญาไว้
ระหว่างทางหญิงสาวได้เห็นชีวิตของชาวบ้านในเกาะ ต่างก็นั่งทำงานของตัวเองกัน ยกเว้นบางคนก็ทำงานไปเลี้ยงลูกไปด้วย
“พาเข้าไปดูเด็กน้อยที่แม่เขากำลังอุ้มอยู่ได้ไหมคะ”
ปะการังเห็นเด็กแล้วก็คิดถึงแม่ จึงอยากลองอุ้มดูสักครั้ง เพื่อจะทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นบ้าง
“สาวน้อยชื่ออะไรคะ” นายหญิงถาม
“ชื่อเม็ดทรายจ้า”
แม่ของเด็กตอบด้วยรอยยิ้ม ที่เห็นนายหญิงคนใหม่เอ็นดูลูกสาวในวัยเพียงห้าเดือนของเธอ
“ขออุ้มหน่อยนะคะ น่าฟัดจริงๆ”
ปะการังเธอเป็นคนที่ชอบเด็กอยู่แล้ว และเด็กๆก็มักจะชอบเธอ เม็ดทรายจึงยอมให้อุ้มแต่โดยดี
หญิงสาวทั้งกอดทั้งหอม กลิ่นของเด็กคือกลิ่นที่หอมที่สุดในความคิดของปะการัง เธออยากจะกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งจัง
ราชันยืนรออยู่ เธอจึงต้องยอมส่งเม็ดทรายคืนให้กับมารดา เพราะยังมีอีกหลายที่ ที่เธอต้องไปดู
“ไว้วันหลังมาให้อุ้มอีกนะ”
ปะการังหอมแก้มเด็กน้อยขาวตัวอวบอย่างเอ็นดูก่อนจะส่งคืนให้แม่ของเธอไป
“ดูคุณชอบเด็ก”
ราชันถามเมื่อหญิงสาวกลับมานั่งซ้อนรถข้างหลังตามเดิมเพื่อไปต่อ
“ชอบมาเลยแหละ ฉันเคยคิดนะว่าอยากมีลูกหลาย ๆ คน คงมีความสุขน่าดู”
“ก็มีสิ ผมก็ชอบเด็กนะ เกิดมาเป็นลูกคนเดียวเหงาจะตาย”
ปะการังถึงกับกลืนน้ำลายเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ นี่เขาจะมีลูกกับเธอเหรอ
“นายหัวหมายความว่า....” หญิงสาวไม่กล้าพูดให้จบ
“ตอนนี้ไม่รู้ว่าหมายความว่าอะไร แต่ต่อไปคงรู้มั้ง ปะการังเธอคิดว่าคนไม่ได้รักกันแล้วต้องมาอยู่ด้วยกันจะรักกันได้ไหม”
ราชันไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรัก เขาคิดว่าผู้หญิงหน้าตาสวยขนาดโดนตัดผมแบบนั้นยังสวยอย่างปะการัง คงมีประสบการณ์ด้านความรักมาพอควร
“ฉันก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้ามันเป็นคู่กัน มันก็คงรักกันได้ แต่ถ้ามันไม่ใช่มันก็คงเลิกรากันไปเอง” เธอตอบตามที่ชีวิตจริงที่มันเกิดขึ้น
“แต่สำหรับผม การแต่งงานมันควรจะมีแค่ครั้งเดียว”
ราชันเขาเกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่นเขาแทบจะไม่เคยเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันเลย เขาจึงคิดว่าถ้าวันหนึ่งเขาแต่งงานมีครอบครัว เขาจะทำให้ลูกและภรรยาของเขามีความสุขให้เหมือนที่พ่อทำให้ได้
“ทุกคนก็คิดแบบนั้น แต่ในความเป็นจริง มันไม่ได้โชคดีและสวยงามอย่างที่คุณคิดหรอก”
ปาฐิตาหรือปะการังเธอโตมาแบบแม่เสียไปตั้งแต่เธอยังไม่โตเป็นสาว และไม่นานพ่อของเธอก็มีแม่ใหม่ ที่สุดแสนจะร้ายกาจ เธอจึงไม่ค่อยศรัทธาในความรัก พ่อของเธอสัญญากับแม่ไว้ก่อนตายว่าจะไม่มีภรรยาใหม่ แต่สุดท้ายพ่อก็มี
ทั้งสองคนโตมาจากครอบครัวที่ต่างกัน แต่ทั้งคู่ก็หวังที่จะสร้างครอบครัวของตัวเองให้มีความสุขที่สุด
“และเรื่องของเราล่ะ” ราชันถามขึ้นมาตรงๆ
“ในเมื่อคุณคิดจะแต่งงานมีภรรยาแค่เพียงคนเดียว ก็คงอยู่ที่คุณจะตัดสินใจ ว่าฉันเหมาะและใช่สำหรับคุณไหม”
ปะการังคิดว่าตัวเองไม่ได้มีทางเลือก หนี้บุญคุณที่เขาช่วยชีวิตเธอ ทำให้เธอพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนเขา
“ถ้าฉันคิดว่าเธอใช่ เธอจะไม่ไปไหนใช่ไหม ถ้าวันหนึ่งเธอเกิดจำทุกอย่างได้ขึ้นมา”
ปะการังโอบกอดเอวคนขับแน่น พร้อมกับเอาคางของเธอวางไว้ที่ไหล่ของคนขับ ก่อนจะหันไปจูบที่แก้มของราชันเบาๆ
“ฉันคนเดิมตายไปแล้ว เหลือแต่ปะการังเท่านั้น ถ้าคุณไม่ไล่ฉันก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้นค่ะ”
หญิงสาวไม่รู้เหมือนกัน ว่าอะไรทำให้เธอตัดสินใจทำและพูดไปอย่างนั้น แต่มันคือหัวใจที่สั่งและร่างกายก็ฝืนไว้ไม่อยู่
9นายหญิงของเกาะ “ทรายขาวมากเลยค่ะ” เมื่อราชันพาปะการังมาถึงชายหาดที่สวยที่สุดในเกาะ หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นที่ทรายเป็นสีขาว ตัดกับสีของน้ำทะเลที่เป็นสีฟ้า ดูสวยงามเหมือนในภาพถ่ายเลย “ที่นี่เราไม่เคยให้คนนอกมาเล่น พวกเราอยากรักษาไว้ พ่อของผมเคยมีเกาะอยู่ที่หนึ่งแต่เป็นเพียงเกาะเล็กๆ ไม่มีคนอยู่ เราพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำเพียงแค่นั้น แต่ไม่นานทุกอย่างก็ถูกทำลาย พ่อโดนผู้มีอิทธิพลบีบให้ขาย และตอนนี้ที่นี่ก็กำลังโดนบีบอยู่เหมือนกัน ” ราชันมองหน้านายหญิงคนใหม่ด้วยความรู้สึกเหมือนคนที่กำลังเหนื่อยและต้องการกำลังใจ “แต่ฉันเชื่อนะว่าคุณจะรักษาเกาะนี้ไว้ได้ เพราะที่นี่มีชาวบ้าน พวกเขารู้ว่าคุณรักพวกเขา ดังนั้นพวกเขาคงไม่อยากตกไปอยู่ในการดูแลของคนอื่นแน่ๆ ” พูดจบหญิงสาวก็เดินมาจับมือของนายหัว และมองสบตาด้วยรอยยิ้มที่แสนหวาน “ส่วนฉันคงช่วยอะไรไม่ได้มาก นอกจากเป็นกำลังใจให้นะ” ยังไม่ทันจะตั้งตัวหญิงสาวร่างบาง ก็ถูกนายหัวอุ้มเธอจนตัวลอย แล้วเอาไปโยนลงทะเล ก่อนจะล้มตัวลงไปกอดเธอจากทางด้านหลัง เพราะกลัวหญิงสาวจะ
1เรียกค่าไถ่ “คุณคะ นี่ลูกหายไปหลายวันแล้วนะคะ” ธิดาทำท่าทางผุดลุกผุดนั่ง เพื่อให้พ่อเลี้ยงสินใจ คิดว่าเธอเป็นห่วง ปาฐิตาซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเธอจริงๆ“ผมให้เพื่อนที่ภูเก็ต ช่วยสืบข่าวอยู่ คุณคิดว่าผมสบายใจเหรอ”พ่อเลี้ยงสินชัยมีเพื่อนทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทอยู่ที่ภูเก็ตหลายคน ทุกคนกำลังช่วยกันตามหาและสืบข่าวของปาฐิตาอยู่ แต่ยังไร้วี่แววกริ๊ง กริ๊ง“คุณคะใครโทรมาเบอร์บ้าน ”ธิดาทำท่าตกใจ เพราะทุกวันนี้เวลาติดต่อกัน ส่วนมาทุกคนก็ใช้แต่โทรศัพท์มือถือ“สวัสดีค่ะ” ธิดาเป็นคนรับโทรศัพท์“มีอะไรเกิดขึ้น”สินชัยรีบลุกจากโซฟา มารับภรรยาที่ทำท่าจะเป็นลมและปล่อยโทรศัพท์หลุดออกจากมือ“ฉันไม่เป็นไรค่ะ พวกมันจับตัวลูกสาวเราไปเรียกค่าไถ่”ธิดาเธอเป็นแม่เลี้ยงที่สร้างภาพได้อย่างสวยงาม ไม่เคยมีคำว่าลูกฉันลูกคุณ เพราะตัวเธอก็มีลูกติดมาหนึ่งคน จึงหวังจะสร้างภาพความครอบครัวเดียวกัน เพื่อให้พ่อเลี้ยงสินชัย รักลูกสาวของเธอเหมือนลูกแท้ๆด้วย“ว่าไง พวกแกเป็นใครและต้องการอะไร” สินชัยคว้าโทรศัพท์ที่ล่วงจากมือของธิดาขึ้นมาคุยต่อ“พ่อคะ พ่อช่วยปลาด้วย”สินชัยใจแทบขาด เมื่อได้ยินเสียง ที่เขาจำได้ด
เมื่อธิดากลับไปไม่นาน คุณหมอที่ทำหน้าที่รักษาพ่อเลี้ยงสินชัย ก็เรียกป้านภาให้เข้าไปในห้องคนไข้ขั้นวิกฤต“ป้านภาครับ เชิญข้างในดีกว่าท่านน่าจะอยากเจอป้า”นภาแปลกใจในคำพูดของคุณหมอ แต่ก็ยอมเดินตามเข้าไป เพราะเธออยากเห็นว่าตอนนี้เจ้านายของเธอเป็นอย่างไรบ้าง“นายหัวขับเรือเก่งขึ้นเยอะเลย อีกหน่อยก็ออกทะเลได้เองไม่ต้องมีผมตามมาด้วย”พร้าวลูกน้องคนสนิทของนายหัวราชัน พูดชมเจ้านายที่สามารถขับเรือได้เก่ง หลังจากให้เขาสอนได้เพียงไม่กี่ครั้ง“ไอ้พร้าวเอ็งมันก็พูดเกินไป ถ้าลองให้ข้ามาคนเดียว เจอลมเข้าหน่อย รับรองขับไม่เป็นแน่ๆ”ราชันเพิ่งมารับช่วงดูแลเกาะต่อจากบิดาที่เริ่มแก่ตัวลง และตัดสินใจกลับไปอยู่ที่ตัวเมืองภูเก็ต ได้ไม่ถึงปีถึงแม้เขาจะอาศัยอยู่ที่เกาะมาตั้งแต่เล็กก็ตาม แต่ก็ไม่เคยต้องดูแลทุกอย่างเหมือนตอนนี้ และช่วงหลังเขาก็ต้องไปศึกษาต่อจึงห่างจากเกาะไปหลายปี“นายหัว นั่นอะไรลอยอยู่”พร้าวชี้ไปที่อะไรสักอย่างที่กำลังลอยอยู่ไม่ห่างจากเรือของเขากับเจ้านาย“นายหัวคน คนจริงๆด้วย”“ไอ้พร้าวเอ็งขับเร็วหน่อย เผื่อเขายังไม่ตาย”ราชันรีบวิ่งไปที่หัวเรือ เพื่อหวังจะไปถึงคนที่กำลังเกาะลูกมะพร้าวลอยอย
2เป็นคนใหม่ ธิดาได้รับทราบอาการของสามีจากนภา ที่อยู่เฝ้าเจ้านายอยู่ตลอดเวลา โดยที่ทางโรงพยาบาลจัดหาห้องไว้ให้ “นภาเธออยู่ที่นั่นแหละดีแล้ว เสื้อผ้าของเครื่องใช้ต่าง ๆ ฉันจะให้คนเอาไปให้นะ” ธิดารู้สึกสบายใจที่สามีของเธอไม่รู้เรื่องอะไรอีกแล้ว ถ้ารอดมาก็จะเป็นเพียงผักที่หายใจไปวันๆ และตอนนี้คนเก่าคนแก่ของบ้าน ก็จะขอไปเฝ้าเจ้านายที่โรงพยาบาลเลย ทางยิ่งสะดวก “งานเรียบร้อยดีใช่ไหม แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าอีนั่นมันตายแล้ว” ลูกน้องที่ถูกจ้างให้จับตัวปาฐิตาไว้ โทรมาทวงค่าทำงาน ธิดาจึงอยากแน่ใจ ว่าลูกเลี้ยงของเธอไม่มีชีวิตอยู่แล้วแน่ๆ “พวกผมทั้งตบทั้งตี จนสลบและอุ้มมันโยนลงทะเลแบบนั้น มีเหรอที่มันจะรอด ป่านนี้โดนสัตว์ทะเลกินจนใครมาเจอศพก็ไม่รู้แล้วว่าเป็นใคร” พวกโจรเถื่อนที่ธิดาจ้างยืนยันในผลงานของตัวเอง เพราะพวกมันซ้อมปาฐิตาจนสลบขนาดนั้น มีหรือที่เธอจะฟื้นมาช่วยตัวเองกลางทะเลได้ ธิดายอมจ่ายเงินกว่าห้าล้านบาท เพื่อเป็นค่าจ้างในการทำลายเสี้ยนหนามของเธอในครั้งนี้ พ่อเลี้ยงสินชัยป่วยหนัก ปาฐิตาก็หายตัวไปอย่าง
“คนเมื่อกี้นี้ เขาเป็นเจ้าของเกาะ คนที่นี่เขาเรียกกันว่า นายหัวกัน แต่จริง ๆ เขาชื่อราชัน” ป้าแก้วแนะนำ “ต่อไปนี้เธอชื่อปะการังนะ ดูแล้วเธอก็น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายฉัน มันชื่อเจ้าพร้าว เดี๋ยวคงไม่เจอกับมัน” แม่บ้านของเกาะหรือจะถือได้ว่าเป็นแม่คนที่สองของราชัน รู้สึกถูกชะตาปะการัง อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยมีลูกสาว เลยรู้สึกเห็นแล้วสงสารและเอ็นดู “ที่นี่อยู่ไกลจากฝั่งมากไหมคะ” หญิงสาวอยากรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ตรงไหนของแผนที่ประเทศไทย “ไกลเหมือนกัน จากนี่ไปฝั่งถ้านั่งเรือธรรมดาก็เกือบสามชั่วโมง ถามทำไมจะไปภูเก็ตเหรอ เริ่มจำอะไรได้แล้วหรือไง” “เปล่าค่ะป้า ฉันแค่ถามเฉยๆ เพราะอยากรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ไกลจากฝั่งมากแค่ไหน” หญิงสาวเกือบเผลอตัว ทำให้โดนจับได้ว่าเธอแกล้งจำทุกอย่างไม่ได้ “ป้าไปทำกับข้าวก่อนนะ พวกไปเรือเตรียมจะออกไปหาปลากันแล้ว” เมื่อถูกทิ้งให้นอนอยู่คนเดียวกลางบ้าน หญิงสาวก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ถ้าไม่เจอกับสองคนนั้น ป่านนี้เธอคงกลายเป็นศพไปแล้ว ระหว่างที่โดนจับ
3การต้อนรับ “ป้าแก้วไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคืนนี้ผมดูแลเธอเอง” เมื่อความมืดเริ่มปกคลุมเกาะ ป้าแก้วก็เอาข้าวต้มขึ้นมาให้คนเจ็บ แต่ราชันบอกว่าเขาจะเป็นคนดูแลเธอเอง “แน่ใจนะคะนายหัว ไม่ต้องให้ป้านอนข้างบนด้วยแน่นะ” ป้าแก้วถามเพื่อความแน่ใจ เพราะเขายังไม่เคยเห็น ชายหนุ่มตรงหน้าที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดจะเคยดูแลใครเลย เคยแต่เป็นฝ่ายถูกเขาดูแลเสียมากกว่า “เชื่อใจผมสิครับ ลูกชายคนนี้โตแล้วนะ รับรองจะดูแลอย่างดี” นายหัวของเกาะกอดเอวแม่คนที่สองของเขาอย่างเอาใจ ปะการังนอนดูทั้งสองคนแสดงความรักต่อกัน เธอยิ่งรู้สึกอ่อนแอ เธอคิดถึงแม่ คิดถึงป้านภา คิดถึงพ่อ เธอจะต้องกลับไปหาทุกคนให้ได้ แต่เธอต้องหาทางแก้แค้นให้ได้เสียก่อน “มากินข้าวกัน ค่อยๆลุกนะ เดี๋ยวผมช่วย” นายหัวผู้เอาแต่ใจของเกาะ วันนี้ต้องเป็นพยาบาลจำเป็นดูแลคนเจ็บ รอยฟกช้ำบนหน้าที่ได้รูปของหญิงสาว ยิ่งทำให้ราชันเห็นแล้วรู้สึกสงสาร ใครกันนะที่ทำกับผู้หญิงตัวเล็กได้ถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มอยากให้ความทรงจำของปะการังกลับมา เขาอยากช่วยเธอแก้แค้นไอ้พวกที่ชอบรังแกผู้หญิง
4กอบโกย พ่อเลี้ยงสินชัยยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก คุณหมอไม่ยอมให้ธิดาเข้าไปเยี่ยมด้านใน อ้างว่ากลัวจะทำให้คนป่วยติดเชื้อ ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้อยากเข้าไปเยี่ยมเพราะความห่วงใยแต่แค่เพียงอยากรู้ว่าโอกาสรอดมีน้อยหรือมาก จะได้รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อ “นภาฉันคงไม่ได้มาเยี่ยมบ่อยๆนะ เพราะงานที่บริษัทกำลังยุ่ง ฉันเองก็ต้องมานั่งเรียนรู้ พ่อเลี้ยงเล่นไม่เคยบอกอะไรฉันเลย งงไปหมด แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด เพื่อรอวันที่หนูปลากลับมา ฝากด้วยนะนภา” นภารู้ดีว่าภรรยาของเจ้านายเป็นผู้หญิงแบบไหน แต่ตอนนี้เธอจำเป็นต้องแสดงว่าเชื่อ ว่านภาห่วงสามีและลูกเลี้ยงจริงๆ “คุณธิดาไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันจะดูแลพ่อเลี้ยงให้ดีที่สุด ไว้มีอะไรฉันจะโทรไปบอกแล้วคุณค่อยมาก็ได้ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางไปมา” ธิดาจับมือนภาด้วยใบหน้าที่พยายามแสดงถึงความซึ้งใจ ทั้งที่ใจจริงกำลังยิ้มเพราะเชื่อว่านภารู้ไม่เท่าทันเธอ หลังจากที่ธิดาออกจากโรงพยาบาลไป เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลและเข้าไปยังห้องผู้ป่วยหนักทันที นภาเองมีหน้าที่แค่คอยดูหน้าห้อ
5สาวชาวเกาะ วันนี้ราชันได้สมใจที่คิดๆไว้ เพราะเมื่อขับเรือออกจากเกาะได้ไม่นาน ฝนก็ตกอยู่กลางทะเล ลมพายุโหมกระหน่ำ เขาได้ฝึกจากสถานการณ์จริง ที่เขาต้องการมานาน “สนุกเป็นบ้าเลยพร้าวเอ๋ย” นายหัวรู้สึกตื่นเต้นกับการได้ขับเรือท่ามกลางพายุและฝนที่ตกหนัก เพราะเขาต้องการที่จะฝึกตัวเองให้แข็งแกร่งที่สุด การดูแลเกาะทั้งเกาะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ราชันต้องการที่จะทำทุกอย่างให้เก่งเหมือนที่พ่อของเขาทำได้ เพื่อจะได้ดูแลเกาะนี้ให้ดีที่สุด ให้สมกับที่พ่อของเขาไว้ใจ “นายหัวกลับกันได้แล้วครับ นี่เราเปียกฝนกันมาจะชั่วโมงแล้ว ถ้าพรุ่งนี้เราไม่ป่วยก็แสดงให้เห็นว่าเราร่างกายแข็งแรง และมีความอดทน” ชายหนุ่มรุ่นน้องความสนิทสนมทำให้เขารู้ว่า ราชันกำลังต้องการทดสอบความอดทนและความแข็งแรงของทั้งร่างกายและจิตใจ พร้าวจึงพยายามพูดให้เขารู้ว่าการพิสูจน์แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว “กลับก็กลับ เป็นห่วงคนที่เกาะเหมือนกันไม่รู้ว่าจะโดนพายุหนักเหมือนกลางทะเลไหม” เมื่อมองขึ้นไปบนฟ้า เงาดำปกคลุมอยู่เหนือเกาะ ราชันเองก็เริ่มเป็นห่วงชาวบ้านที่อยู่บนเกาะแล้ว
9นายหญิงของเกาะ “ทรายขาวมากเลยค่ะ” เมื่อราชันพาปะการังมาถึงชายหาดที่สวยที่สุดในเกาะ หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นที่ทรายเป็นสีขาว ตัดกับสีของน้ำทะเลที่เป็นสีฟ้า ดูสวยงามเหมือนในภาพถ่ายเลย “ที่นี่เราไม่เคยให้คนนอกมาเล่น พวกเราอยากรักษาไว้ พ่อของผมเคยมีเกาะอยู่ที่หนึ่งแต่เป็นเพียงเกาะเล็กๆ ไม่มีคนอยู่ เราพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำเพียงแค่นั้น แต่ไม่นานทุกอย่างก็ถูกทำลาย พ่อโดนผู้มีอิทธิพลบีบให้ขาย และตอนนี้ที่นี่ก็กำลังโดนบีบอยู่เหมือนกัน ” ราชันมองหน้านายหญิงคนใหม่ด้วยความรู้สึกเหมือนคนที่กำลังเหนื่อยและต้องการกำลังใจ “แต่ฉันเชื่อนะว่าคุณจะรักษาเกาะนี้ไว้ได้ เพราะที่นี่มีชาวบ้าน พวกเขารู้ว่าคุณรักพวกเขา ดังนั้นพวกเขาคงไม่อยากตกไปอยู่ในการดูแลของคนอื่นแน่ๆ ” พูดจบหญิงสาวก็เดินมาจับมือของนายหัว และมองสบตาด้วยรอยยิ้มที่แสนหวาน “ส่วนฉันคงช่วยอะไรไม่ได้มาก นอกจากเป็นกำลังใจให้นะ” ยังไม่ทันจะตั้งตัวหญิงสาวร่างบาง ก็ถูกนายหัวอุ้มเธอจนตัวลอย แล้วเอาไปโยนลงทะเล ก่อนจะล้มตัวลงไปกอดเธอจากทางด้านหลัง เพราะกลัวหญิงสาวจะ
8เมียนายหัว..ความทรงจำใหม่ เรื่องการพูดในวันนี้ราชันไม่เป็นกังวลเลยสักนิด แต่สิ่งที่ชายหนุ่มกลัว คือการที่เขากับเธอจะอยู่กันแบบไหน ในฐานะสามีภรรยา ราชันเป็นผู้ชายที่ถือได้ว่ารูปร่างหน้าตาดี แต่ดีในแบบเถื่อนๆ ฐานะก็ดีการศึกษาก็จบจากเมืองนอก เขาไม่ค่อยสนใจผู้หญิงที่เข้ามาจีบเขาสักคน เพราะคิดว่าทุกคนต่างก็มองเขาที่ภายนอก เอาเข้าจริงก็ไม่มีใครสามารถมาใช้ชีวิตที่เกาะกับเขาได้ ปะการังหญิงสาวที่อยู่ดีๆไม่รู้ว่าพรหมลิขิตหรือเวรกรรมอะไร ส่งให้เขาต้องได้มาช่วยชีวิตเธอ และยังจะต้องกลายมาเป็นสามีภรรยากันอีก นายหัวคิดแล้วก็ขำ สงสัยตัวเขาเองจะเลือกมากพอถึงเวลาจริงๆเลยไม่ต้องเลือกเลย เวลาประชุมมาถึงหลายครอบครัวต่างมาพร้อมหน้ากันที่ลานหน้าบ้านของนายหัว มีบางคนที่ไม่ได้มาก็ส่งคนในครอบครัวมาแทน “เรื่องแรกที่ผมจะพูดกับทุกคนคือเรื่องของราคามะพร้าวที่ตกต่ำอยู่ตอนนี้ เราอาจต้องยอมขายราคาถูกไปก่อน ผมกำลังหาทางที่จะเอามะพร้าวของเรามาแปรรูปเป็นอย่างอื่นเพื่อเพิ่มราคา” นายหัวหันไปสบตาหญิงสาวอยู่บ่อยๆเวลาพูด เหมือนกำลังรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง“เรื่องที่สองเรื่
7เช้าสดใสของปะการัง ปะการังเธอตื่นนอนและรีบอาบน้ำแต่งตัว ชายหนุ่มที่นอนข้างๆ เธอเขายังคงหลับสนิทเลยไม่อยากที่จะปลุก วันนี้นายหัวบอกไว้ว่าจะแนะนำเธอให้ชาวบ้านที่เกาะรู้จัก เธอเลยต้องพยายามแต่งตัวให้ดูดีหน่อยถึงแม้จะมีเครื่องแต่งตัวแค่ผ้าถุงและเสื้ออีกแค่ไม่กี่ตัว ปะการังมองสภาพผมของเธอในกระจก ก็อดขำไม่ได้ ถ้าอยู่ในเมืองแบบนี้ เธอคงไม่กล้าที่จะเดินออกจากบ้านแน่ๆ “ตื่นแล้วไม่ปลุกกันบ้างเลย” นายหัวในสภาพงัวเงีย นอนมองหญิงสาวผมแหว่งที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง “เห็นนายหัวนอนหลับสนิทฉันเลยยังไม่อยากปลุก คิดว่าคงจะเหนื่อยจากการขับเรือกลางพายุมา” “ว๊าย! มณีขอโทษค่ะ” หญิงชาวบ้านที่เคยทำหน้าที่ยกกับข้าวขึ้นมาให้ปะการัง เห็นประตูไม่ได้ล็อกเลยเปิดเข้ามาโดยไม่ได้เคาะประตูก่อน ยังไม่ทันที่คนในห้องจะพูดอะไร มณีก็รีบวางถาดข้าว และไม่กล้าหันไปมองนายหัวที่ใส่แค่เพียงเสื้อกล้ามนอนอยู่บนเตียงของหญิงสาวผู้มาใหม่ “มณี นี่ก็แปลกทำเหมือนเจอตัวประหลาดต้องรีบวางรีบไปแบบนั้น” ราชันบ่นอุบอิบ แต่ก็คง
6คืนนี้กับสาวผมแหว่ง หลังจากอาบน้ำเสร็จ หญิงสาวมองตัวเองในกระจก หน้าตาและทรงผมของเธอตอนนี้ ดูเหมือนเธอเป็นทอมมากกว่าเป็นสาว ปะการังอดขำสภาพตัวเองไม่ได้ สองคืนที่เธอมาถึงเกาะนี้ ไม่มีคืนไหนที่เธอไม่ฝันร้าย ปะการังจะรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมน้ำทุกครั้งที่ทำท่าจะหลับจริงๆ จนต้องสะดุ้งตื่น คืนนี้เธอยังอดกังวลไม่ได้ ว่าเธอจะเผลอโวยวายกลางดึกเหมือนทุกคืนไหม เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นมีหวังนายหัวได้ตกใจแน่ๆ “หวีจังผม เหลืออยู่แค่นั้น ” ราชันเดินเข้ามาในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้แต่ก็ทันได้เห็น หญิงสาวที่กำลังนั่งหวีผม ที่แทบจะไม่มีให้หวี “สวยดีเหมือนกันนะคะ” หญิงสาวตอบไม่ตรงกับใจ “อีกนานไหมกว่าผมเธอจะยาว เห็นแบบนี้อดคิดว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงเหมือนจะเป็นทอมมากกว่า” ราชันแอบคิดแบบนั้นอยู่เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่แน่ใจเพราะยังไม่เคยคุยกับปะการังเป็นเรื่องเป็นราวสักที “ฉันก็จำไม่ได้ หรือจริงแล้วฉันอาจจะเป็นทอม พยายามจะคิดที่ไร มันก็ปวดหัวทุกที” หญิงสาวตีบทแตก แสดงละครให้เหมือนกับคนที่สูญเสียความจำจริงๆ “แต่
5สาวชาวเกาะ วันนี้ราชันได้สมใจที่คิดๆไว้ เพราะเมื่อขับเรือออกจากเกาะได้ไม่นาน ฝนก็ตกอยู่กลางทะเล ลมพายุโหมกระหน่ำ เขาได้ฝึกจากสถานการณ์จริง ที่เขาต้องการมานาน “สนุกเป็นบ้าเลยพร้าวเอ๋ย” นายหัวรู้สึกตื่นเต้นกับการได้ขับเรือท่ามกลางพายุและฝนที่ตกหนัก เพราะเขาต้องการที่จะฝึกตัวเองให้แข็งแกร่งที่สุด การดูแลเกาะทั้งเกาะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ราชันต้องการที่จะทำทุกอย่างให้เก่งเหมือนที่พ่อของเขาทำได้ เพื่อจะได้ดูแลเกาะนี้ให้ดีที่สุด ให้สมกับที่พ่อของเขาไว้ใจ “นายหัวกลับกันได้แล้วครับ นี่เราเปียกฝนกันมาจะชั่วโมงแล้ว ถ้าพรุ่งนี้เราไม่ป่วยก็แสดงให้เห็นว่าเราร่างกายแข็งแรง และมีความอดทน” ชายหนุ่มรุ่นน้องความสนิทสนมทำให้เขารู้ว่า ราชันกำลังต้องการทดสอบความอดทนและความแข็งแรงของทั้งร่างกายและจิตใจ พร้าวจึงพยายามพูดให้เขารู้ว่าการพิสูจน์แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว “กลับก็กลับ เป็นห่วงคนที่เกาะเหมือนกันไม่รู้ว่าจะโดนพายุหนักเหมือนกลางทะเลไหม” เมื่อมองขึ้นไปบนฟ้า เงาดำปกคลุมอยู่เหนือเกาะ ราชันเองก็เริ่มเป็นห่วงชาวบ้านที่อยู่บนเกาะแล้ว
4กอบโกย พ่อเลี้ยงสินชัยยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก คุณหมอไม่ยอมให้ธิดาเข้าไปเยี่ยมด้านใน อ้างว่ากลัวจะทำให้คนป่วยติดเชื้อ ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้อยากเข้าไปเยี่ยมเพราะความห่วงใยแต่แค่เพียงอยากรู้ว่าโอกาสรอดมีน้อยหรือมาก จะได้รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อ “นภาฉันคงไม่ได้มาเยี่ยมบ่อยๆนะ เพราะงานที่บริษัทกำลังยุ่ง ฉันเองก็ต้องมานั่งเรียนรู้ พ่อเลี้ยงเล่นไม่เคยบอกอะไรฉันเลย งงไปหมด แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด เพื่อรอวันที่หนูปลากลับมา ฝากด้วยนะนภา” นภารู้ดีว่าภรรยาของเจ้านายเป็นผู้หญิงแบบไหน แต่ตอนนี้เธอจำเป็นต้องแสดงว่าเชื่อ ว่านภาห่วงสามีและลูกเลี้ยงจริงๆ “คุณธิดาไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันจะดูแลพ่อเลี้ยงให้ดีที่สุด ไว้มีอะไรฉันจะโทรไปบอกแล้วคุณค่อยมาก็ได้ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางไปมา” ธิดาจับมือนภาด้วยใบหน้าที่พยายามแสดงถึงความซึ้งใจ ทั้งที่ใจจริงกำลังยิ้มเพราะเชื่อว่านภารู้ไม่เท่าทันเธอ หลังจากที่ธิดาออกจากโรงพยาบาลไป เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลและเข้าไปยังห้องผู้ป่วยหนักทันที นภาเองมีหน้าที่แค่คอยดูหน้าห้อ
3การต้อนรับ “ป้าแก้วไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคืนนี้ผมดูแลเธอเอง” เมื่อความมืดเริ่มปกคลุมเกาะ ป้าแก้วก็เอาข้าวต้มขึ้นมาให้คนเจ็บ แต่ราชันบอกว่าเขาจะเป็นคนดูแลเธอเอง “แน่ใจนะคะนายหัว ไม่ต้องให้ป้านอนข้างบนด้วยแน่นะ” ป้าแก้วถามเพื่อความแน่ใจ เพราะเขายังไม่เคยเห็น ชายหนุ่มตรงหน้าที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดจะเคยดูแลใครเลย เคยแต่เป็นฝ่ายถูกเขาดูแลเสียมากกว่า “เชื่อใจผมสิครับ ลูกชายคนนี้โตแล้วนะ รับรองจะดูแลอย่างดี” นายหัวของเกาะกอดเอวแม่คนที่สองของเขาอย่างเอาใจ ปะการังนอนดูทั้งสองคนแสดงความรักต่อกัน เธอยิ่งรู้สึกอ่อนแอ เธอคิดถึงแม่ คิดถึงป้านภา คิดถึงพ่อ เธอจะต้องกลับไปหาทุกคนให้ได้ แต่เธอต้องหาทางแก้แค้นให้ได้เสียก่อน “มากินข้าวกัน ค่อยๆลุกนะ เดี๋ยวผมช่วย” นายหัวผู้เอาแต่ใจของเกาะ วันนี้ต้องเป็นพยาบาลจำเป็นดูแลคนเจ็บ รอยฟกช้ำบนหน้าที่ได้รูปของหญิงสาว ยิ่งทำให้ราชันเห็นแล้วรู้สึกสงสาร ใครกันนะที่ทำกับผู้หญิงตัวเล็กได้ถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มอยากให้ความทรงจำของปะการังกลับมา เขาอยากช่วยเธอแก้แค้นไอ้พวกที่ชอบรังแกผู้หญิง
“คนเมื่อกี้นี้ เขาเป็นเจ้าของเกาะ คนที่นี่เขาเรียกกันว่า นายหัวกัน แต่จริง ๆ เขาชื่อราชัน” ป้าแก้วแนะนำ “ต่อไปนี้เธอชื่อปะการังนะ ดูแล้วเธอก็น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายฉัน มันชื่อเจ้าพร้าว เดี๋ยวคงไม่เจอกับมัน” แม่บ้านของเกาะหรือจะถือได้ว่าเป็นแม่คนที่สองของราชัน รู้สึกถูกชะตาปะการัง อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยมีลูกสาว เลยรู้สึกเห็นแล้วสงสารและเอ็นดู “ที่นี่อยู่ไกลจากฝั่งมากไหมคะ” หญิงสาวอยากรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ตรงไหนของแผนที่ประเทศไทย “ไกลเหมือนกัน จากนี่ไปฝั่งถ้านั่งเรือธรรมดาก็เกือบสามชั่วโมง ถามทำไมจะไปภูเก็ตเหรอ เริ่มจำอะไรได้แล้วหรือไง” “เปล่าค่ะป้า ฉันแค่ถามเฉยๆ เพราะอยากรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ไกลจากฝั่งมากแค่ไหน” หญิงสาวเกือบเผลอตัว ทำให้โดนจับได้ว่าเธอแกล้งจำทุกอย่างไม่ได้ “ป้าไปทำกับข้าวก่อนนะ พวกไปเรือเตรียมจะออกไปหาปลากันแล้ว” เมื่อถูกทิ้งให้นอนอยู่คนเดียวกลางบ้าน หญิงสาวก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ถ้าไม่เจอกับสองคนนั้น ป่านนี้เธอคงกลายเป็นศพไปแล้ว ระหว่างที่โดนจับ
2เป็นคนใหม่ ธิดาได้รับทราบอาการของสามีจากนภา ที่อยู่เฝ้าเจ้านายอยู่ตลอดเวลา โดยที่ทางโรงพยาบาลจัดหาห้องไว้ให้ “นภาเธออยู่ที่นั่นแหละดีแล้ว เสื้อผ้าของเครื่องใช้ต่าง ๆ ฉันจะให้คนเอาไปให้นะ” ธิดารู้สึกสบายใจที่สามีของเธอไม่รู้เรื่องอะไรอีกแล้ว ถ้ารอดมาก็จะเป็นเพียงผักที่หายใจไปวันๆ และตอนนี้คนเก่าคนแก่ของบ้าน ก็จะขอไปเฝ้าเจ้านายที่โรงพยาบาลเลย ทางยิ่งสะดวก “งานเรียบร้อยดีใช่ไหม แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าอีนั่นมันตายแล้ว” ลูกน้องที่ถูกจ้างให้จับตัวปาฐิตาไว้ โทรมาทวงค่าทำงาน ธิดาจึงอยากแน่ใจ ว่าลูกเลี้ยงของเธอไม่มีชีวิตอยู่แล้วแน่ๆ “พวกผมทั้งตบทั้งตี จนสลบและอุ้มมันโยนลงทะเลแบบนั้น มีเหรอที่มันจะรอด ป่านนี้โดนสัตว์ทะเลกินจนใครมาเจอศพก็ไม่รู้แล้วว่าเป็นใคร” พวกโจรเถื่อนที่ธิดาจ้างยืนยันในผลงานของตัวเอง เพราะพวกมันซ้อมปาฐิตาจนสลบขนาดนั้น มีหรือที่เธอจะฟื้นมาช่วยตัวเองกลางทะเลได้ ธิดายอมจ่ายเงินกว่าห้าล้านบาท เพื่อเป็นค่าจ้างในการทำลายเสี้ยนหนามของเธอในครั้งนี้ พ่อเลี้ยงสินชัยป่วยหนัก ปาฐิตาก็หายตัวไปอย่าง