15
พบกันครั้งแรก
“เราว่าแกไม่ต้องตามหาลูกสาวแล้วแหละ”
คณินพูดเมื่อสายตาของเขาหันไปเห็นผู้หยิงสองคนที่เขาคุ้นเคยในร้านอาหารข้างๆ
“ดาริน”
ศศิวัฒน์มองตามสายตาของเพื่อนที่มองไปยัง ร้านอาหารอีกร้านที่อยู่ข้างกัน มีเพียงแค่ทางเดินเล็กๆในห้างกั้นอยู่
“นานแล้ว แกยังจำได้อยู่อีกเหรอ”
คณินแปลกใจที่เพื่อนของเขายังจำคนรักเก่าได้อยู่ ทั้งที่ทั้งสองคนไม่ได้เจอกันยี่สิบกว่าปี
“ฉันไม่ได้ยังจำได้ แต่ฉันไม่เคยลืมต่างหาก” ศศิวัฒน์พูดจากหัวใจ
เราเข้าไปคุยกับทั้งคู่ตอนนี้คงไม่ดี เดี๋ยวเราว่ารอให้ ดารินกับยิหวาต้องแยกกันกลับบ้าน เรารอคุยกับยิหวาคนเดียวจะดีกว่า
คณินเสนอความคิดเห็น และศศิวัฒน์ก็เห็นด้วย เพราะเขาไม่แน่ใจว่าดารินจะยังอยากเจอหน้าเขาอยู่ไหม
ในที่สุดสองคนแม่ลูกก็แยกกัน ดารินลงไปชั้นล่างเพื่อขึ้นรถกลับ ส่วนยิหวาเดินแยกไปทางร้านขายเครื่องเขียน
“ยิหวา” คณินเรียกหลังจากเดินตามหญิงสาวไป
“ยิหวา นี่ศศิวัฒน์เพื่อนของฉัน” คณินแนะนำเพียงเท่านี้ก่อน
“สวัสดีค่ะคุณศศิวัฒน์” หญิงสาวยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม
นี่เป็นครั้งแรก ที่ศศิวัฒน์ได้มีโอกาสเห็นหน้าลูกสาวของเขา แบบตัวเป็นๆ และเธอก็มีหน้าตาที่เหมือนเขาจริงๆด้วย
“หนูพอมีเวลาว่าง นั่งคุยธุระสำคัญกับฉันสักครู่ไหม”
คณินเอ่ยถาม แต่ก็พยายามใช้คำว่าธุระสำคัญ เพราะกลัวหญิงสาวจะไม่ยอมอยู่คุยด้วย
“ได้ค่ะ ถ้าคุณท่านบอกว่าทีธุระสำคัญ”
ยิหวาไม่เต็มใจ เพราะกลัวเรื่องที่ต้องคุยกันจะเกี่ยวกับภาคิน แต่เพราะเห็นแก่บุญคุณ ที่คณินเลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เกิด เธอจึงยอม
“ตั้งแต่เธอกเกิดมา แม่ของเธอบอกว่าพ่อเธอไปไหน”
คณินย้อนถาม ถึงแม้เขาทั้งหมดจะตกลงกันไว้แล้วว่า พ่อของเธอเสียชีวิตตั้งแต่ยิหวายังอยู่ในท้องแม่
“แม่บอกว่าพ่อตาย ตั้งแต่หนูยังไม่เกิด พ่อไม่ทันได้รู้ด้วยซ้ำว่ามีหนู” ยิหวาอธิบาย
“แล้วถ้าฉันบอกว่าพ่อของหนูยังไม่ตายหล่ะ หนูจะดีใจไหม” คณินเริ่มเข้าเรื่อง
หญิงสาวมองไปที่ชายอายุมากที่นั่งอยู่ข้างเจ้านายของเธอทันที เพราะเมื่อเจอกันตอนแรก หญิงสาวก็ยังแอบคิดว่าเขาหน้าคล้ายกับเธอมาก
“คุณท่านหมายถึง....” หญิงสาวพอจะเข้าใจ
“ใช่ ผู้ชายคนนี้เป็นพ่อของหนู” คณินยืนยันว่าหญิงสาวกำลังเข้าใจถูก
“หนูไม่มีพ่อมายี่สิบกว่าปี แล้วอยู่ดีๆ หนูกำลังจะมีพ่อ เพื่ออะไรคะ หนูงงไปหมดแล้ว”
หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อ ว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเธอ คือผู้ให้กำเนิด เขาไปอยู่ไหนมา ถึงปล่อยให้เธอกับแม่ต้องใช้ชีวิตกันอยู่สองคน
“ใจเย็นนะลูก พ่อมีคำอธิบาย”
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของศศิวัฒน์ ที่มีโอกาสแทนตัวเองว่าพ่อ แล้วก็ยังเป็นครั้งแรกของยิหวา ที่มีคนบอกว่าเธอเป็นลูก
คณินทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ที่ดารินรู้ว่ากำลังท้องยิหวา พร้อมกับที่ทางมารดาของศศิวัฒน์ประกาศว่าลูกชายกำลังจะแต่งงาน
ดารินแม่ของเธอพาเธอนี้ โดยที่ยังไม่ถามความจริงจากปากของศศิวัฒน์เลย ซึ่งตอนนั้นพ่อของเธอก็ไม่รู้ ว่าแม่ของเธอกำลังตั้งท้อง
ด้วยความสงสารของฐานิตา จึงขอร้องให้ดารินมาอยู่ที่บ้าน เพราะเป็นห่วงเด็กในท้อง และรับปากว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร แม้แต่ตัวยิหวาเอง
“แล้วตอนนี้คุณมีครอบครัวแล้วใช่ไหมคะ” หญิงสาวถาม
“ใช่พ่อแต่งานแล้ว แต่เราไม่ได้มีลูกด้วยกัน หนูคือลูกสาวคนเดียวของพ่อ”
ศศิวัฒน์มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาแห่งความรัก ทั้งที่เพิ่งเคยเห็นหน้ากันไม่กี่นาที
“ครอบครัวของคุณ คงรับไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าเขาจะรู้ว่าคุณมีลูก”
ยิหวา เข้าใจดี เธอไม่มีพ่อมาตั้งยี่สิบกว่าปีเธอยังอยู่ได้ เธอไม่อยากเป็นตัวเข้าไปทำรายชีวิตใคร
“ยิหวาฟังฉันะ” คณินพูดบ้าง
“สิ่งที่หนูพูด มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ พ่อของหนูต้องไปเป็นคนจัดการเอง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก มันไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงได้ ”
หญิงสาวบอกตัวเองไม่ถูกเหมือนกัน ว่าดีใจ น้อยใจ หรือเสียใจ ที่อยู่ดีๆเธอก็มีพ่อกับเขา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เธอฝันมาตลอดว่าอยากมีพ่อเหมือนครอบครัวคนอื่น
“หนูยังไม่ต้องยอมรับฉันเป็นพ่อก็ได้ แต่ขอโอกาสให้พ่อคนนี้ ได้ดูแลหนู ชดเชยกับเวลายี่สิบกว่าปี ที่พ่อไม่เคยได้ทำหน้าที่เลย”
ศศิวัฒน์ยอมทำทุกอย่าง เพื่อจะไม่ต้องเสียลูกสาวไปอีกครั้ง
หญิงสาวยอมบอกที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ให้กับศศิวัฒน์และคณิน แต่เธอขอร้องว่าห้ามบอกใครแม้แต่แม่ของเธอ
คณินเองก็ขอร้องยิหวา ว่าอย่าบอกเรื่องนี้ให้ดารินรู้ เพราะเธออาจจะไม่สบายใจ ถ้ารู้ว่าลูกกับพ่อได้เจอกัน
ยิหวารับปาก เพราะเข้าใจดี ว่าแม่เธอต้องไม่ยอมแน่ๆ ที่จะให้เธอกับพ่อได้รู้จักกัน
“ป้าครับ เคยเห็นผู้หญิงในรูปไหมครับ”
เมื่อภาคินรู้จากเพื่อนร่วมงาน ว่ายิหวาน่าพักอยู่แถวนี้ ชายหนุ่มก็เอารูปให้ชาวบ้านแถวนั้นดู เผื่อมีใครรู้จักและเคยเห็นเธอบ้าง
หลายชั่วโมงแล้ว ที่ชายหนุ่มเดินอยู่จนเกือบเป็นวงกลม รอบที่ทำงานของหญิงสาว จะเหลือแค่เพียงห้องเช่าเล็กๆ ที่อยู่ติดชายน้ำ ที่ดูแออัด จนภาคินคิดว่ายิหวา คงไม่ไปอยู่แน่ๆ
แต่ในเมื่อมาถึงที่แล้ว แล้วไปที่อื่นมาก็ทั่ว ยังไม่เจอ ชายหนุ่มจึงลองเดินเข้าไปในหอพักแห่งนี้
“ขอโทษนะครับ พอดีผมจะมาตามหาน้องสาว เธอหนีออกจากบ้าน แล้วไม่ค่อยสบายด้วยเลยเป็นห่วง”
ชายหนุ่มคิดคำโกหกมาอย่างดี และก็ใช้มุขนี้ กับทุกคนที่เขาไปถามหาหญิงสาว
“อ๋อ...หนูยิหวา เธออยู่ห้องนี้แหละ วันนั้นก็เป็นลม ป้าถามว่าไม่สบายเหรอ เห็นเธอบอกว่าเปล่าแพ้ท้อง ที่แท้ไม่สบายนี่เอง”
แค่รู้ว่าหญิงสาวที่เขาตามหา อยู่ที่แห่งนี้ ภาคินก็ดีใจจนอยากจะโกนให้ลั่น แต่นี่เขากลับได้รู้ว่าเธอกำลังท้องอยู่อีก
“นั่งรอตรงท่าน้ำก่อนก็ได้ เดี๋ยวก็คงใกล้เวลากลับแล้ว” เจ้าของบ้านชี้ไปที่โต๊ะไม้ริมน้ำ
“ป้าอย่าเพิ่งบอกน้องสาวผมนะ เดี๋ยวเธอหนีไปอีก เธอเป็นโรคซึมเศร้า เคยจะฆ่าตัวตายหลายครั้งแล้ว”
ชายหนุ่มเพิ่งรู้ตัว ว่าเขาก็โกหกเก่งไม่ใช่เล่น แถมเล่นละครได้สมบทบาทเอามากๆ
16ตามหัวใจคืน “ยิหวา เธอหลบหน้าฉันทำไม” หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว เมื่อจำได้ว่าเสียงที่กำลังเรียกชื้อเธอนั้นคือใคร “คุณภาคิน คุณมาที่นี่ได้ยังไง”หญิงสาวพยายามดึงมือที่จับแขนเธอไว้แน่น แต่มันไม่ขยับเลย“เปิดประตูแล้วเข้าไปคุยกันในห้อง อยากมายืนเถียงกันให้อายคนอื่นเหรอ”ภาคินเคล้นเสียงหนักแน่น แต่เบาเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน“คุณจะตามฉันมาทำไม”ยิหวาตวาดเสียงแหลมใส่หน้าชายหนุ่มทันที เมื่อประตูถูกปิดลง“ก็เพราะเธอหนีออกมาแบบนี้ไง”ภาคินคว้าแขนเล็กไว้และดึงร่างบางอย่างแรง จนหญิงสาวแทบจะเซล้ม“ฉันไม่ได้หนีคุณ แล้วทำไมต้องหนี การที่ฉันจะไปอยู่ที่ไหนทำอะไร มันไม่ได้เกี่ยวกับคุณเลย เราก็เป็นแค่อดีตเจ้านายกับลูกสาวคนรับใช้แค่นั้น”ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดอะไรต่อ ชายหนุ่มก็ปิดปากของเธอด้วยปากของเขา สองมือหนาประคองใบหน้ารูปไข่ไว้ในมืออย่างทะนุถนอม“พอ หยุดเถอะ ฉันรักเธอ ยิหวา ได้ยินไหมฉันรักเธอ” ชายหนุ่มดึงหญิงสาวมากอดไว้ แล้วพูดอยู่ซ้ำๆแบบนั้น“คุณรักฉันไม่ได้ค่ะ คนที่คุณควรรักคือคุณลิตา เขาคือคนที่คุณกำลังจะแต่งงานด้วย”หญิงสาวกัดฟันพูดด้วยความแค้น เธอพูดทุกถ้อยคำช้าๆแ
17เผชิญหน้ากับทุกปัญหา “ภาคินลูกไปไหนมาทั้งวัน คุณพ่อก็อีกคนยังไม่กลับมาเลย” ฐานิตาลุกออกจาโซฟา เดินมาหาลูกชายที่หน้าประตูบ้าน “ผมไปรับภรรยาผมกลับบ้านครับ” ภาคินยิ้มมุมปาก “ภรรยา ลูกหมายความว่าอะไร” ฐานิตายืนมองหน้าลูกชาย เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่ภาคินพูด แต่มันต้องเป็นเรื่องที่เธอจะต้องไม่ชอบใจแน่ๆ “สวัสดีค่ะคุณท่าน” ยิหวาเดินตามหลังภาคินเข้ามา “หมายความว่ายังไง ที่ภาคินบอกว่าพาภรรยามา” ฐานิตายืนถลึงตาด้วยความไม่พอใจ“นี่ค่ะ ทะเบียนสมรสเราเพิ่งไปจดกันมา เมื่อช่วงบ่ายนี่เอง”ยิหวายื่นกระดาษในมือของเธอ ให้มารดาของภาคินดู เพื่อให้เธอได้เห็นชื่อชัดๆว่าใครสมรสกับใคร“ไม่จริ๊ง ไม่จริง ภาคินลูกจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ แม่ไม่ยอม”ฐานิตาเดินตามทั้งคู่เข้ามาในบ้าน โดยครั้งนี้ยิหวา ไม่ได้นั่งข้างล่างเหมือนแต่ก่อน เธอนั่งบนโซฟาข้างๆสามีของเธอ“ลูกจะต้องแต่งงานกับหนูลิตาเท่านั้น ” ฐานิตากระแทกเสียง“ก็ได้นะคะ ถ้าคุณลิตาจะยอมเป็นเมียน้อย” ยิหวาต่อปากต่อคำ“ยิหวา ฉันหลงคิดว่าเธอมันเป็นเด็กดี ที่แท้ก็ไม่ต่างอะไรกับแม่ของเธอ”ฐานิตาลืมตัว
18อบอุ่นพร้อมหน้า “พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปฝากท้องนะ” ภาคินเดินประคองพาภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา เข้าไปในบ้านที่เข้าตั้งใจไว้เพื่อเป็นบ้านของครอบครัวที่น่ารักของเขา “วันนี้ยิหวาไม่ต้องแอบเหมือนทุกๆครั้งที่มาที่นี่” คำพูดของหญิงสาว ทำให้ภาคิน สำนึกได้ว่าที่ผ่านมา เขาไม่เป็นลูกผู้ชาย เขาไม่ให้เกียรติผู้หญิงที่เขารัก ทำเหมือนเธอเป็นสิ่งไร้ค่า พอถึงเวลาที่เสียไป เขาถึงเพิ่งรู้ว่าเธอมีค่าแค่ไหน “ฉันขอโทษนะ ที่ทำให้เธอรู้สึกไม่มีค่า เรามาเริ่มต้นจุดเทียนกันใหม่ แต่เทียนเล่มนี้ จะมีทั้งความรักและความอบอุ่น เป็นกำบังคอยป้องกันทุกอย่าง ที่จะมาทำให้เทียนแห่งรักนี้ดับลง ฉันสัญญาจะรักและดูแลเธอกับลูกไปตลอดชีวิต” หญิงสาวเชื่อทุกคำที่ภาคินพูด เพราะทุกอย่างที่เขาทำในเวลานี้ มันเป็นบทพิสูจน์แล้ว “ขอบคุณนะคะ ที่ทำทุกอย่างเพื่อยิหวากับลูก” บ้านหลังนี้ ที่ภาคินเคยคิดว่ามันใหญ่เกินไป เพราะมีถึงสี่ห้องนอน แต่ตอนนี้ มันจะเหลือว่างแค่เพียงสองห้อง เพราะอีกห้องต้องเตรียมไว้ สำหรับลูกของเขาที่กำลังจะเกิดมา ศศิวัฒน์กลับไป
1เรียกค่าไถ่ “คุณคะ นี่ลูกหายไปหลายวันแล้วนะคะ” ธิดาทำท่าทางผุดลุกผุดนั่ง เพื่อให้พ่อเลี้ยงสินใจ คิดว่าเธอเป็นห่วง ปาฐิตาซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเธอจริงๆ“ผมให้เพื่อนที่ภูเก็ต ช่วยสืบข่าวอยู่ คุณคิดว่าผมสบายใจเหรอ”พ่อเลี้ยงสินชัยมีเพื่อนทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทอยู่ที่ภูเก็ตหลายคน ทุกคนกำลังช่วยกันตามหาและสืบข่าวของปาฐิตาอยู่ แต่ยังไร้วี่แววกริ๊ง กริ๊ง“คุณคะใครโทรมาเบอร์บ้าน ”ธิดาทำท่าตกใจ เพราะทุกวันนี้เวลาติดต่อกัน ส่วนมาทุกคนก็ใช้แต่โทรศัพท์มือถือ“สวัสดีค่ะ” ธิดาเป็นคนรับโทรศัพท์“มีอะไรเกิดขึ้น”สินชัยรีบลุกจากโซฟา มารับภรรยาที่ทำท่าจะเป็นลมและปล่อยโทรศัพท์หลุดออกจากมือ“ฉันไม่เป็นไรค่ะ พวกมันจับตัวลูกสาวเราไปเรียกค่าไถ่”ธิดาเธอเป็นแม่เลี้ยงที่สร้างภาพได้อย่างสวยงาม ไม่เคยมีคำว่าลูกฉันลูกคุณ เพราะตัวเธอก็มีลูกติดมาหนึ่งคน จึงหวังจะสร้างภาพความครอบครัวเดียวกัน เพื่อให้พ่อเลี้ยงสินชัย รักลูกสาวของเธอเหมือนลูกแท้ๆด้วย“ว่าไง พวกแกเป็นใครและต้องการอะไร” สินชัยคว้าโทรศัพท์ที่ล่วงจากมือของธิดาขึ้นมาคุยต่อ“พ่อคะ พ่อช่วยปลาด้วย”สินชัยใจแทบขาด เมื่อได้ยินเสียง ที่เขาจำได้ด
เมื่อธิดากลับไปไม่นาน คุณหมอที่ทำหน้าที่รักษาพ่อเลี้ยงสินชัย ก็เรียกป้านภาให้เข้าไปในห้องคนไข้ขั้นวิกฤต“ป้านภาครับ เชิญข้างในดีกว่าท่านน่าจะอยากเจอป้า”นภาแปลกใจในคำพูดของคุณหมอ แต่ก็ยอมเดินตามเข้าไป เพราะเธออยากเห็นว่าตอนนี้เจ้านายของเธอเป็นอย่างไรบ้าง“นายหัวขับเรือเก่งขึ้นเยอะเลย อีกหน่อยก็ออกทะเลได้เองไม่ต้องมีผมตามมาด้วย”พร้าวลูกน้องคนสนิทของนายหัวราชัน พูดชมเจ้านายที่สามารถขับเรือได้เก่ง หลังจากให้เขาสอนได้เพียงไม่กี่ครั้ง“ไอ้พร้าวเอ็งมันก็พูดเกินไป ถ้าลองให้ข้ามาคนเดียว เจอลมเข้าหน่อย รับรองขับไม่เป็นแน่ๆ”ราชันเพิ่งมารับช่วงดูแลเกาะต่อจากบิดาที่เริ่มแก่ตัวลง และตัดสินใจกลับไปอยู่ที่ตัวเมืองภูเก็ต ได้ไม่ถึงปีถึงแม้เขาจะอาศัยอยู่ที่เกาะมาตั้งแต่เล็กก็ตาม แต่ก็ไม่เคยต้องดูแลทุกอย่างเหมือนตอนนี้ และช่วงหลังเขาก็ต้องไปศึกษาต่อจึงห่างจากเกาะไปหลายปี“นายหัว นั่นอะไรลอยอยู่”พร้าวชี้ไปที่อะไรสักอย่างที่กำลังลอยอยู่ไม่ห่างจากเรือของเขากับเจ้านาย“นายหัวคน คนจริงๆด้วย”“ไอ้พร้าวเอ็งขับเร็วหน่อย เผื่อเขายังไม่ตาย”ราชันรีบวิ่งไปที่หัวเรือ เพื่อหวังจะไปถึงคนที่กำลังเกาะลูกมะพร้าวลอยอย
2เป็นคนใหม่ ธิดาได้รับทราบอาการของสามีจากนภา ที่อยู่เฝ้าเจ้านายอยู่ตลอดเวลา โดยที่ทางโรงพยาบาลจัดหาห้องไว้ให้ “นภาเธออยู่ที่นั่นแหละดีแล้ว เสื้อผ้าของเครื่องใช้ต่าง ๆ ฉันจะให้คนเอาไปให้นะ” ธิดารู้สึกสบายใจที่สามีของเธอไม่รู้เรื่องอะไรอีกแล้ว ถ้ารอดมาก็จะเป็นเพียงผักที่หายใจไปวันๆ และตอนนี้คนเก่าคนแก่ของบ้าน ก็จะขอไปเฝ้าเจ้านายที่โรงพยาบาลเลย ทางยิ่งสะดวก “งานเรียบร้อยดีใช่ไหม แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าอีนั่นมันตายแล้ว” ลูกน้องที่ถูกจ้างให้จับตัวปาฐิตาไว้ โทรมาทวงค่าทำงาน ธิดาจึงอยากแน่ใจ ว่าลูกเลี้ยงของเธอไม่มีชีวิตอยู่แล้วแน่ๆ “พวกผมทั้งตบทั้งตี จนสลบและอุ้มมันโยนลงทะเลแบบนั้น มีเหรอที่มันจะรอด ป่านนี้โดนสัตว์ทะเลกินจนใครมาเจอศพก็ไม่รู้แล้วว่าเป็นใคร” พวกโจรเถื่อนที่ธิดาจ้างยืนยันในผลงานของตัวเอง เพราะพวกมันซ้อมปาฐิตาจนสลบขนาดนั้น มีหรือที่เธอจะฟื้นมาช่วยตัวเองกลางทะเลได้ ธิดายอมจ่ายเงินกว่าห้าล้านบาท เพื่อเป็นค่าจ้างในการทำลายเสี้ยนหนามของเธอในครั้งนี้ พ่อเลี้ยงสินชัยป่วยหนัก ปาฐิตาก็หายตัวไปอย่าง
“คนเมื่อกี้นี้ เขาเป็นเจ้าของเกาะ คนที่นี่เขาเรียกกันว่า นายหัวกัน แต่จริง ๆ เขาชื่อราชัน” ป้าแก้วแนะนำ “ต่อไปนี้เธอชื่อปะการังนะ ดูแล้วเธอก็น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายฉัน มันชื่อเจ้าพร้าว เดี๋ยวคงไม่เจอกับมัน” แม่บ้านของเกาะหรือจะถือได้ว่าเป็นแม่คนที่สองของราชัน รู้สึกถูกชะตาปะการัง อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยมีลูกสาว เลยรู้สึกเห็นแล้วสงสารและเอ็นดู “ที่นี่อยู่ไกลจากฝั่งมากไหมคะ” หญิงสาวอยากรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ตรงไหนของแผนที่ประเทศไทย “ไกลเหมือนกัน จากนี่ไปฝั่งถ้านั่งเรือธรรมดาก็เกือบสามชั่วโมง ถามทำไมจะไปภูเก็ตเหรอ เริ่มจำอะไรได้แล้วหรือไง” “เปล่าค่ะป้า ฉันแค่ถามเฉยๆ เพราะอยากรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ไกลจากฝั่งมากแค่ไหน” หญิงสาวเกือบเผลอตัว ทำให้โดนจับได้ว่าเธอแกล้งจำทุกอย่างไม่ได้ “ป้าไปทำกับข้าวก่อนนะ พวกไปเรือเตรียมจะออกไปหาปลากันแล้ว” เมื่อถูกทิ้งให้นอนอยู่คนเดียวกลางบ้าน หญิงสาวก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ถ้าไม่เจอกับสองคนนั้น ป่านนี้เธอคงกลายเป็นศพไปแล้ว ระหว่างที่โดนจับ
3การต้อนรับ “ป้าแก้วไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคืนนี้ผมดูแลเธอเอง” เมื่อความมืดเริ่มปกคลุมเกาะ ป้าแก้วก็เอาข้าวต้มขึ้นมาให้คนเจ็บ แต่ราชันบอกว่าเขาจะเป็นคนดูแลเธอเอง “แน่ใจนะคะนายหัว ไม่ต้องให้ป้านอนข้างบนด้วยแน่นะ” ป้าแก้วถามเพื่อความแน่ใจ เพราะเขายังไม่เคยเห็น ชายหนุ่มตรงหน้าที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดจะเคยดูแลใครเลย เคยแต่เป็นฝ่ายถูกเขาดูแลเสียมากกว่า “เชื่อใจผมสิครับ ลูกชายคนนี้โตแล้วนะ รับรองจะดูแลอย่างดี” นายหัวของเกาะกอดเอวแม่คนที่สองของเขาอย่างเอาใจ ปะการังนอนดูทั้งสองคนแสดงความรักต่อกัน เธอยิ่งรู้สึกอ่อนแอ เธอคิดถึงแม่ คิดถึงป้านภา คิดถึงพ่อ เธอจะต้องกลับไปหาทุกคนให้ได้ แต่เธอต้องหาทางแก้แค้นให้ได้เสียก่อน “มากินข้าวกัน ค่อยๆลุกนะ เดี๋ยวผมช่วย” นายหัวผู้เอาแต่ใจของเกาะ วันนี้ต้องเป็นพยาบาลจำเป็นดูแลคนเจ็บ รอยฟกช้ำบนหน้าที่ได้รูปของหญิงสาว ยิ่งทำให้ราชันเห็นแล้วรู้สึกสงสาร ใครกันนะที่ทำกับผู้หญิงตัวเล็กได้ถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มอยากให้ความทรงจำของปะการังกลับมา เขาอยากช่วยเธอแก้แค้นไอ้พวกที่ชอบรังแกผู้หญิง
18อบอุ่นพร้อมหน้า “พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปฝากท้องนะ” ภาคินเดินประคองพาภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา เข้าไปในบ้านที่เข้าตั้งใจไว้เพื่อเป็นบ้านของครอบครัวที่น่ารักของเขา “วันนี้ยิหวาไม่ต้องแอบเหมือนทุกๆครั้งที่มาที่นี่” คำพูดของหญิงสาว ทำให้ภาคิน สำนึกได้ว่าที่ผ่านมา เขาไม่เป็นลูกผู้ชาย เขาไม่ให้เกียรติผู้หญิงที่เขารัก ทำเหมือนเธอเป็นสิ่งไร้ค่า พอถึงเวลาที่เสียไป เขาถึงเพิ่งรู้ว่าเธอมีค่าแค่ไหน “ฉันขอโทษนะ ที่ทำให้เธอรู้สึกไม่มีค่า เรามาเริ่มต้นจุดเทียนกันใหม่ แต่เทียนเล่มนี้ จะมีทั้งความรักและความอบอุ่น เป็นกำบังคอยป้องกันทุกอย่าง ที่จะมาทำให้เทียนแห่งรักนี้ดับลง ฉันสัญญาจะรักและดูแลเธอกับลูกไปตลอดชีวิต” หญิงสาวเชื่อทุกคำที่ภาคินพูด เพราะทุกอย่างที่เขาทำในเวลานี้ มันเป็นบทพิสูจน์แล้ว “ขอบคุณนะคะ ที่ทำทุกอย่างเพื่อยิหวากับลูก” บ้านหลังนี้ ที่ภาคินเคยคิดว่ามันใหญ่เกินไป เพราะมีถึงสี่ห้องนอน แต่ตอนนี้ มันจะเหลือว่างแค่เพียงสองห้อง เพราะอีกห้องต้องเตรียมไว้ สำหรับลูกของเขาที่กำลังจะเกิดมา ศศิวัฒน์กลับไป
17เผชิญหน้ากับทุกปัญหา “ภาคินลูกไปไหนมาทั้งวัน คุณพ่อก็อีกคนยังไม่กลับมาเลย” ฐานิตาลุกออกจาโซฟา เดินมาหาลูกชายที่หน้าประตูบ้าน “ผมไปรับภรรยาผมกลับบ้านครับ” ภาคินยิ้มมุมปาก “ภรรยา ลูกหมายความว่าอะไร” ฐานิตายืนมองหน้าลูกชาย เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่ภาคินพูด แต่มันต้องเป็นเรื่องที่เธอจะต้องไม่ชอบใจแน่ๆ “สวัสดีค่ะคุณท่าน” ยิหวาเดินตามหลังภาคินเข้ามา “หมายความว่ายังไง ที่ภาคินบอกว่าพาภรรยามา” ฐานิตายืนถลึงตาด้วยความไม่พอใจ“นี่ค่ะ ทะเบียนสมรสเราเพิ่งไปจดกันมา เมื่อช่วงบ่ายนี่เอง”ยิหวายื่นกระดาษในมือของเธอ ให้มารดาของภาคินดู เพื่อให้เธอได้เห็นชื่อชัดๆว่าใครสมรสกับใคร“ไม่จริ๊ง ไม่จริง ภาคินลูกจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ แม่ไม่ยอม”ฐานิตาเดินตามทั้งคู่เข้ามาในบ้าน โดยครั้งนี้ยิหวา ไม่ได้นั่งข้างล่างเหมือนแต่ก่อน เธอนั่งบนโซฟาข้างๆสามีของเธอ“ลูกจะต้องแต่งงานกับหนูลิตาเท่านั้น ” ฐานิตากระแทกเสียง“ก็ได้นะคะ ถ้าคุณลิตาจะยอมเป็นเมียน้อย” ยิหวาต่อปากต่อคำ“ยิหวา ฉันหลงคิดว่าเธอมันเป็นเด็กดี ที่แท้ก็ไม่ต่างอะไรกับแม่ของเธอ”ฐานิตาลืมตัว
16ตามหัวใจคืน “ยิหวา เธอหลบหน้าฉันทำไม” หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว เมื่อจำได้ว่าเสียงที่กำลังเรียกชื้อเธอนั้นคือใคร “คุณภาคิน คุณมาที่นี่ได้ยังไง”หญิงสาวพยายามดึงมือที่จับแขนเธอไว้แน่น แต่มันไม่ขยับเลย“เปิดประตูแล้วเข้าไปคุยกันในห้อง อยากมายืนเถียงกันให้อายคนอื่นเหรอ”ภาคินเคล้นเสียงหนักแน่น แต่เบาเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน“คุณจะตามฉันมาทำไม”ยิหวาตวาดเสียงแหลมใส่หน้าชายหนุ่มทันที เมื่อประตูถูกปิดลง“ก็เพราะเธอหนีออกมาแบบนี้ไง”ภาคินคว้าแขนเล็กไว้และดึงร่างบางอย่างแรง จนหญิงสาวแทบจะเซล้ม“ฉันไม่ได้หนีคุณ แล้วทำไมต้องหนี การที่ฉันจะไปอยู่ที่ไหนทำอะไร มันไม่ได้เกี่ยวกับคุณเลย เราก็เป็นแค่อดีตเจ้านายกับลูกสาวคนรับใช้แค่นั้น”ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดอะไรต่อ ชายหนุ่มก็ปิดปากของเธอด้วยปากของเขา สองมือหนาประคองใบหน้ารูปไข่ไว้ในมืออย่างทะนุถนอม“พอ หยุดเถอะ ฉันรักเธอ ยิหวา ได้ยินไหมฉันรักเธอ” ชายหนุ่มดึงหญิงสาวมากอดไว้ แล้วพูดอยู่ซ้ำๆแบบนั้น“คุณรักฉันไม่ได้ค่ะ คนที่คุณควรรักคือคุณลิตา เขาคือคนที่คุณกำลังจะแต่งงานด้วย”หญิงสาวกัดฟันพูดด้วยความแค้น เธอพูดทุกถ้อยคำช้าๆแ
15พบกันครั้งแรก “เราว่าแกไม่ต้องตามหาลูกสาวแล้วแหละ” คณินพูดเมื่อสายตาของเขาหันไปเห็นผู้หยิงสองคนที่เขาคุ้นเคยในร้านอาหารข้างๆ“ดาริน”ศศิวัฒน์มองตามสายตาของเพื่อนที่มองไปยัง ร้านอาหารอีกร้านที่อยู่ข้างกัน มีเพียงแค่ทางเดินเล็กๆในห้างกั้นอยู่“นานแล้ว แกยังจำได้อยู่อีกเหรอ” คณินแปลกใจที่เพื่อนของเขายังจำคนรักเก่าได้อยู่ ทั้งที่ทั้งสองคนไม่ได้เจอกันยี่สิบกว่าปี“ฉันไม่ได้ยังจำได้ แต่ฉันไม่เคยลืมต่างหาก” ศศิวัฒน์พูดจากหัวใจเราเข้าไปคุยกับทั้งคู่ตอนนี้คงไม่ดี เดี๋ยวเราว่ารอให้ ดารินกับยิหวาต้องแยกกันกลับบ้าน เรารอคุยกับยิหวาคนเดียวจะดีกว่าคณินเสนอความคิดเห็น และศศิวัฒน์ก็เห็นด้วย เพราะเขาไม่แน่ใจว่าดารินจะยังอยากเจอหน้าเขาอยู่ไหมในที่สุดสองคนแม่ลูกก็แยกกัน ดารินลงไปชั้นล่างเพื่อขึ้นรถกลับ ส่วนยิหวาเดินแยกไปทางร้านขายเครื่องเขียน“ยิหวา” คณินเรียกหลังจากเดินตามหญิงสาวไป“ยิหวา นี่ศศิวัฒน์เพื่อนของฉัน” คณินแนะนำเพียงเท่านี้ก่อน“สวัสดีค่ะคุณศศิวัฒน์” หญิงสาวยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อมนี่เป็นครั้งแรก ที่ศศิวัฒน์ได้มีโอกาสเห็นหน้าลูกสาวของเขา แบบตัวเป็นๆ และเธอก็มีหน้าตาที่เหมือน
14ความลับ “แกยังจำดารินได้ไหม” คณินเริ่มเข้าเรื่อง “จำได้สิ ผู้หญิงที่ฉันรักทั้งคนนะ แล้วแกถามถึงทำไม แกเจอดารินเหรอ” ศศิวัฒน์ทำท่ากระตือรือร้นอยากรู้ “อืม...เจอทุกวันเลย เจอมาหลายปีแล้วด้วย” คนตอบไม่พูดตรงๆ “หมายความว่าอะไรวะ คณินแกจะมายียวนเพื่ออะไร มีอะไรเกี่ยวกับดาริน แกพูดมาให้หมดเลย” ศศิวัฒน์รักและจริงใจกับดาริน เขาต้องการจะให้เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องกับเขา แต่ทุกอย่างก็พังลง เมื่อมารดาของเขาประกาศผ่านสื่อ ว่าเขากำลังจะแต่งงานกับหญิงสาวชั้นสูง ตั้งแต่นั้นมาศศิวัฒน์ก็ไม่เจอดารินอีกเลย “ดารินเขาอยู่ที่บ้านฉัน ตั้งแต่ที่แม่แกประกาศว่าแกจะแต่งงานนั่นแหละ” คณินเริ่มเล่า “เฮ้ย! แล้วทำไมแกไม่บอกฉัน แกรู้ไหมคณินว่าฉันตามหาดารินจนแทบบ้า” ศศิวัฒน์ขึ้นเสียง “ดารินเขาขอฉันไว้ เขาบอกถ้าฉันบอกแก เขาก็จะพาลูกในท้องหนีไปที่อื่น ฉันสงสารเด็ก” “ลูกในท้อง” ศศิวัฒน์พูดทวนคำพูดของเพื่อน เพราะเขาไม่เคยรู้เลย ว่าดารินท้อง “ใช่ ดารินเขาท้อง” คณินเน้นย้ำ เพราะหวังว่าเพื่อนจะพอเข้าใจ ว่าเรื่องราว
13ตามหา หนึ่งเดือนแล้ว ที่ภาคินไม่ได้เจอไม่ได้คุยไม่ได้ข่าวอะไรของหญิงสาวที่เขาสุดแสนจะคิดถึง ชายหนุ่มคิดถึงครั้งที่เขาไปเรียนอยู่อเมริกา เขาก็เคยทำกับเธอแบบนี้ เธอคงทั้งเจ็บทั้งเสียใจ ไม่ต่างกับเขา “คุณรู้ไหม ภาคินไม่ไปทำงานหลายวันแล้ว ผมถามหนูลิตา เธอก็บอกว่า ภาคินดื่มหนักเกือบทุกคืน” คณินทำงานที่เดียวกับลุกชายและลลิตา เขาถึงมีโอกาสได้สังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกชาย “คุณคิดว่ายังไงคะ” ฐานิตาไม่เข้าใจ ว่าสามีต้องการจะบอกอะไร “ผมว่าการที่ยิหวาออกไปอยู่ข้างนอกแบบนี้ มันยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ ลูกชายเราเป็นแบบนี้ คุณคิดว่า คนอย่างหนูลิตาเขาจะอยากฝากชีวิตไว้ด้วยเหรอ” ฐานิตาเห็นด้วยกับคำพูดของสามี แต่เธอก็ไม่สามารถจะยอมรับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างลูกชายเธอกับคนงานในบ้านได้ “ไม่ใช่ว่าฉันไม่สงสารลูกนะ แต่คุณจะให้ฉันยอมรับลูกคนรับใช้มาเป็นสะใภ้ ฉันทำใจไม่ได้หรอก” “คุณรังเกียจยิหวา เพียงเพราะมันเป็นลูกสาวคนใช้ใช่ไหม และถ้าสมมุติว่าวันนึง ลูกสาวคนใช้กลายเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของข้าราชการระดับสูงในบ้านเมืองเร
12เริ่มต้นชีวิตใหม่ หญิงสาวออกไปอยู่ข้างนอก โดยที่เธอบอกทุกคนยกเว้นภาคิน ฐานิตาเห็นด้วย เพราะเธอคิดว่าการที่ยิหวาออกไปอยู่ที่อื่น ลุกชายของเธอ น่าจะลืมเธอได้อีกไม่นาน และคงยอมที่จะแต่งงานกับลลิตา “ดาริน ถ้าเธอจะออกไปอยู่กับลูกสาวก็ได้นะ แต่ฉันขอเวลาหาคนใหม่มาแทนก่อน ส่วนป้าช้อยก็ให้แกอยู่ที่นี่ต่อเถอะ อย่าเอาแกไปลำบากด้วยเลย” ฐานิตาถึงจะรู้สึกเสียดายดาริน เพราะอยู่ด้วยกันมานานจนรู้ใจ แต่ก็ต้องยอมแลกกับการที่ลุกชายของเธอจะได้ห่างจากยิหวา “ค่ะคุณท่าน คงอีกสักพัก ถึงจะย้ายตามลูกไป” ดารินเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นแม่ดี ว่าฐานิตาก็ต้องอยากให้ลูกชายของเขาได้ผู้หญิงที่ดีที่สุด “น้าดารินครับ ผมไม่เห็นยิหวาหลายวันแล้ว เธอไปไหน” ภาคินเก็บความอยากรู้และไม่สบายใจไว้ไม่ไหวแล้ว เขาตัดสินใจเข้ามาถามดารินตรงๆ “ยิหวาเขาออกไปอยู่ข้างนอกแล้วค่ะ แต่น้าก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน เพราะเขาไม่ได้บอกไว้” ดารินไม่ได้โกหก เพราะลูกสาวของเธอไม่ได้บอกอะไร มากไปกว่า ว่าที่พักอยู่ใกล้กับที่ทำงาน “ทำไมต้องออกไปอยู่ข้างนอก
11ลาก่อน “เป็นอะไรไป หน้าซีดเชียว” ดารินเดินเข้ามาจับตัวลูกสาว เมื่อเห็ใบหน้าที่ซีดเซียว “แม่คะ ถ้าหนูหางานทำได้ เราไปอยู่ที่อื่นกันนะคะ” หญิงสาวพูดออกมาอย่างไม่ทันระวัง ว่ามารดาจะสงสัยว่าอยู่ดีๆทำไมเธอถึงพูดแบบนี้ “ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ จะให้แม่ทิ้งคุณท่าน ทิ้งป้าช้อยไปได้ยังไงกัน” ดารินหันไปทไหน้าดุใส่ลูกสาว “เดี๋ยวไม่มีเรา คุณท่านก็หาแม่บ้านใหม่มาทำงาน แม่จะอยู่เป็นคนใช้เขาไปตลอดชีวิตเหรอ” ยิหวาไม่รู้เหมือนกัน ทำไมเธอถึงกล้าพูดแบบนี้ ทั้งที่ดารินก็สอนเธอตั้งแต่เล็กจนโต ว่าให้รู้จักและสำนึกในบุญคุณของครอบครัวอรรถจิรานนท์ ที่ทำให้เธอกับแม่ มีที่ซุกหัวนอนอย่างเช่นทุกวันนี้ “ยิหวา มันเกิดอะไรขึ้นกันลูก คุณท่านเรียกลูกไปพูดเรื่องอะไร ทำไมถึงออกมาแล้วพูดจาแบบนี้” ดารินเลี้ยงลูกมา เธอรู้ว่าลูกสาวของเธอ ไม่เคยคิดจะไปจากที่นี่ และอยู่ดีๆ ทำไมถึงได้มาพูดจาเอาจริงเอาจังแบบนี้ “ไม่มีอะไรหรอกค่ะแม่ หนูไปรีดผ้าต่อนะคะ” นับตั้งแต่วันนั้นยิหวาก็พยายามหางานทำ เอาที่อยู่ไกลจากบ้านของภาคินให้มากที่สุด
10ปล่อยมือหรือเดินต่อ เมื่อไฟถูกปิดลง ความคิดถึงที่ทั้งคู่ต่างถวิลหากันมาเกือบสามปี ก็เหมือนพายุ ที่ถูกปลดปล่อยมาในทันที เสื้อผ้าถูกถอดออกจากเรือนร่างบางเล็กของยิหวา อย่างรวดเร็ว จนเธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว ปากหนาทั้งหอมทั้งจูบไปทุกส่วนของร่าง เหมือนเขาอยากจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว “คุณภาคินคะ ยิหวาเจ็บนะ” หญิงสาวร้องบอกเขา เพราะเธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังช้ำไปทั้งตัว ไม่มีเสียงตอบจากคนที่กำลังรุกราน แต่เขากลับใช้ทั้งสองมือบีบเคล้นอกอวบขึ้นมาก่อนจะใช้ปากหนาทั้งเลียและดูด อย่างกระหาย จนเจ้าของอกกลมต้องบิดไปทั้งตัวด้วยความเสียวซ่าน ที่เธอไม่ได้สัมผัสมันมานานแสนนาน “อ่า...อื้อ......” หญิงสาวกลั้นเสียงครางไว้ไม่ไหวอีกต่อไป โคมไฟหัวเตียงถูกดับลง พร้อมกับความเป็นชายของเขา ที่เข้ามาอยู่ในกลีบชมพูอวบของหญิงสาว สะโพกกลมขยับตามจังหวะที่ชายหนุ่มคอยควบคลุม ให้เธอเคลื่อนไหวตามจังหวะ จากสายน้ำที่ไหลอย่างเชื่องช้า ก็เปลี่ยนเป็นทะเล ที่ถูกเกลียวคลื่นโหมกระหน่ำจน คนตัวเล็กต้องจิกเล็บสวยลงไปบนแผ่นหลังของชายหนุ่