9
นายหญิงของเกาะ
“ทรายขาวมากเลยค่ะ”
เมื่อราชันพาปะการังมาถึงชายหาดที่สวยที่สุดในเกาะ หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นที่ทรายเป็นสีขาว ตัดกับสีของน้ำทะเลที่เป็นสีฟ้า ดูสวยงามเหมือนในภาพถ่ายเลย
“ที่นี่เราไม่เคยให้คนนอกมาเล่น พวกเราอยากรักษาไว้ พ่อของผมเคยมีเกาะอยู่ที่หนึ่งแต่เป็นเพียงเกาะเล็กๆ ไม่มีคนอยู่ เราพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำเพียงแค่นั้น แต่ไม่นานทุกอย่างก็ถูกทำลาย พ่อโดนผู้มีอิทธิพลบีบให้ขาย และตอนนี้ที่นี่ก็กำลังโดนบีบอยู่เหมือนกัน ”
ราชันมองหน้านายหญิงคนใหม่ด้วยความรู้สึกเหมือนคนที่กำลังเหนื่อยและต้องการกำลังใจ
“แต่ฉันเชื่อนะว่าคุณจะรักษาเกาะนี้ไว้ได้ เพราะที่นี่มีชาวบ้าน พวกเขารู้ว่าคุณรักพวกเขา ดังนั้นพวกเขาคงไม่อยากตกไปอยู่ในการดูแลของคนอื่นแน่ๆ ”
พูดจบหญิงสาวก็เดินมาจับมือของนายหัว และมองสบตาด้วยรอยยิ้มที่แสนหวาน
“ส่วนฉันคงช่วยอะไรไม่ได้มาก นอกจากเป็นกำลังใจให้นะ”
ยังไม่ทันจะตั้งตัวหญิงสาวร่างบาง ก็ถูกนายหัวอุ้มเธอจนตัวลอย แล้วเอาไปโยนลงทะเล ก่อนจะล้มตัวลงไปกอดเธอจากทางด้านหลัง เพราะกลัวหญิงสาวจะลุกไม่ขึ้นแล้วจะสำลักน้ำเอา
“นายหัวเล่นทีเผลอ”
ปะการังเอาคืนบ้าง คราวนี้เธอกระโดดขึ้นขี่หลังราชัน พร้อมกับเอาสองมือรัดคอเขาไว้แน่นก่อนจะสั่งให้ชายหนุ่มวิ่งลงทะเล
เมื่อเริ่มออกไปถึงบริเวณที่น้ำลึก ราชันก็แกล้งล้ม จนหญิงสาวจมลงไปทั้งตัว คราวนี้พอเธอคว้าตัวนายหัวไว้ได้ก็กอดเสียแน่นเลย ด้วยความตกใจ
“ร้องไห้ทำไม”
เมื่อราชันคว้าตัวปะการังมากอดคอไว้ เพื่อไม่ให้เธอจมลงไป เพราะเขาสูงกว่าเธอ จึงได้เห็นว่าหญิงสาวกำลังร้องไห้
“ไม่มีอะไร น้ำทะเลมันเข้าตา” ปะการังโกหก
“โกรธผมเหรอที่แกล้ง ผมขอโทษนะ”
เมื่อได้ยินราชันพูดแบบนี้ คราวนี้หญิงสาวกอดเขาทั้งตัวก่อนจะปล่อยโฮออกมาเหมือนเด็กที่กำลังเสียใจและหวาดกลัวอะไรบางอย่างอยู่
“เลิกๆ ขึ้นฝั่งกัน เป็นอะไรกันแน่ คุณทำผมไม่สบายใจนะ”
คราวนี้นายหัวอุ้มคนตัวเล็กทั้งตัวจนลอยขึ้น เพื่อจะได้ถึงชายหาดได้เร็วขึ้น
“ร้องไห้ทำไม ไหนบอกผมหน่อย ตอนนี้คุณเป็นภรรยาผมแล้วนะ ถึงแม้จะแค่ในนามก็ตาม”
ราชันถามหลังจากวางปะการังให้นั่งบนหาดทรายข้างๆตัวเขา
“ภาพที่พวกนั้นมันทำร้ายฉัน มันกลับเข้ามาในความคิด ฉันกลัว กลัวพวกมันจะรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ กลัวพวกมันจะจับฉันโยนลงไปในทะเลอีก”
หญิงสาวกอดเข่าทั้งสองข้างฟุบหน้าลง ร้องไห้ตัวสั่นด้วยความกลัวที่มันยังคงฝังใจอยู่
“ไม่ต้องกลัวแล้ว ก่อนหน้านี้คุณเป็นใครผมไม่รู้ แต่ตอนนี้คุณเป็นเมียนายหัวที่หล่อที่สุดในท้องทะเลนี้ ผมไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายคุณแน่ๆ”
ราชันโอบไหล่หญิงสาวมากอดไว้ พยายามพูดให้เธอรู้สึกดีขึ้น และเขาคิดว่าเธอน่าจะเริ่มจำอะไรได้มั่งแล้ว
“กลับกันเถอะจะเย็นแล้วเดี๋ยวไม่สบาย”
ราชันชวนปะการังกลับ เพราะเห็นท้องฟ้าเริ่มมืดมาอีกแล้ว คืนนี้ฝนคงตกอีกแน่นอน
“ไปเปียกที่ไหนกันมา ซนกันเป็นเด็กๆเลย”
ป้าแก้วกับมณีกำลังช่วยกันจัดห้องของนายหัวใหม่ เพื่อให้เหมาะกับการนอนสองคน
“ผมพาภรรยาไปเล่นน้ำมาครับ”
ราชันตอบเพราะต้องการยวนป้าแก้วที่อยากให้เขารับปะการังเป็นภรรยา
“ไปอาบน้ำห้องนู้นก่อนเลย กำลังจัดห้องกันอยู่ใกล้เสร็จแล้ว”
ยิ่งเห็นป้าแก้วจัดห้องแบบนี้ ทั้งสองคนยิ่งรู้สึกตื่นเต้น ที่คืนนี้เขาต้องนอนด้วยกันในฐานะสามีภรรยา ถึงแม้มันจะเป็นแค่ในนาม แต่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่แน่ใจ ว่าคืนนี้มันจะยังเป็นแค่ในนามอีกไหม
อาหารมื้อเย็นจากที่ปะการังเคยนั่งกินในห้องและราชันเองก็ลงไปกินกับพร้าว แต่ตอนนี้ป้าแก้วจัดให้สามีภรรยานั่งกินด้วยกันบนเรือน
“ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป ป้าจะสอนนายหญิงทำกับข้าว นายหัวจะไม่ได้กินฝีมือป้าแล้วนะ เป็นครอบครัวภรรยาก็ต้องทำให้สามีกิน”
ป้าแก้วหันมาบอกปะการังหลังจากที่จัดโต๊ะอาหารให้เรียบร้อยพร้อมกิน
“แล้วให้ผมแยกขึ้นมากินแบบนี้ เจ้าพร้าวมันไม่โกรธผมแย่เหรอครับป้า”
นายหัวอดเป็นห่วงลูกน้องที่เป็นเสมือนน้องชายสุดที่รักไม่ได้
“ให้มันน้อยใจไปค่ะ จะได้รีบโตรีบมีเมียสักที กว่าจะมีหลานป้าแก่พอดี ไม่มีคนช่วยเลี้ยงนะ นายหัวก็เหมือนกัน ถ้าไม่รีบมีป้าแก่ก่อน ลูกใคร ใครก็เลี้ยงเอา”
ป้าแก้วพูดทิ้งท้ายไว้ ทำเอาทั้งคู่หน้าแดง ราชันอยากจะถามปะการังตรงๆ ว่าเธอพร้อมจะเป็นเมียเขาแบบจริงๆไหม แต่ก็ไม่กล้า เพราะกลัวหญิงสาวจะหาว่าเขาบ้ากาม
“กับข้าวน่ากินทั้งนั้นเลย ถ้าพรุ่งนี้ฉันทำคุณจะกินได้ไหมนะ” หญิงสาวทำท่ากังวล
“ไม่มีใครทำอะไรเป็นและดีตั้งแต่เกิดหรอก ของแบบนี้มันฝึกกันได้ และผมว่าภรรยาหรือแม่บางคนก็ไม่ได้ทำอาหารอร่อย แต่สามีและลูกๆก็ชอบให้ทำให้กิน เพราะอะไรคุณรู้ไหม”
ราชันถามพร้อมกับหยุดกิน และเงยหน้ามามองหน้าคนที่นั่งข้างหน้าอย่างหวานซึ้ง
“ไม่รู้ค่ะ”
“เพราะนอกจากความอร่อย มันมีความรักอยู่ในนั้นด้วย ถ้าพรุ่งนี้คุณยังทำได้ไม่อร่อย ผมคงจะถูกปากถ้าคุณใส่ความรักลงไป”
เจอคำหวานเข้าไปแบบนี้ปะการังแทบไม่ยอมเงยหน้าจากจานข้าวเลย เธอไม่เคยคิดมาก่อน ว่านายหัวหน้าโหดถึงแม้จะผิวขาวแต่หนวดบนหน้าทำให้ดูเป็นคนที่ดูเถื่อนจะปากหวานได้ถึงเพียงนี้
1เรียกค่าไถ่ “คุณคะ นี่ลูกหายไปหลายวันแล้วนะคะ” ธิดาทำท่าทางผุดลุกผุดนั่ง เพื่อให้พ่อเลี้ยงสินใจ คิดว่าเธอเป็นห่วง ปาฐิตาซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเธอจริงๆ“ผมให้เพื่อนที่ภูเก็ต ช่วยสืบข่าวอยู่ คุณคิดว่าผมสบายใจเหรอ”พ่อเลี้ยงสินชัยมีเพื่อนทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทอยู่ที่ภูเก็ตหลายคน ทุกคนกำลังช่วยกันตามหาและสืบข่าวของปาฐิตาอยู่ แต่ยังไร้วี่แววกริ๊ง กริ๊ง“คุณคะใครโทรมาเบอร์บ้าน ”ธิดาทำท่าตกใจ เพราะทุกวันนี้เวลาติดต่อกัน ส่วนมาทุกคนก็ใช้แต่โทรศัพท์มือถือ“สวัสดีค่ะ” ธิดาเป็นคนรับโทรศัพท์“มีอะไรเกิดขึ้น”สินชัยรีบลุกจากโซฟา มารับภรรยาที่ทำท่าจะเป็นลมและปล่อยโทรศัพท์หลุดออกจากมือ“ฉันไม่เป็นไรค่ะ พวกมันจับตัวลูกสาวเราไปเรียกค่าไถ่”ธิดาเธอเป็นแม่เลี้ยงที่สร้างภาพได้อย่างสวยงาม ไม่เคยมีคำว่าลูกฉันลูกคุณ เพราะตัวเธอก็มีลูกติดมาหนึ่งคน จึงหวังจะสร้างภาพความครอบครัวเดียวกัน เพื่อให้พ่อเลี้ยงสินชัย รักลูกสาวของเธอเหมือนลูกแท้ๆด้วย“ว่าไง พวกแกเป็นใครและต้องการอะไร” สินชัยคว้าโทรศัพท์ที่ล่วงจากมือของธิดาขึ้นมาคุยต่อ“พ่อคะ พ่อช่วยปลาด้วย”สินชัยใจแทบขาด เมื่อได้ยินเสียง ที่เขาจำได้ด
เมื่อธิดากลับไปไม่นาน คุณหมอที่ทำหน้าที่รักษาพ่อเลี้ยงสินชัย ก็เรียกป้านภาให้เข้าไปในห้องคนไข้ขั้นวิกฤต“ป้านภาครับ เชิญข้างในดีกว่าท่านน่าจะอยากเจอป้า”นภาแปลกใจในคำพูดของคุณหมอ แต่ก็ยอมเดินตามเข้าไป เพราะเธออยากเห็นว่าตอนนี้เจ้านายของเธอเป็นอย่างไรบ้าง“นายหัวขับเรือเก่งขึ้นเยอะเลย อีกหน่อยก็ออกทะเลได้เองไม่ต้องมีผมตามมาด้วย”พร้าวลูกน้องคนสนิทของนายหัวราชัน พูดชมเจ้านายที่สามารถขับเรือได้เก่ง หลังจากให้เขาสอนได้เพียงไม่กี่ครั้ง“ไอ้พร้าวเอ็งมันก็พูดเกินไป ถ้าลองให้ข้ามาคนเดียว เจอลมเข้าหน่อย รับรองขับไม่เป็นแน่ๆ”ราชันเพิ่งมารับช่วงดูแลเกาะต่อจากบิดาที่เริ่มแก่ตัวลง และตัดสินใจกลับไปอยู่ที่ตัวเมืองภูเก็ต ได้ไม่ถึงปีถึงแม้เขาจะอาศัยอยู่ที่เกาะมาตั้งแต่เล็กก็ตาม แต่ก็ไม่เคยต้องดูแลทุกอย่างเหมือนตอนนี้ และช่วงหลังเขาก็ต้องไปศึกษาต่อจึงห่างจากเกาะไปหลายปี“นายหัว นั่นอะไรลอยอยู่”พร้าวชี้ไปที่อะไรสักอย่างที่กำลังลอยอยู่ไม่ห่างจากเรือของเขากับเจ้านาย“นายหัวคน คนจริงๆด้วย”“ไอ้พร้าวเอ็งขับเร็วหน่อย เผื่อเขายังไม่ตาย”ราชันรีบวิ่งไปที่หัวเรือ เพื่อหวังจะไปถึงคนที่กำลังเกาะลูกมะพร้าวลอยอย
2เป็นคนใหม่ ธิดาได้รับทราบอาการของสามีจากนภา ที่อยู่เฝ้าเจ้านายอยู่ตลอดเวลา โดยที่ทางโรงพยาบาลจัดหาห้องไว้ให้ “นภาเธออยู่ที่นั่นแหละดีแล้ว เสื้อผ้าของเครื่องใช้ต่าง ๆ ฉันจะให้คนเอาไปให้นะ” ธิดารู้สึกสบายใจที่สามีของเธอไม่รู้เรื่องอะไรอีกแล้ว ถ้ารอดมาก็จะเป็นเพียงผักที่หายใจไปวันๆ และตอนนี้คนเก่าคนแก่ของบ้าน ก็จะขอไปเฝ้าเจ้านายที่โรงพยาบาลเลย ทางยิ่งสะดวก “งานเรียบร้อยดีใช่ไหม แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าอีนั่นมันตายแล้ว” ลูกน้องที่ถูกจ้างให้จับตัวปาฐิตาไว้ โทรมาทวงค่าทำงาน ธิดาจึงอยากแน่ใจ ว่าลูกเลี้ยงของเธอไม่มีชีวิตอยู่แล้วแน่ๆ “พวกผมทั้งตบทั้งตี จนสลบและอุ้มมันโยนลงทะเลแบบนั้น มีเหรอที่มันจะรอด ป่านนี้โดนสัตว์ทะเลกินจนใครมาเจอศพก็ไม่รู้แล้วว่าเป็นใคร” พวกโจรเถื่อนที่ธิดาจ้างยืนยันในผลงานของตัวเอง เพราะพวกมันซ้อมปาฐิตาจนสลบขนาดนั้น มีหรือที่เธอจะฟื้นมาช่วยตัวเองกลางทะเลได้ ธิดายอมจ่ายเงินกว่าห้าล้านบาท เพื่อเป็นค่าจ้างในการทำลายเสี้ยนหนามของเธอในครั้งนี้ พ่อเลี้ยงสินชัยป่วยหนัก ปาฐิตาก็หายตัวไปอย่าง
“คนเมื่อกี้นี้ เขาเป็นเจ้าของเกาะ คนที่นี่เขาเรียกกันว่า นายหัวกัน แต่จริง ๆ เขาชื่อราชัน” ป้าแก้วแนะนำ “ต่อไปนี้เธอชื่อปะการังนะ ดูแล้วเธอก็น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายฉัน มันชื่อเจ้าพร้าว เดี๋ยวคงไม่เจอกับมัน” แม่บ้านของเกาะหรือจะถือได้ว่าเป็นแม่คนที่สองของราชัน รู้สึกถูกชะตาปะการัง อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยมีลูกสาว เลยรู้สึกเห็นแล้วสงสารและเอ็นดู “ที่นี่อยู่ไกลจากฝั่งมากไหมคะ” หญิงสาวอยากรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ตรงไหนของแผนที่ประเทศไทย “ไกลเหมือนกัน จากนี่ไปฝั่งถ้านั่งเรือธรรมดาก็เกือบสามชั่วโมง ถามทำไมจะไปภูเก็ตเหรอ เริ่มจำอะไรได้แล้วหรือไง” “เปล่าค่ะป้า ฉันแค่ถามเฉยๆ เพราะอยากรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ไกลจากฝั่งมากแค่ไหน” หญิงสาวเกือบเผลอตัว ทำให้โดนจับได้ว่าเธอแกล้งจำทุกอย่างไม่ได้ “ป้าไปทำกับข้าวก่อนนะ พวกไปเรือเตรียมจะออกไปหาปลากันแล้ว” เมื่อถูกทิ้งให้นอนอยู่คนเดียวกลางบ้าน หญิงสาวก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ถ้าไม่เจอกับสองคนนั้น ป่านนี้เธอคงกลายเป็นศพไปแล้ว ระหว่างที่โดนจับ
3การต้อนรับ “ป้าแก้วไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคืนนี้ผมดูแลเธอเอง” เมื่อความมืดเริ่มปกคลุมเกาะ ป้าแก้วก็เอาข้าวต้มขึ้นมาให้คนเจ็บ แต่ราชันบอกว่าเขาจะเป็นคนดูแลเธอเอง “แน่ใจนะคะนายหัว ไม่ต้องให้ป้านอนข้างบนด้วยแน่นะ” ป้าแก้วถามเพื่อความแน่ใจ เพราะเขายังไม่เคยเห็น ชายหนุ่มตรงหน้าที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดจะเคยดูแลใครเลย เคยแต่เป็นฝ่ายถูกเขาดูแลเสียมากกว่า “เชื่อใจผมสิครับ ลูกชายคนนี้โตแล้วนะ รับรองจะดูแลอย่างดี” นายหัวของเกาะกอดเอวแม่คนที่สองของเขาอย่างเอาใจ ปะการังนอนดูทั้งสองคนแสดงความรักต่อกัน เธอยิ่งรู้สึกอ่อนแอ เธอคิดถึงแม่ คิดถึงป้านภา คิดถึงพ่อ เธอจะต้องกลับไปหาทุกคนให้ได้ แต่เธอต้องหาทางแก้แค้นให้ได้เสียก่อน “มากินข้าวกัน ค่อยๆลุกนะ เดี๋ยวผมช่วย” นายหัวผู้เอาแต่ใจของเกาะ วันนี้ต้องเป็นพยาบาลจำเป็นดูแลคนเจ็บ รอยฟกช้ำบนหน้าที่ได้รูปของหญิงสาว ยิ่งทำให้ราชันเห็นแล้วรู้สึกสงสาร ใครกันนะที่ทำกับผู้หญิงตัวเล็กได้ถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มอยากให้ความทรงจำของปะการังกลับมา เขาอยากช่วยเธอแก้แค้นไอ้พวกที่ชอบรังแกผู้หญิง
4กอบโกย พ่อเลี้ยงสินชัยยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก คุณหมอไม่ยอมให้ธิดาเข้าไปเยี่ยมด้านใน อ้างว่ากลัวจะทำให้คนป่วยติดเชื้อ ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้อยากเข้าไปเยี่ยมเพราะความห่วงใยแต่แค่เพียงอยากรู้ว่าโอกาสรอดมีน้อยหรือมาก จะได้รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อ “นภาฉันคงไม่ได้มาเยี่ยมบ่อยๆนะ เพราะงานที่บริษัทกำลังยุ่ง ฉันเองก็ต้องมานั่งเรียนรู้ พ่อเลี้ยงเล่นไม่เคยบอกอะไรฉันเลย งงไปหมด แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด เพื่อรอวันที่หนูปลากลับมา ฝากด้วยนะนภา” นภารู้ดีว่าภรรยาของเจ้านายเป็นผู้หญิงแบบไหน แต่ตอนนี้เธอจำเป็นต้องแสดงว่าเชื่อ ว่านภาห่วงสามีและลูกเลี้ยงจริงๆ “คุณธิดาไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันจะดูแลพ่อเลี้ยงให้ดีที่สุด ไว้มีอะไรฉันจะโทรไปบอกแล้วคุณค่อยมาก็ได้ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางไปมา” ธิดาจับมือนภาด้วยใบหน้าที่พยายามแสดงถึงความซึ้งใจ ทั้งที่ใจจริงกำลังยิ้มเพราะเชื่อว่านภารู้ไม่เท่าทันเธอ หลังจากที่ธิดาออกจากโรงพยาบาลไป เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลและเข้าไปยังห้องผู้ป่วยหนักทันที นภาเองมีหน้าที่แค่คอยดูหน้าห้อ
5สาวชาวเกาะ วันนี้ราชันได้สมใจที่คิดๆไว้ เพราะเมื่อขับเรือออกจากเกาะได้ไม่นาน ฝนก็ตกอยู่กลางทะเล ลมพายุโหมกระหน่ำ เขาได้ฝึกจากสถานการณ์จริง ที่เขาต้องการมานาน “สนุกเป็นบ้าเลยพร้าวเอ๋ย” นายหัวรู้สึกตื่นเต้นกับการได้ขับเรือท่ามกลางพายุและฝนที่ตกหนัก เพราะเขาต้องการที่จะฝึกตัวเองให้แข็งแกร่งที่สุด การดูแลเกาะทั้งเกาะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ราชันต้องการที่จะทำทุกอย่างให้เก่งเหมือนที่พ่อของเขาทำได้ เพื่อจะได้ดูแลเกาะนี้ให้ดีที่สุด ให้สมกับที่พ่อของเขาไว้ใจ “นายหัวกลับกันได้แล้วครับ นี่เราเปียกฝนกันมาจะชั่วโมงแล้ว ถ้าพรุ่งนี้เราไม่ป่วยก็แสดงให้เห็นว่าเราร่างกายแข็งแรง และมีความอดทน” ชายหนุ่มรุ่นน้องความสนิทสนมทำให้เขารู้ว่า ราชันกำลังต้องการทดสอบความอดทนและความแข็งแรงของทั้งร่างกายและจิตใจ พร้าวจึงพยายามพูดให้เขารู้ว่าการพิสูจน์แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว “กลับก็กลับ เป็นห่วงคนที่เกาะเหมือนกันไม่รู้ว่าจะโดนพายุหนักเหมือนกลางทะเลไหม” เมื่อมองขึ้นไปบนฟ้า เงาดำปกคลุมอยู่เหนือเกาะ ราชันเองก็เริ่มเป็นห่วงชาวบ้านที่อยู่บนเกาะแล้ว
6คืนนี้กับสาวผมแหว่ง หลังจากอาบน้ำเสร็จ หญิงสาวมองตัวเองในกระจก หน้าตาและทรงผมของเธอตอนนี้ ดูเหมือนเธอเป็นทอมมากกว่าเป็นสาว ปะการังอดขำสภาพตัวเองไม่ได้ สองคืนที่เธอมาถึงเกาะนี้ ไม่มีคืนไหนที่เธอไม่ฝันร้าย ปะการังจะรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมน้ำทุกครั้งที่ทำท่าจะหลับจริงๆ จนต้องสะดุ้งตื่น คืนนี้เธอยังอดกังวลไม่ได้ ว่าเธอจะเผลอโวยวายกลางดึกเหมือนทุกคืนไหม เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นมีหวังนายหัวได้ตกใจแน่ๆ “หวีจังผม เหลืออยู่แค่นั้น ” ราชันเดินเข้ามาในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้แต่ก็ทันได้เห็น หญิงสาวที่กำลังนั่งหวีผม ที่แทบจะไม่มีให้หวี “สวยดีเหมือนกันนะคะ” หญิงสาวตอบไม่ตรงกับใจ “อีกนานไหมกว่าผมเธอจะยาว เห็นแบบนี้อดคิดว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงเหมือนจะเป็นทอมมากกว่า” ราชันแอบคิดแบบนั้นอยู่เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่แน่ใจเพราะยังไม่เคยคุยกับปะการังเป็นเรื่องเป็นราวสักที “ฉันก็จำไม่ได้ หรือจริงแล้วฉันอาจจะเป็นทอม พยายามจะคิดที่ไร มันก็ปวดหัวทุกที” หญิงสาวตีบทแตก แสดงละครให้เหมือนกับคนที่สูญเสียความจำจริงๆ “แต่
9นายหญิงของเกาะ “ทรายขาวมากเลยค่ะ” เมื่อราชันพาปะการังมาถึงชายหาดที่สวยที่สุดในเกาะ หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นที่ทรายเป็นสีขาว ตัดกับสีของน้ำทะเลที่เป็นสีฟ้า ดูสวยงามเหมือนในภาพถ่ายเลย “ที่นี่เราไม่เคยให้คนนอกมาเล่น พวกเราอยากรักษาไว้ พ่อของผมเคยมีเกาะอยู่ที่หนึ่งแต่เป็นเพียงเกาะเล็กๆ ไม่มีคนอยู่ เราพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำเพียงแค่นั้น แต่ไม่นานทุกอย่างก็ถูกทำลาย พ่อโดนผู้มีอิทธิพลบีบให้ขาย และตอนนี้ที่นี่ก็กำลังโดนบีบอยู่เหมือนกัน ” ราชันมองหน้านายหญิงคนใหม่ด้วยความรู้สึกเหมือนคนที่กำลังเหนื่อยและต้องการกำลังใจ “แต่ฉันเชื่อนะว่าคุณจะรักษาเกาะนี้ไว้ได้ เพราะที่นี่มีชาวบ้าน พวกเขารู้ว่าคุณรักพวกเขา ดังนั้นพวกเขาคงไม่อยากตกไปอยู่ในการดูแลของคนอื่นแน่ๆ ” พูดจบหญิงสาวก็เดินมาจับมือของนายหัว และมองสบตาด้วยรอยยิ้มที่แสนหวาน “ส่วนฉันคงช่วยอะไรไม่ได้มาก นอกจากเป็นกำลังใจให้นะ” ยังไม่ทันจะตั้งตัวหญิงสาวร่างบาง ก็ถูกนายหัวอุ้มเธอจนตัวลอย แล้วเอาไปโยนลงทะเล ก่อนจะล้มตัวลงไปกอดเธอจากทางด้านหลัง เพราะกลัวหญิงสาวจะ
8เมียนายหัว..ความทรงจำใหม่ เรื่องการพูดในวันนี้ราชันไม่เป็นกังวลเลยสักนิด แต่สิ่งที่ชายหนุ่มกลัว คือการที่เขากับเธอจะอยู่กันแบบไหน ในฐานะสามีภรรยา ราชันเป็นผู้ชายที่ถือได้ว่ารูปร่างหน้าตาดี แต่ดีในแบบเถื่อนๆ ฐานะก็ดีการศึกษาก็จบจากเมืองนอก เขาไม่ค่อยสนใจผู้หญิงที่เข้ามาจีบเขาสักคน เพราะคิดว่าทุกคนต่างก็มองเขาที่ภายนอก เอาเข้าจริงก็ไม่มีใครสามารถมาใช้ชีวิตที่เกาะกับเขาได้ ปะการังหญิงสาวที่อยู่ดีๆไม่รู้ว่าพรหมลิขิตหรือเวรกรรมอะไร ส่งให้เขาต้องได้มาช่วยชีวิตเธอ และยังจะต้องกลายมาเป็นสามีภรรยากันอีก นายหัวคิดแล้วก็ขำ สงสัยตัวเขาเองจะเลือกมากพอถึงเวลาจริงๆเลยไม่ต้องเลือกเลย เวลาประชุมมาถึงหลายครอบครัวต่างมาพร้อมหน้ากันที่ลานหน้าบ้านของนายหัว มีบางคนที่ไม่ได้มาก็ส่งคนในครอบครัวมาแทน “เรื่องแรกที่ผมจะพูดกับทุกคนคือเรื่องของราคามะพร้าวที่ตกต่ำอยู่ตอนนี้ เราอาจต้องยอมขายราคาถูกไปก่อน ผมกำลังหาทางที่จะเอามะพร้าวของเรามาแปรรูปเป็นอย่างอื่นเพื่อเพิ่มราคา” นายหัวหันไปสบตาหญิงสาวอยู่บ่อยๆเวลาพูด เหมือนกำลังรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง“เรื่องที่สองเรื่
7เช้าสดใสของปะการัง ปะการังเธอตื่นนอนและรีบอาบน้ำแต่งตัว ชายหนุ่มที่นอนข้างๆ เธอเขายังคงหลับสนิทเลยไม่อยากที่จะปลุก วันนี้นายหัวบอกไว้ว่าจะแนะนำเธอให้ชาวบ้านที่เกาะรู้จัก เธอเลยต้องพยายามแต่งตัวให้ดูดีหน่อยถึงแม้จะมีเครื่องแต่งตัวแค่ผ้าถุงและเสื้ออีกแค่ไม่กี่ตัว ปะการังมองสภาพผมของเธอในกระจก ก็อดขำไม่ได้ ถ้าอยู่ในเมืองแบบนี้ เธอคงไม่กล้าที่จะเดินออกจากบ้านแน่ๆ “ตื่นแล้วไม่ปลุกกันบ้างเลย” นายหัวในสภาพงัวเงีย นอนมองหญิงสาวผมแหว่งที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง “เห็นนายหัวนอนหลับสนิทฉันเลยยังไม่อยากปลุก คิดว่าคงจะเหนื่อยจากการขับเรือกลางพายุมา” “ว๊าย! มณีขอโทษค่ะ” หญิงชาวบ้านที่เคยทำหน้าที่ยกกับข้าวขึ้นมาให้ปะการัง เห็นประตูไม่ได้ล็อกเลยเปิดเข้ามาโดยไม่ได้เคาะประตูก่อน ยังไม่ทันที่คนในห้องจะพูดอะไร มณีก็รีบวางถาดข้าว และไม่กล้าหันไปมองนายหัวที่ใส่แค่เพียงเสื้อกล้ามนอนอยู่บนเตียงของหญิงสาวผู้มาใหม่ “มณี นี่ก็แปลกทำเหมือนเจอตัวประหลาดต้องรีบวางรีบไปแบบนั้น” ราชันบ่นอุบอิบ แต่ก็คง
6คืนนี้กับสาวผมแหว่ง หลังจากอาบน้ำเสร็จ หญิงสาวมองตัวเองในกระจก หน้าตาและทรงผมของเธอตอนนี้ ดูเหมือนเธอเป็นทอมมากกว่าเป็นสาว ปะการังอดขำสภาพตัวเองไม่ได้ สองคืนที่เธอมาถึงเกาะนี้ ไม่มีคืนไหนที่เธอไม่ฝันร้าย ปะการังจะรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมน้ำทุกครั้งที่ทำท่าจะหลับจริงๆ จนต้องสะดุ้งตื่น คืนนี้เธอยังอดกังวลไม่ได้ ว่าเธอจะเผลอโวยวายกลางดึกเหมือนทุกคืนไหม เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นมีหวังนายหัวได้ตกใจแน่ๆ “หวีจังผม เหลืออยู่แค่นั้น ” ราชันเดินเข้ามาในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้แต่ก็ทันได้เห็น หญิงสาวที่กำลังนั่งหวีผม ที่แทบจะไม่มีให้หวี “สวยดีเหมือนกันนะคะ” หญิงสาวตอบไม่ตรงกับใจ “อีกนานไหมกว่าผมเธอจะยาว เห็นแบบนี้อดคิดว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงเหมือนจะเป็นทอมมากกว่า” ราชันแอบคิดแบบนั้นอยู่เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่แน่ใจเพราะยังไม่เคยคุยกับปะการังเป็นเรื่องเป็นราวสักที “ฉันก็จำไม่ได้ หรือจริงแล้วฉันอาจจะเป็นทอม พยายามจะคิดที่ไร มันก็ปวดหัวทุกที” หญิงสาวตีบทแตก แสดงละครให้เหมือนกับคนที่สูญเสียความจำจริงๆ “แต่
5สาวชาวเกาะ วันนี้ราชันได้สมใจที่คิดๆไว้ เพราะเมื่อขับเรือออกจากเกาะได้ไม่นาน ฝนก็ตกอยู่กลางทะเล ลมพายุโหมกระหน่ำ เขาได้ฝึกจากสถานการณ์จริง ที่เขาต้องการมานาน “สนุกเป็นบ้าเลยพร้าวเอ๋ย” นายหัวรู้สึกตื่นเต้นกับการได้ขับเรือท่ามกลางพายุและฝนที่ตกหนัก เพราะเขาต้องการที่จะฝึกตัวเองให้แข็งแกร่งที่สุด การดูแลเกาะทั้งเกาะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ราชันต้องการที่จะทำทุกอย่างให้เก่งเหมือนที่พ่อของเขาทำได้ เพื่อจะได้ดูแลเกาะนี้ให้ดีที่สุด ให้สมกับที่พ่อของเขาไว้ใจ “นายหัวกลับกันได้แล้วครับ นี่เราเปียกฝนกันมาจะชั่วโมงแล้ว ถ้าพรุ่งนี้เราไม่ป่วยก็แสดงให้เห็นว่าเราร่างกายแข็งแรง และมีความอดทน” ชายหนุ่มรุ่นน้องความสนิทสนมทำให้เขารู้ว่า ราชันกำลังต้องการทดสอบความอดทนและความแข็งแรงของทั้งร่างกายและจิตใจ พร้าวจึงพยายามพูดให้เขารู้ว่าการพิสูจน์แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว “กลับก็กลับ เป็นห่วงคนที่เกาะเหมือนกันไม่รู้ว่าจะโดนพายุหนักเหมือนกลางทะเลไหม” เมื่อมองขึ้นไปบนฟ้า เงาดำปกคลุมอยู่เหนือเกาะ ราชันเองก็เริ่มเป็นห่วงชาวบ้านที่อยู่บนเกาะแล้ว
4กอบโกย พ่อเลี้ยงสินชัยยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก คุณหมอไม่ยอมให้ธิดาเข้าไปเยี่ยมด้านใน อ้างว่ากลัวจะทำให้คนป่วยติดเชื้อ ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้อยากเข้าไปเยี่ยมเพราะความห่วงใยแต่แค่เพียงอยากรู้ว่าโอกาสรอดมีน้อยหรือมาก จะได้รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อ “นภาฉันคงไม่ได้มาเยี่ยมบ่อยๆนะ เพราะงานที่บริษัทกำลังยุ่ง ฉันเองก็ต้องมานั่งเรียนรู้ พ่อเลี้ยงเล่นไม่เคยบอกอะไรฉันเลย งงไปหมด แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด เพื่อรอวันที่หนูปลากลับมา ฝากด้วยนะนภา” นภารู้ดีว่าภรรยาของเจ้านายเป็นผู้หญิงแบบไหน แต่ตอนนี้เธอจำเป็นต้องแสดงว่าเชื่อ ว่านภาห่วงสามีและลูกเลี้ยงจริงๆ “คุณธิดาไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันจะดูแลพ่อเลี้ยงให้ดีที่สุด ไว้มีอะไรฉันจะโทรไปบอกแล้วคุณค่อยมาก็ได้ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางไปมา” ธิดาจับมือนภาด้วยใบหน้าที่พยายามแสดงถึงความซึ้งใจ ทั้งที่ใจจริงกำลังยิ้มเพราะเชื่อว่านภารู้ไม่เท่าทันเธอ หลังจากที่ธิดาออกจากโรงพยาบาลไป เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลและเข้าไปยังห้องผู้ป่วยหนักทันที นภาเองมีหน้าที่แค่คอยดูหน้าห้อ
3การต้อนรับ “ป้าแก้วไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคืนนี้ผมดูแลเธอเอง” เมื่อความมืดเริ่มปกคลุมเกาะ ป้าแก้วก็เอาข้าวต้มขึ้นมาให้คนเจ็บ แต่ราชันบอกว่าเขาจะเป็นคนดูแลเธอเอง “แน่ใจนะคะนายหัว ไม่ต้องให้ป้านอนข้างบนด้วยแน่นะ” ป้าแก้วถามเพื่อความแน่ใจ เพราะเขายังไม่เคยเห็น ชายหนุ่มตรงหน้าที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดจะเคยดูแลใครเลย เคยแต่เป็นฝ่ายถูกเขาดูแลเสียมากกว่า “เชื่อใจผมสิครับ ลูกชายคนนี้โตแล้วนะ รับรองจะดูแลอย่างดี” นายหัวของเกาะกอดเอวแม่คนที่สองของเขาอย่างเอาใจ ปะการังนอนดูทั้งสองคนแสดงความรักต่อกัน เธอยิ่งรู้สึกอ่อนแอ เธอคิดถึงแม่ คิดถึงป้านภา คิดถึงพ่อ เธอจะต้องกลับไปหาทุกคนให้ได้ แต่เธอต้องหาทางแก้แค้นให้ได้เสียก่อน “มากินข้าวกัน ค่อยๆลุกนะ เดี๋ยวผมช่วย” นายหัวผู้เอาแต่ใจของเกาะ วันนี้ต้องเป็นพยาบาลจำเป็นดูแลคนเจ็บ รอยฟกช้ำบนหน้าที่ได้รูปของหญิงสาว ยิ่งทำให้ราชันเห็นแล้วรู้สึกสงสาร ใครกันนะที่ทำกับผู้หญิงตัวเล็กได้ถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มอยากให้ความทรงจำของปะการังกลับมา เขาอยากช่วยเธอแก้แค้นไอ้พวกที่ชอบรังแกผู้หญิง
“คนเมื่อกี้นี้ เขาเป็นเจ้าของเกาะ คนที่นี่เขาเรียกกันว่า นายหัวกัน แต่จริง ๆ เขาชื่อราชัน” ป้าแก้วแนะนำ “ต่อไปนี้เธอชื่อปะการังนะ ดูแล้วเธอก็น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายฉัน มันชื่อเจ้าพร้าว เดี๋ยวคงไม่เจอกับมัน” แม่บ้านของเกาะหรือจะถือได้ว่าเป็นแม่คนที่สองของราชัน รู้สึกถูกชะตาปะการัง อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยมีลูกสาว เลยรู้สึกเห็นแล้วสงสารและเอ็นดู “ที่นี่อยู่ไกลจากฝั่งมากไหมคะ” หญิงสาวอยากรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ตรงไหนของแผนที่ประเทศไทย “ไกลเหมือนกัน จากนี่ไปฝั่งถ้านั่งเรือธรรมดาก็เกือบสามชั่วโมง ถามทำไมจะไปภูเก็ตเหรอ เริ่มจำอะไรได้แล้วหรือไง” “เปล่าค่ะป้า ฉันแค่ถามเฉยๆ เพราะอยากรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ไกลจากฝั่งมากแค่ไหน” หญิงสาวเกือบเผลอตัว ทำให้โดนจับได้ว่าเธอแกล้งจำทุกอย่างไม่ได้ “ป้าไปทำกับข้าวก่อนนะ พวกไปเรือเตรียมจะออกไปหาปลากันแล้ว” เมื่อถูกทิ้งให้นอนอยู่คนเดียวกลางบ้าน หญิงสาวก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ถ้าไม่เจอกับสองคนนั้น ป่านนี้เธอคงกลายเป็นศพไปแล้ว ระหว่างที่โดนจับ
2เป็นคนใหม่ ธิดาได้รับทราบอาการของสามีจากนภา ที่อยู่เฝ้าเจ้านายอยู่ตลอดเวลา โดยที่ทางโรงพยาบาลจัดหาห้องไว้ให้ “นภาเธออยู่ที่นั่นแหละดีแล้ว เสื้อผ้าของเครื่องใช้ต่าง ๆ ฉันจะให้คนเอาไปให้นะ” ธิดารู้สึกสบายใจที่สามีของเธอไม่รู้เรื่องอะไรอีกแล้ว ถ้ารอดมาก็จะเป็นเพียงผักที่หายใจไปวันๆ และตอนนี้คนเก่าคนแก่ของบ้าน ก็จะขอไปเฝ้าเจ้านายที่โรงพยาบาลเลย ทางยิ่งสะดวก “งานเรียบร้อยดีใช่ไหม แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าอีนั่นมันตายแล้ว” ลูกน้องที่ถูกจ้างให้จับตัวปาฐิตาไว้ โทรมาทวงค่าทำงาน ธิดาจึงอยากแน่ใจ ว่าลูกเลี้ยงของเธอไม่มีชีวิตอยู่แล้วแน่ๆ “พวกผมทั้งตบทั้งตี จนสลบและอุ้มมันโยนลงทะเลแบบนั้น มีเหรอที่มันจะรอด ป่านนี้โดนสัตว์ทะเลกินจนใครมาเจอศพก็ไม่รู้แล้วว่าเป็นใคร” พวกโจรเถื่อนที่ธิดาจ้างยืนยันในผลงานของตัวเอง เพราะพวกมันซ้อมปาฐิตาจนสลบขนาดนั้น มีหรือที่เธอจะฟื้นมาช่วยตัวเองกลางทะเลได้ ธิดายอมจ่ายเงินกว่าห้าล้านบาท เพื่อเป็นค่าจ้างในการทำลายเสี้ยนหนามของเธอในครั้งนี้ พ่อเลี้ยงสินชัยป่วยหนัก ปาฐิตาก็หายตัวไปอย่าง