5
สาวชาวเกาะ
วันนี้ราชันได้สมใจที่คิดๆไว้ เพราะเมื่อขับเรือออกจากเกาะได้ไม่นาน ฝนก็ตกอยู่กลางทะเล ลมพายุโหมกระหน่ำ เขาได้ฝึกจากสถานการณ์จริง ที่เขาต้องการมานาน
“สนุกเป็นบ้าเลยพร้าวเอ๋ย”
นายหัวรู้สึกตื่นเต้นกับการได้ขับเรือท่ามกลางพายุและฝนที่ตกหนัก เพราะเขาต้องการที่จะฝึกตัวเองให้แข็งแกร่งที่สุด
การดูแลเกาะทั้งเกาะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ราชันต้องการที่จะทำทุกอย่างให้เก่งเหมือนที่พ่อของเขาทำได้ เพื่อจะได้ดูแลเกาะนี้ให้ดีที่สุด ให้สมกับที่พ่อของเขาไว้ใจ
“นายหัวกลับกันได้แล้วครับ นี่เราเปียกฝนกันมาจะชั่วโมงแล้ว ถ้าพรุ่งนี้เราไม่ป่วยก็แสดงให้เห็นว่าเราร่างกายแข็งแรง และมีความอดทน”
ชายหนุ่มรุ่นน้องความสนิทสนมทำให้เขารู้ว่า ราชันกำลังต้องการทดสอบความอดทนและความแข็งแรงของทั้งร่างกายและจิตใจ พร้าวจึงพยายามพูดให้เขารู้ว่าการพิสูจน์แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
“กลับก็กลับ เป็นห่วงคนที่เกาะเหมือนกันไม่รู้ว่าจะโดนพายุหนักเหมือนกลางทะเลไหม”
เมื่อมองขึ้นไปบนฟ้า เงาดำปกคลุมอยู่เหนือเกาะ ราชันเองก็เริ่มเป็นห่วงชาวบ้านที่อยู่บนเกาะแล้ว
“ป้าแก้วมีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ”
เมื่อเห็นข้างล่างผู้คนกำลังวุ่นวายกัน ปะการังก็อดเป็นห่วงไม่ได้ จึงวิ่งลงจากบ้านมา เพื่อหวัง ว่าเธอจะพอช่วยอะไรใครได้บ้าง
“อย่าลงมาค่ะ ลมแรงมาก เดี๋ยวจะล้มเอา”
ป้าแก้วปากก็พูดมือก็สาละวนกลับการเก็บของที่หล่นร่วงลงมากองอยู่ตามพื้น
“ให้หนูช่วยเถอะค่ะ” ปะการังยังยืนยัน
“เออ..ใช่ป้าลืมปิดหน้าต่างห้องนอนนายหัวเลย คุณช่วยขึ้นไปปิดให้ที”
ป้าแก้วมัวแต่สนใจกับข้าวของข้างล่างจนลืมไปเลยว่า เธอลืมปิดหน้าต่างห้องนอนของเจ้านาย
หญิงสาวรีบวิ่งขึ้นบันไดแต่ด้วยความที่ยังไม่ค่อยแข็งแรงดี เธอจึงยังคงต้องจับราวบันไดไปตลอดทาง
เมื่อประตูห้องของนายหัวถูกเปิดออก ที่นอนและข้าวของต่างก็เปียกไปหมด ปะการังรีบปิดหน้าต่าง เพราะกลัวมันจะยิ่งเปียกมากไปกว่าเก่า
คนป่วยลืมตัวว่ากำลังไม่ค่อยสบายอยู่ จึงหน้ามืด ดีที่นั่งลงบนที่นอนที่เปียกน้ำฝนของเจ้าของห้องได้ทัน
หญิงสาวหายใจแรงด้วยความเหนื่อยที่รีบวิ่งขึ้นมา และยิ่งมาเห็นสภาพห้องของเจ้าของบ้านเป็นแบบนี้เธอยิ่งตกใจ
“เปียกหมดเลย อย่างนี้นายหัวจะนอนได้ยังไงกันนี่”
ป้าแก้วตามขึ้นมาบนห้อง เมื่อเห็นสภาพถึงกับต้องส่ายหัว เพราะลมดันพัดมาทางหน้าต่างที่ถูกเปิดไว้ด้วย ฝนจึงสาดเข้ามาเต็มๆ
“ฝนก็ตก พายุก็เข้า ไม่เข้าใจเลย ว่าจะอยากออกไปขับเรือทำไมกัน”
หญิงในวัยชราบ่นด้วยความรู้สึกเป็นห่วง เพราะจนตอนนี้ทั้งคู่ยังไม่กลับกันมาเลย
“นายหัวกับพร้าวยังไม่กลับมาอีกเหรอคะป้า”
หญิงสาวมัวแต่นอนหลับอยู่บนห้องจึงไม่รู้ว่า ทั้งคู่ยังไม่ได้กลับมาที่เกาะ
“ก็ยังน่ะสิ พายุแบบนี้รับรองกลางทะเล ยิ่งแรงกว่านี้แน่ๆ และไหนจะฝน เปียกกันแบบนั้น เดี๋ยวถ้ากลับมาแล้วป่วยจะตีให้ก้นลายทั้งคู่เลย”
คนพูดทำท่าโมโห แต่คนฟังกลับยิ้มเพราะเหมือนคำพูดที่แม่ของเธอชอบพูดเมื่อตอนปาฐิตายังเด็กๆ เวลาที่เธอแอบไปเล่นกับเพื่อนข้างบ้านแล้วไม่ยอมกลับบ้านเมื่อแม่เรียก
“นายหัวอยากจะทำทุกอย่างให้เก่ง ไม่อยากเป็นแค่เพียงเจ้านายที่เอาแต่สั่ง จึงได้ออกไปขับเรือแบบนั้น บางคืนก็ออกไปหาปลากับชาวเกาะ บางวันก็ปลูกมะพร้าวเอง นี่ก็เห็นว่ากำลังฝึกปีนเก็บรังนกอยู่”
ป้าแก้วไม่ได้ตั้งใจเล่าให้หญิงสาวแปลกหน้าฟัง แต่เธอแค่รู้สึกชื่นชมและอยากให้ปะการังรู้สึกรักและชื่นชมนายหัวไปกับเธอด้วย
ยิ่งเห็นความเป็นห่วงของผู้หญิงตรงหน้า ปะการังยิ่งคิดถึงพ่อของเธอ ตอนนี้พ่อคงกำลังเป็นห่วงและพยายามตามหาเธออยู่ แต่ถ้าเธอติดต่อไป หญิงสาวก็กลัวว่าจะทำให้บิดาของเธออยู่ในอันตราย
“เอ้า...มานั่งอยู่ในนี้กันหมดเลย ผมก็เป็นห่วงมองหาไม่เจอใครเลย”
ราชันกลับมาพร้อมกับเนื้อตัวที่เปียกปอน ส่วนพร้าวเองแยกกลับบ้านไปแล้ว
“ใครควรจะเป็นห่วงใครกันแน่คะ ป้านี่อยากจะเอาไม้เรียวมาตีทั้งคู่เลย ทำเป็นเรื่องสนุกไปได้ ออกไปทะเลกันเวลานี้”
ชายหนุ่มโผเข้ากอดแม่คนที่สองของเขาอย่างเอาใจ เพราะรู้ว่าเขาผิดจริงที่ทำให้ป้าแก้วเป็นห่วง
“คืนนี้นอนหน้าห้องไปก่อนแล้วกัน ป้าขึ้นมาปิดหน้าต่างไม่ทัน เปียกไปหมด”
บ่นเสร็จป้าแก้วก็ถอดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน เพื่อเอาไปซัก โดยมีปะการังช่วยอีกแรง
“คืนนี้คุณนอนที่ห้องกับฉันก็ได้ค่ะ หรือจะให้ฉันออกมานอนข้างนอกก็ได้”
หญิงสาวออกความคิดเห็นหลังจากที่เหลือกันเพียงแค่สองคนอยู่ในห้อง
“แน่ใจ ว่าจะให้ผมนอนในห้องด้วย”
ราชันหันไปมองหน้าคนพูดด้วยท่าทาง ที่หัวเราะและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“แน่ใจ คุณคงไม่คิดจะทำอะไรผู้หญิงที่สูญเสียความจำอย่างฉันหรอก ตัวฉันเองอาจจะเคยเป็นผู้หญิงไม่ดีมาก็ได้ ฉันรู้ว่าคุณไม่กล้าเสี่ยงหรอก”
ราชันฟังคำพูดของปะการัง ยิ่งทำให้เขาคิดว่า เธอต้องไม่ใช่ผู้หญิงชาวบ้านธรรมดา น่าจะเป็นคนที่มีการศึกษาสูง เพราะรู้จักใช้คำพูดเพื่อปกป้องตัวเอง
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมไปนอนด้วย จะได้นอนคุยกัน ตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่ เรายังไม่ได้มีโอกาสคุยกันแบบจริงจังเลย”
เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายจะไปนอนที่ห้องของเธอ หญิงสาวก็กลับไปเตรียมจัดที่นอนไว้ให้ และเธอก็จะได้รีบไปอาบน้ำ เพราะมัวแต่กลัวฝนยังไม่ได้อาบเลย
ลมพายุเริ่มสงบแต่ฝนยังคงตกอยู่ ราชันยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง เขากำลังคิดว่า เกาะนี้คือบ้านที่มีความสุขที่สุด เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ใครมาทำลายความงดงามของที่นี่เด็ดขาด
1เรียกค่าไถ่ “คุณคะ นี่ลูกหายไปหลายวันแล้วนะคะ” ธิดาทำท่าทางผุดลุกผุดนั่ง เพื่อให้พ่อเลี้ยงสินใจ คิดว่าเธอเป็นห่วง ปาฐิตาซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเธอจริงๆ“ผมให้เพื่อนที่ภูเก็ต ช่วยสืบข่าวอยู่ คุณคิดว่าผมสบายใจเหรอ”พ่อเลี้ยงสินชัยมีเพื่อนทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทอยู่ที่ภูเก็ตหลายคน ทุกคนกำลังช่วยกันตามหาและสืบข่าวของปาฐิตาอยู่ แต่ยังไร้วี่แววกริ๊ง กริ๊ง“คุณคะใครโทรมาเบอร์บ้าน ”ธิดาทำท่าตกใจ เพราะทุกวันนี้เวลาติดต่อกัน ส่วนมาทุกคนก็ใช้แต่โทรศัพท์มือถือ“สวัสดีค่ะ” ธิดาเป็นคนรับโทรศัพท์“มีอะไรเกิดขึ้น”สินชัยรีบลุกจากโซฟา มารับภรรยาที่ทำท่าจะเป็นลมและปล่อยโทรศัพท์หลุดออกจากมือ“ฉันไม่เป็นไรค่ะ พวกมันจับตัวลูกสาวเราไปเรียกค่าไถ่”ธิดาเธอเป็นแม่เลี้ยงที่สร้างภาพได้อย่างสวยงาม ไม่เคยมีคำว่าลูกฉันลูกคุณ เพราะตัวเธอก็มีลูกติดมาหนึ่งคน จึงหวังจะสร้างภาพความครอบครัวเดียวกัน เพื่อให้พ่อเลี้ยงสินชัย รักลูกสาวของเธอเหมือนลูกแท้ๆด้วย“ว่าไง พวกแกเป็นใครและต้องการอะไร” สินชัยคว้าโทรศัพท์ที่ล่วงจากมือของธิดาขึ้นมาคุยต่อ“พ่อคะ พ่อช่วยปลาด้วย”สินชัยใจแทบขาด เมื่อได้ยินเสียง ที่เขาจำได้ด
เมื่อธิดากลับไปไม่นาน คุณหมอที่ทำหน้าที่รักษาพ่อเลี้ยงสินชัย ก็เรียกป้านภาให้เข้าไปในห้องคนไข้ขั้นวิกฤต“ป้านภาครับ เชิญข้างในดีกว่าท่านน่าจะอยากเจอป้า”นภาแปลกใจในคำพูดของคุณหมอ แต่ก็ยอมเดินตามเข้าไป เพราะเธออยากเห็นว่าตอนนี้เจ้านายของเธอเป็นอย่างไรบ้าง“นายหัวขับเรือเก่งขึ้นเยอะเลย อีกหน่อยก็ออกทะเลได้เองไม่ต้องมีผมตามมาด้วย”พร้าวลูกน้องคนสนิทของนายหัวราชัน พูดชมเจ้านายที่สามารถขับเรือได้เก่ง หลังจากให้เขาสอนได้เพียงไม่กี่ครั้ง“ไอ้พร้าวเอ็งมันก็พูดเกินไป ถ้าลองให้ข้ามาคนเดียว เจอลมเข้าหน่อย รับรองขับไม่เป็นแน่ๆ”ราชันเพิ่งมารับช่วงดูแลเกาะต่อจากบิดาที่เริ่มแก่ตัวลง และตัดสินใจกลับไปอยู่ที่ตัวเมืองภูเก็ต ได้ไม่ถึงปีถึงแม้เขาจะอาศัยอยู่ที่เกาะมาตั้งแต่เล็กก็ตาม แต่ก็ไม่เคยต้องดูแลทุกอย่างเหมือนตอนนี้ และช่วงหลังเขาก็ต้องไปศึกษาต่อจึงห่างจากเกาะไปหลายปี“นายหัว นั่นอะไรลอยอยู่”พร้าวชี้ไปที่อะไรสักอย่างที่กำลังลอยอยู่ไม่ห่างจากเรือของเขากับเจ้านาย“นายหัวคน คนจริงๆด้วย”“ไอ้พร้าวเอ็งขับเร็วหน่อย เผื่อเขายังไม่ตาย”ราชันรีบวิ่งไปที่หัวเรือ เพื่อหวังจะไปถึงคนที่กำลังเกาะลูกมะพร้าวลอยอย
2เป็นคนใหม่ ธิดาได้รับทราบอาการของสามีจากนภา ที่อยู่เฝ้าเจ้านายอยู่ตลอดเวลา โดยที่ทางโรงพยาบาลจัดหาห้องไว้ให้ “นภาเธออยู่ที่นั่นแหละดีแล้ว เสื้อผ้าของเครื่องใช้ต่าง ๆ ฉันจะให้คนเอาไปให้นะ” ธิดารู้สึกสบายใจที่สามีของเธอไม่รู้เรื่องอะไรอีกแล้ว ถ้ารอดมาก็จะเป็นเพียงผักที่หายใจไปวันๆ และตอนนี้คนเก่าคนแก่ของบ้าน ก็จะขอไปเฝ้าเจ้านายที่โรงพยาบาลเลย ทางยิ่งสะดวก “งานเรียบร้อยดีใช่ไหม แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าอีนั่นมันตายแล้ว” ลูกน้องที่ถูกจ้างให้จับตัวปาฐิตาไว้ โทรมาทวงค่าทำงาน ธิดาจึงอยากแน่ใจ ว่าลูกเลี้ยงของเธอไม่มีชีวิตอยู่แล้วแน่ๆ “พวกผมทั้งตบทั้งตี จนสลบและอุ้มมันโยนลงทะเลแบบนั้น มีเหรอที่มันจะรอด ป่านนี้โดนสัตว์ทะเลกินจนใครมาเจอศพก็ไม่รู้แล้วว่าเป็นใคร” พวกโจรเถื่อนที่ธิดาจ้างยืนยันในผลงานของตัวเอง เพราะพวกมันซ้อมปาฐิตาจนสลบขนาดนั้น มีหรือที่เธอจะฟื้นมาช่วยตัวเองกลางทะเลได้ ธิดายอมจ่ายเงินกว่าห้าล้านบาท เพื่อเป็นค่าจ้างในการทำลายเสี้ยนหนามของเธอในครั้งนี้ พ่อเลี้ยงสินชัยป่วยหนัก ปาฐิตาก็หายตัวไปอย่าง
“คนเมื่อกี้นี้ เขาเป็นเจ้าของเกาะ คนที่นี่เขาเรียกกันว่า นายหัวกัน แต่จริง ๆ เขาชื่อราชัน” ป้าแก้วแนะนำ “ต่อไปนี้เธอชื่อปะการังนะ ดูแล้วเธอก็น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายฉัน มันชื่อเจ้าพร้าว เดี๋ยวคงไม่เจอกับมัน” แม่บ้านของเกาะหรือจะถือได้ว่าเป็นแม่คนที่สองของราชัน รู้สึกถูกชะตาปะการัง อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยมีลูกสาว เลยรู้สึกเห็นแล้วสงสารและเอ็นดู “ที่นี่อยู่ไกลจากฝั่งมากไหมคะ” หญิงสาวอยากรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ตรงไหนของแผนที่ประเทศไทย “ไกลเหมือนกัน จากนี่ไปฝั่งถ้านั่งเรือธรรมดาก็เกือบสามชั่วโมง ถามทำไมจะไปภูเก็ตเหรอ เริ่มจำอะไรได้แล้วหรือไง” “เปล่าค่ะป้า ฉันแค่ถามเฉยๆ เพราะอยากรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ไกลจากฝั่งมากแค่ไหน” หญิงสาวเกือบเผลอตัว ทำให้โดนจับได้ว่าเธอแกล้งจำทุกอย่างไม่ได้ “ป้าไปทำกับข้าวก่อนนะ พวกไปเรือเตรียมจะออกไปหาปลากันแล้ว” เมื่อถูกทิ้งให้นอนอยู่คนเดียวกลางบ้าน หญิงสาวก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ถ้าไม่เจอกับสองคนนั้น ป่านนี้เธอคงกลายเป็นศพไปแล้ว ระหว่างที่โดนจับ
3การต้อนรับ “ป้าแก้วไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคืนนี้ผมดูแลเธอเอง” เมื่อความมืดเริ่มปกคลุมเกาะ ป้าแก้วก็เอาข้าวต้มขึ้นมาให้คนเจ็บ แต่ราชันบอกว่าเขาจะเป็นคนดูแลเธอเอง “แน่ใจนะคะนายหัว ไม่ต้องให้ป้านอนข้างบนด้วยแน่นะ” ป้าแก้วถามเพื่อความแน่ใจ เพราะเขายังไม่เคยเห็น ชายหนุ่มตรงหน้าที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดจะเคยดูแลใครเลย เคยแต่เป็นฝ่ายถูกเขาดูแลเสียมากกว่า “เชื่อใจผมสิครับ ลูกชายคนนี้โตแล้วนะ รับรองจะดูแลอย่างดี” นายหัวของเกาะกอดเอวแม่คนที่สองของเขาอย่างเอาใจ ปะการังนอนดูทั้งสองคนแสดงความรักต่อกัน เธอยิ่งรู้สึกอ่อนแอ เธอคิดถึงแม่ คิดถึงป้านภา คิดถึงพ่อ เธอจะต้องกลับไปหาทุกคนให้ได้ แต่เธอต้องหาทางแก้แค้นให้ได้เสียก่อน “มากินข้าวกัน ค่อยๆลุกนะ เดี๋ยวผมช่วย” นายหัวผู้เอาแต่ใจของเกาะ วันนี้ต้องเป็นพยาบาลจำเป็นดูแลคนเจ็บ รอยฟกช้ำบนหน้าที่ได้รูปของหญิงสาว ยิ่งทำให้ราชันเห็นแล้วรู้สึกสงสาร ใครกันนะที่ทำกับผู้หญิงตัวเล็กได้ถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มอยากให้ความทรงจำของปะการังกลับมา เขาอยากช่วยเธอแก้แค้นไอ้พวกที่ชอบรังแกผู้หญิง
4กอบโกย พ่อเลี้ยงสินชัยยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก คุณหมอไม่ยอมให้ธิดาเข้าไปเยี่ยมด้านใน อ้างว่ากลัวจะทำให้คนป่วยติดเชื้อ ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้อยากเข้าไปเยี่ยมเพราะความห่วงใยแต่แค่เพียงอยากรู้ว่าโอกาสรอดมีน้อยหรือมาก จะได้รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อ “นภาฉันคงไม่ได้มาเยี่ยมบ่อยๆนะ เพราะงานที่บริษัทกำลังยุ่ง ฉันเองก็ต้องมานั่งเรียนรู้ พ่อเลี้ยงเล่นไม่เคยบอกอะไรฉันเลย งงไปหมด แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด เพื่อรอวันที่หนูปลากลับมา ฝากด้วยนะนภา” นภารู้ดีว่าภรรยาของเจ้านายเป็นผู้หญิงแบบไหน แต่ตอนนี้เธอจำเป็นต้องแสดงว่าเชื่อ ว่านภาห่วงสามีและลูกเลี้ยงจริงๆ “คุณธิดาไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันจะดูแลพ่อเลี้ยงให้ดีที่สุด ไว้มีอะไรฉันจะโทรไปบอกแล้วคุณค่อยมาก็ได้ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางไปมา” ธิดาจับมือนภาด้วยใบหน้าที่พยายามแสดงถึงความซึ้งใจ ทั้งที่ใจจริงกำลังยิ้มเพราะเชื่อว่านภารู้ไม่เท่าทันเธอ หลังจากที่ธิดาออกจากโรงพยาบาลไป เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลและเข้าไปยังห้องผู้ป่วยหนักทันที นภาเองมีหน้าที่แค่คอยดูหน้าห้อ
5สาวชาวเกาะ วันนี้ราชันได้สมใจที่คิดๆไว้ เพราะเมื่อขับเรือออกจากเกาะได้ไม่นาน ฝนก็ตกอยู่กลางทะเล ลมพายุโหมกระหน่ำ เขาได้ฝึกจากสถานการณ์จริง ที่เขาต้องการมานาน “สนุกเป็นบ้าเลยพร้าวเอ๋ย” นายหัวรู้สึกตื่นเต้นกับการได้ขับเรือท่ามกลางพายุและฝนที่ตกหนัก เพราะเขาต้องการที่จะฝึกตัวเองให้แข็งแกร่งที่สุด การดูแลเกาะทั้งเกาะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ราชันต้องการที่จะทำทุกอย่างให้เก่งเหมือนที่พ่อของเขาทำได้ เพื่อจะได้ดูแลเกาะนี้ให้ดีที่สุด ให้สมกับที่พ่อของเขาไว้ใจ “นายหัวกลับกันได้แล้วครับ นี่เราเปียกฝนกันมาจะชั่วโมงแล้ว ถ้าพรุ่งนี้เราไม่ป่วยก็แสดงให้เห็นว่าเราร่างกายแข็งแรง และมีความอดทน” ชายหนุ่มรุ่นน้องความสนิทสนมทำให้เขารู้ว่า ราชันกำลังต้องการทดสอบความอดทนและความแข็งแรงของทั้งร่างกายและจิตใจ พร้าวจึงพยายามพูดให้เขารู้ว่าการพิสูจน์แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว “กลับก็กลับ เป็นห่วงคนที่เกาะเหมือนกันไม่รู้ว่าจะโดนพายุหนักเหมือนกลางทะเลไหม” เมื่อมองขึ้นไปบนฟ้า เงาดำปกคลุมอยู่เหนือเกาะ ราชันเองก็เริ่มเป็นห่วงชาวบ้านที่อยู่บนเกาะแล้ว
4กอบโกย พ่อเลี้ยงสินชัยยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก คุณหมอไม่ยอมให้ธิดาเข้าไปเยี่ยมด้านใน อ้างว่ากลัวจะทำให้คนป่วยติดเชื้อ ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้อยากเข้าไปเยี่ยมเพราะความห่วงใยแต่แค่เพียงอยากรู้ว่าโอกาสรอดมีน้อยหรือมาก จะได้รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อ “นภาฉันคงไม่ได้มาเยี่ยมบ่อยๆนะ เพราะงานที่บริษัทกำลังยุ่ง ฉันเองก็ต้องมานั่งเรียนรู้ พ่อเลี้ยงเล่นไม่เคยบอกอะไรฉันเลย งงไปหมด แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด เพื่อรอวันที่หนูปลากลับมา ฝากด้วยนะนภา” นภารู้ดีว่าภรรยาของเจ้านายเป็นผู้หญิงแบบไหน แต่ตอนนี้เธอจำเป็นต้องแสดงว่าเชื่อ ว่านภาห่วงสามีและลูกเลี้ยงจริงๆ “คุณธิดาไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันจะดูแลพ่อเลี้ยงให้ดีที่สุด ไว้มีอะไรฉันจะโทรไปบอกแล้วคุณค่อยมาก็ได้ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางไปมา” ธิดาจับมือนภาด้วยใบหน้าที่พยายามแสดงถึงความซึ้งใจ ทั้งที่ใจจริงกำลังยิ้มเพราะเชื่อว่านภารู้ไม่เท่าทันเธอ หลังจากที่ธิดาออกจากโรงพยาบาลไป เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลและเข้าไปยังห้องผู้ป่วยหนักทันที นภาเองมีหน้าที่แค่คอยดูหน้าห้อ
3การต้อนรับ “ป้าแก้วไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคืนนี้ผมดูแลเธอเอง” เมื่อความมืดเริ่มปกคลุมเกาะ ป้าแก้วก็เอาข้าวต้มขึ้นมาให้คนเจ็บ แต่ราชันบอกว่าเขาจะเป็นคนดูแลเธอเอง “แน่ใจนะคะนายหัว ไม่ต้องให้ป้านอนข้างบนด้วยแน่นะ” ป้าแก้วถามเพื่อความแน่ใจ เพราะเขายังไม่เคยเห็น ชายหนุ่มตรงหน้าที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดจะเคยดูแลใครเลย เคยแต่เป็นฝ่ายถูกเขาดูแลเสียมากกว่า “เชื่อใจผมสิครับ ลูกชายคนนี้โตแล้วนะ รับรองจะดูแลอย่างดี” นายหัวของเกาะกอดเอวแม่คนที่สองของเขาอย่างเอาใจ ปะการังนอนดูทั้งสองคนแสดงความรักต่อกัน เธอยิ่งรู้สึกอ่อนแอ เธอคิดถึงแม่ คิดถึงป้านภา คิดถึงพ่อ เธอจะต้องกลับไปหาทุกคนให้ได้ แต่เธอต้องหาทางแก้แค้นให้ได้เสียก่อน “มากินข้าวกัน ค่อยๆลุกนะ เดี๋ยวผมช่วย” นายหัวผู้เอาแต่ใจของเกาะ วันนี้ต้องเป็นพยาบาลจำเป็นดูแลคนเจ็บ รอยฟกช้ำบนหน้าที่ได้รูปของหญิงสาว ยิ่งทำให้ราชันเห็นแล้วรู้สึกสงสาร ใครกันนะที่ทำกับผู้หญิงตัวเล็กได้ถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มอยากให้ความทรงจำของปะการังกลับมา เขาอยากช่วยเธอแก้แค้นไอ้พวกที่ชอบรังแกผู้หญิง
“คนเมื่อกี้นี้ เขาเป็นเจ้าของเกาะ คนที่นี่เขาเรียกกันว่า นายหัวกัน แต่จริง ๆ เขาชื่อราชัน” ป้าแก้วแนะนำ “ต่อไปนี้เธอชื่อปะการังนะ ดูแล้วเธอก็น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายฉัน มันชื่อเจ้าพร้าว เดี๋ยวคงไม่เจอกับมัน” แม่บ้านของเกาะหรือจะถือได้ว่าเป็นแม่คนที่สองของราชัน รู้สึกถูกชะตาปะการัง อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยมีลูกสาว เลยรู้สึกเห็นแล้วสงสารและเอ็นดู “ที่นี่อยู่ไกลจากฝั่งมากไหมคะ” หญิงสาวอยากรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ตรงไหนของแผนที่ประเทศไทย “ไกลเหมือนกัน จากนี่ไปฝั่งถ้านั่งเรือธรรมดาก็เกือบสามชั่วโมง ถามทำไมจะไปภูเก็ตเหรอ เริ่มจำอะไรได้แล้วหรือไง” “เปล่าค่ะป้า ฉันแค่ถามเฉยๆ เพราะอยากรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ไกลจากฝั่งมากแค่ไหน” หญิงสาวเกือบเผลอตัว ทำให้โดนจับได้ว่าเธอแกล้งจำทุกอย่างไม่ได้ “ป้าไปทำกับข้าวก่อนนะ พวกไปเรือเตรียมจะออกไปหาปลากันแล้ว” เมื่อถูกทิ้งให้นอนอยู่คนเดียวกลางบ้าน หญิงสาวก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ถ้าไม่เจอกับสองคนนั้น ป่านนี้เธอคงกลายเป็นศพไปแล้ว ระหว่างที่โดนจับ
2เป็นคนใหม่ ธิดาได้รับทราบอาการของสามีจากนภา ที่อยู่เฝ้าเจ้านายอยู่ตลอดเวลา โดยที่ทางโรงพยาบาลจัดหาห้องไว้ให้ “นภาเธออยู่ที่นั่นแหละดีแล้ว เสื้อผ้าของเครื่องใช้ต่าง ๆ ฉันจะให้คนเอาไปให้นะ” ธิดารู้สึกสบายใจที่สามีของเธอไม่รู้เรื่องอะไรอีกแล้ว ถ้ารอดมาก็จะเป็นเพียงผักที่หายใจไปวันๆ และตอนนี้คนเก่าคนแก่ของบ้าน ก็จะขอไปเฝ้าเจ้านายที่โรงพยาบาลเลย ทางยิ่งสะดวก “งานเรียบร้อยดีใช่ไหม แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าอีนั่นมันตายแล้ว” ลูกน้องที่ถูกจ้างให้จับตัวปาฐิตาไว้ โทรมาทวงค่าทำงาน ธิดาจึงอยากแน่ใจ ว่าลูกเลี้ยงของเธอไม่มีชีวิตอยู่แล้วแน่ๆ “พวกผมทั้งตบทั้งตี จนสลบและอุ้มมันโยนลงทะเลแบบนั้น มีเหรอที่มันจะรอด ป่านนี้โดนสัตว์ทะเลกินจนใครมาเจอศพก็ไม่รู้แล้วว่าเป็นใคร” พวกโจรเถื่อนที่ธิดาจ้างยืนยันในผลงานของตัวเอง เพราะพวกมันซ้อมปาฐิตาจนสลบขนาดนั้น มีหรือที่เธอจะฟื้นมาช่วยตัวเองกลางทะเลได้ ธิดายอมจ่ายเงินกว่าห้าล้านบาท เพื่อเป็นค่าจ้างในการทำลายเสี้ยนหนามของเธอในครั้งนี้ พ่อเลี้ยงสินชัยป่วยหนัก ปาฐิตาก็หายตัวไปอย่าง
เมื่อธิดากลับไปไม่นาน คุณหมอที่ทำหน้าที่รักษาพ่อเลี้ยงสินชัย ก็เรียกป้านภาให้เข้าไปในห้องคนไข้ขั้นวิกฤต“ป้านภาครับ เชิญข้างในดีกว่าท่านน่าจะอยากเจอป้า”นภาแปลกใจในคำพูดของคุณหมอ แต่ก็ยอมเดินตามเข้าไป เพราะเธออยากเห็นว่าตอนนี้เจ้านายของเธอเป็นอย่างไรบ้าง“นายหัวขับเรือเก่งขึ้นเยอะเลย อีกหน่อยก็ออกทะเลได้เองไม่ต้องมีผมตามมาด้วย”พร้าวลูกน้องคนสนิทของนายหัวราชัน พูดชมเจ้านายที่สามารถขับเรือได้เก่ง หลังจากให้เขาสอนได้เพียงไม่กี่ครั้ง“ไอ้พร้าวเอ็งมันก็พูดเกินไป ถ้าลองให้ข้ามาคนเดียว เจอลมเข้าหน่อย รับรองขับไม่เป็นแน่ๆ”ราชันเพิ่งมารับช่วงดูแลเกาะต่อจากบิดาที่เริ่มแก่ตัวลง และตัดสินใจกลับไปอยู่ที่ตัวเมืองภูเก็ต ได้ไม่ถึงปีถึงแม้เขาจะอาศัยอยู่ที่เกาะมาตั้งแต่เล็กก็ตาม แต่ก็ไม่เคยต้องดูแลทุกอย่างเหมือนตอนนี้ และช่วงหลังเขาก็ต้องไปศึกษาต่อจึงห่างจากเกาะไปหลายปี“นายหัว นั่นอะไรลอยอยู่”พร้าวชี้ไปที่อะไรสักอย่างที่กำลังลอยอยู่ไม่ห่างจากเรือของเขากับเจ้านาย“นายหัวคน คนจริงๆด้วย”“ไอ้พร้าวเอ็งขับเร็วหน่อย เผื่อเขายังไม่ตาย”ราชันรีบวิ่งไปที่หัวเรือ เพื่อหวังจะไปถึงคนที่กำลังเกาะลูกมะพร้าวลอยอย
1เรียกค่าไถ่ “คุณคะ นี่ลูกหายไปหลายวันแล้วนะคะ” ธิดาทำท่าทางผุดลุกผุดนั่ง เพื่อให้พ่อเลี้ยงสินใจ คิดว่าเธอเป็นห่วง ปาฐิตาซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเธอจริงๆ“ผมให้เพื่อนที่ภูเก็ต ช่วยสืบข่าวอยู่ คุณคิดว่าผมสบายใจเหรอ”พ่อเลี้ยงสินชัยมีเพื่อนทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทอยู่ที่ภูเก็ตหลายคน ทุกคนกำลังช่วยกันตามหาและสืบข่าวของปาฐิตาอยู่ แต่ยังไร้วี่แววกริ๊ง กริ๊ง“คุณคะใครโทรมาเบอร์บ้าน ”ธิดาทำท่าตกใจ เพราะทุกวันนี้เวลาติดต่อกัน ส่วนมาทุกคนก็ใช้แต่โทรศัพท์มือถือ“สวัสดีค่ะ” ธิดาเป็นคนรับโทรศัพท์“มีอะไรเกิดขึ้น”สินชัยรีบลุกจากโซฟา มารับภรรยาที่ทำท่าจะเป็นลมและปล่อยโทรศัพท์หลุดออกจากมือ“ฉันไม่เป็นไรค่ะ พวกมันจับตัวลูกสาวเราไปเรียกค่าไถ่”ธิดาเธอเป็นแม่เลี้ยงที่สร้างภาพได้อย่างสวยงาม ไม่เคยมีคำว่าลูกฉันลูกคุณ เพราะตัวเธอก็มีลูกติดมาหนึ่งคน จึงหวังจะสร้างภาพความครอบครัวเดียวกัน เพื่อให้พ่อเลี้ยงสินชัย รักลูกสาวของเธอเหมือนลูกแท้ๆด้วย“ว่าไง พวกแกเป็นใครและต้องการอะไร” สินชัยคว้าโทรศัพท์ที่ล่วงจากมือของธิดาขึ้นมาคุยต่อ“พ่อคะ พ่อช่วยปลาด้วย”สินชัยใจแทบขาด เมื่อได้ยินเสียง ที่เขาจำได้ด