4
กอบโกย
พ่อเลี้ยงสินชัยยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก คุณหมอไม่ยอมให้ธิดาเข้าไปเยี่ยมด้านใน อ้างว่ากลัวจะทำให้คนป่วยติดเชื้อ ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้อยากเข้าไปเยี่ยมเพราะความห่วงใยแต่แค่เพียงอยากรู้ว่าโอกาสรอดมีน้อยหรือมาก จะได้รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อ
“นภาฉันคงไม่ได้มาเยี่ยมบ่อยๆนะ เพราะงานที่บริษัทกำลังยุ่ง ฉันเองก็ต้องมานั่งเรียนรู้ พ่อเลี้ยงเล่นไม่เคยบอกอะไรฉันเลย งงไปหมด แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด เพื่อรอวันที่หนูปลากลับมา ฝากด้วยนะนภา”
นภารู้ดีว่าภรรยาของเจ้านายเป็นผู้หญิงแบบไหน แต่ตอนนี้เธอจำเป็นต้องแสดงว่าเชื่อ ว่านภาห่วงสามีและลูกเลี้ยงจริงๆ
“คุณธิดาไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันจะดูแลพ่อเลี้ยงให้ดีที่สุด ไว้มีอะไรฉันจะโทรไปบอกแล้วคุณค่อยมาก็ได้ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางไปมา”
ธิดาจับมือนภาด้วยใบหน้าที่พยายามแสดงถึงความซึ้งใจ ทั้งที่ใจจริงกำลังยิ้มเพราะเชื่อว่านภารู้ไม่เท่าทันเธอ
หลังจากที่ธิดาออกจากโรงพยาบาลไป เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลและเข้าไปยังห้องผู้ป่วยหนักทันที
นภาเองมีหน้าที่แค่คอยดูหน้าห้องเพื่อระวังไม่ให้ธิดาเห็น ว่าตอนนี้ทางตำรวจเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของลูกสาวคนเดียวของพ่อเลี้ยงสินชัย
การยักยอกเงินของบริษัทไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่เกินความสามารถของคนอย่างธิดา เธอเริ่มจากการโกงค่าน้ำมันโดยการขอเบิกโดยไม่ใช้ใบเสร็จ ฝ่ายการเงินก็ไม่กล้าว่า เพราะตอนนี้ธิดาคือคนที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท
นอกจากค่าน้ำมันที่พอจะทำให้เธอมีรายได้เพิ่มขึ้นเดือนละหลายหมื่นอยู่ ธิดาก็ทำการเพิ่มเงินเดือนให้กับตัวเอง ด้วยเหตุผลว่า เธอต้องทำงานแทนสามี จากที่เคยได้เดือนละแสน ตอนนี้เธอก็เพิ่มเป็นสามแสน เงินที่ได้มานอกจากตัวเธอเองจะเอามาใช้ ยังจะต้องส่งไปให้มัทนาที่อยู่ที่สิงคโปร์อีก
ธิดาเคยพยายามขอเงินเดือนเพิ่มจากพ่อเลี้ยงแล้ว เมื่อครั้งที่พ่อเลี้ยงยังสบายดี แต่สินชัยไม่ยอม เมื่อตอนนี้มีโอกาสธิดาจึงต้องรีบกอบโกยให้ได้มากที่สุด
“ป้าแก้วผมฝากดูปะการังด้วย ทำท่าจะเป็นลมอยู่เมื่อสักพัก ผมว่าจะออกไปหัดขับเรือกับพร้าวเสียหน่อย”
นายหัวของเกาะอดเป็นห่วงสาวน้อยสมาชิกใหม่ของเกาะไม่ได้ จึงเดินมาที่โรงครัวเพื่อบอกป้าแก้วให้ไปช่วยดูแล
“ฟ้ามืดแบบนี้ ฝนทำท่าจะตก นายหัวจะไปทำไมกัน อันตราย”
ป้าแก้วเป็นห่วงลูกชายทั้งสองคน เพราะราชันจะออกไปกับพร้าว
“นี่แหละที่ผมต้องการ ตั้งแต่หัดขับเรือมา ยังไม่เคยต้องเจอฝนหรือพายุ ถ้าวันไหนต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติเหล่านี้ พร้าวมันไม่ได้ไปกับผมทุกครั้งนะครับ”
เมื่อรู้ว่าอย่างไรก็คงห้ามไม่ได้ ด้วยความเป็นห่วง หญิงวัยใกล้ชราแล้วก็ทำได้แค่เพียง ยกมือไหว้ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครองลูกชายทั้งสองคน
เรือแล่นออกไปได้ไม่นาน ราชันก็ได้เจอทั้งพายุและฝนอย่างสมใจ เขาต้องพยายามเรียนรู้วิธีการบังคับเรือ การเอาตัวรอดจากพร้าว ที่คอยสอนเขาตลอดเวลา
“เป็นไงบ้างปะการัง เห็นนายหัวบอกว่าเป็นลม”
ป้าแก้วเตรียมกับข้าวมื้อเย็นขึ้นไปให้แขกของเกาะ พร้อมทั้งเตรียมยาลมขึ้นไปด้วย เผื่อจำเป็นต้องใช้
“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ อาจจะเป็นเพราะนอนนานและก็อ่อนเพลีย พอออกไปเดินเลยรู้สึกวูบ ขอบคุณป้าแก้วมากนะคะที่ดูแล้วหนูอย่างดี ไว้หนูดีขึ้นเมื่อไหร่ ให้หนูได้ช่วยงานป้าตอบแทนนะคะ”
ปะการังสาวน้อยที่แสนจะอ่อนโยน เธอแสนดีและอ่อนแอสำหรับโลกใบนี้มาก การที่เธอเป็นแบบนี้ จึงทำให้ธิดาทำร้ายเธอได้ไม่ยากเลย สาเหตุที่เธอโดนจับตัวมา เพราะแม่เลี้ยงของเธอ บอกให้เธอมารับมัทนาที่ภูเก็ต โดยบอกกับเธอว่าห้ามบอกพ่อเลี้ยงสินชัยเด็ดขาด เพราะต้องการจะทำให้ท่านแปลกใจ
“ไม่ต้องกลัวหรอก งานที่เกาะมีมากมาย รักษาตัวเองให้หายดีก่อน และพยายามทบทวนความจำให้ได้ ว่าใครกันที่มันต้องการทำร้ายหนู นายหัวจะได้ช่วยจัดการให้”
ความเรียบร้อยของปะการัง ทำให้ป้าแก้วยิ่งเห็นแล้วรู้สึกสงสาร เธอดูไม่มีพิษมีภัยอะไร ใครถึงได้คิดทำร้ายเธอ ป้าแก้วได้แต่เอาใจช่วยให้เธอจำทุกอย่างให้ได้ไวๆ
“ป้าแก้วคะ นายหัวเขาชื่ออะไรนะคะ”
“ชื่อคุณราชันจ๊ะ แต่คนที่นี่เขาก็เรียกแต่นายหัว ไม่มีใครเรียกชื่อจริงๆ จนบางคนก็แทบจะลืมไปแล้ว ว่านายหัวของเกาะนี้ชื่อจริงว่าอะไร”
“เขาดูเป็นคนดีนะคะ ตอนแรกที่หนูได้ยินคนอื่นเรียกว่านายหัว หนูคิดว่า คงจะเป็นผู้ชายที่ดุ เข้ม และเจ้าอารมณ์ เสียอีก”
หญิงสาวพูดตามที่เธอคิดจริงๆ เพราะจากละครที่เธอเคยดู นายหัวจะต้องเถื่อนๆหน่อย ไม่ใช่หล่อเข้มแบบนายหัวของเกาะนี้
“นายหัวเป็นลูกชายของนายท่าน ป้าเลี้ยงของป้ามาตั้งแต่เกิด พออายุเข้าวัยรุ่น นายท่านก็ส่งไปเรียนที่อเมริกา เพิ่งจะกลับมาได้ไม่ถึงห้าปี แต่เพิ่งจะมาอยู่ที่เกาะแบบจริงจังได้สองปีเองเพราะนายท่านทั้งสอง อยากกลับไปพักผ่อนที่ฝั่ง เพราะสุขภาพไม่ค่อยดี”
พ่อแม่ของราชันต้องพบแพทย์อยู่เป็นประจำ ทั้งคู่จึงรอลูกชายคนเดียวมารับงานที่เกาะต่อจากเขา เมื่อถึงเวลาทั้งสองจึงปล่อยวางทุกอย่างและกลับไปอยู่ที่บ้านที่ภูเก็ตทันที ที่มั่นใจว่าราชันสามารถดูแลเกาะได้
“แล้วนายหัวมีแฟนหรือยังคะ”
“หึ” ป้าแก้วทำเสียงตกใจเมื่อหญิงสาวถามถึงเรื่องส่วนตัว
“คือที่หนูถาม หนูแค่คิดว่า ถ้าแฟนของนายหัวมาเจอหนูอยู่บ้านเดียวกับเขา ทั้งสองคนอาจจะเข้าใจผิดกัน หนูก็เลยถามไว้ก่อนค่ะ”
เมื่อพลั้งปากถามไป ปะการังก็สามารถคิดเหตุผลได้ทัน ไม่อย่างนั้นมีหวังอายป้าแก้วแน่ๆ ที่อยู่ดีๆ ก็ไปถามว่านายหัวมีแฟนหรือยัง
“ยังจ้า ตั้งแต่เล็กจนโต ป้ายังไม่เคยเห็นนายหัวพาใครมาที่นี่เลย ถ้ามีก็คงต้องพามาให้คนที่นี่รู้จักแน่ๆ กินข้าวให้หมดนะ ออกมานั่งเล่นหน้าห้องก็ได้ จะได้ไม่เบื่อ แต่อย่าเดินมาก ฝนตกกลางทะเล ลมกำลังพัดเลยจะได้เย็นชื่นใจ”
ป้าแก้วยังมีงานอื่นที่ต้องทำ จึงไม่ได้อยู่คุยกับสาวน้อยคนใหม่ของเกาะ เพราะฝนเหมือนจะตกคงมีอะไรที่ต้องเก็บหลบฝนอยู่มาก
5สาวชาวเกาะ วันนี้ราชันได้สมใจที่คิดๆไว้ เพราะเมื่อขับเรือออกจากเกาะได้ไม่นาน ฝนก็ตกอยู่กลางทะเล ลมพายุโหมกระหน่ำ เขาได้ฝึกจากสถานการณ์จริง ที่เขาต้องการมานาน “สนุกเป็นบ้าเลยพร้าวเอ๋ย” นายหัวรู้สึกตื่นเต้นกับการได้ขับเรือท่ามกลางพายุและฝนที่ตกหนัก เพราะเขาต้องการที่จะฝึกตัวเองให้แข็งแกร่งที่สุด การดูแลเกาะทั้งเกาะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ราชันต้องการที่จะทำทุกอย่างให้เก่งเหมือนที่พ่อของเขาทำได้ เพื่อจะได้ดูแลเกาะนี้ให้ดีที่สุด ให้สมกับที่พ่อของเขาไว้ใจ “นายหัวกลับกันได้แล้วครับ นี่เราเปียกฝนกันมาจะชั่วโมงแล้ว ถ้าพรุ่งนี้เราไม่ป่วยก็แสดงให้เห็นว่าเราร่างกายแข็งแรง และมีความอดทน” ชายหนุ่มรุ่นน้องความสนิทสนมทำให้เขารู้ว่า ราชันกำลังต้องการทดสอบความอดทนและความแข็งแรงของทั้งร่างกายและจิตใจ พร้าวจึงพยายามพูดให้เขารู้ว่าการพิสูจน์แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว “กลับก็กลับ เป็นห่วงคนที่เกาะเหมือนกันไม่รู้ว่าจะโดนพายุหนักเหมือนกลางทะเลไหม” เมื่อมองขึ้นไปบนฟ้า เงาดำปกคลุมอยู่เหนือเกาะ ราชันเองก็เริ่มเป็นห่วงชาวบ้านที่อยู่บนเกาะแล้ว
1เรียกค่าไถ่ “คุณคะ นี่ลูกหายไปหลายวันแล้วนะคะ” ธิดาทำท่าทางผุดลุกผุดนั่ง เพื่อให้พ่อเลี้ยงสินใจ คิดว่าเธอเป็นห่วง ปาฐิตาซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเธอจริงๆ“ผมให้เพื่อนที่ภูเก็ต ช่วยสืบข่าวอยู่ คุณคิดว่าผมสบายใจเหรอ”พ่อเลี้ยงสินชัยมีเพื่อนทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทอยู่ที่ภูเก็ตหลายคน ทุกคนกำลังช่วยกันตามหาและสืบข่าวของปาฐิตาอยู่ แต่ยังไร้วี่แววกริ๊ง กริ๊ง“คุณคะใครโทรมาเบอร์บ้าน ”ธิดาทำท่าตกใจ เพราะทุกวันนี้เวลาติดต่อกัน ส่วนมาทุกคนก็ใช้แต่โทรศัพท์มือถือ“สวัสดีค่ะ” ธิดาเป็นคนรับโทรศัพท์“มีอะไรเกิดขึ้น”สินชัยรีบลุกจากโซฟา มารับภรรยาที่ทำท่าจะเป็นลมและปล่อยโทรศัพท์หลุดออกจากมือ“ฉันไม่เป็นไรค่ะ พวกมันจับตัวลูกสาวเราไปเรียกค่าไถ่”ธิดาเธอเป็นแม่เลี้ยงที่สร้างภาพได้อย่างสวยงาม ไม่เคยมีคำว่าลูกฉันลูกคุณ เพราะตัวเธอก็มีลูกติดมาหนึ่งคน จึงหวังจะสร้างภาพความครอบครัวเดียวกัน เพื่อให้พ่อเลี้ยงสินชัย รักลูกสาวของเธอเหมือนลูกแท้ๆด้วย“ว่าไง พวกแกเป็นใครและต้องการอะไร” สินชัยคว้าโทรศัพท์ที่ล่วงจากมือของธิดาขึ้นมาคุยต่อ“พ่อคะ พ่อช่วยปลาด้วย”สินชัยใจแทบขาด เมื่อได้ยินเสียง ที่เขาจำได้ด
เมื่อธิดากลับไปไม่นาน คุณหมอที่ทำหน้าที่รักษาพ่อเลี้ยงสินชัย ก็เรียกป้านภาให้เข้าไปในห้องคนไข้ขั้นวิกฤต“ป้านภาครับ เชิญข้างในดีกว่าท่านน่าจะอยากเจอป้า”นภาแปลกใจในคำพูดของคุณหมอ แต่ก็ยอมเดินตามเข้าไป เพราะเธออยากเห็นว่าตอนนี้เจ้านายของเธอเป็นอย่างไรบ้าง“นายหัวขับเรือเก่งขึ้นเยอะเลย อีกหน่อยก็ออกทะเลได้เองไม่ต้องมีผมตามมาด้วย”พร้าวลูกน้องคนสนิทของนายหัวราชัน พูดชมเจ้านายที่สามารถขับเรือได้เก่ง หลังจากให้เขาสอนได้เพียงไม่กี่ครั้ง“ไอ้พร้าวเอ็งมันก็พูดเกินไป ถ้าลองให้ข้ามาคนเดียว เจอลมเข้าหน่อย รับรองขับไม่เป็นแน่ๆ”ราชันเพิ่งมารับช่วงดูแลเกาะต่อจากบิดาที่เริ่มแก่ตัวลง และตัดสินใจกลับไปอยู่ที่ตัวเมืองภูเก็ต ได้ไม่ถึงปีถึงแม้เขาจะอาศัยอยู่ที่เกาะมาตั้งแต่เล็กก็ตาม แต่ก็ไม่เคยต้องดูแลทุกอย่างเหมือนตอนนี้ และช่วงหลังเขาก็ต้องไปศึกษาต่อจึงห่างจากเกาะไปหลายปี“นายหัว นั่นอะไรลอยอยู่”พร้าวชี้ไปที่อะไรสักอย่างที่กำลังลอยอยู่ไม่ห่างจากเรือของเขากับเจ้านาย“นายหัวคน คนจริงๆด้วย”“ไอ้พร้าวเอ็งขับเร็วหน่อย เผื่อเขายังไม่ตาย”ราชันรีบวิ่งไปที่หัวเรือ เพื่อหวังจะไปถึงคนที่กำลังเกาะลูกมะพร้าวลอยอย
2เป็นคนใหม่ ธิดาได้รับทราบอาการของสามีจากนภา ที่อยู่เฝ้าเจ้านายอยู่ตลอดเวลา โดยที่ทางโรงพยาบาลจัดหาห้องไว้ให้ “นภาเธออยู่ที่นั่นแหละดีแล้ว เสื้อผ้าของเครื่องใช้ต่าง ๆ ฉันจะให้คนเอาไปให้นะ” ธิดารู้สึกสบายใจที่สามีของเธอไม่รู้เรื่องอะไรอีกแล้ว ถ้ารอดมาก็จะเป็นเพียงผักที่หายใจไปวันๆ และตอนนี้คนเก่าคนแก่ของบ้าน ก็จะขอไปเฝ้าเจ้านายที่โรงพยาบาลเลย ทางยิ่งสะดวก “งานเรียบร้อยดีใช่ไหม แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าอีนั่นมันตายแล้ว” ลูกน้องที่ถูกจ้างให้จับตัวปาฐิตาไว้ โทรมาทวงค่าทำงาน ธิดาจึงอยากแน่ใจ ว่าลูกเลี้ยงของเธอไม่มีชีวิตอยู่แล้วแน่ๆ “พวกผมทั้งตบทั้งตี จนสลบและอุ้มมันโยนลงทะเลแบบนั้น มีเหรอที่มันจะรอด ป่านนี้โดนสัตว์ทะเลกินจนใครมาเจอศพก็ไม่รู้แล้วว่าเป็นใคร” พวกโจรเถื่อนที่ธิดาจ้างยืนยันในผลงานของตัวเอง เพราะพวกมันซ้อมปาฐิตาจนสลบขนาดนั้น มีหรือที่เธอจะฟื้นมาช่วยตัวเองกลางทะเลได้ ธิดายอมจ่ายเงินกว่าห้าล้านบาท เพื่อเป็นค่าจ้างในการทำลายเสี้ยนหนามของเธอในครั้งนี้ พ่อเลี้ยงสินชัยป่วยหนัก ปาฐิตาก็หายตัวไปอย่าง
“คนเมื่อกี้นี้ เขาเป็นเจ้าของเกาะ คนที่นี่เขาเรียกกันว่า นายหัวกัน แต่จริง ๆ เขาชื่อราชัน” ป้าแก้วแนะนำ “ต่อไปนี้เธอชื่อปะการังนะ ดูแล้วเธอก็น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายฉัน มันชื่อเจ้าพร้าว เดี๋ยวคงไม่เจอกับมัน” แม่บ้านของเกาะหรือจะถือได้ว่าเป็นแม่คนที่สองของราชัน รู้สึกถูกชะตาปะการัง อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยมีลูกสาว เลยรู้สึกเห็นแล้วสงสารและเอ็นดู “ที่นี่อยู่ไกลจากฝั่งมากไหมคะ” หญิงสาวอยากรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ตรงไหนของแผนที่ประเทศไทย “ไกลเหมือนกัน จากนี่ไปฝั่งถ้านั่งเรือธรรมดาก็เกือบสามชั่วโมง ถามทำไมจะไปภูเก็ตเหรอ เริ่มจำอะไรได้แล้วหรือไง” “เปล่าค่ะป้า ฉันแค่ถามเฉยๆ เพราะอยากรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ไกลจากฝั่งมากแค่ไหน” หญิงสาวเกือบเผลอตัว ทำให้โดนจับได้ว่าเธอแกล้งจำทุกอย่างไม่ได้ “ป้าไปทำกับข้าวก่อนนะ พวกไปเรือเตรียมจะออกไปหาปลากันแล้ว” เมื่อถูกทิ้งให้นอนอยู่คนเดียวกลางบ้าน หญิงสาวก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ถ้าไม่เจอกับสองคนนั้น ป่านนี้เธอคงกลายเป็นศพไปแล้ว ระหว่างที่โดนจับ
3การต้อนรับ “ป้าแก้วไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคืนนี้ผมดูแลเธอเอง” เมื่อความมืดเริ่มปกคลุมเกาะ ป้าแก้วก็เอาข้าวต้มขึ้นมาให้คนเจ็บ แต่ราชันบอกว่าเขาจะเป็นคนดูแลเธอเอง “แน่ใจนะคะนายหัว ไม่ต้องให้ป้านอนข้างบนด้วยแน่นะ” ป้าแก้วถามเพื่อความแน่ใจ เพราะเขายังไม่เคยเห็น ชายหนุ่มตรงหน้าที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดจะเคยดูแลใครเลย เคยแต่เป็นฝ่ายถูกเขาดูแลเสียมากกว่า “เชื่อใจผมสิครับ ลูกชายคนนี้โตแล้วนะ รับรองจะดูแลอย่างดี” นายหัวของเกาะกอดเอวแม่คนที่สองของเขาอย่างเอาใจ ปะการังนอนดูทั้งสองคนแสดงความรักต่อกัน เธอยิ่งรู้สึกอ่อนแอ เธอคิดถึงแม่ คิดถึงป้านภา คิดถึงพ่อ เธอจะต้องกลับไปหาทุกคนให้ได้ แต่เธอต้องหาทางแก้แค้นให้ได้เสียก่อน “มากินข้าวกัน ค่อยๆลุกนะ เดี๋ยวผมช่วย” นายหัวผู้เอาแต่ใจของเกาะ วันนี้ต้องเป็นพยาบาลจำเป็นดูแลคนเจ็บ รอยฟกช้ำบนหน้าที่ได้รูปของหญิงสาว ยิ่งทำให้ราชันเห็นแล้วรู้สึกสงสาร ใครกันนะที่ทำกับผู้หญิงตัวเล็กได้ถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มอยากให้ความทรงจำของปะการังกลับมา เขาอยากช่วยเธอแก้แค้นไอ้พวกที่ชอบรังแกผู้หญิง
5สาวชาวเกาะ วันนี้ราชันได้สมใจที่คิดๆไว้ เพราะเมื่อขับเรือออกจากเกาะได้ไม่นาน ฝนก็ตกอยู่กลางทะเล ลมพายุโหมกระหน่ำ เขาได้ฝึกจากสถานการณ์จริง ที่เขาต้องการมานาน “สนุกเป็นบ้าเลยพร้าวเอ๋ย” นายหัวรู้สึกตื่นเต้นกับการได้ขับเรือท่ามกลางพายุและฝนที่ตกหนัก เพราะเขาต้องการที่จะฝึกตัวเองให้แข็งแกร่งที่สุด การดูแลเกาะทั้งเกาะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ราชันต้องการที่จะทำทุกอย่างให้เก่งเหมือนที่พ่อของเขาทำได้ เพื่อจะได้ดูแลเกาะนี้ให้ดีที่สุด ให้สมกับที่พ่อของเขาไว้ใจ “นายหัวกลับกันได้แล้วครับ นี่เราเปียกฝนกันมาจะชั่วโมงแล้ว ถ้าพรุ่งนี้เราไม่ป่วยก็แสดงให้เห็นว่าเราร่างกายแข็งแรง และมีความอดทน” ชายหนุ่มรุ่นน้องความสนิทสนมทำให้เขารู้ว่า ราชันกำลังต้องการทดสอบความอดทนและความแข็งแรงของทั้งร่างกายและจิตใจ พร้าวจึงพยายามพูดให้เขารู้ว่าการพิสูจน์แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว “กลับก็กลับ เป็นห่วงคนที่เกาะเหมือนกันไม่รู้ว่าจะโดนพายุหนักเหมือนกลางทะเลไหม” เมื่อมองขึ้นไปบนฟ้า เงาดำปกคลุมอยู่เหนือเกาะ ราชันเองก็เริ่มเป็นห่วงชาวบ้านที่อยู่บนเกาะแล้ว
4กอบโกย พ่อเลี้ยงสินชัยยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก คุณหมอไม่ยอมให้ธิดาเข้าไปเยี่ยมด้านใน อ้างว่ากลัวจะทำให้คนป่วยติดเชื้อ ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้อยากเข้าไปเยี่ยมเพราะความห่วงใยแต่แค่เพียงอยากรู้ว่าโอกาสรอดมีน้อยหรือมาก จะได้รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อ “นภาฉันคงไม่ได้มาเยี่ยมบ่อยๆนะ เพราะงานที่บริษัทกำลังยุ่ง ฉันเองก็ต้องมานั่งเรียนรู้ พ่อเลี้ยงเล่นไม่เคยบอกอะไรฉันเลย งงไปหมด แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด เพื่อรอวันที่หนูปลากลับมา ฝากด้วยนะนภา” นภารู้ดีว่าภรรยาของเจ้านายเป็นผู้หญิงแบบไหน แต่ตอนนี้เธอจำเป็นต้องแสดงว่าเชื่อ ว่านภาห่วงสามีและลูกเลี้ยงจริงๆ “คุณธิดาไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันจะดูแลพ่อเลี้ยงให้ดีที่สุด ไว้มีอะไรฉันจะโทรไปบอกแล้วคุณค่อยมาก็ได้ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางไปมา” ธิดาจับมือนภาด้วยใบหน้าที่พยายามแสดงถึงความซึ้งใจ ทั้งที่ใจจริงกำลังยิ้มเพราะเชื่อว่านภารู้ไม่เท่าทันเธอ หลังจากที่ธิดาออกจากโรงพยาบาลไป เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลและเข้าไปยังห้องผู้ป่วยหนักทันที นภาเองมีหน้าที่แค่คอยดูหน้าห้อ
3การต้อนรับ “ป้าแก้วไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคืนนี้ผมดูแลเธอเอง” เมื่อความมืดเริ่มปกคลุมเกาะ ป้าแก้วก็เอาข้าวต้มขึ้นมาให้คนเจ็บ แต่ราชันบอกว่าเขาจะเป็นคนดูแลเธอเอง “แน่ใจนะคะนายหัว ไม่ต้องให้ป้านอนข้างบนด้วยแน่นะ” ป้าแก้วถามเพื่อความแน่ใจ เพราะเขายังไม่เคยเห็น ชายหนุ่มตรงหน้าที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดจะเคยดูแลใครเลย เคยแต่เป็นฝ่ายถูกเขาดูแลเสียมากกว่า “เชื่อใจผมสิครับ ลูกชายคนนี้โตแล้วนะ รับรองจะดูแลอย่างดี” นายหัวของเกาะกอดเอวแม่คนที่สองของเขาอย่างเอาใจ ปะการังนอนดูทั้งสองคนแสดงความรักต่อกัน เธอยิ่งรู้สึกอ่อนแอ เธอคิดถึงแม่ คิดถึงป้านภา คิดถึงพ่อ เธอจะต้องกลับไปหาทุกคนให้ได้ แต่เธอต้องหาทางแก้แค้นให้ได้เสียก่อน “มากินข้าวกัน ค่อยๆลุกนะ เดี๋ยวผมช่วย” นายหัวผู้เอาแต่ใจของเกาะ วันนี้ต้องเป็นพยาบาลจำเป็นดูแลคนเจ็บ รอยฟกช้ำบนหน้าที่ได้รูปของหญิงสาว ยิ่งทำให้ราชันเห็นแล้วรู้สึกสงสาร ใครกันนะที่ทำกับผู้หญิงตัวเล็กได้ถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มอยากให้ความทรงจำของปะการังกลับมา เขาอยากช่วยเธอแก้แค้นไอ้พวกที่ชอบรังแกผู้หญิง
“คนเมื่อกี้นี้ เขาเป็นเจ้าของเกาะ คนที่นี่เขาเรียกกันว่า นายหัวกัน แต่จริง ๆ เขาชื่อราชัน” ป้าแก้วแนะนำ “ต่อไปนี้เธอชื่อปะการังนะ ดูแล้วเธอก็น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายฉัน มันชื่อเจ้าพร้าว เดี๋ยวคงไม่เจอกับมัน” แม่บ้านของเกาะหรือจะถือได้ว่าเป็นแม่คนที่สองของราชัน รู้สึกถูกชะตาปะการัง อาจเป็นเพราะเธอไม่เคยมีลูกสาว เลยรู้สึกเห็นแล้วสงสารและเอ็นดู “ที่นี่อยู่ไกลจากฝั่งมากไหมคะ” หญิงสาวอยากรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ตรงไหนของแผนที่ประเทศไทย “ไกลเหมือนกัน จากนี่ไปฝั่งถ้านั่งเรือธรรมดาก็เกือบสามชั่วโมง ถามทำไมจะไปภูเก็ตเหรอ เริ่มจำอะไรได้แล้วหรือไง” “เปล่าค่ะป้า ฉันแค่ถามเฉยๆ เพราะอยากรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ไกลจากฝั่งมากแค่ไหน” หญิงสาวเกือบเผลอตัว ทำให้โดนจับได้ว่าเธอแกล้งจำทุกอย่างไม่ได้ “ป้าไปทำกับข้าวก่อนนะ พวกไปเรือเตรียมจะออกไปหาปลากันแล้ว” เมื่อถูกทิ้งให้นอนอยู่คนเดียวกลางบ้าน หญิงสาวก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ ถ้าไม่เจอกับสองคนนั้น ป่านนี้เธอคงกลายเป็นศพไปแล้ว ระหว่างที่โดนจับ
2เป็นคนใหม่ ธิดาได้รับทราบอาการของสามีจากนภา ที่อยู่เฝ้าเจ้านายอยู่ตลอดเวลา โดยที่ทางโรงพยาบาลจัดหาห้องไว้ให้ “นภาเธออยู่ที่นั่นแหละดีแล้ว เสื้อผ้าของเครื่องใช้ต่าง ๆ ฉันจะให้คนเอาไปให้นะ” ธิดารู้สึกสบายใจที่สามีของเธอไม่รู้เรื่องอะไรอีกแล้ว ถ้ารอดมาก็จะเป็นเพียงผักที่หายใจไปวันๆ และตอนนี้คนเก่าคนแก่ของบ้าน ก็จะขอไปเฝ้าเจ้านายที่โรงพยาบาลเลย ทางยิ่งสะดวก “งานเรียบร้อยดีใช่ไหม แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าอีนั่นมันตายแล้ว” ลูกน้องที่ถูกจ้างให้จับตัวปาฐิตาไว้ โทรมาทวงค่าทำงาน ธิดาจึงอยากแน่ใจ ว่าลูกเลี้ยงของเธอไม่มีชีวิตอยู่แล้วแน่ๆ “พวกผมทั้งตบทั้งตี จนสลบและอุ้มมันโยนลงทะเลแบบนั้น มีเหรอที่มันจะรอด ป่านนี้โดนสัตว์ทะเลกินจนใครมาเจอศพก็ไม่รู้แล้วว่าเป็นใคร” พวกโจรเถื่อนที่ธิดาจ้างยืนยันในผลงานของตัวเอง เพราะพวกมันซ้อมปาฐิตาจนสลบขนาดนั้น มีหรือที่เธอจะฟื้นมาช่วยตัวเองกลางทะเลได้ ธิดายอมจ่ายเงินกว่าห้าล้านบาท เพื่อเป็นค่าจ้างในการทำลายเสี้ยนหนามของเธอในครั้งนี้ พ่อเลี้ยงสินชัยป่วยหนัก ปาฐิตาก็หายตัวไปอย่าง
เมื่อธิดากลับไปไม่นาน คุณหมอที่ทำหน้าที่รักษาพ่อเลี้ยงสินชัย ก็เรียกป้านภาให้เข้าไปในห้องคนไข้ขั้นวิกฤต“ป้านภาครับ เชิญข้างในดีกว่าท่านน่าจะอยากเจอป้า”นภาแปลกใจในคำพูดของคุณหมอ แต่ก็ยอมเดินตามเข้าไป เพราะเธออยากเห็นว่าตอนนี้เจ้านายของเธอเป็นอย่างไรบ้าง“นายหัวขับเรือเก่งขึ้นเยอะเลย อีกหน่อยก็ออกทะเลได้เองไม่ต้องมีผมตามมาด้วย”พร้าวลูกน้องคนสนิทของนายหัวราชัน พูดชมเจ้านายที่สามารถขับเรือได้เก่ง หลังจากให้เขาสอนได้เพียงไม่กี่ครั้ง“ไอ้พร้าวเอ็งมันก็พูดเกินไป ถ้าลองให้ข้ามาคนเดียว เจอลมเข้าหน่อย รับรองขับไม่เป็นแน่ๆ”ราชันเพิ่งมารับช่วงดูแลเกาะต่อจากบิดาที่เริ่มแก่ตัวลง และตัดสินใจกลับไปอยู่ที่ตัวเมืองภูเก็ต ได้ไม่ถึงปีถึงแม้เขาจะอาศัยอยู่ที่เกาะมาตั้งแต่เล็กก็ตาม แต่ก็ไม่เคยต้องดูแลทุกอย่างเหมือนตอนนี้ และช่วงหลังเขาก็ต้องไปศึกษาต่อจึงห่างจากเกาะไปหลายปี“นายหัว นั่นอะไรลอยอยู่”พร้าวชี้ไปที่อะไรสักอย่างที่กำลังลอยอยู่ไม่ห่างจากเรือของเขากับเจ้านาย“นายหัวคน คนจริงๆด้วย”“ไอ้พร้าวเอ็งขับเร็วหน่อย เผื่อเขายังไม่ตาย”ราชันรีบวิ่งไปที่หัวเรือ เพื่อหวังจะไปถึงคนที่กำลังเกาะลูกมะพร้าวลอยอย
1เรียกค่าไถ่ “คุณคะ นี่ลูกหายไปหลายวันแล้วนะคะ” ธิดาทำท่าทางผุดลุกผุดนั่ง เพื่อให้พ่อเลี้ยงสินใจ คิดว่าเธอเป็นห่วง ปาฐิตาซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเธอจริงๆ“ผมให้เพื่อนที่ภูเก็ต ช่วยสืบข่าวอยู่ คุณคิดว่าผมสบายใจเหรอ”พ่อเลี้ยงสินชัยมีเพื่อนทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทอยู่ที่ภูเก็ตหลายคน ทุกคนกำลังช่วยกันตามหาและสืบข่าวของปาฐิตาอยู่ แต่ยังไร้วี่แววกริ๊ง กริ๊ง“คุณคะใครโทรมาเบอร์บ้าน ”ธิดาทำท่าตกใจ เพราะทุกวันนี้เวลาติดต่อกัน ส่วนมาทุกคนก็ใช้แต่โทรศัพท์มือถือ“สวัสดีค่ะ” ธิดาเป็นคนรับโทรศัพท์“มีอะไรเกิดขึ้น”สินชัยรีบลุกจากโซฟา มารับภรรยาที่ทำท่าจะเป็นลมและปล่อยโทรศัพท์หลุดออกจากมือ“ฉันไม่เป็นไรค่ะ พวกมันจับตัวลูกสาวเราไปเรียกค่าไถ่”ธิดาเธอเป็นแม่เลี้ยงที่สร้างภาพได้อย่างสวยงาม ไม่เคยมีคำว่าลูกฉันลูกคุณ เพราะตัวเธอก็มีลูกติดมาหนึ่งคน จึงหวังจะสร้างภาพความครอบครัวเดียวกัน เพื่อให้พ่อเลี้ยงสินชัย รักลูกสาวของเธอเหมือนลูกแท้ๆด้วย“ว่าไง พวกแกเป็นใครและต้องการอะไร” สินชัยคว้าโทรศัพท์ที่ล่วงจากมือของธิดาขึ้นมาคุยต่อ“พ่อคะ พ่อช่วยปลาด้วย”สินชัยใจแทบขาด เมื่อได้ยินเสียง ที่เขาจำได้ด