ขณะที่เขาเมา ปากก็เอ่ยเรียกชื่อของคนที่หลงรัก เช้าวันถัดมา เขาจำอะไรไม่ได้เลย และพูดกับเธอว่า “ไปพาผู้หญิงคนเมื่อคืนนี้มาซะ!” “.....” ในที่สุดเวินหนี่ก็ท้อแท้และยื่นคำขอหย่าด้วยเหตุผลที่ว่า ฝ่ายหญิงต้องการมีบุตร แต่สามีไม่มีความสามารถในการมีบุตร จึงทำให้ความสัมพันธ์พังทลายลง! เมื่อเย่หนานโจวผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวทราบข่าว ใบหน้าของเขาก็อึมครึม สั่งให้คนไปจับเวินหนี่มาเพื่อพิสูจน์ตัวเอง คืนหนึ่ง ขณะที่เวินหนี่กลับมาที่บ้านหลังจากเลิกงาน เธอก็ถูกผลักไปที่มุมบันได “ใครอนุญาตให้เธอหย่าโดยไม่ได้รับความยินยอมจากฉัน?” เวินหนี่กล่าวว่า “คุณไม่มีความสามารถเอง แล้วยังไม่ยอมให้ฉันไปหาคนที่มีความสามารถอีกงั้นเหรอ?” คืนนั้นเย่หนานโจวต้องการทำให้เธอรู้ว่าแท้จริงแล้วเขามีความสามารถหรือไม่ แต่เวินหนี่หยิบรายงานผลตรวจการตั้งครรภ์ออกมาจากกระเป๋า เย่หนานโจวโกรธมาก “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร?” เขาตามหาพ่อของเด็กไปทั่ว และสาบานว่าจะฆ่าไอ้สารเลวนี่ให้ได้! แต่ใครจะรู้ว่าสุดท้ายแล้วกลับเป็นตัวเขาเสียเอง…
View Moreในภาวะคับขัน เธอใช้กำลังทุบหลังของคนผู้นั้นอย่างแรง พร้อมตะโกนเสียงดังว่า “คุณเป็นใคร ปล่อยฉันนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้!”แต่ชายคนนั้นไม่สนใจคำพูดของเธอ ปล่อยให้เธอตีและด่าไปตามเรื่อง พร้อมกับเร่งฝีเท้าเดินต่อไปเวินหนี่ร้อนรนและตื่นตระหนก ไม่ทันได้คิดอะไร คิดแต่จะหลุดพ้นจากมือของเขาเธอเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่กี่วัน ไม่รู้ว่าสภาพแวดล้อมรอบ ๆ นี้มีขโมยหรือโจรอยู่หรือเปล่าเธอกลัวจะได้รับอันตราย สิ่งแรกที่คิดคือการหนีออกจากอันตรายแต่ไม่ว่าเธอจะทุบตีแค่ไหน ชายคนนั้นก็ไม่ได้ทำร้ายเธอแต่อย่างใดนั่นหมายความว่าเขาไม่ใช่โจรอีกอย่างเธอตะโกนเสียงดังขนาดนี้ เขาก็ไม่กลัว หรือว่า…พอเธอคิดได้ เขาก็วางเธอลงกับพื้นอย่างมั่นคงเมื่อเธอมองเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน เวินหนี่ถึงกับหน้าซีดทันที “คุณ...”คำพูดติดอยู่ในลำคอ เวินหนี่ตระหนักได้ว่าพวกเขาแตกหักกันขนาดนี้แล้ว เธอไม่มีใจจะพูดอะไรอีกเธอปิดปากเงียบ ไม่อยากเผชิญหน้ากับเขา และรีบเดินหันหลังหนี“พอเห็นฉันแล้วจะหนี รู้สึกผิดหรือไง?” ชายคนนั้นพูดเสียงเย็นเวินหนี่หยุดเดินและเริ่มมีคำถามในหัว ตลอดเวลาที่เธอจากมา เขาไม่เคยตามหาเธอเธอทำกับเขาอย่างนั
ต่งหมิงห้าวเต็มไปด้วยความสงสัย คิดว่าเย่หนานโจวจะมาถามความผิดของเขา แต่เย่หนานโจวก็ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม เขาเพียงมาถามว่าเวินหนี่ไปโรงพยาบาลทำไมแต่หลังจากถามเสร็จ ร่างสูงก็จากไปเวินหนี่ท้องเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?ต่งหมิงห้าวไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ตราบใดที่เขาไม่ถูกไล่ออกก็พอใจแล้วเย่หนานโจวขึ้นลิฟต์ มือทั้งสองล้วงกระเป๋าเพื่อปิดบังความโกรธของตัวเอง น้ำเสียงเย็นชาพูดออกมา “เช็คให้ฉันเดี๋ยวนี้ว่าเวินหนี่อยู่ที่ไหน!”เธอกล้านอกใจเขาถึงเธอจะหนีไปสุดขอบฟ้า เขาก็ต้องจับเธอกลับมาให้ได้!เผยชิงไม่เคยเห็นสายตาโกรธเกรี้ยวของเย่หนานโจวมาก่อน ราวกับจะกลืนกินคนทั้งเป็นเมื่อเริ่มถามถึงที่อยู่ของเวินหนี่ เขาก็อดตัวสั่นไม่ได้ คิดว่าเวินหนี่คงต้องเจอเรื่องหนักหนาแน่นอนเมื่อถูกเจอตัวขอให้เธอโชคดีเถอะ!"ฮัดชิ่ว"เวินหนี่จามเสียงดัง น้ำตาไหลออกมาเธอใช้กระดาษเช็ดน้ำตาออก แล้วกลับมาเขียนต้นฉบับต่อไม่รู้ว่ามีใครกำลังคิดถึงเธออยู่หรือจะเป็นพ่อแม่ของเธอ?เมื่อไม่กี่วันก่อนเธอเพิ่งโทรไปบอกข่าวว่าปลอดภัย ไม่น่าจะใช่"เวินหนี่ บรรณาธิการให้เธอแก้ข่าวนี้หน่อย"เวินหนี่รับเอกสารจากเ
ชายคนนั้นได้เจอกับเวินหนี่และคุยกันอยู่สักพักดูเหมือนว่าจะคุ้นเคยกันมากคนนี้เขาพอจะจำได้ลาง ๆ ว่าน่าจะเป็นคนในบริษัทของเขาหลังจากเวินหนี่เดินไปแล้ว เขาก็เริ่มค้นหาในถังขยะการกระทำของเขาทำให้เย่หนานโจวขมวดคิ้ว แต่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ความจริงที่แท้จริง!…ต่งหมิงห้าวกำลังเร่งทำโปรแกรมบริษัทใหญ่ขนาดเย่กรุ๊ป การแข่งขันย่อมดุเดือดมาก ตอนที่เขาทำงานในบริษัทเล็ก ๆ เขาคือคนสำคัญแต่เมื่อมาที่นี่แล้ว โปรแกรมเมอร์ที่มีความสามารถแบบเขามีตั้งสิบกว่าคนหากต้องการก้าวหน้า เขาต้องโดดเด่นกว่าใครการออกจากบริษัทเก่า ก็เพราะอยากจะปีนไปให้สูงขึ้น เขาไม่กล้าผ่อนคลายเลยแม้แต่นาทีเดียว จึงทำงานอย่างบ้าคลั่งการกินข้าว ก็แค่กัดขนมปังไม่กี่คำเพื่อให้ผ่านไปในตอนนั้นเองขณะที่ต่งหมิงห้าวถือขนมปังอยู่ในมือ เตรียมจะใส่เข้าปาก ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีคนยืนอยู่ข้าง ๆเขาเงยหน้าขึ้นก็ตกใจเกือบสะดุ้ง ขนมปังในมือเกือบหลุดร่วง “ประธานเย่!”ร่างสูงใหญ่ของเย่หนานโจวยืนอยู่ตรงหน้าเขา สร้างแรงกดดันมหาศาลต่งหมิงห้าวรีบลุกขึ้นทันที “ประธานเย่ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”สายตาของเย่หนานโจวจ้องมองชาย
แต่เย่ซูเฟินก็สังเกตเห็นว่าเวินหนี่ไม่ได้กลับมากับเขาด้วยเธอรู้ว่าเย่หนานโจวไม่ต้องการให้เวินหนี่คอยดูสีหน้าเธอ และไม่อยากให้เวินหนี่ถูกรังแก ถึงได้พาหล่อนไปอาศัยอยู่ที่อื่นในช่วงที่ผ่านมาแต่เขากลับมาอยู่ที่บ้านหลายวันติดต่อกันแล้วโดยไม่เห็นเวินหนี่เลย ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจเธอไม่เคยได้ยินเย่หนานโจวพูดถึงเวินหนี่ ดังนั้นเธอรู้สึกสนใจเรื่องนี้ขึ้นมา เธอลองสืบและพบว่าเวินหนี่ไม่ได้ไปที่บริษัทหลายวันแล้วหรือเธอเลิกกับเขาแล้วอย่างนั้นเหรอ?เธอต้องการสืบ แต่เย่หนานโจวไม่ยอมให้เธอรู้ทุกอย่าง ยกตัวอย่างเรื่องในว่างเจียงหยวนเธอก็ไม่อาจสืบได้ตามจริงแล้วเธอเป็นแม่ของเย่หนานโจว เป็นนายหญิงของตระกูลนี้ รวมถึงคนที่ว่างเจียงหยวนก็ต้องให้ความเคารพเธอ แต่พวกเขากลับไม่สามารถงัดปากได้ด้วยเงินและฟังแค่คำสั่งของเย่หนานโจวเท่านั้นซึ่งมันทำให้เธอหงุดหงิดมากไม่ว่าจะยังไง สิ่งสำคัญคือเวินหนี่เลิกลากับเย่หนานโจวแล้ว เธอต้องถามอะไรบางอย่างขณะที่เย่หนานโจวกำลังขึ้นไปชั้นบน เย่ซูเฟินก็กล่าวขึ้นว่า “ช่วงนี้ไม่เห็นเวินหนี่เลย ลูกทะเลาะกับเธอ หรือว่าหย่ากันแล้ว?”หากพวกเขาหย่ากันแล้ว เธ
เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่หนานโจวก็ชะงักและหรี่ตาที่เป็นอันตรายของเขาลงเล็กน้อย “ปิดบังอะไร?”เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าเย่หนานโจวยังดูเหมือนสนใจ จึงบอกความจริงกับเขา “คุณเวินไปโรงพยาบาลหลายครั้ง แพทย์และพยาบาลไม่ยอมพูดว่าเธอไปทำอะไร ดูเหมือนว่าคุณเวินจะขอให้พวกเขาเก็บไว้เป็นความลับ แต่เราพยายามอย่างเต็มในการสืบค้นในกล้องวงจรปิด และสถานที่ที่คุณเวินไปน่าจะเป็นแผนกสูตินรีเวชครับ”เมื่อได้ยินคำตอบดังกล่าว เย่หนานโจวก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกสักพักเขาบังเอิญเจอเวินหนี่ที่โรงพยาบาลอยู่หลายครั้ง เธอบอกว่าประจำเดือนมาผิดปกติจึงไปโรงพยาบาลให้หมอตรวจดูให้ทุกครั้งที่เขาจะพาเธอไปตรวจ เธอก็ปฏิเสธทุกครั้งเธอจงใจปกปิดเขา และเขาก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องส่วนตัวของเธอ จึงไม่ได้สาวความเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้แต่คิดก็ยังไม่กล้าคิดเขาและเวินหนี่รักษาระห่างกันตลอดสามปีที่ผ่านมา และเขาก็ไม่เคยแตะต้องเธอเลยแม้ว่าเขาจะต้องการ แต่หากเวินหนี่ไม่ต้องการ เขาก็จะไม่บังคับเธอมีช่องว่างในชีวิตแต่งงานของพวกเขาที่ไม่สามารถเชื่อมเข้าด้วยกันได้ และเขาก็ให้ความเคารพเธออย่างที่สุดแม้กระทั่งตอนนี้ เย่หนานโจวก็ไม่กล้าคิดเกี่ยวกั
เวินหนี่ดื่มน้ำผลไม้ในแก้วจนหมด และก่อนจะดื่มหมดเธอก็ชนแก้วกับแก้วไวน์ของเย่หนานโจวเป็นครั้งสุดท้ายนี่ถือเป็นการอำลากันด้วยดี ก่อนหน้านี้พวกเธอได้ทานอาหารร่วมกันอย่างมีความสุขก่อนที่เวินหนี่จะจากไป เธอก็ได้วางสัญญาหย่าไว้บนโต๊ะถัดมาเป็นตั๋วไปฝรั่งเศสสองใบแต่ตั๋วนี้ไม่ใช่ของเธอกับเย่หนานโจว แต่เป็นของเย่หนานโจวกับลู่ม่านเซิง ฝรั่งเศสเป็นสถานที่ที่โรแมนติกมาก ดังนั้นการไปที่นั่นกับคนรักน่าจะเหมาะกว่าหลังจากทำสิ่งที่เธอควรทำเสร็จแล้ว เวินหนี่ก็หยิบกระเป๋าเดินทางและออกจากบ้านคืนนี้ไม่มีใครเฝ้ายามทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น…วันรุ่งขึ้น“ประธานเย่!”“ประธานเย่ ตื่นเถอะครับ!”เย่หนานโจวค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา หัวของเขายังคงมึนงง และเหมือนมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ในหัวของเขาเขากุมขมับและรู้สึกปวดหัว ก่อนจะนึกถึงฉากที่เวินหนี่ทำอาหารให้เขาเมื่อวานนี้ขึ้นมาได้เขาลุกขึ้นยืนทันทีและมองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาเย็นชา ไม่มีร่างของเวินหนี่อีกต่อไป “ประธานเย่ เป็นอย่างไรบ้างครับ คุณต้องการไปโรงพยาบาลไหม?” เผยชิงถามอย่างเป็นกังวลเมื่อเห็นว่าสีหน้าของเขาไม่ดีนักในตอนเช้า คนรับใช้พบว่าเย่ห
หากให้เป็นเลขาเวินตลอดไป เธอก็คงจะเหมาะสมอย่างแน่นอนแต่เธอโลภมากเกินไปที่ต้องการความรักจากเขาหากยังอยู่ด้วยกันต่อ พวกเธอจะไม่มีทางจบกันด้วยดี และแม้แต่ความทรงจำที่สวยงามที่สุดก็จะไม่มีอยู่อีกต่อไป“เวินหนี่...” เย่หนานโจวอารมณ์พุ่ง แต่ยาก็ออกฤทธิ์เร็วขึ้น ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่เธอ “เธอทิ้งฉัน...เพื่อจะไปหาอาจ้านงั้นเหรอ?”เวินหนี่ไม่ได้ตอบ แต่รวบรวมความกล้าสัมผัสใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ภายใต้การจ้องมองอันเฉียบคมของเขาเธอมองเขา พยายามค้นหาเงาของอาจ้านในตัวเขาแต่เขาคือเย่หนานโจว ไม่ใช่ชายหนุ่มที่อยู่ในความคิดเพ้อฝันของเธออีกต่อไปเธอจำความเสียสละตนของเขาในการช่วยชีวิตเธอจากเงื้อมมือของพวกอันธพาลจนตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัสได้เธอเป็นหนี้ชีวิตเขา เพราะเขาได้รับบาดเจ็บเพราะเธอ แต่ต่อมาเธอก็ไม่มีอะไรติดค้างเขาแล้ว เพราะเธอก็ช่วยชีวิตเขาไว้ครั้งหนึ่งเช่นกัน เวินหนี่จำเรื่องราวเกี่ยวกับเขาได้เป็นอย่างดี หลังจากเรียนจบมัธยมต้น สายตาของเธอก็ตกอยู่บนตัวเขามาโดยตลอด เธอเรียนโรงเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัยที่เดียวกันกับเขา สำหรับเย่หนานโจว เธอมีตัวตนอยู่เพียงเจ็ดปีเท่านั้นแต่สำหรับเ
เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่หนานโจวก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะฟังยังไงเขาก็รู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังเหน็บแนม เขามองไปที่เวินหนี่ที่อยู่ตรงข้ามเขา แต่รู้สึกว่าเธออยู่ห่างไกลเขาเหลือเกิน ระยะห่างทำให้เขารู้สึกว่างเปล่า ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มลึก “เวินหนี่ เขยิบเข้ามาใกล้อีกหน่อย”เวินหนี่ไม่ได้ปฏิเสธ และขยับเก้าอี้มาข้าง ๆ พร้อมทั้งคีบอาหารให้เขา “เย็นหมดแล้ว ทำไมยังไม่กินอีกล่ะคะ หรือเป็นเพราะว่าฉันทำไม่อร่อยเหรอ?”เย่หนานโจวเฝ้าดูเธอตักอาหารใส่ชามของเขา พลางชะงักไปครู่หนึ่ง เขามองเวินหนี่อีกครั้ง ก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมา “ก่อนจะทำอาหารฉันก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ขอแค่เธอเป็นคนทำฉันก็กินหมดอยู่แล้ว”เขาคีบอาหารที่เวินหนี่ใส่ไว้ในจานของตัวเองขึ้นมาต่อหน้าเธอ แล้วใส่เข้าไปในปากพร้อมทั้งพยักหน้าอย่างถูกใจ “อืม ไม่เลว เธอมีพรสวรรค์ในการทำอาหารจริง ๆ!”เขากินอาหารจานเดียวกันอีกสองคำเมื่อเวินหนี่เห็นว่าเขาดูเหมือนจะชอบ อารมณ์ของเธอก็ผันผวน เธอยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ไม่มีทาง ไหนฉันขอชิมดูหน่อย มันจะอร่อยขนาดนั้นอย่างที่คุณพูดหรือเปล่า”เธอวางตะเกียบลงในจานอีกใบแล้วคีบกินคำเล็ก ๆ “มันก็เ
ขณะที่เขากอดเธอ ร่างกายของเวินหนี่ก็แข็งทื่อ ภายในไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็วางหม้อที่กำลังปรุงอยู่ลงแล้วถามขึ้นว่า “เป็นอะไรไปคะ? ฉันใกล้ทำเสร็จแล้วล่ะค่ะ”แต่เย่หนานโจวก็กอดเธอแน่นขึ้นเรื่อย ๆ และซุกหน้าลงในเส้นผมของเธอ กลิ่นหอมที่คุ้นเคยทำให้เขาผ่อนคลายลงทันที “เปล่า ฉันแค่อยากอยู่กับเธอ แบบนี้ฉันถึงจะรู้สึกสบายใจขึ้น”ดวงตาของเวินหนี่เป็นประกาย และเธอยังคงผัดอาหารในหม้อต่อ “ในห้องครัวมีควันเยอะ มันไม่เหมาะกับคุณ”เย่หนานโจวกล่าว “ถ้าได้อยู่กับเธอ ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น”หากเป็นเมื่อก่อนเวินหนี่คงจะรู้สึกอบอุ่นและตื่นเต้นอยู่ข้างในแต่ตอนนี้เธอใจนิ่งดั่งน้ำ ราวกับว่าคำพูดหวาน ๆ ของเย่หนานโจวนั้นไร้ผลบางทีอาจเพราะเคยคาดหวังมากเกินไป จนหัวใจเธอมันชินชาไปแล้ว เธอไม่ได้ผลักเขาออก ไม่ได้ปฏิเสธ และไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่อยู่ด้วยกันอย่างเงียบ ๆเธอรู้ดีว่า พวกเธอไม่ค่อยมีโอกาสแบบนี้และโอกาสแบบนี้ก็มีไม่มากนัก เมื่อเธอทำอาหารเสร็จแล้ว ถึงได้ดึงมือของเย่หนานโจวออก เธอมองย้อนกลับไปที่เขา แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ออกไปเถอะค่ะ อาหารเสร็จแล้ว เดี๋ยวจัดใส่จานก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว”“ทำไมต้องพิถีพิถ
Comments