Share

บทที่ 4

Author: เซียงปู้อี๋
last update Last Updated: 2024-06-25 13:24:45
“วันนี้พี่เวินหนี่ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดี เธอไม่อยากเอาเอกสารมาส่ง ฉันเลยต้องเอามาส่งน่ะค่ะ” ลู่ม่านเซิงวางมือที่โดนลวกตรงหน้าเขา “พี่หนานโจว อย่าโทษพี่เวินหนี่เลยนะคะ ฉันว่าเธอคงไม่ได้ตั้งใจ หวังว่าคงจะไม่ได้ทำให้งานของพี่ล่าช้าหรอกใช่ไหมคะ”

เอกสารของบริษัทไปอยู่ในมือของคนอื่น นี่เป็นครั้งแรกที่เวินหนี่ทำอะไรแบบนี้

สีหน้าของเย่หนานโจวมืดมน แต่เขาก็ยังคงอดทนเมื่ออยู่ต่อหน้าลู่ม่านเซิง เขาเพียงแค่ดึงเนกไทแล้วพูดอย่างเรียบนิ่ง “ไม่เป็นไร”

เขาเปลี่ยนเรื่องแล้วพูดขึ้นว่า “ไหน ๆ ก็มาแล้ว นั่งพักก่อนสิ”

เมื่อได้ยินแบบนั้นลู่ม่านเซิงก็รู้สึกมีความสุขในใจ อย่างน้อยเขาก็ยอมรับเธอ และไม่ได้เกลียดเธอ

“พี่มีประชุมไม่ใช่เหรอคะ ฉันรบกวนพี่หรือเปล่า”

เย่หนานโจวโทรออกหาใครบางคน “เลื่อนการประชุมออกไปครึ่งชั่วโมง”

มุมปากของลู่ม่านเซิงโค้งงอขึ้น ก่อนจะมาที่นี่เธอกำลังคิดว่า การที่เธอจากไปโดยไม่บอกลาจะทำให้เขารู้สึกโกรธหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้แย่เหมือนที่คิดเอาไว้

เวลาที่เสียไปยังชดเชยกลับคืนมาได้

ลู่ม่านเซิงนั่งลงบนโซฟาอย่างคาดหวัง และอยากจะอธิบาย “พี่หนานโจว ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับพี่ตั้งหลายเรื่อง ตอนนั้นเป็นความผิดของฉันเองที่จากไปโดยไม่ได้บอกลา แต่ตอนนี้ฉันกลับมาแล้ว…”

“ฉันขอจัดการงานก่อน” เย่หนานโจวขัดจังหวะเธอ

ลู่ม่านเซิงกลืนคำพูดกลับลงไปอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเขาดูยุ่งมากจึงได้แต่พูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันรอจนกว่าพี่จะทำงานเสร็จก็ได้ค่ะ”

ลู่ม่านเซิงไม่กล้ารบกวนเขา และก็ไม่รู้ว่าภายในครึ่งชั่วโมงนี้เธอต้องนั่งรออีกนานแค่ไหนกว่าที่จะได้คุยกับเขา

เธอเดาอารมณ์ของเขาไม่ออกเลย

จนกระทั่งเผยชิงเดินเข้ามา เย่หนานโจวถึงได้หยุดงานในมือ

เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา ลู่ม่านเซิงจึงตะโกนขึ้นด้วยรอยยิ้ม “พี่หนานโจว ฉัน…”

“มือยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?”

นี่เขาสังเกตเห็นอาการบาดเจ็บที่มือของเธอและเป็นห่วงเธอใช่ไหม?

ลู่ม่านเซิงส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ไม่เจ็บแล้วค่ะ”

“อืม” เย่หนานโจวตอบเบา ๆ และหยิบชามยามาจากมือผู้ช่วยเผยชิง “ได้ยินมาว่าเธอยังไม่ชินกับสภาพอากาศและรู้สึกเจ็บคอ กินยานี่สิ มันจะดีต่อลำคอของเธอนะ”

ลู่ม่านเซิงมองไปที่ชามยาร้อน ๆ และรู้สึกมีความสุขขึ้นมาอีกครั้ง

เขาแอบติดตามสถานการณ์ของเธอและรู้แม้กระทั่งว่าเธอเจ็บคอ แสดงให้เห็นว่าเขายังคงห่วงใยเธออยู่

เธอรีบรับชามยามา พร้อมกับเผยรอยยิ้มที่สดใสดุจดอกไม้ “พี่หนานโจว พี่ยังใส่ใจฉันเหมือนเคยเลยนะคะ แค่นี้ฉันก็พอใจมากแล้ว ฉันจะกินยาให้หมดเลยค่ะ”

ก่อนที่เธอจะนำชามยาเข้ามาใกล้ ก็ได้กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เป็นอย่างมาก

เธอไม่ชอบรสชาติของยาจีน แต่ถ้ายานี้มาจากเย่หนานโจวเธอก็จะกิน

เธอขมวดคิ้วด้วยความขมขื่นและพยายามกลืนยานั้นลงไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

เมื่อเห็นเธอกินยาหมดในอึกเดียวจนไม่เหลือสักหยด เย่หนานโจวก็เบนสายตาไปทางอื่น

“ประธานเย่ การประชุมกำลังจะเริ่มแล้วครับ” ผู้ช่วยเผยชิงเตือนขึ้น

เย่หนานโจวมองไปที่ลู่ม่านเซิงแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันยังต้องทำงาน เธอกลับไปก่อนเถอะ”

ลู่ม่านเซิงเช็ดปาก เธอพูดอะไรมากไม่ได้ จึงได้แต่ตอบกลับไปอย่างเข้าใจว่า “ก็ได้ค่ะ ไว้ฉันจะมาเยี่ยมพี่ใหม่วันหลังนะคะ”

แล้วเย่หนานโจวก็เดินออกไป

ลู่ม่านเซิงมองตามแผ่นหลังของเขาอย่างอ้อยอิ่งจนกระทั่งร่างสูงลับสายตาไป

เธอมีความสุขมากและส่งข้อความถึงผู้จัดการว่า ‘กลับมาครั้งนี้ฉันพนันถูก เขายังคงรักฉันอยู่’

ข้างนอก เมื่อเดินไปถึงห้องประชุม เผยชิงก็ถามขึ้นข้างหลังเย่หนานโจว “ประธานเย่ ทำไมเราถึงต้องใส่ยาคุมกำเนิดลงในยาด้วยล่ะครับ?”

ใบหน้าของเย่หนานโจวไร้อารมณ์ และเย็นชา “ลู่ม่านเซิงไปที่โรงแรมแล้ว”

เผยชิงเข้าใจทันที เขากลัวว่าผู้หญิงคนเมื่อคืนจะเป็นลู่ม่านเซิง และกลัวว่าเธอจะท้อง

การทานยาคุมกำเนิดถึงจะรับประกันได้

หนึ่งวันเต็มที่เวินหนี่ไม่มาบริษัท แถมยังไม่โทรมาลาอีกด้วย

เดิมที เธอจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ และไม่เคยทำผิดพลาดเลยสักครั้ง

เดี๋ยวนี้เธอเริ่มเอาแต่ใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มาทำงานแถมยังไม่บอกกล่าวสักคำ

เย่หนานโจวโกรธมาก เขามีสีหน้าเคร่งขรึมตลอดทั้งวัน และไม่ยิ้มเลย สิ่งนี้ทำให้พนักงานบริษัทต่างก็กลัวว่าตัวเองจะทำอะไรผิด

หลังจากเลิกงาน เย่หนานโจวกลับมาถึงคฤหาสน์ต้นตระกูล

เวลานี้เวินหนี่ได้ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว

ในห้องนอน เวินหนี่นอนอยู่บนเตียง มือของเธอยังคงสั่น ดวงตาของเธอแดงก่ำ และยังอยู่ในภาวะช็อก

แผลบนมือยังไม่ทันได้รับการรักษา จึงเกิดการพุพองขึ้น

เมื่อเทียบกับบาดแผลในหัวใจ บาดแผลนอกร่างกายนั้นแทบจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย

เมื่อเย่หนานโจวมาถึงประตูบ้าน คนรับใช้ก็เดินเข้าไปพร้อมกับเปลี่ยนรองเท้าให้เขา

สีหน้าของเขาเคร่งขรึมและถามขึ้นว่า “คุณผู้หญิงอยู่ไหน?”

“อยู่ชั้นบนค่ะ” คนรับใช้พูด “ตั้งแต่คุณผู้หญิงกลับมาจากข้างนอก เธอก็ไม่ได้ออกมาอีกเลยค่ะ”

หลังจากได้รับคำตอบแล้ว เย่หนานโจวก็ขึ้นไปชั้นบน

เมื่อเปิดประตูห้องนอนก็เห็นผ้าห่มที่นูนขึ้นจนมองไม่เห็นหัวคนเลยด้วยซ้ำ

ความผิดปกติของเธอทำให้เย่หนานโจวสับสน เขาเดินไปข้างเตียง ก้มลงและแตะผ้าห่ม

“อย่าแตะต้องฉัน!”

เวินหนี่สะบัดมือออก

เธอได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวที่ประตูเมื่อนานแล้ว และคิดว่าพวกเขากำลังจะจับเธอขังในห้องมืดอีกครั้ง ทุกย่างก้าวก็เหมือนกับการเหยียบย่ำหัวใจของเธอ

เธอคลุมผ้าห่มอย่างแน่นหนา และตกอยู่ในความตื่นตระหนก

จนกระทั่งมีคนเปิดผ้าห่มของเธอ เธอจึงลุกขึ้นนั่งและดันมือของเขาออก

เย่หนานโจวรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นเธอตอบโต้อย่างรุนแรงเช่นนี้ สีหน้าของเขามืดมนลง และเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เวินหนี่ ถ้าเธอไม่แกล้งทำเป็นมีลับลมคมในแบบนี้ คิดว่าฉันอยากจะสัมผัสเธอหรือไง”

เมื่อเวินหนี่พบว่าคือเย่หนานโจว จิตใจของเธอก็สงบขึ้น

แต่พอได้ยินคำพูดของเขา หัวใจที่พรุนเป็นรูก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่นิดหน่อย เธอสงบสติอารมณ์และพูดขึ้นว่า “ประธานเย่ ฉันไม่รู้ว่าเป็นคุณ”

“ในบ้านนี้ ถ้าไม่ใช่ฉัน แล้วจะเป็นใคร?” เย่หนานโจวเยาะเย้ย “ใจของเธอมันลอยออกไปข้างนอกแล้วหรือไง”

เวินหนี่เม้มริมฝีปาก ในใจของเธอมีเพียงคำพูดหยาบคายของเย่ซูเฟินเท่านั้น

ลู่ม่านเซิงเหมาะสมกับเย่หนานโจวมากกว่าเธอ

ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว และพวกเขาสามารถสานต่อความสัมพันธ์กันต่อได้ ธุระของเธอก็หมดลงแล้ว

“วันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย”

เวินหนี่รู้ว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน “ลู่ม่านเซิงเอาเอกสารไปส่งให้แล้วใช่ไหมคะ หวังว่ามันจะไม่ทำให้งานของคุณต้องล่าช้า”

การทำตามใจตัวเองของเธอในวันนี้ทำให้เย่หนานโจวรู้สึกไม่พอใจ “เลขาเวิน ในเมื่อเธอก็มีไหวพริบดี แล้วทำไมถึงได้สร้างปัญหามากมายแบบนี้”

เวินหนี่ครุ่นคิด เธอสร้างปัญหาอะไรบ้าง

หรือว่าจะเป็นที่ทำให้แม่ของเขาโกรธ

ทำให้มือของผู้หญิงที่เขารักได้รับบาดเจ็บ

เธอซ่อนมือไว้ใต้ผ้าห่ม หัวใจของเธอเริ่มชา “มันจะไม่เกิดขึ้นอีกค่ะ”

หลังจากหย่าแล้วก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก

เธอจะไม่ยืนขวางทางพวกเขาอีกไม่ว่าใครก็ตาม

“ตรวจสอบผู้หญิงคนเมื่อคืนได้หรือยัง?”

เวินหนี่ตัวแข็งทื่อ “กล้องวงจรปิดพังทำให้ตรวจสอบไม่พบค่ะ”

เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับจ้องไปที่เธอ “แล้วเธอทำอะไรอยู่ที่บ้านทั้งวัน?”

เวินหนี่มองดูท้องฟ้าข้างนอก มันมืดแล้ว

เธอไม่ได้ไปบริษัทหนึ่งวัน เขาคงคิดว่าเธอกำลังทำตัวขี้เกียจและอู้งานสินะ

“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ” เวินหนี่ไม่อยากพูดอะไรมาก หลังจากชำระหนี้ให้กับตระกูลเย่หมดแล้ว เธอและเขาก็จะไม่มีอะไรต้องติดค้างกัน

ความสัมพันธ์แบบรักข้างเดียวตลอดเจ็ดปีก็ควรจะสิ้นสุดลงได้แล้ว

เธอลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าแล้วเดินอ้อมตัวเขาเพื่อที่จะออกไป

ในบ้านนี้ หากไม่มีเขา เธอก็คงไม่มีอะไรให้ต้องคำนึงถึง

ตอนนี้เธอเหนื่อยแล้ว และไม่อยากทนกับการถูกปฏิบัติแบบไม่เป็นธรรมเหล่านี้อีกต่อไป

เย่หนานโจวมองดูเธอและพบว่ามือของเธอก็ถูกลวกเช่นกัน

บาดแผลนั้นรุนแรงกว่าของลู่ม่านเซิง

ในขณะที่เวินหนี่กำลังจะเดินออกจากห้อง เขาก็พูดขึ้นว่า “เดี๋ยว!”

Related chapters

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 5

    เวินหนี่หยุดฝีเท้า ความสัมพันธ์ของพวกเธอไม่ได้รักใคร่กลมเกลียวกันฉันคู่สามีภรรยา แต่คือความสัมพันธ์ที่ห่างเกินระหว่างเจ้านายกับลูกน้องมากกว่า “ประธานเย่ มีอะไรจะสั่งอีกหรือเปล่าคะ?”เย่หนานโจวหันหน้าไปจ้องใบหน้าที่ดูห่างเหินของเวินหนี่ และพูดด้วยน้ำเสียงออกคำสั่ง “นั่งลง”จู่ ๆ เวินหนี่ก็ไม่เข้าใจว่าเขาต้องการจะทำอะไรเย่หนานโจวเดินเข้ามาหาเธอเวินหนี่เฝ้าดูเขาเดินใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะนี้ มีบางอย่างดูแตกต่างออกไป ทำให้เธอรู้สึกว่าอากาศเบาบางลงทั้งตื่นเต้นและรู้สึกแปลกเล็กน้อยเธอยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว แต่เย่หนานโจวเอื้อมมือมาจับมือของเธอเองเมื่อฝ่ามืออันอุ่นร้อนของเขาสัมผัสเธอ เธอก็รู้สึกเหมือนกำลังถูกบางสิ่งเผาไหม้และต้องการดึงมันออก แต่เย่หนานโจวกลับจับมันไว้แน่น และไม่เปิดโอกาสให้เธอดึงมันกลับเลย เขาดึงเธอไปด้านข้างพลางขมวดคิ้วถาม “มือของเธอได้รับบาดเจ็บ ไม่รู้ตัวเลยหรือไง?”ความเป็นห่วงของเขาทำให้เวินหนี่รู้สึกประหลาดใจ “ฉัน... ไม่เป็นไรค่ะ”“มือเป็นแผลพุพองแบบนี้” เย่หนานโจวถามต่อ “ทำไมถึงไม่บอกฉัน”เธอมองลงไปที่มือใหญ่ ที่ตอนนี้กำลังตรวจสอบบาดแผลของเธอตลอดหล

    Last Updated : 2024-06-25
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 6

    เธอรู้สึกหัวหมุนและวิงเวียนศีรษะ ก่อนจะได้ยินเสียงของใครบางคนพูดขึ้นอย่างเป็นกังวล “พวกนายทำงานกันแบบไหนถึงได้เกิดความผิดพลาดแบบนี้! พี่เวิน พี่เวินคะ…”เสียงนั้นฟังดูค่อย ๆ ไกลออกไป ก่อนที่เวินหนี่จะหมดสติเมื่อตื่นขึ้นมาเวินหนี่ก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว เธอมองดูเพดานสีขาว ยังคงรู้สึกวิงเวียนและปวดศีรษะอย่างรุนแรง“พี่เวิน พี่ฟื้นแล้ว!” หลี่ถิงลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยดวงตาสีแดงก่ำพร้อมกับพูดขึ้นอย่างเป็นกังวล “พี่รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าคะ? ให้ฉันเรียกหมอมาให้ไหม”เวินหนี่มองดูหลี่ถิง แม้ว่าตัวเองจะยังอ่อนแรง แต่เธอก็ลุกขึ้นนั่งโดยไม่รู้ตัว “ฉันไม่เป็นไร ที่ไซต์ก่อสร้างเป็นยังไงบ้าง? มีใครได้รับบาดเจ็บอีกหรือเปล่า?”หลี่ถิงตอบ “พี่อย่าพึ่งกังวลเรื่องงานเลยค่ะ พี่ถูกกระจกหล่นกระแทกใส่ ฉันกลัวแทบตาย คิดว่าพี่จะไม่ฟื้นขึ้นมาซะแล้ว”เธอกล่าวพลางร้องไห้ หลี่ถิงเป็นผู้ช่วยที่ติดตามเวินหนี่ และเวินหนี่ก็ดูแลเธอเป็นอย่างดีเธอยังเด็กและไม่เคยพบกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน จึงได้รู้สึกหวาดกลัว“ฉันก็ฟื้นแล้วนี่ไง เลิกกังวลได้แล้ว” เวินหนี่ปลอบเธอเวินหนี่แตะหน้าผากที่พันด้วยผ้าก๊อซสีขาว

    Last Updated : 2024-06-25
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 7

    หลังจากพักรักษาตัวในโรงพยาบาลได้สักพัก เธอก็จากไปพร้อมกับบาดแผลของเธอ“เวินหนี่!”เมื่อถังเยามารับเวินหนี่ก็พบว่าใบหน้าของเธอซีดเผือด แถมยังบาดเจ็บที่ศีรษะ จึงรีบเข้ามาจับตัวเธอเอาไว้ “พระเจ้า เธอบาดเจ็บที่ตรงไหนกันเนี่ย?”เวินหนี่ไม่ได้พูดอะไร“นี่มันเวลาทำงานหนิ แผลนี่เธอได้มาจากการทำงานใช่ไหม?” ถังเยาถามต่อ “แล้วเย่หนานโจวล่ะ?”“ไม่รู้สิ”ถังเยาสังเกตเห็นว่าสีหน้าของเวินหนี่ไม่ดีนัก นี่ไม่ใช่แค่อาการบาดเจ็บเท่านั้นแน่ ๆ เธอจึงหัวเราะขึ้นเสียงเย็น “เธอทำงานหนักเพื่อเขาแถมยังได้รับบาดเจ็บที่หัวแบบนี้ ในฐานะสามีกลับหาตัวไม่เจอ สามีคนนี้ ไม่ต่างอะไรกับตายไปแล้วเลยด้วยซ้ำ”“อีกไม่นานก็ไม่ใช่แล้วล่ะ”“อะไรนะ? นี่เขาจะหย่ากับเธองั้นเหรอ?” ถังเยาหน้าเปลี่ยนสีทันที“ฉันอยากหย่ากับเขาเอง”ถังเยาเปลี่ยนท่าทีอีกครั้ง “หย่าก็หย่า หย่ามันตอนนี้เลย!!” และเตือนขึ้นอีกว่า “อย่าลืมแบ่งทรัพย์สินครึ่ง ๆ ด้วยล่ะ ก้าวแรกสำหรับผู้หญิงที่ฉลาดคือการหาเงิน ถึงไม่ได้ตัวแต่ก็ต้องได้เงิน ถ้าเธอมีเงินแล้วทำไมจะหาผู้ชายดี ๆ ไม่ได้ เมื่อถึงตอนนั้นจะหาสักกี่คนก็ได้ หาคนที่เชื่อฟัง และคอยดูแลเธอทุกวันไปเลย

    Last Updated : 2024-06-25
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 8

    เวินหนี่รู้ดีว่าเขาจริงจังกับงานแค่ไหน เขาจะไม่ยอมให้เกิดข้อผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวแต่เรื่องนี้จะโทษเธอไม่ได้ เมื่อวานนี้เขาอยู่กับลู่ม่านเซิงในโรงพยาบาลเอง“เพราะคุณบอกว่ากำลังยุ่ง และกดวางสายไปเอง”เย่หนานโจวชะงักไปครู่หนึ่ง และเม้มริมฝีปาก “แล้วจัดการยังไง?”เวลานั้นเวินหนี่อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว เธอจึงพูดขึ้นว่า “ตอนนั้นไม่มีเวลาจัดการค่ะ ฉัน…”“เลขาเวิน” น้ำเสียงเย่หนานโจวเย็นชา “ฉันจำได้ว่าเธอไม่เคยทำงานผิดพลาด”เขาจงใจเรียกเธอว่า “เลขาเวิน” เพื่อเตือนว่าเธอเป็นเลขา ไม่ใช่ภรรยาของเขาเวินหนี่กัดริมฝีปาก และพูดไม่ออก “ไซต์ก่อสร้างยังคงดำเนินการต่อไปได้ ปัญหาไม่ได้ใหญ่มาก ฉันคิดว่ามันไม่ได้ร้ายแรงอะไรค่ะ”“ถ้าเกิดปัญหา อย่ารีบร้อนหาข้อแก้ตัว นี่คือสิ่งที่ฉันเคยสอนเธอ” เย่หนานโจวพูดอย่างห่างเหิน “รีบมาที่บริษัทเดี๋ยวนี้!”พูดจบเขาก็กดวางสายไปทันทีเวินหนี่รู้สึกแย่ในใจ แต่เธอก็ไม่มีเวลามาคิดถึงปัญหา เมื่อวานนี้เธออยู่ที่โรงพยาบาลและไม่ได้ติดตามสถานการณ์ของไซต์ก่อสร้างอีกเลย ไม่รู้ว่าตอนนี้สถานการณ์จะแย่ลงหรือเปล่าเธอเก็บข้าวของและเตรียมตัวไปที่บริษัททันทีถังเยาเพิ่งตื่น เ

    Last Updated : 2024-06-25
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 9

    ขณะนั้นเอง เวินหนี่ก็มาถึงบริษัท บรรยากาศในห้องทำงานของประธานดูเคร่งเครียดมาก“พี่เวิน”เมื่อเธอมาถึงทุกคนต่างก็ทักทายเธออย่างสุภาพ “พี่เวิน อาการบาดเจ็บที่หัวเป็นยังไงบ้างคะ?”เวินหนี่ไม่อยากให้พวกเขากังวลมากเกินไป “ไม่ได้ร้ายแรงอะไร เมื่อวานฉันได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว อาการก็ดีขึ้นมากแล้วล่ะ”“แต่พี่ควรพักผ่อนให้มากกว่านี้นะคะ ทำไมถึงไม่ขอลาจากประธานเย่ล่ะ ยังต้องมาทำงานด้วยอาการบาดเจ็บแบบนี้อีก พี่เวิน พี่จริงจังกับงานมากเกินไปแล้ว” พวกเขาต่างก็ชื่นชมเวินหนี่ เธอทำงานมากกว่าใช้ชีวิตเสียอีก เกรงว่าคงหาคนแบบเลขาเวินไม่ได้อีกแล้วเวินหนี่และเย่หนานโจวแต่งงานกันอย่างลับ ๆ จึงไม่มีใครรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขา ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าเปิดเผยอะไรมากนัก “ฉันขอตัวไปหาประธานเย่ก่อน พวกเธอทำงานต่อเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”เมื่อเธอมาถึงประตู ก็ได้ยินเสียงเย็นชาของเย่หนานโจว “บอกให้ทุกคนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในไซต์ก่อสร้างไสหัวออกไปให้หมด!”เวินหนี่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เธอคิดว่าเขาจะตำหนิเธอเสียอีกจากนั้นก็มีกลุ่มคนออกมาจากห้องทำงานคนที่ออกมามีสีหน้าหดหู่ใจ ใบหน้าของเวินหนี่ไม่

    Last Updated : 2024-06-25
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 10

    นี่เธอกำลังสนองความปรารถนาของเขาอยู่นะ เขาควรจะมีความสุขไม่ใช่เหรอหรือว่าเขารู้สึกเสียศักดิ์ศรี ที่เธอเป็นคนหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาเองเลยทำให้เขาอับอาย เย่หนานโจวเบือนสายตาไปจากเธอ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ถึงเวลาแล้ว ไปทำงานซะ”เวินหนี่มองดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงและถึงเวลาเข้างานพอดี เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ เขาเป็นคนตรงเวลามากจริง ๆ ไม่ยอมให้เธอได้หยุดพักแม้แต่วินาทีเดียวเธอมองเย่หนานโจวที่ถอนตัวกลับไป มีกลิ่นอายเย็นชาทั่วร่างกายของเขา และมีเพียงความห่างเหินระหว่างเจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น เธอไม่ได้รบกวนอะไรเขาอีก และเดินออกมาเผยชิงกำลังรอเธออยู่ที่ด้านนอกประตู “เลขาเวิน นี่คือเอกสารที่คุณเย่ขอให้คุณช่วยจัดการครับ”เอกสารจำนวนมหาศาลกดลงบนมือของเธอฝุ่นกระทบเข้ากับหน้าของเธอจนสำลัก เวินหนี่ถามขึ้นว่า “ฝุ่นเกาะเยอะขนาดนี้ เอกสารตั้งแต่ปีไหนกัน?”เผยชิงไม่กล้าพูดอะไร “ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ประธานเย่เป็นคนจัดการครับ”คนในบริษัทมองเวินหนี่ด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจคิดว่าเธอทำให้ประธานเย่ขุ่นเคือง เขาถึงได้สั่งให้เธอทำงานที่ไม่สำคัญแบบนี้และทุกคนต่างก็คิดว่าเธอได้สูญเสีย

    Last Updated : 2024-06-25
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 11

    เสิ่นฉือไม่ค่อยเข้าใจ พี่หนานป่วยอย่างนั้นเหรอ?ช่วงก่อนหน้านี้เขาพึ่งจะตรวจร่างกายไป และร่างกายของเขาก็แข็งแรงดีเวินหนี่เป็นภรรยาของเขาดังนั้นหากจะมีปัญหาก็คงจะเป็น…ขณะที่เสิ่นฉือเดินเข้าไปในห้องทำงานเขาก็ถอนหายใจ และจ้องมองไปที่กางเกงของเย่หนานโจว เมื่อเย่หนานโจวเห็นสายตาแปลก ๆ ของเขา ก็ขมวดคิ้วขึ้น “ฉันบอกให้นายไปตรวจร่างกายของเวินหนี่ นายมามองฉันทำไม?”เสิ่นฉือถอนสายตา และยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “ไม่มีอะไรครับ เมื่อกี้ผมเจอพี่สะใภ้ที่ทางเข้าลิฟต์ เธอออกไปข้างนอกแล้ว แถมยังดูอารมณ์ไม่ค่อยดีด้วย”เย่หนานโจวพูดขึ้นว่า “เดี๋ยวก็ต้องกลับมา”“พี่ทะเลาะกับพี่สะใภ้เหรอ?”“เป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงจะงี่เง่านี่”เสิ่นฉือลำบากใจที่จะพูดอะไรออกไป เขาจึงเลือกที่จะนั่งลงบนโซฟาข้าง ๆ เมื่อเห็นว่าเขายังไม่กลับ เย่หนานโจวจึงพูดขึ้นว่า “เธอออกไปแล้ว นายเองก็กลับไปได้แล้ว ฉันไม่ต้องการนาย”“ผมเพิ่งมาถึงพี่ก็จะไล่ผมกลับแล้วงั้นเหรอ มาคุยกันเรื่องพี่น้องของเราก็ได้”เสิ่นฉือลูบจมูกด้วยท่าทางครุ่นคิด ก่อนจะพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “พี่สะใภ้มีเหตุผลที่โกรธ เป็นเรื่องปกติที่สามีภรรยาจะมีปัญหากัน

    Last Updated : 2024-06-25
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 12

    เวินหนี่มองย้อนกลับไปแล้วพูดว่า “เก็บกระเป๋า”“จะไปไหน?”เวินหนี่ตอบ “กลับบ้านค่ะ”“บ้านของเธอก็คือที่นี่ไม่ใช่เหรอ?” น้ำเสียงของเย่หนานโจวเย็นขึ้นมากหัวใจของเวินหนี่ยังคงปวดอยู่เล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา “คุณเคยคิดว่าบ้านหลังนี้เป็นที่ของฉันด้วยเหรอ? ฉันกำลังจะคืนพื้นที่นี้ให้พวกคุณ”เย่หนานโจวก็จับแขนของเธอทันที เพื่อหยุดการเก็บสัมภาระของเธอ น้ำเสียงที่เย็นชาของเขาดังขึ้นมาจากด้านหลัง “เธอจะสร้างปัญหาอีกนานแค่ไหน?”เวินหนี่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น เพราะกลัวว่าเธอจะรู้สึกเสียใจเมื่อเห็นเขา และน้ำตาจะไหลออกจากดวงตา เธอหันหน้าและสะบัดเขาออกอย่างแรง “ฉันไม่ได้สร้างปัญหาค่ะ แต่ฉันเอาจริง คุณเย่ ขอทางด้วยค่ะ ฉันจะเก็บของ”การที่เธอดื้อรั้นและต้องการหย่ากับเขาเช่นนี้ทำให้ใบหน้าของเย่หนานโจวมืดมน “ปัง” เสียงปิดประตูก็ดังขึ้นเมื่อได้ยินการเคลื่อนไหว เวินหนี่ก็เงยหน้าขึ้นมาและได้ยินเสียงต่ำของเย่หนานโจว “อะไรทำให้เธออยากจะไปมากขนาดนี้”เวินหนี่ไม่ตอบเย่หนานโจวเข้าใกล้เธอมากขึ้นและถามด้วยน้ำเสียงตั้งคำถามว่า “เธอคิดว่าฉันไม่มีความสามารถงั้นเหรอ? อยากให้ฉันทดสอบให้ดูไหมว่า แท้จริงแล้วฉ

    Last Updated : 2024-06-25

Latest chapter

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status