ภารกิจสำคัญของนักเขียนที่ข้ามเวลามาเกิดใหม่ในยุคโบราณคือการเป็นผู้ช่วยมารดาหลบหนีจากบิดาไร้หัวใจ และพามารดาไปพบโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกลาเวนเดอร์อันงดงาม เมิ่งสืออีถูก ย่าและอนุของหานชางเหยียนผู้เป็นสามีรังแกจนเกือบจะต้องตายไปพร้อมกับลูก ในเวลานี้สามีที่จากไปรบที่ชายแดนกลับมาแล้ว หวังในใจว่าสามีที่กลับมาจะคอยปกป้องดูแล ทว่านางกลับได้รับความเจ็บช้ำที่มากยิ่งกว่าจนแทบทนไม่ไหวและคิดหนี
Lihat lebih banyakตอนจบ ตอนพิเศษอ้ายอ้ายมองน้องสี่ที่มีสีหน้าอิ่มเอิบท่าทางครุ่นคิด บัดนี้น้องสี่ของนางกลายมาเป็นผู้ช่วยบิดาในการสอนเขียนอักษรให้กับเด็ก ๆ ที่โรงรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เขากลายเป็นอาจารย์ผู้หนึ่งไม่มีผู้ใดกล้าดูถูกเขาทุกคนต่างชื่นชมฝีมือการเขียนอักษรอันยากจะหาผู้ใดเปรียบของน้องสี่เขายังได้พบกับคนรักซึ่งเป็นเด็กกำพร้าผู้หนึ่งซึ่งเป็นสาวใช้ของเขาเอง ฮวาซานเหรินเห็นพวกเขารักใคร่จริงใจจึงจัดงานสมรสให้พวกเขาตามประเพณี บัดนี้คนที่มีความสุขที่สุดก็คงจะเป็นน้องสี่แล้วในเมื่อทุกคนให้อ้ายอ้ายเป็นคนตัดสินใจนางจึงเอ่ยว่า“ก็แค่ส่งคนผู้หนึ่งไป ไม่ยากอันใดเขาอยากให้ทำสิ่งใดข้าก็จะทำสิ่งนั้น ในเมื่อเขาอยากเจอพวกเราก็ไปพบเขากันดีหรือไม่”ทุกคนล้วนพยักหน้าส่งเสียงอืมในลำคอในวันต่อมาฮวาซานเหรินพาครอบครัวใหญ่ของเขาขึ้นรถม้าไปพบหานชางเหยียนที่นอนอยู่ที่โรงหมอแห่งหนึ่ง ท่านหมอประสานมือคารวะเขาแล้วเอ่ยว่า“นายท่าน ขอทานคนนี้ไร้ทางรักษาจริง ๆ แล้วขอรับ”ฮวาซานเหรินพยักหน้า“ไม่เป็นไร ท่านทำดีที่สุดแล้ว”จากนั้นเขาก็เดินไปนั่งลงบนตั่งไม้ข้างเตียงโดยมีบุตรและภรรยาเดินตามทุกคนล้วนจับจ้องที่ใบหน้าของบุรุษชราผู้หน
ตอนพิเศษ 1ในยามที่อ้ายอ้ายตื่นมาอีกครั้งก็เป็นเวลาที่แสงอาทิตย์นอกหน้าต่างระยิบระยับดุจทองคำ นางบิดขี้เกียจพร้อมกับลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ หลังจากที่ป่วยอยู่หลายวันตื่นขึ้นมาในวันนี้อ้ายอ้ายรู้สึกสดชื่นเป็นที่สุดแล้ว“คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ”อ้ายอ้ายพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มสว่างไสว สาวใช้เห็นสีหน้าของนางสดชื่นเช่นนี้จึงเอ่ยว่า“ดูเหมือนว่าคุณหนูจะไข้ทุเลาแล้วนะเจ้าคะ”“สบายดีมากเลยตอนนี้ น่าจะเป็นเช่นนั้น”สาวใช้ยิ้มยินดี“บ่าวให้คนไปเรียนนายท่านกับฮูหยินนะเจ้าคะ เมื่อสักครู่เพิ่งมาดูอาการของท่านพร้อมกับองค์รัชทายาท”อ้ายอ้ายเบิกตากว้างจากนั้นก็ส่งเสียงใสแจ๋วออกมา“องค์รัชทายาทกลับมาแล้วหรือ”“เจ้าค่ะ มาตั้งแต่เช้าแล้วเจ้าค่ะ มาเยี่ยมคุณหนูแล้วแต่ว่าคุณหนูยังไม่ตื่นจึงได้ไปสนทนากับนายท่านที่เรือนรับรอง”“ข้าจะไปหาพี่ชายรัชทายาท”อ้ายอ้ายสั่งให้สาวใช้ปรนนิบัตินางล้างหน้าเปลี่ยนอาภรณ์ ทว่าสาวใช้กลับเอ่ยว่า“คุณหนูเพิ่งหายจากไข้ เกรงว่านายท่านจะตำหนิบ่าวเจ้าค่ะ ให้บ่าวไปเรียนนายท่านเถิดนะเจ้าคะ”อ้ายอ้ายส่ายหน้า“ไม่เอาข้าจะไปหาพี่ชายเอง ทำตามที่ข้าบอกเถิด”ผู้ใดก็รู้ว่าคุณหนูรองผู้นี้เป็นที
บทที่ 53 ตอนจบหานชางเหยียนขอร้องฝ่าบาทให้ส่งฮวาซานเหรินกับองค์รัชทายาทมาเป็นตัวแทนพระองค์ในวันแต่งงานของเขาระหว่างทางกลับหานชางเหยียนที่ส่งผู้อื่นไปเข้าหอแทนตนเองก็วางแผนการสังหารองค์รัชทายาทกับฮวาซานเหรินไปพร้อม ๆ กันคืนนี้ฮวาซานเหรินดื่มสุราเพียงน้อยนิด ส่วนองค์รัชทายาทไม่อาจปฏิเสธผู้อื่นได้อีกทั้งเขาอายุยังน้อยเพิ่งเริ่มหัดดื่มสุราดื่มไปเพียงจองสองจอกก็เมามายไร้สติแล้วแม้ขบวนรถม้าขององค์รัชทายาทจะมีคนคุ้มกันมากเพียงใด แต่ทหารหลวงบัดนี้อยู่ในมือของหานชางเหยียนเขาจึงสับเปลี่ยนคนอ่อนแอมาอารักขาเมื่อรถม้ามาถึงจุดที่วางเอาไว้ ผงยาสลบจำนวนมากก็ถูกโปรยลงจากท้องฟ้าด้วยการยิ่งธนูขึ้นสูงและทำให้ถุงพวกนั้นแตกกระจายเพราะไม่คาดคิดว่าจะเจอแผนการรบเช่นนี้จึงทำให้ทหารคุ้มกันขององค์รัชทายาทสลบไสลไร้สติล้มไปกองลงบนพื้นหานชางเหยียนที่อยู่ในชุดดำบัดนี้จึงปรากฏกาย เขาหัวเราะในลำคอ“การที่ข้าไม่ลงมือมิใช่ว่าข้าหวาดกลัว เพียงแต่ให้โอกาสพวกเจ้าก็เท่านั้น ในเมื่อไม่สำนึกว่าควรเชื่อฟังผู้ใดก็จงตายไปด้วยกันเสีย”เขาสั่งให้คนลากองค์รัชทายาทออกจากรถม้าซึ่งภายในรถม้าคันนั้นแน่นอนว่ามีฮวาซานเหรินอยู่ด้วย
บทที่ 52 กฎแห่งกรรมที่แท้การแก้ไขปัญหาม้าที่ต้องส่งไปยังซีชวนก็คือการซื้อม้าจากดินแดนซยงหนู อ้ายอ้ายเพียงแต่จดจำได้ว่าช่วงเวลานี้ดินแดนซยงหนูต้องการพัฒนาการเกษตรเพราะพวกเขาไม่สามารถปลูกผลผลิตได้เพราะขาดคนเชี่ยวชาญในขณะที่แคว้นลู่เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ ปกติซยงหนูจะทะนงตนไม่ยอมส่งม้าขายให้ผู้อื่น พวกเขายังนับว่าเป็นดินแดนที่เลี้ยงม้ามากที่สุด เมื่อองค์รัชทายาทยื่นข้อเสนอขอซื้อม้าราคาถูกเพื่อแลกกับการช่วยเหลือการเกษตรส่งเสริมเครื่องมือและกำลังคนช่วยซยงหนูในการปลูกพืชเพื่อเลี้ยงตนเองอย่างแต่งที่ อีกทั้งยังมอบสัญญาแต่งงานตอบแทนเพื่อเป็นการยืนยันว่าแคว้นลู่จะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ทั้งยังได้ฮองเฮาช่วยเจรจาอีกแรงเรื่องนี้จึงสัมฤทธิผลการจัดหาม้าส่งไปยังซีชวนทำได้ทันเวลา องค์รัชทายาทได้รับการกล่าวขานว่าเก่งกาจที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที ทำให้ขุนนางยกย่องยิ่งนักองค์หญิงที่มาแต่งงานเป็นองค์หญิงสายรองซึ่งหากนับญาติก็เป็นหลานสาวของฮองเฮา นางเดินทางมาถึงเมืองหลวงแคว้นลู่อย่างเร่งด่วนเพราะฮองเฮาขอร้องเพื่อให้มาร่วมงานเลี้ยง และพวกนางได้วางแผนการเอาไว้แล้ว องค์หญิงผู้นี้รักอ
บทที่ 51 ถึงเวลาเอาคืนร่างกายของสตรีทั้งสองเย็นเยียบ รู้สึกอ่อนแรงไปทั้งร่างราวกับว่าบัดนี้ตนเองกำลังถูกคลื่นยักษ์สาดซัดอย่างรุนแรงกระแทกฝั่งเป็นธรรมเนียมที่ทุกคนต้องเข้าแถวยกจอกสุราถวายพระพร ทว่าบัดนี้ฮองเฮากลับตรัสว่า“ไท่ผินชรามากแล้ว ไม่จำเป็นต้องลุกขึ้นข้าเองไม่ถือสาเรื่องตำแหน่ง ผู้ชราก็ควรได้รับการดูแล”จากนั้นฮองเฮาพลันลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ฮูหยินชราโดยที่เด็กน้อยผู้นั้นเดินประกบข้างซ้ายและเมิ่งสืออีประกบข้างขวาภาพที่ฮูหยินชราเห็นอยู่ตามนี้ทำให้จิ้งจอกเฒ่าแทบลมจับ“ไท่ผินข้าเป็นผู้น้อยอย่างไรก็ต้องขอคารวะท่าน”มือของฮูหยินชราสั่นจนแทบจะยกจอกสุราไม่ไหวแล้ว พริบตานั้นจอกสุราก็พลันร่วงหล่นลงมาฮองเฮาเลิกคิ้ว“ดูสีหน้าซีดเซียวแล้วไท่ผินคงไม่สบายกระทั่งจอกสุรายังยกไม่ไหว”เมิ่งสืออีเอ่ยว่า“ฮองเฮาเพคะ ให้ท่านย่าผู้นี้ไปพักที่ห้องข้างดีหรือไม่เพคะ หม่อมฉันจะพาไปเอง”ฮองเฮาแย้มยิ้ม“เช่นนั้นก็ลำบากเสี่ยวสือแล้ว”เมิ่งสืออียอบกายก่อนจะขยิบตาให้อ้ายอ้ายเดินตามมา เด็กน้อยเอ่ยว่า“ฮองเฮาอ้ายอ้ายไปกับท่านแม่นะเจ้าคะ”ฮองเฮาพยักหน้า “ไปเถิด”จิ้งจอกเฒ่าสั่นไปทั้งร่างนางหวาดกลัวจนพิษในกาย
บทที่ 50 ตื่นตะลึงหลังเมิ่งสืออีและอ้ายอ้ายดื่มยาคลายกังวลพวกนางก็นอนหลับไปพร้อม ๆ กัน ฮวาซานเหรินดูแลนางจนวางใจจึงกลับมาหารือกับรัชทายาทที่ตำหนักบูรพารัชทายาทกลับมาที่ตำหนักบูรพาพร้อมกับฮวาซานเหรินเพื่อหารือ จากนั้นก็สั่งให้เสิ่นกงกงรีบตามหมอหลวงอีกคนมาดูอาการของเขา“อาจารย์ท่านได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่ขอรับ”ฮวาซานเหรินนั่งลงบนเตียงเขาขัดสมาธิเดินพลังครู่หนึ่งจึงกระอักเลือดคั่งออกมาคำโตก็พลันรู้สึกดีขึ้น เขารับผ้าซับเลือดมาจากเสิ่นกงกงพร้อมกับเอ่ยว่า“ข้าไม่เป็นอันใดไม่จำเป็นต้องเรียกหมอหลวง”ทว่ารัชทายาทไม่ยินยอมฮวาซานเหรินจึงคิดว่า“ข้าจะต้องเอาผิดเขาให้ได้ ข้าจะกราบทูลเสด็จพ่อ”ฮวาซานเหรินเอ่ยว่า“ข้าคิดว่าฝ่าบาทจะเข้าข้างเขา นอกจากคนของเราแล้วก็ไร้หลักฐาน คนของหานชางเหยียนที่จับได้ล้วนเป็นนักรบเดนตายพวกเขาฆ่าตัวตายไปหมดแล้ว”“แต่หานชางเหยียนผู้นี้เหิมเกริมนัก หากเขาลงมืออีกเล่า”ฮวาซานเหรินเอ่ยว่า“เขาบาดเจ็บหนักไม่น้อยคงต้องรักษาตัวพักใหญ่ อีกอย่างด้วยนิสัยระแวงระวังของเขาในเวลานี้คงยังไม่ลงมือ เกรงว่าจะถูกพวกเราวางแผนโต้กลับ”รัชทายาทเอ่ยว่า“ที่ท่านไม่ให้ข้าทูลเรื่องนี้เพราะ
บทที่ 49 เด็กน้อยผู้วิเศษหานชางเหยียนเจ็บจนสะดุ้งและด้วยความตกใจในเวลานั้นเขาก็ปล่อยเมิ่งสืออีจนร่างของนางหล่นลงไปกองลงพื้นเมิ่งสืออีตะเกียกตะกายหายใจอย่างแรง นางคิดว่านางจะตายไปแล้วเสียอีกมีดยังปักคาเท้าของหานชางเหยียน เมื่อหม่าม้าเป็นอิสระอ้ายอ้ายผวาเข้าไปหามารดาที่กองอยู่บนพื้นและเมิ่งสืออีก็โอบกอดบุตรสาวเอาไว้ทันใดหานชางเหยียนจ้องมองสองแม่ลูกด้วยดวงตาแดงก่ำ เขาก้มลงไปดึงมีดออกจากเท้า แม้อ้ายอ้ายจะมีแรงน้อยแต่เมื่อสักครู่นางออกแรงสุดชีวิตเพื่อปักมีดลงไปที่เท้าจึงทำให้หานชางเหยียนได้รับบาดเจ็บอยู่ไม่น้อยหานชางเหยียนยิ้มประดุจคนบ้า ชี้มีดสั้นไปที่พวกนางเอ่ยน้ำเสียงเย็นเยียบ“ลูกอกตัญญู ข้าน่าจะบีบคอให้เจ้าตายไปเสีย ไม่ต้องเกิดมาทำให้ข้าเจ็บปวดใจเช่นนี้”หานชางเหยียนคิดจะสั่งสอนสองแม่ลูกด้วยโทสะ ทว่าธนูดอกหนึ่งก็พลันพุ่งเข้ามาทำให้เขาต้องเอนกายหลบทันใดหานชางเหยียนดึงกระบี่ออกมาปัดลูกธนูที่พุ่งเข้ามาหาเขาอีกหลายลูกจากนั้นก็ตั้งรับกระบี่จากบุรุษชุดขาวที่โถมฟันลงมาอย่างรุนแรงเป็นฮวาซานเหรินฮวาซานเหรินเอ่ยเสียงรัวเร็ว“อาเจาพาสืออีกับอ้ายอ้ายออกไป”หม่าเจาติดตามฮวาซานเหรินมาพร้อมก
บทที่ 48 ลูกเนรคุณหานชางเหยียนคิดว่าเมิ่งสืออีกำลังหึงหวง เขาจึงหัวเราะในลำคอแผ่วเบาอย่างมีความสุข ที่แท้การที่นางไม่กลับมาเพราะว่าสตรีนางนั้นจริง ๆ"หากเจ้าไม่ชอบลู่ลี่ ข้าจะกำจัดนางให้พ้นทาง ให้สตรีนางนั้นเป็นบ่าวรับใช้ของเจ้า หรือว่าให้ตายไปให้พ้นสายตา เจ้าอยากได้สิ่งใดข้าจะตามใจเจ้าทุกอย่าง ดีหรือไม่ ต่อไปเจ้าอยู่ในจวนกับลูก ไม่ต้องพบเจอผู้อื่นที่จะทำให้เจ้าลำบากใจ ข้าจะเลี้ยงดูเจ้าให้ดีที่สุด ข้าจะให้เจ้ามีอาภรณ์สวยงาม เงินทองมากมาย และให้เจ้าคลอดบุตรให้ข้ามาก ๆ ครอบครัวของพวกเราจะมีความสุข สืออีอยู่กับข้าดีที่สุดใช่หรือไม่"เมิ่งสืออีถึงกับนิ่งอึ้งไป มือของนางที่จับอ้ายอ้ายเอาไว้กำแน่น"แม้แต่ลู่ลี่ที่ทุ่มเทเพื่อเจ้าเพียงนั้น เจ้ายังกล้าคิดเช่นนี้กับนาง ได้อย่างไร หานชางเหยียน เจ้าทำได้อย่างไร"หานชางเหยียนยักไหล่ เขาไม่คิดว่าสิ่งที่เขาคิดและกระทำนั้นคือสิ่งผิด"นางคือตัวหายนะ ทำให้ครอบครัวของพวกเราแตกแยกทำให้เจ้าหนีไปจากข้าทั้งยังพาอ้ายอ้ายไปด้วย ลู่ลี่ยังทำสิ่งชั่วร้ายมากมายนางหักหลังบิดาได้ก็หักหลังข้าได้เช่นกัน ดังนั้นงูพิษเช่นลู่ลี่ ข้าไม่อาจเก็บไว้ข้างกายได้อีก"เมิ่งสือ
บทที่ 47 ลักพาตัวและแล้วก็มีเรื่องด่วนเกิดขึ้น เมื่อโรงเลี้ยงม้าเกิดโรคระบาดอย่างหนักจนทำให้ม้าล้มตายไปนับหมื่นตัวภายในชั่วข้ามคืน เรื่องนี้ถูกถวายฎีกาอย่างเร่งด่วนและทำให้ฝ่าบาทต้องเรียกประชุมขุนนางแม้ว่าจะเป็นเวลายามดึกแล้ว“เกิดเรื่องได้อย่างไร”ฝ่าบาททรงพิโรธยิ่งนักที่กองงานทหารม้าปล่อยปละละเลยถึงเพียงนี้หัวหน้าหน่วยกองงานทหารม้ารีบคุกเข่ารายงาน“เมื่อสองเดือนก่อนมีม้าเพียงไม่กี่ตัวที่เกิดล้มป่วยที่หน่วยเพาะพันธุ์ม้าศึกเวลานั้นได้มีการแยกม้าป่วยออกไปรักษาอย่างเข้มงวดแต่คาดไม่ถึงว่าภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือนก็เกิดมีม้าล้มตายเป็นจำนวนมากและยังตายติดต่อกันทุกวันบัดนี้เสียชีวิตนับหมื่นตัวภายในพริบตา โรคม้าชนิดนี้เป็นโรคใหม่ที่ไม่เคยพบจึงยากที่จะควบคุมพ่ะย่ะค่ะ”“เจ้าจะบอกข้าว่าไม่รู้ถึงสาเหตุที่เกิดโรคระบาดหรือ”ทุกคนล้วนอึกอัก กระทั่งหานชางเหยียนที่ดำรงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่จำเป็นต้องออกหน้า เรื่องนี้เป็นเพราะความผิดพลาดของเขาเองที่เมื่อได้รับรายงานแล้วก็ละเลยด้วยคิดว่าการล้มป่วยไร้สาเหตุของม้าไม่กี่ตัวจะทำให้เกิดเรื่องราวบานปลายได้เพียงนี้เขาคุกเข่าลงรับผิดและเอ่ยว่า“ฝ่าบาททั้งหมดเ
บทที่ 1 ศัตรูคู่แค้นหลังการล้อมเมืองอย่างยาวนานถึงสามเดือนจบลง เมืองอวีก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อทัพของแคว้นลู่ แม่ทัพหานชางเหยียนนำกำลังทหารกว่าสามหมื่นนายเข้าไปเหยียบยังที่ทำการเจ้าเมืองอย่างอาจหาญการรบครานี้นับว่าเสียกำลังไพร่พลของแคว้นลู่น้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์ด้วยเพราะเป็นการล้อมเมืองอวีเอาไว้อย่างยาวนานจนไม่สามารถส่งเสบียงอาหารเข้าไปภายในได้จนทำให้เมืองอวีต้องยอมแพ้เพราะกำลังจะอดตายอีกประการหนึ่งที่ทำให้เมืองอวียอมแพ้นั่นเป็นเพราะฝ่าบาทแคว้นเฝินผู้ซึ่งเป็นผู้ครองเมืองอวีถูกขุนนางถ่อยกล่าวหาว่าเจ้าเมืองอวีคิดคดทรยศสวามิภักดิ์แก่แคว้นลู่จึงทำให้ฝ่าบาทหลงเชื่อและมีโทสะไม่ยอมยกทัพมาช่วยเหลือสุดท้ายแล้วเมืองอวีจึงต้องจำยอมแพ้อย่างไร้กำลังหนุนหลังฮ่องเต้แคว้นลู่มีพระราชโองการเร่งด่วนมอบสมรสพระราชทานให้หานชางเหยียนกับบุตรสาวเจ้าเมืองอวี นามเมิ่งสืออีอย่างเร่งด่วน แม้ว่าหานชางเหยียนจะเกลียดคนสกุลเมิ่งเพียงใดเพราะในอดีตท่านปู่ของเขาได้ออกรบกับคนสกุลเมิ่ง ในสงครามอันยาวนานครานั้นได้ตกลงสงบศึกกันชั่วคราวเพราะอากาศที่หนาวจัดแต่คนสกุลเมิ่งกลับใช้วิธีสกปรกไม่ยอมทำตามที่ตกลงยังลอบทำร้ายลั...
Komen