Share

เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!
เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!
Author: ซีไซต์

บทที่ 1

last update Last Updated: 2025-04-15 15:39:45

บทที่ 1 ศัตรูคู่แค้น

หลังการล้อมเมืองอย่างยาวนานถึงสามเดือนจบลง

เมืองอวีก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อทัพของแคว้นลู่ แม่ทัพหานชางเหยียนนำกำลังทหารกว่าสามหมื่นนายเข้าไปเหยียบยังที่ทำการเจ้าเมืองอย่างอาจหาญ

การรบครานี้นับว่าเสียกำลังไพร่พลของแคว้นลู่น้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์ด้วยเพราะเป็นการล้อมเมืองอวีเอาไว้อย่างยาวนานจนไม่สามารถส่งเสบียงอาหารเข้าไปภายในได้จนทำให้เมืองอวีต้องยอมแพ้เพราะกำลังจะอดตาย

อีกประการหนึ่งที่ทำให้เมืองอวียอมแพ้นั่นเป็นเพราะฝ่าบาทแคว้นเฝินผู้ซึ่งเป็นผู้ครองเมืองอวีถูกขุนนางถ่อยกล่าวหาว่าเจ้าเมืองอวีคิดคดทรยศสวามิภักดิ์แก่แคว้นลู่จึงทำให้ฝ่าบาทหลงเชื่อและมีโทสะไม่ยอมยกทัพมาช่วยเหลือ

สุดท้ายแล้วเมืองอวีจึงต้องจำยอมแพ้อย่างไร้กำลังหนุนหลัง

ฮ่องเต้แคว้นลู่มีพระราชโองการเร่งด่วนมอบสมรสพระราชทานให้หานชางเหยียนกับบุตรสาวเจ้าเมืองอวี นามเมิ่งสืออีอย่างเร่งด่วน

 แม้ว่าหานชางเหยียนจะเกลียดคนสกุลเมิ่งเพียงใดเพราะในอดีตท่านปู่ของเขาได้ออกรบกับคนสกุลเมิ่ง ในสงครามอันยาวนานครานั้นได้ตกลงสงบศึกกันชั่วคราวเพราะอากาศที่หนาวจัด

แต่คนสกุลเมิ่งกลับใช้วิธีสกปรกไม่ยอมทำตามที่ตกลงยังลอบทำร้ายลับหลังฉีกสัญญากองทัพอย่างไร้ยางอายและสังหารท่านปู่จนตาย

หลังจากนั้นไม่พอคนเจ้าเล่ห์ยังตัดศีรษะของท่านปู่เสียบประจานบนกำแพงเมืองอย่างยาวนานจนศีรษะเหือดแห้งเหลือเพียงโครงกระดูก

หานชางเหยียนเสียบิดามารดาไปตั้งแต่ยังเด็ก เขาจึงถูกท่านปู่ท่านย่าเลี้ยงมาและคาดหวังให้เขาเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของสกุลหานคนต่อไป

หานชางเหยียนเคารพรักท่านปู่มากกว่าผู้ใดในโลกนี้ แค้นนี้เขาจึงจำฝังใจและต้องให้คนสกุลเมิ่งชดใช้คืน บัดนี้เขาทำสำเร็จแล้วแต่เขาต้องรับบุตรสาวของพวกศัตรูมาเป็นภรรยาจึงทำให้เขาไม่พอใจยิ่งนัก

ทว่าเขาก็ไม่อาจขัดรับสั่งได้ดังนั้นสมรสพระราชทานจึงได้จัดงานมงคลขึ้นอย่างเรียบง่ายแม้ว่าเจ้าสาวของเขานั้นจะงดงามเพียงใดหานชางเหยียนก็ไม่แม้แต่คิดจะชายตาแล และในที่สุดเขาก็สืบรู้มาจนได้ว่าสมรสพระราชทานนั้นเกิดขึ้นเพราะเหตุใด

แท้ที่จริงแล้วเป็นเจ้าเมืองอวีบิดาของเมิ่งสืออีที่เสนอเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อเอาตัวรอดไม่ให้เขาเข่นฆ่าคนสกุลเมิ่งด้วยเรื่องในอดีตที่คนสกุลเมิ่งได้ก่อเอาไว้

ดังนั้นเจ้าเมืองอวีจึงคิดเกี่ยวดองเอาไว้ให้เขากลายเป็นบุตรเขยของตนเองเพื่อลบล้างเรื่องทุกอย่างให้จบสิ้น และฮ่องเต้แคว้นลู่ก็ทรงเห็นด้วยกับเรื่องนี้

เพราะเหตุนี้จึงทำให้หานชางเหยียนยิ่งเกลียดคนสกุลเมิ่งเข้ากระดูกดำที่เจ้าเล่ห์เพทุบายยิ่งนัก

เมิ่งสืออีกลับไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองเป็นที่รังเกียจของสามีเพียงนั้น นางเป็นเพียงสตรีในห้องหอที่วัน ๆ เอาแต่เย็บปักถักร้อยอยู่ในเรือน

ถึงสองแคว้นจะเป็นศัตรูกันแต่ชื่อเสียงการเป็นแม่ทัพผู้มีเมตตาไม่เข่นฆ่าชาวบ้านตาดำ ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องของหานชางเหยียนก็ลือกันกระฉ่อน

การศึกครานี้แม้เมืองอวีจะพ่ายแพ้ นอกจากอาหารที่ขัดสนแล้วทัพของหานชางเหยียนมิได้ทำให้ชาวบ้านได้รับความลำบากอย่างอื่น ทหารบาดเจ็บล้มตายน้อยยิ่งนักแม่ทัพหานเป็นบุรุษรูปงามแม้ภายนอกจะดูเย็นชาบ้างทว่าเขากลับมีใจที่เมตตากว่าผู้ใด

ชื่อเสียงนี้ของเขาทำให้นางยิ่งสงสัยว่าเขามีใบหน้าเป็นเช่นใดกันแน่

และเพียงได้พบหน้าเขาในวันแรก หัวใจน้อย ๆ ของสตรีที่แทบไม่ได้พบบุรุษใดเช่นคุณหนูเมิ่งสืออีก็พลันเต้นแรงขึ้น บุรุษผู้นั้นองอาจหล่อเหลาหาผู้ใดเทียบเคียงได้

หลังจากนั้นนางก็ได้รับสมรสพระราชทานจากฝ่าบาทแคว้นลู่ใจของเมิ่งสืออีจึงตกเป็นของว่าที่สามีได้อย่างง่ายดายนัก

ในวันแต่งงานเมิ่งสืออีอยู่ในชุดแต่งงานที่รีบเร่งจัดหาจึงมิได้งดงามและวิจิตรอย่างที่เคยฝันเอาไว้กระนั้นหัวใจของนางก็เปี่ยมสุข นางนั่งรอคอยเขาด้วยหัวใจที่เต้นระรัวกระทั่งครึ่งคืนผ่านไปนางจึงได้ยินเสียงประตูเปิดออก

ตั้งแต่เห็นหน้าเขาในวันที่รับสมรสพระราชทานวันนั้น นางกับเขายังไม่เคยพูดจากันเลยแม้แต่ประโยคเดียว ในคืนเข้าหอวันนี้นางเองก็ไม่รู้ว่าต้องพูดคำใดเช่นกัน ดังนั้นนางจึงได้แต่นั่งรอให้เขามาเปิดผ้าคลุมหน้าด้วยหัวใจเต้นระรัว

นางได้ยินเสียงน้ำถูกรินลงในจอก เมิ่งสืออีคิดว่าเขาอาจจะกำลังรินเหล้ามงคลอยู่กระมัง มือของนางสั่นโดยไม่อาจควบคุมนั่นคงเป็นเพราะนางตื่นเต้นจนเกินไป

ภายใต้ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว ใบหน้าของนางเห่อร้อนขึ้นมาและแดงก่ำ หญิงสาวกลั้นรอยยิ้มเอาไว้อย่างขัดเขิน ในเวลานั้นนางกลับได้ยินเสียงเย็นของหานชางเหยียนเอ่ยว่า

"หึ สุนัขสกุลเมิ่งคิดจะส่งบุตรสาวปีนขึ้นที่สูงชดใช้ความผิดหรือ ฝันไปเถิดว่าข้าจะแตะต้องเจ้า"

เมิ่งสืออีนิ่งอึ้ง นางไม่แน่ใจในสิ่งที่ตนเองได้ยิน คนผู้นั้นได้พูดคำว่า....สุนัขสกุลเมิ่งหรือ?

ดูเหมือนว่าหานชางเหยียนคงจะเมาสุราอย่างหนัก เขาคงดื่มไปไม่น้อยจึงได้กล่าวเพ้อเจ้อ

เมิ่งสืออีได้แต่ปลอบใจตนเองเช่นนั้น กระทั่งนางได้ยินเสียงข้าวของหล่นแตกกระจายพร้อมกับเสียงของหนัก ๆ หล่นกระแทกพื้น เมิ่งสืออีสะดุ้งครั้งแล้วครั้งเล่าแต่นางก็ไม่กล้าที่จะเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออกมาดู

นางไม่อาจทำผิดประเพณีได้ ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวนี้สมควรเป็นเจ้าบ่าวที่ต้องเปิดออก

เมิ่งสืออีไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นนางจึงเอ่ยถามเสียงสั่น

"ท่านพี่เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ"

นางได้ยินเสียงหัวเราะเย็นชาดังขึ้นมา หานชางเหยียนจ้องมองนางที่ยังนั่งอยู่บนเตียงนอนเพื่อรอคอยเขา

ในใจคิดว่านางคงหาทางเสวยสุขโดยการเป็นฮูหยินของเขาและใช้ความงามเข้าหลอกล่อ

ฉับพลันหานชางเหยียนก็บังเกิดความรู้สึกชิงชังขึ้นมาทันใด เขาจ้องนางดวงตาแข็งกร้าวยกจอกสุราขึ้นดื่มจนหมดแล้วเขวี้ยงลงบนพื้นจนจอกสุราหยกแตกกระจาย

เมิ่งสืออีได้ยินพลันสะดุ้งโหยงอีกคราจู่ ๆ ก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันเย็นเยียบทำให้ร่างของนางสั่นเล็กน้อย หากว่านางเปิดผ้าคลุมหน้าออกและเห็นหน้าเขาในยามนี้คงหวาดกลัวจนวิ่งหนีไปเป็นแน่

 หานชางเหยียนเห็นท่าทางของนางเช่นนั้นพลันแสยะยิ้ม

"สตรีแพศยา ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะวางท่าเป็นสตรีผู้อ่อนแอได้สักกี่น้ำ"

พูดจบเขาก็ถีบเก้าอี้ที่อยู่ข้าง ๆ จนล้มลงไปเพื่อข่มขวัญคน เมิ่งสืออีตกใจกับเสียงโครมครามและคำพูดกล่าวหาของเขาจนร่างกายแข็งค้างไปแล้ว

 นางนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นเนิ่นนานโดยไม่รู้ว่าหานชางเหยียนออกจากห้องหอไปตั้งแต่เมื่อใด

บัดนี้ในห้องหอเงียบสงบนัก หลังจากนั้นราวครึ่งชั่วยามเมิ่งสืออีจึงตัดสินใจเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออก

เมิ่งสืออีตะลึงงัน!

เมื่อเห็นว่าห้องหอที่ถูกประดับตกแต่งอย่างงดงามด้วยเครื่องประดับสีแดงบัดนี้ได้พังเสียหายยับเยิน กระทั่งโต๊ะกลางห้องก็พังลงไปกองที่พื้น

 เมิ่งสืออีได้รับความตกใจจนแทบสิ้นสติกว่าที่นางจะตั้งสติได้ก็ผ่านไปครู่ใหญ่ ไม่มีคนของนางสักคนที่เข้ามาใกล้บริเวณนี้ นางคิดจะออกจากเรือนหอแต่กลับถูกทหารของหานชางเหยียนเฝ้าเอาไว้

และในยามนั้นนั่นเองที่นางเห็นหานชางเหยียนกำลังโอบกอดสตรีนางหนึ่งอยู่ที่สวนด้านหน้า ท่าทางของเขาเมามายอย่างหนัก ใบหน้าของเขาซุกไซร้ที่ลำคอของสตรีนางนั้น และนางผู้นั้นก็ทำท่าเอียงอายส่งเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข

เมิ่งสืออีมองสามีด้วยหัวใจที่ปวดร้าว เขาไม่หันมามองนางเลยแม้แต่น้อยขณะที่พาสตรีนางนั้นเดินผ่านหน้าของนางไป

เข่าของเมิ่งสืออีอ่อนลงทันใด กระทั่งนางทรุดฮวบนั่งลงกับพื้น ทหารที่เฝ้านางเอ่ยเบา ๆ ว่า 

"ฮูหยินสตรีนางนั้นเป็นแค่นางโลม ท่านอย่าถือสาท่านแม่ทัพเลยนะขอรับ"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!   บทที่ 2

    บทที่ 2 ถูกทอดทิ้ง​ หลังจากแต่งงานแล้วเมิ่งสืออีก็ไม่ได้พบหน้าสามีของนางอีกเลย และนางก็ไม่ได้รับอนุญาตให้พบกับบิดาและมารดาของตนเองเช่นกัน กระทั่งสิบวันผ่านมามารดาของนางจึงได้รับอนุญาตจากหานชางเหยียนให้มาพบกับบุตรสาวได้ชีวิตของเมิ่งสืออีที่เคยวาดฝันอย่างงดงามเอาไว้บัดนี้พังทลายลงไปหลังจากแต่งงานกับเขา แต่เมื่อเห็นใบหน้าของมารดาเมิ่งสืออีกลับไม่อาจร้องไห้ออกมาได้ "แม่ขอโทษที่ปกป้องลูกไม่ได้ ทำให้ลูกต้องมากลายเป็นตัวประกันเพื่อพวกเราเช่นนี้ สืออีแม่ทำให้ลูกลำบากแล้ว ในคืนแต่งงานแม่ทัพหานเขาพาสตรีอื่นเข้าหอใช่หรือไม่" เมิ่งสืออีฝืนยิ้มแม้ว่าภายในใจระทมทุกข์เพียงใดนางก็ไม่อยากให้มารดารู้"การแต่งงานเป็นลูกที่ตัดสินใจเองเจ้าค่ะ ลูกได้แต่งกับบุรุษในดวงใจลูกมีความสุขมาก ท่านแม่อย่าฟังความคนอื่นให้มากเลยเจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพอาจจะละเลยไปบ้างแต่เพราะมีงานราชการต้องทำมากมาย ท่านแม่ก็รู้ว่าการแต่งงานที่เร่งด่วนของพวกเราเช่นนี้ ไม่อาจจะทำตามประเพณีได้ทุกอย่าง"ถึงแม้ว่าบุตรสาวจะยิ้มแต่ดวงตากลับเศร้าหมอง ที่ระหว่างคิ้วยังเกิดร่องรอยเล็ก ๆ ทั้งใบหน้ายังอิดโรยยิ่งนัก มารดาจึงอดเอื้อมมือออกไปสัมผัสระ

    Last Updated : 2025-04-15
  • เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!   บทที่ 3

    บทที่ 3 ต้องผ่านไปให้ได้เมิ่งสืออีหลบอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งครึ่งคืนผ่านพ้น เมิ่งสืออีจึงไม่ได้ยินเสียงดาบและเสียงต่อสู้กันแล้ว นางออกจากที่หลบซ่อนอย่างระมัดระวังจากนั้นจึงเดินตามเส้นทางเล็ก ๆ มาเรื่อย ๆ และในที่สุดนางก็พบกับศพคนกลุ่มหนึ่งที่ล้มตายเป็นจำนวนมาก เมิ่งสืออีปิดปากตนเองเมื่อนางหวาดกลัวจนรู้สึกมวนท้องและเกือบจะอาเจียนออกมาเมื่อเห็นสภาพศพที่เต็มไปด้วยเลือดอันน่าสยดสยองนั้นในยามนั้นสายตาของนางก็กวาดมองไปจนพบร่างของสตรีผู้หนึ่งที่สวมอาภรณ์ผ้าไหมงดงามนะ...นั่นมิใช่อนุของท่านแม่ทัพหรอกหรือถึงจะหวาดกลัวแต่เมิ่งสืออีก็ยังตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้กระทั่งนางเห็นสตรีนางนั้นชัดเจน ร่างทั้งร่างของสตรีนางนั้นถูกธนูยิงจนพรุนและตายสนิท เมิ่งสืออีตัวสั่นขึ้นมาทันใด หากเป็นนางที่มากับหานชางเหยียนก็คงมีสภาพไม่ต่างกันแล้วหานชางเหยียนเล่าอยู่ที่ใด นางย่อมรู้ว่ากำลังคนของหานชางเหยียนมีน้อยยิ่งนัก ถึงเขาจะเก่งกาจเพียงใดแต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ เกรงว่าหานชางเหยียนอาจจะไม่รอดแล้ว เมิ่งสืออีเห็นคนตายเกลื่อนจึงรู้สึกหวาดผวา หูของนางแว่วเหมือนได้ยินเสียงของบุรุษตะโกนให้ฆ่า นางตกใจกลัวจึงสาวเท้าวิ่งหนีสุดช

    Last Updated : 2025-04-15
  • เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!   บทที่ 4

    บทที่ 4 ผู้หญิงจากอนาคต​ เมื่อหลายวันก่อนหิมะแรกของปีได้ตกลงมาเพียงแต่ไม่ตกหนักมากนัก และอ้ายอ้ายก็ได้รับข่าวดี"อ้ายอ้าย หนังสือกลเม็ดการเอาชนะใจชายยอดขายทะลุ10ล้านเล่มแล้วนะ ยังมีสำนักพิมพ์ต่างประเทศติดต่อมาเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ อ้ายอ้ายจ๋า เธอจะกลายเป็นมหาเศรษฐีแล้วได้ยินหรือเปล่า อ้ายอ้าย อ้ายอ้าย"สิ้นเสียงของบรรณาธิการสำนักพิมพ์อ้ายอ้ายก็รู้สึกตื่นเต้นและปวดหน่วงบริเวณหัวใจหนึบ ๆ จากนั้นร่างกายเบาหวิวและเหมือนว่าจะถูกเครื่องดูดฝุ่นขนาดใหญ่ที่กำลังมหาศาลดูดร่างของเธอไปที่ไหนสักแห่งและในชั่วขณะนั้นอ้ายอ้ายก็ได้เห็นภาพบางอย่างเป็นภาพตั้งแต่เธอจำความได้และถูกพ่อแม่เลี้ยงมาด้วยความรักจนกระทั่งพวกท่านประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปตอนเธออายุสิบหกปี หลังจากนั้นอ้ายอ้ายก็เริ่มแต่งนิยายหาเลี้ยงตัวเองและทำงานพิเศษสารพัด เรื่องราวของเธอมีแค่นี้นอกจากที่ทำงานพิเศษแล้วก็ไปเรียนและนั่งอยู่หน้าคอมเพื่อแต่งนิยายจากนั้นภาพก็ตัดจบไปอ้ายอ้ายครุ่นคิด ชีวิตที่ผ่านมาของเธอมีแค่นี้จริง ๆ สินะตอนนี้อ้ายอ้ายเห็นตัวเองนอนนิ่งดวงตาเบิกค้างมือยังกำโทรศัพท์แน่น พร้อมกับได้ยินเสียงของบรรณาธิการดังออกมาจากมือถือ

    Last Updated : 2025-04-15
  • เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!   บทที่ 5

    บทที่ 5 เกิดใหม่​ และนี่เป็นครั้งที่สามที่อ้ายอ้ายรู้สึกว่าตัวเองถูกเครื่องดูดฝุ่นอันใหญ่ดูดอีกครั้ง วิญญาณของอ้ายอ้ายหายเข้าไปในห้องนั้นพร้อมกันกับเสียงของหมอตำแยทำคลอดที่ร้องขึ้นมา"คลอดแล้วเป็นคุณหนู คลอดแล้วเจ้าค่ะ"สายรกถูกตัดออกพร้อมกับร่างของเด็กน้อยที่ถูกอุ้มไปชำระล้างร่างกายแล้วห่อในห่อผ้ามงคลสีแดง เด็กน้อยลืมตาขึ้นแล้วมีสีหน้าที่ดูค่อนข้าง งุนงงสีหน้านี้ทำให้หมอตำแยถึงกับมองด้วยความประหลาดใจเด็กคนนี้เกิดมาก็ลืมตาทันใดดวงตากลมโตของนางยังกลอกไปมาแล้วจ้องมองใบหน้าหมอตำแยด้วยความสงสัยหมอตำแยถูกทารกแรกเกิดจ้องมองด้วยดวงตาใสแจ๋วก็รู้สึกใจไม่ดี มิหนำซ้ำเด็กน้อยยังไม่ร้องสักแอะหรือว่าจะมีสิ่งใดผิดปกติอ้ะ หรือว่า...นางเป็นใบ้!ไม่ได้การแล้วต้องรีบทำให้ร้องไห้ให้เร็วที่สุดในเมื่อเจ้าหัวไชเท้าขาวอวบที่เพิ่งดึงออกมาจากดินด้วยตนเองไม่ยอมส่งเสียง หมอตำแยจึงใช้ฝ่ามือฟาดที่ตูดไปสองที แต่เด็กน้อยยังมองตาแป๋วเหมือนไม่รู้สึกอันใดหมอตำแยเริ่มใจเสีย ฮูหยินคนนี้ไม่ได้รับความโปรดปรานหากว่าบุตรสาวที่คลอดมาเป็นใบ้ชีวิตที่เหลือของนางคงไม่พ้นถูกมอบหนังสือหย่าและจากนั้นไม่ต้องเอ่ยว่าจะมีชีวิตที

    Last Updated : 2025-04-15
  • เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!   บทที่ 6

    บทที่ 6 ไร้ญาติขาดมิตร​ อ้ายอ้ายลืมตาดูโลกได้สามวันแล้วแต่อ้ายอ้ายก็ไม่เคยเห็นว่าจะมีใครญาติพี่น้องคนใดมาเยี่ยมนางเลยแม้แต่คนเดียว แม้กระทั่งคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นท่านพ่อของตัวเองอ้ายอ้ายก็ไม่เห็นว่าเขาจะโผล่มา อ้ายอ้ายอยากเห็นหน้าเขาคนผู้นั้นจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ทำไมถึงได้ใจจืดใจดำปานนั้นอ้ายอ้ายสงสารหม่าม้าเหลือเกินอยากจะพูดปลอบโยนให้หม่าม้าสบายใจแต่เพราะอ้ายอ้ายยังเป็นเด็กแรกเกิดถึงแม้ว่าจะมีหัวใจเป็นผู้ใหญ่แต่ก็ไม่อาจฝืนร่างกายที่อ่อนแอและต้องการพักผ่อนเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการตามประสาเด็กเกิดใหม่ออกมาได้ ดังนั้นทั้งวันทั้งคืนของอ้ายอ้ายก็คือการนอนและตื่นตัวในช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้นอ้ายอ้ายแม้จะยังเป็นทารกแต่ก็มีเรื่องที่ชอบที่สุดแล้ว นั่นก็คือตอนนี้อ้ายอ้ายชอบเพ่งมองใบหน้าสวย ๆ ของหม่าม้ามากเป็นพิเศษ อ้ายอ้ายอยากจะพูดคุยกับหม่าม้าแต่ว่าดูเหมือนว่าร่างกายจะยังไม่พร้อมแม้อยากจะส่งเสียงแต่ก็เป็นเพียงเสียงเล็ก ๆ ที่เปล่งออกมาเท่านั้น พอพยายามพูดมากอ้ายอ้ายก็เหนื่อยจนหลับอีกแล้วอ้ายอ้ายกินไม่ค่อยอิ่มเท่าไหร่เพราะว่าน้ำนมของหม่าม้ายังมาน้อยนักจึงทำให้อ้ายอ้ายตื่นขึ้นมาบ่อยครั้ง แล

    Last Updated : 2025-04-15
  • เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!   บทที่ 7

    บทที่ 7 บุตรสาวของข้า​"ลูกของข้าเจ้าจะพาไปไหนไม่ได้"อ้ายอ้ายได้ยินเสียงนั้นพร้อมกับท่าทางตกอกตกใจของมารดานางก็เข้าใจได้โดยพลันว่าผู้ที่มาใหม่นั้นคือผู้ใด ในใจของอ้ายอ้ายคิดแค้นเคืองนัก นี่หรือคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อเขาทักทายคนที่เป็นภรรยาหลวงที่ไม่ได้เจอกันมานานแบบนี้หรือช่างน่าชังนัก นางอยากจะหยุมหัวผู้ชายคนนั้นจริง ๆแม้จะง่วงเพียงใดอ้ายอ้ายก็ยังก่นด่าออกมา"อ้า อ้า อ้อ อ้อ..."หานชางเหยียนได้ยินเสียงเล็ก ๆ ของบุตรสาวก็พลันรู้สึกตื่นเต้น ยิ่งทำให้เขาอยากเห็นใบหน้านั้นทว่าเขากลับไม่กล้าขยับบุรุษร่างสูงมองแผ่นหลังของเมิ่งสืออีที่ยังนั่งหันหลังให้เขา พร้อมกับบังร่างทารกเอาไว้อย่างหวงแหนไม่ยอมให้เขาได้เห็นหน้าจึงได้เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่กดข่มความเกรี้ยวกราดเอาไว้"ลูกสาวข้า ให้ข้าดูนางหน่อย"เมิ่งสืออีทั้งโกรธทั้งแค้นนางหันมามองเขาด้วยดวงตาแข็งกร้าว สายตาของคนสองคนพลันประสานกันท่ามกลางปุยหิมะที่พัดเข้ามา หานชางเหยียนสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่อยู่ในเนตรคู่งาม แต่เขากลับแสร้งไม่รับรู้"อย่ามายุ่งกับลูกของข้า อากาศเย็นมากเปิดประตูลมหนาวเข้ามาลูกของข้าจะไม่สบาย "ไฉไฉที่เพิ่งได้สติจึงขย

    Last Updated : 2025-04-15
  • เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!   บทที่ 8

    บทที่ 8 ลู่ลี่ผู้อ่อนหวาน"ท่านพี่เจ้าคะ ท่านพี่ได้ยินลู่ลี่หรือไม่ ได้ยินเสียงของเด็กร้องอีเจี่ยเอ๋อร์ไม่สบายหรือไม่เจ้าคะ ลู่ลี่พาหมอมาด้วยให้ตรวจร่างกายเสียหน่อยดีหรือไม่"น้ำเสียงของลู่ลี่หากฟังเผิน ๆ นั้นช่างอ่อนโยนหวานใสจนทำให้อ้ายอ้ายอยากจะเห็นหน้านักว่านางจะมีใบหน้าอย่างไร ทว่าในใจของอ้ายอ้ายนั้นกลับยิ่งรู้สึกรังเกียจเมิ่งสืออีตะโกนดังลั่นให้เสียงของตนเองดังลอดออกไปด้านนอก"ลู่ลี่ เจ้าหุบปากอย่ามารบกวนบุตรสาวข้า"ลู่ลี่ที่อยู่ภายนอกย่อมได้ยินเสียงอย่างชัดเจน นางกำหมัดแน่นก็แค่เชลยไร้ค่าผู้หนึ่งกล้าดีอย่างไรมาสั่งให้นางเงียบ ลู่ลี่กำลังจะอ้าปากเอ่ยคำแต่นางกลับโดนแม่นมของตนเองจับมือเอาไว้ทั้งส่ายหน้า"คุณหนู อย่าเจ้าค่ะ"ลู่ลี่ฮึดฮัดขัดใจแต่นางก็เชื่อฟังแม่นมของตนเองอยู่มาก นั่นเป็นเพราะคำสอนของแม่นมจึงทำให้นางคว้าหัวใจของหานชางเหยียนเอาไว้ได้ นางจึงได้แต่เงียบเสียงทำตัวเป็นแม่ดอกบัวขาวที่ไร้พิษภัยด้วยความรู้สึกอึดอัดใจอ้ายอ้ายจำได้ว่าฮูหยินรองเป็นงูพิษจึงถ่มน้ำลาย ทั้งค่อนขอดในใจเสแสร้งดัดจริต อย่าคิดว่าคนอื่นเขาโง่เหมือนผู้ชายคนนั้น เพ้ย!คิดดังนั้นก็ปล่อยเต้าของหม่าม้าออกจ

    Last Updated : 2025-04-15
  • เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!   บทที่ 9

    บทที่ 9 ท่านลุงผู้ใจดี"ไยข้าจะมาไม่ได้เล่า ข้ากับหานชางเหยียนเป็นสหายรักกันเจ้าไม่รู้หรือ"ไฉไฉไม่ได้ฝันไปจริง ๆ คุณชายรูปงามอันดับหนึ่งในเมืองหลวงบัดนี้ยืนอยู่เบื้องหน้านางแล้วคุณชายฮวาผู้นี้มาจากตระกูลบัณฑิตมีบิดาเป็นท่านเจ้ากรมสำนักศึกษา มารดาเป็นยอดอาจารย์หญิงที่สั่งสอนองค์หญิงในวังหลวง ส่วนเขาคือบัณฑิตมากความสามารถที่เก่งรอบด้านที่สุดผู้หนึ่งด้วยใบหน้างดงามดุจเทพเซียนและความสามารถด้านการบรรเลงเพลงพิณและเขียนพู่กันของเขาที่นับว่าเป็นยอดปรมาจารย์ทำให้มีสตรีน้อยใหญ่ต่อแถวกันถึงสามช่วงถนนเพื่อหมายแต่งงานกับเขา ทว่าเขากลับรักอิสรเสรีและยังเจ้าสำราญจึงไม่ยินยอมแต่งกับผู้ใด นามของเขาคือ 'ฮวาซานเหริน'ไฉไฉเคยเห็นเขาในภาพวาดที่มีคนวาดขายในเมืองหลวงอยู่หลายครา แต่นางไม่เคยเห็นตัวจริงของเขามาก่อน เพราะเขาเป็นคนที่หาตัวยากนักไปมาไร้ร่องรอย แต่เพราะความโดดเด่นอันยากที่จะลืมเลือนของเขาเพียงนางเห็นใบหน้านี้ก็จำได้ทันทีว่าเขาคือผู้ใดเขาปล่อยให้ไฉไฉดื่มด่ำกับใบหน้าของเขาครู่หนึ่งจากนั้นจึงเอ่ยว่า "ในนี้มีตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึงเป็นของชางเหยียนที่เตรียมเอาไว้ให้ฮูหยิน พรุ่งนี้ก็ไปไถ่ของที่จำนำ

    Last Updated : 2025-04-15

Latest chapter

  • เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!   บทที่ 55 ตอนพิเศษ 2

    ตอนจบ ตอนพิเศษอ้ายอ้ายมองน้องสี่ที่มีสีหน้าอิ่มเอิบท่าทางครุ่นคิด บัดนี้น้องสี่ของนางกลายมาเป็นผู้ช่วยบิดาในการสอนเขียนอักษรให้กับเด็ก ๆ ที่โรงรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เขากลายเป็นอาจารย์ผู้หนึ่งไม่มีผู้ใดกล้าดูถูกเขาทุกคนต่างชื่นชมฝีมือการเขียนอักษรอันยากจะหาผู้ใดเปรียบของน้องสี่เขายังได้พบกับคนรักซึ่งเป็นเด็กกำพร้าผู้หนึ่งซึ่งเป็นสาวใช้ของเขาเอง ฮวาซานเหรินเห็นพวกเขารักใคร่จริงใจจึงจัดงานสมรสให้พวกเขาตามประเพณี บัดนี้คนที่มีความสุขที่สุดก็คงจะเป็นน้องสี่แล้วในเมื่อทุกคนให้อ้ายอ้ายเป็นคนตัดสินใจนางจึงเอ่ยว่า“ก็แค่ส่งคนผู้หนึ่งไป ไม่ยากอันใดเขาอยากให้ทำสิ่งใดข้าก็จะทำสิ่งนั้น ในเมื่อเขาอยากเจอพวกเราก็ไปพบเขากันดีหรือไม่”ทุกคนล้วนพยักหน้าส่งเสียงอืมในลำคอในวันต่อมาฮวาซานเหรินพาครอบครัวใหญ่ของเขาขึ้นรถม้าไปพบหานชางเหยียนที่นอนอยู่ที่โรงหมอแห่งหนึ่ง ท่านหมอประสานมือคารวะเขาแล้วเอ่ยว่า“นายท่าน ขอทานคนนี้ไร้ทางรักษาจริง ๆ แล้วขอรับ”ฮวาซานเหรินพยักหน้า“ไม่เป็นไร ท่านทำดีที่สุดแล้ว”จากนั้นเขาก็เดินไปนั่งลงบนตั่งไม้ข้างเตียงโดยมีบุตรและภรรยาเดินตามทุกคนล้วนจับจ้องที่ใบหน้าของบุรุษชราผู้หน

  • เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!   บทที่ 54 ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1ในยามที่อ้ายอ้ายตื่นมาอีกครั้งก็เป็นเวลาที่แสงอาทิตย์นอกหน้าต่างระยิบระยับดุจทองคำ นางบิดขี้เกียจพร้อมกับลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ หลังจากที่ป่วยอยู่หลายวันตื่นขึ้นมาในวันนี้อ้ายอ้ายรู้สึกสดชื่นเป็นที่สุดแล้ว“คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ”อ้ายอ้ายพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มสว่างไสว สาวใช้เห็นสีหน้าของนางสดชื่นเช่นนี้จึงเอ่ยว่า“ดูเหมือนว่าคุณหนูจะไข้ทุเลาแล้วนะเจ้าคะ”“สบายดีมากเลยตอนนี้ น่าจะเป็นเช่นนั้น”สาวใช้ยิ้มยินดี“บ่าวให้คนไปเรียนนายท่านกับฮูหยินนะเจ้าคะ เมื่อสักครู่เพิ่งมาดูอาการของท่านพร้อมกับองค์รัชทายาท”อ้ายอ้ายเบิกตากว้างจากนั้นก็ส่งเสียงใสแจ๋วออกมา“องค์รัชทายาทกลับมาแล้วหรือ”“เจ้าค่ะ มาตั้งแต่เช้าแล้วเจ้าค่ะ มาเยี่ยมคุณหนูแล้วแต่ว่าคุณหนูยังไม่ตื่นจึงได้ไปสนทนากับนายท่านที่เรือนรับรอง”“ข้าจะไปหาพี่ชายรัชทายาท”อ้ายอ้ายสั่งให้สาวใช้ปรนนิบัตินางล้างหน้าเปลี่ยนอาภรณ์ ทว่าสาวใช้กลับเอ่ยว่า“คุณหนูเพิ่งหายจากไข้ เกรงว่านายท่านจะตำหนิบ่าวเจ้าค่ะ ให้บ่าวไปเรียนนายท่านเถิดนะเจ้าคะ”อ้ายอ้ายส่ายหน้า“ไม่เอาข้าจะไปหาพี่ชายเอง ทำตามที่ข้าบอกเถิด”ผู้ใดก็รู้ว่าคุณหนูรองผู้นี้เป็นที

  • เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!   บทที่ 53 ตอนจบ

    บทที่ 53 ตอนจบหานชางเหยียนขอร้องฝ่าบาทให้ส่งฮวาซานเหรินกับองค์รัชทายาทมาเป็นตัวแทนพระองค์ในวันแต่งงานของเขาระหว่างทางกลับหานชางเหยียนที่ส่งผู้อื่นไปเข้าหอแทนตนเองก็วางแผนการสังหารองค์รัชทายาทกับฮวาซานเหรินไปพร้อม ๆ กันคืนนี้ฮวาซานเหรินดื่มสุราเพียงน้อยนิด ส่วนองค์รัชทายาทไม่อาจปฏิเสธผู้อื่นได้อีกทั้งเขาอายุยังน้อยเพิ่งเริ่มหัดดื่มสุราดื่มไปเพียงจองสองจอกก็เมามายไร้สติแล้วแม้ขบวนรถม้าขององค์รัชทายาทจะมีคนคุ้มกันมากเพียงใด แต่ทหารหลวงบัดนี้อยู่ในมือของหานชางเหยียนเขาจึงสับเปลี่ยนคนอ่อนแอมาอารักขาเมื่อรถม้ามาถึงจุดที่วางเอาไว้ ผงยาสลบจำนวนมากก็ถูกโปรยลงจากท้องฟ้าด้วยการยิ่งธนูขึ้นสูงและทำให้ถุงพวกนั้นแตกกระจายเพราะไม่คาดคิดว่าจะเจอแผนการรบเช่นนี้จึงทำให้ทหารคุ้มกันขององค์รัชทายาทสลบไสลไร้สติล้มไปกองลงบนพื้นหานชางเหยียนที่อยู่ในชุดดำบัดนี้จึงปรากฏกาย เขาหัวเราะในลำคอ“การที่ข้าไม่ลงมือมิใช่ว่าข้าหวาดกลัว เพียงแต่ให้โอกาสพวกเจ้าก็เท่านั้น ในเมื่อไม่สำนึกว่าควรเชื่อฟังผู้ใดก็จงตายไปด้วยกันเสีย”เขาสั่งให้คนลากองค์รัชทายาทออกจากรถม้าซึ่งภายในรถม้าคันนั้นแน่นอนว่ามีฮวาซานเหรินอยู่ด้วย

  • เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!   บทที่ 52

    บทที่ 52 กฎแห่งกรรมที่แท้การแก้ไขปัญหาม้าที่ต้องส่งไปยังซีชวนก็คือการซื้อม้าจากดินแดนซยงหนู อ้ายอ้ายเพียงแต่จดจำได้ว่าช่วงเวลานี้ดินแดนซยงหนูต้องการพัฒนาการเกษตรเพราะพวกเขาไม่สามารถปลูกผลผลิตได้เพราะขาดคนเชี่ยวชาญในขณะที่แคว้นลู่เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ ปกติซยงหนูจะทะนงตนไม่ยอมส่งม้าขายให้ผู้อื่น พวกเขายังนับว่าเป็นดินแดนที่เลี้ยงม้ามากที่สุด เมื่อองค์รัชทายาทยื่นข้อเสนอขอซื้อม้าราคาถูกเพื่อแลกกับการช่วยเหลือการเกษตรส่งเสริมเครื่องมือและกำลังคนช่วยซยงหนูในการปลูกพืชเพื่อเลี้ยงตนเองอย่างแต่งที่ อีกทั้งยังมอบสัญญาแต่งงานตอบแทนเพื่อเป็นการยืนยันว่าแคว้นลู่จะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ทั้งยังได้ฮองเฮาช่วยเจรจาอีกแรงเรื่องนี้จึงสัมฤทธิผลการจัดหาม้าส่งไปยังซีชวนทำได้ทันเวลา องค์รัชทายาทได้รับการกล่าวขานว่าเก่งกาจที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที ทำให้ขุนนางยกย่องยิ่งนักองค์หญิงที่มาแต่งงานเป็นองค์หญิงสายรองซึ่งหากนับญาติก็เป็นหลานสาวของฮองเฮา นางเดินทางมาถึงเมืองหลวงแคว้นลู่อย่างเร่งด่วนเพราะฮองเฮาขอร้องเพื่อให้มาร่วมงานเลี้ยง และพวกนางได้วางแผนการเอาไว้แล้ว องค์หญิงผู้นี้รักอ

  • เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!   บทที่ 51

    บทที่ 51 ถึงเวลาเอาคืนร่างกายของสตรีทั้งสองเย็นเยียบ รู้สึกอ่อนแรงไปทั้งร่างราวกับว่าบัดนี้ตนเองกำลังถูกคลื่นยักษ์สาดซัดอย่างรุนแรงกระแทกฝั่งเป็นธรรมเนียมที่ทุกคนต้องเข้าแถวยกจอกสุราถวายพระพร ทว่าบัดนี้ฮองเฮากลับตรัสว่า“ไท่ผินชรามากแล้ว ไม่จำเป็นต้องลุกขึ้นข้าเองไม่ถือสาเรื่องตำแหน่ง ผู้ชราก็ควรได้รับการดูแล”จากนั้นฮองเฮาพลันลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ฮูหยินชราโดยที่เด็กน้อยผู้นั้นเดินประกบข้างซ้ายและเมิ่งสืออีประกบข้างขวาภาพที่ฮูหยินชราเห็นอยู่ตามนี้ทำให้จิ้งจอกเฒ่าแทบลมจับ“ไท่ผินข้าเป็นผู้น้อยอย่างไรก็ต้องขอคารวะท่าน”มือของฮูหยินชราสั่นจนแทบจะยกจอกสุราไม่ไหวแล้ว พริบตานั้นจอกสุราก็พลันร่วงหล่นลงมาฮองเฮาเลิกคิ้ว“ดูสีหน้าซีดเซียวแล้วไท่ผินคงไม่สบายกระทั่งจอกสุรายังยกไม่ไหว”เมิ่งสืออีเอ่ยว่า“ฮองเฮาเพคะ ให้ท่านย่าผู้นี้ไปพักที่ห้องข้างดีหรือไม่เพคะ หม่อมฉันจะพาไปเอง”ฮองเฮาแย้มยิ้ม“เช่นนั้นก็ลำบากเสี่ยวสือแล้ว”เมิ่งสืออียอบกายก่อนจะขยิบตาให้อ้ายอ้ายเดินตามมา เด็กน้อยเอ่ยว่า“ฮองเฮาอ้ายอ้ายไปกับท่านแม่นะเจ้าคะ”ฮองเฮาพยักหน้า “ไปเถิด”จิ้งจอกเฒ่าสั่นไปทั้งร่างนางหวาดกลัวจนพิษในกาย

  • เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!   บทที่ 50

    บทที่ 50 ตื่นตะลึงหลังเมิ่งสืออีและอ้ายอ้ายดื่มยาคลายกังวลพวกนางก็นอนหลับไปพร้อม ๆ กัน ฮวาซานเหรินดูแลนางจนวางใจจึงกลับมาหารือกับรัชทายาทที่ตำหนักบูรพารัชทายาทกลับมาที่ตำหนักบูรพาพร้อมกับฮวาซานเหรินเพื่อหารือ จากนั้นก็สั่งให้เสิ่นกงกงรีบตามหมอหลวงอีกคนมาดูอาการของเขา“อาจารย์ท่านได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่ขอรับ”ฮวาซานเหรินนั่งลงบนเตียงเขาขัดสมาธิเดินพลังครู่หนึ่งจึงกระอักเลือดคั่งออกมาคำโตก็พลันรู้สึกดีขึ้น เขารับผ้าซับเลือดมาจากเสิ่นกงกงพร้อมกับเอ่ยว่า“ข้าไม่เป็นอันใดไม่จำเป็นต้องเรียกหมอหลวง”ทว่ารัชทายาทไม่ยินยอมฮวาซานเหรินจึงคิดว่า“ข้าจะต้องเอาผิดเขาให้ได้ ข้าจะกราบทูลเสด็จพ่อ”ฮวาซานเหรินเอ่ยว่า“ข้าคิดว่าฝ่าบาทจะเข้าข้างเขา นอกจากคนของเราแล้วก็ไร้หลักฐาน คนของหานชางเหยียนที่จับได้ล้วนเป็นนักรบเดนตายพวกเขาฆ่าตัวตายไปหมดแล้ว”“แต่หานชางเหยียนผู้นี้เหิมเกริมนัก หากเขาลงมืออีกเล่า”ฮวาซานเหรินเอ่ยว่า“เขาบาดเจ็บหนักไม่น้อยคงต้องรักษาตัวพักใหญ่ อีกอย่างด้วยนิสัยระแวงระวังของเขาในเวลานี้คงยังไม่ลงมือ เกรงว่าจะถูกพวกเราวางแผนโต้กลับ”รัชทายาทเอ่ยว่า“ที่ท่านไม่ให้ข้าทูลเรื่องนี้เพราะ

  • เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!   บทที่ 49

    บทที่ 49 เด็กน้อยผู้วิเศษหานชางเหยียนเจ็บจนสะดุ้งและด้วยความตกใจในเวลานั้นเขาก็ปล่อยเมิ่งสืออีจนร่างของนางหล่นลงไปกองลงพื้นเมิ่งสืออีตะเกียกตะกายหายใจอย่างแรง นางคิดว่านางจะตายไปแล้วเสียอีกมีดยังปักคาเท้าของหานชางเหยียน เมื่อหม่าม้าเป็นอิสระอ้ายอ้ายผวาเข้าไปหามารดาที่กองอยู่บนพื้นและเมิ่งสืออีก็โอบกอดบุตรสาวเอาไว้ทันใดหานชางเหยียนจ้องมองสองแม่ลูกด้วยดวงตาแดงก่ำ เขาก้มลงไปดึงมีดออกจากเท้า แม้อ้ายอ้ายจะมีแรงน้อยแต่เมื่อสักครู่นางออกแรงสุดชีวิตเพื่อปักมีดลงไปที่เท้าจึงทำให้หานชางเหยียนได้รับบาดเจ็บอยู่ไม่น้อยหานชางเหยียนยิ้มประดุจคนบ้า ชี้มีดสั้นไปที่พวกนางเอ่ยน้ำเสียงเย็นเยียบ“ลูกอกตัญญู ข้าน่าจะบีบคอให้เจ้าตายไปเสีย ไม่ต้องเกิดมาทำให้ข้าเจ็บปวดใจเช่นนี้”หานชางเหยียนคิดจะสั่งสอนสองแม่ลูกด้วยโทสะ ทว่าธนูดอกหนึ่งก็พลันพุ่งเข้ามาทำให้เขาต้องเอนกายหลบทันใดหานชางเหยียนดึงกระบี่ออกมาปัดลูกธนูที่พุ่งเข้ามาหาเขาอีกหลายลูกจากนั้นก็ตั้งรับกระบี่จากบุรุษชุดขาวที่โถมฟันลงมาอย่างรุนแรงเป็นฮวาซานเหรินฮวาซานเหรินเอ่ยเสียงรัวเร็ว“อาเจาพาสืออีกับอ้ายอ้ายออกไป”หม่าเจาติดตามฮวาซานเหรินมาพร้อมก

  • เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!   บทที่ 48

    บทที่ 48 ลูกเนรคุณหานชางเหยียนคิดว่าเมิ่งสืออีกำลังหึงหวง เขาจึงหัวเราะในลำคอแผ่วเบาอย่างมีความสุข ที่แท้การที่นางไม่กลับมาเพราะว่าสตรีนางนั้นจริง ๆ"หากเจ้าไม่ชอบลู่ลี่ ข้าจะกำจัดนางให้พ้นทาง ให้สตรีนางนั้นเป็นบ่าวรับใช้ของเจ้า หรือว่าให้ตายไปให้พ้นสายตา เจ้าอยากได้สิ่งใดข้าจะตามใจเจ้าทุกอย่าง ดีหรือไม่ ต่อไปเจ้าอยู่ในจวนกับลูก ไม่ต้องพบเจอผู้อื่นที่จะทำให้เจ้าลำบากใจ ข้าจะเลี้ยงดูเจ้าให้ดีที่สุด ข้าจะให้เจ้ามีอาภรณ์สวยงาม เงินทองมากมาย และให้เจ้าคลอดบุตรให้ข้ามาก ๆ ครอบครัวของพวกเราจะมีความสุข สืออีอยู่กับข้าดีที่สุดใช่หรือไม่"เมิ่งสืออีถึงกับนิ่งอึ้งไป มือของนางที่จับอ้ายอ้ายเอาไว้กำแน่น"แม้แต่ลู่ลี่ที่ทุ่มเทเพื่อเจ้าเพียงนั้น เจ้ายังกล้าคิดเช่นนี้กับนาง ได้อย่างไร หานชางเหยียน เจ้าทำได้อย่างไร"หานชางเหยียนยักไหล่ เขาไม่คิดว่าสิ่งที่เขาคิดและกระทำนั้นคือสิ่งผิด"นางคือตัวหายนะ ทำให้ครอบครัวของพวกเราแตกแยกทำให้เจ้าหนีไปจากข้าทั้งยังพาอ้ายอ้ายไปด้วย ลู่ลี่ยังทำสิ่งชั่วร้ายมากมายนางหักหลังบิดาได้ก็หักหลังข้าได้เช่นกัน ดังนั้นงูพิษเช่นลู่ลี่ ข้าไม่อาจเก็บไว้ข้างกายได้อีก"เมิ่งสือ

  • เกิดใหม่อีกคราเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก!   บทที่ 47

    บทที่ 47 ลักพาตัวและแล้วก็มีเรื่องด่วนเกิดขึ้น เมื่อโรงเลี้ยงม้าเกิดโรคระบาดอย่างหนักจนทำให้ม้าล้มตายไปนับหมื่นตัวภายในชั่วข้ามคืน เรื่องนี้ถูกถวายฎีกาอย่างเร่งด่วนและทำให้ฝ่าบาทต้องเรียกประชุมขุนนางแม้ว่าจะเป็นเวลายามดึกแล้ว“เกิดเรื่องได้อย่างไร”ฝ่าบาททรงพิโรธยิ่งนักที่กองงานทหารม้าปล่อยปละละเลยถึงเพียงนี้หัวหน้าหน่วยกองงานทหารม้ารีบคุกเข่ารายงาน“เมื่อสองเดือนก่อนมีม้าเพียงไม่กี่ตัวที่เกิดล้มป่วยที่หน่วยเพาะพันธุ์ม้าศึกเวลานั้นได้มีการแยกม้าป่วยออกไปรักษาอย่างเข้มงวดแต่คาดไม่ถึงว่าภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือนก็เกิดมีม้าล้มตายเป็นจำนวนมากและยังตายติดต่อกันทุกวันบัดนี้เสียชีวิตนับหมื่นตัวภายในพริบตา โรคม้าชนิดนี้เป็นโรคใหม่ที่ไม่เคยพบจึงยากที่จะควบคุมพ่ะย่ะค่ะ”“เจ้าจะบอกข้าว่าไม่รู้ถึงสาเหตุที่เกิดโรคระบาดหรือ”ทุกคนล้วนอึกอัก กระทั่งหานชางเหยียนที่ดำรงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่จำเป็นต้องออกหน้า เรื่องนี้เป็นเพราะความผิดพลาดของเขาเองที่เมื่อได้รับรายงานแล้วก็ละเลยด้วยคิดว่าการล้มป่วยไร้สาเหตุของม้าไม่กี่ตัวจะทำให้เกิดเรื่องราวบานปลายได้เพียงนี้เขาคุกเข่าลงรับผิดและเอ่ยว่า“ฝ่าบาททั้งหมดเ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status