“เอ้า...คุณนิคเองเหรอคะมีอะไรหรือเปล่าคะมีนก็ว่าเบอร์ใคร” มีนชญาคลายสงสัยทันทีเมื่อปลายสายยอมพูดเสียทีว่าเขานั้นเป็นใครพร้อมถามเขาต่อว่าที่โทรหาเธอนั้นเขามีธุระอะไร
“เอ่อ...คือจะโทรมาถามว่าข้อเท้าเธอเป็นยังไงบ้าง”
“ดีขึ้นมากแล้วค่ะตอนนี้มีนเดินได้สะดวกแล้วค่ะ”
“แล้ว...เอ่อ...เธออย่าลืมไปรีดผ้าในตู้ของฉันด้วยล่ะ” โดมินิคยังพยายามหาเรื่องที่จะถามไถ่หญิงสาวทั้งที่เขานั้นไม่จำเป็นต้องห่วงคนที่เป็นแม่บ้านขนาดนี้ก็ได้แต่แปลกที่เขานั้นรู้สึกห่วงเธอ
“มีนทำเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะรับรองไม่มีปัญหาเหมือนคราวก่อนแน่ค่ะ..คุณนิคมีอะไรจะให้มีนทำอีกหรือเปล่าคะ” มีนชญาเห็นว่าชายหนุ่มนั้นคงจะโทรมาตรวจความเรียบร้อยภายในบ้านเป็นแน่เธอจึงบอกกับเขาไปว่างานทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่ต้องเป็นห่วง
“แล้ว.....เธอทานข้าวหรือยัง” โดมินิคเองก็ไม่รู้จะคุยเรื่องงานอะไรกับเธอต่อเพราะงานที่เขาจะสั่งเธอหญิงสาวก็จัดการเรียบร้อยหมดแล้วเขาเองก็จำต้องหาเรื่องอื่นคุยกับเธอเพราะอยากได้ยินเสียงของเธอนานๆมันทำให้เขานั้นรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
“เรียบร้อยค่ะคุณนิคอิ่มจนพุงกางแล้วค่ะ...คุณนิคล่ะคะอยู่ที่โน่นทานอาหารตรงเวลาหรือเปล่าคะ” มีนชญายิ้มแป้นเมื่อชายหนุ่มนั้นยังมีกะใจถามไถ่คนที่เป็นลูกจ้างของเขาในตอนนี้อย่างเธอหญิงสาวจึงตอบเขาไปตามตรงว่าเธอทานเรียบร้อยแล้วพร้อมถามเขากลับว่าอยู่ที่โน่นเขานั้นทานอาหารตรงเวลาหรือไม่เพราะเธอรู้มาจากแน็ทตี้ว่าชายหนุ่มนั้นโหมงานหนัก
“อืม..ฉันก็ทานทุกมื้อนะ....เอ่อ..เธออยากได้อะไรไหมเดี๋ยวฉันจะซื้อไปฝากอีกสามสี่วันฉันก็กลับแล้ว” โดมินิคฉีกยิ้มกว้างรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเพียงเพราะคำถามที่ดูห่วงใยเขาจากหญิงสาวพร้อมถามเธอว่าเธอนั้นอยากจะได้ของฝากหรือไม่เขาเองซื้อมาให้เธอแล้วแต่เพียงแต่แค่อยากรู้ว่าเธอนั้นอยากจะได้มันหรือเปล่าแค่นั้นเอง
“ไม่นี่คะ...มีนไม่ได้อยากได้อะไรค่ะ” มีนชญายังนึกไม่ออกว่าเธออยากได้อะไรขอแค่เขากลับมาเร็วๆเท่านั้นก็เพียงพอในตอนนี้
“อืม...งั้นแค่นี้แหละ” โดมินิคใจห่อเหี่ยวลงในทันทีเมื่อรู้ว่าหญิงสาวนั้นไม่ได้อยากได้ของฝากแต่เขานั้นดันซื้อมาให้เธอแล้วน่ะสิเขาจึงรู้สึกเฟลแปลกๆพร้อมขอวางสายจากเธอทันที
“ค่ะ” มีนชญาถึงกับนั่งยิ้มนอนยิ้มจากข่าวที่เธอพึ่งรู้มาว่าชายหนุ่มนั้นใกล้จะกลับแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่เธอนั้นเตรียมตัวสำหรับแผนขั้นสุดท้ายนี้ให้ดีเท่านั้นเอง
4วันต่อมา
“นี่รับไปตัวช่วยของแก” แน็ทตี้มาหามีนชญาที่บ้านพร้อมส่งซองน้ำตาลเล็กๆให้กับเธอและบอกกับหญิงสาวว่านี่จะเป็นตัวช่วยที่ดีของหญิงสาวที่จะทำให้แผนการนี้สำเร็จเขาตั้งใจซื้อมาให้เธอใช้โดยเฉพาะเพราะคิดว่าหากไม่มีตัวช่วยหญิงสาวคงกระทำการอันใดที่คิดไว้ไม่สำเร็จเป็นแน่
“คืออะไรเหรอ” มีนชญามีสีหน้างงเล็กน้อยเธอไม่รู้ว่าตัวช่วยที่เพื่อนเธอบอกนั้นมันคืออะไรพร้อมรับซองจากเพื่อนของเธอมาและแกดูทันที
“คือสิ่งที่จะทำให้บอสฉันเป็นของแกง่ายขึ้นไง” แน็ทตี้จำต้องอธิบายให้เพื่อนของเขาฟังว่าไอ้ตัวช่วยอันนี้คืออะไรเพราะแน่ใจว่าเธอไม่รู้จักแน่นอน
“แล้วมันคืออะไร...แล้วใช้ยังไง”
“มันคือยาที่จะทำให้บอสฉันอยากจะปลดปล่อยกับใครสักคนไงล่ะ...แล้วแกก็ต้องอยู่ใกล้ๆเค้าเวลานั้นด้วยวิธีใช้แกก็เอาไปหยดใส่น้ำให้บอสทานแล้วก็รอผลสักครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นอะไรๆมันก็ง่ายขึ้น”
ตอนนี้มีนชญาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าในซองนี้มันคืออะไรและใช้งานอย่างไรแน็ทตี้จึงอธิบายให้เธอนั้นฟังอย่างละเอียดถึงผลของมันและวิธีใช้ให้กับเพื่อนของเขาได้ฟัง
“อ๋อ...โอเคขอบใจนะ”
“บอสจะกลับมาพรุ่งนี้แล้วแกสู้ๆนะ”
“ขอบใจ” เมื่อมีนชญาเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่แน็ทตี้นั้นให้เธอคืออะไรเธอจึงรีบเก็บมันอย่างมิดชิดพร้อมขอบใจเพื่อนของเธอที่คราแรกไม่เต็มใจที่จะช่วยแต่เมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้วก็หาวิธีช่วยเธอทุกวิถีทางจริงๆ
“ฉันถามแกจริงๆนะ...แกแน่ใจเหรอว่าแกจะไม่คิดอะไรกับบอสแล้วอยากให้เค้าเป็นแค่พ่อของลูกแกเฉยๆเพราะฉันกลัวว่าหากวันที่แกไปจากเค้าแกจะแย่” ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนสาวแน็ทตี้จึงลองตั้งคำถามให้เพื่อนของเขานั้นได้คิดว่าสภาพจิตใจและความรู้สึกของเพื่อนเขามันเป็นยังไงกันแน่เพราะกลัวว่าเพื่อนสาวเขานั้นตัดสินใจอะไรพลาดไปมันจะทำให้ผลลัพธ์มันออกมาไม่ได้เป็นอย่างที่ใจเคยคิดน่ะสิ
“เอ่อ...อืมม...ก็ไม่คิดนะไม่ต้องห่วงฉันหรอกฉันคิดมาดีแล้ว”
“โอเค...งั้นฉันไปหละต้องไปเคลียงานให้เรียบร้อยพรุ่งนี้บอสกลับมาฉันจะได้ไม่โดนตำหนิ”
เมื่อแน็ทตี้กลับไปแล้วมีนชญานั้นก็นึกถึงคำพูดของแน็ทตี้อีกครั้งว่าพร้อมถามตัวเองในใจว่าแน่ใจแล้วหรือที่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับชายหนุ่มจริงๆตอนนี้เธอเองก็ให้คำตอบกับใจตัวเธอเองไม่ได้เหมือนกันแต่ในเมื่อเธอคิดแผนมาแบบนี้แล้วเธอเองก็คงจะต้องทำไปตามแผนให้มันจบตามที่เธอตั้งใจเอาไว้
เธอจะหวั่นไหวกับอะไรไม่ได้ทั้งนั้นแม้เธอจะรู้สึกหวั่นไหวกับชายหนุ่มบ้างก็ตามแต่เธอก็ต้องข่มใจตัวเองว่าห้ามรักเพราะเธอนั้นต้องการแค่ลูกจากเขาเท่านั้นและชีวิตของเธอกับเขามันก็แตกต่างกันเหมือนคนละโลกอีกด้วย
อิตาลี
“นี่อะไรเหรอครับนาย” ชอวเก็บกระเป๋าของเจ้านายหนุ่มของเขาขึ้นรถแต่เขาสังเกตเห็นถุงผ้าที่มันวางอยู่เมื่อเปิดดูก็เห็นเป็นหน้ากากแฟนซีเขาไม่เข้าใจว่าเจ้านายหนุ่มของเขาไปชอบของแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร
แต่ในใจคิดอีกแง่หนึ่งว่าเจ้านายหนุ่มของเขาอาจจะหยิบของมาผิดเขาจึงถามเจ้านายหนุ่มของเขาออกไปว่าถุงนี้มันคืออะไรหากเจ้านายของเขานั้นหยิบขึ้นรถมาผิดเข้าจะได้เอาไปเก็บให้
“อ๋อ..ฉันซื้อไปฝากมีนน่ะ” โดมินิคหันมาด้านหลังพร้อมบอกกับชอวว่าสิ่งนั้นเขาตั้งใจเอามาเองเพราะว่าจะเอาไปฝากหญิงสาวที่เฝ้าบ้านและดูแลบ้านให้เขาในตอนนี้
“เอ่อ...ครับเธอน่าจะชอบนะครับ” ชอวอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อรู้แล้วว่าสิ่งนี้เป็นของใครพร้อมบอกกกับเจ้านายหนุ่มเพื่อเป็นกำลังใจว่าของสิ่งนี้มีนชญาน่าจะชอบดูจากที่เขารู้จักนิสัยของเธอและตอนนี้ยังรู้อีกว่าสิ่งที่เขาสงสัยอยู่นั้นมันน่าจะเป็นความจริงว่าเจ้านายหนุ่มของเขานั้นกำลังหลงเสน่ห์แม่บ้านคนใหม่นี้อยู่เป็นแน่แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะเตือนอะไรเพราะหญิงสาวก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรและอีกอย่างยังทำให้เจ้านายของเขายิ้มได้อีกต่างหากเรื่องชนชั้นเขารู้ว่าเจ้านายของเขาเคยเหยียดใครอยู่แล้วเมื่อเจ้านายของเขานั้นเจอคนที่ถูกใจเขาก็พร้อมยินดีด้วยเพราะอายุเจ้านายของเขาก็ไม่ใช่น้อยๆแล้วควรที่จะเลือกใครเพื่อมีครอบครัวได้แล้ว“อืม...ไปกันเถอะ”ประเทศไทยเช้าวันต่อมา“เรียบร้อยแล้วนายไปพักเถอะฉันให้เวลาพักสองสามวัน” หลังจากที่ชอวช่วยเขาเอากระเป๋าเข้ามาเก็บที่ห้องเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจึงบอกให้เขานั้นไปพักได้เพราะเขาเองก็ว่าจะพักการทำงานสักสองสามวันหลังจากที่ทำงานกันอย่างหนักมาหลายวันแล้ว“ขอบคุณครับนาย...” ชอวเดินออกจากบ้านอย่างอารมณ์ดีเพราะรู้ตัวว่าจะได้พักเขาเองก็กะว่าจะหาที่เที่ยวพักผ่อนเหมือนกันเพราะเคยอยาก
ทางด้านโดมินิคตอนนี้ชายหนุ่มกำลังง่วนอยู่กับการจัดชุดเพื่อไปเที่ยวกับหญิงสาวเขารู้สึกว่าตัวเองได้เปลี่ยนไปตั้งแต่มีหญิงสาวเข้ามาในบ้านตอนนี้เขาจำต้องตั้งคำถามกับตัวเองแล้วว่าเขานั้นคิดยังไงกับหญิงสาวกันแน่จากที่ไม่ชอบเที่ยวก็อยากจะไปเที่ยวกับเธอและจากที่ชอบอยู่คนเดียวก็ชอบนึกถึงแต่หญิงสาวตลอดระยะเวลาไม่นานที่เขารู้จักเธอมันทำให้เขายิ้มมากกว่าในรอบหลายปีที่ผ่านมาเสียอีกเขาคิดว่าการไปเที่ยวกับหญิงสาวครั้งนี้เขาคงจะให้คำตอบกับตัวเองได้แน่ชัดว่าเขานั้นรู้สึกอย่างไรกับเธอกันแน่เช้าวันต่อมา“พร้อมที่จะไปแล้วใช่ไหม” โดมินิคกำลังจะเดินไปตามหญิงสาวที่ห้องเพราะว่าเขานั้นเตรียมตัวเสร็จแล้วเมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังแบกกระเป๋าออกมาพอดีจึงถามเธอว่าเธอพร้อมแล้วหรือยังหญิงสาวที่อยู่ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีฟ้าขาวแตกต่างจากชุดแม่บ้านที่เขาเคยเห็นมันช่างสะกดสายตาชายหนุ่มให้หยุดนิ่งไปที่เธอได้ดีทีเดียวผิวขาวเนียนกับชุดที่เห็นทรวดทรงของเธอได้ชัดมันทำให้เธอน่าดูไปอีกแบบสำหรับชายหนุ่ม“พร้อมแล้วค่ะ...” มีนชญาเดินนำหน้าชายหนุ่มเอากระเป๋าของเธอไปใส่ที่รถของเขาเพราะเห็นว่าชายหนุ่มนั้นเดินมาตามเธอเขาก็คงจะเสร
“ว้าวมีแต่อาหารน่าทานทั้งนั้นเลย...ขอบคุณนะคะคุณเจ้านาย” เมื่อมีนชญาเดินเข้ามาใกล้กับโต๊ะอาหารเธอก็ตาลุกวาวเพราะบนโต๊ะมีแต่พวกอาหารทะเลที่เธอชอบทั้งนั้นเลยหญิงสาวรีบนั่งที่เก้าอี้พร้อมขอบคุณชายหนุ่มยกใหญ่ที่ใจดีเลี้ยงอาหารดีๆให้กับเธอ“อืม..ทานเถอะเดี๋ยวอาหารจะเย็นซะก่อน” โดมินิคนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามของหญิงสาวเขาดีใจที่เธอชอบอาหารที่เขาสั่งมาพร้อมบอกให้เธอรีบทานเพราะกลัวว่าอาหารจะเย็นเสียก่อน“ค่ะ” มีนชญานั่งแกะกุ้งแกะปูทานจนเพลินอย่างไม่ห่วงสวยทำให้ชายหนุ่มนั่งดูเธอและอมยิ้มอย่างเพลินตาจะมีผู้หญิงสักกี่คนที่นั่งทานอาหารกับเขาแล้วเป็นตัวเองได้ขนาดนี้“คุณนิคนั่งยิ้มทำไมล่ะคะทานสิคะหรือว่าแกะไม่เป็นเดี๋ยวมีนแกะให้ค่ะ” มีนชญาที่กำลังเคี้ยวอาหารตุ้ยๆอยู่ในปากพลางมองไปที่ชายหนุ่มเธอเห็นว่าเขาเอาแต่นั่งยิ้มไม่แตะอาหารเลยสักนิดหญิงสาวจึงรีบดื่มน้ำเพื่อให้อาหารที่อยู่ในปากลงไปในท้องโดยเร็วพร้อมถามคนที่นั่งยิ้มอยู่ฝั่งตรงข้ามว่าเขานั้นทำไมถึงไม่แตะอาหารเลยแต่ด้วยความที่เธอคิดไปเองเลยคิดว่าชายหนุ่มนั้นอาจจะแกะปูหรือกุ้งไม่เป็นก็เธอเลยอาสาแกะให้“แกะไม่เป็นก็บอกสิคะ...นั่งดูมีนอยู่ไ
“อะ..เอ่อ...คุณนิคคะมีนรู้สึกปวดหัวขอเข้าไปพักก่อนนะคะ” มีนชญาต้องรีบกลับเข้าห้องก่อนที่ฤทธิ์ของยาจะออกไม่อย่างนั้นแผนเธอแตกแน่หญิงสาวจึงต้องโกหกชายหนุ่มไปว่าเธอรู้สึกปวดหัวอยากพักและรีบเดินเข้าไปในห้องของเธอทันที“อะ....เอ่อ...แล้ว..” โดมินิคยังไม่ทันได้ถามว่าเธอเป็นหนักขนาดไหนหญิงสาวก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้าไปในบ้านแล้วทำให้เขานั้นต้องลุกขึ้นเดินตามหลังเธอไปเพื่อไปถามไถ่อาการว่าเธอเป็นหนักขนาดไหนก๊อกๆๆๆ“เธอเป็นยังไงบ้าง” โดมินิคเคาะประตูเรียกหญิงสาวที่พึ่งเข้าห้องไปหมาดๆเพราะว่าเขารู้สึกเป็นห่วงเธอไม่แน่เธออาจจะแพ้อาหารอะไรสักอย่างก็ได้เลยปวดหัวกะทันหัน“เอ่อ..มีนว่าอากาศข้างนอกน่าจะร้อนจนทำให้มีนปวดหัวเดี๋ยวมีนอาบน้ำก็น่าจะดีขึ้นค่ะขอตัวนะคะ”“มีอะไรเรียกฉันได้ตลอดเลยนะ”“ค่ะ” มีนชญาจำต้องรีบเปิดประตูพร้อมบอกว่าเธออาจจะปวดหัวเพราะอากาศข้างนอกค่อนข้างร้อยถ้าอาบน้ำให้สดชื่นก็คงจะดีขึ้นพร้อมจะปิดประตูทันทีแต่มีมือของชายหนุ่มดันเอาไว้ก่อนจะพูดกับเธอด้วยความเป็นห่วงว่าหากรู้สึกไม่ค่อยจะดีให้เรียกเขาได้ตลอดแล้วจึงปล่อยให้หญิงสาวปิดประตูได้โดมินิคเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองรีบค้นย
“อื้อ...อื้มม..อร้ายย”“อะ...อ้าส์” เสียงครางของทั้งสองแข่งกันดังระงมเพราะความเสียวซ่านวาบหวิวประกอบกับฤทธิ์ยาที่มันกำลังทำงานได้ดีจึงทำให้ทั้งสองนั้นมีความสุขจนทบล้นทะลักจนร่วมรักครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อยแทบทั้งคืน“คุณนิคคะมีนไม่ไหวแล้ว” เนื้อตัวของมีนชญาตอนนี้แดงไปด้วยรอยจูบดูดคลึงของชายหนุ่มไปแทบทั้งหมดหลังจากร่วมรักกับชายหนุ่มอยู่หลายชั่วโมงจนตอนนี้เธอเริ่มจะไม่ไหวแล้วจึงต้องเอ่ยปากขอร้องให้ชายหนุ่มนั้นหยุดเพราะเธอนั้นรู้สึกเพลียเหลือเกินเธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนักหนาถึงไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อยบ้างเลย“ขออีกนิดนะคนดี” โดมินิคยังมีแรงที่จะรัวสะโพกใส่หญิงสาวอีกหลายรอบเพราะเขาไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิดเมื่อได้ร่วมรักครั้งนี้กับหญิงสาวยิ่งเห็นเธอร้องครางอยู่ใต้ร่างของเขาชายหนุ่มก็ยิ่งมีกำลังเขาไม่คิดว่าหญิงสาวนั้นจะสวยหวานไปทั้งตัวแบบนี้ตอนนี้เธอนั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นเมียของเขาแล้วหลังจากนี้เขาจะดูแลเธออย่างดีอย่างที่เขาพูดว่าเขานั้นจะรับผิดชอบเธอนั่นเอง“อ้ะ..อ้ะ...อื้มมม..”“อ้าส์...อื้มม..อื้อ” และแล้วหญิงสาวก็ต้องนอนครางเสียงแผ่วอยู่ที่ใต้ร่าง
“ไม่เห็นนี่ครับผมพึ่งกลับมาจากเขาใหญ่มาถึงที่นี่เมื่อสักพักนี้เอง...แล้วนายไปเที่ยวทำไมกลับไวจังล่ะครับ”ชอวตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าและอาการของเจ้านายของเขาพร้อมบอกว่าตั้งแต่เขามาก็ยังไม่เห็นใครอยู่ที่บ้านแต่เขานึกขึ้นได้ว่าเจ้านายของเขาไม่ได้มีกำหนดกลับวันนี้แต่ทำไมจึงมาโผล่ที่นี่ได้“เอ่อ...คือฉันมีปัญหานิดหน่อย” โดมินิคใจเสียไปแล้วครึ่งหนึ่งเพราะว่าเขาก็ไม่รู้ว่าจะหาหญิงสาวได้จากไหนเหมือนกันพร้อมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ชอวฟังเพราะเป็คนสนิทที่เขานั้นไว้ใจเป็นที่สุดคราแรกชอวก็มีอาหารตกใจอยู่เล็กน้อยกับเรื่องที่เขานั้นได้รับรู้มาแต่ก็ต้องคิดหาวิธีช่วยเจ้านายของเขาก่อนในตอนนี้“นายลองถามแน็ทตี้ดีไหมครับว่าคุณมีนเธอเคยอยู่ที่ไหน”“จริงสิ” โดมินิคได้ยินที่ชอวพูดเขาเองก็นึกขึ้นได้ว่าคนที่รับหญิงสาวมาทำงานนั้นคือแน็ทตี้เองก็ต้องมีประวัติของหญิงสาวอยู่แล้วเขาเองก็กังวลใจเสียจนคิดเรื่องนี้ไม่ออกติ๊งง“นายครับมีเมลด่วนเข้ามาครับตอนนี้ที่สเปนและญี่ปุ่นมีหุ้นส่วนจะถอนหุ้นออกหลายรายเลยครับเพราะโครงสร้างของโครงการมีปัญหาหลายจุด” ชอวเปิดดูข้อความที่พึ่งส่งมาในเมลตอนนี้เขารู้ว่าเจ้านายของเขากำ
อิตาลีหลังจากเมื่อสี่ปีก่อนที่โดมินิคบินไปที่สเปนเพื่อสะสางงานและต่อด้วยญี่ปุ่นเขาใช้เวลาเกือบสองปีกว่าจะกู้วิกฤตขึ้นมาได้เพราะหุ้นส่วนรายใหญ่หลายรายที่นั่นถอนหุ้นออกจนหมดที่โครงการเขานั้นมีปัญหาก็เพราะว่าเขานั้นไว้ใจคนที่ดูแลมากเกินไปเลยเกิดการฉ้อโกงขึ้นเรื่องนี้คนในวงการอสังหาจะรู้ดีว่าจะต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอนโดมินิคกู้ทุกอย่างกลับขึ้นมาได้ก็เพราะมีมาตินนักธุรกิจรายใหญ่ที่อิตาลีนั้นยื่นมือเข้ามาช่วยเขาร่วมหุ้นและช่วยกันกู้สถานการณ์เอาไว้ได้และตอนนี้เขาก็ได้ให้ลูกสาวของเขารับช่วงต่อดูแลงานแทนลูกสาวของเขาก็คือเคธี่สาวสวยไฮโซที่กำลังเป็นข่าวกับเขาอยู่ตอนนี้แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเพราะเขาคิดกับเธอแค่เพื่อนร่วมงานเท่านั้นคนเดียวที่เขาคิดถึงตลอดเวลาก็คือหญิงสาวที่เขาไม่สามารถรู้เสียทีว่าเธอนั้นอยู่ที่ไหนแม้ว่าก่อนหน้านั้นเขาจะไหว้วานให้แน็ทตี้ตามหาทุกวิถีทางแล้วก็ตามแต่เขาเองก็ยังไม่หมดหวังตอนนี้สถานการณ์ของธุรกิจเขาก็เริ่มคลี่คลายลงแล้วเขาจึงคิดว่าจะลงมือด้วยตัวเองในการตามหาตัวเธออีกอย่างเขาเองก็ต้องกลับไปดูงานที่ไทยด้วยเพราะเป็นเวลาสี่ปีแล้วที่ไม่ได้กลับไปเพราะเขาต้องจัดการกับเร
“ใช่แล้วค่ะคนเก่ง...นีน่าต้องไปโรงเรียนเพื่อหาความรู้และเจอกับเพื่อนใหม่ๆไงคะเดี๋ยวตอนเย็นๆคุณแม่จะไปรับนีน่านะคะ” มีนชญาหันมายิ้มตอบลูกสาวพร้อมย่อตัวลงนั่งคุยกับลูกสาวของเธอว่าเป็นเด็กก็ต้องหาความรู้ในโรงเรียนแล้วก็จะได้เจอเพื่อนใหม่ๆอีกด้วยพร้อมสัญญากับลูกสาวของเธอว่าเมื่อถึงเลวลาเลิกเรียนแล้วเธอจะมารับทันที“ค่ะ...นีน่าอยากมีความรู้แล้วก็อยากมีเพื่อนเยอะๆด้วยค่ะ” เด็กหญิงสวมกอดที่คอของคนเป็นแม่พร้อมบอกว่าเธอนั้นอยากจะมีความรู้แล้วก็อยากจะมีเพื่อนเยอะๆอย่างที่แม่ของเธอบอกอีกด้วย“คุณครูมาแล้วสวัสดีคุณครูก่อนค่ะ” มีนชญาเห็นว่ามีคุณครูสาวกำลังเดินตรงมายังเธอสองแม่ลูกเลยอกให้นีน่ารีบสวัสดีคุณครูก่อน“สวัสดีค่ะคุณครูหนูชื่อเด็กหญิงนีน่าค่ะ” เด็กหญิงยกมือป้อมของเธอสวัสดีคุณครูพร้อมแนะนำตัวเองอย่างเสียงดังฟังชัดอย่างน่าเอ็นดู“สวัสดีค่ะ...น้องนีน่าเก่งจังเลยเข้าไปข้างในกับคุณครูนะคะ” คุณครูสาวอดชื่นชมในความน่ารักของเด็กหญิงไม่ได้ที่วันนี้เป็นวันแรกของการมาอยู่ที่โรงเรียนแต่ไม่มีอาการงอแงเลยสักนิดพร้อมจูงมือเด็กหญิงเข้าไปในห้องเรียน“บ๊ายบายค่ะคุณแม่” นีน่าหันมาบ๊ายบายคนเป็นแม่ด้