Share

ตอนที่ยี่สิบสอง

“นี่เธอถามละเอียดยิบขนาดนี้เป็นเมียฉันรึไง”

โดมินิคเข้ามานั่งที่ฝั่งคนขับพร้อมสตาร์ทรถเพื่อที่จะพาหญิงสาวไปหาหมอที่โรงพยาบาลเขาถึงกับต้องเอ่ยแซวหญิงสาวที่ยิงคำถามใส่เขาโดยที่ไม่รอเว้นจังหวะให้เขานั้นตอบกลับเธอเลย

“อะ...เอ่อ...มีนก็แค่อยากรู้เฉยๆค่ะ...ไม่บอกก็ไม่เป็นไร”  มีนชญามีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยที่เห็นว่าชายหนุ่มนั้นแกล้งแซวเธอพร้อมบอกกับเขาว่าเธอแค่อยากรู้เฉยๆไม่ได้จู้จี้ซะหน่อยและถ้าหากเขาไม่บอกก็ไม่ได้เป็นอะไรเลย

“ฉันไปประมาณสักสิบกว่าวัน...ก็ดีสำหรับเธอนะเธอจะได้พักด้วยเพราะว่าเจ็บอยู่”   โดมินิคเห็นว่าหญิงสาวมีสีหน้าที่เจื่อนลงไปเขาจึงบอกเวลาที่เขาไปว่าประมาณกี่วันและอีกใจของเขาก็คิดว่าดีเหมือนกันที่เขานั้นกลับอิตาลีในขณะที่หญิงสาวนั้นเจ็บอยู่เธอจะได้พักผ่อนไปในตัวด้วยเลย

“...สิบกว่าวัน..ดีค่ะ...”  มีนชญาคิดอยู่ในใจว่าเวลาสิบกว่าวันกว่าชายหนุ่มจะกลับมาเป็นเวลาที่เธอต้องทำตามแผนพอดีตอนนี้เลยนั่งฉีกยิ้มอยู่คนเดียวจนชายหนุ่มที่นั่งข้างๆถึงกับส่ายหัวให้กับอารมณ์ที่แปรปรวนของเธอเสียจริงพร้อมขับรถมุ่งหน้าพาหญิงสาวไปหาหมออย่างไม่สนใจว่าคนข้างๆนั้นจะนั่งยิ้มอะไรนักหนา

โรงพยาบาลXXX

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป

“นี่ไงถ้าฉันไม่พาเธอมามีหวังนอนปวดโอดโอยอยู่แน่”

“ขอบคุณนะคะ”

โดมินิคพยุงหญิงสาวที่เดินกระเผลกๆออกมาจากห้องตรวจไปที่รถผลตรวจจากการเอ็กซเรย์ของหมอปรากฏว่าเธอนั้นเอ็นข้อเท้าขาดและกระดูกยังเคลื่อนอีกด้วยดีที่หมอกระดูกที่นี่ค่อนข้างเก่งเลยจัดการกับกระดูกที่เลื่อนให้กลับมาปกติโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วิเพราะเคสของเธอถือว่าไม่หนักมากเลยใช้การจัดการกระดูกได้แต่ก็ต้องใส่เฝือกอ่อนไว้ก่อนอยู่ดี

เช้าวันต่อมา

“เดินทางดีๆนะคะคุณนิค”   มีนชญามารอส่งชายหนุ่มอยู่ที่หน้าบ้านพร้อมอวยพรและยกมือบ๊ายบายให้ชายหนุ่มนั้นเดินทางโดยสวัสดิ์ภาพ

“เธอเองก็ดูแลตัวเองดีๆล่ะ”  โดมินิคอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นว่าหญิงสาวส่งมือบ๊ายบายให้เขาตัวเขาเองก็ยกมือบ๊ายบายเธอกลับโดยอัตโนมัติพร้อมขึ้นไปนั่งบนรถตู้คันหรูที่ชอวขับมารับด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม

“หึ่!!”   ชอวสบถขำเล็กน้อยเขาคิดว่าเขาตกข่าวอะไรไปหรือเปล่าเกี่ยวกับทั้งสองเขาไม่เคยเห็นเจ้านายหนุ่มของเขายิ้มง่ายแบบนี้มาก่อนแต่กลับยิ้มให้หญิงสาวแถมยังมีโบบกมือลากันเหมือนเป็นคู่รักที่จะต้องแยกจากกันอีกต่างหากเขาชักสงสัยในเรื่องนี้เสียแล้วว่าท่าทีที่แปลกไปของเจ้านายหนุ่มของเขานั้นเกิดขึ้นตอนไหนและเกิดจากอะไรกันแน่

5 วันต่อมา

ตั้งแต่ที่โดมินิคมาถึงอิตาลีเขาก็ตั้งหน้าตั้งตาสะสางงานกันเจ้าละหวั่นกว่าจะเรียบร้อยเป็นเวลาสี่วันเต็มๆที่ชายหนุ่มวุ่นวายอยู่กับการประชุมและการจัดสรรระบบงานใหม่เพราะค่อนข้างที่จะมีปัญหาเยอะจนตอนนี้ปัญหาทุกอย่างค่อยๆคลี่คลายลงแล้วและต่อจากนี้เขาก็ต้องคอยควบคุมสถานการณ์อยู่สักระยะเพื่อให้แน่ใจว่าปัญหาเดิมๆเกี่ยวกับระบบการทำงานจะไม่เกิดขึ้นอีก

13.00 น.

วันนี้เป็นวันพักผ่อนของโดมินิคเขาจึงออกมาเดินเล่นข้างนอกเพื่อผ่อนคลายสมองเมื่อเดินมาเรื่อยๆก็มาถึงจุดที่มีการขายสินค้าของฝากปกติชายหนุ่มเคยเห็นร้านพวกนี้ชนชินตาและก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย

แต่วันนี้เขาต้องเดินเข้าไปเลือกดูที่ร้านหน้ากากแฟนซีเพราะคราแรกที่เห็นหน้ากากเขาก็นึกถึงแม่บ้านจอมเปิ่นของเขาตอนนี้เขาคิดว่าถ้าหากซื้อไปฝากเธอหญิงสาวคงต้องชอบเป็นแน่ดูจากที่เธอชอบลูกโป่งที่เป็นของเล่นของเด็กๆ

ชายหนุ่มหยิบหน้ากากแฟนซีสีชมพูที่เป็นรูปหน้าคนและสวมมงกุฏพร้อมจ่ายเงินทันทีเมื่อเขาได้ของชิ้นนี้แล้วชายหนุ่มก็เดินไปหากาแฟทานอยู่ครู่หนึ่งจึงกลับมาที่บ้านของเขา

โดมินิคนั่งอยู่หน้าโน๊ตบุ๊คเขาเคลียงานไปเรื่อยๆและหาอ่านข่าวธุรกิจอยู่ครู่หนึ่งเมื่อมองดูเวลาก็ทำให้เขานั้นนึกถึงใครบางคนที่เฝ้าบ้านให้เขาอยู่ตอนนี้ว่าเธอจะเป็นอย่างไรบ้างเพราะเป็นเวลาหลายวันแล้วที่เขานั้นไม่ได้ติดต่อกลับไป

“อืม”   เมื่อกดมือถือจะโทรออกชายหนุ่มก็ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าเขาจะคุยอะไรกับเธอบ้างเพราะเมื่อรู้ว่าจะต้องคุยกับเธอชายหนุ่มมีอาการใจเต้นแปลกๆเล็กน้อยเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าการที่เขานั้นจะโทรหาแม่บ้านเพื่อสอบถามความเรียบร้อยของบ้านทำไมจะต้องรู้สึกว่าตัวเองนั้นต้องมีอาการแบบนี้ด้วย

09.00 น. ประเทศไทย

ตอนนี้อาการบาดเจ็บของมีนชญาค่อนข้างดีขึ้นเยอะจนเธอเดินเหินได้สะดวกแล้วแต่ละวันหญิงสาวก็อยู่กับบ้านรอคอยชายหนุ่มกลับมาอย่างมีความหวัง

“เฮ้อ...อิ่มจัง”     มีนชญาทานข้าวเช้าจากร้านอาหารตามสั่งแถวนี้เธอสั่งกลับมานั่งทานที่หลังบ้านมุมเดิมที่เธอชอบนั่งเป็นประจำเธอคิดในใจว่าหากเธอไปจากที่นี่แล้วเธอคงคิดถึงร่มไม้หลังบ้านนี้น่าดู

Rrrrrrrr

มีนชญาชั่งใจว่าจะกดรับหรือไม่อยู่ครู่หนึ่งเพราะรู้สึกว่าไม่คุ้นกับเบอร์นี้สักเท่าไรแต่ก็กดรับในที่สุดเพราะกลัวว่าปลายสายจะมีเรื่องสำคัญที่เธอคาดเดาไม่ได้นั่นเอง

“สวัสดีค่ะ”    มีนชญารับสายพร้อมทักทายคนปลายสายด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานเพราะเธอไม่รู้ว่าเป็นใครแต่ตามมารยาทเธอก็ต้องใช้โทนเสียงที่ไพเราะไว้ก่อน

“เธอทำอะไรอยู่เหรอ”    โดมินิคอึกอักเล็กน้อยก่อนที่จะเอ่ยปากพูดกับหญิงสาว

“เอ่อ...คุณเป็นใครคะ”   มีนชญารู้สึกงงเล็กน้อยที่ปลายสายเป็นเสียงของผู้ชายโทรมาหาเธอแถมเธอยังนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าผู้ชายที่ไหนจะโทรหาเธอหญิงสาวคิดอีกแง่หนึ่งคือเขานั้นอาจจะโทรผิดก็ได้จึงถามปลายสายว่าเขานั้นเป็นใคร

“ฉันเอง”   โดมินิครู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวคงไม่รู้แน่ว่าเป็นเขานั้นโทรหาเธอ

“ฉันเองฉันไหนคะฉันไม่รู้จักค่ะ”  เมื่อไม่ได้คำตอบจากปลายสายว่าเขานั้นชื่ออะไรได้แต่เพียงตอบว่าฉันเองหญิงสาวจึงต้องยกมือเกาหัวแกรกๆพร้อมบอกไปว่าเธอน่าจะไม่รู้จักเขา

“ฉันโดมินิคเจ้านายเธอ”    โดมินิคตอบกลับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงที่ดังและฟังชัดแถมเน้นคำให้หญิงสาวได้รู้เสียทีว่าเจ้านายของเธอนั้นโทรหา

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status