“ว้าวมีแต่อาหารน่าทานทั้งนั้นเลย...ขอบคุณนะคะคุณเจ้านาย” เมื่อมีนชญาเดินเข้ามาใกล้กับโต๊ะอาหารเธอก็ตาลุกวาวเพราะบนโต๊ะมีแต่พวกอาหารทะเลที่เธอชอบทั้งนั้นเลยหญิงสาวรีบนั่งที่เก้าอี้พร้อมขอบคุณชายหนุ่มยกใหญ่ที่ใจดีเลี้ยงอาหารดีๆให้กับเธอ
“อืม..ทานเถอะเดี๋ยวอาหารจะเย็นซะก่อน” โดมินิคนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามของหญิงสาวเขาดีใจที่เธอชอบอาหารที่เขาสั่งมาพร้อมบอกให้เธอรีบทานเพราะกลัวว่าอาหารจะเย็นเสียก่อน
“ค่ะ” มีนชญานั่งแกะกุ้งแกะปูทานจนเพลินอย่างไม่ห่วงสวยทำให้ชายหนุ่มนั่งดูเธอและอมยิ้มอย่างเพลินตาจะมีผู้หญิงสักกี่คนที่นั่งทานอาหารกับเขาแล้วเป็นตัวเองได้ขนาดนี้
“คุณนิคนั่งยิ้มทำไมล่ะคะทานสิคะหรือว่าแกะไม่เป็นเดี๋ยวมีนแกะให้ค่ะ” มีนชญาที่กำลังเคี้ยวอาหารตุ้ยๆอยู่ในปากพลางมองไปที่ชายหนุ่มเธอเห็นว่าเขาเอาแต่นั่งยิ้มไม่แตะอาหารเลยสักนิดหญิงสาวจึงรีบดื่มน้ำเพื่อให้อาหารที่อยู่ในปากลงไปในท้องโดยเร็ว
พร้อมถามคนที่นั่งยิ้มอยู่ฝั่งตรงข้ามว่าเขานั้นทำไมถึงไม่แตะอาหารเลยแต่ด้วยความที่เธอคิดไปเองเลยคิดว่าชายหนุ่มนั้นอาจจะแกะปูหรือกุ้งไม่เป็นก็เธอเลยอาสาแกะให้
“แกะไม่เป็นก็บอกสิคะ...นั่งดูมีนอยู่ได้..อะนี่ค่ะอ้าปากค่ะเดี๋ยวมีนป้อนไม่อย่างนั้นเดี๋ยวมือคุณนิคจะเลอะค่ะ” มีนชญาแกะปูไปด้วยพร้อมพูดไปด้วยให้กับคนที่เอาแต่นั่งยิ้มให้ได้ฟังว่าทีหลังถ้าแกะไม่เป็นก็บอกเธอก็ได้เดี๋ยวเธอจะแกะให้
ไม่อย่างนั้นวันนี้เขาก็คงไม่ได้ทานกันพอดีเมื่อแกะกรรเชียงปูได้แล้วหญิงสาวจึงยื่นไปที่ปากของชายหนุ่มพร้อมจะป้อนเขาเพราะคิดว่าหากชายหนุ่มใช้มือจับเดี๋ยวมือก็จะเปื้อนอีกเพราะเธอรู้ว่าคนตรงหน้าไม่ชอบให้เนื้อตัวเลอะเทอะ
“อะ...อืมมม” โดมินิคตกใจนิดหน่อยที่จู่ๆหญิงสาวก็จะป้อนอาหารให้เขาเสียอย่างนั้นแต่เขาเองก็อ้าปากให้เธอป้อนโดยอัตโนมัติแต่ตอนนี้เขารู้สึกชาที่หน้านิดหน่อยและเขาคิดว่าตอนนี้หูกับหน้าของเขาก็น่าจะแดงอยู่เป็นแน่ขอให้หญิงสาวอย่าจับสังเกตได้ก็แล้วกัน
“อร่อยไหมคะเนื้อปูหวานมากเลย”
“อืม..ใช่ก็หวานดีนะ....เอ่อ...เดี๋ยวฉันมานะขอตัวเข้าไปในบ้านก่อน”
“ค่ะ” โดมินิครู้สึกใจเต้นแปลกๆเขารู้ตัวว่าจะต้องออกไปจากตรงนี้สักครู่ไม่อย่างนั้นเขาคงเก็บอาการไม่อยู่เป็นแน่นานมาแล้วเขาเอาแต่ทำงานไม่ได้ใกล้กับผู้หญิงคนไหนเลยพอได้ใกล้กับหญิงสาวตรงหน้าเขารู้สึกว่าชีวิตของเขานี้มีชีวิตชีวาขึ้นเยอะและก็ไม่เคยใจเต้นแปลกๆแบบนี้มาก่อนอีกด้วย
“ใส่สองหยดไปเลย” มีนชญามองซ้ายมองขวาเล็กน้อยเธอใช้โอกาสช่วงที่ชายหนุ่มเดินเข้าไปในบ้านใส่ยาไปในแก้วของชายหนุ่มสองหยดคราแรกก็กะว่าจะใช้เพียงแค่หยดเดียวอย่างที่แน็ทตี้บอกแต่เธอนั้นอยากให้มันเห็นผลเร็วๆเลยใส่เพิ่มไปอีกถ้าหากยานี้มันช่วยให้เธอจบแผนแบบง่ายๆถ้าหากใส่เพิ่มก็ทำให้ง่ายยิ่งกว่าเธอคิดตามหลักทฤษฎีของเธอเองเมื่อจัดการเรียบร้อยแล้วเธอก็นั่งยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่คนเดียว
“นี่ของเธอ...แกะดูสิ” โดมินิคเดินกลับมานั่งที่โต้ะอาหารดังเดิมพร้อมส่งถุงกระดาษให้หญิงสาว
“สวยจังเลยค่ะ...ขอบคุณนะคะ” มีนชญารับถุงกระดาษมาจากชายหนุ่มพร้อมเปิดดูเธอเห็นว่าด้านในมันเป็นหน้ากากแฟนซีสีสันสดใสเธอเห็นแวบแรกเธอก็ชอบทันทีพร้อมขอบคุณชายหนุ่มที่ซื้อมาฝากเธอ
“อืม...ฉันเห็นว่าเธอน่าจะชอบเลยซื้อมาฝาก” รอยยิ้มดีใจของหญิงสาวที่ส่งมาให้เขาทำให้ชายหนุ่มต้องรีบหันหน้าหนีเพราะกลัวว่าจะเขินเธออีกพร้อมหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มแก้คอแห้งในตอนนี้
“คุณนิคเห็นว่ามีนชอบเล่นอะไรเป็นเด็กๆใช่ไหมล่ะคะ” มีนชญาอมยิ้มเล็กน้อยพร้อมมองไปที่แก้วน้ำที่ชายหนุ่มดื่มเธอเห็นว่าเขาดื่มไปเกือบครึ่งแก้วแล้วเป็นไปตามที่เธอคาดไว้พร้อมละสายตาหันมามองคุยกับคนตรงหน้าที่เธอรู้ว่าเขาซื้อให้เธอเพราะเห็นว่าเธอชอบอะไรเป็นเด็กๆเป็นแน่
“ก็รู้ตัวนี่...ฮ่าๆๆ” โดมินิคยกคิ้วพร้อมอมยิ้มและบอกหญิงสาวว่าเธอก็รู้ตัวเหมือนกันว่าเธอนั้นชอบเล่นอะไรเป็นเด็กๆ
“หืม...แค่กๆๆ..น้ำๆ” มีนชญาวางถุงหน้ากากลงที่เก้าอี้ข้างๆตัวเธอพร้อมตักน้ำต้มยำกุ้งมาทานแต่ด้วยความไม่ระวังในการกลืนทำให้เธอสำลักเพราะน้ำต้มยำค่อนข้างที่จะร้อนและเผ็ดเธอจึงเรียกหาน้ำด่วนเพราะตอนนี้น้ำในแก้วของเธอนั้นหมดไปตั้งนานแล้ว
“ไม่ระวังเลยนะ” โดมินิคเห็นว่าหญิงสาวกำลังสำลักพร้อมเรียกหาน้ำเขาเห็นว่าน้ำในแก้วของเธอนั้นหมดไปแล้วอีกอย่างน้ำในขวดก็ต้องเสียเวลาเปิดเขาจึงหยิบแก้วของเขาให้เธอนั้นทานไปก่อนพร้อมลุกขึ้นไปตบหลังให้เธอเบาๆเพื่อให้อาการดีขึ้นโดยเร็ว
“เฮ้อ...เกือบตายแล้วไหมล่ะ” มีนชญานั่งสูดหายใจเข้าออกลึกๆพร้อมเอามือทุบหน้าอกเบาๆและสบถออกมาเล็กน้อยถึงเหตุการณ์ไม่ระวังของเธอเมื่อครู่ว่าทำให้เธอสำลักเกือบตาย
“ฮ่าๆๆ..เธอนี่นะทำให้ฉันต้องหัวเราะเธอทุกทีไปสิ” โดมินิคอดขำกับคำพูดหญิงสาวไม่ได้ที่คิดว่าความไม่ระวังของเธอเมื่อครู่ทำให้เธอเกือบตายไม่มีใครเขาตายกันเพราะการสำลักแค่นั้นหรอกหากเป็นอะไรติดคอก็ว่าไปอย่าง
“ถึงแม้ว่ามีนจะดูเปิ่นแต่ก็ยังดีทีทำให้เสือยิ้มยากอย่างคุณนิคหัวเราะได้อย่างที่มีนเคยบอกเวลาคุณนิคยิ้มหรือหัวเราะคุณนิคดูดีมากเลยนะคะ” มีนชญารู้ดีว่าที่ชายหนุ่มนั้นขำเธอออกมาก็เพราะความเปิ่นของเธอนั่นเองแต่เธอก็ดีใจที่ทำให้คนอย่างชายหนุ่มที่เป็นคนยิ้มยากนั้นยิ้มและหัวเราะออกมาได้โดยง่ายพร้อมยังย้ำให้เขานั้นฟังอีกรอบอย่างที่เธอเคยบอกกับเขาว่าเวลาที่เขายิ้มหัวเราะมันทำให้เขานั้นดูดีกว่าทำหน้านิ่งเป็นไหนๆ
“เธอก็คอยอยู่ข้างๆฉันทำให้ฉันยิ้มตลอดเวลาสิ” โดมินิคมองไปที่หญิงสาวแล้วพูดกับเธอว่าหากเธอนั้นต้องการให้เขายิ้มและหัวเราะบ่อยๆคงจะต้องมีเธอนั้นอยู่ใกล้ๆตลอดเวลาแล้วหละ
“เฮ้ย...น้ำ” ตอนนี้หญิงสาวไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นเพราะเธอเห็นอยู่ตรงหน้าว่าแก้วน้ำของชายหนุ่มนั้นหายไปหมดแก้วและเธอก็นึกขึ้นได้ว่าน้ำในแก้วของเธอหมดไปนานแล้ว
แสดงว่าเมื่อครู่เธอต้องดื่มน้ำในแก้วของชายหนุ่มแน่เลยเมื่อลำดับเหตุการณ์ในหัวเธอถึงกับอยากจะเคาะหัวตัวเองที่ไม่ระวังหากเธอมีอาการที่เกิดจากฤทธิ์ของยาแล้วเธอจะทำอย่างไรล่ะทีนี้
“เธอเป็นอะไรหรือเปล่ามีน...” โดมินิคเห็นหญิงสาวหน้าซีดผิดปกติแถมยังดูไม่รับฟังคำที่เขาพูดอีกจึงถามเธอขึ้นว่าเธอนั้นเป็นอะไรหรือเปล่า
“อะ..เอ่อ...คุณนิคคะมีนรู้สึกปวดหัวขอเข้าไปพักก่อนนะคะ” มีนชญาต้องรีบกลับเข้าห้องก่อนที่ฤทธิ์ของยาจะออกไม่อย่างนั้นแผนเธอแตกแน่หญิงสาวจึงต้องโกหกชายหนุ่มไปว่าเธอรู้สึกปวดหัวอยากพักและรีบเดินเข้าไปในห้องของเธอทันที“อะ....เอ่อ...แล้ว..” โดมินิคยังไม่ทันได้ถามว่าเธอเป็นหนักขนาดไหนหญิงสาวก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้าไปในบ้านแล้วทำให้เขานั้นต้องลุกขึ้นเดินตามหลังเธอไปเพื่อไปถามไถ่อาการว่าเธอเป็นหนักขนาดไหนก๊อกๆๆๆ“เธอเป็นยังไงบ้าง” โดมินิคเคาะประตูเรียกหญิงสาวที่พึ่งเข้าห้องไปหมาดๆเพราะว่าเขารู้สึกเป็นห่วงเธอไม่แน่เธออาจจะแพ้อาหารอะไรสักอย่างก็ได้เลยปวดหัวกะทันหัน“เอ่อ..มีนว่าอากาศข้างนอกน่าจะร้อนจนทำให้มีนปวดหัวเดี๋ยวมีนอาบน้ำก็น่าจะดีขึ้นค่ะขอตัวนะคะ”“มีอะไรเรียกฉันได้ตลอดเลยนะ”“ค่ะ” มีนชญาจำต้องรีบเปิดประตูพร้อมบอกว่าเธออาจจะปวดหัวเพราะอากาศข้างนอกค่อนข้างร้อยถ้าอาบน้ำให้สดชื่นก็คงจะดีขึ้นพร้อมจะปิดประตูทันทีแต่มีมือของชายหนุ่มดันเอาไว้ก่อนจะพูดกับเธอด้วยความเป็นห่วงว่าหากรู้สึกไม่ค่อยจะดีให้เรียกเขาได้ตลอดแล้วจึงปล่อยให้หญิงสาวปิดประตูได้โดมินิคเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองรีบค้นย
“อื้อ...อื้มม..อร้ายย”“อะ...อ้าส์” เสียงครางของทั้งสองแข่งกันดังระงมเพราะความเสียวซ่านวาบหวิวประกอบกับฤทธิ์ยาที่มันกำลังทำงานได้ดีจึงทำให้ทั้งสองนั้นมีความสุขจนทบล้นทะลักจนร่วมรักครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อยแทบทั้งคืน“คุณนิคคะมีนไม่ไหวแล้ว” เนื้อตัวของมีนชญาตอนนี้แดงไปด้วยรอยจูบดูดคลึงของชายหนุ่มไปแทบทั้งหมดหลังจากร่วมรักกับชายหนุ่มอยู่หลายชั่วโมงจนตอนนี้เธอเริ่มจะไม่ไหวแล้วจึงต้องเอ่ยปากขอร้องให้ชายหนุ่มนั้นหยุดเพราะเธอนั้นรู้สึกเพลียเหลือเกินเธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนักหนาถึงไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อยบ้างเลย“ขออีกนิดนะคนดี” โดมินิคยังมีแรงที่จะรัวสะโพกใส่หญิงสาวอีกหลายรอบเพราะเขาไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิดเมื่อได้ร่วมรักครั้งนี้กับหญิงสาวยิ่งเห็นเธอร้องครางอยู่ใต้ร่างของเขาชายหนุ่มก็ยิ่งมีกำลังเขาไม่คิดว่าหญิงสาวนั้นจะสวยหวานไปทั้งตัวแบบนี้ตอนนี้เธอนั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นเมียของเขาแล้วหลังจากนี้เขาจะดูแลเธออย่างดีอย่างที่เขาพูดว่าเขานั้นจะรับผิดชอบเธอนั่นเอง“อ้ะ..อ้ะ...อื้มมม..”“อ้าส์...อื้มม..อื้อ” และแล้วหญิงสาวก็ต้องนอนครางเสียงแผ่วอยู่ที่ใต้ร่าง
“ไม่เห็นนี่ครับผมพึ่งกลับมาจากเขาใหญ่มาถึงที่นี่เมื่อสักพักนี้เอง...แล้วนายไปเที่ยวทำไมกลับไวจังล่ะครับ”ชอวตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าและอาการของเจ้านายของเขาพร้อมบอกว่าตั้งแต่เขามาก็ยังไม่เห็นใครอยู่ที่บ้านแต่เขานึกขึ้นได้ว่าเจ้านายของเขาไม่ได้มีกำหนดกลับวันนี้แต่ทำไมจึงมาโผล่ที่นี่ได้“เอ่อ...คือฉันมีปัญหานิดหน่อย” โดมินิคใจเสียไปแล้วครึ่งหนึ่งเพราะว่าเขาก็ไม่รู้ว่าจะหาหญิงสาวได้จากไหนเหมือนกันพร้อมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ชอวฟังเพราะเป็คนสนิทที่เขานั้นไว้ใจเป็นที่สุดคราแรกชอวก็มีอาหารตกใจอยู่เล็กน้อยกับเรื่องที่เขานั้นได้รับรู้มาแต่ก็ต้องคิดหาวิธีช่วยเจ้านายของเขาก่อนในตอนนี้“นายลองถามแน็ทตี้ดีไหมครับว่าคุณมีนเธอเคยอยู่ที่ไหน”“จริงสิ” โดมินิคได้ยินที่ชอวพูดเขาเองก็นึกขึ้นได้ว่าคนที่รับหญิงสาวมาทำงานนั้นคือแน็ทตี้เองก็ต้องมีประวัติของหญิงสาวอยู่แล้วเขาเองก็กังวลใจเสียจนคิดเรื่องนี้ไม่ออกติ๊งง“นายครับมีเมลด่วนเข้ามาครับตอนนี้ที่สเปนและญี่ปุ่นมีหุ้นส่วนจะถอนหุ้นออกหลายรายเลยครับเพราะโครงสร้างของโครงการมีปัญหาหลายจุด” ชอวเปิดดูข้อความที่พึ่งส่งมาในเมลตอนนี้เขารู้ว่าเจ้านายของเขากำ
อิตาลีหลังจากเมื่อสี่ปีก่อนที่โดมินิคบินไปที่สเปนเพื่อสะสางงานและต่อด้วยญี่ปุ่นเขาใช้เวลาเกือบสองปีกว่าจะกู้วิกฤตขึ้นมาได้เพราะหุ้นส่วนรายใหญ่หลายรายที่นั่นถอนหุ้นออกจนหมดที่โครงการเขานั้นมีปัญหาก็เพราะว่าเขานั้นไว้ใจคนที่ดูแลมากเกินไปเลยเกิดการฉ้อโกงขึ้นเรื่องนี้คนในวงการอสังหาจะรู้ดีว่าจะต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอนโดมินิคกู้ทุกอย่างกลับขึ้นมาได้ก็เพราะมีมาตินนักธุรกิจรายใหญ่ที่อิตาลีนั้นยื่นมือเข้ามาช่วยเขาร่วมหุ้นและช่วยกันกู้สถานการณ์เอาไว้ได้และตอนนี้เขาก็ได้ให้ลูกสาวของเขารับช่วงต่อดูแลงานแทนลูกสาวของเขาก็คือเคธี่สาวสวยไฮโซที่กำลังเป็นข่าวกับเขาอยู่ตอนนี้แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเพราะเขาคิดกับเธอแค่เพื่อนร่วมงานเท่านั้นคนเดียวที่เขาคิดถึงตลอดเวลาก็คือหญิงสาวที่เขาไม่สามารถรู้เสียทีว่าเธอนั้นอยู่ที่ไหนแม้ว่าก่อนหน้านั้นเขาจะไหว้วานให้แน็ทตี้ตามหาทุกวิถีทางแล้วก็ตามแต่เขาเองก็ยังไม่หมดหวังตอนนี้สถานการณ์ของธุรกิจเขาก็เริ่มคลี่คลายลงแล้วเขาจึงคิดว่าจะลงมือด้วยตัวเองในการตามหาตัวเธออีกอย่างเขาเองก็ต้องกลับไปดูงานที่ไทยด้วยเพราะเป็นเวลาสี่ปีแล้วที่ไม่ได้กลับไปเพราะเขาต้องจัดการกับเร
“ใช่แล้วค่ะคนเก่ง...นีน่าต้องไปโรงเรียนเพื่อหาความรู้และเจอกับเพื่อนใหม่ๆไงคะเดี๋ยวตอนเย็นๆคุณแม่จะไปรับนีน่านะคะ” มีนชญาหันมายิ้มตอบลูกสาวพร้อมย่อตัวลงนั่งคุยกับลูกสาวของเธอว่าเป็นเด็กก็ต้องหาความรู้ในโรงเรียนแล้วก็จะได้เจอเพื่อนใหม่ๆอีกด้วยพร้อมสัญญากับลูกสาวของเธอว่าเมื่อถึงเลวลาเลิกเรียนแล้วเธอจะมารับทันที“ค่ะ...นีน่าอยากมีความรู้แล้วก็อยากมีเพื่อนเยอะๆด้วยค่ะ” เด็กหญิงสวมกอดที่คอของคนเป็นแม่พร้อมบอกว่าเธอนั้นอยากจะมีความรู้แล้วก็อยากจะมีเพื่อนเยอะๆอย่างที่แม่ของเธอบอกอีกด้วย“คุณครูมาแล้วสวัสดีคุณครูก่อนค่ะ” มีนชญาเห็นว่ามีคุณครูสาวกำลังเดินตรงมายังเธอสองแม่ลูกเลยอกให้นีน่ารีบสวัสดีคุณครูก่อน“สวัสดีค่ะคุณครูหนูชื่อเด็กหญิงนีน่าค่ะ” เด็กหญิงยกมือป้อมของเธอสวัสดีคุณครูพร้อมแนะนำตัวเองอย่างเสียงดังฟังชัดอย่างน่าเอ็นดู“สวัสดีค่ะ...น้องนีน่าเก่งจังเลยเข้าไปข้างในกับคุณครูนะคะ” คุณครูสาวอดชื่นชมในความน่ารักของเด็กหญิงไม่ได้ที่วันนี้เป็นวันแรกของการมาอยู่ที่โรงเรียนแต่ไม่มีอาการงอแงเลยสักนิดพร้อมจูงมือเด็กหญิงเข้าไปในห้องเรียน“บ๊ายบายค่ะคุณแม่” นีน่าหันมาบ๊ายบายคนเป็นแม่ด้
ร้านสเต็ค“นี่ยัยมีนนีน่าก็โตแล้วแกไม่กลัวเค้าจะถามเรื่องพ่อบ้างเหรอ...อย่าว่าฉันตอกย้ำอะไรแกเลยนะฉันแค่รู้สึกเป็นห่วงหลาน”“อืม...เรื่องนั้นก็มีคิดบ้างเหมือนกันนีน่าเป็นเด็กฉลาดอีกหน่อยฉันก็คงจะเจอเรื่องแบบที่คิดไว้...ฉันบอกตามตรงเลยนะฉันเองก็รู้สึกผิดต่อลูกเหมือนกันที่สถานการณ์ตอนนี้มันไม่เหมือนที่ฉันคิดไว้ตอนนั้นเลยฉันคิดว่าการอยู่กับลูกเพียงสองคนจะมีความสุขแต่ตอนนี้มันทำให้ฉันกังวลมากที่สุดกับความรู้สึกของนีน่า”“แล้วแกจะทำยังไงต่อไป”“ฉันคงต้องยอมรับความเป็นจริงและคงต้องพยายามทำให้นีน่าเข้าใจและเลี้ยงเค้าอย่างดีที่สุดเพราะตอนนี้มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว”ทั้งแน็ทตี้และมีนชญาต่างก็รู้สึกเสียใจกับเรื่องราวในอดีตที่มันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แน็ทตี้เองก็รู้สึกผิดที่ตัวเองไม่น่าเห็นแก่เงินมีนชญาเองก็รู้สึกผิดกับความคิดประหลาดๆของตัวเองและนึกถึงแต่ความสุขของตัวเองไม่ได้มองการไกลว่าลูกจะมีความสุขเหมือนเธอหรือเปล่าตอนนี้ก็ได้แต่ทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่เท่านั้น“อีกสักพักฉันก็ต้องไปรับนีน่าแล้วแกจะไปด้วยไหม”“ไปสิ...ฉันคิดถึงหลานฉันจะแย่อยู่แล้ว”มีนชญาเห็นว่าอีกไม่ถึงชั่วโมงก็ได้เวลาไปรับ
กรุงเทพมหานคร“กอหญ้าแกอยู่ไหน”“ฉันทานข้าวอยู่ที่ห้างXXX”“ดีเลยแกรอฉันอยู่ที่นั่นเดี๋ยวฉันไปหา” แน็ทตี้ขับรถมาถึงกรุงเทพเขาก็โทรหากอหญ้าทันทีเพราะคิดว่าเรื่องนี้เขาต้องให้กอหญ้าช่วยและอีกอย่างเขาเองก็อยากจะลองเล่าเรื่องนี้ให้กอหญ้าฟังก่อนว่าถ้าเพื่อเขาได้ฟังแล้วจะมีความเห็นอย่างไรก่อนที่จะไปสารภาพผิดกับเจ้านายหนุ่มของเขาอีกทีห้างสรรพสินค้าXXX“ทำไมมานั่งทานข้าวคนเดียวล่ะ” แน็ทต้าถึงร้านที่เพื่อนสาวของเขาบอกก็แปลกใจเล็กน้อยว่าทำไมเพื่อนเขามาเดินห้างคนเดียวแถมยังนั่งทานข้าวคนเดียวอีกต่างหาก“ฉันแวะมาซื้อของใช้น้องเอมเดี๋ยวก็กลับแล้ว” กอหญ้าตั้งใจว่าจะแวะมาที่ห้างนี้แค่ซื้อของใช้ให้ลูกสาวของเธอเสร็จแล้วก็จะกลับแต่รู้สึกหิวเลยนั่งทานข้าวก่อนเมื่อได้รับสายของแน็ทตี้ว่าให้รออยู่ที่นี่เธอจึงยังไม่ได้กลับและเธอเองก็อยากจะรู้ด้วยว่าแน็ทตี้นั้นมีเรื่องด่วนที่จะคุยอะไรกับเธอนักหนา“กอหญ้าฉันมีเรื่องจะปรึกษา....”“ว่ามาสิ...แต่ท่าทางแกดูเครียดๆนะ” กอหญ้าเห็นเพื่อนของเธอมีสีหน้าเคร่งเครียดตั้งแต่เดินเข้ามาหาเธอแล้วหญิงสาวรู้ว่าเพื่อนของเธอต้องมีอะไรไม่สบายใจอยู่แน่นอนเธอเองพร้อมที่จะรับฟ
“เรื่องอะไร...ว่ามาสิ” โดมินิคเห็นท่าทีของคนตรงหน้าดูกังวลแปลกๆเขาจึงรีบให้แน็ทตี้พูดมาว่ามีธุระอะไรจะคุยกับเขา“เรื่องมีนน่ะค่ะ”“มีน...คุณเจอมีนแล้วใช่ไหม” โดมินิคถึงกับหูผึ่งเมื่อได้ยินว่าแน็ทตี้นั้นจะพูดถึงใครพร้อมถามคำถามที่เขาอยากจะรู้ทันที“เจอแล้วค่ะ...แล้วก็แน็ทตี้อยากจะบอกบอสว่าแน็ทตี้รู้มาตลอดว่ามีนอยู่ที่ไหนแต่ไม่ได้บอกบอส”“ทำไม???” โดมินิคเริ่มรู้สึกแปลกๆกับคำพูดของแน็ทตี้น้ำเสียงที่เขาถามคนตรงหน้าถึงเหตุผลมันเยือกเย็นอย่างเห็นได้ชัด“คือว่าเรื่องที่แน็ทตี้จะบอกบอสก็คือ......” แน็ทตี้เองไม่อยากจะพูดพร่ำทำเพลงอะไรอีกแล้วเขาค่อยๆเล่าเรื่องราวต่างๆอย่างละเอียดเหมือนกับที่เล่าให้กอหญ้าฟังแต่ปฏิกิริยาของเจ้านายของเขาทำให้เขาเดาไม่ออกเหมือนกันว่าคนตรงหน้าคิดอะไรอยู่แต่เธอก็ยังคงต้องทำใจดีสู้เสื้อเล่าเรื่องต่อไปจนกว่าจะจบ“นี่พวกคุณเล่นบ้าอะไรกัน...แล้วปิดเรื่องนี้กับผมมาสี่ปีเนี่ยนะ” เมื่อโดมินิคฟังจบเขาถึงกับพูดอะไรไม่ออกรู้สึกว่ามีอะไรจุกอยู่ในอกคนที่เขาไว้ใจและคนที่เขารู้สึกดีด้วยยกล้าหลอกลวงเขาขนาดนี้เชียวหรือตอนนี้ในใจของเขาเริ่มมีทิฐิเข้าครอบงำความรู้สึกดีๆที่มีต