ร้านสเต็ค
“นี่ยัยมีนนีน่าก็โตแล้วแกไม่กลัวเค้าจะถามเรื่องพ่อบ้างเหรอ...อย่าว่าฉันตอกย้ำอะไรแกเลยนะฉันแค่รู้สึกเป็นห่วงหลาน”
“อืม...เรื่องนั้นก็มีคิดบ้างเหมือนกันนีน่าเป็นเด็กฉลาดอีกหน่อยฉันก็คงจะเจอเรื่องแบบที่คิดไว้...ฉันบอกตามตรงเลยนะฉันเองก็รู้สึกผิดต่อลูกเหมือนกันที่สถานการณ์ตอนนี้มันไม่เหมือนที่ฉันคิดไว้ตอนนั้นเลยฉันคิดว่าการอยู่กับลูกเพียงสองคนจะมีความสุขแต่ตอนนี้มันทำให้ฉันกังวลมากที่สุดกับความรู้สึกของนีน่า”
“แล้วแกจะทำยังไงต่อไป”
“ฉันคงต้องยอมรับความเป็นจริงและคงต้องพยายามทำให้นีน่าเข้าใจและเลี้ยงเค้าอย่างดีที่สุดเพราะตอนนี้มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว”
ทั้งแน็ทตี้และมีนชญาต่างก็รู้สึกเสียใจกับเรื่องราวในอดีตที่มันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แน็ทตี้เองก็รู้สึกผิดที่ตัวเองไม่น่าเห็นแก่เงินมีนชญาเองก็รู้สึกผิดกับความคิดประหลาดๆของตัวเองและนึกถึงแต่ความสุขของตัวเองไม่ได้มองการไกลว่าลูกจะมีความสุขเหมือนเธอหรือเปล่าตอนนี้ก็ได้แต่ทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่เท่านั้น
“อีกสักพักฉันก็ต้องไปรับนีน่าแล้วแกจะไปด้วยไหม”
“ไปสิ...ฉันคิดถึงหลานฉันจะแย่อยู่แล้ว”
มีนชญาเห็นว่าอีกไม่ถึงชั่วโมงก็ได้เวลาไปรับลูกสาวของเธอที่โรงเรียนแล้วเธอจึงถามเพื่อนของเธอว่าจะไปด้วยหรือไม่ถ้าหากไม่ไปเธอจะได้ไปส่งที่บ้านก่อนแน็ทตี้เองอยากเจอนีน่าจะแย่มีอย่างหรือเขาจะไม่ไปด้วยเธออยากเห็นเหมือนกันว่าโรงเรียนที่นีน่าอยู่เป็นอย่างไร
1 ชั่วโมงต่อมา
โรงเรียนXXX
“วันนี้เป็นยังไงบ้างคะ”
“นีน่ามีเพื่อนเยอะเลยค่ะคุณแม่”
มีนชญาเดินจูงลูกสาวของเธอมาที่รถพร้อมถามว่าวันนี้มาโรงเรียนวันแรกเป็นอย่างๆรบ้างเด็กหญิงตอบเสียงชัดแจ๋วว่าเธอนั้นมีเพื่อนเยอะแล้วทำให้คนเป็นแม่อย่างมีนชญาโล่งใจที่วันแรกการอยู่โรงเรียนของลูกเธอทั้งวันนั้นผ่านไปด้วยดี
“นีน่ามาหาน้าเร็ว”
“น้าแน็ท”
แน็ทตี้ที่นั่งรออยู่บนรถเมื่อเห็นหลานสาวเขาก็รีบลงมาจากรถพร้อมชูมือเรียกเด็กหญิงอย่างคิดถึงนีน่าเองเมื่อเห็นแน็ทตี้ก็รีบวิ่งโผเข้าไปกอดเธอค่อนข้างที่จะชอบแน็ทตี้เวลามาหาเพราะว่าจะมีขนมของโปรดติดไม้ติดมือมาฝากตลอด
บ้านมีนชญา
“แน็ทตี้แกพานีน่าเข้าบ้านไปก่อนนะฉันลืมซื้อนมให้นีน่า...นีน่าอยู่กับน้าแน็ทไปก่อนนะคะเดี๋ยวคุณแม่มา”
เมื่อมีนชญาขับรถมาจอดที่หน้าบ้านเธอก็นึกขึ้นได้ว่านมของนีน่าหมดเธอจึงต้องรีบไปซื้อเพราะเดี๋ยวคืนนี้นีน่าจะไม่มีดื่ม
“ค่ะคุณแม่”
“โอเคแกรีบไปเถอะ” แน็ทตี้จำต้องส่ายหัวให้เพื่อนของเขาที่ยังมีนิสัยแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแต่เขาก็รู้สึกทึ่งกับเพื่อนเธอเหมือนกันที่เลี้ยงลูกคนเดียวมาได้
หลังจากที่มีนชญาขับรถออกไปแล้วแน็ทตี้ก็พาหลานสาวตัวกลมของเธอเข้าไปในบ้านทันที
“คุณแม่ลืมแบบนี้ตลอดค่ะน้าแน็ท” นีน่ายืนยิ้มให้กับแน็ทตี้พร้อมบอกว่าแม่ของเธอนั้นชอบลืมแบบนี้เป็นประจำจนเด็กหญิงเห็นเป็นเรื่องปกติ
“อะไรนะคะ...แล้วตอนคุณแม่ลืมซื้อนมนีน่าไม่หิวเหรอคะ” แน็ทตี้ถึงกับยกมือทาบอกเมื่อได้ยินคำที่นีน่าบอกพร้อมถามหลานของเขาว่าตอนที่ไม่มีนมดื่มจะเป็นยังไง
“หิวค่ะ...แต่นีน่าทนได้”
“ตายแล้วหลานฉัน” เด็กหญิงตอบด้วยสีหน้าปกติแต่คนที่ไม่ปกติตอนนี้เห็นจะเป็นแน็ทตี้ที่รู้สึกเป็นห่วงหลานขึ้นมาจับใจ
“น้าแน็ทคะเพื่อนๆของนีน่าเค้ามีพ่อมาด้วยค่ะ...แต่ทำไมเวลานีน่าบอกกับเพื่อนว่านีน่าไม่มีพ่อมาด้วยเพื่อนบางคนต้องขำด้วยคะ” วันนี้เด็กหญิงรู้สึกไม่เข้าใจกับเรื่องนี้ทั้งวันแปลกตรงไหนที่เธอมีแค่แม่เพียงคนเดียวและเมื่อเธอบอกกับเพื่อนว่าเธอไม่มีพ่อเพื่อนบางคนต้องขำเธอด้วยเด็กหญิงคิดว่าน้าแน็ทตี้ของเธอจะรู้จึงถามออกไปด้วยความสงสัยและก็อยากได้คำตอบ
“อะ...เอ่อ...”
Rrrrrrrr
แน็ทตี้ถึงกับไปไม่เป็นเมื่อได้ยินคำถามของหลานสาวแต่จู่ๆก็มีเสียงโทรศัพท์เข้ามันเหมือนช่วยชีวิตของเธอเอาไว้ตอนนี้เลยแน็ทตี้กดรับโดยเร็วเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของเพื่อนเธอโทรมา
“ว่าไงแก”
“ถามนีน่าให้หน่อยว่าเอาไอติมไหม” ปลายสายอยากรู้ว่าตอนนี้ลูกสาวเธออยากทานไอตืมหรือไม่จึงโทรมาถามให้แน่ใจ
“นีน่าขาคุณแม่ถามว่าจะเอาไอติมไหมคะ”
“เอาค่ะสองแท่งสีชมพู” เมื่อได้ยินที่น้าของเธอถามนีน่าก็มีอาการดีใจอย่างเห็นได้ชัดพร้อมพูดด้วยเสียงดังฟังชัดจนคนเป็นแม่ของเธอที่อยู่ปลายสายน่าจะได้ยิน
“โอเคค่ะ...ได้ยินแล้วใช่ไหมแก”
“โอเคเดี๋ยวฉันจะรีบกลับ” แน็ทตี้ถึงกับโล่งใจที่มีเรื่องมาให้หลานสาวเขาดีใจแล้วเขาจะไม่ต้องตอบคำถามที่เขาลำบากใจจะตอบเรื่องพ่อของหลานเขาอีกด้วย
แน็ทตี้เริ่มคิดทบทวนดูแล้วว่าในเมื่อเธอเคยทำผิดพลาดก็ใช่ว่าเธอจะแก้ไขอะไรตอนนี้ไม่ได้ตอนนี้เขารู้สึกสงสารหลานสาวตัวกลมของเขาเหลือเกินเขาไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไงแต่เขาคิดเอาไว้แล้วว่าถึงเวลาแล้วที่เขานั้นควรจะทำสิ่งที่ถูกต้องเพราะมันอาจจะทำให้อะไรๆดีขึ้นกว่านี้ก็เป็นได้
เช้าวันต่อมา
07.00 น.
“แกจะไปไหน” มีนชญาที่กำลังแต่งตัวให้กับนีน่าเพื่อที่จะไปโรงเรียนเมื่อเห็นเพื่อนของเธอเดินออกมาจากห้องแต่งตัวเต็มซะขนาดนั้นแต่เช้าเธอจึงต้องถามเพื่อนเธอว่าจะออกไปไหน
“พอดีฉันมีงานที่ต้องแก้ด่วนขอกลับก่อนนะ” แน็ทตี้ต้องอ้างเรื่องของงานว่ามีเรื่องด่วนต้องรีบกลับไปแต่ความจริงแล้ววันนี้เขานั้นต้องไปจัดการธุระที่เขาคิดมาทั้งคืนต่างหากและเป็นเรื่องที่บอกเพื่อนเขาไม่ได้ด้วย
“อ้าวเหรอ...โอเคๆ” มีนชญาเห็นว่าเพื่อนเธอพึ่งจะได้พักแค่วันเดียวเองก็ต้องกลับไปทำงานอีกแล้วแต่ความเข้าใจว่างานของเพื่อนเธอมันคาดเดาอะไรไม่ได้จึงไม่ได้ท้วงอะไร
“น้าแน็ทไปก่อนนะคะนีน่า” แน็ทตี้เข้ามากอดลานีน่าพร้อมหอมไปที่แก้มที่เหมือนก้อนซาลาเปาของหลานสาวหนึ่งที
“ค่ะ...แล้วน้าแน็ทจะมาอีกไหมคะ” นีน่าฉีกยิ้มให้กับคนเป็นน้าพร้อมถามว่าเขานั้นจะมาหาเธออีกหรือเปล่า
“มาสิคะเดี๋ยวน้าเสร็จงานแล้วจะรีบมาหานีน่าเลยน้าไปนะคะ”
“บ๊ายบายค่ะ” แน็ทตี้คิดว่าเสร็จจากธุระครั้งนี้เมื่อไรเขาก็จะกลับมาที่นี่ทันทีเพื่อดูสถานการณ์ว่าสิ่งที่เขาคิดเอาไว้มันจะโอเคหรือไม่เขารู้มาว่าเจ้านายหนุ่มของเขาไปดูงานที่ญี่ปุ่นสองวันแล้วจะบินมาที่ไทยทันทีเขาจะใช้โอกาสนี้แหละแก้ตัวในสิ่งที่เขาเคยทำผิดพลาด เขาอยากให้หลานของเขาได้รู้ว่าเธอนั้นก็มีพ่อเหมือนกับคนอื่นๆแม้ไม่รู้ว่าคนเป็นพ่อจะยินดีในการรู้ว่าตัวเองมีลูกหรือไม่แต่ยังไงก็คนที่เป็นพ่อของหลายเขานั้นควรที่จะได้รับรู้เสียที
กรุงเทพมหานคร“กอหญ้าแกอยู่ไหน”“ฉันทานข้าวอยู่ที่ห้างXXX”“ดีเลยแกรอฉันอยู่ที่นั่นเดี๋ยวฉันไปหา” แน็ทตี้ขับรถมาถึงกรุงเทพเขาก็โทรหากอหญ้าทันทีเพราะคิดว่าเรื่องนี้เขาต้องให้กอหญ้าช่วยและอีกอย่างเขาเองก็อยากจะลองเล่าเรื่องนี้ให้กอหญ้าฟังก่อนว่าถ้าเพื่อเขาได้ฟังแล้วจะมีความเห็นอย่างไรก่อนที่จะไปสารภาพผิดกับเจ้านายหนุ่มของเขาอีกทีห้างสรรพสินค้าXXX“ทำไมมานั่งทานข้าวคนเดียวล่ะ” แน็ทต้าถึงร้านที่เพื่อนสาวของเขาบอกก็แปลกใจเล็กน้อยว่าทำไมเพื่อนเขามาเดินห้างคนเดียวแถมยังนั่งทานข้าวคนเดียวอีกต่างหาก“ฉันแวะมาซื้อของใช้น้องเอมเดี๋ยวก็กลับแล้ว” กอหญ้าตั้งใจว่าจะแวะมาที่ห้างนี้แค่ซื้อของใช้ให้ลูกสาวของเธอเสร็จแล้วก็จะกลับแต่รู้สึกหิวเลยนั่งทานข้าวก่อนเมื่อได้รับสายของแน็ทตี้ว่าให้รออยู่ที่นี่เธอจึงยังไม่ได้กลับและเธอเองก็อยากจะรู้ด้วยว่าแน็ทตี้นั้นมีเรื่องด่วนที่จะคุยอะไรกับเธอนักหนา“กอหญ้าฉันมีเรื่องจะปรึกษา....”“ว่ามาสิ...แต่ท่าทางแกดูเครียดๆนะ” กอหญ้าเห็นเพื่อนของเธอมีสีหน้าเคร่งเครียดตั้งแต่เดินเข้ามาหาเธอแล้วหญิงสาวรู้ว่าเพื่อนของเธอต้องมีอะไรไม่สบายใจอยู่แน่นอนเธอเองพร้อมที่จะรับฟ
“เรื่องอะไร...ว่ามาสิ” โดมินิคเห็นท่าทีของคนตรงหน้าดูกังวลแปลกๆเขาจึงรีบให้แน็ทตี้พูดมาว่ามีธุระอะไรจะคุยกับเขา“เรื่องมีนน่ะค่ะ”“มีน...คุณเจอมีนแล้วใช่ไหม” โดมินิคถึงกับหูผึ่งเมื่อได้ยินว่าแน็ทตี้นั้นจะพูดถึงใครพร้อมถามคำถามที่เขาอยากจะรู้ทันที“เจอแล้วค่ะ...แล้วก็แน็ทตี้อยากจะบอกบอสว่าแน็ทตี้รู้มาตลอดว่ามีนอยู่ที่ไหนแต่ไม่ได้บอกบอส”“ทำไม???” โดมินิคเริ่มรู้สึกแปลกๆกับคำพูดของแน็ทตี้น้ำเสียงที่เขาถามคนตรงหน้าถึงเหตุผลมันเยือกเย็นอย่างเห็นได้ชัด“คือว่าเรื่องที่แน็ทตี้จะบอกบอสก็คือ......” แน็ทตี้เองไม่อยากจะพูดพร่ำทำเพลงอะไรอีกแล้วเขาค่อยๆเล่าเรื่องราวต่างๆอย่างละเอียดเหมือนกับที่เล่าให้กอหญ้าฟังแต่ปฏิกิริยาของเจ้านายของเขาทำให้เขาเดาไม่ออกเหมือนกันว่าคนตรงหน้าคิดอะไรอยู่แต่เธอก็ยังคงต้องทำใจดีสู้เสื้อเล่าเรื่องต่อไปจนกว่าจะจบ“นี่พวกคุณเล่นบ้าอะไรกัน...แล้วปิดเรื่องนี้กับผมมาสี่ปีเนี่ยนะ” เมื่อโดมินิคฟังจบเขาถึงกับพูดอะไรไม่ออกรู้สึกว่ามีอะไรจุกอยู่ในอกคนที่เขาไว้ใจและคนที่เขารู้สึกดีด้วยยกล้าหลอกลวงเขาขนาดนี้เชียวหรือตอนนี้ในใจของเขาเริ่มมีทิฐิเข้าครอบงำความรู้สึกดีๆที่มีต
อัลบั้มแรกที่เขาหยิบมาข้างหน้าเขียนว่านีน่าตอนอยู่ในท้องกับแรกเกิดเมื่อเปิดเข้าไปชายหนุ่มถึงกับน้ำตาคลอและไหลออกมาเองโดยอัตโนมัติภาพที่เขาเห็นก็คือมีนชญาที่กำลังนั่งหัวเราะอยู่และท้องของเธอก็ใหญ่มากถ้าเดาไม่ผิดก็คงจะเป็นแน็ทตี้ที่ถ่ายให้และมีภาพของหญิงสาวที่อุ้มท้องโตๆเดินอยู่ในร้านดอกไม้อีกหลายรูป“ผ่าคลอดงั้นเหรอ” เมื่อเปิดไปเรื่อยๆก็เห็นภาพตอนที่หญิงสาวจะเข้าห้องผ่าตัดในหลังรูประบุเวลาและวันที่ไว้อย่างชัดเจนมีคำอธิบายว่ามีนไม่สามารถคลอดเองได้เพราะหลานตัวใหญ่เกินนี่ก็คงจะเป็นแน็ทตี้ที่เก็บเรื่องราวเหล่านี้ไว้เช่นกันภาพรอยยิ้มของหญิงสาวที่นอนรออยู่ในห้องคลอดเธอดูมีความสุขมากจริงๆจนเขาแอบอิจฉาเธอที่ได้เห็นลูกด้วยตาตัวเองเมื่อตอนแรกเกิดผิดกับเขาที่ต้องมานั่งดูรูปภาพเอาแบบนี้“คนสวยของแดดดี๊” เมื่อเปิดดูอีกอัลบั้มก็จะเป็นลูกสาวของเขาตอนที่นอนอยู่ในเปลเด็กและภาพที่กำลังดูดนมแม่อย่างน่าเอ็นดูเขาใช้มือลูบไปที่รูปภาพพร้อมปล่อยน้ำตาแห่งความสุขให้ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสายเขานั่งดูรูปไปเรื่อยๆตั้งแต่ลูกสาวของเขายังเดินไม่ได้เริ่มหัดนั่งหัดคลานหัดเดินหัดพูดจนถึงปัจจุบันรูปที่พึ่งถ่ายสดๆร้อนๆเพ
“เอ่อ...สารภาพเรื่องอะไร...มีนไม่มีอะไรจะคุยกับคุณทั้งนั้นออกจากบ้านมีนไปได้แล้ว” มีนชญามีอาการหน้าเสียทันทีเมื่อได้ยินคำที่ชายหนุ่มพูดกับเธอหญิงสาวไม่รู้ว่าเขาไปรู้อะไรมาบ้างถึงมาถามเธอแบบนี้แต่เธอก็ยังขอยืนยันคำเดิมว่าเธอไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับเขาทั้งนั้นพร้อมไล่เขาออกไปจากบ้านโดยเร็วสิ่งที่เธอกลัวอยู่ในใจตอนนี้คือกลัวว่าเธอนั้นจะเสียลูกสาวของเธอไป“ไม่มีอะไรจะสารภาพงั้นเหรอ...วางแผนที่จะมีลูกกับฉันแล้วมาพรากลูกฉันไปตั้งหลายปีโดยที่ฉันไม่รู้อย่าคิดว่าฉันจะยอมปล่อยไปง่ายๆ....เธอกล้ามากนะมีน...ฉันจะมาทวงลูกฉันคืน”โดมินิคเริ่มมีอารมณ์โมโหขึ้นทันทีที่หญิงสาวปฏิเสธได้อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรชายหนุ่มเริ่มใช้น้ำเสียงที่หนักและดุดันขึ้นพูดถึงวีรกรรมของหญิงสาวด้วยความโมโหพร้อมบอกว่าเขานั้นจะมาทวงลูกของเขาคืน“ไม่ได้นะคะคุณนิค....อย่าพรากลูกมีนไปนะคะมีนขอร้อง” มีนชญามือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูกเมื่อในสิ่งที่คิดมันเป็นจริงเธอน้ำตาไหลพรากสะอึกสะอื้นพร้อมยกมือเย็นของเธอทั้งสองไปจับมือของชายหนุ่มเอาไว้พร้อมขอร้องคนตรงหน้าด้วยน้ำตาว่าอย่าพรากสิ่งที่เธอรักที่สุดในชีวิตไปตอนนี้เธอเอาแต่ส่ายหัวร้องให้เ
มีนชญากำลังเดินเลยรถของชายหนุ่มไปเพื่อเดินเข้าร้านสะดวกซื้อหน้าโรงเรียนเพื่อไปซื้อไอติมให้ลูกสาวของเธอหญิงสาวของเธอโดมินิคเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้เดินมาที่รถของเขาตามที่สั่งเขาจำต้องเดินลงจากรถแล้วตามหญิงสาวเข้าไปที่ร้านสะดวกซื้อทันทีเพราะเขาไม่ค่อยไว้ใจหญิงสาวเท่าไรว่าเธอจะกลัวคำขู่ของเขาหรือเปล่า“ไปจ่ายเงินกันค่ะ” เมื่อนีน่าเลือกไอติมในตู้แช่แข็งเรียบร้อยแล้วมีนชญาจึงบอกให้ลูกของเธอเดินถือของไปจ่ายเงินกันจะได้รีบกลับมีนชญาแอบเห็นชายหนุ่มเดินตามเธอมาอยู่แต่เขาก็ไม่ได้เข้ามายุ่งกับเธอเพียงแค่ยืนดูอยู่ห่างๆหญิงสาวคิดในใจว่าเขาอาจจะคิดว่าเธอจะหนีก็เป็นได้จึงตามมาดู“ไปขึ้นรถกันเถอะค่ะ”“ไม่ใช่รถคุณแม่นี่คะ” นีน่าชะงักการเดินแล้วดึงมือของคนเป็นแม่ไว้เล็กน้อยเพราะเธอรู้สึกไม่คุ้นกับรถคันตรงหน้าเสียเท่าไรเพราะว่ามันไม่ใช่รถของแม่เธอ“นีน่าคะ”“คุณลุง” โดมินิคเปิดประตูออกมาจากรถพร้อมเดินอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อเปิดประตูให้ทั้งสองขึ้นไปนั่งในรถเด็กหญิงแปลกใจเล็กน้อยที่เธอเจอคุณลุงคนเมื่อกลางวันอีกครั้ง“พาลูกขึ้นรถ”“ไปค่ะนีน่า” มีนชญารีบพานีน่าขึ้นรถก่อนที่ลูกสาวของเธอจะตั้งคำถามอะไรขึ้นมาอีก
“เอ่อ...คือ...” มีนชญาถึงกับพูดไม่ออกจะเดินออกไปก็กลัวว่าเขาจะพาลูกหนีอีกใจมันก็จริงอย่างที่เขาบอกตอนนี้มันก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องทำอาหารเย็นไว้ให้ลูกของเธอแล้วด้วย“ฉันไม่ไปไหนหรอก...นี่กุญแจ” โดมินิครู้ว่าหญิงสาวนั้นคิดอะไรอยู่เขาจึงมองจ้องไปที่หน้าของหญิงสาวพร้อมบอกให้เธอได้ฟังชัดๆว่าเขานั้นจะไม่ไปไหนให้เธอนั้นสบายใจได้พร้อมส่งกุญแจรถหรูวางไว้ที่โต๊ะหน้าโซฟาให้เธอมาหยิบอีกต่างหากเพื่อให้หญิงสาวแน่ใจว่าเขาไม่ได้โกหกเธอ“อืม...เอ่อ...คุณนิคจะทานอะไหมคะเดี๋ยวมีนทำให้ค่ะ” มีนชญาเดินมาหยิบกุญแจรถของชายหนุ่มเอาไว้เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนพร้อมเดินตรงไปที่ครัวแต่เธอก็ต้องชะงักนิดหน่อยเพราะเธอคิดว่าวันนี้เธอก็คงจะต้องทำอาหารเผื่อพ่อของลูกของเธอด้วยจึงถามเขาขึ้นว่าเขานั้นจะทานอะไรอย่างน้อยตอนนี้เขายังใจดีไม่พาลูกหนีไปจากเธอหญิงสาวคิดว่าควรที่จะสร้างไมตรีที่ดีกับชายหนุ่มเอาไว้เผื่อว่าเรื่องที่เธอจะคุยกับเขานั้นง่ายขึ้น“เธอก็รู้ว่าฉันชอบทานอะไร”โดมินิคหันไปบอกหญิงสาวที่ยืนรอคำตอบจากเขาอยู่ว่าเธอรู้ว่าเขานั้นชอบอะไรในใจชายหนุ่มก็อยากจะรู้ว่าเธอนั้นยังจำเรื่องราวตอนที่อยู่กับเขาอยู่ได้หรือเ
“ค่ะ...วันนี้น่าจะเล่นเยอะจนเพลีย” มีนชญาลุกออกมาจากเตียงพร้อมบอกกับชายหนุ่มว่าวันนี้นีน่าค่อนข้างที่จะหลับไวจากการที่เธอเดาน่าจะเป็นเพราะเล่นกับเพื่อนๆที่โรงเรียนมากไปหน่อยเพราะตั้งแต่ไปโรงเรียนก็หลับง่ายแบบนี้มาสองวันแล้ว“เธอมีอะไรหรือเปล่า” โดมินิคทำหน้างอยู่ดีๆหญิงสาวก็เดินมายืนจ้องหน้าของเขาอยู่ที่หน้าประตูใบหน้าแสดงออกถึงการมีเรื่องอะไรในใจจนเขานั้นจำต้องถามเธอขึ้น“มีนขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมคะ”“งั้นเราไปคุยกันข้างนอกดีกว่านะ” โดมินิคดูจากสีหน้าที่จริงจังของหญิงสาวแล้วเขารู้ว่าเรื่องที่เธอต้องการจะคุยกับเขาต้องเป็นเรื่องที่เธอนั้นซีเรียสอย่ามากเป็นแน่เขาจึงดึงมือเธอให้ตามเขามานั่งคุยในห้องหนังสือของเธอที่เขาพึ่งออกมาเมื่อครู่นี้“คุณนิคคะอย่าหาว่ามีนเห็นแก่ตัวเลยนะคะ...คุณอย่าพานีน่าไปจากที่นี่เลยนะคะไม่อย่างนั้นมีนคงอยู่ไม่ได้แน่” เมื่อเข้ามาในห้องได้หญิงสาวก็ยืนก้มหน้าหลับตาพร้อมขอร้องชายหนุ่มอย่างที่ใจเธอคิดอย่างรวดเร็วและยังยืนก้มหน้าบีบมือรอฟังคำตอบจากชายหนุ่มอยู่“ยังไงฉันก็ยืนยันคำเดิมว่าฉันจะพาลูกไปอยู่กับผม....แต่....ฉันเองก็ไม่เคยพูดนี่ว่าไม่ให้เธอตามไปด้วย” โด
“ทำไมจะทำอะไรไม่ได้เธอรักฉัน..แล้วฉันก็รักเธออย่าหลอกตัวเองเลยนะมีนคนเรามันเท่าเทียมกันอย่าดูถูกตัวเองว่าเธอไม่เหมาะสมกับใครอีกอย่างเราก็มีลูกด้วยกันจนสามขวบแล้วด้วยทำไมฉันจะทำแบบนี้กับเธอไม่ได้” โดมินิคเห็นว่าหญิงสาวจอมซื่อบื้อคนนี้คงจะไม่เข้าใจที่เขาพูดเป็นแน่เขาจึงต้องบอกกับเธอตรงๆว่าเขานั้นรู้สึกอย่างไรพร้อมบอกให้เธอได้รู้ด้วยว่าเขาก็รู้ว่าเธอรู้สึกกับเขาเช่นไรเขาไม่อยากให้เธอดูถูกตัวเองเพราะขนาดเขาก็ยังไม่เคยคิดที่จะดูถูกเธอด้วยซ้ำอีกอย่างมันก็จะดีต่อลูกอีกด้วยถ้าทั้งเขาและเธอหันหน้าปรับความเข้าใจกัน“อะไรนะคะ...อื้มมมม” มีนชญารู้สึกอึ้งเล็กน้อยเมื่อล่วงรู้ว่าชายหนุ่มนั้นคิดกับเธอเช่นไรในขณะที่เธอยังอึ้งอยู่นั้นชายหนุ่มก็ไม่ปล่อยให้เสียจังหวะเขาพยายามบดจูบหญิงสาวเรียกอารมณ์รักของเธอออกมาเพราะเขานั้นโหยหาร่างกายนี้มานานแสนนานต่อไปนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยแม่เมียตัวแสบคนนี้ไปเด็ดขาด“คุณนิค...อื้อ...” มีนชญาถึงกับครางเสียงกระเส่าเพราะชายหนุ่มจูบวนอยู่ที่ลำคอระหงของเธออย่างนุ่มนวลไล่ลงไปที่สองเต้างามสลับกันดูดคลึงเล่นกับมืออย่างสนุกและมอบความเสียวซ่านให้กับหญิงสาวได้อย่างดีโดมินิค