อัลบั้มแรกที่เขาหยิบมาข้างหน้าเขียนว่านีน่าตอนอยู่ในท้องกับแรกเกิดเมื่อเปิดเข้าไปชายหนุ่มถึงกับน้ำตาคลอและไหลออกมาเองโดยอัตโนมัติภาพที่เขาเห็นก็คือมีนชญาที่กำลังนั่งหัวเราะอยู่และท้องของเธอก็ใหญ่มากถ้าเดาไม่ผิดก็คงจะเป็นแน็ทตี้ที่ถ่ายให้และมีภาพของหญิงสาวที่อุ้มท้องโตๆเดินอยู่ในร้านดอกไม้อีกหลายรูป
“ผ่าคลอดงั้นเหรอ” เมื่อเปิดไปเรื่อยๆก็เห็นภาพตอนที่หญิงสาวจะเข้าห้องผ่าตัดในหลังรูประบุเวลาและวันที่ไว้อย่างชัดเจนมีคำอธิบายว่ามีนไม่สามารถคลอดเองได้เพราะหลานตัวใหญ่เกินนี่ก็คงจะเป็นแน็ทตี้ที่เก็บเรื่องราวเหล่านี้ไว้เช่นกันภาพรอยยิ้มของหญิงสาวที่นอนรออยู่ในห้องคลอดเธอดูมีความสุขมากจริงๆจนเขาแอบอิจฉาเธอที่ได้เห็นลูกด้วยตาตัวเองเมื่อตอนแรกเกิดผิดกับเขาที่ต้องมานั่งดูรูปภาพเอาแบบนี้
“คนสวยของแดดดี๊” เมื่อเปิดดูอีกอัลบั้มก็จะเป็นลูกสาวของเขาตอนที่นอนอยู่ในเปลเด็กและภาพที่กำลังดูดนมแม่อย่างน่าเอ็นดูเขาใช้มือลูบไปที่รูปภาพพร้อมปล่อยน้ำตาแห่งความสุขให้ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
เขานั่งดูรูปไปเรื่อยๆตั้งแต่ลูกสาวของเขายังเดินไม่ได้เริ่มหัดนั่งหัดคลานหัดเดินหัดพูดจนถึงปัจจุบันรูปที่พึ่งถ่ายสดๆร้อนๆเพราะแน็ทตี้ลงวันที่ไว้ชัดเจนเป็นรูปที่มีนชญาเดินจูงลูกสาวตัวกลมของเขาออกมาจากโรงเรียนนั่นเอง เขายิ่งมองหน้าลูกสาวของเขาในรูปก็เหมือนเห็นตัวเองตอนเด็กเพราะหน้าของหนูน้อยถอดแบบเขาออกมาอย่างกับแกะ
เช้าวันต่อมา
“นายจะไปไหนเหรอครับ” ชอวเห็นว่าเจ้านายของเขาเตรียมตัวออกข้างนอกตั้งแต่เช้าจึงต้องถามว่าเขาน้นจะออกไปไหนในเมื่อวันนี้ไม่มีแพลน
“ฉันจะไปจัดการธุระส่วนตัวนิดหน่อยนายไม่ต้องตามหรอก”
“ครับ” โดมินิคต้องการไปแบบเงียบๆคนเดียวเพราะเขาเห็นว่าเรื่องนี้เขาจัดการคนเดียวได้เลยให้ชอวอยู่ที่นี่แล้วเขาก็รีบขับรถไปที่เขาใหญ่ทันที
โรงเรียนXXX
“ทางเราต้องขอบคุณคุณโดมินิคมากเลยนะคะที่เอาของเล่นมาบริจาคที่โรงเรียนแถมยังมอบทุนการศึกษาให้อีก” โดมินิคใช้วิธีการบริจาคของและเงินให้กับที่นี่เพราะเขาต้องการทีจะเดินดูว่าโรงเรียนที่ลูกสาวของเขาอยู่นั้นเป็นอย่างไรหากเขาเข้ามาตัวเปล่าทางโรงเรียนคงไม่อนุญาตให้เขาเดินดูที่นี่อย่างสบายใจแน่
“เรื่องเล็กน้อยครับผมเห็นเด็กๆชอบเล่นของที่ผมนำมาให้ก็ดีใจแล้วเดี๋ยวผมขอนั่งเล่นกับเด็กๆก่อนนะครับเดี๋ยวสักพักก็จะกลับแล้ว”
“เชิญตามสบายเลยนะคะ” หลังจากที่โดมินิคคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาจึงขออนุญาตเดินดูรอบพร้อมทั้งเขายังมองหาลูกสาวเขาอยู่อีกด้วยว่าเล่นอยู่ตรงไหน
“เย่ๆๆ...” โดมินิคใช้สายตากวาดมองที่สนามเด็กเล่นอยู่สักพักก็เห็นว่ามีเด็กผู้หญิงตัวกลมๆผมหยิกๆกำลังโยนลูกบอลใส่ตะกร้าอยู่คนเดียวอย่างสนุกพร้อมส่งเสียงดังกว่าใครเพื่อน
เขาจึงเดินเข้าไปใกล้ๆวินาทีนั้นเขาแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เพราะเด็กหญิงที่กำลังหัวเราะด้วยความสนุกอยู่นั้นคือลูกสาวของเขานั่นเอง เขาอยากจะเข้าไปกอดหอมอุ้มเล่นเสียตอนนี้แต่มันก็คงจะดูไม่ค่อยดีสักเท่าไรเพราะเด็กที่นี่อยู่กันเยอะอีกอย่างก็ยังไม่มีใครรู้ด้วยว่าเขาเป็นพ่อของนีน่า
“เล่นอะไรอยู่เหรอคะ” โดมินิคพยายามเข้าไปใกล้กับลูกของเขาพร้อมลองทักทายเธอดูว่าเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับเขาบ้าง
“สวัสดีค่ะคุณลุง...นีน่าเล่นปาลูกบอลลงตระกร้าค่ะดูสิคะเข้าทุกลูกเลย” นีน่าเห็นว่ามีผู้ใหญ่มาถามเธอเด็กหญิงจึงยกมือไหว้ตามที่แม่ของเธอสอนพร้อมบอกกับคนตรงหน้าว่าเธอกำลังเล่นอะไรอยู่พร้อมอวดในความเก่งของเธอว่าเธอนั้นโยนเข้าตะกร้าทุกลูกเลย
“โห...เก่งที่สุดเลยค่ะลูกสาวใครคะเนี่ย” โดมินิคถึงกับยิ้มร่าเพราะลูกสาวของเธอดูเข้ากับคนง่ายเสียเหลือเกินขนาดพึ่งเจอกับเขายังพูดคุยเสียงเจื้อยแจ้วเลย
“นีน่าเป็นลูกสาวของแม่มีนค่ะ”
“อ๋อ...อย่างนี้นี่เองขอลุงเล่นด้วยคนได้ไหมคะ”
“ได้ค่ะ”
โดมินิคทำทีเป็นขอเล่นเป็นเพื่อนกับลูกสาวของเขาเพราะว่าเขานั้นอยากอยู่ใกล้กับลูกเขานานๆนั่นเองชายหนุ่มอยู่เล่นกับนีน่าได้พักใหญ่จนตอนนี้นีน่าเข้าห้องเรียนไปนอนกลางวันเรียบร้อยแล้วเขาเองก็เห็นว่าตอนนี้สมควรแก่เวลาที่เขาจะไปหาแม่ของลูกแล้วจึงขับรถมุ่งหน้าไปที่บ้านของหญิงสาวทันที
ติ๊งงงงง
“ใครมากันนะหรือว่าแน็ทตี้” มีนชญาที่กำลังเก็บกวาดบ้านอยู่เธอก็ได้ยินเสียงคนกดออดที่หน้าบ้านในใจคิดว่าอาจจะเป็นแน็ทตี้ที่กลับมาหาเธออีกก็เป็นได้จึงรีบเดินออกมาเปิดประตู
“คุณนิค” มีนชญาตัวชาวาบเมื่อเปิดประตูรั้วออกไปก็เห็นชายหนุ่มร่างสูงยืนกอดอกพิงรถสปอร์ตคันหรูที่อยู่เธอไม่รู้ว่าเขามาที่นี่ได้อย่างไรแต่ตอนนี้เธอรู้ตัวอย่างเดียวว่าเธอต้องปิดประตูแล้วหนีเขาไปให้เร็วที่สุด
“จะหนีไปไหน” โดมินิคต้องคว้าตัวหญิงสาวไว้ก่อนที่เธอจะปิดประตูหนีเพราะถึงเวลาที่เขาจะจัดการกับแม่ตัวแสบตรงหน้าเขาแล้ว
“ปล่อยมีนนะคะ” มีนชญาพยายามดิ้นขลุกขลักจากการกอดรัดตัวของเธอจากชายหนุ่มเธอไม่มีอะไรจะคุยกับเขาทั้งนั้นตอนนี้เธอยังรู้สึกกลัวอยู่ในใจว่าเขาจะรู้เรื่องลูก
“มาคุยกันข้างในจะดีกว่า” โดมินิคฉุดดึงหญิงสาวเข้ามาในบ้านอย่างง่ายดายเพราะแรงของเธอหรือจะสู้แรงของเขาได้ขนาดตัวก็ต่างกันโดยสิ้นเชิงต่อให้หญิงสาวดิ้นเท่าไรก็ไม่มีทางหลุด
“โอ้ยย” มีนชญาร้องด้วยความตกใจเพราะจู่ๆชายหนุ่มก็เหวี่ยงเธอลงบนโซฟาในบ้านของเธออย่างแรงเธอไม่รู้ว่าเขาไปโมโหอะไรมานักหนา
“มีอะไรจะสารภาพไหม” โดมินิคยืนกอดอกอยู่ใกล้ๆกับหญิงสาวพร้อมถามเสียงแข็งว่าเธอนั้นมีเรื่องอะไรจะสารภาพกับเขาหรือเปล่าเขาลองถามเธอเป็นเชิงดูแต่ถ้าเธอยังดึงดันปฏิเสธทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่เขาจำต้องใช้มาตรการบังคับกับเธอให้รู้เสียบ้างที่กล้ามาหลอกลวงคนอย่างเขา
“เอ่อ...สารภาพเรื่องอะไร...มีนไม่มีอะไรจะคุยกับคุณทั้งนั้นออกจากบ้านมีนไปได้แล้ว” มีนชญามีอาการหน้าเสียทันทีเมื่อได้ยินคำที่ชายหนุ่มพูดกับเธอหญิงสาวไม่รู้ว่าเขาไปรู้อะไรมาบ้างถึงมาถามเธอแบบนี้แต่เธอก็ยังขอยืนยันคำเดิมว่าเธอไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับเขาทั้งนั้นพร้อมไล่เขาออกไปจากบ้านโดยเร็วสิ่งที่เธอกลัวอยู่ในใจตอนนี้คือกลัวว่าเธอนั้นจะเสียลูกสาวของเธอไป“ไม่มีอะไรจะสารภาพงั้นเหรอ...วางแผนที่จะมีลูกกับฉันแล้วมาพรากลูกฉันไปตั้งหลายปีโดยที่ฉันไม่รู้อย่าคิดว่าฉันจะยอมปล่อยไปง่ายๆ....เธอกล้ามากนะมีน...ฉันจะมาทวงลูกฉันคืน”โดมินิคเริ่มมีอารมณ์โมโหขึ้นทันทีที่หญิงสาวปฏิเสธได้อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรชายหนุ่มเริ่มใช้น้ำเสียงที่หนักและดุดันขึ้นพูดถึงวีรกรรมของหญิงสาวด้วยความโมโหพร้อมบอกว่าเขานั้นจะมาทวงลูกของเขาคืน“ไม่ได้นะคะคุณนิค....อย่าพรากลูกมีนไปนะคะมีนขอร้อง” มีนชญามือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูกเมื่อในสิ่งที่คิดมันเป็นจริงเธอน้ำตาไหลพรากสะอึกสะอื้นพร้อมยกมือเย็นของเธอทั้งสองไปจับมือของชายหนุ่มเอาไว้พร้อมขอร้องคนตรงหน้าด้วยน้ำตาว่าอย่าพรากสิ่งที่เธอรักที่สุดในชีวิตไปตอนนี้เธอเอาแต่ส่ายหัวร้องให้เ
มีนชญากำลังเดินเลยรถของชายหนุ่มไปเพื่อเดินเข้าร้านสะดวกซื้อหน้าโรงเรียนเพื่อไปซื้อไอติมให้ลูกสาวของเธอหญิงสาวของเธอโดมินิคเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้เดินมาที่รถของเขาตามที่สั่งเขาจำต้องเดินลงจากรถแล้วตามหญิงสาวเข้าไปที่ร้านสะดวกซื้อทันทีเพราะเขาไม่ค่อยไว้ใจหญิงสาวเท่าไรว่าเธอจะกลัวคำขู่ของเขาหรือเปล่า“ไปจ่ายเงินกันค่ะ” เมื่อนีน่าเลือกไอติมในตู้แช่แข็งเรียบร้อยแล้วมีนชญาจึงบอกให้ลูกของเธอเดินถือของไปจ่ายเงินกันจะได้รีบกลับมีนชญาแอบเห็นชายหนุ่มเดินตามเธอมาอยู่แต่เขาก็ไม่ได้เข้ามายุ่งกับเธอเพียงแค่ยืนดูอยู่ห่างๆหญิงสาวคิดในใจว่าเขาอาจจะคิดว่าเธอจะหนีก็เป็นได้จึงตามมาดู“ไปขึ้นรถกันเถอะค่ะ”“ไม่ใช่รถคุณแม่นี่คะ” นีน่าชะงักการเดินแล้วดึงมือของคนเป็นแม่ไว้เล็กน้อยเพราะเธอรู้สึกไม่คุ้นกับรถคันตรงหน้าเสียเท่าไรเพราะว่ามันไม่ใช่รถของแม่เธอ“นีน่าคะ”“คุณลุง” โดมินิคเปิดประตูออกมาจากรถพร้อมเดินอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อเปิดประตูให้ทั้งสองขึ้นไปนั่งในรถเด็กหญิงแปลกใจเล็กน้อยที่เธอเจอคุณลุงคนเมื่อกลางวันอีกครั้ง“พาลูกขึ้นรถ”“ไปค่ะนีน่า” มีนชญารีบพานีน่าขึ้นรถก่อนที่ลูกสาวของเธอจะตั้งคำถามอะไรขึ้นมาอีก
“เอ่อ...คือ...” มีนชญาถึงกับพูดไม่ออกจะเดินออกไปก็กลัวว่าเขาจะพาลูกหนีอีกใจมันก็จริงอย่างที่เขาบอกตอนนี้มันก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องทำอาหารเย็นไว้ให้ลูกของเธอแล้วด้วย“ฉันไม่ไปไหนหรอก...นี่กุญแจ” โดมินิครู้ว่าหญิงสาวนั้นคิดอะไรอยู่เขาจึงมองจ้องไปที่หน้าของหญิงสาวพร้อมบอกให้เธอได้ฟังชัดๆว่าเขานั้นจะไม่ไปไหนให้เธอนั้นสบายใจได้พร้อมส่งกุญแจรถหรูวางไว้ที่โต๊ะหน้าโซฟาให้เธอมาหยิบอีกต่างหากเพื่อให้หญิงสาวแน่ใจว่าเขาไม่ได้โกหกเธอ“อืม...เอ่อ...คุณนิคจะทานอะไหมคะเดี๋ยวมีนทำให้ค่ะ” มีนชญาเดินมาหยิบกุญแจรถของชายหนุ่มเอาไว้เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนพร้อมเดินตรงไปที่ครัวแต่เธอก็ต้องชะงักนิดหน่อยเพราะเธอคิดว่าวันนี้เธอก็คงจะต้องทำอาหารเผื่อพ่อของลูกของเธอด้วยจึงถามเขาขึ้นว่าเขานั้นจะทานอะไรอย่างน้อยตอนนี้เขายังใจดีไม่พาลูกหนีไปจากเธอหญิงสาวคิดว่าควรที่จะสร้างไมตรีที่ดีกับชายหนุ่มเอาไว้เผื่อว่าเรื่องที่เธอจะคุยกับเขานั้นง่ายขึ้น“เธอก็รู้ว่าฉันชอบทานอะไร”โดมินิคหันไปบอกหญิงสาวที่ยืนรอคำตอบจากเขาอยู่ว่าเธอรู้ว่าเขานั้นชอบอะไรในใจชายหนุ่มก็อยากจะรู้ว่าเธอนั้นยังจำเรื่องราวตอนที่อยู่กับเขาอยู่ได้หรือเ
“ค่ะ...วันนี้น่าจะเล่นเยอะจนเพลีย” มีนชญาลุกออกมาจากเตียงพร้อมบอกกับชายหนุ่มว่าวันนี้นีน่าค่อนข้างที่จะหลับไวจากการที่เธอเดาน่าจะเป็นเพราะเล่นกับเพื่อนๆที่โรงเรียนมากไปหน่อยเพราะตั้งแต่ไปโรงเรียนก็หลับง่ายแบบนี้มาสองวันแล้ว“เธอมีอะไรหรือเปล่า” โดมินิคทำหน้างอยู่ดีๆหญิงสาวก็เดินมายืนจ้องหน้าของเขาอยู่ที่หน้าประตูใบหน้าแสดงออกถึงการมีเรื่องอะไรในใจจนเขานั้นจำต้องถามเธอขึ้น“มีนขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมคะ”“งั้นเราไปคุยกันข้างนอกดีกว่านะ” โดมินิคดูจากสีหน้าที่จริงจังของหญิงสาวแล้วเขารู้ว่าเรื่องที่เธอต้องการจะคุยกับเขาต้องเป็นเรื่องที่เธอนั้นซีเรียสอย่ามากเป็นแน่เขาจึงดึงมือเธอให้ตามเขามานั่งคุยในห้องหนังสือของเธอที่เขาพึ่งออกมาเมื่อครู่นี้“คุณนิคคะอย่าหาว่ามีนเห็นแก่ตัวเลยนะคะ...คุณอย่าพานีน่าไปจากที่นี่เลยนะคะไม่อย่างนั้นมีนคงอยู่ไม่ได้แน่” เมื่อเข้ามาในห้องได้หญิงสาวก็ยืนก้มหน้าหลับตาพร้อมขอร้องชายหนุ่มอย่างที่ใจเธอคิดอย่างรวดเร็วและยังยืนก้มหน้าบีบมือรอฟังคำตอบจากชายหนุ่มอยู่“ยังไงฉันก็ยืนยันคำเดิมว่าฉันจะพาลูกไปอยู่กับผม....แต่....ฉันเองก็ไม่เคยพูดนี่ว่าไม่ให้เธอตามไปด้วย” โด
“ทำไมจะทำอะไรไม่ได้เธอรักฉัน..แล้วฉันก็รักเธออย่าหลอกตัวเองเลยนะมีนคนเรามันเท่าเทียมกันอย่าดูถูกตัวเองว่าเธอไม่เหมาะสมกับใครอีกอย่างเราก็มีลูกด้วยกันจนสามขวบแล้วด้วยทำไมฉันจะทำแบบนี้กับเธอไม่ได้” โดมินิคเห็นว่าหญิงสาวจอมซื่อบื้อคนนี้คงจะไม่เข้าใจที่เขาพูดเป็นแน่เขาจึงต้องบอกกับเธอตรงๆว่าเขานั้นรู้สึกอย่างไรพร้อมบอกให้เธอได้รู้ด้วยว่าเขาก็รู้ว่าเธอรู้สึกกับเขาเช่นไรเขาไม่อยากให้เธอดูถูกตัวเองเพราะขนาดเขาก็ยังไม่เคยคิดที่จะดูถูกเธอด้วยซ้ำอีกอย่างมันก็จะดีต่อลูกอีกด้วยถ้าทั้งเขาและเธอหันหน้าปรับความเข้าใจกัน“อะไรนะคะ...อื้มมมม” มีนชญารู้สึกอึ้งเล็กน้อยเมื่อล่วงรู้ว่าชายหนุ่มนั้นคิดกับเธอเช่นไรในขณะที่เธอยังอึ้งอยู่นั้นชายหนุ่มก็ไม่ปล่อยให้เสียจังหวะเขาพยายามบดจูบหญิงสาวเรียกอารมณ์รักของเธอออกมาเพราะเขานั้นโหยหาร่างกายนี้มานานแสนนานต่อไปนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยแม่เมียตัวแสบคนนี้ไปเด็ดขาด“คุณนิค...อื้อ...” มีนชญาถึงกับครางเสียงกระเส่าเพราะชายหนุ่มจูบวนอยู่ที่ลำคอระหงของเธออย่างนุ่มนวลไล่ลงไปที่สองเต้างามสลับกันดูดคลึงเล่นกับมืออย่างสนุกและมอบความเสียวซ่านให้กับหญิงสาวได้อย่างดีโดมินิค
“ที่นี่ยังเหมือนเดิมเลยนะแถมร่มรื่นกว่าเดิมอีก” โดมินิคขับรถเลี้ยวเข้ามาในรั้วบ้านที่เปิดเป็นร้านดอกไม้เขาก็จำได้ทันทีว่าที่นี่นั้นเคยเป็นบ้านของเขามาก่อนเมื่อลงจากรถสำรวจดูรอบๆเขาก็รู้สึกชอบที่นี่มากกว่าเดิมเสียอีกเพราะมันทั้งร่มรื่นและมีดอกไม้ต่างๆปลูกรอบๆบ้านเป็นภาพที่สวยงามเป็นอาหารตาแก่เขามากที่ได้มาเห็นอะไรแบบนี้ในตอนเช้าๆ“คุณนิคเคยมาที่ด้วยเหรอคะ” มีนชญาเห็นว่าชายหนุ่มพูดจาแปลกๆเหมือนเคยมที่นี่ยังไงยังงั้นจึงถามเขาขึ้นให้คลายสงสัย“บ้านหลังนี้เป็นของฉันเอง...ฉันปล่อยขายเมื่อห้าปีที่แล้วโลกกลมจังเลยเนอะ” โดมินิคหันมายิ้มให้กับหญิงสาวพร้อมบอกกับเธอว่าบ้านหลังนี้เป็นของเขาเองและคนที่ซื้อในตอนนั้นก็เป็นหญิงสาวตรงหน้าเขาคนนี้เขาไม่แปลกใจที่ทำไมหญิงสาวไม่รู้ก็เพราะว่าเขาไม่ได้ใช้ชื่อของเขาเองเป็นเจ้าของบ้านเขาคิดว่าโลกนี้มันช่างกลมเหลือเกินหรือไม่มันก็เป็นพรหมลิขิตที่ขีดมาให้เขาและเธอได้เจอกันที่ทำให้คนสองคนที่แสนจะแตกต่างกันมาเติมเต็มกันและกันได้“บังเอิญจังเลยนะคะ” มีนชญารู้สึกว่าเรื่องนี้มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญเสียจริงเธอซื้อบ้านหลังนี้ก่อนที่จะวางแผนไปทำงานที่บ้านของเข
เช้าวันต่อมาตั้งแต่เมื่อคืนมีนชญาก็ตึงใส่โดมินิคอยู่ตลอดจนชายหนุ่มนั้นเริ่มอึดอัดแต่เขาเองก็ยังท้อไม่ได้ตอนเช้าเมื่อถึงเวลาอาหารเขาจึงออกมานั่งที่หลังบ้านเพราะไม่อยากให้หญิงสาวทานข้าวไม่อร่อยเมื่อเห็นหน้าของเขา“แดดดี๊ขาคุณแม่บอกให้นีน่ามาตามแดดดี๊ไปทานข้าวเช้าค่ะ”“โอเคค่ะ” เมื่อได้ยินเสียงแหลมๆของลูกสาวตัวกลมของเขาชายหนุ่มก็ถึงกับยิ้มออกที่อย่างน้อยถึงหญิงสาวจะไม่คุยกับเขาก็ยังมีลูกสาวของเขานี่แหละที่คอยเป็นตัวกลางได้และตอนนี้เขาก็รู้ว่าหญิงสาวนั้นยังมีแอบเป็นห่วงเขาอยู่บ้างถึงแม้จะใช้ลูกมาก็เถอะ“ข้าวต้มฝีมือคุณแม่อร่อยมากเลยนะคะนีน่า”“ใช่ค่ะแดดดี๊”“เอ..ข้าวต้มนี้ใส่อะไรลงไปบ้างน้า”“ใส่กุ้ง...ไงคะแดดดี๊”โดมินิคมานั่งร่วมโต๊ะอาหารเช้าแต่เขาเองก็ได้ยินแต่เสียงของนีน่าลูกสาวของเขาอยู่คนเดียวส่วนคนเป็นแม่นั้นก็เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จาขนาดหน้าของเขาเธอยังไม่คิดที่จะหันมามองเลยสักนิดเดียวเขาจึงต้องหาเรื่องคุยกับนีน่าเพื่อที่จะให้หญิงสาวนั้นได้ร่วมวงสนทนาด้วยแต่กลับเป็นลูกสาวของเขาพูดทุกอย่างเสียเองมีนชญาเห็นสีหน้าของชายหนุ่มเธอเองก็อดขำในใจไม่ได้พร้อมบอกตัวเองว่าห้ามขำออกมาเด
“แล้วคุณ....” รวิชแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นชายหนุ่มฝรั่งร่างสูงยืนอยู่ที่หลังของหญิงสาวว่าเขานั้นเป็นใคร“เอ่อ...ผมเป็นพ่อของนีน่าสามีของมีนครับ” โดมินิคถือโอกาสแนะนำตัวเองกับหมอหนุ่มโดยการดึงไหล่ของหญิงสาวเข้าไปกอดแสดงความเป็นเจ้าของเพราะเขานั้นไม่ชอบใจในสรรพนามที่ทั้งสองเรียกแทนตัวเองกันสักเท่าไรมันดูสนิทสนมกันเกินหน้าเกินตา“อ่อ...ครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”“เช่นกันครับ”รวิชเองดูอาการของอีกฝ่ายออกว่ากำลังหึงภรรยาสาวอยู่เป็นแน่แต่เขาก็ทำตัวทักทายอีกฝ่ายปกติเพราะเขาไม่ได้คิดอะไรกับหญิงสาวเขาเห็นเธอเป็นน้องสาวคนนึงเพราะตั้งแต่ที่มีนชญาท้องก็มาหาปรึกษาเขาตลอดจึงทำให้เขากับเธอนั้นสนิทกัน5นาทีต่อมา“นีน่าไข้สูงเหมือนกันนะ...เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่ฉีดยาให้แล้วก็เช็ดตัวดูอาการอยู่ที่นี่สักครึ่งชั่วโมง”“ค่ะพี่หมอ”เมื่อดูอุณหภูมิร่างกายของหนูน้อยที่นอนอยู่บนเตียงแล้วหมอนุ่มเองคิดว่าจะต้องฉีดยาเพราะให้ทานยากับเช็ดตัวคงไม่ทันแน่เพราะว่าอุณหภูมิสูงขนาดนี้อาจจะทำให้ชักได้“คุณแม่ขาไม่ฉีดยา...ฮือๆๆๆ”“ไม่ฉีดไม่ได้หรือไงครับหมอ” เด็กหญิงตัวกลมที่นอนซึมอยู่บนเตียงได้ยินเสียงของลุงหมอของเธอบอกว่าต