มีนชญากำลังเดินเลยรถของชายหนุ่มไปเพื่อเดินเข้าร้านสะดวกซื้อหน้าโรงเรียนเพื่อไปซื้อไอติมให้ลูกสาวของเธอหญิงสาวของเธอโดมินิคเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้เดินมาที่รถของเขาตามที่สั่งเขาจำต้องเดินลงจากรถแล้วตามหญิงสาวเข้าไปที่ร้านสะดวกซื้อทันทีเพราะเขาไม่ค่อยไว้ใจหญิงสาวเท่าไรว่าเธอจะกลัวคำขู่ของเขาหรือเปล่า
“ไปจ่ายเงินกันค่ะ” เมื่อนีน่าเลือกไอติมในตู้แช่แข็งเรียบร้อยแล้วมีนชญาจึงบอกให้ลูกของเธอเดินถือของไปจ่ายเงินกันจะได้รีบกลับมีนชญาแอบเห็นชายหนุ่มเดินตามเธอมาอยู่แต่เขาก็ไม่ได้เข้ามายุ่งกับเธอเพียงแค่ยืนดูอยู่ห่างๆหญิงสาวคิดในใจว่าเขาอาจจะคิดว่าเธอจะหนีก็เป็นได้จึงตามมาดู
“ไปขึ้นรถกันเถอะค่ะ”
“ไม่ใช่รถคุณแม่นี่คะ” นีน่าชะงักการเดินแล้วดึงมือของคนเป็นแม่ไว้เล็กน้อยเพราะเธอรู้สึกไม่คุ้นกับรถคันตรงหน้าเสียเท่าไรเพราะว่ามันไม่ใช่รถของแม่เธอ
“นีน่าคะ”
“คุณลุง” โดมินิคเปิดประตูออกมาจากรถพร้อมเดินอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อเปิดประตูให้ทั้งสองขึ้นไปนั่งในรถเด็กหญิงแปลกใจเล็กน้อยที่เธอเจอคุณลุงคนเมื่อกลางวันอีกครั้ง
“พาลูกขึ้นรถ”
“ไปค่ะนีน่า” มีนชญารีบพานีน่าขึ้นรถก่อนที่ลูกสาวของเธอจะตั้งคำถามอะไรขึ้นมาอีกเพราะเธอคิดว่าถ้าเธอจะอธิบายตรงนี้คงไม่ดีเท่าไรนักจากที่เห็นอาการของลูกสาวเธอก็รู้ทันทีว่าชายหนุ่มต้องแอบมาหานีน่าแล้วเป็นแน่ไม่เช่นนั้นนีน่าคงไม่เรียกใครแบบนี้ถ้าไม่รู้จัก
“คุณลุงจะไปส่งเราที่บ้านเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ” เมื่อทั้งมีนชญาและลูกสาวของเขาขึ้นมานั่งบนรถได้ชายหนุ่มก็รีบขับรถกลับไปยังบ้านของหญิงสาวทันทีในระหว่างทางด้วยความสงสัยเป็นปกติของนีน่าเธอจึงหันมาถามคนเป็นแม่ว่าคุณลุงของเธอนั้นจะไปส่งเธอกับแม่ที่บ้านใช่หรือไม่
มีนชญาเองยังคงต้องปั้นหน้ายิ้มคุยกับลูกสาวของเธอตามปกติแม้ในใจจะเริ่มกังวลว่าชายหนุ่มนั้นจะพาเธอกับลูกไปส่งที่บ้านจริงหรือเปล่า
“นีน่าขอทานไอติมบนรถได้ไหมคะ” นีน่าหันไปถามคนที่กำลังขับรถอยู่เป็นการขออนุญาตในการจะทานไอติมบนรถเพราะว่าเธอจำได้ว่าคนเป็นแม่สอนว่าถ้าจะทานอะไรบนรถคนอื่นต้องขออนุญาตเจ้าของรถเสียก่อนถ้าหากเจ้าของรถไม่อนุญาตเธอก็ต้องห้ามทาน
“ได้สิคะแดดดี๊อนุญาต” โดมินิคหันมายิ้มให้ลูกสาวของเขาพร้อมบอกว่าเขานั้นอนุญาตโดยคำพูดที่ใช้อนุญาตทำให้เด็กหญิงงงเล็กน้อยและหญิงสาวที่นั่งข้างๆก็ถึงกับหน้าเหวอไม่คิดว่าเขาจะบอกกับลูกไวขนาดนี้
“แดดดี๊...คืออะไรคะคุณแม่” ด้วยความสงสัยในคำพูดแปลกๆของคุณลุงของเธอนีน่าจึงหันไปถามคนเป็นแม่ว่าแดดดี๊คืออะไร
“เอ่อ...คุณพ่อไงคะ” มีนชญาต้องยิ้มแหยๆพลางอธิบายให้ลูกสาวของเธอฟังว่าเมื่อครู่นี้ที่คุณลุงของลูกสาวเธอพูดมันคืออะไร
“คุณลุงเป็นคุณพ่อของนีน่าเหรอคะ” นีน่ามีสีหน้าดีใจอย่างเห็นได้ชัดพร้อมหันไปถามคนที่ขับรถอยู่อีกรอบว่าเขานั้นเป็นพ่อของเธอจริงๆใช่หรือไม่
“ใช่สิคะ...นีน่าอยากมีคุณพ่อไหมเอ่ย” โดมินิคอมยิ้มให้กับความน่ารักของลูกสาวที่ดูดีใจจนออกนอกหน้าพร้อมลองแกล้งถามลูกสาวของเขาว่าเธอนั้นอยากมีพ่อหรือไม่เพราะเขาต้องการให้นีน่าตอบตอนที่มีหญิงสาวอยู่ด้วยแบบนี้เธอจะได้รู้ว่า แท้จริงแล้วนีน่ารู้สึกอย่างไร
“อยากมีสิคะเพื่อนๆจะได้ไม่ขำนีน่าอีกแล้ว” เด็กหญิงส่งเสียงพูดออกมาด้วยความดีใจและหัวเราะตามประสาเด็กแต่คนที่ขำไม่ออกเห็นจะเป็นมีนชญามากกว่า
โดมินิคได้ยินที่ลูกสาวของเขาพูดก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกสาวของเขาเจอมาแต่ก็ยังปั้นหน้ายิ้มพร้อมใช้มือลูบหัวลูกสาวของเขาพลันสายตาก็เหลือบไปมองหญิงสาวอย่างขุ่นเคืองเป็นการตอกย้ำให้เธอได้รู้ว่าเรื่องนี้เธอผิดเต็มๆ
“คุณแม่แกะให้นีน่าหน่อยสิคะ”
“นี่ค่ะ...ทิชชู่ด้วยค่ะ” หลังจากที่ดีใจไปได้ครู่หนึ่งที่รู้ว่าตัวเองมีพ่อแล้วตามประสาเด็กๆนีน่าก็หันมาสนใจกับไอติมแท่งในมือต่อพร้อมบอกให้แม่ของเธอแกะให้
มีนชญาฉีกห่อไอติมแท่งออกพร้อมส่งให้ที่มือของลูกสาวเธอและหยิบทิชชู่ที่ซื้อมาด้วยในร้านสะดวกซื้อแกะม้วนใส่มือของนีน่าไว้อีกข้างเธอทำแบบนี้เป็นประจำเพราะเธอหัดให้ลูกสาวของเธอดูแลความสะอาดของตัวเองจนติดเป็นนิสัย
บ้านมีนชญา
โดมินิคเป็นคนอุ้มลูกสาวตัวกลมของเขาเข้ามาในบ้านพร้อมนั่งบนโซฟาคุยกับลูกสาวของเขาอย่างสบายใจโดยที่ไม่ได้สนใจมีนชญาที่คอยเอาแต่นั่งจ้องเขาไม่คลาดสายตาอยู่เงียบๆ
“แดดดี๊ไปอยู่ที่ไหนมาเหรอคะทำไมพึ่งกลับมาหานีน่า” เด็กหญิงตัวกลมที่คนเป็นพ่ออุ้มอยู่บนตักเธออยากรู้เหมือนกันว่าคนเป็นพ่อหายไปไหนมาตั้งนานเพราะเธอก็ไม่เคยเห็นคนเป็นแม่พูดถึงพ่ออีกด้วย
“เอ่อ...แดดดี๊ไปทำงานไงคะแดดดี๊มีงานเยอะพึ่งจะได้กลับมาหานี่น่านี่แหละค่ะ” โดมินิคจำต้องโกหกลูกสาวของเขาเพราะเหตุจำเป็นเขาอยากจะอยู่กับลุกสาวของเขาทุกช่วงเวลาใจจะขาดแต่มันก็ไม่สามารถเป็นไปได้ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งนึกขุ่นเคืองหญิงสาวอยู่ร่ำไป
“แสดงว่าตอนนี้แดดดี๊จะกลับมาอยู่กับนีน่าแล้วใช่ไหมคะ” นีน่าถึงกับหันหน้าไปมองคนเป็นพ่ออย่างยิ้มร่าเพราะคิดว่าพ่อของเธอมาหาได้ก็เพราะว่าเสร็จงานแล้วเด็กหญิงดีใจและคิดว่าต่อจากนี้เธอก็จะได้อยู่กับพ่อของเธอตลอดจึงถามย้ำคนเป็นพ่อให้แน่ใจ
“ใช่ค่ะ...แดดดี๊จะอยู่กับนีน่าตลอดไปเลย”
“เย่ๆๆ..” นีน่าดีใจกระโดดโลดเต้นยกใหญ่ที่รู้ว่าคนเป็นพ่อจะมาอยู่ด้วยแต่ภาพตรงหน้ามันทำให้มีนชญานั้นปวดหัวใจอยู่ไม่น้อยเธอไม่เคยเห็นลูกดีใจขนาดนี้มาก่อนที่ผ่านมาเธอไม่เคยเติมเต็มความสุขเรื่องครอบครัวให้ลูกได้เลยสินะหญิงสาวคิดในใจ
“นี่มันก็จะเย็นแล้วเธอไม่ไปทำอะไรให้ลูกทานหรือยังไง” โดมินิคเห็นว่านี่มันก็เริ่มจะเย็นแล้วเลยลองถามหญิงสาวดูว่าเธอนั้นไม่คิดจะไปหาอะไรให้ลูกทานหรืออย่างไรเขาเห็นหญิงสาวเอาแต่นั่งจ้องเขากับลูกอยู่ได้เขารู้ว่าเธอกลัวว่าเขานั้นจะพรากลูกสาวออกจากอกเธอแต่ถ้าเขาจะทำแบบนั้นเขาคงไม่มานั่งอยู่ที่นี่กับลูกหรอกและการที่เธอมานั่งจ้องอยู่ก็คงจะขวางอะไรเขาไม่ได้ด้วย
“เอ่อ...คือ...” มีนชญาถึงกับพูดไม่ออกจะเดินออกไปก็กลัวว่าเขาจะพาลูกหนีอีกใจมันก็จริงอย่างที่เขาบอกตอนนี้มันก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องทำอาหารเย็นไว้ให้ลูกของเธอแล้วด้วย“ฉันไม่ไปไหนหรอก...นี่กุญแจ” โดมินิครู้ว่าหญิงสาวนั้นคิดอะไรอยู่เขาจึงมองจ้องไปที่หน้าของหญิงสาวพร้อมบอกให้เธอได้ฟังชัดๆว่าเขานั้นจะไม่ไปไหนให้เธอนั้นสบายใจได้พร้อมส่งกุญแจรถหรูวางไว้ที่โต๊ะหน้าโซฟาให้เธอมาหยิบอีกต่างหากเพื่อให้หญิงสาวแน่ใจว่าเขาไม่ได้โกหกเธอ“อืม...เอ่อ...คุณนิคจะทานอะไหมคะเดี๋ยวมีนทำให้ค่ะ” มีนชญาเดินมาหยิบกุญแจรถของชายหนุ่มเอาไว้เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อนพร้อมเดินตรงไปที่ครัวแต่เธอก็ต้องชะงักนิดหน่อยเพราะเธอคิดว่าวันนี้เธอก็คงจะต้องทำอาหารเผื่อพ่อของลูกของเธอด้วยจึงถามเขาขึ้นว่าเขานั้นจะทานอะไรอย่างน้อยตอนนี้เขายังใจดีไม่พาลูกหนีไปจากเธอหญิงสาวคิดว่าควรที่จะสร้างไมตรีที่ดีกับชายหนุ่มเอาไว้เผื่อว่าเรื่องที่เธอจะคุยกับเขานั้นง่ายขึ้น“เธอก็รู้ว่าฉันชอบทานอะไร”โดมินิคหันไปบอกหญิงสาวที่ยืนรอคำตอบจากเขาอยู่ว่าเธอรู้ว่าเขานั้นชอบอะไรในใจชายหนุ่มก็อยากจะรู้ว่าเธอนั้นยังจำเรื่องราวตอนที่อยู่กับเขาอยู่ได้หรือเ
“ค่ะ...วันนี้น่าจะเล่นเยอะจนเพลีย” มีนชญาลุกออกมาจากเตียงพร้อมบอกกับชายหนุ่มว่าวันนี้นีน่าค่อนข้างที่จะหลับไวจากการที่เธอเดาน่าจะเป็นเพราะเล่นกับเพื่อนๆที่โรงเรียนมากไปหน่อยเพราะตั้งแต่ไปโรงเรียนก็หลับง่ายแบบนี้มาสองวันแล้ว“เธอมีอะไรหรือเปล่า” โดมินิคทำหน้างอยู่ดีๆหญิงสาวก็เดินมายืนจ้องหน้าของเขาอยู่ที่หน้าประตูใบหน้าแสดงออกถึงการมีเรื่องอะไรในใจจนเขานั้นจำต้องถามเธอขึ้น“มีนขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมคะ”“งั้นเราไปคุยกันข้างนอกดีกว่านะ” โดมินิคดูจากสีหน้าที่จริงจังของหญิงสาวแล้วเขารู้ว่าเรื่องที่เธอต้องการจะคุยกับเขาต้องเป็นเรื่องที่เธอนั้นซีเรียสอย่ามากเป็นแน่เขาจึงดึงมือเธอให้ตามเขามานั่งคุยในห้องหนังสือของเธอที่เขาพึ่งออกมาเมื่อครู่นี้“คุณนิคคะอย่าหาว่ามีนเห็นแก่ตัวเลยนะคะ...คุณอย่าพานีน่าไปจากที่นี่เลยนะคะไม่อย่างนั้นมีนคงอยู่ไม่ได้แน่” เมื่อเข้ามาในห้องได้หญิงสาวก็ยืนก้มหน้าหลับตาพร้อมขอร้องชายหนุ่มอย่างที่ใจเธอคิดอย่างรวดเร็วและยังยืนก้มหน้าบีบมือรอฟังคำตอบจากชายหนุ่มอยู่“ยังไงฉันก็ยืนยันคำเดิมว่าฉันจะพาลูกไปอยู่กับผม....แต่....ฉันเองก็ไม่เคยพูดนี่ว่าไม่ให้เธอตามไปด้วย” โด
“ทำไมจะทำอะไรไม่ได้เธอรักฉัน..แล้วฉันก็รักเธออย่าหลอกตัวเองเลยนะมีนคนเรามันเท่าเทียมกันอย่าดูถูกตัวเองว่าเธอไม่เหมาะสมกับใครอีกอย่างเราก็มีลูกด้วยกันจนสามขวบแล้วด้วยทำไมฉันจะทำแบบนี้กับเธอไม่ได้” โดมินิคเห็นว่าหญิงสาวจอมซื่อบื้อคนนี้คงจะไม่เข้าใจที่เขาพูดเป็นแน่เขาจึงต้องบอกกับเธอตรงๆว่าเขานั้นรู้สึกอย่างไรพร้อมบอกให้เธอได้รู้ด้วยว่าเขาก็รู้ว่าเธอรู้สึกกับเขาเช่นไรเขาไม่อยากให้เธอดูถูกตัวเองเพราะขนาดเขาก็ยังไม่เคยคิดที่จะดูถูกเธอด้วยซ้ำอีกอย่างมันก็จะดีต่อลูกอีกด้วยถ้าทั้งเขาและเธอหันหน้าปรับความเข้าใจกัน“อะไรนะคะ...อื้มมมม” มีนชญารู้สึกอึ้งเล็กน้อยเมื่อล่วงรู้ว่าชายหนุ่มนั้นคิดกับเธอเช่นไรในขณะที่เธอยังอึ้งอยู่นั้นชายหนุ่มก็ไม่ปล่อยให้เสียจังหวะเขาพยายามบดจูบหญิงสาวเรียกอารมณ์รักของเธอออกมาเพราะเขานั้นโหยหาร่างกายนี้มานานแสนนานต่อไปนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยแม่เมียตัวแสบคนนี้ไปเด็ดขาด“คุณนิค...อื้อ...” มีนชญาถึงกับครางเสียงกระเส่าเพราะชายหนุ่มจูบวนอยู่ที่ลำคอระหงของเธออย่างนุ่มนวลไล่ลงไปที่สองเต้างามสลับกันดูดคลึงเล่นกับมืออย่างสนุกและมอบความเสียวซ่านให้กับหญิงสาวได้อย่างดีโดมินิค
“ที่นี่ยังเหมือนเดิมเลยนะแถมร่มรื่นกว่าเดิมอีก” โดมินิคขับรถเลี้ยวเข้ามาในรั้วบ้านที่เปิดเป็นร้านดอกไม้เขาก็จำได้ทันทีว่าที่นี่นั้นเคยเป็นบ้านของเขามาก่อนเมื่อลงจากรถสำรวจดูรอบๆเขาก็รู้สึกชอบที่นี่มากกว่าเดิมเสียอีกเพราะมันทั้งร่มรื่นและมีดอกไม้ต่างๆปลูกรอบๆบ้านเป็นภาพที่สวยงามเป็นอาหารตาแก่เขามากที่ได้มาเห็นอะไรแบบนี้ในตอนเช้าๆ“คุณนิคเคยมาที่ด้วยเหรอคะ” มีนชญาเห็นว่าชายหนุ่มพูดจาแปลกๆเหมือนเคยมที่นี่ยังไงยังงั้นจึงถามเขาขึ้นให้คลายสงสัย“บ้านหลังนี้เป็นของฉันเอง...ฉันปล่อยขายเมื่อห้าปีที่แล้วโลกกลมจังเลยเนอะ” โดมินิคหันมายิ้มให้กับหญิงสาวพร้อมบอกกับเธอว่าบ้านหลังนี้เป็นของเขาเองและคนที่ซื้อในตอนนั้นก็เป็นหญิงสาวตรงหน้าเขาคนนี้เขาไม่แปลกใจที่ทำไมหญิงสาวไม่รู้ก็เพราะว่าเขาไม่ได้ใช้ชื่อของเขาเองเป็นเจ้าของบ้านเขาคิดว่าโลกนี้มันช่างกลมเหลือเกินหรือไม่มันก็เป็นพรหมลิขิตที่ขีดมาให้เขาและเธอได้เจอกันที่ทำให้คนสองคนที่แสนจะแตกต่างกันมาเติมเต็มกันและกันได้“บังเอิญจังเลยนะคะ” มีนชญารู้สึกว่าเรื่องนี้มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญเสียจริงเธอซื้อบ้านหลังนี้ก่อนที่จะวางแผนไปทำงานที่บ้านของเข
เช้าวันต่อมาตั้งแต่เมื่อคืนมีนชญาก็ตึงใส่โดมินิคอยู่ตลอดจนชายหนุ่มนั้นเริ่มอึดอัดแต่เขาเองก็ยังท้อไม่ได้ตอนเช้าเมื่อถึงเวลาอาหารเขาจึงออกมานั่งที่หลังบ้านเพราะไม่อยากให้หญิงสาวทานข้าวไม่อร่อยเมื่อเห็นหน้าของเขา“แดดดี๊ขาคุณแม่บอกให้นีน่ามาตามแดดดี๊ไปทานข้าวเช้าค่ะ”“โอเคค่ะ” เมื่อได้ยินเสียงแหลมๆของลูกสาวตัวกลมของเขาชายหนุ่มก็ถึงกับยิ้มออกที่อย่างน้อยถึงหญิงสาวจะไม่คุยกับเขาก็ยังมีลูกสาวของเขานี่แหละที่คอยเป็นตัวกลางได้และตอนนี้เขาก็รู้ว่าหญิงสาวนั้นยังมีแอบเป็นห่วงเขาอยู่บ้างถึงแม้จะใช้ลูกมาก็เถอะ“ข้าวต้มฝีมือคุณแม่อร่อยมากเลยนะคะนีน่า”“ใช่ค่ะแดดดี๊”“เอ..ข้าวต้มนี้ใส่อะไรลงไปบ้างน้า”“ใส่กุ้ง...ไงคะแดดดี๊”โดมินิคมานั่งร่วมโต๊ะอาหารเช้าแต่เขาเองก็ได้ยินแต่เสียงของนีน่าลูกสาวของเขาอยู่คนเดียวส่วนคนเป็นแม่นั้นก็เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จาขนาดหน้าของเขาเธอยังไม่คิดที่จะหันมามองเลยสักนิดเดียวเขาจึงต้องหาเรื่องคุยกับนีน่าเพื่อที่จะให้หญิงสาวนั้นได้ร่วมวงสนทนาด้วยแต่กลับเป็นลูกสาวของเขาพูดทุกอย่างเสียเองมีนชญาเห็นสีหน้าของชายหนุ่มเธอเองก็อดขำในใจไม่ได้พร้อมบอกตัวเองว่าห้ามขำออกมาเด
“แล้วคุณ....” รวิชแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นชายหนุ่มฝรั่งร่างสูงยืนอยู่ที่หลังของหญิงสาวว่าเขานั้นเป็นใคร“เอ่อ...ผมเป็นพ่อของนีน่าสามีของมีนครับ” โดมินิคถือโอกาสแนะนำตัวเองกับหมอหนุ่มโดยการดึงไหล่ของหญิงสาวเข้าไปกอดแสดงความเป็นเจ้าของเพราะเขานั้นไม่ชอบใจในสรรพนามที่ทั้งสองเรียกแทนตัวเองกันสักเท่าไรมันดูสนิทสนมกันเกินหน้าเกินตา“อ่อ...ครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”“เช่นกันครับ”รวิชเองดูอาการของอีกฝ่ายออกว่ากำลังหึงภรรยาสาวอยู่เป็นแน่แต่เขาก็ทำตัวทักทายอีกฝ่ายปกติเพราะเขาไม่ได้คิดอะไรกับหญิงสาวเขาเห็นเธอเป็นน้องสาวคนนึงเพราะตั้งแต่ที่มีนชญาท้องก็มาหาปรึกษาเขาตลอดจึงทำให้เขากับเธอนั้นสนิทกัน5นาทีต่อมา“นีน่าไข้สูงเหมือนกันนะ...เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่ฉีดยาให้แล้วก็เช็ดตัวดูอาการอยู่ที่นี่สักครึ่งชั่วโมง”“ค่ะพี่หมอ”เมื่อดูอุณหภูมิร่างกายของหนูน้อยที่นอนอยู่บนเตียงแล้วหมอนุ่มเองคิดว่าจะต้องฉีดยาเพราะให้ทานยากับเช็ดตัวคงไม่ทันแน่เพราะว่าอุณหภูมิสูงขนาดนี้อาจจะทำให้ชักได้“คุณแม่ขาไม่ฉีดยา...ฮือๆๆๆ”“ไม่ฉีดไม่ได้หรือไงครับหมอ” เด็กหญิงตัวกลมที่นอนซึมอยู่บนเตียงได้ยินเสียงของลุงหมอของเธอบอกว่าต
“ฉันอยากให้เธอเรียกฉันเหมือนที่เรียกไอ้หมอนั่น” เมื่อดึงหญิงสาวออกมานอกห้องได้แล้วโดมินิคก็พูดเรื่องความต้องการของเขาทันทีเขาอยากให้เอเรียกเขาแบบสนิทสนมเหมือนกับที่เธอนั้นเรียกหมอรวิชเพราะเขาไม่อยากให้เธอนั้นดูสนิทกับผู้ชายคนไหนมากไปกว่าตัวเขาเอง“หมอนั่น...พี่หมอน่ะเหรอคะ...มีนเรียกคุณนิคแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วค่ะ” มีนชญาไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มนั้นจะมาหาเรื่องอะไรเธอกับเรื่องที่มันไม่เป็นเรื่องด้วยจู่ๆชายหนุ่มก็มาอยากให้เธอเรียกเขาแบบที่เธอเรียกหมอรวิชเสียแบบนั้นเธอรู้สึกว่าเธอเรียกเขาแบบเดิมมันก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรนอกจากตอนนี้ชายหนุ่มจะทำให้มันเป็นปัญหาเสียเอง“ไม่ได้เธอต้องเรียกฉันว่าพี่นิค” โดมินิคต้องใช้ลูกบังคับเมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั้นไม่ยอมทำตามที่เขาสั่งแต่โดยดี“ทำไมต้องบังคับมีนด้วยคะ” มีนชญาไม่เห็นว่าเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องแบบนี้เขาจะต้องมาบังคับเธอด้วยตอนนี้เธอเลยมีสีหน้าที่ไม่พอใจอยู่เหมือนกัน“จะเรียกไหม” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังไม่ยอมทำตามที่เขาบอกแถมยังถียงเขาไม่ขาดคำเขาจึงต้องใช้ไม้เด็ดในการทำให้เธอยอมแต่โดยดีโดยการใช้มือทั้งสองของเขาจับไปที่ใบหน้าของหญิงสาวรั้งให้ใบหน้าเ
เช้าวันต่อมามีนชญากำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัวส่วนสองพ่อลูกก็พากันไปนั่งเล่นที่ในสวนหลังบ้านวันนี้นีน่าไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะยังต้องดูอาการก่อนว่าไข้จะไม่ขึ้นมาอีก“อะไรกันเนี่ย” หลังจากที่ทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็หยิบหนังสือพิมพ์มาอ่านเป็นแบบนี้ทุกวันแล้วเธอก็ต้องเจอข่าวที่ทำให้เธอตกใจเพราะมีรูปของเธอกับนีน่าอยู่ในหนังสือพิมพ์อีกด้วย“นักธุรกิจหนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีแอบซุกลูกกับเมียมาสามปีเต็มๆทำไฮโซสาวหน้าแหกที่เกือบจะเป็นเมียน้อยโดยไม่รู้ตัวโดยชายหนุ่มให้สัมภาษณ์กับทุกสื่อว่าเขาเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานกับไฮโซสาวเท่านั้นและกำลังจะจัดงานแต่งกับภรรยาของเขาเร็วๆนี้อีกด้วย” เมื่อมีนชญากวาดสายตาอ่านข้อความอย่างรวดเร็วเธอถึงกับต้องรีบวิ่งไปหาชายหนุ่มที่หลังบ้านทันทีเพราะค่อนข้างตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่เรื่องของเธอไปเป็นข่าวได้อย่างไร“คุณนิคคะ...ข่าวนี้มันมาได้ยังไงคะแล้วทำไมมีรูปเราเมื่อวานด้วย” มีนชญารีบยื่นหนังสือพิมพ์ให้ชายหนุ่มอ่านอย่างเร่งรีบเพราะเธอคิดว่าเขาอาจจะตกใจกับข่าวนี้เหมือนกันเพราะมันทำให้ภาพพจน์ของเขาเสียหายอีกอย่างในข่าวก็แอบอ้างว่าเขาเป็นคนให้สัมภาษณ์เองทั้งที่มั