“ที่นี่ยังเหมือนเดิมเลยนะแถมร่มรื่นกว่าเดิมอีก” โดมินิคขับรถเลี้ยวเข้ามาในรั้วบ้านที่เปิดเป็นร้านดอกไม้เขาก็จำได้ทันทีว่าที่นี่นั้นเคยเป็นบ้านของเขามาก่อนเมื่อลงจากรถสำรวจดูรอบๆเขาก็รู้สึกชอบที่นี่มากกว่าเดิมเสียอีกเพราะมันทั้งร่มรื่นและมีดอกไม้ต่างๆปลูกรอบๆบ้านเป็นภาพที่สวยงามเป็นอาหารตาแก่เขามากที่ได้มาเห็นอะไรแบบนี้ในตอนเช้าๆ
“คุณนิคเคยมาที่ด้วยเหรอคะ” มีนชญาเห็นว่าชายหนุ่มพูดจาแปลกๆเหมือนเคยมที่นี่ยังไงยังงั้นจึงถามเขาขึ้นให้คลายสงสัย
“บ้านหลังนี้เป็นของฉันเอง...ฉันปล่อยขายเมื่อห้าปีที่แล้วโลกกลมจังเลยเนอะ” โดมินิคหันมายิ้มให้กับหญิงสาวพร้อมบอกกับเธอว่าบ้านหลังนี้เป็นของเขาเองและคนที่ซื้อในตอนนั้นก็เป็นหญิงสาวตรงหน้าเขาคนนี้
เขาไม่แปลกใจที่ทำไมหญิงสาวไม่รู้ก็เพราะว่าเขาไม่ได้ใช้ชื่อของเขาเองเป็นเจ้าของบ้านเขาคิดว่าโลกนี้มันช่างกลมเหลือเกินหรือไม่มันก็เป็นพรหมลิขิตที่ขีดมาให้เขาและเธอได้เจอกันที่ทำให้คนสองคนที่แสนจะแตกต่างกันมาเติมเต็มกันและกันได้
“บังเอิญจังเลยนะคะ” มีนชญารู้สึกว่าเรื่องนี้มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญเสียจริงเธอซื้อบ้านหลังนี้ก่อนที่จะวางแผนไปทำงานที่บ้านของเขาเสียอีกและบ้านหลังนี้หลังจากมี่เธอทำเป็นร้านดอกไม้ก็ทำเงินให้เธอได้มากมายภายในเวลาไม่กี่เดือนในตอนนั้นอีกด้วย
“ไม่ใช่บังเอิญหรอกเป็นพรมลิขิตมากกว่า” โดมินิคเดินเข้ามาใกล้กับหญิงสาวพร้อมโอบไหล่ของเธอและก้มลงมากระซิบข้างหูของหญิงสาวจนตอนนี้เธอนั้นหน้าแดงกล่ำไปหมดแล้ว
“เดี๋ยวนี้คุณนิคหัดพูดจาหวานๆแบบนี้เป็นตั้งแต่เมื่อไรคะเนี่ย...มีนขนลุก” มีนชญารู้สึกเขินอย่างมากเพราะเธอไม่คิดว่าคนอย่างชายหนุ่มนั้นจะมีโมเม้นที่พูดหวานๆแบบนี้ด้วยหญิงสาวเลยแก้เขินทำเป็นขนลุกทนฟังไม่ได้พร้อมเดินหนีชายหนุ่มเข้าไปในบ้านเดินไปหาลูกสาวของเธอที่นั่งเล่นอยู่ในบ้านทันที
“เดี๋ยวสิมีน...” โดมินิคถึงกับหน้าเหวอที่เขาคิดที่จะพูดหวานๆแบบนี้เป็นครั้งแรกแต่หญิงสาวกลับเดินหนีเขาเสียอย่างนั้นจนตอนนี้เขาต้องยืนเกาหัวแกรกๆแก้เขินตัวเองเหมือนกันที่กล้าพูดออกไปแบบนั้น
“เรากลับบ้านกันเถอะค่ะจะได้เวลานีน่านอนกลางวันแล้ว” หลังจากที่อยู่ที่นี่ได้พักใหญ่นีน่าเองก็เล่นที่สวนหลังบ้านกับคนเป็นพ่อมาก็จะบ่ายแล้วหญิงสาวจึงชวนทั้งสองกลับบ้านเพราะยังไม่ได้ทานอาหารกลางวันกันอีกอย่างมันก็จะได้เวลานอนของนีน่าแล้วด้วย
บ้านมีนชญา
เมื่อกลับมาถึงบ้านทั้งสามก็ทานอาหารกลางวันกันตามปกติเมื่อทานเสร็จเรียบร้อยแล้วนีน่าก็จะดูทีวีไปพลางๆก่อนนอนเพื่อรอคนเป็นแม่เก็บจานข้าวไปล้างให้เรียบร้อยแล้วจึงมากล่อมนีน่านอน
“นีน่าขาเลิกดูทีวีได้หรือยังคะมานอนกันดีกว่าค่ะ” มีนชญาเคลียร์ทุกอย่างในครัวเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงออกมาจากครัวเพื่อเรียกลูกสาวของเธอเข้าห้องไปนอน
“นีน่าเห็นแดดดี๊ในทีวีด้วยค่ะ” เด็กหญิงตะโกนบอกคนเป็นแม่ว่าเธอนั้นเห็นคนเป็นพ่อออกทีวีและทำท่าดีใจยกใหญ่
“ไหนคะ....อะ...เอ่อ..ปิดทีวีแล้วไปนอนดีกว่านะคะ” มีนชญาเห็นดังนั้นเลยรีบเข้าไปดูที่ทีวีที่ลูกสาวของเธอบอกว่าเห็นคนเป็นพ่อหญิงสาวไม่ทันได้ฟังอะไรที่นักข่าวพูดนักเธอจับใจความได้แค่ว่าเคธี่แฟนสาวของนักธุรกิจหนุ่มเปิดตัวว่าหมั้นกันหลังซุ่มคบกันอยู่นาน
และขึ้นรูปเก่าของทั้งสองที่มีภาพหลุดด้วยกันหญิงสาวรีบปิดทีวีโดยเร็วเพราะกลัวว่านีน่าจะสงสัยดีที่นักข่าวไม่พูดชื่อว่าชายหนุ่มนักธุรกิจคนนั้นชื่ออะไร
โดมินิคเองเข้ามาปิดทีวีไม่ทันเพราะเขาพึ่งจะเดินเข้ามาในบ้านเมื่อครู่ที่เขาเปิดทีวีให้นีน่ายังเป็นการ์ตูนอยู่เลยเผลอแปปเดียวมีข่าวแทรกเสียอย่างนั้น เมื่อเข้ามาก็เห็นหญิงสาวนั้นยืนจ้องข่าวนั้นอยู่แล้วเขาไม่รู้ว่าข่าวนี้มันออกมาได้ยังไงเพราะมันไม่มีมูลความจริงเลยสักนิด
หลังจากที่หญิงสาวปิดทีวีแล้วพาลูกสาวของเขาไปนอนด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยเขาจับสีหน้าของเธอออกว่าตอนนี้เธอคงโกรธเขาเป็นแน่ชายหนุ่มรู้ว่าหากเข้าไปคุยกับหญิงสาวตอนนี้คงไม่สะดวกสักเท่าไรคงต้องรอให้นีน่าหลับเสียก่อน
1 ชั่วโมงต่อมา
“มีนในข่าวนั้นมันไม่ใช่เรื่องจริงนะ” หลังจากที่เห็นหญิงสาวออกมาจากในห้องโดมินิคก็เดินไปหาเธอเพื่ออธิบายเรื่องที่เธอได้รับรู้ให้ฟังทันทีว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงเพราะเขาเองก็ไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกันตอนนี้เขาหวังว่าให้หญิงสาวนั้นเชื่อเขาบ้าง
“มีนก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะถ้ามันจริงมันก็เป็นสิทธิ์ของคุณแต่ถ้าหากคุณจะแต่งงานกับคู่หมั้นคุณแล้วมีนขอให้พวกเราอยู่กันตามลำพังนะคะอย่ามายุ่งกับมีนกับลูกอีกเลยมีนเชื่อว่านีน่าคงไม่อยากรับรู้เรื่องแบบนี้เหมือนกัน” ตอนนี้มีนชญายังอยู่ในโหมดที่น้อยใจชายหนุ่มอยู่ใจจริงเธอเชื่อว่าสิ่งที่โดมินิคพูดนั้นเธอสามารถเชื่อถือได้เต็มร้อยเปอร์เซนเพราะเธอเชื่อว่าเขาไม่ได้เป็นคนชอบโกหก
แต่เธอแค่รู้สึกน้อยใจจากข่าวที่ได้ยินมากกว่าแต่ถ้าหากในข่าวนั้นเป็นเรื่องจริงเธอก็อยากขอร้องให้เขานั้นอย่ามายุ่งกับเธอและลูกอีกเพราะเธอไม่อยากให้นีน่าได้รับรู้ปัญหารักๆใคร่ๆของผู้ใหญ่เมื่อพูดจบเธอก็เดินหนีชายหนุ่มเข้าไปในห้องหนังสือทันที
“โถ่มีน...มีน” โดมินิคพยายามรั้งมือของหญิงสาวเอาไว้แล้วแต่ก็ไม่ทันตอนนี้เขาคงต้องปล่อยให้เธออยู่คนเดียวสักพักเพราะตอนนี้เขานั้นต้องสะสางเรื่องนี้ให้จบโดยเร็วเขาไม่เข้าใจว่าเคธี่ทำแบบนี้เพื่ออะไรแต่ถ้ากับเขาขนาดนี้แล้วก็อย่าหวังว่าตอนนี้เขาจะไว้หน้าเธอเลยแม้จะต้องมีปัญหากับมาตินเขาก็ยอมตอนนี้เขาสนใจแต่ความรู้สึกของคนในครอบครัวเขาเป็นที่สุด
Rrrrrrrrr
“ครับนาย”
“จัดการอะไรให้ฉันหน่อย”
“ผมจะรีบจัดการให้เร็วที่สุดครับ”
“ดีแล้วฉันจะรอฟังข่าว” โดมินิคโทรสั่งชอวให้จัดการเรื่องที่เขานั้นกังวลใจในตอนนี้ให้เร็วที่สุดอีกไม่นานทุกอย่างก็คงจะชัดเจนเองตอนนี้เขาเองก็แค่รอเวลาเท่านั้น
เช้าวันต่อมาตั้งแต่เมื่อคืนมีนชญาก็ตึงใส่โดมินิคอยู่ตลอดจนชายหนุ่มนั้นเริ่มอึดอัดแต่เขาเองก็ยังท้อไม่ได้ตอนเช้าเมื่อถึงเวลาอาหารเขาจึงออกมานั่งที่หลังบ้านเพราะไม่อยากให้หญิงสาวทานข้าวไม่อร่อยเมื่อเห็นหน้าของเขา“แดดดี๊ขาคุณแม่บอกให้นีน่ามาตามแดดดี๊ไปทานข้าวเช้าค่ะ”“โอเคค่ะ” เมื่อได้ยินเสียงแหลมๆของลูกสาวตัวกลมของเขาชายหนุ่มก็ถึงกับยิ้มออกที่อย่างน้อยถึงหญิงสาวจะไม่คุยกับเขาก็ยังมีลูกสาวของเขานี่แหละที่คอยเป็นตัวกลางได้และตอนนี้เขาก็รู้ว่าหญิงสาวนั้นยังมีแอบเป็นห่วงเขาอยู่บ้างถึงแม้จะใช้ลูกมาก็เถอะ“ข้าวต้มฝีมือคุณแม่อร่อยมากเลยนะคะนีน่า”“ใช่ค่ะแดดดี๊”“เอ..ข้าวต้มนี้ใส่อะไรลงไปบ้างน้า”“ใส่กุ้ง...ไงคะแดดดี๊”โดมินิคมานั่งร่วมโต๊ะอาหารเช้าแต่เขาเองก็ได้ยินแต่เสียงของนีน่าลูกสาวของเขาอยู่คนเดียวส่วนคนเป็นแม่นั้นก็เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จาขนาดหน้าของเขาเธอยังไม่คิดที่จะหันมามองเลยสักนิดเดียวเขาจึงต้องหาเรื่องคุยกับนีน่าเพื่อที่จะให้หญิงสาวนั้นได้ร่วมวงสนทนาด้วยแต่กลับเป็นลูกสาวของเขาพูดทุกอย่างเสียเองมีนชญาเห็นสีหน้าของชายหนุ่มเธอเองก็อดขำในใจไม่ได้พร้อมบอกตัวเองว่าห้ามขำออกมาเด
“แล้วคุณ....” รวิชแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นชายหนุ่มฝรั่งร่างสูงยืนอยู่ที่หลังของหญิงสาวว่าเขานั้นเป็นใคร“เอ่อ...ผมเป็นพ่อของนีน่าสามีของมีนครับ” โดมินิคถือโอกาสแนะนำตัวเองกับหมอหนุ่มโดยการดึงไหล่ของหญิงสาวเข้าไปกอดแสดงความเป็นเจ้าของเพราะเขานั้นไม่ชอบใจในสรรพนามที่ทั้งสองเรียกแทนตัวเองกันสักเท่าไรมันดูสนิทสนมกันเกินหน้าเกินตา“อ่อ...ครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”“เช่นกันครับ”รวิชเองดูอาการของอีกฝ่ายออกว่ากำลังหึงภรรยาสาวอยู่เป็นแน่แต่เขาก็ทำตัวทักทายอีกฝ่ายปกติเพราะเขาไม่ได้คิดอะไรกับหญิงสาวเขาเห็นเธอเป็นน้องสาวคนนึงเพราะตั้งแต่ที่มีนชญาท้องก็มาหาปรึกษาเขาตลอดจึงทำให้เขากับเธอนั้นสนิทกัน5นาทีต่อมา“นีน่าไข้สูงเหมือนกันนะ...เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่ฉีดยาให้แล้วก็เช็ดตัวดูอาการอยู่ที่นี่สักครึ่งชั่วโมง”“ค่ะพี่หมอ”เมื่อดูอุณหภูมิร่างกายของหนูน้อยที่นอนอยู่บนเตียงแล้วหมอนุ่มเองคิดว่าจะต้องฉีดยาเพราะให้ทานยากับเช็ดตัวคงไม่ทันแน่เพราะว่าอุณหภูมิสูงขนาดนี้อาจจะทำให้ชักได้“คุณแม่ขาไม่ฉีดยา...ฮือๆๆๆ”“ไม่ฉีดไม่ได้หรือไงครับหมอ” เด็กหญิงตัวกลมที่นอนซึมอยู่บนเตียงได้ยินเสียงของลุงหมอของเธอบอกว่าต
“ฉันอยากให้เธอเรียกฉันเหมือนที่เรียกไอ้หมอนั่น” เมื่อดึงหญิงสาวออกมานอกห้องได้แล้วโดมินิคก็พูดเรื่องความต้องการของเขาทันทีเขาอยากให้เอเรียกเขาแบบสนิทสนมเหมือนกับที่เธอนั้นเรียกหมอรวิชเพราะเขาไม่อยากให้เธอนั้นดูสนิทกับผู้ชายคนไหนมากไปกว่าตัวเขาเอง“หมอนั่น...พี่หมอน่ะเหรอคะ...มีนเรียกคุณนิคแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วค่ะ” มีนชญาไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มนั้นจะมาหาเรื่องอะไรเธอกับเรื่องที่มันไม่เป็นเรื่องด้วยจู่ๆชายหนุ่มก็มาอยากให้เธอเรียกเขาแบบที่เธอเรียกหมอรวิชเสียแบบนั้นเธอรู้สึกว่าเธอเรียกเขาแบบเดิมมันก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรนอกจากตอนนี้ชายหนุ่มจะทำให้มันเป็นปัญหาเสียเอง“ไม่ได้เธอต้องเรียกฉันว่าพี่นิค” โดมินิคต้องใช้ลูกบังคับเมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั้นไม่ยอมทำตามที่เขาสั่งแต่โดยดี“ทำไมต้องบังคับมีนด้วยคะ” มีนชญาไม่เห็นว่าเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องแบบนี้เขาจะต้องมาบังคับเธอด้วยตอนนี้เธอเลยมีสีหน้าที่ไม่พอใจอยู่เหมือนกัน“จะเรียกไหม” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังไม่ยอมทำตามที่เขาบอกแถมยังถียงเขาไม่ขาดคำเขาจึงต้องใช้ไม้เด็ดในการทำให้เธอยอมแต่โดยดีโดยการใช้มือทั้งสองของเขาจับไปที่ใบหน้าของหญิงสาวรั้งให้ใบหน้าเ
เช้าวันต่อมามีนชญากำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัวส่วนสองพ่อลูกก็พากันไปนั่งเล่นที่ในสวนหลังบ้านวันนี้นีน่าไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะยังต้องดูอาการก่อนว่าไข้จะไม่ขึ้นมาอีก“อะไรกันเนี่ย” หลังจากที่ทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็หยิบหนังสือพิมพ์มาอ่านเป็นแบบนี้ทุกวันแล้วเธอก็ต้องเจอข่าวที่ทำให้เธอตกใจเพราะมีรูปของเธอกับนีน่าอยู่ในหนังสือพิมพ์อีกด้วย“นักธุรกิจหนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีแอบซุกลูกกับเมียมาสามปีเต็มๆทำไฮโซสาวหน้าแหกที่เกือบจะเป็นเมียน้อยโดยไม่รู้ตัวโดยชายหนุ่มให้สัมภาษณ์กับทุกสื่อว่าเขาเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานกับไฮโซสาวเท่านั้นและกำลังจะจัดงานแต่งกับภรรยาของเขาเร็วๆนี้อีกด้วย” เมื่อมีนชญากวาดสายตาอ่านข้อความอย่างรวดเร็วเธอถึงกับต้องรีบวิ่งไปหาชายหนุ่มที่หลังบ้านทันทีเพราะค่อนข้างตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่เรื่องของเธอไปเป็นข่าวได้อย่างไร“คุณนิคคะ...ข่าวนี้มันมาได้ยังไงคะแล้วทำไมมีรูปเราเมื่อวานด้วย” มีนชญารีบยื่นหนังสือพิมพ์ให้ชายหนุ่มอ่านอย่างเร่งรีบเพราะเธอคิดว่าเขาอาจจะตกใจกับข่าวนี้เหมือนกันเพราะมันทำให้ภาพพจน์ของเขาเสียหายอีกอย่างในข่าวก็แอบอ้างว่าเขาเป็นคนให้สัมภาษณ์เองทั้งที่มั
“เรื่องทั่วไปนั่นแหละ” แน็ทตี้เห็นกอหญ้าเดินเข้ามาก็ตอบคำถามเพื่อนสาของเขาว่าที่คุยกันมันก็เป็นเร่องทั่วไปตามประสาเพื่อนที่นานๆเจอกันและจะมีเวลาคุยกันแบบนี้นานๆเสียทีเมื่อกลุ่มเพื่อนนั่งคุยกันได้พักใหญ่ต่างก็แยกย้ายกันไปเดินชมวิวทะเลยามค่ำคืนเพราะงานแต่งของหญิงสาวจัดเป็นคบเพลิงปักอยู่เต็มอ่าวทุกคนเลยเดินไปถ่ายรูปกันตอนนี้ก็เหลือแต่กอหญ้าที่นั่งอยู่กับแน็ทตี้และมีนชญา“ได้คุยกันแบบนี้ก็ดีนะมีนยินดีด้วยนะฉันดีใจที่เห็นแกมีวันนี้นะ” กอหญ้าเองเห็นเพื่อนสาวของเธอมีวันนี้ก็ดีใจที่เรื่องวุ่นๆมันจบลงด้วยดีแถมเพื่อนของเธอก็มีครอบครัวที่มีความสุขอีกด้วย“ขอบใจนะกอหญ้า...ต้องขอบคุณแน็ทตี้ที่ช่วยฉันทำแผนนั้นขึ้นมา”“อุ้ยย”มีนชญาพูดแซวไปถึงวีรกรรมที่ตัวเองและแน็ทตี้รวมกันทำเอาไว้พร้อมหัวเราะออกมาที่ตอนนี้เธอนั้นเห็นว่ามันเป็นเรื่องตลกที่เธอเองนั้นสร้างวีรกรรมสุดน่าปวดหัวนี้มาแน็ทตี้เองได้ยินเรื่องนี้ก็หันหน้าหนีทันทีเพราะเขาก็ไม่ได้อยากร่วมวีรกรรมนี้สักเท่าไรถ้าตอนนั้นไม่เห็นแก่เงิน“อย่าพูดถึงเรื่องนี้นะมีน...ยิ่งพูดฉันก็ยิ่งอยากจะตีแกเล่นอะไรบ้าๆจนวุ่นวายไปหมดดีนะที่วันนี้เรื่องทุกอย่างจบล
อิตาลีบริษัทXXXปังงงงงง“ถ้าทำชุ่ยๆก็อย่าทำมันเลย”“ขอโทษค่ะท่านดิฉันจะรีบไปสรุปให้ใหม่ให้ทันส่งวันนี้ค่ะ” โดมินิคโยนแฟ้มเอกสารบัญชีรายเดือนกระจุยกระจายไปทั่วห้องเพราะไม่พอใจที่มันค่อนข้างที่จะไม่ถูกต้องหลายจุดพร้อมทั้งส่งสายตาที่กำลังไม่พอใจไปยังพนักงานของเขาก่อนจะบอกกับเธอว่าหากไม่ระเอียดรอบคอบในการทำงานขนาดนี้ก็อย่าทำพนักงานสาวกลัวจนหัวหดพร้อมทั้งก้มเก็บแฟ้มเอกสารอย่างรนรานบวกกับที่ถูกประธานหนุ่มว่าเธอจึงจะต้องรีบแก้มาส่งใหม่พนักงานสาวกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกไปด้านนอกด้วยตอนนี้ในห้องกำลังลุกเป็นไฟด้วยโทสะของประธานหนุ่มพนักงานของบริษัทของโดมินิคต่างรู้กันว่าประธานหนุ่มของที่นี่เป็นคนใจดีแต่อย่าให้ได้โมโหเพราะจะเขาสามารถทำลายทุกอย่างได้แต่เขาเองก็ไม่ได้โมโหพร่ำเพรื่อนอกจากจะมีเหตุสะกิดใจเขาก็เท่านั้นเห็นจะเป็นเรื่องความเจ้าระเบียบและละเอียดรอบคอบเสียมากที่ชายหนุ่มเคร่งในเรื่องนี้แบบสุดๆด้วยความที่ชายหนุ่มต้องครอบคลุมธุรกิจทั้งหมดของบ้านตั้งแต่พึ่งเรียนจบใหม่ๆเพราะทั้งพ่อละแม่ของเขาเสียเพราะอุบัติเหตุเขาต้องอยู่กับงานและงานเพียงอย่างเดียวไม่ได้มีชีวิตวัยรุ่นเหมือนคนอื่นจึงทำให้เขาต้อ
“ฉันก็คิดถึงแกเหมือนกัน...เป็นยังไงบ้างสบายใจขึ้นบ้างหรือยัง” กอหญ้าเห็นสีหน้าของเพื่อนสาวเธอก็รู้ได้ในทันทีว่าเพื่อนสาวของเธอนั้นยังทำใจเรื่องแม่ไม่ได้อยู่เป็นแน่“ก็ยังทำใจยากอยู่ฉันเคยอยู่กับแม่มาแค่สองคนตอนนี้ก็เหลือตัวคนเดียวมันหดหู่บอกไม่ถูก” เมื่อได้รับคำถามจากเพื่อนสาวหญิงสาวก็รู้ว่าเพื่อนของเธอนั้นยังคอยห่วงใยเธออยู่เหมือนเดิมพร้อมบอกกับเพื่อนสาวของเธอด้วยความรู้สึกในตอนนี้ว่าเธอนั้นยังทำใจกับเรื่องที่แม่เธอจากไปไม่ได้สักเท่าไร“แอ้ๆ”“ว่าไงจ๊ะ..ทักทายน้าเหรอคนเก่ง” จากที่มีนชญากำลังอยู่ในโหมดซึ้งกับเพื่อนสาวแม่หนูน้อยตัวกลมลูกของกอหญ้าก็ส่งเสียงเรียกมาทางเธอเป็นการทักทาย“อิ่มเอมแกคุยเก่งมากนี่ขนาดแค่หกเจ็ดเดือนนะส่งเสียงไม่หยุดเลย” กอหญ้าก้มมองลูกสาวของเธอในอ้อมอกพร้อมอมยิ้มเอ็นดูที่ลูกสาวเธอนั้นช่างเป็นคนที่คุยเก่งเสียเหลือเกิน“ถ้าฉันมีครอบครัวแบบแกก็คงจะดีกว่านี้เนอะ” มีนชญารู้สึกว่าเพื่อนสาวของเธอในตอนนี้นั้นช่างดูมีความสุขเหลือเกินที่มีครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกอีกอย่างสามีของเพื่อนสาวเธอก็รักเพื่อนเธอมากๆอีกด้วยลูกออกมาก็ยังน่ารักอีกเธออยากเป็นแบบนี้บ้าง
เช้าวันต่อมาห้างสรรพสินค้า“เสร็จเรียบร้อยแล้วแกไปกว่าจะได้เงินนี่หลายขั้นตอนเนอะ” เกือบทั้งวันที่วันนี้มีนชญาไปเดินเรื่องเพื่อจะขึ้นเงินตกเย็นเธอเลยโทรนัดกอหญ้าทานข้าวเพื่อฉลองเมื่อมาถึงห้างเจอหน้าเพื่อนสาวเธอก็ขอแอบบ่นนิดว่าวันนี้มันช่างเหนื่อยเหลือเกิน“ไป..เราไปทานข้าวกัน” กอหญ้าเห็นหน้าที่ดูเหนื่อยๆของเพื่อนสาวเธอจึงเข้าไปกอดคอมีนชญาเหมือนที่ชอบทำกันบ่อยตอนสมัยเรียนพร้อมรั้งคอเพื่อนสาวของเธอเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่แพงมากที่พวกเธอทั้งสองเคยอยากทานกันมากสมัยเรียนแต่เพราะงบไม่พอจนวันนี้ทั้งสองก็ได้มาทานสมใจอยาก“น้องเอมไม่ได้มาด้วยเหรอ” มีนชญาหันไปถามเพื่อนสาวของเธอว่าไม่ได้เอาลูกมาด้วยหรือเพราะเธอเห็นแค่เพื่อนสาวเธอยืนอยู่คนเดียว“อยู่กับพี่อิทน่ะรายนั้นติดลูกแจเลย...ไปเถอะมื้อนี้ฉันเลี้ยงแกเองฉลองที่เพื่อนถูกหวย” กอหญ้าหันไปยิ้มให้กับเพื่อนสาวพร้อมบอกว่าเธอนั้นจะไปไหนมาไหนก็ได้แล้วเพราะสามีเธอนั้นติดลูกมากและสามารถเลี้ยงลูกเองได้โดยที่เธอนั้นไม่ต้องห่วงอะไรมากนักแค่บอกเวลาไปและเวลากลับก็พอละมื้อนี้เธอก็จะเป็นคนเลี้ยงเพื่อนสาวเธอเองเพราะเธอมีเงินพอที่จะเลี้ยงเพื่อนเธ