เช้าวันต่อมา
ห้างสรรพสินค้า
“เสร็จเรียบร้อยแล้วแกไปกว่าจะได้เงินนี่หลายขั้นตอนเนอะ” เกือบทั้งวันที่วันนี้มีนชญาไปเดินเรื่องเพื่อจะขึ้นเงินตกเย็นเธอเลยโทรนัดกอหญ้าทานข้าวเพื่อฉลองเมื่อมาถึงห้างเจอหน้าเพื่อนสาวเธอก็ขอแอบบ่นนิดว่าวันนี้มันช่างเหนื่อยเหลือเกิน
“ไป..เราไปทานข้าวกัน” กอหญ้าเห็นหน้าที่ดูเหนื่อยๆของเพื่อนสาวเธอจึงเข้าไปกอดคอมีนชญาเหมือนที่ชอบทำกันบ่อยตอนสมัยเรียนพร้อมรั้งคอเพื่อนสาวของเธอเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังที่แพงมากที่พวกเธอทั้งสองเคยอยากทานกันมากสมัยเรียนแต่เพราะงบไม่พอจนวันนี้ทั้งสองก็ได้มาทานสมใจอยาก
“น้องเอมไม่ได้มาด้วยเหรอ” มีนชญาหันไปถามเพื่อนสาวของเธอว่าไม่ได้เอาลูกมาด้วยหรือเพราะเธอเห็นแค่เพื่อนสาวเธอยืนอยู่คนเดียว
“อยู่กับพี่อิทน่ะรายนั้นติดลูกแจเลย...ไปเถอะมื้อนี้ฉันเลี้ยงแกเองฉลองที่เพื่อนถูกหวย” กอหญ้าหันไปยิ้มให้กับเพื่อนสาวพร้อมบอกว่าเธอนั้นจะไปไหนมาไหนก็ได้แล้วเพราะสามีเธอนั้นติดลูกมากและสามารถเลี้ยงลูกเองได้โดยที่เธอนั้นไม่ต้องห่วงอะไรมากนักแค่บอกเวลาไปและเวลากลับก็พอละมื้อนี้เธอก็จะเป็นคนเลี้ยงเพื่อนสาวเธอเองเพราะเธอมีเงินพอที่จะเลี้ยงเพื่อนเธอได้สบายๆและเพื่อเป็นการยินดีกับเพื่อนสาวของเธอด้วย
“จ้า...แม่คนสามีรวย” มีนชญาอมยิ้มและไม่ปฏิเสธเพื่อนสาวของเธอที่จะออกเงินเลี้ยงแต่อย่างใดด้วยรู้ว่าตอนนี้เพื่อนสาวของเธอรวยกว่าเธอหลายเท่าเพราะสามีของเพื่อนสาวเธอนั้นเป็นนักธุรกิจที่รวยอันดับต้นๆของประเทศเลยก็ว่าได้
“แล้วนี่แกจะทำอะไรต่อไปคิดไว้หรือยัง” ในขณะที่นั่งทานอาหารอยู่พักใหญ่กอหญ้าก็ถามเพื่อนของเธอเพราะอยากรู้ว่าตอนนี้เพื่อนเธอนั้นคิดจะทำอะไรต่อไปเมื่อมีเงินก้อนแล้ว
“ฉันว่าจะเปิดร้านดอกไม้เล็กๆตามที่เคยฝันไว้ตอนเด็กๆอะแกแต่ก็ต้องดูทำเลก่อน” มีนชญาพูดกับเพื่อนเธอโดยที่ยังเคี้ยวอาหารตุ้ยๆเต็มปากอย่างไม่ห่วงสวยว่าเธอตั้งใจว่าจะเปิดร้านดอกไม้เล็กๆตามที่เธอนั้นเคยฝันเอาไว้
“ก็ดีนะแกทำสิ่งที่แกชอบจะได้มีความสุขในสิ่งที่ทำด้วย” กอหญ้าเห็นว่าความคิดเพื่อนเธอที่จะเปิดธุรกิจตัวเองก็ดีเหมือนกันเพราะเธอรู้ว่ามีนชญานั้นชอบดอกไม้และจัดดอกไม้สวยมากเธอเห็นครั้งแรกเธอยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพื่อนสาวของเธอที่ท่าทางจะโก๊ะๆหน่อยจะมีฝีมือในการจัดดอกไม้อยู่เหมือนกันกอหญ้าคิดว่าการที่คนเราจะทำผลงานออกมาได้ดีอย่างแรกต้องมีความรักในงานก่อนอย่างเช่นเพื่อนเธอที่รักพวกดอกไม้นาๆชนิดมากและเธอเห็นว่าเดี๋ยวนี้การเปิดร้านดอกไม้มันก็มีรายได้ดีอยู่ด้วย
“เลอะเทอะหมดแล้วมีน...เป็นแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรเลยนะ” กอหญ้าต้องกระซิบบอกกับเพื่อนเธอที่หยิบก้อนซูชิเข้าปากเรียกว่าหยิบคงไม่ได้เรียกว่ายัดจนเลอะขอบปากจะดีกว่าจนเธอต้องปรามเพื่อนสาวของเธอหญิงสาวส่ายหัวเล็กน้อยคิดว่าเพื่อนสาวของเธอนั้นจะปรับปรุงเรื่องความโก๊ะแล้วเสียอีกแต่เปล่าเลยยังเหมือนเดิม
“ก็มันอร่อยนี่แก” มีนชญาหันมายิ้มให้เพื่อนสาวของเธอโดยที่แก้มยังป่องเพราะด้านในอัดแน่นด้วยก้อนซูชิเธอรู้ว่าเธอทำแบบนี้ได้เพราะกอหญ้านั้นไม่ถืออะไรอยู่แล้วและเธอก็อร่อยเสียจนหยุดไม่ได้จริงๆ
“นี่ถ้าไปทานข้าวกับผู้ชายอย่าทำแบบนี้เด็ดขาดรู้ไหม” กอหญ้านั้นแกล้งกระซิบบอกกับเพื่อนสาวของเธอว่าถ้าหากไปทานข้าวกับผู้ชายห้ามทานแบบนี้เด็ดขาดเพราะกลัวว่าเพื่อนเธอจะขายไม่ออกน่ะสิ
“หืม...ถ้าไปกับผู้ชายก็ต้องทานคำน้อยๆใช่ม้า...อ้อ...แล้วก็ต้องหัวเราะเบาๆด้วย” มีนชญาอดไม่ได้ที่จะทำท่าล้อเลียนพวกผู้หญิงที่แอ้บใสทานข้าวกับผู้ชายที่ต้องค่อยๆทานและทานน้อยๆนั่งหัวเราะเบาๆให้สมเป็นกุลสตรีซึ่งขัดกับนิสัยของเธอมากให้เพื่อนเธอได้ดู
“ฮ่าๆๆ...แกนี่นะ” กอหญ้าอดขำให้กับอาการที่เพื่อนของเธอทำล้อเลียนไม่ได้เธอรู้ว่ายังไงเพื่อนเธอก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้อยู่แล้วเพราะเพื่อนของเธอนั้นแอ้บกับคนอื่นเขาเป็นซะที่ไหนเพราะนิสัยแบบนี้แหละที่ทำให้เธอทั้งสองคบกันนาน
“เฮ้ออ...อิ่มมากเลยแกฉันไปห้องน้ำก่อนนะ” หลังจากที่นั่งทานอาหารกันพักใหญ่ทั้งสองเลยชวนกันกลับเมื่อเดินออกมาถึงที่หน้าร้านมีนชญาก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมากะทันหันเพราะทานเข้าไปเยอะนั่นเอง
“โอเค...รีบไปเถอะเดี๋ยวฉันรอตรงนี้นะ” กอหญ้าเห็นเห็นอาการของเพื่อนสาวเธอแล้วก็น่าจะไม่ไหวเธอจึงบอกให้เพื่อนเธอรีบไปแล้วเธอก็จะรออยู่ตรงเก้าอี้นั่งที่หน้าร้าน
10 นาทีผ่านไป
“ว้ายย...ขอโทษค่ะ” มีนชญาเข้าห้องน้ำประมาณสิบนาทีได้เมื่อเสร็จธุระส่วนตัวของเธอแล้วเธอจึงรีบเดินออกไปหากอหญ้าที่นั่งรอเธออยู่ด้านหน้าร้านอาหารทันทีเพราะกลัวว่าเพื่อนเธอนั้นจะรอนานด้วยความที่รีบเดินไม่ทันได้ระวังจึงชนเข้ากับชายหนุ่มร่างสูงอย่างจังตัวของเขาแข็งมากจนทำให้หญิงสาวนั้นเซถลาจะล้มลงแต่ยังดีที่มีอ้อมแขนของเขาช่วยรับเธอเอาไว้
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” โดมินิคถามหญิงสาวร่างเล็กในอ้อมแขนของเขาว่าด้วยสีหน้าที่ตกใจเพราะเธอชนตัวเขาเข้าจังๆขนาดนั้นคงจะเจ็บน่าดู
“อ๋อ..ไม่ค่ะ..ต้องขอโทษด้วยนะคะที่เมื่อกี้ไม่ระวัง” มีนชญารีบถอยตัวออกห่างจากชายหนุ่มหน้าฝรั่งที่พูดภาษาไทยใส่เธอพร้อมกับบอกกับเขาว่าเธอไม่เป็นไรก่อนจะก้มหัวลงเล็กน้อยของโทษเขาอีกครั้งอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นเพราะความไม่ระวังของเธอแท้ๆ
“นี่แกรู้จักคนเมื่อกี้ด้วยเหรอ” หลังจากที่หญิงสาวออกมาจากห้องน้ำก็ต้องยืนหลบมุมอยู่นานเพราะเห็นว่าผู้ชายที่เธอเดินชนเมื่อครู่คุยกับเพื่อสาวของเธออยู่จนเห็นว่าเพื่อนของเธอจะคุยเสร็จถึงกล้าเดินออกมาก่อนจะถามกอหญ้าถึงผู้ชายร่างสูงเมื่อครู่ด้วยสีหน้าสงสัย
“ใช่สิคุณโดมินิคน่ะเค้าเป็นลูกค้าวีไอพีของโรงแรมพี่อิทน่ะแกถามทำไมเหรอ...หรือว่า..สนใจ” กอหญ้าตอบเพื่อคลายสงสัยให้เพื่อนสาวของเธอและเธอก็ดูออกว่าเพื่อนของเธอกำลังมีท่าทีที่สนใจชายหนุ่มอยู่บ้างเพราะเธอรู้ว่ามีนชญานั้นชอบแนวนี้
“ป๊าวววว...ฉันแค่เดินชนเค้าที่ห้องน้ำน่ะแฮร่ๆๆ” มีนชญารีบตอบปฏิเสธเพื่อนสาวของเธอด้วยโทนเสียงสูงอีกทั้งยังทำหน้าทำตาเลิ่กลั่กอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะบอกกับเพื่อนของว่าเธอแค่เดินชนกับเขาตรงห้องน้ำเฉยๆไม่มีอะไรมากกว่านั้น
“ไอ้เราก็นึกว่าอะไร..แต่..ปฏิเสธซะสียงสูงเลยน้า...ถ้าแกสนใจฉันช่วยแกได้นะจะบอกว่าเค้าโสดอยู่ด้วยแถมทำธุรกิจก็เก่งเป็นที่หนึ่งขนาดพี่อิทยังชมให้ฉันฟังอยู่บ่อยๆเลย..อีกอย่างเค้าก็สเปกแกด้วยนี่นาสาย ฝ ฮ่าๆๆๆ” กอหญ้าที่ล่วงรู้ความคิดของเพื่อนสาวเธอหญิงสาวเลยรีบพูดถึงโปรไฟล์ของชายหนุ่มว่าเพอเฟคขนาดไหนให้เพื่อนสาวของเธอฟังเผื่อเพื่อนสาวของเธอจะเลิกปากแข็งและยอมรับกับเธอมาตรงๆว่าสนใจเธอจะได้เดินหน้าช่วยเพื่อนเธอเต็มที่นั่นเอง“หยุดพูดเลยใครบอกว่าสนใจ...ไม่ได้สนซะหน่อยดูท่าเค้าเจ้าระเบียบมากเลยเนอะ” มีนชญาแกล้งผลักไหล่เพื่อนสาวของเธอหนึ่งทีพร้อมบอกกับเพื่อนสาวของเธอว่าเธอนั้นไม่ได้สนใจจริงๆและเธอเองก็เห็นว่าชายหนุ่มน่าจะเป็นคนที่มีนิสัยแตกต่างกับเธอสุดขั้วอีกด้วยดูจากมาดแบบนั้นเธอดูออกว่ายังไงก็ต้องเป็นคนที่เป๊ะทุกกระเบียดนิ้วต่างจากเธอที่เป็นจอมซุ่มซ่ามแถมเรื่องเปิ่นนี่ก็ที่หนึ่งอีกด้วย“อืม...มันแน่อยู่แล้วคนเป็นนักธุรกิจต้องมีระเบียบอยู่แล้วอีกอย่างยิ่งเก่งแค่ไหนยิ่งระเบียบจัดแค่นั้น” กอหญ้าเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักธุรกิจทุกคนที่ประสบผลสำเร็จในการทำงานจะเจ้าระเบียบและมีวินัยเ
“อ๋อ...ท่านไม่ค่อยได้มาอยู่น่ะครับเลยปล่อยขายในราคาย่อมเยาอีกอย่างเงินที่ได้ท่านก็แบ่งไปทำบุญด้วยนะครับ” ชายหนุ่มที่เป็นนายหน้ามองหญิงสาวพร้อมยิ้มให้เธอและบอกว่าที่มันถูกก็เพราะเจ้าของบ้านนั้นไม่ค่อยได้มาอยู่เลยตัดสินใจขายและเงินที่ได้เขาก็ให้เอาไปทำบุญ“อ๋อ...ค่ะเจ้าของบ้านเค้าใจดีจังเลยนะคะ” มีนชญานับถือในน้ำใจของเจ้าของบ้านหลังนี้เสียจริงแต่เธอนั้นก็ไม่ได้ถามอะไรต่อว่าเขานั้นเป็นใครอยู่ที่ไหนเพราะเธอรู้มาว่าชื่อในใบที่ดินและชื่อเจ้าของบ้านเป็นของคนไทยแต่เจ้าของที่แท้จริงน่าจะเป็นต่างชาติเธอก็ไม่ได้ใส่ใจถามเหมือนกันว่าเขานั้นชื่ออะไรในเมื่อตอนนี้มันเป็นของเธอแล้วเธอก็จะจำแค่เธอเป็นเจ้าของบ้านก็พอ19.00 น.กว่ามีนชญาจะกลับมาบ้านก็เป็นเวลาเย็นพอดีตอนนี้ท้องของหญิงสาวก็เริ่มที่จะร้องขึ้นอีกแล้วความหิวของเธอตอนนี้มันอยู่ที่ระดับสิบเพราะทั้งเพลียทั้งหิวบวกกันนั่นเองหญิงสาวจำต้องเดินออกจากบ้านไปนั่งที่ร้านเดิม“เฮ้อเหนื่อยจังเลย...ป้าคะผัดไทยกุ้งสดจานนึงค่ะ” เมื่อสั่งผัดไทยกุ้งสดเมนูเดิมที่ร้านประจำมันก็พาให้เธอนั้นคิดวนไปเรื่องเดิมๆอีกก็คือวันวานที่เคยนั่งทานอยู่กับแม่ของเธอแต่ต
3 ชั่วโมงต่อมาห้างสรรพสินค้า“ถึงแล้ว...วันนี้แม่จะช้อปให้สะใจไปเลยงบสี่พันพอเนอะ” เมื่อลงจากแท็กซี่มีนชญาก็มองไปที่หน้าห้างสรรพสินค้าที่ว่ากันว่าที่นี่มีแต่คนมีเงินเดินเธอเองคิดว่าวันนี้จะใช้เงินช้อปปิ้งไร้สาระที่เยอะที่สุดในชีวิตที่เคยใช้มาจำนวนสี่พันบาทนั่นเองถึงเงินแค่นี้ในการช้อปปิ้งของเธอคนอื่นจะมองว่าน้อยแต่เธอนั้นโคตรเสียดายมันสุดๆกับการช้อปปิ้งไร้สาระกับเงินสี่พันแต่อีกใจหญิงสาวก็บอกกับตัวเองว่าถือเป็นการให้ความสุขกับตัวเธอเองสักวันก็แล้วกัน“คู่ไหนดีน้า” มีนชญาเข้ามาในร้านรองเท้าแบรนด์หนึ่งซึ่งเงินที่เธอจำกัดวันนี้ก็น่าจะเอื้อมถึงเพราะเธอดูจากราคาแล้วเธอนั้นซื้อได้แถมเงินที่จำกัดมาสี่พันยังเหลือด้วย“หืมม...สวยทั้งคู่เลย...สีเงิน..สีชมพู..สีเงิน...สีชมพู..อืมม..สีเงินดีกว่า...ฉันเอาสีเงินเบอร์37คู่นึงค่ะ”มีนชญากำลังตัดสินใจเลือกรองเท้าส้นสูงสามนิ้วหัวแหลมราคาคู่ละ2500บาทเธอกำลังชั่งใจอยู่ว่าเธอนั้นจะซื้อสีเงินหรือสีชมพูดีหญิงสาวนึกถึงชุดที่เธอจะใส่คืนนี้มันเป็นสีชมพูอ่อนหากเธอเลือกสีชมพูไปมันก็จะชมพูทั้งชุดเธอจึงคิดว่าเอาสีเงินจะดีกว่าจึงบอกพนักงานว่าเธอรับคู่สีเงินเบ
5 นาทีต่อมา“เอ๋..มือถือล่ะ...หรือว่า..โอ้ยแกนี่มันจริงๆเลยยัยมีน”หลังจากที่เดินออกจากร้านหนังสือมาสักพักมีนชญาก็กำลังจะหยิบมือถือขึ้นมาดูว่าตอนนี้มันกี่โมงแล้วแต่เมื่อล้วงไปที่กระเป๋าเสื้อคลุมของเธอกลับไม่เจอพอนึกไปนึกมาเธอคิดว่าจะเป็นช่วงที่เธอจ่ายเงินค่าหนังสือแล้วทำหล่นแน่เลยเธอชอบเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นประจำหญิงสาวเตือนตัวเองหลายรอบแล้วว่าอย่าเอามือถือใส่รวมกับเงินแต่ก็ลืมทุกทีตอนนี้เธอก็ทำได้แต่วิ่งหลับไปที่ร้านหนังสือดังเดิมเพื่อที่จะไปตามมือถือของเธอคืนนั่นเอง“ขอโทษนะคะไม่ทราบว่ามีคนเจอมือถือเครื่องสีชมพูที่ใส่เคสยูนิคอร์นบ้างหรือเปล่าคะ”มีนชญาวิ่งพุ่งตรงมาที่เคาเตอร์สอบถามพนักงานเรื่องมือถือของเธอทันทีเพราะคิดว่าหากมีคนเก็บได้ในร้านก็คงจะเอามาฝากที่พนักงานเป็นแน่หรืออีกอย่างก็คือเอาไปเลยอันนั้นมันก็เป็นความซวยของเธอแล้วหละถึงแม้เธอจะมีเงินซื้อใหม่แต่มันก็ไม่เหมือนเดิมเพราะเครื่องนี้เป็นเครื่องที่แม่ของเธอซื้อให้ก่อนท่านจะเสียนั่นเอง“เครื่องนี้ใช่ไหมคะ”“ใช่ค่ะ...ขอบคุณมากๆเลยนะคะ” หลังจากที่ใจไม่ดีอยู่นานมีนชญาก็โล่งใจเพราะพนักงานหยิบมือถือของเธอขึ้นมาจากหลังเคาเตอร์พร้
แน็ทตี้ต้องรีบปรามทั้งสองว่าห้ามเรียกชื่อนี้ของเธอได้แล้วเพราะเธอนั้นไปเปลี่ยนเพศและเปลี่ยนชื่อมาเรียบร้อยแล้วเธอไม่อยากให้ใครมาเรียกชื่อเดิมของเธออีกเพราะตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงสมใจแล้วเพียงแต่ไม่มีมดลูกและเสียงที่ยังแอบห้าวอยู่“อะ...เอ่อ..โอเค..ไปนั่งคุยกันทางโน้นดีกว่าแก” กอหญ้าเห็นว่าในนี้คนมันค่อนข้างพลุกพล่านและเสียงดนตรีมันก็ดังเลยชวนทั้งสองไปนั่งคุยกันที่ที่มันส่วนตัวกว่านี้จะดีกว่า“อย่าบอกนะที่แกหายไปเรียนเมืองนอกแกไปแปลงเพศมา” เมื่อออกมาถึงจุดที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวในด้านนอกของโรงแรมแล้วกอหญ้าก็ถือโอกาสถามแน็ทตี้ทันทีว่าที่หายหน้าหายตาไปหลังจากเรียนจบม.ปลายเพื่อนของเธอไปเก็บตัวแปลงเพศทำหน้าใหม่มาทั้งหมดในช่วงเวลานั้นใช่หรือไม่“ก็ใช่น่ะสิมันเป็นความฝันของฉันเลยพวกแกก็รู้” แน็ตตี้ตอบด้วยความภาคภูมิใจเพราะเขานั้นเคยสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองหลังจากจบม.ปลายแล้วความจริงเขาเองก็ไม่ได้อยากไปเรียนเมืองนอกเมืองนาสักเท่าไรหรอกเพียงแต่ป๊าของเขานั้นเสนอว่าหากยอมไปเรียนแต่โดยดีป๊าของเขาจะยอมตามใจทุกอย่างเลยทำให้เขาต้องไปเรียนเมืองนอกแลกกับการแปลงเพศอัพอึ๋มอัพหน้าใหม
“อะ...เอ่อ...สองล้าน...อะ..อืมช่วยก็ได้นี่ฉันเห็นว่าแกอยากจะมีความสุขหรอกนะถึงยอมช่วย” แน็ทตี้ถึงกับตาลุกวาวเมื่อเพื่อนของเขาใจปล้ำยอมจ่ายเงินให้เขาเป็นหลักล้านแบบนี้เขาถึงกับกลืนน้ำลายลงคอและยิ่งได้ฟังที่เพื่อนสาวของเธอพูดเรื่องไปทำหน้าใหม่ในหัวของเขาตอนนี้จินตนาการใบหน้าของเขาที่มันจะเหมือนนางเอกหนังฮอลลีวูดไปไกลแล้วพร้อมตอบตกลงเพื่อนของเขาทันทีเอาเรื่องทำสวยมาล่อแบบนี้แน็ทตี้สู้ตายเลยจ้า“ขอบใจจ้า..เพื่อนเลิฟ...เริ่มได้เมื่อไรอะ” มีนชญายิ้มอย่างภูมิใจที่แผนการของเธอสำเร็จไปอีกหนึ่งขั้นตอนนี้เธอมีตัวช่วยแล้วเหลือก็แต่วันที่เธอพร้อมปฏิบัติการจริงก็เท่านั้นพร้อมถามเพื่อนของเธอด้วยใบหน้าที่มีความหวังว่าเธอสามารถเข้าไปใกล้ชิดกับโดมินิคได้เมื่อไร“คงอีกสามเดือนขางหน้าเพราะตอนนี้บอสฉันเค้าเตรียมตัวกลับอิตาลีแล้วต้องไปดูงานทางโน้นต่อ...แกรออีกหน่อยก็แล้วกันนะแต่เงินจ่ายก่อน”“รู้แล้วน่า...สามเดือนเลยเหรอ..อืมม..รอก็รอ” คำตอบของแน็ทตี้ทำให้มีนชญาหน้าห่อเหี่ยวลงในทันทีเมื่อพึ่งจะรู้ข่าวจากปากแน็ทตี้ว่าชายหนุ่มที่เป็นเป้าหมายของเธอนั้นจะบินกลับไปอิตาลีตั้งสามเดือนแต่จะให้ทำอย่างไรได้เธอก
3 เดือนผ่านไปไวเหมือนในนิยายเขาใหญ่มีนชญาที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดดอกไม้ส่งให้ลูกค้าหญิงสาวเพิ่งจะเปิดร้านได้สองเดือนกว่าๆแต่เมื่อทำการตลาดออนไลน์ไปด้วยตอนนี้เลยเริ่มมีลูกค้าเข้ามาอย่างไม่ขาดสายอีกทั้งฝีมือของหญิงสาวก็เป็นที่บอกต่อกันอีกด้วยรูปแบบการจัดก็แปลกตาไปจากร้านอื่นอยู่มากราคาก็ย่อมเยานับว่าการเปิดร้านครั้งนี้เป็นผลสำเร็จของเธออย่างมากอีกหนึ่งเรื่องตอนนี้เธอพึ่งจะรับลูกจ้างมาอีกสองคนเพราะทำคนเดียวคงไม่ทันอีกอย่างอนาคตเธอก็ต้องรับอยู่แล้วเพราะสิ่งที่เธอคิดไว้คือเธอก็คงจะต้องดูแลลูกน้อยอีกเลยรับเสียตอนนี้เลยจะดีกว่าRrrrrrrrrr“ว่าไงแน็ทตี้ฉันกำลังจัดดอกไม้ส่งลูกค้าอยู่มีไรพูดมาด่วน” ในขณะที่มีนชญายุ่งๆอยู่นั้นก็มีสายจากแน็ทตี้เพื่อนของเธอโทรเข้ามาหญิงสาวจึงกดรับทันทีพร้อมเอียงคอแนบมือถือไว้ระหว่างหูและไหล่เพราะมือทั้งสองยังต้องหยิบจับจัดช่อดอกไม้หญิงสาวจึงรีบให้เพื่อนของเธอคุยมาว่ามีอะไรเพราะถ้าไม่สำคัญมันก็คงจะรบกวนเวลาเธออย่างมาก“บอสฉันกำลังกลับมาแล้วด่วนพอไหมข่าวนี้”“หา...เอ่อ...ด่วนมาก...งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไปหาแกเลย” จากเสียงปลายสายบอกข่าวดีทำให้หญิงสาวต้องละมือจา
“อ้อ...แล้วเรื่องอาหารแกทำอาหารอิตาเลี่ยนเป็นบ้างหรือเปล่า” แน็ทตี้นึกขึ้นได้ว่าส่วนมากเจ้านายหนุ่มของเขานั้นจะชอบทานอาหารบ้านเกิดตัวเองเสียมากกว่าเพราะฉะนั้นเขาจะต้องถามเพื่อนสาวของเขาเพื่อให้แน่ใจว่าเพื่อนสาวของเขานั้นสามารถทำได้ทุกอย่างตามมาตรฐานของแม่บ้านของบ้านนี้ต้องทำได้“เอ่อ...ไม่เป็นอะแฮร่ๆๆ....แต่ว่าฉันเป็นคนเรียนรู้ได้เร็วฉันดูจากกูเกิลเอาก็ได้” มีนชญาตอบกลับเพื่อนของเธอด้วยสีหน้าที่ยิ้มแหยๆนิดหน่อยเธอไม่เคยทำอาหารอิตาเลี่ยนเลยสักครั้งแต่ถ้าศึกษาเธอคิดว่าเธอก็น่าจะทำได้เพราะเดี๋ยวนี้สื่อการสอนมันหาง่ายจะตายไปแต่เรื่องรสชาติก็ต้องว่ากันอีกทีแต่ถ้าไม่ได้จริงๆเธอก็คงต้องแอบซื้อ“จริงนะ...” แน็ทตี้ชักนึกทะแม่งๆในใจเสียแล้วว่างานนี้จะต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง“จริงสิ...เอาเป็นว่าเรื่องอาหารแกไว้ใจฉันได้” มีนชญาหันมายิ้มให้แน็ทตี้นั้นสบายใจได้เรื่องอาหารเธอคิดว่าเธอจัดการได้ไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วง“อืมม...แล้วตามพื้นและยิ่งโต๊ะอาหารนี่ห้ามมีฝุ่นเลยนะ” แน็ทตี้พาเพื่อนสาวของเขาเดินไปรอบๆบ้านพร้อมอธิบายว่าในแต่ละส่วนของบ้านเธอนั้นต้องทำอะไรจัดการ