3 เดือนผ่านไปไวเหมือนในนิยาย
เขาใหญ่
มีนชญาที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดดอกไม้ส่งให้ลูกค้าหญิงสาวเพิ่งจะเปิดร้านได้สองเดือนกว่าๆแต่เมื่อทำการตลาดออนไลน์ไปด้วยตอนนี้เลยเริ่มมีลูกค้าเข้ามาอย่างไม่ขาดสายอีกทั้งฝีมือของหญิงสาวก็เป็นที่บอกต่อกันอีกด้วยรูปแบบการจัดก็แปลกตาไปจากร้านอื่นอยู่มากราคาก็ย่อมเยานับว่าการเปิดร้านครั้งนี้เป็นผลสำเร็จของเธออย่างมากอีกหนึ่งเรื่อง
ตอนนี้เธอพึ่งจะรับลูกจ้างมาอีกสองคนเพราะทำคนเดียวคงไม่ทันอีกอย่างอนาคตเธอก็ต้องรับอยู่แล้วเพราะสิ่งที่เธอคิดไว้คือเธอก็คงจะต้องดูแลลูกน้อยอีกเลยรับเสียตอนนี้เลยจะดีกว่า
Rrrrrrrrrr
“ว่าไงแน็ทตี้ฉันกำลังจัดดอกไม้ส่งลูกค้าอยู่มีไรพูดมาด่วน” ในขณะที่มีนชญายุ่งๆอยู่นั้นก็มีสายจากแน็ทตี้เพื่อนของเธอโทรเข้ามาหญิงสาวจึงกดรับทันทีพร้อมเอียงคอแนบมือถือไว้ระหว่างหูและไหล่เพราะมือทั้งสองยังต้องหยิบจับจัดช่อดอกไม้หญิงสาวจึงรีบให้เพื่อนของเธอคุยมาว่ามีอะไรเพราะถ้าไม่สำคัญมันก็คงจะรบกวนเวลาเธออย่างมาก
“บอสฉันกำลังกลับมาแล้วด่วนพอไหมข่าวนี้”
“หา...เอ่อ...ด่วนมาก...งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไปหาแกเลย” จากเสียงปลายสายบอกข่าวดีทำให้หญิงสาวต้องละมือจากการจัดดอกไม้แล้วเดินออกมาคุยที่หลังร้านทันทีหญิงสาวลืมไปเสียสนิทว่ามันเป็นเวลาสามเดือนแล้วที่ชายหนุ่มนั้นกลับไปที่อิตาลีพร้อมบอกกับเพื่อนของเธอว่าเธอจะรีบเข้าไปหาเพื่อนเธอพรุ่งนี้เลย
“โอเค...ให้ไวเพราะฉันจะต้องมีแม่บ้านก่อนที่บอสฉันจะกลับมาถึง”
“รู้แล้วน่า” หลังจากที่มีนชญาคุยกับเพื่อนของเธอเรียบร้อยแล้วเธอจึงเข้าไปจัดการงานในร้านต่อในใจของเธอตอนนี้ไม่ได้กังวลเรื่องอะไรเลยนอกจากเรื่องการเป็นแม่บ้านเธอไม่รู้ว่าเธอจะทำหน้าที่นี้ได้ดีขนาดไหนหวังว่าอย่าเพิ่งให้ชายหนุ่มไล่ออกก่อนแผนจะสำเร็จก็แล้วกัน
เช้าวันต่อมา
“เดินทางดีๆนะคะพี่มีน” วุ้นเส้นเด็กสาวอายุ19เห็นว่ามีนชญากำลังลากกระเป๋าลงมาจากชั้นบนเธอเลยมาช่วยมีนชญาเจ้านายสาวของเธอลากมาที่หน้าบ้านพร้อมบอกกับเจ้านายสาวด้วยสายตาเศร้าๆว่าให้เธอนั้นเดินทางดีๆเพราะรู้ว่าเจ้านายสาวจะเดินทางไปทำธุระค่อนข้างนานแต่เธอก็ไม่รู้ว่าธุระอะไรเหมือนกัน
“ดูแลร้านกันให้ดีๆล่ะแล้วพี่จะติดต่อมาเป็นระยะๆ” มีนชญาบอกกับเด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองฝากให้ดูแลร้านดีๆเธอบอกกับทั้งสองว่ามีธุระที่ต้องจัดการค่อนข้างจะนานเลยต้องวานให้ทั้งสองดูแลแทนเธอเห็นว่าทั้งสองเป็นงานหมดแล้วจึงไม่ห่วงอะไรมากเดี๋ยวเธอจะติดต่อกลับมาเองเป็นระยะ
“ค่ะพี่มีน/ครับพี่มีน” วุ้นเส้นเด็กสาวที่พึ่งจะเรียนจบม.ปลายเธอไม่มีเงินเรียนต่อเลยดรอปเรียนไว้ก่อนเพื่อมาหารายได้เสริมหญิงสาวเข้ามาทำงานที่ร้านมีนชญาได้เกือบเดือนแล้วหลังจากร้านเปิดไม่นานเธอก็เข้ามาสมัครเลยพร้อมทั้งพาไวไวน้องชายของเธอมาทำงานด้วยเพราะเห็นว่ามีนชญานั้นอยากจะได้คนที่ขับรถเป็นเพื่อส่งของให้ลูกค้าวุ้นเส้นเห็นว่าน้องชายเธอนั้นก็ดรอปเรียนเหมือนกันเลยชวนกันมาทำงานที่นี่
มีนชญารับทั้งสองไว้เพราะเห็นว่าเป็นเด็กดีแล้วอีกอย่างก็ขยันทั้งคู่ดูไปดูมาจะขยันกว่าเธออีกเสียด้วยมีนชญาจึงไว้ใจให้ดูแลร้านแทนเธอได้นั่นเอง
14.00 น.
“แกเอาของไปเก็บในห้องก่อนเดี๋ยวฉันพาไปดูบ้านที่แกจะต้องดูแล”
“โอเค” เมื่อมีนชญาเดินทางมาถึงคอนโดของแน็ทตี้เขาก็ให้หญิงสาวนั้นเอาของไปเก็บให้เรียบร้อยเพราะว่าเขาจะพาหญิงสาวไปดูบ้านของโดมินิคที่พึ่งตกแต่งเสร็จเรียบร้อยก่อนหน้านี้เมื่อหนึ่งอาทิตย์เพื่ออธิบายให้เพื่อนสาวของเขารู้ว่าเธอจะต้องดูแลอะไรตรงไหนทำอย่างไรบ้างนั่นเอง
20 นาทีผ่านไป
“เนี่ยเหรอบ้านคุณโดมินิค...ฉันคิดว่าจะหลังใหญ่กว่านี้ซะอีก” แน็ทตี้ขับรถพามีนชญามาดูบ้านของเจ้านายหนุ่มของเขาคราแรกมีนชญาคิดว่ามันจะใหญ่โตสมฐานะของโดมินิคจนเธอน่าจะเหนื่อยในการทำความสะอาดเสียอีกแต่นี่บ้านค่อนข้างที่จะไม่ใหญ่มากแต่ก็มีพื้นที่รอบๆบ้านกว้างขวางเหมือนบ้านที่เธอซื้อไว้ที่เขาใหญ่เลยแถมยังร่มรื่นมากอีกด้วย
“โอ้ย..บอสฉันเค้าคงไม่สร้างใหญ่หรอกย่ะ...เพราะเค้าอยู่ไม่นานอยากมากก็แค่โครงการเสร็จแล้วก็ปล่อยขายต่อในราคาถูกๆ” แน็ทตี้จำต้องอธิบายให้เพื่อนสาวของเขาฟังว่าเจ้านายของเขานั้นไม่ได้คิดจะสร้างบ้านหลังใหญ่เพื่ออยู่ชั่วคราวแต่สร้างแค่พออยู่ได้และค่อนข้างสะดวกสบายก็พอเพราะเขาอยู่ไม่นานเมื่อจบงานก็ขายต่อเป็นปกติแบบนี้แทบทุกงานอยู่แล้ว
“ตามเข้ามา...อ้อ..พรมเช็ดเท้าหน้าบ้านต้องเปลี่ยนทุกวันรู้มัย”
“อ่อ..โอเค” แน็ทตี้เปิดประตูบ้านพาเพื่อนสาวของเขาเข้าชมในบ้านเขานึกขึ้นได้ว่าคนที่เป็นแม่บ้านของบ้านหลังนี้จะต้องละเอียดสะอาดทำงานทุกอย่างได้ด้วยคนเดียวเพราะเจ้านายหนุ่มของเขาไม่ค่อยชอบให้มีคนเดินเพ่นพล่านในบ้านที่เป็นส่วนตัวเยอะเกินไป
เมื่อเข้ามาเขาเห็นพรมเช็ดเท้าเป็นอันดับแรกเขาจึงค่อยๆบอกหญิงสาวไปเรื่อยๆเกี่ยวกับการดูแลบ้านหลังนี้
“กระจกก็ต้องห้ามมีรอยเด็ดขาดถ้าเป็นไปได้แกต้องเช็ดทุกวัน” แน็ทตี้มองไปผนังกำแพงที่เป็นกระจกพร้อมหันไปบอกกับมีนชญาว่าเจ้านายหนุ่มของเขาชอบกระจกที่ใสตลอดเวลาถ้าเป็นไปได้ควรที่จะเช็ดทุกวัน
“โหย...ทำไมเนี๊ยบจัง...นี่ฉันต้องตื่นมาทำงานบ้านตั้งแต่กี่โมงเนี่ย” มีนชญาถึงกับเริ่มท้อใจแล้วกับการมาเป็นแม่บ้านของที่นี่เพราะอีแค่พรมที่เปลี่ยนทุกวันยังไม่เท่าไรแต่กระจกที่จะต้องเช็ดทุกวันเธอมองไปมันไม่ใช่น้อยๆเพราะบ้านนี้เป็นกระจกใสแทบทั้งหลังแบบนี้เธอต้องตื่นมาทำงานบ้านตั้งแต่กี่โมงกันหญิงสาวพยายามคำนวณเวลาอยู่ในใจด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยวอยู่
“อย่าพึ่งบ่นฉันพึ่งบอกแค่สองอย่างเองยังมีอีกเยอะบอกจบแล้วค่อยบ่นทีเดียว” แน็ทตี้ถึงกับต้องขำในสีหน้าของเพื่อนสาวเขานี่ขนาดเขาบอกการจัดการบ้านหลังนี้กับเธอเพียงสองข้อใบหน้าหญิงสาวก็ห่อเหี่ยวลงอย่างเห็นได้ชัดพร้อมบอกกับเธอว่ามันยังมีอีกเยอะที่เขายังไม่ได้บอก
“อ้อ...แล้วเรื่องอาหารแกทำอาหารอิตาเลี่ยนเป็นบ้างหรือเปล่า” แน็ทตี้นึกขึ้นได้ว่าส่วนมากเจ้านายหนุ่มของเขานั้นจะชอบทานอาหารบ้านเกิดตัวเองเสียมากกว่าเพราะฉะนั้นเขาจะต้องถามเพื่อนสาวของเขาเพื่อให้แน่ใจว่าเพื่อนสาวของเขานั้นสามารถทำได้ทุกอย่างตามมาตรฐานของแม่บ้านของบ้านนี้ต้องทำได้“เอ่อ...ไม่เป็นอะแฮร่ๆๆ....แต่ว่าฉันเป็นคนเรียนรู้ได้เร็วฉันดูจากกูเกิลเอาก็ได้” มีนชญาตอบกลับเพื่อนของเธอด้วยสีหน้าที่ยิ้มแหยๆนิดหน่อยเธอไม่เคยทำอาหารอิตาเลี่ยนเลยสักครั้งแต่ถ้าศึกษาเธอคิดว่าเธอก็น่าจะทำได้เพราะเดี๋ยวนี้สื่อการสอนมันหาง่ายจะตายไปแต่เรื่องรสชาติก็ต้องว่ากันอีกทีแต่ถ้าไม่ได้จริงๆเธอก็คงต้องแอบซื้อ“จริงนะ...” แน็ทตี้ชักนึกทะแม่งๆในใจเสียแล้วว่างานนี้จะต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง“จริงสิ...เอาเป็นว่าเรื่องอาหารแกไว้ใจฉันได้” มีนชญาหันมายิ้มให้แน็ทตี้นั้นสบายใจได้เรื่องอาหารเธอคิดว่าเธอจัดการได้ไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วง“อืมม...แล้วตามพื้นและยิ่งโต๊ะอาหารนี่ห้ามมีฝุ่นเลยนะ” แน็ทตี้พาเพื่อนสาวของเขาเดินไปรอบๆบ้านพร้อมอธิบายว่าในแต่ละส่วนของบ้านเธอนั้นต้องทำอะไรจัดการ
สนามบิน“ชอวที่บ้านนาตาลีจัดการเรียบร้อยใช่ไหม” โดมินิคกำลังนั่งรถตู้คันหรูออกจากสนามบินตอนนี้เขารู้สึกเพลียมากอยากจะนอนพักเขาทำงานเสร็จจากที่โน่นก็ขึ้นเครื่องมาที่ไทยทันทีเพราะว่าต้องกลับมาดูงานให้ทันกำหนดและร่วมประชุมใหญ่ในอีกสองวันข้างหน้าอีกด้วย“ใช่ครับที่บ้านพักโอเคทุกอย่างแล้วครับและนาตาลีก็พาแม่บ้านเข้ามาวันนี้ด้วยครับ” ชอวรายงานกับเจ้านายหนุ่มของเขาว่าที่บ้านตอนนี้เรียบร้อยดีตามกำหนดทุกอย่างและตอนนี้แน็ทตี้กำลังรออยู่ที่บ้านพร้อมกับแม่บ้านคนใหม่แล้วด้วย“โอเค...หวังว่าแน็ทตี้คงเทรนงานมาดีแล้วนะ” โดมินิคคิดว่าแม่บ้านคนใหม่ที่ผ่านการคัดเลือกมาจากแน็ทตี้ก็คงจะทำงานได้ดีไม่มีปัญหาเขาจึงเบาใจว่ามีคนคอยดูแลบ้านและตัวของเขาแล้ว40 นาทีต่อมา“บอสมาแล้ว” แน็ทตี้เห็นว่ามีรถตู้คันหรูมาจอดที่หน้าบ้านแล้วเขาจึงรีบบอกกับมีนชญาว่าเจ้านายหนุ่มของเขามาถึงแล้วให้เพื่อนของเขาลุกขึ้นเตรียมตัวต้อนรับมีนชญาจับตามองที่รถลงคันหรูที่กำลังจอดอยู่หน้าบ้านเธอเห็นว่ามีผู้ชายร่างสูงใส่สูทสีดำลงมาจากหน้ารถพร้อมเดินมายืนข้างๆรถตู้ฝั่งที่ประตูกำลังเลื่อนเปิดเธอเห็นว่าคนที่กำลังจะลงมาจากรถนั้นคือผู้ชา
“แล้วแม่บ้านคุณไปหามาจากไหนเหรอ”“อ๋อ...เอ่อ..พอดีแน็ทตี้ลงรับสมัครในเว็บน่ะค่ะมีนเค้าก็เลยมาสมัครแล้วจากที่แน็ทตี้ให้เธอทดลองงานให้ดูเธอทำงานได้ดีเลยนะคะอีกอย่างตอนนี้เธอก็เหลือตัวคนเดียวและก็ตกงานแน็ทตี้ก็เลยให้เธอลองมาทำงานที่นี่น่ะค่ะ...บอสมีอะไรหรือเปล่าคะ”แน็ทตี้ปั้นหน้ายิ้มพร้อมพูดแถกับประธานหนุ่มให้เนียนและเหมือนจริงที่สุดเท่าที่จะเนียนได้การที่เขานั้นทำงานที่นี่มานานเขาย่อมรู้ดีว่าเจ้านายหนุ่มของเขาเชื่อถือคำพูดแบบไหนนั่นเองและยิ่งการที่บอกกับเจ้านายหนุ่มของเขาว่าหญิงสาวนั้นเหลือตัวคนเดียวมันก็ยิ่งทำให้เจ้านายหนุ่มนึกสงสารหญิงสาวเพราะเธอรู้ว่าจุดอ่อนของคนตรงหน้าอยู่ตรงไหนนี่แหละคือความฉลาดที่เธอมีมาตั้งแต่เกิด“อะ..เอ่อ..เปล่าหรอก” โดมินิคนั้นคิดว่าแม่บ้านสาวคนที่จะมาทำงานที่บ้านของเขาเป็นคนรู้จักกับแน็ทตี้เสียอีกเพราะอายุทั้งคู่เท่ากันอีกอย่างท่าทางของทั้งคู่ก็ดูสนิทกันเกินกว่ารู้จักกันมาแค่ไม่กี่วันอีกต่างหากแต่เมื่อแน็ทตี้ยืนยันว่าเธอรับสมัครจากในเว็บเขาก็อุ่นใจและไม่ได้ติดใจจะถามอะไรต่อเพราะแน็ทตี้ก็ไม่ได้มีเหตุอะไรจะต้องมาโกหกเขาท่าทางที่สนิทนั้นอาจจะเป็นเพราะทั้งคู่ว
“ครับ” ทั้งสองใช้เวลาอยู่ร่วมชั่งโมงในการเลือกซื้อของเมื่อมีนชญาเห็นว่าของที่จำเป็นน่าจะครบแล้วเธอจึงบอกให้ชอวพาเธอกลับทันทีเพราะมันก็ใกล้จะเที่ยงแล้วเธอเองจะไปหาอะไรทานด้วย“จะเที่ยงแล้วคุณมีนจะหาอะไรทานก่อนไหมครับ” ชอวขับรถออกมาจากซุปเปอร์มาเก็ตแล้วเมื่อดูเวลาที่หน้าจอของรถมันเกือบเที่ยงแล้วเขากลัวว่าหญิงสาวจะหิวเลยคิดว่าให้หญิงสาวหาอะไรทานก่อนจะดีกว่า“มีนกำลังจะบอกคุณชอวอยู่พอดีเลยค่ะว่าให้พาไปหาซื้ออะไรทาน” คราแรกมีนชญาก็เกรงใจที่จะบอกคนที่ขับรถพาเธอมาซื้อของเล็กน้อยว่าให้พาไปหาอะไรทานแต่เมื่อเขาเอ่ยปากออกมาเองเธอก็โล่งใจเพราะเขานั้นก็คิดเหมือนเธอ“ร้านอยู่ตรงไหนครับบอกผมมาเลย”20 นาทีต่อมา“ร้านนี้เหรอครับ” ชอวขับรถมาตามทางที่หญิงสาวบอกในนี้ค่อนข้างที่จะลึกอยู่พอสมควรหากไม่ใช่คนที่เคยอยู่แถวนี้คงจะไม่รู้ร้านแน่เขาคิดในใจแถมร้านยังไม่น่าใช่จุดสนใจเพราะว่าเป็นแค่เพิงเล็กๆที่มีร้านค้าอยู่แค่สองสาวร้านข้างในก็เป็นหมู่บ้านอีกต่างหากเขาคิดว่าหญิงสาวอาจจะเคยอยู่ในนี้มาก่อนก็ได้“ใช่ค่ะ...ผัดไทที่อร่อยที่สุดในโลกคุณชอวเอาสักห่อไหมคะ” มีนชญาอวยผัดไทร้านปรดของเธอยกใหญ่ว่าเป็นร้าน
“อย่างแรกต้องต้มเส้นก่อน” มีนชญาถือมือถือเพื่อดูสูตรไปพลางๆอย่างแรกที่จะต้องทำคือต้มเส้นสปาเก็ตตี้ก่อนเธอจึงหยิบหม้อใบเล็กที่เหมือนในรูปมาวางบนเตาแล้วใส่น้ำตั้งให้น้ำเดือดแล้วใส่เส้นลงไป“ใส่น้ำมันมะกอกเล็กน้อยตามด้วยเกลือป่นด้วยเหรอ....ตายแล้วไม่ได้ซื้อนี่ใช้น้ำมันปาล์มแทนละกันมันคงเหมือนกันนั่นแหละ...อ้าวแล้วเกลือป่น...เฮ้ออ..อีกแล้วนะยัยมีนน้ำปลาแทนละกันมันก็ให้ความเค็มเหมือนกันนั่นแหละ” หญิงสาวอ่านวิธีไปเรื่อยๆขณะที่มือก็หยิบวัตถุดิบตามสูตรที่บอกมาวางไว้ที่เคาเตอร์ทำครัวเมื่ออ่านถึงเทคนิคการต้มเส้นสปาเก็ตตี้ว่าให้ใส่น้ำมันมะกอกลงไปและเกลือป่นเล็กน้อยหญิงสาวจึงนึกขี้นได้ว่าเธอลืมหยิบมาเธอหยิบมาแค่น้ำมันปาล์มกับน้ำมันถั่วเหลืองมาแค่นั้นและเธอก็ไม่ได้หยิบเกลือป่นมาด้วยหญิงสาวจึงดัดแปลงใช้น้ำมันเหล่านี้ให้มันเป็นประโยชน์และใช้น้ำปลาแทนเกลือเพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ให้ความเค็มเหมือนกัน“หั่นเบคอนเป็นชิ้นเล็กๆเตรียมไว้แล้วก็ตีผสมนมสดกับไข่ไก่เข้าด้วยกัน......” หลังจากที่น้ำเดือดและนำเส้นลงไปต้มแล้วหญิงสาวก็มาอ่านวิธีการทำส่วนประกอบอย่างอื่นต่อยังไงวันนี้เธอก็จะต้องทำเสร็จก่อนที่ชา
“เอ่อ...ก็ได้ค่ะ”มีนชญาเห็นท่าไม่ค่อยดีแล้วถ้าหากเธอไม่นั่งทานอาหารโต๊ะเดียวกันกับเขาตามที่เขาสั่งเธอมีหวังเขาคงไม่พอใจเธอเป็นแน่“เอ่อ...แล้วทำไมสีมันเป็นแบบนี้” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวจัดอาหารใส่จานมานั่งทานข้างๆเขาเรียบร้อยแล้วเขาจึงเปิดฝาครอบจานอาหารของเขาขึ้นเขาแปลกใจนิดหน่อยที่สีสันสปาเก็ตตี้จานนี้มันดูแปลกๆค่อนข้างที่จะสีหมองผิดปกติจึงหันไปถามหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆว่าทำไมอาหารของเขามันจึงมีหน้าตาและสีสันเป็นแบบนี้“อะ..อ๋อ...มันเป็นสูตรน่ะค่ะอร่อยนะคะคุณเจ้านายลองดู” มีนชญาที่กำลังจะตักผัดไทเข้าปากเธอถึงกับต้องวางช้อนลงทันทีตอนนี้หน้าเธอเจื่อนลงนิดหน่อยเพราะหากจะตอบไปว่าเธอนั้นทำไม่เป็นก็คงจะไม่ได้จึงแกล้งบอกไปว่ามันเป็นสูตรของเธอเองและเธอก็บอกเขาอีกว่ามันอร่อย“เธอเลิกเรียกฉันว่าคุณเจ้านายได้แล้วฟังแล้วมันแปลกๆเรียกว่าคุณนิคก็พอ” โดมินิคไม่ได้สนใจที่จานอาหารของเขาแล้วตอนนี้เขารู้สึกอยากปรับคำพูดให้หญิงสาวมากกว่าเพราะเขานั้นรู้สึกว่าคำที่เธอเรียกเขานั้นมันช่างดูแปลกๆขัดหูอย่างไงบอกไม่ถูกจึงให้เธอเปลี่ยนเป็นเรียกชื่อเล่นของเขาจะดีกว่า“ก็ได้ค่ะ” มีนชญายิ้มรับที่ชายหนุ่มนั้นย
“ไปกันเถอะ...เดี๋ยวเธอรออยู่ตรงนี้นะฉันไปเอารถออกมาก่อน”“ค่ะ”โดมินิคบอกให้หญิงสาวรออยู่ที่หน้าบ้านพร้อมเดินไปที่โรงจอดรถและขับรถออกมารับเธอ“โห...รถสปอร์ตเป็นบุญของเราเหมือนกันนะ” มีนชญายืนรอชายหนุ่มไปขับรถออกมาจากโรงรถด้วยสีหน้าที่แอบเซ็งนิดหน่อยแต่เมื่อได้ยินเสียงของรถเธอจึงหันไปมองภาพตรงหน้าของเธอคือชายหนุ่มขับรถสปอร์ตคันหรูของเขาออกมาเพื่อที่จะไปส่งเธอหญิงสาวถึงกับตาลุกวาวพร้อมบอกกับตัวเองว่าเป็นบุญของเธอที่ได้นั่งรถแพงๆแบบนี้อย่างน้อยเรื่องที่เธอแอบเซ็งอยู่ตอนนี้มันก็ผ่อนคลายหายไปบ้างเมื่อรู้ว่าตัวเองจะได้นั่งรถหรูข้างๆกับผู้ชายที่สุดเพอร์เฟค30 นาทีต่อมา“โห...ตรงนี้เค้ามีจัดงานด้วย...คุณนิคคะจอดตรงนี้แปปนึงสิคะ” เมื่อชายหนุ่มขับรถพามีนชญาออกมาได้พักใหญ่หญิงสาวเห็นว่าที่ข้างทางนั้นเหมือนมีงานวัดอยู่เธอเห็นว่ามีร้านลูกโป่งที่เธอชอบมากๆตั้งแต่เด็กยันโตจึงเอ่ยปากบอกให้ชายหนุ่มนั้นจอดรถให้เธอ“ได้สิ” โดมินิคนั้นไม่รู้ว่าหญิงสาวจะให้เขาจอดรถเพื่ออะไรแต่เมื่อเห็นหญิงสาวเอาแต่มองไปที่ข้างทางเขาจึงต้องจอดให้เธอ“ซื้อลูกโป่งเนี่ยนะ” โดมินิคจอดรถได้หญิงสาวก็ลงจากรถทันทีเขามองไ
โดมินิคคิดว่าหากหญิงสาวตัวคนเดียวจะอยู่ในพื้นที่แบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่เขาจึงบอกให้เธอย้ายมาอยู่ที่บ้านของเขาเพราะมันปลอดภัยกว่าการอยู่ที่นี่คนเดียวอีกอย่างก็ไม่ต้องไปๆกลับๆด้วยเขาให้เธอมาอยู่ห้องของชอวเพราะห้องนั้นก็ไม่มีใครอยู่อยู่แล้ว“ให้มีนพักที่นั่นได้เหรอคะ...ขอบคุณนะคะคุณนิค...เดี๋ยวมีนแบ่งลูกโป่งให้คุณเป็นการตอบแทนนะคะ” มีนชญาถึงกับตาลุกวาวเกี่ยวกับข้อเสนอของชายหนุ่มที่ให้เธอมาเพราะนี่คือโอกาสของเธอที่จะได้อยู่ใกล้ชายหนุ่มแทบจะตลอดเวลาแล้วหญิงสาวรีบขอบคุณชายหนุ่มยกใหญ่พร้อมทั้งทำสีหน้าสำนึกในบุญคุณอย่างเห็นได้ชัดตอนนี้เธอนั้นอยากจะนั่งขอบคุณเขาสักชั่งโมงแต่มันก็น่าจะเสียเวลาเกินไปเมื่อเห็นว่าลูกโป่งของเธอนั้นมันก็ซื้อมาเยอะอยู่เธอจึงคิดว่าควรจะแบ่งให้เขานั้นเอาไปดูเล่นบ้างจะดีกว่าเผื่อหน้าตาของเขาจะสดใสมากกว่านี้“เธอเอากลับไปให้หมดนั่นแหละ...ฉันไม่รู้ว่าจะเอาลูกโป่งไปทำอะไร” โดมินิครีบปฏิเสธหญิงสาวทันทีเพราะเขาไม่ได้ชอบของอะไรแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆอยู่แล้ว“เอาไปเถอะค่ะ...มันจะทำคุณนิคยิ้มง่ายนะคะดูสิคะมันโคตรน่ารักเลย...นี่ค่ะมีนให้คุณนิคมีนไปแล้วนะคะบ๊ายบายค่ะ”มีนชญาพยายา